ReutersReuters

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองปรับลงขณะดอลล์ยังคงอยู่ในระดับสูง

นิวยอร์ค--18 ก.ค.--รอยเตอร์

  • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับลง 2.67 ดอลลาร์ สู่ 1,706.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลง 2% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 108.00 ในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยปรับลงจาก 108.57 ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี แต่ยังคงเคลื่อนตัวอยู่ใกล้ระดับ 109.29 ที่ทำไว้ในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2002 หรือจุดสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนในช่วงนี้ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ในขณะที่นักลงทุนกังวลกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

  • ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดขยับลง 0.1% สู่ 1,703.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดดิ่งลง 0.306 ดอลลาร์ หรือ 1.66% สู่ 18.690 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 6.93 ดอลลาร์ สู่ 850.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดดิ่งลง 68.42 ดอลลาร์ หรือ 3.61% สู่ 1,828.68 ดอลลาร์/ออนซ์

  • นายจิม วิคคอฟ นักวิเคราะห์ของบริษัทคิทโค เมทัลส์กล่าวว่า "ราคาทองได้รับแรงกดดันจากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่นักลงทุนที่เคยกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อ ได้หันมากังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยแทน และปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลให้อุปสงค์ร่วงลงในโลหะหลายประเภท ซึ่งรวมถึงทอง" ทั้งนี้ บล.ทีดีระบุว่า การดิ่งลงของราคาทองในช่วงนี้ส่งผลให้ราคาทองเข้าใกล้ระดับในช่วงก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาด และมีความเสี่ยงที่การเก็งกำไรเป็นจำนวนมากในราคาทองจะเริ่มได้รับแรงกดดันจากการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนมิ.ย. หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนพ.ค. ส่วนยอดค้าปลีกแบบเทียบรายปีทะยานขึ้น 8.4% ในเดือนมิ.ย. และยอดค้าปลีกในตอนนี้อยู่สูงกว่าแนวโน้มในช่วงก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาดราว 18% ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดค้าปลีกอาจปรับขึ้นเพียง 0.8% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน ทั้งนี้ รายงานตัวเลขยอดค้าปลีกนี้ช่วยลดความกังวลที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในเร็ว ๆ นี้ แต่รายงานดังกล่าวไม่ได้ทำให้นักลงทุนปรับเปลี่ยนความเห็นที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตอย่างเฉื่อยชาในไตรมาส 2

  • นักลงทุนจับตาดูแผนการของสหภาพยุโรป (อียู) ในการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 7 ซึ่งครอบคลุมการสั่งห้ามการนำเข้าทองจากรัสเซีย อย่างไรก็ดี นายวิคคอฟกล่าวว่า "มาตรการคว่ำบาตรของอียูจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่ออุปสงค์และอุปทาน เพราะว่ารัสเซียจะสามารถขายทองให้แก่ประเทศอื่น ๆ" แทนที่จะขายให้แก่อียู--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้