BTCUSD : ระบบ ATR Breakout มีสัญญาณ "ซื้อ" (21/6/2023 )ระบบ ATR Breakout เป็นระบบที่ใช้การทะลุกรอบของ ATR ขึ้นข้างบน เพื่อเป็นสัญญาณซื้อ โดยระบบนี้จะค่อนข้างไวกว่าระบบอื่นๆ ที่ผมได้ใช้อยู่ แต่ก็แลกมาด้วย false signal ที่ค่อนข้างสูงกว่าระบบอื่นๆ เช่นกัน
โดยครั้งสุดท้ายที่ระบบนี้บอกให้ขายก็คือ วันที่ 21/4/2023 ที่ราคา 28300
และหลังจากขายแล้ว ราคาก็ลงไปหนักจนถึง 25k หรือลงไปราวๆ -11.6% นั่นเอง
แต่ก็นั่นแหละ สุดท้าย หลังจากแตะ 25k แล้ว ราคา BTC ก็ดีดแรงแบบงงๆ จนทำให้ระบบนี้เขียวอีกรอบในวันที่ 21/6/2023 ที่ราคา 28300 เหมือนเดิม.......
หลายๆ คนที่อ่านแล้วก็คงจะคิดในใจว่า "แล้วจะคัทตามระบบทำไม ถือๆ ไว้เดี๋ยวมันก็กลับมา"
ก็อยากจะบอกว่า มันก็มีเคสที่มันไม่กลับมาแถมลงต่ออีกยาวด้วยเช่นกัน
ใครคิดไม่ออกให้ลองไปถามคนที่ยอดดอยตอนปี 2021 ดู แล้วก็จะเข้าใจว่า ทำไม เราถึงต้องมีแผน คัทลอส ตามระบบครับ 555
BTC ATR = เขียว ( 21/6/2023 )
------------------
Entry : 28400+-
SL : 26100+- ( -8% )
Position Size = 12.5% ของพอร์ต ( Risk1% )
BTCUST.P ไอเดียในการเทรด
จุดเข้า Action ที่ดีสำหรับการ Buy BTCต่อจากบทวิเคราะห์ที่แล้ว (เมื่อ 1 เมษายน 2566) ผมประเมินไว้ว่า BTC จะมีขาขึ้นรอบใหญ่ แต่ก่อนขึ้นรอบใหญ่อาจมีย่อลงมาก่อน
ให้รอ Buy บริเวณ 23000-24000
บัดนี้ราคาได้เข้ามาใกล้ๆ บริเวณที่เรารอแล้ว ซึ่งจากราคาในช่วงนี้ ภาพรวมๆ เริ่มประเมินจุดเข้าได้แล้ว
ซึ่งในที่นี้ผมได้วัดจุดจาก Fibonacci รอบใหญ่และรอบเล็ก รวมถึงเส้น MA 200 TF D
จะได้ราคาเข้าจุด Buy แถวๆ 23800-24400
โดยได้ลากเส้นปะ ทั้ง MA ให้มาชนกับ Fibo เพื่อหาจุดร่วมของนักลงทุนผู้ใช้ Fibo และนักลงทุนผู้ใช้ MA ซึ่งทั้ง fibo และ MA ดังกล่าวเป็น TF D ซึ่งมีน้ำหนักการตัดสินใจค่อนข้างมาก
ทั้งนี้บทความนี้เป็นเพียงไอเดียหนึ่ง เป็นเพียงการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นการแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด ท่านใครมีความเห็นต่างแนะนำได้เสมอครับ
แนวทางสู่ภาวะถดถอย - มันคืออะไร?ภาวะถดถอยเป็นคำที่น่ากลัวสำหรับประเทศใด ๆ ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจหดตัว ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้แต่ธุรกิจต่างๆ ก็ปิดประตู แม้แต่บุคคลก็สามารถเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตาของเขาเอง:
1. คนตกงาน
2. การลงทุนสูญเสียมูลค่า
3. ธุรกิจขาดทุน
หมายเหตุ: ภาวะถดถอยเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรเศรษฐกิจ
หากคุณยังไม่ได้อ่านบทความนั้น คุณสามารถตรวจสอบแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยคืออะไร
การลดลงติดต่อกันสองไตรมาสของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศถือเป็นภาวะถดถอย ภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมาด้วยช่วงพีค แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะกินเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่เศรษฐกิจจะไม่ถึงจุดสูงสุดหลังจากสิ้นสุดการให้บริการไปหลายปี
ผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทาน - ความต้องการสินค้าลดลงเนื่องจากราคาแพง อุปทานจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในทางกลับกันอุปสงค์จะเริ่มลดลง นั่นทำให้เกิด "อุปทานส่วนเกิน" และจะนำไปสู่การลดลงของราคา
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่อาจสร้างความเจ็บปวดได้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทุกครั้งมีสาเหตุที่แตกต่างกัน แต่มีเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ภาวะซึมเศร้าคืออะไร - ภาวะถดถอยลึกซึ่งคงอยู่เป็นเวลานานนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าในที่สุด
ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย อัตราเงินเฟ้อจะลดลง
จะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างไร?
1. นโยบายการเงิน
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- ผ่อนคลายเชิงปริมาณ
- เงินเฮลิคอปเตอร์
2: นโยบายการคลัง
- ลดภาษี
- การใช้จ่ายภาครัฐที่สูงขึ้น
3: เป้าหมายเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
4: ความมั่นคงทางการเงิน
ว่างงาน :
เราทราบดีว่าบริษัทต่างๆ มีการขยายตัวที่ดี แต่มีคำกล่าวที่ว่า "สิ่งใดมากเกินไปก็ไม่มีประโยชน์"
ในช่วงพีค
บริษัทไม่สามารถหารายได้ส่วนเพิ่มถัดไปได้
บริษัทต่าง ๆ กำลังรับความเสี่ยงและหนี้สินมากขึ้นเพื่อรีเซ็ตการเติบโต
ไม่เพียงแต่บริษัทเท่านั้น แต่นักลงทุนและลูกหนี้ก็ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่นกัน
ทำไมการเลิกจ้างจึงเกิดขึ้น
หลังจากช่วงพีค บริษัทต่างๆ จะไม่สามารถหารายได้ส่วนเพิ่มถัดไปได้ ตอนนี้ธุรกิจไม่มีกำไรแล้ว Cบริษัทเริ่มลดต้นทุนเพื่อเข้าสู่ระบบที่ทำกำไรได้ ตัวอย่างเช่น - แรงงาน
ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ กำลังทำงานโดยมีพนักงานน้อยลง พนักงานน้อยลงต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มิฉะนั้นพวกเขาอาจถูกเลิกจ้างโดยบริษัทเช่นกัน คุณสามารถจินตนาการถึงภาระงานและความกดดัน
คุณอาจโต้แย้งว่าพวกเขาควรออกจากบริษัท! จริงหรือ พวกเราเพิ่งพูดถึงอัตราการจ้างงานที่ลดลง คุณจะได้งานอย่างไรเมื่อไม่มีงานทำ? ตอนนี้คุณเข้าใจแล้ว!
สมมติว่าผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อคนทั่วไป:
-*-เงื่อนไขที่ 1: เขาอาจถูกเลิกจ้าง
-*- เงื่อนไขที่ 2: บางทีเขาอาจถูกบังคับให้ทำงานนานขึ้น บริษัทไม่สามารถรักษาแนวโน้มเชิงบวกได้ พนักงานจำนวนน้อยลงกำลังทำงานมากขึ้นเนื่องจากการเลิกจ้างจำนวนมาก ค่าจ้างของเขาลดลงและเขาไม่มีรายได้ที่ใช้แล้วทิ้ง
ส่งผลให้อัตราการบริโภคลดลงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลง การชะลอตัวของเศรษฐกิจเกิดจากราคาที่ลดลงซึ่งทำให้กำไรลดลงส่งผลให้มีการลดงานมากขึ้น
สี่สาเหตุของภาวะถดถอย:
1. ภาวะช็อกทางเศรษฐกิจ
2. การสูญเสียผู้บริโภค
3. อัตราดอกเบี้ยสูง
4. ตลาดหุ้นตกกะทันหัน
1) Economic shocks - เมื่อเกิดภาวะช็อกจากภายนอกหรือเศรษฐกิจที่ประเทศเผชิญ ตัวอย่างเช่น โควิด-19,
2) ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค - การรับรู้เชิงลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจและบริษัทจากผู้บริโภคที่ไม่มั่นใจในอำนาจการใช้จ่าย แทนที่จะใช้จ่ายพวกเขาจะเลือกประหยัดเงิน เนื่องจากไม่มีการใช้จ่ายจึงไม่มีความต้องการสินค้าและบริการ การขาดการใช้จ่ายส่งผลให้ความต้องการซื้อสินค้าและบริการลดลง
3) อัตราดอกเบี้ยสูง - อัตราดอกเบี้ยสูงจะลดการใช้จ่าย เงินกู้มีราคาแพง น้อยคนนักที่จะปล่อยกู้ การใช้จ่ายของผู้บริโภค ยอดขายรถยนต์ และตลาดที่อยู่อาศัยจะได้รับผลกระทบ จะไม่มีความต้องการที่ดีหากไม่มีการให้ยืม จะมีการผลิตลดลง
4) ตลาดหุ้นพังกระทันหัน - หลีกเลี่ยงความไว้วางใจของผู้คนในตลาดหุ้น เป็นผลให้พวกเขาจำเงินได้และอารมณ์ทำให้พวกเขาคลั่งไคล้ นอกจากนี้ยังถือเป็นปัจจัยทางจิตวิทยา ส่งผลให้ผู้คนไม่ใช้เงินและจีดีพีจะลดลง
การใช้จ่ายของผู้บริโภค:
ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผู้บริโภคไม่มีรายได้เพิ่มเติมที่เรียกว่ารายได้ที่ใช้แล้วทิ้ง
ส่วนของการใช้จ่ายของผู้บริโภค
-- สินค้าคงทน - มีอายุการใช้งานมากกว่าหนึ่งปี
-- สินค้าไม่คงทน - มีอายุการใช้งานน้อยกว่าหนึ่งปี
-- บริการ - บัญชี กฎหมาย บริการนวด ฯลฯ
นักท่องสินค้าคงทนในช่วงเศรษฐกิจถดถอย สินค้าไม่คงทนสามารถพิสูจน์ภาวะถดถอยได้เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานในแต่ละวันไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอย
ลองยกตัวอย่างหุ้นสองตัว
ABC Food เทียบกับ ABC car
แต่คุณจะหยุดซื้ออาหารเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่? คุณจะลดการบริโภคยาสีฟัน ขนมปัง และนมหรือไม่?
คำตอบคือ "ไม่"
ผู้บริโภคซื้ออาหารในปริมาณเท่าๆ กันในช่วงเวลาที่ดีหรือไม่ดี ในทางกลับกัน ผู้บริโภคจะแลกหรือแลกซื้อรถก็ต่อเมื่อพวกเขาไม่ได้ทำงานเท่านั้น แต่ยังมองในแง่ดีเกี่ยวกับความปลอดภัยของงานและมั่นใจว่าจะได้รับโปรโมชั่น หรืองานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงกับนายจ้างรายอื่น และรายได้ที่ใช้แล้วทิ้งของผู้คนจะถูกดูดซับในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย
การใช้จ่ายของผู้บริโภคคือจุดสำคัญในการแทนที่ภาวะถดถอย
การขายรถยนต์:
อย่างที่เราคุยกัน มีคนไม่กี่คนที่ซื้อรถในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ยอดขายรถใหม่นับเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจ คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับสินเชื่อ 0% บริษัทอำนวยความสะดวกสินเชื่อ 0% เพื่อเพิ่มยอดขายรถยนต์ คนส่วนใหญ่ซ่อมรถหรือซื้อรถเก่าในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
คุณอาจเห็นการเติบโตของตลาดรถมือสองและยอดขายของบริษัทขายอะไหล่
ยอดขายบ้าน/ตลาดที่อยู่อาศัย:
ฉันมีคำถามตอนนี้!
สินทรัพย์ใดที่ใหญ่ที่สุดของคุณ? พวกคุณส่วนใหญ่จะพูดว่า my home!
ยอดขายบ้านใหม่เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ราคาบ้านยังส่งผลต่อความรู้สึกของผู้บริโภคที่มั่งคั่งอีกด้วย ราคาบ้านยิ่งสูง ยิ่งรวย และในทางกลับกัน เมื่อราคาบ้านสูงขึ้น ผู้บริโภครู้สึกว่าตนมีฐานะร่ำรวยและเต็มใจที่จะใช้จ่าย แต่เมื่อราคาบ้านลดลง การใช้จ่าย/การบริโภคก็ลดลง
หากราคาสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของคุณลดลง คุณไม่ใช้จ่ายและเศรษฐกิจต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว อัตราที่สูงขึ้นจะหยุดการเพิ่มราคาบ้านเพราะต้องจ่าย EMI มากขึ้น ธนาคารกลางลดอัตราในช่วงเศรษฐกิจถดถอย และอัตราตลาดที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเนื่องจากเงินกู้/อีเอ็มไอมีราคาถูก
อัตราดอกเบี้ย:
โดยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยจะลดลงในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ย เป็นเหตุให้เงินกู้มีราคาถูก
ประโยชน์ของการลดอัตราดอกเบี้ย -
- - เพิ่มขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัย
- - เพิ่มยอดขายสินค้าคงทน
- - เพิ่มการลงทุนทางธุรกิจ
- - พันธบัตรและอัตราดอกเบี้ยมีความสัมพันธ์แบบผกผัน ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมีแนวโน้มที่จะทำให้นักลงทุนสนใจพันธบัตรมากกว่าหุ้น ซึ่งสามารถดำเนินการได้ดีในภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- - ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย อัตราดอกเบี้ยถูกลงและธนาคารกำหนดเกณฑ์ในการขอสินเชื่อให้สูงขึ้น เพื่อให้ผู้คนสามารถเผชิญกับนามธรรมในขณะที่ให้กู้ยืมเงิน
ตลาดหุ้น:
ฉันต้องการชี้แจงว่าตลาดหุ้นไม่ใช่เศรษฐกิจ วัฏจักรเศรษฐกิจล้าหลังกว่าวัฏจักรตลาดและวัฏจักรความรู้สึก มันทำให้ฉันสบายใจในฐานะนักวิเคราะห์ทางเทคนิคและช่วงเวลาที่เศร้าใจในฐานะคนรักเศรษฐศาสตร์ บางครั้งก็อยู่ข้างหน้าและบางครั้งก็อยู่ข้างหลัง ภาวะถดถอย = ตลาดหมี
อุตสาหกรรมที่พิสูจน์ภาวะถดถอย:
* ลวดเย็บกระดาษของผู้บริโภค
* ความสุขที่มีความผิด
* ยูทิลิตี้
* ดูแลสุขภาพ
* เทคโนโลยีสารสนเทศ
* การศึกษา
ฉันจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอนาคต แต่สำหรับในตอนนี้ เราจะกลับไปที่ การวิเคราะห์ทางเทคนิค
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 08/06/2023มุมมองส่วนตัว คิดว่า btc ทำลายโครงสร้างขาลงใหญ่แล้วหล่ะ เพราะยก low ยก high ได้
ตอนนี้กำลังฟอร์มตัว ค่อย ๆ ขึ้น โดยจากภาพตอนนี้ราคาอยู่ในกรอบขาลงย่อย เพื่อมาทดสอบ แนวรับ (แนวต้านเดิม) ที่ราคาประมาณ 25,000 ซึ่งหากรับไม่อยู่ อาจ break กรอบลงมาที่ช่วงราคา 22,000-20,000
ส่วนจะขึ้นต่อได้ต้อง break กรอบขึ้นไปยืนเหนือราคาประมาณ 27,500 ให้ได้ก่อน
ซึ่งตอนนี้ต้องมาลุ้นใน tf day เพราะ แท่งเทียน ทำ price action bullish engulfing ที่บริเวณแนวรับสำคัญสำคัญแล้ว และยืนเหนือ ema 200 รอแท่งเขียวมา confirm ปิดเหนือ 27500 ให้ได้
** สรุป **
- ตอนนี้ ราคาวิ่งอยู่ในกรอบ side way down เพื่อความชัดเจนรอให้กราฟเลือกทางก่อนว่าจะ break บนหรือ break ล่าง เพราะตอนนี้เหมือนวิ่งอยู่ในกรอบ falling wedge ซึ่งตามหลักการมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรอตลาดเฉลยเองจะดีกว่า
BTC PERPETUAL CONTRACTเกิดการปล่อยไหลของราคา สังเกตจากค่า OI ที่ลดอย่างรวดเร็ว
ความเป็นไปได้ที่หนึ่ง ราคาลอยตัว หมายถึงราคาจะยังอยู่ในระดับเดิมไปในระยะหนึ่งรอจนกว่าจะมีสัญญานบางอย่างเกิดขึ้น แต่ต้องมี vol ที่ชัดเจนด้วย หาก vol ไม่ชัดเจนไปดูต่อที่ความเป็นไปได้ที่สอง
ความเป็นไปได้ที่สอง เกิดการช็อคของราคา ทำให้ราคาตงลงอย่างรวดเร็วและทันทีเนื่องจากไม่มีใครใส่สถานะ long เพิ่มเติมทำให้เกิดการเทขายทำกำไร
You have to choose.
[17/5/66] [BTCUSDT] รอขึ้นรถ 🚂🚀เหตุผลที่บริเวณราคา 25,000 น่าสนใจ มีดังนี้
แนวรับ 2 จุด
38.2% + 50% Fibonacci retracement
ณ จุดตัดสินใจ
TF ใหญ่ รอให้เกิด price action เก็บกำไรระยะยาว 😁😁
TF เล็ก รอให้เกิด price action หรือ chart patterns เก็บกำไรระยะสั้น 😁
ปล่อยผ่าน (Let it go) ถ้าทรงกราฟไม่ดี หรือ ราคามาไม่ถึง 😒
=============================================================
😉😉 เป็นการคาดการณ์ส่วนตัวเท่านั้น การลงทุนมีความเสี่ยง ควรวางแผนให้ดี
NOT Financial Advice 😉😉
=============================================================
Bitcoin BTC สามเหลี่ยมจากน้อยไปมากแบบสมมาตรBitcoin BTC สามเหลี่ยมขึ้นแบบสมมาตร จุดต่ำสุดรายวันเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ราคาด้านล่างเพิ่มขึ้น แนวโน้มสีเขียวคือเส้นแนวโน้มจุดต่ำ ตามกฎแนวโน้ม มันจะทะลุเส้นแนวโน้มสีแดง แล้วไปถึง ราคาสูงสุดใหม่ภายในสามเหลี่ยมเป็นช็อต จนกระทั่ง หากคุณทะลุเส้นแนวโน้มสีแดงด้านบนได้ คุณสามารถออกจากช่วงช็อตได้ โดยปกติแล้ว เทรนด์นี้จะทะลุผ่านและเพิ่มขึ้นในที่สุด
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 (ActionZone) มีสัญญาณ "ขาย" 10/5/2023ระบบ MACD ตัดศูนย์ หรือ ระบบ Action Zone บน TF Daily เป็นระบบตระกูล Trend Following ระบบหนึ่ง ที่ใช้ได้ผลดีกับ Bitcoin ในช่วงที่ผ่านมา
โดยระบบนี้จะค่อนข้างช้า กว่าจะมีสัญญาณซื้อหรือขาย ทำให้อาจจะต้องใช้อีกระบบหนึ่ง เช่น Trailing Stop หรือ แผนการขายเก็บกำไรบางส่วนเมื่อถึง Risk:Reward ที่ดี ( เช่น 1.5R ขึ้นไป ) มาซ้อนเอาไว้ เพื่อ lock กำไรบางส่วนไม่ให้คืนตลาดไปหนัก ตอนที่กราฟร่วงแรง
ระบบนี้ได้มีสัญญาณซื้อตั้งแต่วันที่ 17/3/2023 ที่ผ่านมา ตั้งแต่แถวๆ ราคา 25k
และได้มีสัญญาณขายในวันที่ 10/5/2023 รายละเอียดตามด้านล่าง เป็นเวลาถือ position ทั้งหมดเกือบสองเดือนครับ
BTC ActionZone = แดง ( 10/5/2023 )
------------------
Entry : 25000+-
Exit : 27600+- ( +10.4% )
Position Size = 9% ของพอร์ต ( Risk1% )
Realized Profit = 9% * 10.4% = 0.93% ของพอร์ต
ดังนั้น จากที่สามระบบใน TF Daily แดงไปหมดแล้ว ผมจึงพอสรุปกำไรของรอบ Swing Trade BTC ตามระบบได้ดังนี้ครับ
ระบบ ATR = มีกำไร 1.53% ของพอร์ต ที่ความเสี่ยง 1% ( 1.53R )
ระบบ Break High = มีกำไร 1.21% ของพอร์ต ที่ความเสี่ยง 1% ( 1.21R )
ระบบ MACD ตัดศูนย์(ActionZone) = มีกำไร 0.93% ของพอร์ต ที่ความเสี่ยง 1% ( 0.93R )
รวมกำไรทั้งหมด ของรอบ swing มี.ค. - พ.ค. 2023 = 1.53% + 1.21% + 0.93% = 3.67% ของพอร์ต ที่ความเสี่ยงรวม 3% ( 1.22R )
รวมกับกำไรของรอบเดือน ม.ค. - มี.ค. 2023 อีก 19.9% ทำให้ ณ ตอนนี้ การทำตามระบบ มี Realised Profit อยู่ที่ 19.9% + 3.67% = 23.57% ของพอร์ต ต่อความเสียง 3% ของแต่ละรอบ = 7.85R นั่นเอง
จริงๆ แล้ว รอบนี้ ก็คืนกำไรกันไปหนักพอสมควรครับ เพราะตอนที่ราคา BTC ทะลุ 30k ที่ 14/4/2023 เรามี Unrealized Profit รวมกับกำไรสะสมของรอบแรก อยู่ที่ราวๆ 30% ของพอร์ตเลยครับ พอจบรอบเหลือแค่ 23.57%
ก็คืนกำไรกันไปถึงราวๆ 70% ของกำไรกันเลยทีเดียว 555 แต่ระบบ Trend Following มันก็เป็นแบบนี้เสมอครับ ตอนสมัยรอบ ม.ค. ก็เคยได้กำไรสูงถึง 27% ของพอร์ต แต่ตอนหมดเดือน ก.พ. เหลือกำไรแค่ 20% เท่านั้นเอง
ถ้ามัวแต่มองการคืนกำไรก็คงเครียดจนไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
ปล. จริงๆ ยังเหลืออีกไม้นึงที่ยังไม่ออก คือ ระบบ Close Above EMA120D แต่เนื่องจากมันเป็นกึ่ง TF Weekly ผมก็เลยเก็บมันไว้ก่อน ค่อยมาสรุปอีกทีถ้ามันจบรอบนะครับ
BTCUSD : ระบบ Break High มีสัญญาณ "ขาย" 8/5/2023ระบบ Break High คือระบบที่จะดู Highest High ของราคาย้อนหลังไป 52 แท่ง เพื่อที่จะดูว่า เมื่อไหร่ราคามีการ break และปิดแท่งเหนือแนวนี้ ก็จะมีสัญญาณซื้อ
ส่วนสัญญาณขายจะใช้เส้น Moving Average 52 ( MA52 ) เป็นสัญญาณขาย เมื่อไหร่ที่ปิดแท่งต่ำกว่าเส้นนี้ก็จะมีสัญญาณขายนั่นเอง
ระบบนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบที่ช้าเทียบเท่ากับการเล่นกราฟ TF Weekly แต่เร็วกว่าหน่อยนึง ไม่ช้าเท่า TF Weekly โดยเฉพาะตอนขาย ที่ใช้เส้น MA52 มาเป็น trailing stop ขึ้นไปนั่นเองครับ
ข้อดีของระบบนี้คือ ถ้าตลาดเป็นเทรนขาลงนานๆ ยาวๆ เราก็จะนั่งเฉยๆ กันได้ยาวๆ ไม่เสียตัง เหมือนตอนปี 2022
แต่ก็มีข้อเสียคือ บางทีกว่าจะเข้าก็ค่อนข้างช้า เพราะต้องรอให้ทะลุ high 52 แท่งย้อนหลัง ระหว่างนั้นก็ต้องนั่งดูเฉยๆ ไม่ทำอะไรเช่นกัน
วันนี้ ระบบนี้ก็มีสัญญาณขายในกราฟของ BTC กันแล้วครับ หลังจากให้ซื้อและถือมาตั้งแต่ 17 มี.ค. 2023 รวมแล้วก็เกือบๆ สองเดือน รายละเอียดก็ตามด้านล่างครับ
BTC BreakHigh = แดง ( 8/5/2023 )
------------------
Entry : 25000+-
Exit : 28380+- ( +13.52% )
Position Size = 9% ของพอร์ต ( Risk1% )
Realized Profit = 9% * 13.5% = 1.21% ของพอร์ต
ช่วงนี้ ตลาดยาก และแช่ เป็นส่วนใหญ่ บางตลาดก็แย่ด้วยซ้ำ เช่นตลาดไทยบ้านเรา การที่เรายังสามารถ lock กำไรได้บ้าง ก็ถือว่า โอเคอยู่ครับ
จริงๆ ถ้าเรามีการขาย lock กำไรออกไปบ้างบางส่วนตอน BTC ทะลุ 30k ที่แถวๆ 2R เราก็จะได้กำไรมากกว่านี้ครับ
แต่จุดประสงค์ของบทความนี้ก็คือ อยากจะทำให้ดูกันแบบจริงๆ จังๆ ว่า ถ้าทำตามระบบแบบเป๊ะๆ เลย เราจะมีกำไร/ขาดทุน เท่าไหร่
เพราะจากที่ดูกูรูมาหลายคน ส่วนใหญ่มีแต่วิเคราะห์+โชว์กำไรกันอย่างเดียว แต่แทบไม่เคยเห็นใครมานั่งทำสรุปแบบนี้เลยครับ
ปล. ใครจะเอาระบบนี้ไปใช้กับสินทรัพย์ใดๆ ขอให้ backtest จนมั่นใจก่อนนะครับว่า มันใช้งานได้จริง มีกำไรจริงในระยะยาว เพราะบางสินทรัพย์มันก็ใช้ไม่ได้นะครับ อย่ามั่วกันเน้อ
BTC ย่อพักตัวขาขึ้นรอบใหม่ 25000 - 27000อัพเดทสถานการณ์ Bitcoin: คาดการณ์การรีบาวด์ทางเทคนิค ปัจจัยเสี่ยงใกล้เข้ามา
Bitcoin ร่วงลงอย่างรวดเร็วระหว่างวันพุธและวันศุกร์ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่วันหยุดสุดสัปดาห์เป็นโอกาสสำหรับสกุลเงินดิจิตอลที่จะทรงตัว และแบคกราวด์ของกราฟยังไม่ได้ตัดการรีบาวด์ของสัปดาห์นี้หากว่าปัจจัยจากตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคไม่ส่งผลกระทบ จำได้ว่าหลังจากที่เหรียญแตะจุดสูงสุดที่ 30,470 ดอลลาร์ในวันพุธ BTC/USD ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 27,190 ดอลลาร์ในวันศุกร์ โดยลดลงประมาณ 10.7%
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
32000 แนวต้าน
29500 แนวต้าน
28500แนวต้าน
27000 แนวรับ
25000 แนวรับ
22500 แนวรับ
20500 แนวรับ
1. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 27000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ซื้อ BUY) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 28500 หรือตามแนวรับต้าน
2. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 27000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ขาย SELL) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 23500 หรือตามแนวรับต้าน
BTCUSD : ระบบ ATR Trend Following มีสัญญาณ "ขาย" 21/4/2023ระบบ ATR Trend Following คือการใช้กรอบของ ATR มาสร้าง trade setup ซึ่งผล backtest ที่ได้ก็สามารถทำกำไรได้พอสมควรครับ
หรือบางคนอาจจะใช้ ATR ในการ lock กำไรบางส่วน ของระบบ Trend Following ที่ lag มากๆ อย่างระบบ MACD ตัดศูนย์ หรือ Action Zone ก็ได้ครับ
โดยในวันนี้ 21/4/2023 ระบบ นี้ก็มีสัญญาณขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำไรสุทธิ ประมาณ 1.5% ของพอร์ตครับ ( ตามรายละเอียดการเข้าด้านล่าง )
BTC ATR = เขียว ( 14/3/2023 )
------------------
Entry : 24100+-
SL : 21500 ( -10.7% )
Position Size = 9% ของพอร์ต ( Risk1% )
BTC ATR = แดง ( 21/4/2023 )
------------------
Entry : 24100+-
Exit : 28241+- ( +17% )
Position Size = 9% ของพอร์ต ( Risk1% )
Realized Profit = 9% * 17% = 1.53% ของพอร์ต
ความเห็นเพิ่มเติม : สำหรับ price action ของ BTC ในรอบนี้ ถือว่า "กวนตริม" ใช้ได้เลยครับ เพราะลากกันขึ้นไปซะสูง แล้วพอทุบ ก็ทุบตู้มๆๆๆ ลงมาพรวดเดียวหลุด ATR เลย
ซึ่งถามว่า ก่อนหน้านี้เคยมี PA แบบนี้ไหม? ก็คงตอบได้ว่า "โอ้ย มีออกบ่อย" ครับ ถ้าใครผ่านช่วงปี 2018 มาจะรู้ดี ลากๆ ขึ้นแบบนี้ คนมีความหวัง สักพัก พรวด ลงต่อ ไปทดสอบ low 6k อีกรอบ แล้วก็ทำแบบนี้อยู่ตลอดทั้งปี 2018 จนคนท้อกันหมด 555
รอบนี้ ผมก็เทรดตามระบบไป ระบบบอกว่า ทรงเสีย เราก็หนี เพราะไปดื้อก็ไม่ได้อะไร ตอดไปทีละนิดทีละหน่อย ค่อยๆ ปั้นพอร์ตไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็โตเองครับ
ดีกว่าได้มาแล้วก็คืนกำไรกลับให้ตลาดหมด
ฺBTC ออกข้างสร้างกรอบ จะขึ้นหรือไม่ หรือจะลงดี BTC ถ้าตามกราฟตอนนี้อาการเป็นค้างๆ จะขึ้นก็ไม่ขึ้นจะลงก็ไม่ลง ถ้าถามว่าสาเหตุที่ขึ้นแรงเพราะ break เส้นกดเทรนขึ้นมา (วงกลมสีแดงในแท่งเทียนราคา) แต่ก็ยังวิ่งไปไม่ถึงต้านด้านบน ในขณะที่ RSI มีค่าสูงขึ้น แต่ราคายังคงเดิม ทำให้มีความน่ากังวลว่า ราคาจะขึ้นเพื่อลงหรือไม่ อย่างไรก็ดี ยังใช้กรอบแนวเดิม ในการพิจารณาเข้า position
ตราบใดที่จะอยู่ในกรอบนี้ ราคาน่าจะยังคงออกข้างไปเรื่อยๆ แต่ เป้า Bullish ที่ตีไว้ควรระวัง หาก RSI มีค่าสูงเวลาเทมาอาจจะหลุดกรอบลงไปด้านล่างภายในทีเดียวได้เลย
ตอนนี้เล่นสั้นไปก่อนได้ รอระยะเวลาที่ Sto D ลงต่ำสุด น่าจะปลอดภัยในการซื้อมากกว่า ตราบใดที่ยังไม่หลุด 19600 ยังไม่เสียทรงขาขึ้นใน TFD หรือ ถ้าลงมาไม่หลุด 23000 ยังมีโอกาสขึ้นต่อ
ตอนนี้สาย Short อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะ เข้าแล้วอาจจะเด้งขึ้นตลอด หากราคาปิดต่ำกว่า 28066 ยังคงเป็นขาลงระยะสั้น ถ้า STO เต็มเมื่อไหร่ให้ออกก่อน ใน TF 4 เพราะ BTC ยังเทรนขึ้นอยู่ ถ้าเข้าแล้วไม่ take profit อาจจะโดนลากขึ้นมากินทุนได้ เน้นเล่นสั้นก่อน เมื่อ TF4 ทำ low ที่ใกล้ H ตอนนั้นค่อย run trend จะดีกว่า
หลังเหตุการณ์ Bank run พิมพ์เงิน ข่าว FED BTC ยังไงต่อดีตอนนี้ราคาอยู่ในกรอบ sideway ค่อนข้างกว้าง จะขึ้นต่อพอได้จะลงต่อก็ไม่แปลก
ตอนนี้ ถ้าดูใน indicator ทุกอย่างค่อนข้างเต็ม คือ พร้อมย่อ แต่จะย่อแค่ไหน ใน trend ที่เกิดตรงนี้ค่อนข้าง bullish ถ้าจะให้ย่อ อาจจะย่อเพียงนิดเดียวแล้วไปต่อ เพราะตอนนี้ต้องบอกเลยว่า BTC ยังไม่เสียทรงขาขึ้นแม้ใน TF 1 ชม
แนวต้าน 28000 - 29000 ค่อนข้างแข็ง ทางขึ้นถ้าขึ้นต่อ 30326 มี TF 3 ตัวมาชนกันซึ่งตรงนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะผ่านยาก ต้องมีการปรับฐานก่อน
ส่วนทางลง แถว 25400-25800 มี 2 TF เล็ก มาชนกันตรงนี้มีความเป็นไปได้ที่จะลงแล้วเด้งขึ้น แต่จะเด้งแนวผ่าน H เลยหรือทำ H ที่ต่ำลงแล้วลงต่อไปยังแนวรับสอง ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป
มุมมองคิดว่า รอย่อแล้วเล่น buy ตาม trend จะดีกว่า สวนเทรน การสวนเทรนจะค่อนข้างเหนื่อย เพราะขาลงยังมี แนวรับให้มองเห็น ต้านหน้าบนค่อนข้างโล่งๆ เป้าที่วางไว้อาจจะทะลุผ่านไปเลยก็ได้
ยังไงก็ควรมี จุดยอมแพ้