ReutersReuters

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองปรับขึ้นหลังดิ่งลงแตะต่ำสุด 2 เดือน

นิวยอร์ค--29 พ.ค.--รอยเตอร์

  • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 5.99 ดอลลาร์ สู่ 1,946.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 2 เดือนที่ 1,936.59 ดอลลาร์ในระหว่างวัน และราคาทองปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการรูดลง 1.53% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า จะมีการบรรลุข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ และราคาทองยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่อยู่สูงเกินคาดในสหรัฐด้วย เพราะตัวเลขดังกล่าวช่วยกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปเป็นเวลานาน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้ประกาศในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค.ว่า เขาได้เสร็จสิ้นจากการจัดทำข้อตกลงเรื่องงบประมาณกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกันแล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าวจะระงับเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐไว้จนถึงวันที่ 1 ม.ค. 2025 และข้อตกลงดังกล่าวพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่การโหวตในสภาคองเกรส ทางด้านสภาคองเกรสจำเป็นจะต้องผ่านข้อตกลงนี้ให้ทันก่อนวันที่ 5 มิ.ย. ในขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ทางกระทรวงจะไม่มีเงินเหลือพอไว้ใช้ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดในวันที่ 5 มิ.ย.

  • ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดขยับขึ้น 0.60 ดอลลาร์ สู่ 1,944.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันศุกร์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดพุ่งขึ้น 0.539 ดอลลาร์ หรือ 2.37% สู่ 23.309 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 1.96 ดอลลาร์ สู่ 1,022.46 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 6.87 ดอลลาร์ สู่ 1,423.51 ดอลลาร์/ออนซ์

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นิยมใช้ ปรับขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี PCE แบบเทียบรายปีปรับขึ้น 4.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากปรับขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. ทางด้านดัชนี PCE พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานปรับขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. ในขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐานแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 4.7% ในเดือนเม.ย. หลังจากปรับขึ้น 4.6% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายปี โดยอัตราเงินเฟ้อนี้ยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% เป็นอย่างมาก และปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อราคาทอง

  • เทรดเดอร์คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาสเพียง 33.7% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และมีโอกาส 66.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลลบต่อราคาทอง เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย

  • ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 104.23 ในช่วงท้ายวันศุกร์ ซึ่งเท่ากับระดับในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี หลังจากแข็งค่าขึ้นแตะ 104.42 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. โดยดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นจาก 3.815% ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี สู่ 3.859% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. และปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันเช่นกัน--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้