GBP/JPY : สัญญาณการเทรดยังอยู่ในทิศทางชัดขึ้นGBP/JPY : สัญญาณการเทรดยังอยู่ในทิศทางชัดขึ้น คำแนะนำทางด้านการเทรด: สกุลเงินปอนด์ในตอนนี้มีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากมีการส่งสัญญาณของการเรียกกลับมาพิจารณาที่เกี่ยวเนื่องกับการลงประชามติครั้งที่สองของอังกฤษที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษจึงทำให้ สกุลเงินปอนด์มีการแข่งค่าขึ้นดังกล่าวประกอบกับในส่วนของสกุลเงินเย็นในตอนนี้ยังคงมีทิศทางพักตัวทำให้คู่สกุลเงินนี้มีการดีดตัวขึ้นอย่างได้ชัเป็นสัญญาณการเทรดขา Buy สัญญาณการเทรดขา Buy : ถ้าเกิดมีการดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตำแหน่งที่จะต้องติดตามซึ่งสามารถทะลุขึ้นไปได้ก็คืน 145.105 ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่นักลงทุนตลาดเงินคาดว่าถ้ามีการดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องควรติดตามตำแหน่งที่สองที่จะต้องคอยลดความเสี่ยงในการตัดทำกำไรก็คือ 145.554 และตำแหน่งที่สามก็คือ 145.941 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะต้องคอยติดตามอย่างมาก แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงตำแหน่งที่จะต้องคอยติดตามก็คือ 144.769 เป็นตำแหน่งที่หนึ่งและตำแหน่งที่จะต้องตัดขาดทุนทั้งหมดก็คือ 144.221 โดยตำแหน่งนี้นักลงทุนตลาดเงินคาดว่าถ้า สามารถในการปรับตัวร่วงลงอาจจะอยู่ในทิศทางขาลงตัวอย่างส่วนอีกหนึ่งรอบจึงมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้มีการร่วงลงอย่างต่อเนื่อง สัญญาณการเทรดขา Sell : ถ้าเกิดมีการปรับตัวร่วงลงตำแหน่งที่จะต้องตัดทำกำไรทั้งหมดก็คือ 143.880 โดยตำแหน่งนี้นักลงทุนตลาดเงินมักจะให้ความสำคัญเนื่องจากว่าอาจจะเป็นตำแหน่งที่ทิศทางมีการพักตัวและรอปัจจัยหนุนต่อไปจะมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้มีการผันผวนในตำแหน่งนี้ แต่ถ้ามีกันดีดตัวขึ้นตำแหน่งที่จะต้องตัดขาดทุนทั้งหมดก็คือ 145.554 ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่คาดว่าถ้าสามารถทะลุขึ้นไปได้จะอยู่ในทิศทางขาขึ้นระยะสั้นถึงระยะกลางทันที ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ : ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของคู่สกุลเงินนี้ยังอยู่ในทิศทางของสกุลเงินปอนด์ที่ยังคงเป็นปัจจัยหนุนมาจากเหตุการณ์นอกตารางที่สร้างความผันผวนและความรุนแรงและความเชื่อมั่นที่อาจจะมีการรื้อฟื้นเกี่ยวเนื่องกับการลงประชามติครั้งที่สองจึงอาจจะทำให้สกุลเงินปอนด์มีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงควรติดตามว่าจะเป็นไปได้ไหม และจะมีการแถลงการณ์เมื่อไหร่ในการเจรจาในครั้งนี้เพิ่มขึ้นโดย Purich5
หลักการบริหารเงินลงทุน (Money Management) สำหรับผู้เริ่มต้นสวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาแนะนำการบริหารเงินลงทุนด้วยระบบ T-L-S Trend-Level-Signal จากประสบการณ์ของผม ได้พบว่ามี Trader หลายๆคนที่มีปัญหาการลากพอร์ทให้ติดลบ ตรงข้ามกับคำพูดที่ว่า "Let's the profit run, cut the losers lose" กลายเป็น "Let's the losers run, cut the profit lose" หลักการลงทุนในตลาดทั่วๆไป เรามักจะได้ยินคำว่า "ในการเทรดแต่ละครั้ง ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทั้งหมด" แต่ในความเป็นจริง เรากลับได้ยินคำว่า "จงคำนวณว่าเงินในพอร์ทของเรา ใช้ maximum lot size ได้เท่าไร" Standard lot จริงๆคือ 100,000 USD ต่อ 1.00 Lot หากคุณลงทุนตามหลักการ นั่นหมายความว่าในการเข้าออเดอร์เทรดแต่ละครั้ง จุด stop loss ของคุณต้องห่างไม่เกิน 200 จุดสำหรับการลงทุน 1 standard lot เมื่อคุณมีเงินไม่ถึง 100K USD คุณต้องถามตัวเองว่า ในการเทรดครั้งนี้ "ฉันอยากเสี่ยงจำนวนเงินเท่าไร คิดเป็นกี่%ของพอร์ท" "จุด Target point ของฉัน ให้ Risk:Reward ratio เท่าไร" *โดยทั่วไป Risk:Reward ratio ขั้นต่ำ ควรจะเป็น 1:3 เป็นอย่างน้อย หมายความว่า หากคุณมี SL 200 จุด TP คุณต้องอย่างน้อย 600 จุด เห็นมั้ยครับ การใช้หลัก common sense ที่ถามตัวเองว่า การลงทุนครั้งนี้ อยากเสียเงินเท่าไร จะนำไปสู่การ manage เงินที่สำคัญคือ "จะใช้ Lot เท่าไรดี? การจะตอบคำถามนี้ได้นั้น 1. เราจะ "ซื้อ" หรือ "ขาย" เรากำลังเล่น "go with the trend" หรือเล่น "counter trend" เรากำลังตามเทร็นด์ใน Time frame ใหญ่ หรือสวนเทร็นด์ 2. เราต้องรู้ก่อนว่าจุด stop loss เราอยู่ตรงไหน จุด target point เราอยู่ตรงไหน การที่จะรู้ได้นั้น เราต้องรู้ว่า key level ที่ราคาของ asset ที่เราลงทุนจะกลับตัวที่จุดไหน โดยการหาจุดเหล่านี้มีหลายวิธี ไม่ว่าจะลาก Trend line, ใช้ Fibonacci, หรือนับ Elliot wave 3. เราต้องรอ "สัญญาณ" ตรงนี้สำคัญมากๆ ครับ ท่องไว้เลย "ไม่มีสัญญาณฉันจะไม่เข้า" Level ทั้งหลายที่เราหาได้จากเครื่องมือต่างๆ ไม่มีใครบอกได้ว่าถูกหรือผิด สิ่งที่่จะบอกได้ว่าถูกหรือผิด คือ สัญญาณการกลับตัว สัญญาณการกลับตัวสามารถหาได้จากเครื่องมือหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น indicator เช่น RSI divergence หรือ candlestick เช่น Pin bar หรือ reversal pattern เช่น Head and shoulder, diamond top and bottom etc. แต่สัญญาณทั้งหมดนี้จะเชื่อไม่ได้เลย หากไม่ได้เกิดบน "key level" ข้อนี้สำคัญมาก หากไม่ถึง key level ไม่ต้องมองหา divergence ครับ ไม่มีประโยชน์ สัญญาณที่จะให้จุด stop loss ของเรามีตั้งแต่ candle 1 แท่ง เช่น Pin bar หรือสัญญาณแบบกลุ่ม เช่น reversal pattern ตัวอย่าง 1. เมื่อเกิด Pin bar บนแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ โดยมีขนาดของแท่ง candle 200 จุด นั่นหมายความว่า หากคุณโชคดีพบสัญญาณการกลับตัวตอนกำลังเกิดพอดี คุณจะได้ตำแหน่ง stop loss ที่ 200 2. Pattern เช่น Head and shoulder จะมีจุด stop loss ตามทฤษฎี ซึ่งอยู่นอกเหนือscope ของโพสนี้ ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมครับ เมื่อคุณได้ 1. Trend จะซื้อหรือขาย 2. Level ราคามาถึงเลเวลที่คุณวิเคราะห์แล้ว 3. เกิดสัญญาณกลับตัวแล้ว ถึงจุดนี้ ถามตัวเองตามนี้ครับ "คุณอยากเสียเงินเท่าไรหากคุณวิเคราะห์ผิด" "จุด Target ของคุณคือเท่าไร คุ้มเสี่ยงมั้ย R:R เป็นเท่าไร" คำนวณ Lot size จากจุด SL ครับ ถามตัวเองบ่อยๆ "อยากเสียเงินเท่าไรหากวิเคราะห์ผิด" เรามาดูตัวอย่างกันครับ GBP/USD major forex pair ผมคำนวณหา key level ด้วยวิธี Fibonacci แล้วพบว่าแนวต้าน/รับที่แข็งแกร่งคือ 1.302 เมื่อราคาได้ทะลุลงมาใต้ 1.302 มันจะกลับไปเทส เพราะฉะนั้น Trend คือ ขาย จากภาพจะเห็นได้ว่า เมื่อราคาเข้าใกล้ 1.302 ได้มีการส่ง "signal" ในรูปแบบของ Pin bar อันเล็กๆ ที่มีความยาวประมาณ 170 จุด นี่คือ SL ครับ 170 จุด แนว target ที่ผมคำนวณได้มี 2 จุดคือแนว Fibonacci ขนาดกลางบริเวณ 1.292-1.290 และแนว Fibonacci ขนาดใหญ่ ที่ 1.286-7 หมายความว่า Pin bar signal ที่เกิดขึ้นบน Key level 1.302 มี SL 170 จุด โดยมี Target แรกที่ 1.292 (1000 จุด) และ Target ที่ 2 ที่ 1.287 (1500 จุด) SL ผม 170 จุด นั่นหมายความว่าการเทรดนี้ R:R อยู่ที่ 1:5 หรือ 1:7 สำหรับผม คุ้มเสี่ยงครับ ถ้าคุณมีเงิน 100k usd คุณเล่น 1 lot เสี่ยงเงิน 170 usd (0.17% ของพอร์ท) แรกกับโอกาสกำไร 1000 usd (1%) "คุณยอมเสี่ยงมั้ย?" มาดูกันต่อครับ ราคาได้มาทำการหยุดพักที่แนว Fibo เล็กๆที่ 1.292 ก่อนที่จะลงไปต่อที่แนวใหญ่ที่ผมคิดไว้ คือ 1.286-7 หากคุณเข้าเทรดครั้งนี้ คุณจะกำไรไปแล้ว 1-1.5% ด้วยการเสี่ยงเงิน 0.17% หลังจากนั้นราคาได้ทำการส่ง "สัญญาณ" กลับตัว ในรูปของ Bullish diver อันเล็กๆ (ผมเทรด MT4, บนมือถือผม มีสัญญาณ Bullish Pinbar อันใหญ่เกิดขึ้นที่ 4 hr ครับ) พร้อมทั้งทำ Bullish engulfing pattern เมื่อพิจาณาจากสัญญาณแล้ว ผมมีจุด SL ตรงนี้ 1-200 จุด หากผมคำนวณ target ด้วยวิธีต่างๆ แล้ว R:R มากกว่า 1:3 ผมก็จะเข้าเทรดครับ จะเห็นว่า หากเราทำการบ้าน หา key level มาดี เราเฝ้า "รอ" สัญญาณบน key level เราทำการบ้านวิเคราะห์ trend มาอย่างดี เราจะได้ตำแหน่งเข้าที่ดี มี R:R เหมาะสม "ไม่มี" คำว่าลาก แล้วเราจะไม่เครียด ไม่ต้องเพิ่มไม้โดยไม่จำเป็น เพราะการที่ปล่อยให้เกิดการ "ลาก" แสดงว่าคุณไม่ได้ทำการบ้าน ไม่มี level ในใจ ไม่มีจุดเข้าจุดออกก่อนซื้อขาย อยากดอย แนะนำไปดอยหุ้นครับ อย่ามาดอย Forex Trend-Level-Signal และ Target คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับ Money management ครับ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หากคุณใช้หลักการ Money management นี้ การออก order ของคุณจะลดลง และกำไรจะเพิ่มขึ้น แต่คนที่จะไม่แฮปปี้คือ Broker หรือ Introducing broker ของคุณครับ เพราะว่าหลักการหาเงินของคนพวกนี้คือ ทุกๆ order ที่คุณทำการวาง คนเหล่านี้จะได้ commission ครับ เช่น คุณวาง order 1.0 lot introducing broker คุณจะได้เงินไปทันที 1 usd ครับ หากคุณใช้หลักการบริหารเงินแบบที่ผมพูดมา คุณคิดว่าเดือนนึง คุณจะเหลือ order กี่ครั้ง คนพวกนี้จะได้เงินจากคุณมากน้อยแค่ไหน ทำไม copy trade หรือการ clone หรือ bot ทั้งหลายจึงออก order ให้ถี่ๆ คุณกำลัง "ถูกสูบเงิน" ครับ การจะอยู่รอดได้ต้องหาความรู้ และเท่าทันผู้ไม่หวังดีทั้งหลายในตลาดครับ ผมโดนมาหมดแล้ว อย่าทำพลาดแบบผมครับ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ของแถมก่อนจบโพสท์นี้ครับ ทำไมคุณถึงไม่ควรติด "ดอย" เรามักจะได้ยินคำว่า "คนรวยจะไม่ขายหุ้น เค้าจะซื้อหุ้นเพราะเค้าวิเคราะห์พื้นฐานของหุ้นนั้นมาดี ไม่มีวันล้ม เค้าจะเป็นเจ้าของบริษัท กินเงินปันผล เมื่อหุ้นลง เค้าก็จะซื้อเพิ่ม" สำหรับผม ผมจะถามกลับว่า "ตกลงรวยแล้วเลยมาลงทุน" หรือว่า "มาลงทุนเพราะอยากรวย" เอาดีๆครับ มันคนละเรื่องกัน คนรวยที่ฉลาดเค้าก็จะไม่ Buy and Hold หรอกครับ มีงานวิจัยตีพิมพ์ออกมาเยอะนะครับ ว่าการวิเคราะห์ตลาด ซื้อขายด้วยการวิเคราะห์ Sector rotation สามารถเอาชนะวิธี Buy and hold ได้ 3-5 เท่า การที่คุณยังไม่รวย แล้วมาลงทุน แปลว่า คุณอยากรวย หากคุณไม่มี stop loss ไม่ทำการบ้าน ไม่หาเลเวล สิ่งที่จะเกิดคือ "เงินจม" สิ่งเหล่านี้คือ "Opportunity cost" มันคือค่าเสียโอกาส แทนที่จะเอาเงินไปวางไว้ในจุดที่มันงอกเงย กลับต้องมาลุ้นว่าเมื่อไรราคาสินทรัพย์จะกลับมาจุดเท่าทุน ทำไมที่ปรึกษาทางการเงินของคุณถึงบอกว่า ให้ซื้อหุ้นทุกเดือน ถัวๆเฉลี่ยๆ เป็นการออม ไม่ใช่เลยครับ เค้าได้ค่า commission จากการซื้อขายทุกๆเดือนของคุณครับ ถ้าเจอ Financial advisor ไหนแนะนำแบบนี้ แนะนำให้เปลี่ยนครับ เค้าแคร์แค่เม็ดเงินที่เข้ากระเป็นเค้าเท่านั้นแหละครับ ถ้าอยากรู้ว่า Financial advisor ที่แนะนำให้ซื้อหุ้นทุกเดือนมีความสามารถแค่ไหน ให้ถามว่า "มีวุฒิ CMT มั้ยครับ" ถ้าไม่มี แนะนำให้ฟังหูไว้หูครับ Happy Trading/Investing ครับ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผมได้ทำวิดีโอแนะนำการใช้ Fibonacci คร่าวๆไว้ตามนี้ครับ ในอนาคตอาจมีการอัพเดทได้ หากไม่อยากพลาดรบกวนกดติดตามครับ Fibonacci part 1 Fibonacci part 2 ตัวอย่างการวิเคราะห์ Trend ด้วย Elliot และ Fibonacci การศึกษาโดย UNRPP111148
GBP/JPY : สัญญาณการเทรดอยู่ในทิศทางขาลงระยะสั้นGBP/JPY : สัญญาณการเทรดอยู่ในทิศทางขาลงระยะสั้น คำแนะนำทางด้านการเทรด: สกุลเงินปอนด์ในตอนนี้ยังมีความผันผวนที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการ Brexit ที่ยังคงไม่ มีความชัดเจนและยังไม่มีมุมมองทิศทางที่จะมีความเป็นไปได้ในการเจรจาให้เสร็จสิ้นดังนั้นสกุลเงินปอนด์ยังคงมีการทยอยอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าสกุลเงินเยน ยังมีทิศทางผันผวนตามปัจจัยหนุนที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดหุ้น Nikkei ฟิวเจอร์โดยที่ตลาดหุ้น Nikkei ฟิวเจอร์ยังคงผันผวนกับทุกตลาดที่เป็นตลาดฟิวเจอร์ที่ตอบรับเกี่ยวเนื่องกับสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่เป็นปัจจัยหลักซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยังคงเป็นปัจจัยของทางฝั่งสหรัฐที่ยังคงเจรจาไม่ชัดเจนเช่นเดียวกัน โดยสัญญาณการเทรดของคู่สกุลเงินนี้ยังอยู่ในทิศทางขา Sell สัญญาณการเทรดขา Sell : ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงตำแหน่งแรกก็คือ 145.298 ตำแหน่งนี้นักลงทุนตลาดเงินต่างมีมุมมองทิศทางที่ต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งแรกที่มีความเสี่ยงที่จะสามารถทะลุลงได้ในระยะสั้นซึ่งถ้าสามารถทะลุลงไปได้ ตำแหน่งที่สองที่ควรที่จะต้องตัดทำกำไรก็คือ 144.937 แน่นอนว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่แข็งแกร่งอีกหนึ่งตำแหน่งโดยที่ถ้าทะลุลงไปตำแหน่งสุดท้ายก็คือ 144.750 ถ้ามีการดีดตัวขึ้นตำแหน่งที่จะต้องคอยติดตามก็คือ 145.640 แนะนำต้องคอยติดตามดูอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถดีดตัวขึ้นไปได้หรือไม่ซึ่งถ้าดีดตัวขึ้นไปได้ตำแหน่งที่จะต้องตัดขาดทุนตำแหน่งที่สองก็คือ 146.412 แนะนำว่าตำแหน่งนี้ควรเป็นตำแหน่งที่จะต้องตัดขาดทุนทั้งหมดหรือเรียกว่าลดความเสี่ยงในการตัดขาดทุนเนื่องจากถ้ามีการดีดตัวขึ้นจะไปถึงตำแหน่งที่สามก็คือ 146.893 สัญญาณการเทรดขา Buy : ถ้ามีการปรับตัวดีตัวขึ้นตำแหน่งที่จะต้องตัดทำกำไรทั้งหมดก็คือ 146.412 ซึ่งตำแหน่งนี้นักลงทุนตลาดเงินคาดว่าอาจจะอยู่ในทิศทางพักตัวเนื่องจากตลาดหุ้น Nikkei ฟิวเจอร์อาจจะมีมุมมองทิศทางที่ร่วงต่อในทิศทางก็ยะสั้น แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงตำแหน่งที่จะต้องตัดขาดทุนทั้งหมดก็คือ 144.937 โดยที่ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่นักลงทุนคาดว่าถ้าทะลุลงไปได้อาจจะอยู่ในทิศทางขาลงระยะสั้นถึงระยะกลางทันที ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของคู่สกุลเงินนี้ยังมีทิศทางของการเจรจาเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการ Brexit ที่จะต้องติดตามในช่วงสัปดาห์นี้เพราะสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่มีมุมมองชัดเจนของการเจรจาระหว่างเยอรมนีฝรั่งเศสและอังกฤษที่จะต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิดในรอบนี้ลดลงโดย Purich0
GBPJPYGJ หลายๆวันมานี้วิ่งแปลกๆ ว่ิงแล้วหยุด ว่ิงแล้วหยุดเป็นพักๆ ตอนนี้กำลังทำเป็นสามเหลี่ยมรอเลือกทาง ส่วนตัวคือผมอยากบายนะ แต่ดูหน้างานละเล่นเ break out ดีกว่าโดย phoom151
GBPJPY 3 APR 2019คู่นี้เป็น pattern แบบแนวต้าน โดยรูปแบบราคาจาก timeframe 4 ชั่วโมง มีแนวโน้มจะขึ้นไปทดสอบที่แนวต้าน มีจุดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 148.31 มีจุดตัดขาดทุนควรต่ำกว่าแนวรับที่บริเวณ 145.00เพิ่มขึ้นโดย investorresource0
GBP/JPY : จะสามารถกลับตัวได้หรือไม่GBP/JPY : จะสามารถกลับตัวได้หรือไม่ คำแนะนำทางด้านการเทรด: สกุลเงินปอนด์เทียบกับสกุลเงินเยน ในตอนนี้ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นซึ่งทะลุในเทรนด์ขาขึ้นไปเรียบร้อยแล้วต้องรอดูว่าจะสามารถดีดตัวขึ้นได้หรือไม่ โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากสกุลเงินปอนด์ที่มีปัจจัยหนุนมาจากมีการส่งสัญญาณที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการ Brexit ที่ในวันสองวันนี้อาจจะมีการโหวตที่เกี่ยวเนื่องกับการ Deal จึงทำให้สกุลเงินปอนด์มีการแข็งค่าประกอบกับในส่วนของตลาดหุ้น Nikkei ฟิวเจอร์ที่มีการดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการส่งสัญญาณของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ได้มีการต้องการเจรจากับประเทศจีนในเร็ววันนี้จึงทำให้มีการดีดตัวขึ้นดังกล่าว ถ้าสามารถดีดตัวขึ้นไปได้แนวต้านที่สำคัญแรกในตอนนี้ที่อยู่ในแนวต้านก็คืน 146.355 แนวต้านที่สองก็คือ 1467996 และแนวต้านสุดท้ายอีกสองแนวต้านก็คือแนวต้านที่ 147.657 และ 147.993 ซึ่งถ้าสามารถทะลุแนวต้านนี้ขึ้นไปได้จะอยู่ในทิศทางขาขึ้นระยะกลางทันที แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับที่หนึ่งก็คือ 145.236 แนวรับที่สองและที่สามก็คือ 145.068 เป็นแนวรับที่สอง 144.768 เป็นแนวรับที่สามและแนวรับสุดท้ายที่นักลงทุนตลาดเงินต่างจับตามองก็คือ 144.514 ซึ่งเป็นแนวรับที่จะต้องติดตามในวันนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: ในช่วงวันสองวันนี้จะมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษไม่ว่าจะเป็นการโหวตในหัวข้อต่างๆที่จะมีการโหวตสำหรับในรัฐสภาอังกฤษรวมทั้งในส่วนของการตอบรับไม่ว่าจะเป็นทั้งของสหภาพยุโรปและในส่วนของรัฐสภาอังกฤษที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่จะต้องคอยติดตามในช่วงวันสองวันนี้เพิ่มขึ้นโดย Purich0
GBPJPYราคาติดแนวด้านใหญ่ ทำตัว Sideway อยู่สักพักแล้ว Sell ได้เปรียบกว่าครับ ข้อเสียคืออ่าจจะต้องอดทนถือหน่อยโดย phoom151
GBP/JPY divergenceเกิด divergence ในกราฟราคา กับ RSI และ AO มีแนวโน้มกลับตัว และมองแนวต้านที่ 147.000 และถ้าหากผ่านแนวต้าน 147.000 ก็น่าจะลงไปถึง 145.000 โดย fooldog0
GBPJPYราคาเบรค H เดิมไปแล้ว ทำทรงเป็นกรอบใหม่ เทรดตามกรอบเลยครับ บายแท่งแดง เซลแท่งเขียว ตามแนวที่อยู่นรูปโดย phoom151
gbpjpyเมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาสามารถปิดเป็นแท่งเทียนกลับตัวได้ สัปดาห์นี้มีแนวโน้มวิ่งขึ้นต่อ ถ้าราคาทะลุเส้นแนวโน้มได้ ราคาจะลงมาพักตัวบริเวณแนวรับ ก่อนจะ Buy ก็รอสัญญาณแท่งเทียนกลับตัวเพื่อ Buyเพิ่มขึ้นโดย tradingwithtoptrader0