AUDNZD

สกุลเงินที่ได้รับแรงหนุนต่อการกระตุ้นตัวของเศรษฐกิจจีนมากที่สุด คือ ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) โดยน่าจะได้รับผลที่ดีขึ้น เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของทั้งสองประเทศ ยอดการส่งออกของออสเตรเลีย 1 ใน 3 ส่งไปที่จีน เช่นเดียวกันกับนิวซีแลนด์ที่พอร์ตการส่งออกมีปลายทางที่จีนถึง 24.9%

สินแร่เหล็ก และถ่านหิน ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) เมื่อเศรษฐกิจของจีนในฐานะประเทศผู้นำเข้าสินค้าชนิดนี้มากที่สุดอันดับต้นของโลกชะลอตัวลง ความต้องการสินแร่เหล็กและถ่านหินก็ลดน้อยตามไปด้วย และกดดันให้ราคาต่ำลง ผลก็คือ ประเทศผู้ส่งออกมีรายได้ลดลง นำไปสู่การอ่อนของค่าเงิน

แนวโน้มอาจเปลี่ยน หากcovid-19กลับมาทิศทางที่ดีขึ้นและประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ตกลงกันได้

วิจัยและนักการตลาดทั่วโลกดังกล่าวประเมินว่า ค่าเงินของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะอ่อนค่าตลอดปีนี้ มีเพียงหนทางเดียวที่จะช่วยยกค่าเงินของสองประเทศนี้ได้นั่นก็คือสหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าและcovid-19ในประเทศจีนดีขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วค่าเงินก็จะฟื้นตัวได้เพียงระยะสั้นและกลาง ขณะเดียวกันประเทศอื่น ๆ ที่ค่าเงินผูกโยงอยู่กับสินค้าโภคภัณฑ์ก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นกัน อาทิ ดอลลาร์แคนาดาและรูเบิลของรัสเซีย ที่จะถูกกระทบมาก หากราคาน้ำมันร่วงลงไปติดฟลอร์เพราะหวั่นเกรงว่าจีนจะมีความต้องการน้อยลงอุปสงค์ความต้องการน้ำมันลดน้อยลงทั่วโลกจากวิตกไวรัสcovid-19

การซื้อขายยังคงดำเนินอยู่:

สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดอลลาร์นิวซีแลนด์ปรับตัวขึ้นมากกว่าร้อยละห้านับจากจุดต่ำสุดในรอบห้าปี ซึ่งสกุลเงินทั้ง2สกุลซึ่งมักจะทำการแลกเปลี่ยนในลักษณะคล้ายกับสกุลเงินอื่น เนื่องจากสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่คล้ายคลึงกันและอัตราการหมุนเวียนสูงในแต่ละประเทศยังคงมีสภาพคล่องที่สูงอยู่ ดังนั้นในส่วนของเศรษฐกิจของทั้ง2ประเทศไม่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากปัจจัยทั่วโลกเรื่องของการระบาดของcovid-19 การส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์เป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจทั้ง2ประเทศ ด้วยผลิตภัณฑ์พลังงานการขนส่งของออสเตรเลียและโลหะเหล็ก ในขณะที่นิวซีแลนด์มีชื่อเสียงในด้านการส่งออกขนสัตว์เนื้อและนม

การซื้อขายยังคงดำเนินอยู่:

นิวซีแลนด์ประสบภาวะขาดดุลการค้าสูงถึง 914 ล้านเหรียญนิวซีแลนด์เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปี 2561 เป็นผลมาจากมูลค่าการน าเข้าสินค้าที่สูงกว่าการส่งออก มีมูลค่า 5.3 พันล้านเหรียญนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 7.7% เป็นการเพิ่มการนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันดิบ
และน้ำมันดีเซล ในขณะที่การส่งออกมีมูลค่า 4.4 พันล้านเหรียญนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 3% ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกนมผง เนยและชีสไปยังจีนมีมูลค่า 9.1 ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ แต่มูลค่าการส่งเนื้อลดลง 66ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ เป็นการลดลงทั้งเนื้อแกะและเนื้อวัว ซึ่งเป็น
มูลค่าการส่งออกไปยังตลาด EU และสหรัฐอเมริกาที่หดตัวลง แต่การส่งออกเนื้อไปจีนยังเพิ่มขึ้นอัตราการว่างงานนิวซีแลนด์ไตรมาสเดือนตุลาคม – ธันวาคมอยู่ที่ระดับ4.3% เพิ่มขึ้นจาก 4.0% ในไตรมาสเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561โดยมีจำนวนผู้ว่างงานทั้งเพศชายและเพศหญิงรวม 10,000 รายอยู่ที่120,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี ในขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้น 2,000 ต าแหน่งอยู่ที่ 2,664,000 ตำแหน่งค่าจ้างแรงงานในตำแหน่ง Full-time เฉลี่ย 1,227.85 เหรียญนิวซีแลนด์ต่อสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2.9% และการเติบโตของรายได้ประชากรอยู่ที่ 1.9% เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ NZD มีทิศทางอ่อนค่าลงมากกว่าหากเทียบกับสกุลเงินAUD