GBPUSD กราฟ H4วิเคราะห์ GBPUSD กราฟ H4 กำลังมีแนวโน้มกลับตัว ตอนนี้ราคาอยู่ที่แนวต้านบริเวณจุดหมุน 1.3065 ถ้าราคาไม่สามารถทะลุได้ มีโอกาสปรับตัวลงไปสู่แนวรับแรกที่ 1.2942 ซึ่งใกล้กับ 61.80% Fibonacci retracement แต่ถ้าราคาทะลุจุดหมุนนี้ได้ มีแนวโน้มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.3151ลดลงโดย ThaiTradeSignals1
GBPUSD H4 | การทะลุแนวรับขาลงวิเคราะห์ GBPUSD บนกราฟ H4 ราคากำลังลดลงมาที่ Pivot 1.3101 หากทะลุแนวนี้อาจลดลงไปที่แนวรับแรก 1.2936 ใกล้ระดับ Fibonacci retracement 61.8% หากทะลุขึ้นเหนือ Pivot อาจปรับขึ้นไปที่แนวต้านแรก 1.3229ลดลงโดย ThaiTradeSignals1
GBPUSD กราฟ H4 | การกลับตัวขาลงวิเคราะห์ GBPUSD กราฟ H4 ราคากำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปยังระดับ Pivot ที่ 1.3156 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวต้านของการดึงกลับ หากเกิดการกลับตัวที่ระดับนี้ ราคามีโอกาสที่จะลดลงไปยังแนวรับแรกที่ 1.3031 ซึ่งเป็นแนวรับทับซ้อนใกล้กับระดับการปรับตัวลง Fibonacci ที่ 50% หากราคาทะลุผ่าน Pivot ไปได้ มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปถึงแนวต้านแรกที่ 1.3229 ซึ่งเป็นแนวต้านของการดึงกลับลดลงโดย ThaiTradeSignals0
GBPUSD H4 | แนวโน้มกลับตัวขาลงวิเคราะห์ GBPUSD กรอบเวลา H4 แสดงแนวโน้มกลับตัวขาลง โดยราคากำลังเคลื่อนไหวไปยังระดับ Pivot ที่ 1.3320 ซึ่งเป็นแนวต้านใกล้กับ Fibonacci retracement 38.2% หากเกิดการกลับตัว ราคามีแนวโน้มปรับตัวลงสู่แนวรับแรกที่ 1.3240 ซึ่งเป็นแนวรับซ้อนใกล้ Fibonacci extension 161.8% อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุผ่านระดับ Pivot ขึ้นไปได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปสู่แนวต้านแรกที่ 1.3423 ซึ่งเป็นแนวต้านจากหลายจุดสูงสุด ลดลงโดย ThaiTradeSignals0
เงินปอนด์กำลังทดสอบแนวโน้มขาขึ้นวิเคราะห์ GBPUSD จากกราฟรายวัน ราคาของเงินปอนด์อังกฤษกำลังทดสอบแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งอาจมีการปรับฐานเกิดขึ้น โดยราคาของสินทรัพย์นี้มีแนวโน้มที่จะมุ่งเป้าหมายไปยังระดับแนวรับที่ 1.3000 ก่อนดีดตัวขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals0
Fed ลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี 0.5%: ผลกระทบต่อทองคำและบิตคอยนการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย 0.5% สู่ระดับ 4.75%-5% ครั้งแรกในรอบ 4 ปี มีผลกระทบทั้งต่อทองคำและบิตคอยน์อย่างมีนัยสำคัญ ผลกระทบต่อทองคำ ทองคำมักจะได้รับประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย เนื่องจากการลดต้นทุนการกู้ยืมทำให้นักลงทุนสนใจสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนแบบดอกเบี้ยอย่างทองคำมากขึ้น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ผลกระทบต่อบิตคอยน์ บิตคอยน์และคริปโตเคอเรนซีอื่นๆ อาจได้รับประโยชน์จากความผันผวนของเศรษฐกิจและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น การลดดอกเบี้ยทำให้สภาพคล่องในระบบการเงินสูงขึ้น ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเช่นบิตคอยน์เพิ่มขึ้น โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง แม้ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด นักเศรษฐศาสตร์หลายคนยังมองว่า Fed อาจยังคงระมัดระวังในการปรับลดดอกเบี้ยต่อไป เพราะเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอน หากการเติบโตยังไม่ชัดเจน Fed อาจเลือกที่จะลดดอกเบี้ยต่อไป แต่หากอัตราเงินเฟ้อเริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้น Fed อาจชะลอการปรับลดดอกเบี้ย. การศึกษาโดย Tradertanofficial1
ศักยภาพในการกลับตัวของ GBP/USDจากข้อสังเกตส่วนตัวของฉันเกี่ยวกับกราฟ GBP/USD ล่าสุด ฉันสังเกตเห็นว่าตลาดดูเหมือนจะเข้าใกล้จุดกลับตัวที่สำคัญ รูปแบบศีรษะและไหล่ผกผันได้เริ่มก่อตัวขึ้น และนำมาซึ่งความหวังในการกลับตัวจากภาวะหมีไปสู่ภาวะกระทิง นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นของตลาด โดยแรงกดดันในการซื้อจะค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น จากมุมมองของฉัน แนวรับของ EMA 34 และ EMA 89 ยังเสริมสร้างความเชื่อในแนวโน้มขาขึ้นนี้อีกด้วย ปัจจุบันราคาได้รับการสนับสนุนจากเส้นเหล่านี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงเสถียรภาพระยะสั้นถึงปานกลางในตลาด อย่างไรก็ตาม ราคากำลังปรับฐานสู่พื้นที่แนวรับสำคัญที่ประมาณ 1.3300 ผมเชื่อว่าปฏิกิริยาของตลาดที่จุดแนวรับนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในทิศทางถัดไปของทั้งคู่ หากราคาดีดกลับอย่างแรงจากบริเวณนี้ ก็อาจเป็นการยืนยันความสมบูรณ์ของรูปแบบหัวและไหล่แบบผกผัน และปูทางไปสู่แนวโน้มขาขึ้นใหม่ ในทางกลับกัน หากราคาไม่สามารถรักษาระดับนี้ได้ เราอาจเห็นการดึงกลับที่ลึกขึ้น ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการวางคำสั่งซื้อโดย Alexander_FXTrading23
GBPUSD กรอบเวลา H4 | การกลับตัวขาลงวิเคราะห์ GBPUSD กรอบเวลา H4 ราคากำลังเคลื่อนไปยังระดับ Pivot ที่ 1.3376 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวต้านจากการดึงกลับ หากมีการกลับตัวที่ระดับนี้ อาจทำให้ราคาลดลงไปยังแนวรับแรกที่ 1.3265 ซึ่งเป็นแนวรับทับซ้อนใกล้กับแนว Fibonacci retracement 38.2% อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถทะลุระดับ Pivot ไปได้ อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปยังแนวต้านแรกที่ 1.3429 ซึ่งเป็นแนวต้านจากจุดสูงสุด ลดลงโดย ThaiTradeSignals1
GBPUSD กราฟ 4 ชั่วโมง | การทะลุลง (Bearish Breakout)แนวโน้มหลัก: ราคากำลังลดลงสู่จุด Pivot ที่ 1.3261 หากราคาทะลุผ่านจุดนี้ไปได้ อาจทำให้ราคาลดลงไปสู่แนวรับแรกที่ 1.3210 ซึ่งเป็นแนวรับในบริเวณใกล้เคียงกับระดับ Fibonacci Retracement ที่ 38.2% แนวโน้มทางเลือก: หากราคาดีดตัวขึ้นจากจุด Pivot อาจทำให้ราคาขยับขึ้นไปที่แนวต้านแรกที่ 1.3327ลดลงโดย ThaiTradeSignals0
ข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกและสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย BoE กราฟ GBP/USD แสดงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาทะลุเหนือทั้ง 34 EMA และ 89 EMA ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง การเพิ่มขึ้นนี้ได้รับการสนับสนุนจากข่าวเชิงบวกจากสหราชอาณาจักร ซึ่งรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงในตลาดแรงงานและผู้บริโภค บนกราฟ 34 EMA ได้ข้ามเหนือ 89 EMA ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในระยะสั้น แนวต้านถัดไปสำหรับคู่ GBP/USD อาจอยู่ที่ประมาณ 1.3340 - 1.3350 ซึ่งอาจเผชิญกับการขายทำกำไรหรือแนวต้านทางเทคนิคบางประการ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งมีส่วนในการเพิ่มมูลค่าของเงินปอนด์ นอกจากนั้น ข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกเกี่ยวกับการบริโภคและการผลิตยังช่วยเพิ่มแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของ GBP/USD อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงด้วย เช่น การเจรจา Brexit อย่างต่อเนื่อง และประเด็นการเมืองภายในประเทศในสหราชอาณาจักรที่อาจก่อให้เกิดความไม่มั่นคง ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อเงินปอนด์และทำให้เกิดความผันผวนในตลาดอย่างไม่อาจคาดเดาได้โดย Alexander_FXTrading7
GBPUSD กรอบเวลา H1| การกลับตัวเป็นขาลงราคากำลังปรับตัวขึ้นสู่แนวหมุนที่ 1.3200 ซึ่งเป็นแนวต้านของการดึงกลับใกล้กับระดับ Fibonacci 61.8% หากมีการกลับตัวจากระดับนี้ ราคามีโอกาสปรับตัวลงสู่แนวรับแรกที่ 1.3136 ซึ่งเป็นแนวรับของการดึงกลับใกล้กับระดับ Fibonacci 38.2% กรณีทางเลือก: หากราคาทะลุเหนือแนวหมุน อาจปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านแรกที่ 1.3238 ซึ่งเป็นแนวต้านจุดสูงสุดลดลงโดย ThaiTradeSignals0
GBPUSD กราฟ H4 | แนวโน้มขาขึ้นวิเคราะห์ GBPUSD กราฟ H4 ราคากำลังปรับตัวลงมาที่แนว Pivot 1.3102 ใกล้กับระดับ Fibonacci Retracement 38.2% หากราคากลับตัวขึ้นจากระดับนี้ อาจขึ้นไปที่แนวต้านแรก 1.3183 ใกล้กับระดับ Fibonacci Retracement 78.6% แต่ถ้าราคาทะลุลงต่ำกว่า Pivot อาจลงไปถึงแนวรับแรกที่ 1.30353เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals0
รูปแบบกราฟ Cypher Patternรูปแบบกราฟ Cypher Pattern 👽👽👽 มากันอีกแล้ว กลับมากันอีกแล้วกับบทความดีๆ และเทคนิคการวิเคราะห์รูปแบบกราฟจากแพทเทรินต่างๆ เพื่อให้เราเทรดกันได้ง่ายขึ้น วันนี้เรามาทำความรู้จักกันกับ Cypher Pattern แพทเทรินที่มาเร็วเคลมเร็ว เหมาะกับสายสไนเปอร์ และสาย Scalping สุดๆ ตามมาอ่านกันต่อได้เลยครับ รูปแบบกราฟ Cypher Pattern เป็นรูปแบบที่ได้มาจากทฤษฎี Harmonic Pattern ที่เกิดบ่อยในช่วงตลาดผันผวน เหมาะมากครับกับเทรดเดอร์สายทองคำ ที่ชื่นชอบการเทรด Scalping หรือ สไนเปอร์ เทรดสั้น เข้าเร็วออกเร็ว ด้วยเทคนิคการเทรดของรูปแบบนี้ ทำให้ผลลัพธ์ RR สูงถึง 2-3 เท่า เหมาะกับพอร์ตที่ต้องการการเติบโตแบบรวดเร็ว เป็นรูปแบบการเทรดที่เหมาะกับตลาดที่มีการเหวี่ยงแรง ๆ เช่น Forex ทอง น้ำมัน ใช้ได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยกราฟมีลักษณะการเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้ม แต่มีราคาผลักให้เหวียงกลับจนกระทั่งหลุดแนวรับหรือแนวต้านอย่างรุนแรง จุดนี้แหละฮะ ที่เราควรเข้าทำกำไรกัน ลักษณะรูปแบบกราฟ Cypher Pattern เป็นแพทเทร์นที่มี 4 ขา ดีดเลยหัวแต่หางไม่เลยฐาน คล้ายกับการเคลื่อนที่ตามแนวโน้มปกติ แต่ย่อลึกหลุดแนวรับหรือแนวต้าน มีความแม่นยำสูงถึง 75% การสร้างรูปแบบ Bullish Cypher Bullish Cypher สัญญาณในการเข้า Buy เกิดขึ้นจากการหมดแนวโน้มจากขาลง และกำลังจะกลับตัวเป็นขาขึ้น หรือจะเกิดในช่วงพักตัวของแนวโน้มขาขึ้น กลับตัวจากแนวโน้มย่อยเพื่อที่จะขึ้นต่อ โดยมีโครงสร้างเริ่มต้นจาก X ตามด้วย ABCD โดย AB จะพักตัว 38.2-61.8% ของ XA และ BC จะยืดออกอยู่ที่ 127-138.2% ของ AB และจุดกลับตัว PRZ จะอยู่ที่ 127-200% ของ BC และ 78.6% ของ XA คือจุด D 👉 จุดเข้า Buy PRZ จะอยู่ที่ 127-200% ของ BC และ 78.6 ของ XA 👉 Stop Loss เลยหัว X ไป 5-10 pip 👉 Target TP1 ที่ 38.2% ของ CD และ TP28% ของ CD การสร้างรูปแบบ Bearish Cypher Pattern Barish Cypher สัญญาณในการเข้า Sell เกิดขึ้นจากการหมดแนวโน้ม จากขาขึ้นและกำลังจะกลับตัวเป็นขาลง หรือจะเกิดในช่วงพักตัวของแนวโน้มขาลง กลับตัวจากแนวโน้มย่อยเพื่อที่จะลงต่อ โดยมีโครงสร้างเริ่มต้นจาก X ตามด้วย ABCD โดย AB จะพักตัว 38.2-61.8% ของ XA และ BC จะยืดออกอยู่ที่ 127-138.2% ของ AB และจุดกลับตัว PRZ จะอยู่ที่ 127-200% ของ BC และ 78.6% ของ XA คือจุด D 👉 จุดเข้า Sell PRZ จะอยู่ที่ 127-200% ของ BC และ 78.6% ของ XA 👉 Stop Loss เลยหัว X ไป 5-10 pip 👉 Target TP1 ที่ 38.2% ของ CD และ TP28% ของ CD ทริคและการเข้าเทรดแบบย่อๆ 1. แพทเทิร์นนี้จะทำกำไรได้สั้นหรือยาว อยู่ที่ TF เป็นหลัก ยิ่ง TF ใหญ่ กำไรก็จะยิ่งมากและยาวมากขึ้น 2.แพทเทรินนี้ เหมาะมากครับสำหรับการทำกำไรในตลาด Forex โดยเฉพาะการเทรดทองคำ เพราะมีความแม่นยำสูง และสามารถเก็บ RR ได้สูงเช่นกัน 3. ใช้ควบคู่กับระบบหรือสัญญาณ แท่งเทียน ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับระบบ 4. ใช้ Fibonacci ในการตรวจเช็คสัดส่วน ว่าเป็นไปตามทฤษฎีหรือไม่ ก่อนที่จะทำการวางแผนการเทรดจริง 👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ทริคการเทรดและแพทเทรินดีๆในการเทรดทองคำกันแล้ว หากใครเป็นสายเทรดทองก็อย่าลืมเอาไปลองใช้กันดูะครับ ไม่แน่นะว่าอาจจะถูกจริตกับเราบ้างก็เป็นได้สำหรับสายเทรดทอง แอดฟันธงเลย และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ การศึกษาโดย Tradertanofficial1
GBPUSD H4 | การกลับตัวเป็นขาลงวิเคราะห์ GBPUSD บนกราฟ H4 มีแนวโน้มกลับตัวเป็นขาลง หากราคาขึ้นถึงจุด Pivot ที่ 1.3060 และกลับตัวลง อาจลงไปถึงแนวรับที่ 1.2990 แต่หากทะลุจุด Pivot อาจขึ้นไปถึงแนวต้านที่ 1.3102ลดลงโดย ThaiTradeSignals0
GBPUSD H4 | การกลับตัวขาลงวิเคราะห์ GBPUSD บนกราฟ H4 มีการกลับตัวขาลง: ราคาปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ Pivot ที่ 1.3156 ซึ่งเป็นแนวต้านจากการ Pullback หากราคากลับตัวจากระดับนี้ อาจส่งผลให้ราคาลดลงสู่แนวรับแรกที่ 1.3044 ใกล้กับระดับ Fibonacci Extension 127.2% และ Fibonacci Retracement 38.2% อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุผ่านจุด Pivot ได้ อาจทำให้ราคาปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านแรกที่ 1.3238 ซึ่งเป็นแนวต้านของ Swing Highลดลงโดย ThaiTradeSignals0
รูปแบบกราฟฉลาม (Shark Pattern)รูปแบบกราฟฉลาม (Shark Pattern) 👽👽👽 กลับมากันอีกแล้วกับบทความดีๆ และเทคนิคการวิเคราะห์รูปแบบต่างๆในการเทรดจากบทความที่แล้วเราได้รู้จักกับรูปแบบกราฟค้างคาวกันไปแล้ว รอบนี้แอดพาไปรู้จักกราฟฉลามกันบ้างดีกว่า รูปแบบนี้ทำกำไรเด็ดไม่แพ้กราฟค้างคาวเลยทีเดียวเชียว รูปแบบกราฟฉลาม (Shark Pattern) เป็นรูปแบบที่ได้มาจากทฤษฎี Harmonic Pattern ซึ่งจัดว่ามีความแม่นยำสูงอีกตัวหนึ่ง ที่โอกาสชนะมีถึง 65 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าเปอร์เซ็นต์การชนะอาจไม่สูงเท่าแพทเทรินตัวอื่น แต่ไอ่เจ้าแพทเทรินตัวนี้ เป็นไปได้ว่าเราอาจมีลุ้นในการทำกำไรถึงสองรอบ เนื่องจากกราฟมีลักษณะการวิ่งและทิศทางภาพรวมที่ออกมา คล้ายกับฟันของฉลาม เราจึงเรียกว่ากราฟฉลาม และสัดส่วนรูปฟันฉลามที่มีระยะบอดี้ที่ค่อนข้างยาวนี่แหละ ทำให้เราสามารถทำกำไรได้สองรอบ ทั้งขาขึ้น และขาลง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการวัดค่าเฉลี่ยและองศาของแพทเทรินก็คือ การกำหนดสัดส่วน Fibonacci ตามทฤษฎี ABCD ซึ่งแพทเทรินตัวนี้อาจมีความสลับซับซ้อนนิดหน่อยนะฮะ แต่บอกได้เลยว่าคุ้มค่าแก่การเรียนรู้และนำไปปฏบัติใช้แน่นอน จุดเด่นของShark Pattern เป็นแพทเทิร์นที่มีการดีดกลับของราคาเลยหัว และหางยาวเลยจุดเริ่มต้นแต่บางครั้งก็ไม่เลยทำให้ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง การสร้างรูปแบบ Bullish Shark Pattern Trade Setup ด้วย Bullish Shark Pattern สำหรับขาขึ้น BUY การสร้างรูปแบบของ Bullish Shark จะแตกต่างจากรูปแบบอื่น ๆ โดยปกติแล้วจะเริ่มต้นที่จุด X แล้วไป ABCD แต่รูปแบบ Shark จะเริ่มต้นด้วย O ก่อนที่จะไป XABC และจุด PRZ ก็คือจุด C นั่นเอง การสร้างรูปแบบ Bearish Shark สำหรับขาลง SELL รูปแบบของ Bearish Shark จะแตกต่างจากรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเริ่มต้นที่จุด X แล้วไป ABCD แต่รูปแบบ Shark จะเริ่มต้นจากจุด O ก่อนที่จะไป XABC และจุด PRZ ก็คือจุด C เช่นกัน สาเหตุที่เริ่มจาก O แล้วจบด้วย C เพราะจะมีรูปแบบต่อเนื่อง และจบที่จุด D เหมือนกับทุก ๆ แพทเทิร์นนั่นเอง ทริคและการเข้าเทรดแบบย่อๆ 1. แพทเทิร์นนี้จะทำกำไรได้สั้นหรือยาว อยู่ที่ TF เป็นหลัก ยิ่ง TF ใหญ่ กำไรก็จะยิ่งมากและยาวมากขึ้น 2.แพทเทรินนี้ เราเทรดได้สองขา คือขาบาย และขาแซล จากจุดกึ่งกลางจุด A เรามักจะทำกำไรจากสัญญาณกลับตัวระยะสั้น โดยเป้าหมายกำไรมักเป็นจุดกึ่งกลางลำตัวนั่นคือจุด A 3. ใช้ควบคู่กับระบบหรือสัญญาณ แท่งเทียน ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับระบบ 4. ใช้ Fibonacci ในการตรวจเช็คสัดส่วน ว่าเป็นไปตามทฤษฎีหรือไม่ ก่อนที่จะทำการวางแผนการเทรดจริง 👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ทริคการเทรดใหม่ๆกันไปแล้วก็อย่าลืมเอาไปลองใช้กันดูบ้างนะครับ ไม่แน่นะว่าอาจจะถูกจริตกับเราบ้างก็เป็นได้สำหรับสายชอบเทรดสวน ดีนักแล แอดฟันธงเลย และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับการศึกษาโดย Tradertanofficial3
GBPUSD ภาพใหญ่ แผนSELLGBPUSD มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อแต่อาจจะได้เห็นสัญญาณการย่อตัวในปลายสัปดาห์หน้าโดย MaaMongGraphที่อัปเดต: 8
การกลับตัวขาลง GBPUSD H4 วิเคราะห์ GBPUSD บนกราฟ H4 ราคากำลังขึ้นสู่แนวต้านที่ Pivot 1.3117 ซึ่งเป็นแนวต้านในช่วงการย่อตัว หากราคาลดลงจากระดับนี้ อาจนำไปสู่การลดลงสู่แนวรับแรกที่ 1.3033 ใกล้กับ Fibonacci Retracement 38.2% แต่หากราคาทะลุ Pivot ขึ้นไปได้ อาจขึ้นต่อไปที่แนวต้านแรก 1.3176ลดลงโดย ThaiTradeSignals1
GBPUSD H1 | การดีดตัวขึ้นเป็นขาขึ้นวิเคราะห์ GBPUSD บนกราฟ H1 ราคาปัจจุบันอยู่ใกล้ Pivot 1.3126 ซึ่งเป็นแนวรับซ้อนกัน หากมีการดีดตัวขึ้นจากระดับนี้ ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปถึงแนวต้านแรกที่ 1.3160 ซึ่งเป็นแนวต้านการดึงกลับใกล้กับระดับ Fibonacci Retracement 61.8% แต่ถ้าทะลุลงไปอาจลงไปถึงแนวรับที่ 1.3077เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals0
GBPUSD H1 I แนวโน้มกลับตัวขาลงการคาดการณ์: ราคากำลังปรับตัวขึ้นไปใกล้แนว Pivot ที่ 1.3214 ซึ่งเป็นแนวต้านทับซ้อนใกล้กับระดับ 50% Fibonacci retracement หากราคากลับตัวจากระดับนี้ อาจนำไปสู่การปรับลดลงสู่แนวรับแรกที่ 1.3131 ซึ่งเป็นแนวรับจากการย่อตัวใกล้กับระดับ 161.8% Fibonacci extension สถานการณ์ทางเลือก: หากราคาทะลุผ่านแนว Pivot ไปได้ อาจปรับตัวขึ้นไปยังแนวต้านแรกที่ 1.3264 ซึ่งเป็นแนวต้านที่เกิดจากระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ลดลงโดย ThaiTradeSignals1
แผนเข้าเทรด GBPUSD ด้วย SMCแผนเข้าเทรด GBPUSD ด้วย SMC เทรดตามแนวโน้มขาขึ้น ราคาทำจุดสูงสุดมาเรื่อยๆ ระหว่างนั้นมีแนวรับต่างๆ ซึ่งปัจจุบันราคากำลังกลับมาทดสอบแนวรับแรกซึ้งส่วนตัวมองว่าเป็น IDM ให้กลับแนวด้านล่างเพิ่มขึ้นโดย sirfranktrader2
GBPUSD M30 | การปรับตัวลงของตลาดหมีวิเคราะห์ราคาคู่สกุลเงิน GBPUSD ในกรอบเวลา M30 กำลังอยู่ที่จุดหมุน 1.3027 ซึ่งเป็นแนวต้าน หากราคาปรับตัวลงจากระดับนี้ อาจลดลงไปถึงแนวรับที่ 1.2976 ซึ่งเป็นแนวรับที่ทับซ้อนกัน อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้ อาจปรับตัวขึ้นไปที่แนวต้านถัดไปที่ 1.3056 ลดลงโดย ThaiTradeSignals1
"GBP/USD แรงกดดันต่อปอนด์เพิ่ม หลัง BoE ขึ้นดอกเบี้ย"**GBP/USD แนวโน้มรายสัปดาห์: กระแสเริ่มเปลี่ยนทิศทางไม่เป็นใจให้กับปอนด์ 💷** * GBP/USD ร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ใกล้ 1.2850 ทำให้เส้นทางบวก 3 สัปดาห์สิ้นสุดลง 📉 * แม้ว่า BoE จะมีท่าทีที่แข็งแกร่ง แต่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอาจจำกัดการเติบโตของปอนด์ 🚫 * ดอลลาร์สหรัฐได้รับการสนับสนุนจากมุมมองของประธาน Fed Powell และความเสี่ยงในตลาด 📊 แม้ว่า Bank of England (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกินความคาดหมาย แต่ GBP/USD ยุติช่วงเวลา 3 สัปดาห์ที่เป็นบวกและถอยจากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ความท้าทายสำหรับปอนด์เพิ่มขึ้นเมื่อความสนใจของตลาดหันไปที่ผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร และหลังจากประธาน Federal Reserve (Fed) Powell บ่งชี้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมยังเป็นไปได้ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดเป็นขาลงมากขึ้น ทัศนคติต่อปอนด์เปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงห้าวันที่ผ่านมา 💱 **การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE ยังไม่เพียงพอ 🏦** สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่มีเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจมากมายในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สำคัญ ตามด้วยการประชุมของ Bank of England ที่ลงเอยด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น่าประหลาดใจ ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐก็มีการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนโดยมีประธาน Fed Powell ที่มีท่าทีแข็งแกร่ง ข้อมูลการจ้างงานที่หลากหลาย และตัวเลขที่น่าประหลาดใจในภาคที่อยู่อาศัย 📈 ประธาน Fed Powell ยังคงมีท่าทีแข็งแกร่ง โดยกล่าวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมยังเป็นไปได้ และเจ้าหน้าที่ Fed คนอื่น ๆ รวมถึง Bowman ก็พูดถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น แม้แต่ Goolsbee ซึ่งเป็นคนที่ถือว่ามีท่าทีผ่อนคลายก็ยังบอกว่าการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ด้วยการประชุมที่ยังคง "สดใหม่" ข้อมูลเศรษฐกิจจะถูกติดตามอย่างใกล้ชิด 🔍 เกี่ยวกับข้อมูลของสหรัฐฯ การขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นอยู่ที่ 264,000 ครั้ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ขณะที่ยอดขายบ้านที่มีอยู่เพิ่มขึ้น 0.2% เกินความคาดหมาย ดัชนี S&P Global Manufacturing แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างไม่คาดคิดถึง 46.3 ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ภาคบริการลดลงเหลือ 54.1 📊 ตลาดในขณะนี้แสดงให้เห็นถึงการเดิมพันที่ลดลงสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้จาก Fed โดยมีความน่าจะเป็น 70% ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม ตามข้อมูลจากเครื่องมือ CME FedWatch ความคาดหวังเหล่านี้ได้สนับสนุนดอลลาร์สหรัฐในตลาดและช่วยจำกัดการขาดทุน 💵 รายงานเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรเมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อหลักเพิ่มขึ้น 7.1% ต่อปี จาก 6.8% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1992 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 8.7% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนเมษายน ตัวเลขเหล่านี้สูงกว่าคาดการณ์ 📈 ตัวเลข CPI ของสหราชอาณาจักรนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกินความคาดหมายจาก Bank of England แม้ว่าการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีจะเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผลที่ตามมารู้สึกได้ทั่วโลก ทำให้เกิดความเสี่ยงทางการเงินบางส่วน BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเป็น 5.00% โดยมีมติ 7-2 ซึ่งเป็นการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นครั้งแรกในรอบนี้ของการเข้มงวด 💷 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ยอมรับว่าผลกระทบรอบสองอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะคลี่คลาย โดยระบุถึงตลาดแรงงานที่เข้มงวดและความต้องการที่ยังคงทนทาน เอกสารที่ออกโดย BoE ชี้ไปที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต 🔮 นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่ามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดจำนวน 3 ครั้งจาก BoE โดยอัตราจะไปถึง 5.75% ภายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยที่อาจกระตุ้นให้เกิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2024 สิ่งที่ BoE จะทำขึ้นอยู่กับการไหลของข้อมูล ในขณะนี้คำถามสำหรับเดือนสิงหาคมคือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 25 หรือ 50 จุดพื้นฐาน 🎯 **ปอนด์ต้องการข่าวดีจากสหราชอาณาจักร 🇬🇧** นักเศรษฐศาสตร์กลัวภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร และหากไม่มีข้อมูลใหม่ การพิจารณาเหล่านี้อาจยังคงเป็นปัจจัยกดดันปอนด์ในสัปดาห์หน้า ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่อาจทำให้ GBP/USD ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันคือความเสี่ยงที่ตลาดมีต่อการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยล่าสุดและข้อมูลเศรษฐกิจที่หลากหลายอาจช่วยสนับสนุนการแก้ไขตลาดหุ้นในปัจจุบันให้ขยายตัวออกไป สิ่งแวดล้อมเช่นนี้เป็นลบต่อคู่สกุลเงินนี้ 📉 หากสถานการณ์แย่ลงอย่างมาก อาจทำให้อัตราคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ลดลงและกระทบต่อดัชนี DXY ซึ่งอาจจำกัดการขาดทุนใน GBP/USD แต่สำหรับคู่สกุลเงินนี้ที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ จำเป็นต้องมีปัจจัยมากกว่าการลดลงของผลตอบแทนในสหรัฐฯ 🌍 ปฏิทินเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในสัปดาห์หน้านั้นเบา BoE จะเผยแพร่ Quarterly Bulletin ในวันพุธ เครดิตผู้บริโภค การอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการปล่อยสินเชื่อสุทธิให้กับบุคคลในวันพฤหัสบดี และการประมาณการใหม่ของการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 1 ในวันศุกร์ 🗓️ ปอนด์ต้องการข่าวดี ซึ่งอาจมาจากการลดลงของเงินเฟ้อและการแสดงผลงานทางเศรษฐกิจที่ดี หัวข้อข่าวเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้นำปัญหาที่เกิดจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาสู่โต๊ะการเมือง และอาจกลายเป็นแหล่งกดดันสำหรับนายกรัฐมนตรี Rishi Sunak เจ้าหน้าที่รัฐบาลกำลังขอให้ธนาคารและสมาคมอาคารสนับสนุนครัวเรือนที่มีการจ่ายค่าจำนองเพิ่มขึ้น สื่อเริ่มพูดถึง “วิกฤตสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” ที่อาจแย่ลงไปอีกกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแบบคงที่สองปีเกิน 6% ในสัปดาห์นี้ 📊 ในสหรัฐฯ รายงานที่มีผลกระทบสูงสุดจะเป็นคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และยอดขายบ้านใหม่ในวันอังคาร การขอรับสวัสดิการว่างงาน GDP และยอด ขายบ้านที่รอดำเนินการในวันพฤหัสบดี และอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคและความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ UoM ในวันศุกร์ 📅 รายงานสำคัญจะเป็นดัชนี Core Personal Consumption Expenditures (PCE) ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ชื่นชอบ Core PCE คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% ต่อเดือน โดยอัตรารายปีอยู่ที่ 4.7% การอ่านนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed สำหรับการประชุมครั้งหน้า นอกจากนี้นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์จะติดตามตัวเลขด้านที่อยู่อาศัยอย่างใกล้ชิดในบริบทของการฟื้นตัวของข้อมูลที่อยู่อาศัยล่าสุด 🏡 #GBPUSD #ForexTrading #BankofEngland #FederalReserve #InterestRates #EconomicOutlook #CurrencyMarket #Inflation #MonetaryPolicyเพิ่มขึ้นโดย Purich3