Purich

บิตคอยน์เสี่ยงปรับตัวลงต่อ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฟื้นตัว

ลดลง
COINBASE:BTCUSD   บิทคอยน์
จากภาพกราฟแสดงราคาบิตคอยน์ ในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2566 จะเห็นได้ว่าราคาได้ปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่องจากระดับ 28,000 ดอลลาร์ เหลือเพียง 27,323 ดอลลาร์ หรือลดลงประมาณ 2,677 ดอลลาร์ หรือลดลงประมาณ 9.2% ในช่วงเวลาดังกล่าว

สาเหตุที่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวร่วงลงนั้น คาดว่ามาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่

การขยับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ส่งสัญญาณในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่าบิตคอยน์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง จะปรับตัวลง

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น บิตคอยน์

ปัจจัยด้านเทคนิค โดยราคาได้ปรับตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญหลายครั้ง และยังไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรว่าราคาจะปรับตัวขึ้น

สำหรับแนวโน้มราคาบิตคอยน์ในระยะต่อไป คาดว่าจะยังคงปรับตัวร่วงลงต่อไป โดยอาจทดสอบแนวรับที่ 26,000 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวแล้ว ก็มีโอกาสปรับตัวลงต่อถึงระดับ 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับราคาต่ำสุดที่เคยทำไว้ในเดือนมิถุนายน 2565

จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น คาดว่าราคาบิตคอยน์มีโอกาสปรับตัวลงต่อ โดยนักลงทุนอาจพิจารณาเปิด Sell เมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 27,671 ดอลลาร์ และควรทำกำไรทั้งหมดเมื่อราคาปรับตัวลงหลุดแนวรับที่ 27,332 ดอลลาร์

แนวรับและแนวต้าน

จากภาพกราฟ จะเห็นได้ว่าราคาบิตคอยน์ได้สร้างแนวรับที่บริเวณ 27,332 ดอลลาร์ หากราคาปรับตัวลงหลุดแนวรับดังกล่าวแล้ว ก็มีโอกาสปรับตัวลงต่อถึงระดับ 26,050 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับถัดไป

ส่วนแนวต้านของราคาบิตคอยน์ อยู่ที่บริเวณ 27,671 ดอลลาร์ หากราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านดังกล่าวแล้ว ก็มีโอกาสปรับตัวลงได้

ปัจจัยหนุน

แม้ว่าบิตคอยน์จะมีโอกาสปรับตัวลงต่อ แต่ก็มีปัจจัยหนุนบางประการที่อาจช่วยพยุงราคาเอาไว้ได้ ได้แก่

ความต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากบิตคอยน์ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยหนุนราคาเอาไว้ได้ในระยะยาว

การพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งอาจนำไปใช้กับธุรกิจต่างๆ มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้บิตคอยน์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

กระแสความนิยมของบิตคอยน์ทั่วโลก ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนรายย่อยยังคงซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหนุนเหล่านี้ยังไม่ชัดเจนมากนัก จึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อราคาบิตคอยน์

คำแนะนำการลงทุน

จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น นักลงทุนอาจพิจารณาเปิด Sell เมื่อราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 27,671 ดอลลาร์ และควรทำกำไรทั้งหมดเมื่อราคาปรับตัวลงหลุดแนวรับที่ 27,332 ดอลลาร์

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ เงื่อนไขการใช้บริการ