ฝึกอ่านกราฟใน m15 ก็ย่อมาจาก m30 ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยแต่อยากให้มาสังเกตการเดินทางของแท่งเทียนแล้วก็ไปหาคำตอบของตัวเองดูว่าในแท่งเทียนลักษณะอย่างนี้มันคืออะไรมันเป็นรูปแบบของแรลลี่เบรดแรลลี่หรือแรลลี่เบรด drop หรือจะเป็นรูปแบบของ collection flatหรือว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของขา 1 ของอีเลียดเวฟที่อยู่ในขาใดขาหนึ่งของทำเฟรมใหญ่ๆขาใดขาหนึ่งซึ่งย่อยลงไปในขาที่เล็กลงและมี elite wave เล็กๆของมันอีกในขาที่เล็กลงอีกพอเข้าใจไหมครับมันเยอะไปหมดแหละวิธีการเรียนรู้ อะไรต่างๆที่เราเคยสังเกตเคยไปอ่านมานั่นแหละครับ จบการวิเคราะที่M15พอนะครับM1M5ก็วิเคราะห์แบบเดียวกันนั้นแหละครับ
BTCUST.P ไอเดียในการเทรด
ฝึกอ่านกราฟm 30 ก็เช่นเดิมก็ย่อลงมาจาก h1 หาจุดเข้าที่แคบลงก็ตามในรูปเลยครับไม่มีอะไรมากก็ตามนี้แหละฝึกเทรดของตัวเองก็ฝึกแบบนี้แหละไม่ได้มีอะไรพิเศษมากกว่านี้เลยก็เทคนิคเดิมๆจากที่คนอื่นเขามีช่องทางการศึกษามากมายใน google มีหมดเลยครับแต่ส่วนสำคัญคือการจับหลักจับประเด็นการเลือกเอามาศึกษาแล้วก็เรื่องของการมีสติสมาธิมีการทำสถิติมีความหนักแน่นในตัวเองในใจของตัวเองอยู่กับตัวเอง ถามตัวเองได้ต้องหาคำตอบให้ตัวเองด้วยจดคำถามลงสมุดเสมอไม่ใช่สักแต่ตั้งคำถามแล้วไม่หาคำตอบมันก็บ่งบอกความเป็นตัวตนของเราแล้วหนักแน่นในด้านใดก็คือการหนักแน่นในสิ่งที่ตัวเองร่ำเรียนมาไม่ไปโอนอ่อนผ่อนตามกับสิ่งที่ตัวเองเห็นอะไรใหม่ๆมันจะทำให้ตัวเองไม่สามารถจับหลักอะไรได้เลยวิธีการที่อธิบายไปนี่คือสิ่งที่ศึกษามานานมากแต่เอามาเล่าให้ฟังเพื่ออยากย่นระยะเวลาให้กับบางคนได้จับหลักคิดอะไรบางอย่างให้กับตัวเองเอาไปฝึกคิดฝึกใช้งานฝึกทำเพราะว่าสิ่งที่ตัวเองเคยสัมผัสมาได้ลองทำมาเนี่ยมันเสียเวลามากเสียเวลาเป็น 10 ปีทั้งตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดีแล้วมาโฟกัสอย่างเต็มที่ลึกๆที่ผ่านมาเพิ่งจะไม่ถึง 3 ปีนี้เองแต่ที่เสียเวลาไปอีก 7 ปีนั่นคืออะไรนั่นคือสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือสภาวะของคนที่ไม่มีหลักแหล่งไม่มีแก่นสารซึ่งไม่อยากให้ทุกคนเป็นแบบนั้นเลยอยากทำบทเรียนอะไรบางอย่างให้ใครที่มาเจอได้เห็นได้อ่านได้เกิดการเตือนสติอะไรบางอย่างให้กับคนๆนึงที่ได้เจอให้กับชีวิตพวกเขาได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตความรับผิดชอบของตัวเองขึ้นมาอยากให้พวกเขาได้คิดว่านี่คืออาชีพอาชีพหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เป็นอิสรภาพทางการเงินที่เกิดขึ้นได้จริงสามารถทำได้อาชีพที่ไม่จำเป็นต้องกินเงินเดือนแต่สามารถสร้างรายได้ได้จากการเทรดได้จริงซึ่งตัวเองเชื่อมั่นว่ามันทำได้จริงแต่ว่าวันนี้ก็ยังไม่สามารถทำได้นะครับก็บอกไว้ก่อนไม่ได้ว่าเก่งอะไรแต่เอาจากประสบการณ์ที่ตัวเองมีมาเอามาเล่าให้ฟังและก็มาบีบรัดกระชับบางอย่างให้มันชัดเจนเท่านั้นเป็นบทเรียน 1 เท่านั้นครับผม
ฝึกอ่านกราฟH1 ก็ไม่มีอะไรมากก็ย่อมาจากทำเป็น h4 นั่นแหละครับมุมมองของการเสพแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนอยากเทรดกรอบเล็กก็เศษในกรอบเล็กบางคนเศษกรอบใหญ่ก็เศษกรอบใหญ่รูปแบบการมองก็จะต้องแตกต่างกันไปกรอบเล็กจะไปหากรอบใหญ่ก็จะเจอจุดสนุ๊กของมันเสมอก่อนที่จะไปหากรอบใหญ่เพราะฉะนั้นการรันเทรนนั้นก็เหนื่อยเหมือนกันสำหรับคนจะเทรดรันเทรนบางทีมีกำไรแล้วไม่ปิดสุดท้ายก็ไปโดน SL หรือบางทีก็มีกำไร SL หน้าไม้สุดท้ายก็เอามาลง SL หน้าไม้สาเหตุมันก็ไปไม่มากหรอกครับมันก็คือชนจุดเด้งของมันนั่นแหละจุดเด้งก็คือจุดพักตัวเดิมนั่นแหละครับฝั่งซ้ายมีผลกับฝั่งขวาเสมอมีผลแบบไหนนั่นก็ต้องลองสังเกตดูฝั่งที่มันโดนทำลายไปแล้วของฝั่งซ้ายไม่สามารถนำมาใช้ได้กับฝั่งขวาแต่ฝั่งที่มันยังสดๆใหม่ๆอยู่มันก็ยังใช้ได้อยู่สังเกตดูแล้วกัน indicator มีหมดมีผลต่อการเทรดทั้งหมดนั่นแหละครับแต่เราจะมองตามรูปแบบ indicator หรือจะเอามาเป็นตัวตั้งตัวตีในการมองฝั่งตรงข้ามกับอินดิเคเตอร์ก็แล้วแต่ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับมุมมองของเราเลยลองสังเกตดูครับอันนี้ก็ย่อมาให้ละเอียดยับเลยจะได้เข้าใจคำว่ารูปแบบการวิเคราะห์ในส่วนตัวของตัวเองนะครับเป็นอย่างนี้ส่วนคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ไปฝึกเอาเองแล้วกันแต่ตัวเองแค่อยากจะมาเล่าให้ฟังอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆที่ได้เห็นได้อ่านข้อความได้เข้าใจว่าการตามกระแสข่าวอยากให้ใช้สติอย่าไปเชื่ออะไรมากเกินไปเพราะบางอย่างมันทำให้เราเสียสติอาจจะเป็นบ้าเลยก็ได้ประคองสติให้ดีครับ
เดี๋ยวจะย่อดูM30 กับM15ดูครับ
ฝึกอ่านกราฟมุมมอง h4 ย่อมาจาก time frame เดือนตัดทอนข้อความอื่นๆออกไปบ้างบางส่วนให้มันไม่ล็อกสายตาถ้าไม่เข้าใจจะงงว่ามาจากตรงไหนก็ต้องย้อนกลับไปดูแล้วกันครับสิ่งที่ผมย่อในทาง frame HD ผมอยากให้เห็นระยะการเทรดในแต่ละระยะมันมีจุดเข้าจุดออกของมันมุมมองของแต่ละคนจะมองคาดการณ์ที่แตกต่างกันสิ่งที่คาดการณ์ณวันนี้บางคนมองว่าภาพนี้น่าจะต้องขึ้นแต่บางคนบอกว่าภาพนี้ชนแนวต้านแล้วอาจจะดีดลงก็ได้นั่นคือมุมมองของภาพที่ตนเองสามารถจำและจดจำมันได้ว่าเป็นรูปแบบใดที่ตัวเองเคยได้เงินอินดิเคเตอร์ใดที่ตนเองเคยใส่แล้วทำแล้วได้เงินทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเองครับทำสถิติจดบันทึกการเทรดเดี๋ยวลองย่อในไทม์เฟรม h1 และ m15 ดูอีกทีนึงว่าจะเป็นรูปแบบไหนต่อไปแต่ณขณะนี้ที่เห็นใน h4 มันก็ลาดเอียงลงใช่ไหมครับมันก็คือลงนั่นล่ะครับแต่ในโรงมันก็มีขึ้นนะครับเห็นไหมช่วงก่อนหน้าราคาปัจจุบันมันน่าจะยังลงมามันก็มองลงเนาะแต่ละปัจจุบันนี้มันลาดเอียงขึ้นไปอ่ะมันก็ขึ้นไงแล้วเราจะเทรดยังไงล่ะเราเทรดได้ทั้ง 2 ทางเลยครับลองไปจับทางดู
ฝึกอ่านกราฟTF D นี้ก็ไม่มีอะไรมากก็ย่อจากเดือนที่วิเคราะห์ก่อนหน้าถ้าไม่เข้าใจก็ต้องย้อนกลับไปดูเส้นที่เห็นตอนนี้ก็ตามรูปเลยไม่ได้มีอะไรปรับเปลี่ยนมีแค่เพิ่มเติมข้อความกับเส้นที่เห็นที่แคบลงแค่นั้นเองทำเฟรมเดย์มันก็มีจุดเข้าของมันอย่างที่เห็นตอนแรกที่เราเห็นว่ามันมี 60,000 จุดตอนนี้มันก็เหลือแค่ 20,000 จุดเองคำถามต่อมาว่าเราจะเทรดอย่างไรล่ะมันก็ไปได้ทั้ง 2 ทางล่ะครับไม่ลงก็ขึ้นแค่นั้นเองอย่างมุมมองที่เรามองน่ะก็ทำให้ดู 2 มุมมองแล้วว่าเราจะเทรดอย่างไรบางคนจะเทรดบายก็มองอีกมุมนึงบางคนจะเทรดเซลล์ก็มองอีกมุมนึงสิ่งสำคัญมันคือรูปแบบเดิมๆนั่นแหละครับที่ตัวเองเข้าใจ อินดี้ ที่ตัวเองใช้แล้วมันเข้าใจก็เอามาใช้รูปแบบแท่งเทียนที่ตัวเองเข้าใจแบบไหนก็เอามาใช้ประมาณนั้นครับส่วนข่าวไม่รู้จะพูดยังไงน่าจะสำคัญก็ได้นะแต่ยังไม่เคยไปศึกษาก็คิดว่ามันเป็นเกมอ่ะครับสร้างเรื่องบางอย่างให้มันเกิดการขยับแท่งเทียนแค่นั้นเองแท่งเทียนก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างข่าวนั้นล่ะครับสุดท้ายมันก็จะจบที่ price action นั่นแหละครับสร้างเรื่องให้ไม่ดีให้เทียนก็ลงสร้างเรื่องให้ดีแท่งเทียนก็ขึ้นสร้างเรื่องให้เปลี่ยนโลกมันก็ขึ้นพุ่งสูงสุดๆ
ฝึกอ่านกราฟเริ่มต้นเดือนใหม่ก็มาดูกราฟกันใหม่อีกครั้งหนึ่งวิเคราะห์เดือนใหม่อีกครั้งหนึ่งช่วงนี้เห็นข่าว btc ออกมากันเหลือเกินว่าทำไมถึงลงสายเทรด forex ลงมาก็ดีก็เทรดเซลไปขึ้นไปก็ดีก็เทรดบายไป
ข่าวออกมามากเข้าคนก็แตกตื่นก็เทขายคนที่ดีใจก็คือคนเทรด forex ก็เซลล์ตามลงไปส่วนคนจะรอบายก็รอจังหวะ price action ในจุดที่พักตัวก็แค่นั้นก็เลยงงว่าทำไมทุกอย่างต้องสร้างความแตกตื่นอยู่เสมอๆในการวิเคราะห์ของเดือนมีนาคมนี้เราเห็นภาพรวมตรงนี้ตามที่เห็นเลยที่ขีดเขียนเลยตามนั้นเลยไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้วส่วนการจะเทรดนั้นก็คือการย่อลงไปในกรอบที่เราจะเทรดลงไปในทางเฟรมที่เล็กๆลงซึ่งณขณะนี้ในกรอบใหญ่ของเดือนมีให้เราเทรดได้ถึง 60,000 จุดแต่ถ้าเราย่อลงไปในทางเฟรมเดย์ไทม์เฟรม h4 h1 m 30 หรืออะไรก็ตามมันก็จะมีจุดเข้าของมันที่เล็กลงอีกฉะนั้นคำว่า 60,000 จุดไม่ใช่ว่าให้เรารอจังหวะเข้าที่ 60,000 จุดแต่เราสามารถหาจังหวะเข้าที่กรอบ 1000 จุด 2,000 จุด 3,000 จุดแต่เก็บแค่ 100 จุด 200 จุด 300 จุดถึง 500 จุด 600 จุดก็ได้มันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการตั้งโจทย์ของเราฉะนั้นเดี๋ยวเราจะลองย่อในการวิเคราะห์ชุดนี้ลงไปทีละ time frame ดูว่าเราจะควรเทรดอย่างไรดีเริ่มเลยครับ
ฝึกอ่านกราฟbtc อันนี้ก็ไม่มีอะไรมากผมก็ย่อมาจาก time frame ที่ผมตีให้ดูเมื่อสักครู่นี้คือถ้าใครมาเห็นภาพนี้แล้วอาจจะงงบอกเอ้ยมันมาจากไหนก็ต้องย้อนกลับไปดูในอดีตที่ผมวิเคราะห์เอาไว้แล้วสิ่งที่ผมทำภาพนี้ก็คืออยากจะให้เห็นไม่ได้ให้ดูแท่งเทียนอยากให้เห็นรูปภาพของกราฟคือบางคนน่ะมองเป็นภาพขาขึ้นมาจากไทม์เฟรมหลักแต่บางคนก็มองว่าตอนนี้มันลงแล้วมันก็คือสามารถเซลล์ได้ซึ่งมันขึ้นอยู่กับรูปแบบของแต่ละคนเลยอ่ะครับว่ามันจะควรซื้อบายหรือเซลล์และมีจุดเข้าออเดอร์ให้เห็นอยู่แล้วว่ามีจากจุดที่มองอยู่ณขณะนี้มีทั้ง 8,000 จุดแล้วก็มี 15,000 จุด
ซึ่งทั้งหมดมันเป็นรูปแบบที่เราเคยได้เงินเราก็ต้องมองดูว่าจะเข้าด้วยแบบไหนใช้ piraction อะไรใช้ทำเฟรมอะไรในการเทรดใช้อินดิเคเตอร์อะไรในการใช้ในการช่วยเหลือในการมองของเราต่างๆพวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมดแต่ทุกอย่างก็อย่างที่เห็นคือ indicator ชอบสร้างขึ้นมาสร้างเงื่อนไขให้เราได้ทำตามเขากำหนดสุดท้ายเราก็จะโดนเขาหลอกเอามาใช้ได้ทั้งหมดแต่ใช้ได้บางส่วนใช้ได้แค่บางอย่างอย่ามองและเชื่ออะไรทั้งหมด
ฝึกอ่านกราฟก็ลองมาดู btc กันนิดนึงครับตัวนี้ผมก็วิเคราะห์แบบเดิมๆเลยตามที่ผมเคยแนะนำไปในกราฟอื่นๆแล้วกราฟถ้าเกิดไม่เข้าใจก็ลองไปหาดูแล้วกันว่าดูยังไงภาพที่ผมเห็นตอนนี้ก็เห็นตามนี้เลยเห็นแค่นี้เลยตามลูกศรที่ขีดที่เขียนนี่แหละแล้วคำถามต่อมาคือบางคนบอกว่าบายจะซื้อขาขึ้นคุณก็ต้องรอจังหวะที่มันจะต้องย่อแล้วก็บายส่วนคนที่มองขาลงก็คือเซลล์ก็คือต้องรอจังหวะที่มันยกแล้วก็เซลล์ก็แค่นั้นเอง
คำถามต่อมาว่าคุณจะเซลล์เมื่อไหร่จะบายเมื่อไหร่ข้างในมันมีกรอบให้เราเทรดถึง 58,000 จุด
ฉะนั้นคุณต้องไปหาจังหวะในการเข้าซื้อขายของมันเองในแต่ละจุดของมันเองว่าคุณจะเก็บออเดอร์กี่จุดเพราะว่ามันมีถึง 58,000 จุด
ซึ่งคุณไม่สามารถเก็บได้ทั้งหมดหรอกอาจจะเก็บอย่างเก่งได้ก็ไม่เกิน 100-200 จุดถึง 300 จุด 500 จุดหรือ 1,000 จุด 2,000 จุดก็แล้วแต่ความสามารถของคุณเองนั่นเองครับ
คือทั้งหมดที่ทำให้ดูน่ะมันก็แค่หลักทั่วไปของกราฟบนโลกใบนี้มันก็หลอกลวงเราหมดนั่นแหละครับ
มันหลอกให้เราเข้าซึ่งถ้าเราไปเข้า order by ตอนนี้จริงๆมันก็ขึ้นแหละแต่มันก็ลากลงไปให้เราขาดทุนอยู่ดีแหละ
มันต้องหารูปแบบเดิมๆที่เราเคยเข้าแล้วได้เงินนะครับอย่าลืมตรงนั้นสำคัญมากซึ่งตอนนี้ถ้ามองดูเนี่ยมันสามารถบายได้นะแต่อาจจะโดนลากก็ได้
เพราะฉะนั้นบางคนอาจจะมองเซลล์ก่อนแล้วค่อยบายก็ได้
นั่นแหละครับมันคือวิธีการมองข้างในกรอบเล็กๆของมันมันมีพฤติกรรมคนละแบบกับทำเฟรมใหญ่นะครับต้องไปลองสังเกตดูครับ
BTC Moon's Signal 18/01/2025 มีสัญญาณ"ซื้อ"รอบใหม่ปรากฏแล้ว!!!BTC ราคาได้ดีดตัวขึ้นเหนือแนวต้านสำคัญที่ 102724.38 แสดงสัญญาณ”ซื้อ”รอบใหม่!!
ควรหาจังหวะเข้าซื้อในกรอบราคา 89256.69 - 102724.38
สัญญานซื้อปรากฏเมื่อราคาเหนือแนวต้านสำคัญที่ 102724.38 🔵
ควรตัดขาดทุนเมื่อราคาต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 89256.69 🟠
ฝึกอ่านกราฟตัวนี้ก็วิเคราะห์จากทางเฟรมที่เราวิเคราะห์ภาพรวมใหญ่ก่อนหน้านี้แล้วก็บีบกรอบให้มันเล็กลงหาจุดเช่าให้มันเล็กลงแค่นั้นเองอย่างที่บอกนะครับว่ามันสามารถซื้อได้ทั้งบ่ายและก็เซลล์ล่ะครับมันขึ้นอยู่กับมุมมองของเราว่าเราจะเข้าเทรดแบบไหนถ้าเราเข้าเทรดในทำเฟรมที่เล็กอ่ะบางทีมันอาจจะไม่ใช้ side way มันอาจจะเป็นเทรนด์อาจจะเป็นเทรนด์ขาขึ้นอาจจะเป็นเทรนด์ขาลงแล้วรูปแบบของแท่งเทียนขาขึ้นขาลงจะต้องทำ price action อะไร indicator จะบอกเราแบบไหนทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการเลือก time frame แต่ทุกๆทางเฟรมมันจะไปเป็นส่วนหนึ่งของอีกทางเฟรมใหญ่ๆเพราะฉะนั้นถ้าเราหลงประเด็นมากเกินจนมันไปชนจุดสำคัญของทำเป็นใหญ่ๆมันอาจจะบีบตัวกลับมันก็คือการปรับตัวในทำเฟรมที่เล็กๆ
ฝึกอ่านกราฟตัวนี้ก็เป็นการวิเคราะห์แบบเดิมๆคล้ายๆกับที่เคยวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ในคู่เงินอื่นๆในรูปแบบเดิมๆมุมมองแต่ละมุมมองมันสามารถขีดเขียนอะไรได้ตามที่ตาเห็นเลยไม่มีผิดไม่มีถูกสิ่งที่สำคัญคือมันจะมองหาจุดเข้ายังไงนั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเขียนภาพขีดเขียนลงไปดักทางกราฟแล้วก็ดูพฤติกรรมมัน ตัวอย่างที่ลองเขียนดูนี้ลูกศรด้านขวาข้างบนข้างล่างผมลองทดลองตีสูงต่ำเป็นกรอบสี่เหลี่ยมให้ดูอย่างที่เห็นนี่แหละแล้วมองดูราคากราฟที่มันวิ่งอยู่ตรงกลางอย่างนี้แล้วสังเกตดูกราฟมันยกตัวขึ้นมันบีบตัวลงมันทำอะไรให้ราคาบายและเซลล์ที่แคบลงทำให้เราได้ราคาที่ไม่ดีแต่เราสามารถซื้อขายได้นะในกรอบอย่างที่เห็นคือมันบังคับทั้งเป็นเทรนขาลงบังคับเป็นเทรนขาขึ้นมันทำได้ทั้ง 2 ทางเลยฉะนั้นผู้ที่จะเทรดในกรอบตรงนี้ก็คือเทรดได้ทั้งบายและก็เซลล์ไม่มีผิดไม่มีถูกแต่ขึ้นอยู่กับ indicator ที่เราเอามาใส่หรือว่าเราจะอ่านค่ามันยังไงเหมือนเดิมครับเราจะมองค่าซึ่งตรงข้ามกับเจ้าตลาดเขาเซ็ตค่าเอาไว้ให้หรือจะมองค่าของ indicator เป็นฝั่งตรงข้ามกับเจ้าตลาดเราก็ต้องมองดูว่าเราจะเข้าแบบไหนไม่ให้เขาหลอกเราคือเขามีเครื่องมือให้เราอ่ะดีแต่ก็ต้องระวังโดนเขาหลอกใช่ไหมแต่ในที่นี้เรากำลังจะมองแค่ว่าเราจะเอาเครื่องมือเขามาใช้โดยที่ไม่ให้เขาหรอกอย่างไรนั่นคืออะไรครับการสร้างรูปแบบของตัวเองครับการบันทึกของตัวเองครับแท่งเทียนเป็นพฤติกรรมยังไงควรจะต้องเข้าตอนไหนรูปแบบของกราฟเป็นเทรนอย่างไรควรจะเข้าแค่ไหนเก็บ sltp อย่างไรในรูปแบบลักษณะนี้เก็บได้กี่จุดมันต้องมีการทำสถิติบันทึกการเทรดครับ
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปวันนี้ลองมองภาพแล้วก็เลยลองขีดๆเขียนๆดูลองทดลองใช้ indicator ตามที่โปรแกรมเขาเซ็ตไว้ให้เลยfiboที่ใช้งานมันมีอยู่แล้ว
Fib retracement แบบอัตโนมัติ
พอลองใส่เข้าไปสุดท้ายมันก็ตั้งค่าให้เราเลยไม่ต้องไปตีเองเลยก็ดีเหมือนกันส่วนเส้นสีแดงก็คือ moving average ค่ามาตรฐานเลยก็มองตามภาพที่เห็นนั่นแหละครับลองอ่านทำความเข้าใจดูครับ
แต่ถ้ามองแบบกราฟเปล่ามุมมองมันก็จะยังขัดแย้งกันกับอินดิเคเตอร์บ้างสรุปมันก็คือภาพจำที่เราเคยทำได้กับ indicator สัมพันธ์กันกับรูปแบบของแท่งเทียนหรือไม่และเป็นรูปแบบที่เราทำได้ประจำไหมแค่นั้นเองสรุปก็คือการเทรดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เราตั้งขึ้นมาลองทำดูแล้วกันครับส่วนปัจจุบันตอนนี้กราฟวิ่งลักษณะอย่างนี้ก็เป็นการบีบราคาให้ออเดอร์บายและเซลล์ที่แคบลงเรื่อยๆเราก็ไม่ควรเข้าก็แค่นั้นเอง
แต่ถ้าจะเข้ามันก็มีเงื่อนไขของมันอีกซึ่งเราก็ต้องไปเจาะลึกของมันอีกว่าในทางเฟรมที่เล็กๆน่ะมันมีอะไรให้เราเข้าได้บ้างแล้วเราจะยึดเหนี่ยวด้วย ทำเฟรมที่ใหญ่ๆเอามาอ้างอิงอะไรในทางเฟรมที่เล็กๆพอคลิ๊คอะไรบ้างไหมครับมันต้องลองจินตนาการดู
ออมแว่น//@version=5
indicator("BSF V.7.0.1", overlay=true)
// กำหนดตัวแปรต่าง ๆ
sma_length_short = 14
sma_length_long = 50
rsi_length = 14
lookback = 20
adxPeriod = 14
adxSmoothing = 14 // Smoothing period for ADX
// คำนวณค่า SMA และ RSI
sma_short = ta.sma(close, sma_length_short)
sma_long = ta.sma(close, sma_length_long)
rsi = ta.rsi(close, rsi_length)
// คำนวณ MACD
= ta.macd(close, 12, 26, 9)
// คำนวณ ATR
atr = ta.atr(14)
// คำนวณ Fibonacci Retracement
highestHigh = ta.highest(high, 50)
lowestLow = ta.lowest(low, 50)
fibRange = highestHigh - lowestLow
fibRetrace0 = fibRange != 0 ? lowestLow + 0.236 * fibRange : lowestLow
fibRetrace1 = fibRange != 0 ? lowestLow + 0.382 * fibRange : lowestLow
fibRetrace2 = fibRange != 0 ? lowestLow + 0.618 * fibRange : lowestLow
fibRetrace3 = fibRange != 0 ? highestHigh : highestHigh
fibRetrace45 = fibRange != 0 ? lowestLow + 0.45 * fibRange : lowestLow
fibRetrace58 = fibRange != 0 ? lowestLow + 0.58 * fibRange : lowestLow
fibRetrace69 = fibRange != 0 ? lowestLow + 0.69 * fibRange : lowestLow
// คำนวณ Parabolic SAR
sar = ta.sar(0.02, 0.2, 0.2)
// คำนวณ ADX
= ta.dmi(adxPeriod, adxSmoothing)
// การตรวจสอบ Divergence ระหว่าง RSI และราคา
bullishDiv = rsi < 30 and close > ta.lowest(close, lookback)
bearishDiv = rsi > 70 and close < ta.highest(close, lookback)
// สัญญาณการ Breakout ของสามเหลี่ยม
highestHigh_lookback = ta.highest(high, lookback)
lowestLow_lookback = ta.lowest(low, lookback)
breakoutUp = close > highestHigh_lookback // Close is above the highest of the last `lookback` period
breakoutDown = close < lowestLow_lookback // Close is below the lowest of the last `lookback` period
// สัญญาณซื้อ/ขายหลัก
primaryBuySignal = close > fibRetrace2 and close > sma_short and rsi > 50 and close > sma_long and ta.crossover(macdLine, signalLine)
primarySellSignal = close < fibRetrace1 and close < sma_short and rsi < 50 and close < sma_long and ta.crossunder(macdLine, signalLine)
// กำหนดเส้น Buy และ Sell
buyLevel = lowestLow - 16
sellLevel = highestHigh + 16
// ตรวจสอบว่าเป็น Sideways หรือไม่ โดยดูจากความแตกต่างระหว่าง SMA สั้นและยาว
sidewaysCondition = math.abs(sma_short - sma_long) < atr // ใช้ ATR เป็นตัวบ่งชี้
trendColor = sidewaysCondition ? color.gray : (close > sma_short ? color.green : color.red) // กำหนดสี
// แสดงเส้น Buy และ Sell ด้วยความหนาและการเชื่อมต่อที่สวยงาม
plot(series=buyLevel, color=trendColor, linewidth=8, title="Buy Trend Line", style=plot.style_linebr)
plot(series=sellLevel, color=trendColor, linewidth=8, title="Sell Trend Line", style=plot.style_linebr)
// แสดงสัญญาณบนกราฟ
plotshape(series=primaryBuySignal, location=location.belowbar, color=color.green, style=shape.labelup, title="Confirmed Buy Signal", text="BUY")
plotshape(series=primarySellSignal, location=location.abovebar, color=color.red, style=shape.labeldown, title="Confirmed Sell Signal", text="SELL")
plotshape(series=breakoutUp, location=location.abovebar, color=color.green, style=shape.triangleup, title="Triangle Breakout Up", text="UP")
plotshape(series=breakoutDown, location=location.belowbar, color=color.red, style=shape.triangledown, title="Triangle Breakout Down", text="DOWN")
// แสดง Fibonacci Levels
plot(fibRetrace0, color=color.green, linewidth=1, title="Fib 23.6%")
plot(fibRetrace1, color=color.blue, linewidth=1, title="Fib 38.2%")
plot(fibRetrace2, color=color.orange, linewidth=1, title="Fib 61.8%")
plot(fibRetrace3, color=color.red, linewidth=1, title="Fib 100%")
plot(fibRetrace45, color=color.yellow, linewidth=1, title="Fib 45%")
plot(fibRetrace58, color=color.teal, linewidth=1, title="Fib 58%")
plot(fibRetrace69, color=color.purple, linewidth=1, title="Fib 69%")
// แสดง Parabolic SAR
plot(sar, color=color.purple, linewidth=2, style=plot.style_cross, title="Parabolic SAR")
// สัญญาณ Divergence
plotshape(series=bullishDiv, location=location.belowbar, color=color.green, style=shape.labelup, title="Bullish Divergence", text="Bull Div")
plotshape(series=bearishDiv, location=location.abovebar, color=color.red, style=shape.labeldown, title="Bearish Divergence", text="Bear Div")
// สัญญาณแจ้งเตือน
alertcondition(primaryBuySignal, title="Confirmed Buy Alert", message="Strong BUY Signal Confirmed")
alertcondition(primarySellSignal, title="Confirmed Sell Alert", message="Strong SELL Signal Confirmed")
alertcondition(breakoutUp, title="Triangle Breakout Up", message="Triangle Breakout Up Detected")
alertcondition(breakoutDown, title="Triangle Breakout Down", message="Triangle Breakout Down Detected")
alertcondition(bullishDiv, title="Bullish Divergence Detected", message="Bullish Divergence Pattern Detected")
alertcondition(bearishDiv, title="Bearish Divergence Detected", message="Bearish Divergence Pattern Detected")
// SC Pattern (Simple Custom Example)
scPatternBuy = close > ta.highest(high, lookback) and close > fibRetrace2
sc
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปผมลองทำภาพมาให้ดูครับตอนนี้ตัวเองเทรดBUYไปตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ปิดเลยขาดทุนอยู่ด้วยผมอยากลองดูว่าถ้าเข้าในลักษณะแบบนี้จะมีวธีการทำกำไรแบบใด
ลองไปสังเกตุกันดูแล้วกันนะครับจะลองใส่อินดี้ดูด้วยก็ได้แต่ขอบอกก่อนว่าอินดี้จะพยายามหาทุกวิธีการให้เราเข้าในช่วงราคาแย่ๆอย่างรูปแบบกราฟวันนี้ ลองสังเกตุดูนะครับ
เดี๋ยวผมจะลงใส่อินดี้ลงไปสักสองสามอย่างดูครับ
ฝึกอ่านกราฟแนวโน้มการ์ดก็ยังเป็นขาขึ้นแต่ได้ขึ้นก็ยังมีลงอยู่ในตัวของมันซึ่งขณะนี้ก็ดูเหมือนจะลงแล้วถ้าลงไปถึงตรงโซนสีเขียวก็มีโอกาสขึ้นเพราะฉะนั้นอินดิเคเตอร์หรือว่าสิ่งใดก็ตามที่ได้ร่ำเรียนมาต้องมองหาจุดเข้าของตัวเองให้เข้าใจว่าควรจะเข้าซื้ออย่างไรเพราะว่าณขณะนี้ช่วงกรอบราคาปัจจุบันเขาก็บีบตัวให้ได้ราคาที่แย่ลงเรื่อยๆไม่ว่าคนจะเข้าบายหรือคนที่จะเข้าเซลล์ก็มีโอกาสแพ้ด้วยกันทั้งคู่ถ้าในรูปแบบนี้ทุกคนก็จะเข้าใจว่านี่คือกำลังจะ break out สาย break out ก็จะรอการ break out แล้วก็ย่อตัวกลับตัวแล้วจึงเข้าเทรดสายอีเลียดเวฟก็ต้องมองดูแล้วว่าอยู่ในคลื่นเวฟที่เท่าไหร่โอเวอร์แลปหัวใดขาใด
สายฟิโบว์เน็กซี่มองบายมองsellก็ต้องดูแล้วว่าควรจะต้องเข้าที่ 0.382 0.236หรือไม่
สายแท่งเทียนก็ต้องดูสัญญาณของแท่งเทียนว่ามันเป็น PA อะไรควรจะเข้าแบบใดแล้วรูปแบบที่เราเคยเข้าได้มันต้องเป็นรูปแบบแบบไหนจังหวะการเข้าเทรดแต่ละคนไม่เหมือนกันเลยสักคน