ค่า Swap ในการเทรด Forex คืออะไร? และวิธีคำนวณค่า Swap ในการเทรด Forex: คืออะไรและทำงานอย่างไร
ในโลกของการเทรด Forex มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเทรดของนักลงทุน หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่นักเทรดควรรู้คือ ค่า Swap ซึ่งอาจส่งผลต่อกำไรหรือขาดทุนของการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ
ค่า Swap คืออะไร?
ค่า Swap (หรือบางครั้งเรียกว่า ค่า Roll-over) เป็นค่าธรรมเนียมที่คิดเมื่อผู้เทรดยังคงเปิดออเดอร์ข้ามคืน (overnight) โดย Swap จะเกิดขึ้นจากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินในคู่เงินที่เราเทรด เช่น หากคุณเทรดคู่เงิน EUR/USD และอัตราดอกเบี้ยของ EUR ต่างจาก USD ความแตกต่างนี้จะส่งผลให้เกิดการจ่ายหรือได้รับค่า Swap ตามเงื่อนไขของตลาดและโบรกเกอร์
ทำไมจึงเกิดค่า Swap?
ในแต่ละสกุลเงิน จะมีอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางของประเทศนั้น ๆ เมื่อเราทำการซื้อขายคู่เงิน (Currency Pair) หมายความว่าเรากำลังยืมเงินสกุลหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับอีกสกุลเงินหนึ่ง อัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ยืมและที่ถือครองจึงมีผลในการคำนวณค่า Swap
ตัวอย่างเช่น:
หากคุณซื้อคู่เงิน EUR/USD หมายความว่าคุณซื้อ EUR และขาย USD
หากอัตราดอกเบี้ยของ EUR สูงกว่า USD คุณอาจได้รับค่า Swap เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน
แต่หากอัตราดอกเบี้ยของ EUR ต่ำกว่า USD คุณจะต้องจ่ายค่า Swap
ประเภทของค่า Swap
ค่า Swap มีสองประเภทหลัก:
1.Positive Swap (ค่า Swap บวก) – เป็นการได้รับค่า Swap เมื่ออัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ซื้อสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ขาย
2.Negative Swap (ค่า Swap ลบ) – เป็นการจ่ายค่า Swap เมื่ออัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ขายสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ซื้อ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า Swap
อัตราดอกเบี้ย – อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของแต่ละประเทศเป็นตัวกำหนดหลัก
สถานการณ์ตลาด – บางครั้งความผันผวนของตลาดอาจส่งผลต่อค่า Swap
ประเภทบัญชีเทรด – โบรกเกอร์แต่ละแห่งอาจมีนโยบายค่า Swap ที่แตกต่างกัน
ปริมาณการเทรด – ปริมาณที่คุณเปิดออเดอร์อยู่จะมีผลต่อค่า Swap ที่ต้องจ่ายหรือได้รับ
วันที่ Roll-over – บางช่วงเวลา เช่น การปิดตลาดวันหยุด ค่า Swap อาจถูกคำนวณเป็นหลายเท่าของวันปกติ
การคำนวณค่า Swap
การคำนวณค่า Swap ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่คุณใช้งาน โดยทั่วไป โบรกเกอร์จะคำนวณ Swap เป็นจุด (pip) หรือเป็นเปอร์เซ็นต์จากขนาดออเดอร์ที่เปิด โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดจากแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานได้
ค่า Swap ในการเทรด Forex: คืออะไรและทำงานอย่างไร
ในโลกของการเทรด Forex มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเทรดของนักลงทุน หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่นักเทรดควรรู้คือ ค่า Swap ซึ่งอาจส่งผลต่อกำไรหรือขาดทุนของการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ
ค่า Swap คืออะไร?
ค่า Swap (หรือบางครั้งเรียกว่า ค่า Roll-over) เป็นค่าธรรมเนียมที่คิดเมื่อผู้เทรดยังคงเปิดออเดอร์ข้ามคืน (overnight) โดย Swap จะเกิดขึ้นจากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินในคู่เงินที่เราเทรด เช่น หากคุณเทรดคู่เงิน EUR/USD และอัตราดอกเบี้ยของ EUR ต่างจาก USD ความแตกต่างนี้จะส่งผลให้เกิดการจ่ายหรือได้รับค่า Swap ตามเงื่อนไขของตลาดและโบรกเกอร์
ทำไมจึงเกิดค่า Swap?
ในแต่ละสกุลเงิน จะมีอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางของประเทศนั้น ๆ เมื่อเราทำการซื้อขายคู่เงิน (Currency Pair) หมายความว่าเรากำลังยืมเงินสกุลหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับอีกสกุลเงินหนึ่ง อัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ยืมและที่ถือครองจึงมีผลในการคำนวณค่า Swap
ตัวอย่างเช่น:
หากคุณซื้อคู่เงิน EUR/USD หมายความว่าคุณซื้อ EUR และขาย USD
หากอัตราดอกเบี้ยของ EUR สูงกว่า USD คุณอาจได้รับค่า Swap เมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน
แต่หากอัตราดอกเบี้ยของ EUR ต่ำกว่า USD คุณจะต้องจ่ายค่า Swap
ประเภทของค่า Swap
ค่า Swap มีสองประเภทหลัก:
Positive Swap (ค่า Swap บวก) – เป็นการได้รับค่า Swap เมื่ออัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ซื้อสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ขาย
Negative Swap (ค่า Swap ลบ) – เป็นการจ่ายค่า Swap เมื่ออัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ขายสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ซื้อ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า Swap
อัตราดอกเบี้ย – อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของแต่ละประเทศเป็นตัวกำหนดหลัก
สถานการณ์ตลาด – บางครั้งความผันผวนของตลาดอาจส่งผลต่อค่า Swap
ประเภทบัญชีเทรด – โบรกเกอร์แต่ละแห่งอาจมีนโยบายค่า Swap ที่แตกต่างกัน
ปริมาณการเทรด – ปริมาณที่คุณเปิดออเดอร์อยู่จะมีผลต่อค่า Swap ที่ต้องจ่ายหรือได้รับ
วันที่ Roll-over – บางช่วงเวลา เช่น การปิดตลาดวันหยุด ค่า Swap อาจถูกคำนวณเป็นหลายเท่าของวันปกติ
การคำนวณค่า Swap
การคำนวณค่า Swap ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่คุณใช้งาน โดยทั่วไป โบรกเกอร์จะคำนวณ Swap เป็นจุด (pip) หรือเป็นเปอร์เซ็นต์จากขนาดออเดอร์ที่เปิด โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดจากแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานได้
ตัวอย่างการคำนวณค่า Swap:
หากคุณเทรดคู่เงิน EUR/USD ขนาด 1 ล็อต (100,000 หน่วย)
อัตราดอกเบี้ย EUR คือ 0.5% และ USD คือ 2.5%
ค่า Swap จะถูกคำนวณจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยคูณกับขนาดออเดอร์ที่ถือครอง
การหลีกเลี่ยงค่า Swap
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจ่ายค่า Swap บางโบรกเกอร์มีบัญชีแบบ Swap-free หรือบัญชีที่ไม่มีการคิดค่า Swap ซึ่งบัญชีเหล่านี้มักถูกออกแบบสำหรับนักลงทุนที่มีความเชื่อทางศาสนา (เช่น ชาวมุสลิม) หรือผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงค่า Swap จากการถือออเดอร์ข้ามคืน
ข้อดีและข้อเสียของค่า Swap
ข้อดี:
หากคุณถือออเดอร์ข้ามคืนในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า คุณอาจได้รับผลประโยชน์จากค่า Swap บวก
ข้อเสีย:
ค่า Swap ลบอาจทำให้คุณเสียเงินเพิ่มเติมหากคุณถือออเดอร์ข้ามคืนในคู่เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า
สรุป
ค่า Swap เป็นองค์ประกอบสำคัญที่นักเทรดควรคำนึงถึงในการเปิดสถานะข้ามคืน การรู้จักและเข้าใจการคำนวณค่า Swap จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเทรดและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ