ตลาดหุ้นอินโดนีเซียดิ่งหนัก! นักลงทุนกังวลนโยบายประชานิยมตลาดหุ้นอินโดนีเซียดิ่งหนัก! นักลงทุนกังวลนโยบายประชานิยมและค่าเงินอ่อนค่า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ร่วงหนักในวันนี้ (18 มี.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัว และนโยบายประชานิยมของ ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต
📉 ดัชนีคอมโพสิตจาการ์ตา (JCI) ร่วงลงมากถึง 7.1% ซึ่งเป็นการลดลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียต้อง หยุดการซื้อขายชั่วคราว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19
📉 สกุลเงินรูเปียห์ อ่อนค่าลง 0.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย ต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อพยุงค่าเงิน
📉 พันธบัตรรัฐบาล ก็ถูกเทขายเช่นกัน สะท้อนความกังวลของตลาดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
นักลงทุนมองว่า การตกต่ำครั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำกว่าคาด และ กระแสข่าวลือเรื่องการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ซึ่งแม้รัฐบาลจะออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว แต่ความไม่แน่นอนยังคงกดดันตลาด
อย่างไรก็ตาม หลังรัฐบาลออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าว ดัชนีหุ้นอินโดนีเซียฟื้นตัวขึ้นบางส่วน ปิดตลาดที่ -3.7% ลดช่วงลบจากจุดต่ำสุดของวัน
รัฐบาลอินโดนีเซียปฏิเสธข่าวลือที่ว่า รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ศรีมุลยานี อินดราวาติ จะลาออก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน หลังจากที่ตลาดหุ้นร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ
สุฟมี ดัสโก อาห์มัด รองประธานสภาผู้แทนราษฎรของอินโดนีเซีย ยืนยันว่า "ศรีมุลยานีไม่ได้ลาออก และสถานการณ์ทางการคลังของเรายังคงแข็งแกร่ง" ในระหว่างการประชุมสัมมนาที่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันอังคาร ซึ่งเขาตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นอาจเกี่ยวข้องกับข่าวลือเรื่องการลาออกของอินดราวาติ
ขณะที่นักลงทุนกำลังมีความกังวลเกี่ยวกับฐานะการคลังของอินโดนีเซียหลังจากกระทรวงการคลังรายงานว่า ขาดดุลงบประมาณประมาณ 31.2 ล้านล้านรูเปียห์ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2025 ซึ่งคิดเป็น 0.13% ของ GDP แม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2.5% ของ GDP แต่เป็นการขาดดุลงบประมาณครั้งแรกตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสาเหตุหลักมาจากการลดลงของการเก็บภาษี เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง และการเลื่อนนโยบายการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
การใช้จ่ายและการบริโภคมีแนวโน้มลดลงก่อนช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปลายเดือนนี้ ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติมีทิศทางไหลออก โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 14 มีนาคม นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิสะสมประมาณ 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2024
ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้แทรกแซงเพื่อสนับสนุนค่าเงินรูปียะฮ์ เนื่องจากข่าวลือที่ว่า ประธานาธิบดีปราโบโว มีแผนจะปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งอาจรวมถึงอินดราวาติด้วย โดยเธอเป็นผู้นำกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียมาเป็นเวลา 14 ปี จากทั้งหมด 20 ปีที่ผ่านมา
ที่มา : Bloomberg