S501! ไอเดียในการเทรด
ดูจากทรง 920-910 บริเวณน่าจะโอ แต่...- แต่เมื่อดูยอดขายสถาบัน ต้นทุนของสถาบันอยู่ที่เริ่มดันดัชนี S50 อยู่ที่บริเวณ 820 และทยอยซื้อมาเรื่อยๆ
- การดันไปที่ 966 มาหักลบ ดัชนีปัจจุบัน 930 ถือ การลงประมาณ 30 จุดถือว่าน้อยไป ควรเห็นบริเวณ 910 - 890 เพื่อสร้างฐานที่ต้นทุนใหม่
- ท่านที่ตามผม จะเห็นว่าผมเชียร์ราคา 890 ตลอด ถ้ามาถึงจุดนั้น สิ่งที่ทำคือทยอย L
- สไตล์เทรดผมคือ sentiment และการตั้ง Zone ราคา เพื่อตั้งค่า risk และ money managment
- ส่วนตัวคิดว่า ราคานี้ไม่น่าพอ น่าจะต่ำกว่านี้
Risk To Rich (ไม่แนะนำสำหรับผู้วางเงินประกันน้อยและเล่นสัญญาเยอะ- ตลาดทำจุดสูงสุด 966 โดยพิจารณาที่ข้อสันนิษฐานเดิมคือ กองทุนซื้อ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ทั้งภายในภายนอกตลาด
- ที่จุด R3 การจะเห็นตัวเลขเปิดโดด ขึ้นไปแตะ ที่ 966 อีกครั้ง ประมาณ 90 % หมายความว่า ถ้าต้นทุนใครต่ำกว่า 965 มีโอกาสกำไร 90 % หรือ ไม่ว่า ระหว่างวันราคาตกไปที่เท่าไร ที่ราคา ( S2 S3 )โอกาศจะปิดที่ราคาบริเวณ P R2 R3 (955 - 966) มีโอกาส 90 %
- หรืออีกนัยนึง เมื่อถึง 966 โอกาสที่จะไปต่ออยู่ 10 % ซึ่งไม่น่าตามเลย
- จากข้อสันนิษฐาน เดิมคือ กองทุนซื้อ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เลย ทำไมไม่น่าตาม ในเมื่อช้อสันนิษฐานเดิมเพราะ มันคือความน่าจะเป็น :ซึ่งโอกาสที่จะผิดก็ยังมี
การบ้านสัปดาห์หน้าตลาดขึ้นมาถึงจุดเฝ้าระวังจุดที่ 2 บริเวณที่ 966
- พิจารณารายละเอียดกลุ่มซื้อขาย ต่างชาติ ซื้อๆ ขายๆ เขาระวังเรื่องต้นทุน ถือสถานะ short บ้าง
กองทุนซื้ออย่างเดียว กระสุนยังไม่หมด หรือ อาจจะพักบ้าง ราคา 2 วันนี้มีแต้ทะยานขึ้น
- ถ้าคนเล่นฝั่ง L และต้นทุนต่ำกว่า 900 สามารถถือได้จนถึง จบปี
- ถ้า ต้นทุนสูงกว่า 940 ต้องออกแล้วและรอ ถ้าจะถือต้องป้องกันความเสี่ยงไว้
- ฝั่งคนเล่น S จังหวะนี่น่าสน สูงกว่า 966 เป็นต้นทุนที่ จะไม่ดีต่อเมื่อ ดัชนี S50 ยิงยาวไป 1000 จุด ซึ่งความน่าจะเป็นน้อยมากๆ เราควรคาดหวังที่ กำไร 15 - 30 จุด อย่างน้อยกว่า 10 จุดขึ้น ในการถือครองฝั่ง S
- แท่งเทียนระดับสัปดาห์เหมือนจะไปต่อได้ฝากไม่มีอะไร มา surprise ซึ่งส่วนตัวผมไม่เอาแล้ว อาจจะขึ้นไปต่ออีกหน่อยก็ได้ ยังไง ตอนนี้รอจังหวะ S เพื่อกิน pull back ง่ายกว่า
- ถามใจตนเอง เห็นตนเอง รู้ทันจิตตนเองว่า โลภ เกินไปมั้ย มีอะไรที่ประมาทมั้ย ในการเทรดที่ยังไม่ปิดสถานะ ณ ตอนนี้ ถ้าสามารถตอบได้ แล้ว ลุยต่อได้เลยทั้งฝั่ง S ฝั่ง L
18/10/67 แผน S50Z2418/10/67 Live เช้านี้ S50Z24 ให้แนวต้านไว้ 962.8 ในไลฟ์
ตอนนี้ทำไฮ 962.7 ตามแผนเล่นดัก Short เมื่อไม่ผ่านแนวต้านก็ได้
ตอนนี้ย่อลงมามีกำไรแล้ว ตั้งจุดล็อคกำไรเอาไว้
.
หาแนวต้านทำรอบได้แม่นยำตามความรู้ระบบเทรด Bird Theory
วางแผนไว้ชัดด้านบนแนวต้านอยู่ตรงไหน
วางแผนไว้ชัดด้านล่างแนวรับอยู่ตรงไหน
วางแผนไว้ชัดทั้งสองทางไม่ขึ้นก็ลง
ทำให้เราหาโอกาสหากำไรได้ทั้งตลาดขึ้นหรือลง
.
สิ่งสำคัญ คือ แนวรับแนวต้านแม่นๆ แบบนี้ หาได้ไหม
สิ่งสำคัญ คือ หาแนวรับแนวต้านได้แล้วรู้ไหมจุดไหนต้องทำอะไร
สิ่งสำคัญ คือ หากราคามาแนวรับแนวต้านนั้นต้องวางแผนอย่างไร
สิ่งสำคัญ คือ ถ้าราคาผ่านแนวรับแนวต้านต้องสลับหน้าเทรดอย่างไร
.
สิ่งเหล่านี้ คือ mindset กลยุทธ์การวางแผนของผม
ทำให้ชาว SIT TFEX & SIT CLASS หากำไรได้ทั้งสองทาง
ไม่ว่าจะเจอตลาดขึ้นหรือลงก็ดักหากรอบทำกำไรได้
.
ทำตามระบบเทรด Bird Theory ดีเสมอครับ
m.facebook.com
ทะลุถึงเป้า แล้ว ยังไงต่อ- เป้าส่วนตัวผมคือ 945 แต่ตลาดก็พุ่งทะลุไปดูทีท่าว่าอาจจะ จบแถว 966 ที่แนวต้านหลัก
- ถึงตอนนี้ผมจะรอ S แต่ตลาดจะให้ถือ S ตอนไหนยังไม่รู้แต่ว่า เพดานขึ้นมันแคบลงเรื่อยๆ
- ถ้าตลาดดีจริงคงเลี้ยงราคานี้จนถึง 966
- การรอคือ กลยุทธ์อย่าง
- การถือ S เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก ต้องจับจังหวะให้ดี เพราะจะจบเร็วและแรง
ทำการบ้าน time frame week หน้า- กรอบสีแดงคือกรอบที่ราคาน่าจะแก่วง กรณี sideway หรือถ้าลงลึกสุดก็ 890
- กรอบสีนำเงินคือเป้าหมายระยะสั้นเมื่อถึง 945 จะทำการ short เพื่อเก็บ correction ที่ 930 ถ้าตลาดลง
- เป็นการคาดการณ์วางแผน ถ้าข้อเท็จจริง ระหว่างสัปดาห์เปลี่ยน ต้องปรับใหม่เช่น ต่างชาติกลับมาซื้อแรง หรือ มีเรื่อง surprise ตลาดให้ลง
วิเคราะห์โอกาสหมดตัว ด้วย money and Time FrameCredit :ส่วนนึงนำมาจากช่อง cwayinvestment ยูทูป
- IM ของ S50 futures คือ 6860 บาท ต่อ 1 สัญญา
หมายความว่า ถ้าวางเงิน 6860 บาท แล้วเรามองว่าน่า Short ถ้าตลาด ลงจริง เราก็ได้ pay off ต้องมากกว่า 1 จุดเพราะ ว่าหักค่า comm ถึงได้กำไรเช่น 920 ลงมา 919 ยังไม่ได้กำไร จะได้กำไรต่อเมื่อต่ำกว่า 919
- ถ้าตลาดไปผิดทางที่เราคาล่ะ ก็จะขาดทุน จนถึง MM ก็ต้องเอาเงินมาเติมให้ครบ IM เช่น MM อยู่ที่ 3440 แล้ว พอร์ทเราต่ำกว่า MM เราควรนำเงินมาเติมให้กลับไปที่ IM เพื่อความปลอดภัยไม่ถูกปิดสัญญา
- จากบทวามข้างต้น การวางเงิน ที่ IM ไม่ฉลาด เพราะ พอร์ตไม่มั่นคง ทำให่อารมณ์เราไม่มั่นคง อ่อนไหวง่ายเมื่อตลาดผิดทาง
- Professional เขาจะวางมากกว่า ปรมะณ 3 เท่าหรือต่ำกว่า เพื่อกันราคาสะบัด ลองคิดดูว่าวันนึงสะบัดไป 50 จุดแล้วเราผิดทางทั้ง 50 จุด หมายความว่า เราขาด 10,000 ต่อหนึ่งสัญญา
- มูลค่าของ Set50 นำตัวคูณ 200 มา คูณราคาปัจจุบัน สมมติว่า 900 จุด แสดงว่า Set50มีมูลค่า 180,000 บาท เราวางเิงน 180,000 บาทต่อ 1 สัญญา ความเสี่ยงในการโดนราคาสะบัดจะหายไปทันทีเพราะ ไม่มีทางสะบัดเหลือ 0
- Timeframe มาเกี่ยวอะไร เราให้ TF เพื่อดูการสะบัดของราคา ถ้าเราวางเงินเยอะ เราสามารถใช้ TF ใหญ่ได้ลดความผันผวนทางอารมณ์ สำหรับขา Long
- แต่ถ้าเราวางต่ำมาก ๆ แล้วเรายังไม่คุ้นกับนิสัย S50 แฟนของเรา ซึ่งอารมณ์ขึ้นๆลงๆ เราจะเสี่ยงมากในการ ปิดๆเปิดๆ สัญญา แล้วค่า comm ก็จะเสียไป สรุปเดือนนึง ค่า comm แพงกว่าขาดทุนจาก futures
อ้างอิงจาก บทความกลยุทธ์สำหรับเดือนหน้า (หมายถึงเดือนนี้)- จาก bar กราฟ week 2 bar ทำลักษณะคลา้ยเลขบวก หมายความว่า เกิดการชลอตัวระดับ week
- สอดคล้องกับ กราฟรายชั่วโมง ที่ลงมาระดับ 20 กว่าจุด บ่งบอกว่า ถ้าตลาดขึ้นก็ได้ไม่เยอะ ถ้าตลาดลงก็น่าจะสัก 50 จุดจาก 930
-เราเทรดตามกราฟเป็นหลัก ไม่พึ่งข่าว เพราะะนั้นตรงจุดนี้ ควรรอตราบใดที่ไม่เห็น 890 -885 จะไม่ L
- ถ้าต้นทุนไม่ต่ำกว่า 890 เวลาตลาดขึ้นก็จะไม่ตาม
หวังว่า จบตลาดวันนี้จะไม่ขึ้นตีแสกหน้า - ส่วนตัวอยากเห็น 890 888 หรือ 885
- Indi ที่ใช้ ส่วนใหญ่คือ standard division ไว้ดูความผันผวนถ้ายก high ยก low จะเฝ้าดู ปกติไม่นั่งเฝ้าน่าจอ วางแผนปุ๊ป เข้าเทรด ก็จะไปทำอย่างอื่น ถึงแม้จะเป็น futures มีตัวคูณ ถ้าผิดทางมันจะนำความเสียหายจุดละ 200 X ขนาดสัญญา เพราะแผนแต่ละคนไม่เหมือนกัน
จิตวิทยาการเทรด สำหรับ ดัชนี ทั้งโลก- ดัชนี คือความเชื่อมั่นของประเทศ
- ถ้าเราไม่คุ้นพฤติกรรมตลาดดัชนี อย่าเทรด เพราะขนาดคนคุ้นแล้ว ยังมีพลาด เพราะปัจจัยที่คาดเดาไม่ได้
- ให้วางแผนตนเอง อย่าพึ่งข่าว ทางที่ดีไม่ฟังจะดีกว่า เพื่อที่จะได้ไม่สับสนว่าแผนของเราใช้ได้จริงมั้ย
- ราคาดัชนี คือ fair price + ความคาดหวัง ทั้งฝั่ง L และ S
- การคิดที่จะชนะตลอดจะทำให้เสีย ค่า comm เยอะมาก
- ตลาดมักจะลง และขึ้น โดยเหตุผลมาทีหลังเสมอ
- ข่าวร้ายมากมาย แต่ไม่ทำให้ดัชนีลงแรงมาก แสดงว่าข่าวนั้นมีผลระยะสั้น และไม่มีน้ำหนักพอที่จะกลัวสำหรับพวก Big money
- ข่าวดีมากมาย แต่ไม่ทำให้ตลาดขึ้น แสดงว่าข่าวนั้น ปัจจัยไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะให้ราคาขึ้น
- ดัชนีมักจะเอาเงินจากคนที่ไม่เข้าใจ ไปให้คนที่เข้าใจมันจริงๆ ถ้าเราไม่เข้าใจมันให้ดูจนกว่าจะเข้าใจมันระดับนึงเหมือนคบคนจนรู้ใจระดับนึง
- หาแนวทางตัวเองให้เจอแล้วขลุกอยู่กับมัน ทดสอบมัน เมื่อเข้าใจ แล้วเราจะมี ATM ติดตัว
- รู้จัก pair trade , spread tread เพื่อหลีกเลี่ยง stop loss โดยไม่จำเป็น
ควรจะลงแรงและจบเร็ว- เมื่อวานดัชนี ฝั่งยุโรป และ อมเริกา ลงจากความกังวลในสถานะสงคราม
- sentiment จะส่งถึงเราแน่นอน แต่....
- ถ้ามันขึ้นและแข็งแกร่งจริง set ต้องลงแรงและจบเร็วเพื่อดันขึ้น คาดหวังที่ 890 จุด
- สงครามถ้าสถานการณ์ดีขึ้น จะดีดกลับเร็วมากๆ แต่ถ้าไม่ 890 จุดก็เอาไม่อยู่
- เป็นเหตุให้ ที่ต้องทำการ hedge ไว้ ถ้าคนที่อ่านบทความผมเมื่อวานยิ่งใกล้ 930 ต้องระวัง
- เพราะฉะนั้นคนที่ hedge ไว้ควรรอ เราไม่รู้อนาคตแต่เราป้องกันได้
- คนที่เปิด S ไว้ จะเก็บไว้ก่อน หรือ ออกก่อนแล้วแต่เลย ส่วนตัวจะรอสถานกาณณ์ก่อน แล้วปิด S
- แล้ว รอ......
S50📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
กลยุทธ์สำหรับเดือนหน้า- กำหนดแนวรับแนวต้าน โดยแท่งกราฟ month จุดสูงสุดและต่ำสุดคือกรอบที่โฟกัส
- ถ้าราคาทะลุขึ้น แล้วไม่วิ่งกลับมา ก็ปล่อยให้ราคาวิ่งเรื่อยๆ จนถึงธันวาคมกลางเดือน
- ถ้าราคาทะลุงลง แนวโน้ม sideway down สูงมาก
- ถ้าราคาอยู่ในกรอบ ( ซึ่งน่าจะแบบออกมารูปนั้น ) สาเหตุหลัก ( ส่วนตัวให้ความสำคัญ )จาก ค่าเงินบาท ถ้าสูง จะเสี่ยงต้นทุนต่างชาติสูง ซึ่งเขาไมน่าจะทำ)
- อย่า all in ค่อยๆเข้า เชื่อว่า การรอดีสุด
ธรรมชาติของ พฤติกรรมราคา วันศุกร์- เช้า โดด สายเงียบ บ่ายตก โดยเฉพาะก่อนปิดตลาด
- เช้าตก สายเงียบ บ่ายขึ้น โดยเฉพาะก่อนปิดตลาด
- เช้าเงียบ สายเงียบ บ่ายสะบัด ขึ้นๆ ลงๆ โดยเฉพาะก่อนปิดตลาด
- ถ้าได้กำไรแล้วไม่ควรเล่นต่อ รอวันจันทร์ดีกว่า ถ้ายังมองพฤติกรรมตลาดไม่ออก
- ถ้ารอได้รอวันจันทร์ดีกว่า
- เมื่อหลายปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์วางระเบิดแถว ศาลพระพรหม ในช่วงวันหยุด ทำให้ตลาดเปิดลง 30 กว่าจุดโดยปกติ จะไม่ทำ naked long or short หรือทุกแนวต้านจะ มี short เสมอ ทำให้วันนั้นได้กำไร ขั้นต่ำการ take profit ปกติคือ 15 - 20 จุดสาเหตุที่ต้องพูดเรื่องนี้คือ ถ้าวางเงินไม่มากพอเวลาราคาสะบัดแรงเพราะอุบัติเหตุต่างๆ เราจะถูก foce sell เสมอ
sideway คือ ตัววัดกลยุทธ์และการเข้าออกของ port- ยังคงมีมุมมองเดิมต่อตลาด เลย 930 ไม่น่าตาม
- ยังไม่เห็น900 หรือ 890 ยังไม่ L
- การสะบัดของราคาเริ่มเห็นบ่อยขึ้น บ่งบอกถึง sideway
- sideway คือตัววัดว่า คนที่เข้าออกบ่อยๆ ยังมีกำไรมั้ย คนพึ่ง indicator ระยะสั้นจะเจ๊งสูง
- วิธีการจัดการ sideway คือ รอ
- รอ จน กว่า วอลลุ่มเข้า พร้อมราคา จะลงหรือขึ้นก็แล้วแต่
S50Z24 26/09/24 เล่นตาม 60 รอ 5 ลงจบมีหัวขึ้นง่ายกว่าสวนเทรนการย่อไม่แปลก
- 60 ขึ้นมาโซน 00 ปรับย่อได้ ไม่หลุด 908 ยังขึ้นได้ต่อ
- 5 มีหัวลงพา 60 os
.
การขึ้นต่อ
- เบรค 926 ล้างหัวลง 5
- เบรค 929.6 tf60 HH HL
.
การ long
- ถ้า 60 ไม่เสียทรง เมื่อ 5 ลงจบ แล้ววาง sl ที่ low แท่งก่อนหน้าทำได้
.
การ short
- ตาม 5 แต่เนื่องจากเป็น tfเล็ก ถ้า 60 os จบต้องปิดก่อนกันการโดนลาก
......................................
60 : ขาขึ้น
- beardi. 3 รอบ = ค้าง os / os low 908
- 5 มีหัวลงพา 60 os ถ้า 60 os ไม่หลุด 908 ยังขึ้นได้ต่อ
.
5 : ขาลง
- หัวลง 926 ลง 161.8
- กรอบ 917.9 - 924