วิเคราะห์ทองหลังปิดตลาดที่ 19.03.2022
ภาครวมเศรษฐกิจทางสหรัฐ
1.
QBPBSTAS
Balance Sheet 8,910--->8,954 หลังจากประกาศของเฟดเมื่อคืนวันที่ 16 ที่ผ่านมา เฟดได้เข้าซื้อ พธบ.เพิ่ม ( หนุนทองคำ )
2.USD LIBOR Interest Rates 0.07929%---> 0.08029% อัตราดอกเบี้ยการกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ยิ่งปรับตัวขึ้น ยิ่งกดดันทอง ยิ่งปรับตัวลงก็หนุนทอง ( มีการปรับตัวขึ้น กดดันทองคำ )
3.การคาดการณ์ของCMEGroup มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย เพียง 0.25% ได้ปรับตัวลงที่ 94.9%--->68.3% #กดดันทองคำ
4.Reverse repo rate 1,608--->1,659 คืออัตราที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารกลางของอินเดีย มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้ทองขึ้นได้ไม่มาก ( ค่อนข้างหนุนทองคำ )
5.Break Even 10 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปีอยู่ที่ 2.91--->2.86 ( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
6.กองทุน SPDR วันที่ 16-18 ได้มีการซื้อทองคำ 20.61 ตัน ( อันนี้น่าคิดว่าทำไมกองทุนถึงเข้าซื้อทองติดต่อกัน3วัน #หนุนทองคำ )
7.Forward Inflation 5 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี มีการย่อตัวเล็กน้อยที่ 2.31 ---> 2.24 และยังอยู่ในระดับที่สูง ( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
8.
GVZCLS
ดัชนีความกลัวของทองคำ ที่ 24.08 ---> 22.23 แสดงถึงความกังวลในตลาดทองคำได้ลดลง ( กดดันทองคำ )
9.ดัชนีหุ้นเหมืองทองคำ HUI มีการย่อตัวลงเล็กน้อย #ทำไมทองลองแต่หุ้นเหมืองแค่ย่อ บอกได้เลยว่ามันมีปัจจัยของหุ้นใหญ่ดาวน์โจนส์ที่ฟื้นตัวขึ้นหลังขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ( ค่อนข้างหนุนทองคำ )
10.US30 ดาวน์โจส มีการปรับตัวขึ้นมาหลังจากเฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ( กดดันทองคำ )
11.Realyield 10y มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.694 --->0.707 มีการปรับตัวลงมาเล็กน้อยหลังจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ( หนุนทองคำ )
12. US10Y ปรับตัวขึ้นมาที่ 2.2 --->2.153 ( ค่อนข้างกดดันทอง )
13.
TIP
หรือตราสารหนี้ มีการเทขายที่ชัดเจนหลังสงครามยูเครนกับรัสเซียเริ่มเบาบางลง ( กดดันทองคำ )
14. DXY หรือดัชนีดอลลาห์ 98.826 --->98.2096 เริ่มมีการไซด์เวย์ลงเรื่อยๆ หลังจากสถานการณ์ยูเครนกับรัสเซียเริ่มเบาบางลง ( หากอยู่ในสภาวะปกติ ยิ่งขึ้นยิ่งกดดันทอง แต่กับสงครามกลับกัน ยิ่งลงยิ่งกดดันทอง )
15.
SILVER
แร่โลหะ ย่อลง ( กดดันทองคำ )
16. GOLDSILVER อัตราส่วนทองคำและเงิน เริ่มมีสัญญาณในแดนลบ ในรูปแบบการไซด์เวย์ลงเรื่อยๆ ( กดดันทองคำ )
17.U.S. 10 Year Tips คือจำนวณที่เพิ่มขึ้น/ลดลง ( ข้อ 10 ) ณ ช่วงเวลานี้อยู่ในแดนบวก -0.151 ( หนุนทองคำ )
18. 2-10 Spread 0.298 ---> 0.183 เป็นตัวชี้วัดของสถาบันการเงินต่างๆที่มีผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ( หากลดลงเรื่อยๆก็เริ่มจะหนุนทองคำ )
19. Put/Call OI Ratio 1.16---> 1.25 หลังจากที่มีการส่งสัญญาณเชิงบวกของวิกฤติสงครามทำให้สัญญาณ Put/Call OI Ratio สูงขึ้นอาจทำให้ทองคำลงในอนาคต
20.Fear & Greed Index ค่าความกลัวของตลาดหุ้น 19---> 26 ยังอยู่ในแดนกลัว หากปรับตัวขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มจะส่งผลดีในด้านของราคาหุ้นและบิทคอยน์ แต่จะส่งผลเสียให้ราคาทองคำ ( กดดันทองคำ )
21.ฝั่งของราคาน้ำมัน มีการปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 105.35$ ราคาน้ำมันยังมีการถูกกดดันจากภาคสถาบันการเงินในการคว่ำบาตรของรัสเซียและการกดราคาของตลาดน้ำมันแถบทะเลทราย อิหร่าน เวเน และอื่นๆเป็นต้น ( หนุนทองคำ )
สรุป หลังจากเฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าคาดการณ์ที่ 0.5% แต่ยังคงทำไรทองได้ไม่มาก เพราะ 1.ปัจจัยเงินเฟ้อที่สูงขึ้น 7.9% 2.ปัจจัยด้านแรงงานที่ขาดตลาด(อัตราว่างงานที่เยอะ) 3.ปัจจัยจากสงครามที่ยังครุมเครือกัน หรือไม่ลงเอยกัน
ถึงเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% มากกว่าปกติที่ 0.25% เพื่อเร่งลดอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นคงลดได้ไม่มากจากปัจจัยของราคาทำมันที่ผลักดันให้ราคาสินค้าขึ้นสูงขึ้นโดยภาวะของสงครามที่ครุมเครือบวกกับการจับมือซื้อขายน้ำมัน อินเดีย จีน รัสเซีย
ช่วงนี้จึงเห็นได้ว่าตลาดทองคำได้ลดลง และตลาดหุ้น+คริปโตได้ฟื้นขึ้นมาบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการเทขาย พธบ.รบ.ของสหรัฐฯ เพื่อมาซื้อหุ้นเป็นเพียงระยะสั้น ในกลางเดือนเมษาอาจได้เห็นหุ้นลง เพราะมาจากปัจจัยของคุณ Michelle W. Bowman บอกไว้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% มันไม่สามารถทำให้ค่าเงินเฟ้อลดลง ในการประชุมครั้งหน้าอาจได้เห็น 3/4 หรือ 0.75% เพื่อที่จะเร่งการกดลงของเงินเฟ้อ ส่วนการลดงบดุลลุงโพเวลได้กล่าวในการเริ่มต้นช่วงประกาศว่าจะนำเข้าที่ประชุมในไตรมาสที่ 2 คือเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้
แนวต้านระยะสั้น
1988.96
1975.48
1961.26
1944.71
แนวรับระยะสั้น
1918.96
1905.15
1894.15
1883.58
แผนที่ 1 เส้นสีเขียว ทองคำยังมีโอกาสฟื้นตัวจากหลายปัจจัยไม่ว่าน้ำมันที่ปรับราคาขึ้น การเข้าซื้อของกองทุน การขัดแย้งของตัวเลขสถาบันการเงินที่มีการเทขาย พธบ.รบ.เยอะขึ้น กับปัจจัยเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอยู่ และสงครามที่ยังคงครุมเครือกันแบบนี้
แผนที่ 2 เส้นสีส้ม ยิ่งมีการออกมาให้สัมภาษน์ของกรรมการที่พูดถึงเรื่องการขึ้นดอกและความครุมเครือของสงครามที่ยังหาวันยุติไม่ได้ ก็อาจไซด์เวย์
แผนที่ 3 เส้นสีส้ม การยุติสงคราม
1.
QBPBSTAS
Balance Sheet 8,910--->8,954 หลังจากประกาศของเฟดเมื่อคืนวันที่ 16 ที่ผ่านมา เฟดได้เข้าซื้อ พธบ.เพิ่ม ( หนุนทองคำ ) 2.USD LIBOR Interest Rates 0.07929%---> 0.08029% อัตราดอกเบี้ยการกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ยิ่งปรับตัวขึ้น ยิ่งกดดันทอง ยิ่งปรับตัวลงก็หนุนทอง ( มีการปรับตัวขึ้น กดดันทองคำ )
3.การคาดการณ์ของCMEGroup มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย เพียง 0.25% ได้ปรับตัวลงที่ 94.9%--->68.3% #กดดันทองคำ
4.Reverse repo rate 1,608--->1,659 คืออัตราที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารกลางของอินเดีย มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้ทองขึ้นได้ไม่มาก ( ค่อนข้างหนุนทองคำ )
5.Break Even 10 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปีอยู่ที่ 2.91--->2.86 ( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
6.กองทุน SPDR วันที่ 16-18 ได้มีการซื้อทองคำ 20.61 ตัน ( อันนี้น่าคิดว่าทำไมกองทุนถึงเข้าซื้อทองติดต่อกัน3วัน #หนุนทองคำ )
7.Forward Inflation 5 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี มีการย่อตัวเล็กน้อยที่ 2.31 ---> 2.24 และยังอยู่ในระดับที่สูง ( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
8.
GVZCLS
ดัชนีความกลัวของทองคำ ที่ 24.08 ---> 22.23 แสดงถึงความกังวลในตลาดทองคำได้ลดลง ( กดดันทองคำ ) 9.ดัชนีหุ้นเหมืองทองคำ HUI มีการย่อตัวลงเล็กน้อย #ทำไมทองลองแต่หุ้นเหมืองแค่ย่อ บอกได้เลยว่ามันมีปัจจัยของหุ้นใหญ่ดาวน์โจนส์ที่ฟื้นตัวขึ้นหลังขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ( ค่อนข้างหนุนทองคำ )
10.US30 ดาวน์โจส มีการปรับตัวขึ้นมาหลังจากเฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ( กดดันทองคำ )
11.Realyield 10y มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.694 --->0.707 มีการปรับตัวลงมาเล็กน้อยหลังจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ( หนุนทองคำ )
12. US10Y ปรับตัวขึ้นมาที่ 2.2 --->2.153 ( ค่อนข้างกดดันทอง )
13.
TIP
หรือตราสารหนี้ มีการเทขายที่ชัดเจนหลังสงครามยูเครนกับรัสเซียเริ่มเบาบางลง ( กดดันทองคำ ) 14. DXY หรือดัชนีดอลลาห์ 98.826 --->98.2096 เริ่มมีการไซด์เวย์ลงเรื่อยๆ หลังจากสถานการณ์ยูเครนกับรัสเซียเริ่มเบาบางลง ( หากอยู่ในสภาวะปกติ ยิ่งขึ้นยิ่งกดดันทอง แต่กับสงครามกลับกัน ยิ่งลงยิ่งกดดันทอง )
15.
SILVER
แร่โลหะ ย่อลง ( กดดันทองคำ ) 16. GOLDSILVER อัตราส่วนทองคำและเงิน เริ่มมีสัญญาณในแดนลบ ในรูปแบบการไซด์เวย์ลงเรื่อยๆ ( กดดันทองคำ )
17.U.S. 10 Year Tips คือจำนวณที่เพิ่มขึ้น/ลดลง ( ข้อ 10 ) ณ ช่วงเวลานี้อยู่ในแดนบวก -0.151 ( หนุนทองคำ )
18. 2-10 Spread 0.298 ---> 0.183 เป็นตัวชี้วัดของสถาบันการเงินต่างๆที่มีผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ( หากลดลงเรื่อยๆก็เริ่มจะหนุนทองคำ )
19. Put/Call OI Ratio 1.16---> 1.25 หลังจากที่มีการส่งสัญญาณเชิงบวกของวิกฤติสงครามทำให้สัญญาณ Put/Call OI Ratio สูงขึ้นอาจทำให้ทองคำลงในอนาคต
20.Fear & Greed Index ค่าความกลัวของตลาดหุ้น 19---> 26 ยังอยู่ในแดนกลัว หากปรับตัวขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มจะส่งผลดีในด้านของราคาหุ้นและบิทคอยน์ แต่จะส่งผลเสียให้ราคาทองคำ ( กดดันทองคำ )
21.ฝั่งของราคาน้ำมัน มีการปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 105.35$ ราคาน้ำมันยังมีการถูกกดดันจากภาคสถาบันการเงินในการคว่ำบาตรของรัสเซียและการกดราคาของตลาดน้ำมันแถบทะเลทราย อิหร่าน เวเน และอื่นๆเป็นต้น ( หนุนทองคำ )
สรุป หลังจากเฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าคาดการณ์ที่ 0.5% แต่ยังคงทำไรทองได้ไม่มาก เพราะ 1.ปัจจัยเงินเฟ้อที่สูงขึ้น 7.9% 2.ปัจจัยด้านแรงงานที่ขาดตลาด(อัตราว่างงานที่เยอะ) 3.ปัจจัยจากสงครามที่ยังครุมเครือกัน หรือไม่ลงเอยกัน
ถึงเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% มากกว่าปกติที่ 0.25% เพื่อเร่งลดอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นคงลดได้ไม่มากจากปัจจัยของราคาทำมันที่ผลักดันให้ราคาสินค้าขึ้นสูงขึ้นโดยภาวะของสงครามที่ครุมเครือบวกกับการจับมือซื้อขายน้ำมัน อินเดีย จีน รัสเซีย
ช่วงนี้จึงเห็นได้ว่าตลาดทองคำได้ลดลง และตลาดหุ้น+คริปโตได้ฟื้นขึ้นมาบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการเทขาย พธบ.รบ.ของสหรัฐฯ เพื่อมาซื้อหุ้นเป็นเพียงระยะสั้น ในกลางเดือนเมษาอาจได้เห็นหุ้นลง เพราะมาจากปัจจัยของคุณ Michelle W. Bowman บอกไว้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% มันไม่สามารถทำให้ค่าเงินเฟ้อลดลง ในการประชุมครั้งหน้าอาจได้เห็น 3/4 หรือ 0.75% เพื่อที่จะเร่งการกดลงของเงินเฟ้อ ส่วนการลดงบดุลลุงโพเวลได้กล่าวในการเริ่มต้นช่วงประกาศว่าจะนำเข้าที่ประชุมในไตรมาสที่ 2 คือเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้
แนวต้านระยะสั้น
1988.96
1975.48
1961.26
1944.71
แนวรับระยะสั้น
1918.96
1905.15
1894.15
1883.58
แผนที่ 1 เส้นสีเขียว ทองคำยังมีโอกาสฟื้นตัวจากหลายปัจจัยไม่ว่าน้ำมันที่ปรับราคาขึ้น การเข้าซื้อของกองทุน การขัดแย้งของตัวเลขสถาบันการเงินที่มีการเทขาย พธบ.รบ.เยอะขึ้น กับปัจจัยเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอยู่ และสงครามที่ยังคงครุมเครือกันแบบนี้
แผนที่ 2 เส้นสีส้ม ยิ่งมีการออกมาให้สัมภาษน์ของกรรมการที่พูดถึงเรื่องการขึ้นดอกและความครุมเครือของสงครามที่ยังหาวันยุติไม่ได้ ก็อาจไซด์เวย์
แผนที่ 3 เส้นสีส้ม การยุติสงคราม