เริ่มกันเลย

Bitcoin / TetherUS

ไม่มีการซื้อขาย
ดูในซูเปอร์ชาร์ต
ภาพรวม ข่าว
ไอเดีย
การสนทนา เทคนิค ฤดูกาล ตลาด

BTCUSDT ไอเดียในการเทรด

ภาพรวมตลาดทั่วโลก กลับมาเป็น "ขาขึ้น" ใน TF Weekly 28/1/2023หลังจากปี 2022 เป็นปีที่ตลาดซึมกันตลอดทั้งปี และเด้งหลอกตลอด ทำให้หลายๆ คนท้อแท้ และถอดใจออกจากตลาดไป และกูรูโลกแตก กูรูสายแช่ง ก็ได้พื้นที่สื่อกันเต็มไปหมด แต่ หลังจากเริ่มปี 2023 มาได้เพียงหนึ่งเดือน ตลาดทั่วโลก ก็เข้าเกียร์ถอยหลัง เปลี่ยนเกียร์จากเกียร์ลงเขา เป็นเกียร์ขึ้นเขาแทน และวันนี้ ตลาดก็กำลังจะปิดแท่งสัปดาห์... ในทรงที่สวยมากๆ เพราะถ้าเราดูภาพรวมแล้ว แทบทุกตลาด สามารถเปลี่ยนเป็น "ขาขึ้น" กันได้หมดเลย สำหรับหลักที่ผมใช้แยกเทรน ก็ง่ายๆ เพียงใช้แค่ EMA18 Weekly เส้นเดียวเท่านั้น ( เอาจริงๆ จะ EMA18+-5 ก็ได้หมดครับ เพราะมันเป็นโซนเดียวกัน ) - เมื่อไหร่ที่ราคาวิ่งเหนือ EMA18 Weekly = มีโอกาสเป็นแนวโน้มขาขึ้น ในภาพใหญ่ - เมื่อไหร่ที่ราคาวิ่งใต้ EMA18 Weekly = มีโอกาสเป็นแนวโน้มขาลง ในภาพใหญ่ แค่นี้เอง โดยถ้าคุณไม่เชื่อ คุณสามารถเอาเส้นนี้ไปใส่กราฟแล้วลองนั่ง backtest ด้วยตัวเองดูก็ได้ครับ แล้วคุณจะเห็นสิ่งที่ผมเห็นเลย 55 สิ่งที่เราควรทำเมื่อตลาดกลับเป็นขาขึ้น ก็คือ 1) งด short เล่นแต่หน้า long เท่านั้น 2) เริ่มทยอยเข้าหุ้น / คริปโต / กองทุน ที่เราได้ทำการบ้านไว้ 3) งดเล่นสั้น ถือยาวๆ ถือทนๆ ถือให้นานที่สุด จนกว่าลุงขับแท๊กซี่เริ่มชวนคุยเรื่องเทรดหุ้น เทรดคริปโต 4) เลิกกลัว เลิก Bias เลิกฟังกูรูสายแช่ง แล้ว backtest ให้มั่นใจว่าหลักการนี้มันใช้ได้จริง ก็รอดูกันไปนะครับ ว่า ปีนี้ ตลาดจะเป็นยังไง จะเผาจริงเหมือนสายแช่งได้แช่งกันไว้หรือไม่? หรือวิ่งกันจนร้องขอชีวิตจนคนที่เชื่อกูรูสายแช่งตกรถกันเป็นแถบ... ลุ้นกันครับ
เพิ่มขึ้น
โดย Real_inwCoin
Bitcoin : Wave 5 ปลายทางของชุดขึ้นCrypto Monitoring ราคายกขึ้นทำ new high อีกครั้ง หากยืนได้ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นปลายคลื่น (เวฟ 5) และหากเป็นเวฟ 5 จริง ราคาจะขึ้นไปได้ไม่เกิน 100% ของเวฟ 3 ดังนั้นมองเป้าหมายการขึ้นของรอบนี้ไว้ที่ 61.8%fibo และ 78%fibo ตามภาพ โดยมีเส้นเทรนไลน์ล่างเป็นตัวบอกสัญญาณของการจบชุดคลื่น ..แต่ถ้าไม่สามารถยืนเหนือเวฟ 3 ได้ จะกลายเป็นการกลับเข้ากรอบ Sideway ของเวฟ 4 และเวฟ 5 ยังไม่เกิด
เพิ่มขึ้น
โดย HumanGraphy
BTCUSDTButterfly ราคาเป้าหมายแรกจะเป็น retracement 382 ของ AD และราคาเป้าหมายที่สอง retracement 618 ของ AD ระดับหยุดโดยทั่วไปจะอยู่หลังระดับโครงสร้างถัดไปหลังจากจุด D หรือ extension 1.41 ของ XA เทรดเดอร์แบบ Conservative จะมองหาการยืนยันอื่นๆ เพิ่มเติมร่วมด้วย รูปแบบเหล่านี้สามารถเป็นได้ทั้งขาลงและขาขึ้น TradingView มี smart XABCD Pattern drawing tool ให้ผู้ใช้งานสามารถระบุโครงสร้างกลับตัวแบบ 5 จุดแบบเห็นภาพได้
โดย kittiwut
BTCUSD : ภาพใหญ่เปลี่ยนจาก "Downtrend" เป็น "Uptrend" 16/1/2023* การดูเทรนของคริปโต ผมจะใช้แค่ indicator ง่ายๆ นั่นก็คือ EMA18 Weekly ในการดูเทรนใหญ่ครับ โดย.. 1) ถ้าราคาวิ่งเหนือ EMA18 Weekly = Uptrend ในภาพใหญ่ 2) ถ้าราคาวิ่งใต้ EMA18 Weekly = Downtrend ในภาพใหญ่ จากรูปนี้ เส้น EMA18 Weekly ก็คือเส้นสีเหลืองนั่นเองครับ * ถ้าคุณสังเกตุดีๆ จะเห็นได้ว่า ตลอดปี 2022 ที่ผ่านมา ราคา BTC "แทบไม่เคย" วิ่งเหนือเส้นนี้ได้เลย โดยมีช่วงเดียวที่วิ่งเหนือได้คือ มี.ค. 2022 แต่หลังจากนั้นพอหลุดเส้นนี้ก็กลับมาเป็นขาลงยาว ตลอดจนถึงทุกวันนี้ครับ * และถ้าคุณมองย้อนนนไปอีก ก็จะพบว่า ตอน เม.ย. 2020 ที่ราคาสามารถขึ้นมายืนเหนือ EMA18 Weekly ได้ แล้วหลังจากนั้นราคาก็ขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุดจนมาพีคที่กลางปี 2021 นั่นเอง.. * จริงๆ แล้วถ้าคุณไปลองไล่ดูกราฟของ BTC กันต่อเอาเอง ย้อนไปถึงปี 2011 ( กราฟ BTCUSD ของ Bitstamp จะมีถึงอยู่ครับ ) คุณจะพบว่า เส้นนี้ค่อนข้างมีนัยยะสำคัญ ในการบ่งบอกเทรน ระยะยาวของ BTC กันได้จริงๆ ครับ * ส่วนตัว เคยใช้เส้นนี้บอกเทรนใหญ่ ที่ราคาทะลุเส้นนี้ ในช่วงเมษา 2019 ที่ BTC 5000$ แล้วหลังจากนั้น ราคาก็ขึ้นต่อกันไปถึง 14000$ ก่อนจะลงมา sideway กันอีก ตั้งแต่ปลายปี 2019 จนถึงปลายปี 2020 โน่นเลยครับ * ที่เอามาโพสให้ดู ก็เพื่อเอามาเป็นการ study trend ของกราฟ เฉยๆ นะครับ
เพิ่มขึ้น
โดย Real_inwCoin
BTC 1D 15/01/2023ทดสอบความเข้าใจ การใช้ SMC (กราฟ DAY วันที่ 15/1/2023 14.12 ) มองจากภาพใหญ่กราฟ Day จุดราคา 21,480 US มีโอกาสเป็น inducement ดังนั้นราคาต้องไปเกิน 21,480 US ก่อนจึงจะลงมาโดยเป้าหมายจะอยู่ที่ LL เดิม แต่ถ้าราคาสามารถขึ้นไปเหนือ 25,211 US หรือ HH เดิม จะถือเป็น CHoch เทรนเปลี่ยนเป็น UP trend
การศึกษา
โดย KKTradeJournal
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 15/01/2023ถ้าปิด แท่ง week ด้วยแท่งเขียวใหญ่ หรือ ยืนราคาเหนือ 20000 ได้ จะเกิด price pattern "Tower Bottom" บ่งบอกการกลับตัว ทั้งนี้ ตอนนี้ราคาขึ้นมา ทดสอบ EMA200 ใน tfday ยังไม่ผ่าน และย่อเพื่อสะสมพลัง ตัวชี้วัดอีกตัวคือดัชนี dollar หรือ dxy ถ้าสัปดาห์หน้าหลุดแนวรับลงมา ตลาดคริปโตมีเฮแน่ๆ มาดูสัญญาณทางเทคนิคกัน - MACD น้ำเงินเหนือแดง histogram ยังเขียว ปลายเส้นสีน้ำเงินเริ่มชี้ขึ้น และห่างออกจากเส้นแดง ถ้าปิดแท่ง week ด้วยแท่งเขียวใหญ่ จะเหมือนจุดพลุ จุดเริ่มต้นขาขึ้น - RSI ชี้ขึ้นกำลังทดสอบที่ระดับ 50 ถ้าทะลุได้ จะ confirm ขาขึ้น - ADX เขียวกำลังจะตัดแดงขึ้น ถ้าตัดสำเร็จ ก็เป็นตัวยืนขึ้นขาขึ้นอีกแรง - แท่งเทียนตอนนี้อยู่เหนือเส้นกลาง BB ถ้าแท่ง week รักษาระดับนี้ไว้ได้ จะมีมาก ๆ มีแววได้ขึ้นต่อ - แท่งเขียน ทะลุ cdc ถึงแม้ยังไม่เขียว แต่ถ้าปิดเหนือ EMA26 ได้ก็ถือว่าสวยมาก เพราะบางเทคนิค อาจเริ่มทะยอยเข้าตั้งแต่จังหว่ะนี้ ** สรุป ** - รอดูแท่งปิด week นี้ ควรจะเป็นแท่งเขียวใหญ่ เพื่อเข้า pattern "Tower Bottom" ซึ่งเป็นสัญญาณ bullish - รอแท่งเขียนเปิดเหนือ เส้นกลาง BB หรือจะให้ดี ปิดเหนือ CDC จะดีมาก - ทั้งนี้ติดตามดัชนี dxy ถ้าอ่อนตัว หรือหลุด 102 ลงมา ตลาดคริปโตน่าจะเขียววววววววววอี๋๋๋๋
โดย Crypto_itsmylife
BTCUSD : ระบบ Close Above EMA120 Daily มีสัญญาณ "ซื้อ" 13/1/2023* ระบบ Close Above EMA120 Daily เป็นระบบง่ายๆ ตรงตามชื่อของมัน โดย ถ้าราคาปิดเหนือ EMA120 Daily ก็จะซื้อ ถ้าราคาปิดต่ำกว่า EMA120 Daily ก็จะขาย ง่ายๆ นิดเดียว * สิ่งที่ยากก็คือ มันเป็นระบบที่ง่ายมาก จนหลายๆ คนคิดว่า มันจะเวิร์คเหรอ ถ้ามันง่ายขนาดนี้ คนก็รวยกันหมดทั้งโลกแล้วสิ แต่ก็นั่นแหละ มันก็มีคนส่วนใหญ่คิดแบบนี้ แล้วก็ทำตามไม่ได้ คนส่วนใหญ่ก็เลยยังไม่รวยกันไงล่ะ 5555 * โดยรอบนี้ ระบบนี้ก็มีสัญญาณ ซื้อ เกิดขึ้นมาแล้ว เป็นวันแรก ในรอบเกือบ 1 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่ระบบนี้เขียวก็คือ ช่วง 25 มี.ค. 2022 ซึ่งก็เขียวได้ไม่นาน ก็เป็น false sig แล้วก็ลงต่อ แต่ถ้าเราคัทออกมาตามระบบ เราก็เสียตังแค่นิดเดียวครับ * ระบบนี้ ถ้าเข้าแล้ว เราจะต้องถือยาวๆ นานๆ ถือกันระดับหลายเดือน ถ้าใครไม่เข้าใจระบบนี้พอ หรือรอไม่เป็น สุดท้าย ก็จะทำตามมันไม่สำเร็จนั่นเองครับ ... เห็นไหมว่า ระบบง่ายๆ แต่สิ่งที่ยากก็คือการทำตามมันต่างหาก BTC CloseAboveEMA120D = เขียว ( 13/1/2023 ) ------------------ Entry : 18800+- SL : 17900 ( -4.8% ) Position Size = 20% ของพอร์ต ( Risk1% )
เพิ่มขึ้น
โดย Real_inwCoin
2
BTCUSD : ระบบ Break High มีสัญญาณ "ซื้อ" 12/1/2023* รอบนี้ คล้ายๆ กับรอบก่อนโน้นน ก่อนที่จะเกิดคดี FTX ที่ระบบเขียวพร้อมกันหมด แต่พอเกิดเรื่อง FTX เท่านั้นก็ลงกันเละยับ * รอบนี้ ก็ได้แต่หวังว่า จะไม่มีเหตุการณ์บ้าๆ บอๆ เกิดขึ้นอีกนะ เอาจริงๆ จากเหตุการณ์ FTX 5/11/2022 นี่ก็ผ่านมาสองเดือนครึ่งแล้ว ก็น่าจะถือว่าหลายๆ exchange น่าจะเจอ stress test การถอนเงินของเหล่า users ออกกันไปได้เยอะมากๆ แล้ว และถ้ายังรอดมาได้ ก็ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ดีแล้วครับ * สำหรับระบบ Break High ก็จะเป็นระบบง่ายๆ ที่จะดูยอด High ของ 52 แท่ง daily ย้อนหลัง ที่ใช้ค่า 52 เพราะเอามาจากระบบ 52 Weeks High ( 1 ปี ) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาใช้กับตลาดหุ้น.. แต่ผมเอามาใช้บน TF Daily แทน เพราะคริปโตมันเร็วกว่าเยอะครับ * ระบบนี้ก็เขียวกันอีกระบบ ซึ่งถ้ารวมกับที่เขียวก่อนหน้าคือ Action Zone และ ATR Channel ก็ถือว่า เขียวกันไปเรียบร้อยแล้วถึงสามระบบครับ ก็ลุ้นกันไปว่าจะยังไงกันต่อ เข้าแล้วก็วาง SL ให้เรียบร้อย ถ้าชน SL ก็คัทครับ ง่ายๆ อย่าคิดเยอะ * แล้วก็ ฝากเตือนคนที่คิดจะ short สู้ หรือ short แก้แค้น เพราะคิดว่า มันไม่ขึ้นจริงหรอก เดี๋ยวก็ลง ผมขอเตือนไว้เบาๆ นะครับ ว่า อย่าไปทำเลย เพราะถ้าเราดูเทรนระยะกลาง ( TF Daily ) มันเป็นขาขึ้นกันหมดแบบนี้ การ short จะมีความเสี่ยงที่จะโดนมากกว่าจะได้ตังนะครับ ถึงแม้ก่อนหน้านี้มันเคยขึ้นแล้วลงตลอดก็เถอะ แต่ คุณต้องถามตัวเองด้วยว่า "แล้ว ถ้ามันขึ้นต่อไม่หยุดล่ะ? เราจะทำไง??" อย่าไปคิดว่า "มันต้องลงแน่ๆ สิ" ... * เพราะ สมัยปี 2021 คนที่มองขึ้น ก็คิดกันแบบนี้แหละ ตอนที่ตลาดเริ่มเปลี่ยนเป็นเทรนขาลง + ระบบแดง ก็ไป bias ว่า "มันก็แค่ย่อ เดี๋ยวก็ขึ้นต่อ" แล้วก็ไปถัว long ช้อนซื้อ .. สุดท้าย ก็เละยับไม่เป็นท่า.... ดังนั้น จงเรียนรู้จากอดีตซะ แล้ว วางแผนรับมือให้เรียบร้อยนะครับ BTC BreakHigh = เขียว ( 12/1/2023 ) ------------------ Entry : 18000+- SL : 17150 ( -4.7% ) Position Size = 21% ของพอร์ต ( Risk1% )
เพิ่มขึ้น
โดย Real_inwCoin
BTCUSD : ระบบ ATR Channel มีสัญญาณ "ซื้อ" 11/1/2023* ระบบ ATR Channel คือการเอาค่า ATR มาตีกรอบครอบกราฟราคาไว้ เมื่อไหร่ที่ราคามีการเคลื่อนทีทะลุ กรอบ ATR หมายความว่า ณ เวลานั้นๆ ราคามีความน่าสนใจที่อาจจะเคลื่อนที่ไปตามทางที่มัน break ไปครับ * โดย ตอนนี้ ราคาก็ได้ปิดเหนือกรอบ ATR ด้านบน ทำให้มีแนวโน้มที่ราคาอาจจะเคลื่อนที่ต่อเป็นขาขึ้นต่อไปได้ครับ * ข้อควรระวัง ของระบบนี้ ก็คือ มันจะเป็นระบบที่ค่อนข้างไวต่อความเคลื่อนไหวของราคา ทำให้ อาจจะมีแนวโน้มการเกิด false sig ที่สูง * ดังนั้น การคุมความเสี่ยง ถึงสำคัญที่สุด ( เอาจริงๆ มันก็สำคัญที่สุดในการเทรดอยู่แล้วครับ ) เพราะ สิ่งสำคัญคือ เราต้องคิดถึงการรอดให้ได้ ก่อนจะไปคิดถึงกำไรครับ BTC ActionZone = เขียว ( 11/1/2023 ) ------------------ Entry : 17400+- SL : 16800 ( -3.6% ) Position Size = 27% ของพอร์ต ( Risk1% )
เพิ่มขึ้น
โดย Real_inwCoin
BTCUSD : ระบบ ActionZone (MACDตัด0) มีสัญญาณ "ซื้อ" 10/1/2023หลังจากปีที่แล้ว ( 2022 ) ระบบ Action Zone เจอ False Sig กันไปแบบเต็มคาราเบล ถึง 6 ครั้ง ทำให้ win rate กลายเป็น 0% กันไปเลย โดยผลการ Backtest ก็พบว่า ขาดทุนไปประมาณ -8% ที่ความเสี่ยง 2% Risk per trade ทำให้หลายๆ คน ถ่มถุย การทำตามระบบ ว่า มันไม่ได้เรื่อง มันห่วย ซะเหลือเกิน แต่ หลายๆ คนลืมไปว่า ในปี 2022 ทุกตลาด ลงกันยับๆ จริงๆ เช่น - BTC แบบ Buy & Hold ขาดทุน -65% - BTC แบบ DCA ขาดทุน -33% - NASDAQ ลงมาถึง -33% - หุ้นจีน CN50 ลงมาถึง -17% ( ต่ำสุดลงถึง -30% ) เป็นต้น - ยังไม่นับคนที่เข้าหุ้นรายตัวที่เทรดกันมา 10-20 ปี ที่ออกมาบอกว่า ปี 2022 เป็นปีที่แย่สำหรับเขาเหล่านั้นกันจริงๆ ... จะเห็นได้ว่า การทำตามระบบ สิ่งสำคัญของมัน ไม่ใช่การที่มันจะสามารถทำกำไรให้เราได้เยอะๆ ตลอดเวลา แต่ มันสามารถ ช่วยให้เรา "ไม่ต้องมาขาดทุนหนัก" ในปีที่ตลาดแย่ๆ ได้ด้วย นั่นเองครับ ซึ่งจุดนี้ หลายๆ คนชอบมองข้ามกันไป เพราะ มือใหม่ ส่วนใหญ่ จะมองกันแต่ กำไร กำไร กำไร กันอยู่แล้ว แต่ ไม่ได้มองถึงเกมรับ หรือการ "รักษาเงินทุน" ของเรา ว่า ทำไง เราถึงจะไม่เจอ Drawdown หนักๆ ในปีที่ตลาดไม่ดี นั่นเองครับ เขียวรอบนี้ เราก็ไม่มีวันรู้หรอกว่า มันจะเขียวจริง หรือเขียวหลอก อีกหรือเปล่า แต่ที่เรารู้แน่ๆ คือ ... ถ้าเราทำตามระบบ เขียวก็เข้า - ถ้ามันเขียวจริง : เราก็จะไม่ตกรถ มีกำไรอิ่มๆ - ถ้ามันเขียวหลอก : เราก็แค่ Stop Loss ออกมา ด้วยความเสี่ยงที่เราตั้งไว้ตั้งแต่แรก เบาๆ นั่นเอง ฝากไว้ให้คิดครับ BTC ActionZone = เขียว ( 10/1/2023 ) ------------------ Entry : 17200+- SL : 16500 ( -4% ) Position Size = 25% ของพอร์ต ( Risk1% )
เพิ่มขึ้น
โดย Real_inwCoin
1
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดขาลง ปี 2022เหลืออีกแค่ สองวัน ก็หมดปี 2022 กันแล้ว ผมก็เลยแวะมาสรุป บทเรียน ที่ผมได้เรียนรู้ จากการเห็นคนอื่น และ ทำด้วยตัวเอง เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจ/อุทาหรณ์ ให้กับเหล่าเทรดเดอร์ในอนาคต ได้เรียนรู้กันไปครับ 1) ได้เงินมาเยอะแค่ไหน ตอนตลาดดีๆ ก็ไม่สำคัญเท่าการรักษาเงินก้อนนั้นไว้ตอนตลาดแย่ๆ - ที่ยกให้ข้อนี้ขึ้นเป็นข้อแรก เพราะหลังจากผมคิดไปคิดมา ก็พบว่า ข้อนี้มันสำคัญสุดจริงๆ - เพราะปีที่แล้ว ( 2021 ) เราจะเห็น success stories มากมายก่ายกองจากหลายๆ คน เช่น เปลี่ยนเงินสองแสนเป็นห้าสิบล้าน บางคนก็พอร์ตโตเป็นหลายร้อยล้าน วัยรุ่นหลายๆ คนก็ได้จับเงินหกหลักเจ็ดหลักกันถ้วนหน้า - หลักๆ ที่ไปลองศึกษาแนวทางของคนเหล่านี้มา ก็คือ การ “All-in ไปเรื่อยๆ” เช่น จากเงินสองแสนไป all-in จนได้มาเป็น ห้าแสน … จากห้าแสนก็ all-in เป็น หนึ่งล้าน.. จากหนึ่งล้านก็ all-in เป็นสามล้าน.. วนๆ ไป และคนเหล่านี้ก็จะ “ไม่มีการคัทลอสด้วย เพราะเชื่อว่า ถ้าของดี เดี๋ยวมันก็แค่ย่อแล้วไปต่อ” - ในช่วงตลาดดีๆ การทำแบบนี้มันจะให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ และพอร์ตก็จะโตเร็วมากๆ ด้วยเช่นกัน … แต่ก็นั่นแหละ ท่านี้มันมีปัญหาซ่อนอยู่ตอน “ตลาดขาลง” - เพราะเมื่อไหร่ที่ตลาดเริ่มกลับตัว เป็นขาลง ถ้าคุณยังไปใช้ท่า all-in อยู่ ไม้สุดท้ายที่คุณไปเข้า คุณก็จะไปเข้าที่ “ยอดดอย” พอดี และพอคุณไม่มีแผนคัทลอส ก็จะทำให้การขาดทุน เริ่มลุกลามไปเรื่อยๆ - จากขาดทุน 10% ก็กลายเป็น 20% กลายเป็น 50% รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็น 99%.. ได้มา 100 ล้าน ก็อาจจะเหลือแค่ 1-2 ล้าน - หลายๆ คนก็จะชอบบอกว่า “โอ้ย ก็ยังมีกำไรอยู่เลย เพราะฉันลงไปแค่ 5 แสน ตอนนี้ก็ยังเหลือตั้ง 2 ล้าน มันก็ตั้ง 4 เด้งอยู่นา” … แหม แต่พี่จะไม่สะทกสะท้านกับกำไรทิพย์ 98 ล้านที่หายไปเลยเหรอครับ เป็นผม ผมเครียดนะครับ 555 - สุดท้าย ก็เหมือนเราต้องมาเริ่มกันใหม่หมด เดินไปข้างหน้า 100 ก้าว แล้วถอยหลังมา 98 ก้าว แบบนั้นก็เหมือนเหนื่อยฟรีครับ - ดังนั้น การ “รักษากำไร” ที่ได้มาตอนตลาดดีๆ มันถึงสำคัญมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการ cash out ออกมาพักเป็นเงินสดนอกตลาดบ้าง หรือเอาไป diversify ลงทุนในสิ่งอื่นๆ บ้างเพื่อกระจายความเสี่ยง หรือถ้าตลาดโดยรวมเป็นขาลงก็ถือเงินสดทั้งหมดเลยก็ยังได้ - แต่ก็นั่นแหละ ถ้าคนเหล่านี้มีแผนรักษากำไร เขาก็คงจะไม่ all-in ทุกเม็ดตั้งแต่แรกอยู่ดีครับ พูดง่ายๆ ก็คือ เริ่มมาก็ติดกระดุมผิดเม็ดแล้วนั่นเอง.. - ปล. สำหรับสาย Maximalist เก็บยาวบน Time Horizon 200 ปี อันนี้เขาก้าวข้ามกำไร/ขาดทุน ทุกสิ่งอย่างไปหมดแล้ว ดังนั้น เราก็จะไม่ต้องไปสนใจเขาครับ ปล่อยเขาดำเนินแผนของเขาไป 555 2) ระบบอย่าง Trend Following บน Timeframe Daily+Weekly ช่วยป้องกันไม่ให้เราขาดทุนหนักได้ - สำหรับปีนี้ ระบบ Trend Following อย่าง Action Zone ( หรือ MACD ตัดศูนย์ ) เราเจอ false sig บน TF Daily กันกระจาย แต่ถ้าดูบน TF Weekly คือ ไม่มีสัญญาณซื้อเลยตลอดทั้งปี - แต่ถ้าเราเข้าไปดูผลการเทรดจริงๆ ก็จะเห็นว่า ใน TF Daily เราขาดทุนไปจริงๆ ราวๆ -8% จาก false sig ทั้งหมดประมาณ 6 ครั้ง บนความเสี่ยง 2% Risk per trade - ส่วน TF Weekly ก็คือ ไม่มีการเทรดเกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียวในปีนี้.. - ถ้าเทียบกับ Benchmark การ Buy & Hold BTC ตอนเริ่มปี 2022 ก็จะพบการขาดทุนถึง -65% และถ้า DCA ก็จะขาดทุนถึง -33% นั่นเอง ยังไม่นับพวกสาย all-in จากข้อ 1 ที่โดนกันไปราวๆ -80% ถึง -99% อีกนะครับ - ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การที่เราจะสามารถ “รักษากำไร” ที่ได้มาตอนตลาดดีๆ ได้ สิ่งที่เราต้องมีก็คือ “ระบบการเทรด” ที่จะช่วยบอกเราว่า เมื่อไหร่ ที่เราควรถือเงินสด เมื่อไหร่ ควรกลับเข้ามาลงทุน และ “Money Management” ที่จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวม จากการ diversify กำไรออกไปไว้ที่อื่นที่เสี่ยงน้อยกว่าบ้างครับ - เทียบง่ายๆ ก็คือ เหมือนเราก้าวไปข้างหน้า 100 ก้าว แล้วเราถอยหลังมาแค่ 8 ก้าวแล้วก็หยุด เวลาที่เราจะเริ่มเดินใหม่ เราก็เริ่มเดินที่ก้าวที่ 92 นะครับ มันต่างกับคนที่ต้องถอยมา 98 ก้าวแล้วต้องเริ่มเดินที่ก้าวที่ 2 เยอะมากๆ เลยนะครับ 555 3) พยายามคิดถึงความเสี่ยงให้รอบด้าน ถ้าท่าไหนมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินเยอะ หรือทั้งหมด..ก็อย่าเอาเงินเยอะเข้าไปเล่น - ช่วงตลาดดีๆ หลายๆ คนจะชอบลืมมองข้อนี้กันไป เอาง่ายๆ ก็ตัวอย่างของเคส all-in ไปเรื่อยๆ ในข้อแรก มันก็มีความเสี่ยงมากมายที่เราจะเสียตังทั้งหมดไป ไม่ว่าจะเป็น product ที่เราไปลงมันโดน rug pull หรือการไม่มีแผนคัท ก็จะทำให้เราติดดอยและขาดทุนหนัก เป็นต้น - ยังไม่นับเคสที่นอกเหนือความคาดหมาย เช่น FTX หรือ Zipmex หรือ Exchange อื่นๆ ล่มสลายอีก - แถมเคสคริปโตทั่วไปอีก ที่หลายๆ คนกระโจนเข้ามากันแบบไม่มีความรู้ สุดท้ายพอเห็นว่าได้กำไรง่ายๆ ก็หอบเงินก้อนใหญ่มาลงกัน บางคนหนักกว่านั้นก็ไปกู้มาลงทุน… พอตลาดเป็นขาลงก็เจ๊งกันถ้วนหน้า - เอาจริงๆ ข้อนี้มันก็เหมือนกับการทำธุรกิจแหละ เช่น บางคนก็เอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนทำอะไรบางอย่าง แล้วพอเจ๊ง ชีวิตก็เดือดร้อนไปเลย ต้องกู้หนี้ยืมสิน ติดวังวนหนี้กันไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ - สุดท้าย ก่อนเราจะลงทุนทำอะไรก็ตาม ให้คิดถึงความเสี่ยงก่อนเสมอ เอาง่ายๆ ให้คิดใน worst-case scenario ไปเลยว่า ถ้าเงินก้อนนี้หายหมด ชีวิตเราจะไม่เดือดร้อนนะ ชีวิตเรายังไปต่อได้นะ ถ้าดูแล้วสิ่งที่เราจะลง มันต้องใช้เงินเยอะ มากกว่าที่เราจะยอมเสียได้ ก็อย่าไปทำมันเลยครับ ลองเริ่มจากเล็กๆ ดูก่อน พอเรามีประสบการณ์ มีสกิล ก็ค่อยๆ ขยายไปก็ได้ครับ 4) การลงทุนอะไรที่ too good to be true จงอยู่ให้ห่าง - ปีที่ผ่านมา เราเห็นการล่มสลายของสิ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินความจริงกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น.. * สารพัด DeFi ที่เคยให้ผลตอบแทนสูงถึงระดับ 100%++ APY … สุดท้ายก็เจ๊งกันหมด * Anchor Protocol ที่ให้ผลตอบแทน 20% ต่อปี … สุดท้ายเจ๊งสนิท * ZipLock ที่ให้ผลตอบแทนดี .. สุดท้ายก็เจ๊ง * การขุดเหรียญสารพัด สามเดือนคืนทุน.. สุดท้ายก็ขุดไม่คุ้ม * สารพัดแชร์ลูกโซ่ …ที่สุดท้ายก็ปิดตัวหนีกันไปหมด - ทุกอย่างที่ว่ามาข้างบน จะเอาเลขผลตอบแทนที่ดีๆ เวอร์ๆ มาล่อกันทั้งนั้น แต่ถ้าเราแค่ “เอ๊ะ??” สักหน่อย เราก็จะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า.. มันเป็นไปได้ไงวะ? เราก็จะไม่ยุ่งกับพวกนี้เองครับ 5) จงเชื่อกราฟ อย่าไปเชื่อกูรู - ในทุกขาขึ้น และขาลง จะมีกูรูมาทำนายเสมอ และแต่ละคน ก็จะเต็มไปด้วย Bias ของตัวเอง ทำนายถูก ก็ออกมาเคลม ทำนายผิด ก็… ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ทำนายใหม่ไปเรื่อยๆ - สิ่งที่เราควรทำ ก็คือ อย่าไปฟังนักทำนายเหล่านี้มาก เพราะ ไม่มีใครรู้อนาคตได้จริงสักคนหรอก มั่วกันทั้งนั้นแหละ - สิ่งที่จะบอกเราได้แน่ๆ ก็คือกราฟครับ พยายามดูให้เป็น ดูให้ออก ว่า กราฟแบบไหนที่เป็นทรงขาขึ้น กราฟแบบไหนที่เป็นทรงขาลง แล้วเราก็ take action ตามแผนไป - ขาขึ้น ก็ทยอยเข้าตลาด ขาลง ก็ทยอยถือเงินสด แค่นี้เองครับ … มันเหมือนง่ายนะ แต่ทำโคตรยากเลยล่ะ 6) เมื่อสื่อพูดถึงสิ่งใดมากๆ… ให้ระวังจุดจบของสิ่งนั้นๆ - ไม่ว่าจะเป็นจุดจบของขาขึ้น หรือจุดจบของขาลง .. มีวิธีดูง่ายๆ ดังนี้ - ถ้าสื่อพูดถึงแต่ข่าวดี เอากูรูสายมองขึ้นมาออกเยอะๆ ทำนายราคากันไปเท่านั้นเท่านี้ = ตลาดมีโอกาสจบรอบสูง ให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง ให้ดึงกำไรออกมากอดไว้บ้าง และเตรียมพร้อมเมื่อกราฟบอกให้เราหนี - ถ้าสื่อพูดถึงแต่ข่าวร้าย เอากูรูสายมองลงมาทำนายวิกฤตกันไปเรื่อยๆ ซึนามิมาแน่ ปีหน้าเผาจริง = ตลาดมีโอกาสกลับตัวสูง ให้ทำการบ้าน หาหุ้น หาสินทรัพย์รอไว้ และเตรียมพร้อมจะซื้อเมื่อกราฟบอกให้เราเข้า - แค่นี้เองครับ 7) อยู่ในเกมของตัวเอง อย่าไปเทียบอะไรกับคนอื่นเขามาก ทุกคนมีช่วงขึ้นและลงที่ต่างกัน - ข้อนี้สำคัญมากๆ เช่นกัน เพราะบางทีเกมของเรา มันยังไม่มา แต่ของคนอื่นเขามาไปแล้ว พอเขาได้ตังเขาก็จะมาอวดกำไร พอเราเห็นกำไรเราก็จะเริ่มไขว้เขว และอาจจะกระโดดไปเข้าเล่นในสิ่งนั้นๆ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้ทำการบ้านอะไรมาเลย สุดท้าย ก็อาจจะโดนเล่นได้ครับ - ดังนั้น ถ้าเราทำการบ้านในสิ่งใดๆ อยู่แล้ว และเรารอให้เกิด “สัญญาณ” อยู่ ก็ต้องอย่าวอกแวก ร้อนรน คันมือ ก็แค่ นั่งเฉยๆ รอทำตามแผนของเราไปครับ ข้างล่างเป็น list ที่ผมคิดๆ เขียนๆ ไว้ตอนแรก แต่ไม่ได้หยิบมาอธิบายต่อ ก็แปะมาให้ลองเก็บไปคิดกันดูเองครับ ถ้าคุณได้เงินมาเร็วๆ ง่ายๆ จากการลงทุนแบบไม่สนความเสี่ยง คุณก็จะคืนกำไรที่ได้มากลับไปให้ตลาดอย่างรวดเร็วเช่นกัน ตัวอย่างก็เช่นพวกชาว DeFi, GameFi 2021 สิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่รอดในตลาด ก็คือการรักษากำไรที่ได้มาเอาไว้ช่วงตลาดดีๆ ไม่ให้คืนไปตอนตลาดแย่ๆ ตอนตลาดดีๆ กลยุทธกะโหลกกะลาแค่ไหน ถ้าไม่สวนเทรน ยังไงก็ได้ตัง แต่ตอนตลาดแย่ๆ ถ้าคุณไม่มีหลักการควบคุมความเสี่ยงที่ดี ยังไงก็หมดตัว กลยุทธที่ทำแล้วได้ตังง่ายๆ ตอนตลาดดีๆ เช่น เห็นลงหนักๆ ก็ไปช้อนแบบจัดหนักจัดเต็ม พอเด้งก็ขาย … จะทำให้คุณหมดตัวตอนตลาดกลับมาเป็นขาลง ตลาดไม่เคยขาดกูรู ตอนตลาดวิ่งแรงๆ ก็จะมีกูรูบอกเป้าว่าจะขึ้นไปเท่านั้นเท่านี้ พอตลาดลงหนักๆ ก็จะมีกูรูบอกเป้าว่าจะลงไปเท่านั้นเท่านี้ .. แต่ คนที่จะบอกว่าอนาคตจะไปทางไหน คือ Mr.Market เท่านั้น ไม่ใช่กูรู ดังนั้น จงเชื่อตลาด สำหรับคนที่ทำตามระบบ Consecutive Losses เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น จงวางแผนความเสี่ยง Risk per trade ให้ดี ที่จะไม่ทำให้พอร์ตเราพัง หรือเสียหายหนัก ตอนเจอ consecutive losses หลายๆ ทีติดกัน ตลาดจะ Top ตอนทุกคนมองขึ้น ข่าวดีออกมารัวๆ กูรูเต็มตลาด เสมอ และ ตลาดจะ Bottom ตอนทุกคนมองลง ข่าวร้ายออกมารัวๆ กูรูหายหมด เสมอ เมื่อคุณอยากอวดกำไรลงเฟส ลงเพจ ให้ทุกคนรู้ เมื่อนั้น มักจะเป็นจังหวะตลาด Top เสมอ อย่ากู้เงิน เอาเงินร้อน มาเทรด เด็ดขาด ถ้ามีกำไร ต้องมีแผนเก็บกำไรเสมอ อย่าปล่อยให้ตัวเองเห็นกำไรละลายหายไปต่อหน้าต่อตาเด็ดขาด กำไรที่ได้มาจากข้อที่แล้ว ควรเก็บออกมากอดนอกสนามเลย อย่าเอาไป reinvest พร่ำเพรื่อ อะไรที่ได้ตังง่ายๆ โดยไม่ต้องทำอะไร แค่ฝากเงินไว้เฉยๆ.. มันไม่มีจริง ความเชื่อ มันน่ากลัว เพราะมันจะมาทำให้เราเชื่อจนไม่ยอมตัดสินใจ take action ที่ดี การเข้ามาเทรด คือการทำให้ wealth ของเรางอกเงย เพื่อที่เราจะได้มีชีวิตที่มีคุณภาพดีขึ้น ไม่ใช่การเข้ามาเพื่อพิสูจน์ความเชื่ออันสุดโต่งของเราเอง อะไรที่มีขึ้น ก็ย่อมจะมีลง อะไรที่ลงก็ย่อมจะมีขึ้น.. จงเตรียมพร้อมและวางแผนรับมือความเปลี่ยนแปลงเสมอ มือใหม่เข้าตลาดมา ยังไงต้องเจ๊งอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ แต่ที่จะไม่ปกติคือ เข้ามาเจ๊งแล้วไม่ได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดนั้นๆ เลย เพราะ ถ้าคุณเรียนรู้จากความผิดพลาด โอกาสที่คุณจะได้ตังในขาขึ้นรอบหน้าก็จะมีสูงขึ้น การเทรดให้น้อยลงในตลาดขาลง นอกจากจะช่วยไม่ให้เราเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังช่วยให้เรารักษาสภาพจิตใจไม่ให้ถดถอยด้วย เพราะในการเทรด สภาพจิตใจของเรา สำคัญมากๆ ถ้าใจพัง มันจะทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจ หรือ ไปตัดสินใจทำอะไรที่จะทำให้พอร์ตพังมากยิ่งขึ้น ( เช่น เทรดแก้แค้น ) กลยุทธใดๆ ถ้ามันทำซ้ำอีกไม่ได้ ก็ไม่ใช่กลยุทธที่ดี เราก็แค่โชคดีต่างหาก การทำตามกลยุทธอย่างมีวินัย มันช่วยให้เราไม่มีวันติดดอยหนัก และไม่มีวันตกรถ 100% การถือเงินสดในช่วงตลาดขาลง จะทำให้เราได้เปรียบคนอื่นๆ เพราะเราจะมีเงินเอาไว้ซื้อของราคาถูก หลังจากมันเริ่มกลับตัวแล้ว ตลาดขาลงที่ยาวนาน จะทำให้เราเริ่มหมดไฟ ท้อ และเลิกสนใจตลาดไป แต่อยากจะบอกว่า มันคือโอกาสที่ดีต่างหาก ดังนั้น จงอย่างทิ้งตลาด และเตรียมความพร้อมที่จะกลับเข้ามาเสมอ เพราะถ้าคุณไม่อยู่กับตลาดตลอด คุณจะไปรู้ตัวอีกทีตอนตลาดกลับเป็นขาขึ้นเรียบร้อยแล้ว..และแน่นอน ก็อาจจะมีโอกาสติดดอยใหม่เหมือนเดิมนั่นเอง 555 ช่วงตลาดดีๆ อะไรก็ดูดี ช่วงตลาดแย่ๆ อะไรก็พร้อมพังเสมอ ดังนั้น ถ้าได้ตังมาเยอะช่วงตลาดดีๆ ตอนตลาดเริ่มหัวทิ่ม ก็ต้อง cash out ออกมาก่อน จงเป็นคนขี้ระแวง ถ้าเริ่มได้กลิ่นตุๆ ให้วิ่งหนีทันที อย่ามัวรอดูก่อน เพราะอาจจะช้าเกินไป -- ส่งท้าย -- สุดท้ายนี้ ปี 2022 ก็น่าจะให้บทเรียนกับทุกคนที่เข้ามาตลาดกัน ไม่มากก็น้อย ตัวผมเองก็ได้ ตอกย้ำ บทเรียน ที่เคยตกผลึกมาก่อนหน้านี้ ว่า ... เออ ไอ้ที่เราคิดมา มันถูกแล้วล่ะ จงทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป ส่วนใครที่เจ๊งหนักในปีนี้ แต่อยากจะเอาดีทางด้านการเทรดนี้จริงๆ ก็ขอให้อย่ายอมแพ้นะครับ เพราะจากที่ผมอ่านและฟังเทรดเดอร์ไทยและฝรั่งมาหลายท่าน บอกได้เลยว่า ทุกคน ต้องผ่านจุดนี้กันมาทั้งนั้น ... จุดที่เจ๊ง หมดตัว และไม่ยอมแพ้ ฮึด ลุกขึ้นมาสู้ต่อ ผมเองก็เคยผ่านมาเช่นกัน.. และ ในปีนี้ ผมก็รอดมาได้ โดยแทบไม่เสียหายหนักเลย จงเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และก้าวต่อไปครับ เพราะ ข้อผิดพลาด คือ ครูที่ดีที่สุด ของเราครับ..
การศึกษา
โดย Real_inwCoin
5
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 24/12/2022ใน tf week ก็ผ่านมาหลายสับดาห์ ราคายังคงวิ่งในกรอบ แนวรับ-แนวต้าน ของ falling wedge ยัง break สักทางไม่ได้ ถ้าดูจากกราฟที่ผ่านมา ถา้จะเป็นขาขึ้น อย่างน้องต้องเห็นแท่งเทียน price action ที่บอกสัญญาณกลับตัว แต่นี้ยังไม่มีวี่แววเลย ให้รอนานจริงๆ อีกจุดนึงที่ต้องเฝ้าติดตามคือ ema50 กะ 200 จ่อ ๆ จะตัดกันแล้ว คนจะ panic เพิ่มเข้าไปอีกรึป่าว ปกติถ้าเข้า pattern falling wedge มันควรจะมีแนวโน้มว่าจะขึ้น แต่นี่ลากยาว เราอาจโดนหลอกก็ได้ อาจกลายเป็นพักฐานลงต่อ สายถือยาว ให้รอสัญญาณกลับตัวก่อนนะ บางทีอาจเห็น divergence แต่อาจโดนหลอกราคามันอาจลงไป ลึกอีกก็สามารถเป็นไปได้ ช่วงนี้ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะข่าว BNB ก็คอยทำให้นักลงทุนกังวลไม่หาย ไม่รู้ปีใหม่กลับมาจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นได้รึป่าว เพราะวันก่อนเห็นข่าว ตัดบางเหรียญ ออกจากกระดาน future นี่ถ้าคนที่ติด order อยู่ เหมือนกับถูกฟ้าผ่าบังคับขาย คิดจะทำก็ทำกันง่าย ๆ หวังว่าคงไม่ใช่โยนหินถามทางนะ เพื่อปูทางไปเหรียญต่อๆไป และลามไปกระดาน spot ได้แต่หวังว่า ขอให้วิกฤตตลาดรอบนี้ผ่านไปได้โดยเร็วนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคน
โดย Crypto_itsmylife
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 17/12/2022กำลังจะไปได้สวย ความซวยก็มาเยือน ราคากำลังขึ้นไปทดสอบแนวต้าน (แนวรับเดิม ที่เคยย่ำอยู่นาน แข็งแรงมาก) อยู่ ๆ ข่าว binance ก็ถูกโหมกระพือขึ้น ตอนแรกนึกว่าจะรอดแล้ว ยิ่งมีดราม่าตอน นักข่าวสัมภาษณ์ CZ แล้วอาจให้ข้อมูลไม่เคลียร์ นักลงทุนก็ยิ่ง ใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กับความโปร่งใจของ binance เข้าไปใหญ่ สุดท้ายกลายเป็น panic ราคาไหล กอร์ปกับค่าเงิน dollar ก็กลับขึ้นมาแข็งค่าอีกครั้ง จากข่าวดัชนีต่าง ๆ ที่ส่อไปทางเงินเฟื้อ และ การขึ้นดอกเบี้ย กราฟ DXY ลงไปทดสอบแนวรับ แล้วเด้งกลับอย่างแรง ต้องคอยจับตาอย่างมาก มาดู indy บอกอะไรเราบ้าง - แท่งเทียนแดงใหญ่ break แล้วรับลงมาเลย มีโอกาสลงมาทดสอบแนวรับสุดท้ายที่ ระดับ 15500 - MACD ปลายจ่อกันแล้ว ถ้าตัดกัน ก็ลงอีกยับ ๆ - RSI หลุดลงไปต่ำกว่าระดับ 50 มีโอกาสลงไปลึกถึง zone OVS - STO RSO ตัดกันลง ชัดเจน ไม่ต้องเดา ต้องรอจนกว่าจะตัดขึ้น หรือ คนหาย panic แล้วกลับเข้าตลาดมาช้อนซื้อต่อ จะสิ้นปีอยู่แล้ว นึกว่าจะผ่านสิ้นปีแบบซิวๆ สักหน่อย เพราะทั้งปี เราเจอกันมาตั้งแต่ วิกฤต Luna , FTX นี่ยังต้องมาลุ้นกับ Binance อีก อดทนผ่านวิกฤตนี้ และ ผ่านพ้นปีแย่ ๆ นี้ไปด้วยกันให้ได้นะครับ เป็นบททดสอบที่หนักหน่วงใช้ได้ทีเดียว ท้อเป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร ใจอย่าตก เข็มแข็งๆไว้ ั you will never walk alone
โดย Crypto_itsmylife
BTCUSD : ระบบ Trend Following มีสัญญาณ "ขาย" 17/12/2022รอบนี้น่าจะเป็นรอบที่ มาเร็ว เคลมเร็ว ทรงอย่างแบด แซดอย่างบอย ที่สุดละ เพราะ เขียวได้วันเดียว วันถัดมาทุบเลย อีเวง 555 ถ้าใครทำตามระบบ รอบนี้ก็ต้อง SL และ รับรู้การขาดทุนไปนะครับ ส่วนใครจะถือลุ้นปีหน้า ก็สุดแล้วแต่ตัวท่านกันเลยจ้า สรุปรอบนี้ BTC ATR = แดง ( 17/12/2022 ) ------------------ Entry : 17800 +- SL : 16695 Realized Loss = -1% BTC ActionZone = แดง ( 17/12/2022 ) ------------------ Entry : 17786+- SL : 16695 Realized Loss = -1% Total Loss = -2%+ ปล. รอบนี้ มันคล้ายๆ กับตอนขาเด้งช่วงปี 2018 ที่ก็ค่อยๆ ลากขึ้นมาแบบนี้แหละ แล้วพอระบบเขียว ก็ทุบเลย ซึ่งกว่าจะไปเขียวอีกทีก็โน่น ช่วง Feb 2019 และจำได้ว่า ตอนนั้น ระบบเขียว ก็ไม่มีใครกล้าเข้าอีกแล้ว 555 ขนาดลุงออกมาบอกว่าให้เข้า ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าสักคน ( ผมก็ด้วย ) นี่แหละ ตลาด มันจะสับขาหลอก จนกว่าเราจะไม่เชื่อ แล้วมันก็ขึ้นจริง ก็รอดูกันไปครับ ออกมาถือเงินสด สบายใจกว่า ลงไปอีกถึง $150 เราก็ยังสบายๆ
ลดลง
โดย Real_inwCoin
BTCUSD : ระบบ Action Zone ( MACDตัด0 ) มีสัญญาณ"ซื้อ" 15/12/2022มาอีกแล้ว ระบบ Action Zone ที่พวกเรารัก รอบนี้ สาย S บอกว่า เฮอะ เดี๋ยวก็เป็น false sig เหมือนทุกที เขียวขาย แดงซื้อสิ จีรัง ส่วนสาย L ก็น่าจะแทบไม่เหลือและไม่มีใครเชื่อระบบแล้ว เพราะโดน false sig มากันหลายรอบมาก จนเบื่อ ส่วนผมก็ไม่อยากไปคิดไรมาก เพราะเข้าใจหลักการของมันดี มันก็แค่ความน่าจะเป็น รอบนี้ถ้ามันไม่ไปจริง ก็แค่คัทออกมาเท่านั้นครับ BTC ActionZone = เขียว ( 15/12/2022 ) ------------------ Entry : 17786+- Exit : 16695 ( -6.1% ) Position Size Risk 1% = 16.4%
เพิ่มขึ้น
โดย Real_inwCoin
BTCUSD : ระบบ ATR Channel มีสัญญาณ "ซื้อ" 14/12/2022หลังจากเรามีสัญญาณซื้อครั้งสุดท้ายไปเมื่อราวๆ ปลายเดือน ตุลาคม 2022 แล้วก็ไปโดนคัทกันตอนเคส FTX Incident ช่วงกลาง พฤศจิกา 2022 ซึ่งจริงๆ ถ้าไม่มี FTX incident ผมก็ยังเชื่อว่า ป่านนี้ คริปโตก็คงยืนเหนือ 22k กันไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่เป็นไร เรามีระบบมาคุมอีกชั้น เราก็จะไม่มีวันติดดอย และไม่มีวันตกรถ แน่นอนครับ วันนี้ 14/12/2022 ระบบ ATR Channel ก็มีสัญญาณ "ซื้อ" เข้ามาแล้ว ที่ราคา 17800+- ( Entry ) โดยถ้าเราวาง SL ที่ขอบล่าง ATR ก็คือ 16695 ( -6.17% ) ถ้าเราใช้ความเสี่ยง 1% ของพอร์ต เราก็จะเข้าได้ราวๆ 16% ของพอร์ตนั่นเองครับ แถมดูทรงแล้ว พรุ่งนี้ระบบสุด Classic อย่าง Action Zone หรือ MACD ตัดศูนย์ ก็จะมีสัญญาณซื้ออีกเช่นกัน ก็ทำตามแผนกันไปนะครับ รอบนี้เท่าที่ผมสังเกตุก็คือ - คนกลัวกันเยอะมาก กลัวกันจนขี้ขึ้นสมอง เพราะ case FTX แถมข่าว FUD Binance อีก ก็.. ไม่แปลกที่จะกลัวกันครับ - กูรูมองลงเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คนมองลงตามกูรูก็เยอะมากกกกกกกกกกกกกกก - ข่าวร้ายๆ เยอะมากกกกกกกกกกกกกก ปีหน้าเผาจริง บลาๆ - และ sentiment ร้ายๆ อีกเพียบ ส่วนตัว มองว่า ถ้า sentiment ร้ายๆ แย่ๆ เต็มตลาดเมื่อไหร่ แล้วกราฟมันดันเขียวสวนขึ้นมา... เราก็ เข้าๆ ไปเถอะครับ อย่าไป bias อย่าไปกลัวอะไรมาก เพราะเราไม่มีวันรู้พรุ่งนี้เลยว่า มันจะขึ้นต่อ หรือลงต่อ ไม่มีหมาที่ในในโลกนี้รู้อนาคต ครับ แต่สิ่งที่เรารู้คือ ระบบที่เราใช้ ถ้ามันเขียว มัน "มีโอกาส" ที่ราคาจะไปต่อได้อีกไกลประมาณ 30%-40% นั่นเอง และ เราก็รู้อีกว่า ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เราคิด ( ไม่ขึ้นจริง ) เราก็แค่คัทออกมา ขาดทุนนิดหน่อย ตามความเสี่ยงที่เราตั้งไว้นั่นเองครับ พยายามมองเกมการเทรด เป็น "ความน่าจะเป็น" แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นครับ
เพิ่มขึ้น
โดย Real_inwCoin
1
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 14/12/2022แท่งเทียนราย week กำลังลังขึ้นไปทดสอบ แนวต้าน (แนวรับเดิม) ที่ระดับราคา 18500-19000 ถ้าดูภาพใหญ่ แท่งเทียนได้ break แนวต้านเส้นสีขาวแล้ว แต่ยังวิ่งอยู่ในกรอบ falling wedge ซึ่งถ้า break pattern ไอ้อีก มีโอกาสได้ขึ้นไปทดสอบ ema200 ที่ระดับราคาประมาณ 24000 ถ้าดูใน time frame เล็กลงไป จะเห็นว่าราคายังผันผวนตามข่าวที่เกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งจะมีผลกับการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย ของ FED คือถ้าเงินเฟ้อมาก Fed ก็จะขึ้นดอกเบี้ยมาก เฟ้อน้อยก็อาจจะชะลอหรือยังไม่ขึัน ถ้าดอกเบี้ยไม่ขึ้น คนก็ไม่แย่งกันหา dollar ไปฝากกินดอก พอคนไม่แย่งกันหา dollar ค่าเงิน us มันก็อ่อน พอ us อ่อน อะไรที่จับคู่ค่าเงิน us มันก็ขึ้น เช่น bitcoin หรือ คริปโตอื่นๆ สรุปก็จำแค่นี้ เงินเฟ้อ ส่งผลกับ ดอกเบี้ย ดอกเบี้ย ส่งผลกับ dollar dollar ส่งผลกับ crypto พอเมื่อวานตัวเลข cpi ต่ำกว่าที่คาด ทำให้คนประเมินว่าเงินเฟ้อน้อยลง fed ไม่น่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หรือ ถ้าขึ้นก็น้อย ส่งผลให้ราคาคริปโตดีด ยกเว้น BNB โดนข่าวกระหน่ำๆ ส่งสัย อยากจัดโปร 12.12 ขายของถูก ถ้าดูจาก indy macd ยังไม่ตัดลง histogram ยังเขียว ไปต่อได้ rsi ดีมากไม่หลุดแนวรับ storsi ตัดขึ้นสวย จะว่าไปดู ๆ แล้วก็แอบเห็น divergence อยู่เหมือนกัน เป็นนิมิตที่ดีที่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการกลับตัวของราคา **** ช่วงนี้ราคายังวิ่งตามข่าว และค่าเงิน dollar ดังนั้น ช่วงนี้ควรจับตากราฟ dxy เป็นพิเศษ เพื่อเอามาใช้ร่วมกันในการวิเคราะห์กราฟ bitcoin ยังคงลงทุนรวยความระมัดระวังนะครับ
โดย Crypto_itsmylife