BTCUST.P ไอเดียในการเทรด
EP07:จาก Adaptive.Simple/Simple สู่ Quantitative Strategy ต่อไปการพัฒนา Quantitative Strategy บน TradingView เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่ใช้ตัวเลขและสถิติมาช่วยในการตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น การคำนวณผลตอบแทน ความเสี่ยง หรือการวิเคราะห์เชิงปริมาณผ่าน Pine Script ซึ่งเป็นภาษาสำหรับเขียนโค้ดที่ TradingView ใช้ โดยสามารถทำได้ดังนี้:
1. เริ่มต้นเขียน Quantitative Strategy บน Pine Script Strategy
2. เพิ่มการคำนวณเชิง Quantitative
- Sharpe Ratio : ใช้วัดผลตอบแทนต่อความเสี่ยง
- Drawdown : เพื่อดูช่วงขาดทุนสูงสุดของกลยุทธ์
- Optimization : ปรับค่าพารามิเตอร์ให้เหมาะสมที่สุด
3. ทดสอบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ใช้ Strategy Tester บน TradingView เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ เช่น:
- Profit Factor
- Win Rate
- Net Profit
ทดสอบบนข้อมูลย้อนหลัง (Backtest) และทดลองปรับค่าต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับตลาด
4. ใช้ข้อมูล Quantitative ที่ลึกขึ้น สำหรับการวิเคราะห์ Quantitative ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น สามารถนำข้อมูลจากภายนอก เช่น Python หรือ R มาช่วยวิเคราะห์เชิงลึก แล้วกลับมาใช้ Pine Script เพื่อประมวลผลบนกราฟได้
ดังนั้นบทต่อไปจากการขิงความง่ายๆจะเป็นการขิงความยากครับ 55555 ขิงเกิ้น...
1. องค์ประกอบของระบบ Quantitative
1.1 Data Collection
ใช้ Pine Script ดึงข้อมูลราคา เช่น Open, High, Low, Close (OHLC) หรือข้อมูล Volume
คำนวณตัวชี้วัดเชิงลึก เช่น ATR, RSI, หรือ Beta ของหุ้น (สินทรัพย์นั้นๆ)
1.2 Quantitative Indicators
ใช้ตัวชี้วัดทางสถิติ เช่น:
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
- ความผันผวน (Volatility)
- การแจกแจงความถี่ (Probability Distribution)
1.3 Risk Management
วางระบบจัดการความเสี่ยง เช่น:
- กำหนด Risk per Trade
- การตั้ง Stop Loss และ Take Profit
- วัด Maximum Drawdown
1.4 Performance Metrics
สร้างตัวชี้วัดเพื่อประเมินผล เช่น:
- Sharpe Ratio
- Sortino Ratio
- Calmar Ratio
2. ตัวอย่างระบบ Quantitative เชิงลึก
2.1 โครงสร้างพื้นฐาน
เริ่มต้นด้วยโค้ดระบบที่รวมเอาส่วนประกอบทั้งหมด:
3. การวิเคราะห์และขยายระบบ
3.1 Multi-Timeframe Analysis
รวมข้อมูลจากหลาย Timeframe เช่น การใช้ข้อมูล Daily ควบคู่กับ 1 Hour เพื่อเพิ่มความแม่นยำ:
3.2 Machine Learning Integration
นำผลลัพธ์ของ Pine Script ส่งออกไปยัง Python ผ่าน Webhook หรือ API เพื่อปรับปรุงโมเดลด้วย Machine Learning เช่น Decision Trees หรือ Neural Networks
3.3 Portfolio Optimization
สร้างระบบที่สามารถจัดการพอร์ตการลงทุนแบบ Dynamic โดยใช้หลักการ Quantitative เช่น Markowitz Portfolio Theory หรือ Risk Parity
4. การจัดการ Backtesting เชิงลึก
ใช้ Strategy Tester ของ TradingView เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์
วัดผลบนข้อมูลหลายช่วงเวลา (Walk-Forward Analysis)
ใช้ Monte Carlo Simulation เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของกลยุทธ์
5. สร้างอินดิเคเตอร์เฉพาะตัว (Custom Indicators)
BTC พยายามหาทางขึ้นอยู่ใช่มั้ย?ตอนนี้ BTC ยังวิ่งในกรอบสามเหลี่ยมอยู่ ถ้าหลุดไปทางใดทางนึงไม่ว่าจะข้างบนหรือข้างล่างรับรองได้ร้องกรี๊ดดดแน่นอน
มุมมองผม
ถ้ายังไม่ผ่าน 91,680 ก็ยังไว้ใจไม่ได้
ควรวิ่งเหนือ 90,300
ตอนที่เขียน content นี้ราคาแตะ 0.618 อยู่ ก่อนปิดแท่ง week ดูเหมือนรอเลือกทางในระยะสั้นอยู่
ราคา BTC วิ่งอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมจะหลุดได้หรือไม่?แนวโน้มและการวิเคราะห์:
แนวโน้มราคา: ราคาบิตคอยน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้น (uptrend) ตามกราฟรายวัน (HTF) ที่มีจุดทำ Higher High ใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา【20】
จุดแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ:
แนวต้านแรก: ใกล้ระดับ 92,000 - 93,000 ดอลลาร์ หากราคาทะลุผ่านได้ อาจทดสอบแนวต้านถัดไปที่ประมาณ 95,000 ดอลลาร์
แนวรับหลัก: อยู่ที่ประมาณ 89,000 - 90,000 ดอลลาร์ โดยมีโอกาสที่ราคาจะปรับฐานในโซนนี้เพื่อสร้างแรงซื้อก่อนดีดตัวกลับ
ตัวชี้วัดทางเทคนิค:
สัญญาณในกรอบ LTF (กรอบระยะสั้น) แนะนำให้รอจังหวะย่อในเขต Discount Zone เพื่อเข้าสู่สถานะซื้อ โดยต้องรอสัญญาณยืนยันอีกครั้งก่อนดำเนินการ
ข่าวสารและปัจจัยเสริม:
ความนิยมของบิตคอยน์ยังคงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดเอเชีย ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายยังคงสูง【19】
ราคาบิตคอยน์ (BTC) ปัจจุบันขยับตัวอยู่ที่ 91,294 USD และยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นตามแนวโน้มระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 93,000 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หากทะลุแนวต้านสำคัญไปได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาแนวรับที่ 89,000 USD ซึ่งอาจเป็นจุดพักตัวก่อนดีดกลับ การตัดสินใจลงทุนในช่วงนี้ควรพิจารณาจากข้อมูลพื้นฐานและตัวชี้วัดทางเทคนิคอย่างรอบคอบ
BTC Swing Buy ขา 2BTC Swing Buy ขา 2
TF4H
BTC เบรค Pattern กรอบสะสมประมาณ 2 ร้อยกว่าวัน
ขาแรกผ่านไปแล้วบริเวณ 74000-76000
จังหวะนี้เป็นขา 2 พักตัว TF4H Volume ลดลง
และมีแท่งกลับตัว เป็นจุดเข้า Swing Buy
โดยวาง SL ไว้ที่หลุด Low ที่ราคา 84800
และ TP1 หัว High ก่อนหน้า 93200
TP2 Fibonacci 161.8 ที่ราคา 97296
ตามลำดับ
EP05:Adaptive trading ideas take to Simple Indicators Very easy.Adaptive
"Adaptive" ในการเทรดหมายถึงกลยุทธ์ อินดิเคเตอร์ หรือโมเดลที่ปรับตัวตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะช่วยให้นักเทรดสามารถตอบสนองต่อความผันผวน การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม หรือคุณลักษณะอื่น ๆ ของตลาดได้ดีขึ้น ลดความล่าช้าของสัญญาณและช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการกลับทิศทางแบบฉับพลัน
เช่น ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค อินดิเคเตอร์แบบ Adaptive Indicators จะปรับความไวตามความผันผวนหรือความเร็วของการเปลี่ยนแปลงของราคา ทำให้สัญญาณมีความแม่นยำมากขึ้นโดยไม่ต้องปรับแต่งพารามิเตอร์บ่อย ๆ สำหรับนักเทรดที่ใช้กลยุทธ์แบบ Adaptive หมายถึงการตั้งกฎหรือระบบที่สามารถปรับตัวเองได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแบบเรียลไทม์ ทำให้กลยุทธ์นี้ทนทานต่อสภาวะตลาดที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งน่าจะสอดคล้องกับเป้าหมายการเทรดของคอนเซ็ปต์การเทรดโดยเฉพาะหากเราใช้เครื่องมือที่มีเลเวอเรจสูง
Simple Indicators Very easy.
"Simple Indicators Very easy." "ตัวชี้วัดง่ายๆแบบง่ายมากๆ" (ไม่อยากใช้คำว่าขิงครับ) คอนเซ็ปต์เราคือออกแบบระบบตัวชี้วัดให้ใช้การณ์ได้ง่ายๆที่ง่ายๆแบบที่สุด พร้อมทั้งให้ใช้งานได้จริงๆ แบบง่ายจริงๆให้ง่ายๆที่สุด ด้วย (เออออ...แล้วจะง่ายไปใหนนั่น)
1.เราใช้เส้นเทรนในการวัดรอบโดยมี คอนเซ็ปต์ Simple Very easy. Trend Lines. fixed rate. (ง่ายๆครับ)
2.เราใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ "ตามแนวโน้ม" ในโมเดลที่ปรับตัวตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปเองได้
3.เราใช้เส้นแนวรับแนวต้าน Simple Very easy. Support/Resistance. fixed rate.(แบบง่ายๆเช่นกัน)
4.Adaptive Fibo Simple Simple. new config levels + -
จากนั้นจะเป็นการวิเคราะห์ไปตามสถานการณ์ของชุดเครื่องมือได้ความว่าดังนี้ ในไทม์เฟร์ม15นาทีที่ระยะวันเวลาของ บิตคอยและทอง โดยเฉลี่ยในความเห็นส่วนตัวและภาะที่ปรากฏผนวกกับเครื่องมือง่ายๆของเรา เราจะได้ความว่า สวนทางชัดเจนส่วนทิศทางจะไปทางใดและวิเคราะห์ง่ายๆยังไง " つづく"
EP04:BTC Adaptive trading ideas to Indicators Very easy Simple.ชิลล์ๆครับ
ว้าวๆ...
ความเห็นวิเคราะห์
รอบเป็นขาขึ้นครับวิเคราะห์เป็นอย่างอื่นไม่ได้ส่วนไทม์เฟร์มเล็กๆก็ผันผวนขึ้นลงเป็นปกติเมื่อรอบหลักเป็นขาขึ้นในไทม์เฟร์มสูงๆถ้าไม่หลุดรอบเราก็ยังคงมองเป็นขาขึ้นหากการหลุดรอบได้หลุดมาตั้งแตาไทร์มเเล็กๆมาหาไทร์มเฟร์ใหญ่แบบไม่หบุดหลุดรอบล่ะก็ เราถึงจะมองว่าเป็นการเปลี่ยนรอบเป็นขาไซต์เวยหรือขาลงนั้นเอง
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปแนวโน้มขึ้นแตายังไม่เลือกทาง
ฉะนั้นแท่งพย.67นี้อาจย่อลงมา
ไม่ทะลุต้านสำคัญก็เป็นได้
อย่าคิดว่ามันขึ้นแล้วจะลงไม่ได้
อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะยังไม่จบเดือน
สถิติในอดีตเคยวิ่งอัตตราเฉลี่ย10,000-30,000จุด
เรามองหาอดีตที่กราฟเคยวิ่งเพื่อสมมติฐานว่าอนาคตอันใกล้จะมีการกลับตัวเมื่อไหร่
BTC 15 M 05.11.2024Sell : รอราคา tap Sell POI ลงต่อ เป้าหมาย last POI buy
Buy: ราคา tap last POI Buy ถ้ามีสัญญาณ Bullish เป้าหมายแรกน่าจะไปถึง POI Sell ที่ยังไม่ถูก tap
CHoch: ราคา BOS H ล่าสุดแล้วขึ้นต่อไปได้ เป้าหมายน่าจะถึง H สูงสุด
แต่ระวัง
1. fake BOS
2.ราคา tap Unmitigated POI sell zone ราคาอาจมีการย่อตัวลง
หรืออาจกลับมาลงต่อจน take Day IDM
BTCUSD กราฟยังไม่เบรกต้านทะลุ ATH 73000Bitcoin บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยาน 73,000 ดอลลาร์ ปิดแท่งเขียวเดือนตุลาคม นักลงทุนจับตา! Bitcoin ส่งสัญญาณซื้อ หลังปิดแท่งเขียวรายเดือนต่อเนื่อง 2 ครั้ง
Bitcoin ในเดือนพฤศจิกายนยังดูเป็นขาขึ้นเนื่องจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้น คาดว่าผลที่ตามมาของการเลือกตั้งจะนำความแน่นอนมาสู่ตลาดคริปโต ซึ่งอาจทำให้ Bitcoin พุ่งสูงขึ้น
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BTC อาจพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 90,000 ดอลลาร์ หาก Donald Trump ชนะ ในขณะเดียวกัน เขาก็กล่าวว่ามีโอกาสที่คริปโตเรือธงนี้อาจร่วงลงไปถึง 65,000 ดอลลาร์
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
แนวต้าน
73,000
70,000
68,000
แนวรับ
65,000 แนวรับ
55,000 แนวรับ
50,000 แนวรับ
แนวทางการเทรด
1. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 68,000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ซื้อ BUY) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณต้าน 70,000 หรือตามแนวรับต้าน
2. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 68,000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ขาย SELL) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณรับ 45,000 หรือตามแนวรับต้าน
Gravestone Doji
Gravestone Doji เป็นรูปแบบที่ตรงข้ามกับ Dragonfly Doji โดยแท่งเทียน Gravestone Doji นั้นมีราคาเปิด ราคา ต่ำสุด และราคาปิดในระดับเดียวกันโดยมี ไส้เทียนด้านบนที่ยาวมาก รูปแบบนี้แสดง ให้เห็นว่าในตอนแรกผู้ซื้อดันราคาให้สูงขึ้น แต่ผู้ขายก็สามารถกดราคาลงสู่ระดับ ราคาเปิดได้ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณ การกลับตัวเป็นขาลง หากมันปรากฏขึ้น ตรงจุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น