วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564ใกล้ผ่านพ้นเดือนแห่งความรักขยับสู่เดือนถัดไป เดือนนี้ทองคำโดนกระหน่ำทุบราคาจนเกือบเตี้ยเรี่ยดิน ก่อนจะเหินหน้ามองฟ้าได้อีกครั้ง จากการที่อัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และเงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลง ส่งผลทองคำกลับมายืนที่สินทรัพย์ปลอดภัยได้อีกครั้ง
ทองคำปรับบวกขึ้นกลับมาอยู่ในแดน 1,800 ดอลลาร์ต่อออนได้อีกครั้ง หลังจากวานนี้ได้ทำจุดสูงสุดใกล้กับจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ระดับ 1,815.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เราได้เห็นการกลับมาของทองคำเป็นขาขึ้นอีกครั้ง แต่ยังงัยผมก็ยังมองว่าการขยับกลับขึ้นมานั้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าทองคำจะกลับเป็นขาขึ้นได้แล้วจริงหรือ ซึ่งผมได้วิเคราะห์ก่อนหน้าแล้วว่าหากจะมองว่าทองคำจะปรับเป็นขาขี้นให้เราได้เบาใจหรือวางใจได้จริง ต้องขยับสูงกว่า 1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือต้องขยับไปในในในบริเวณ Supply zone ก่อนและสามารถตั้งราคาที่บริเวณนั้นได้ ถึงจะมีความมั่นใจได้มากขึ้นว่าทองคำจะกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง ทั้งนี้เชื่อได้ว่าทองคำต้องได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดอีกครั้ง จากเหตุผลหากเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำอีกต่อไป มันก็จะส่งผลให้มีความสุ่มเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อ ทำให้กดดันดอลลาร์ได้อีกครั้ง แต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่าทองคำยังผลต่ำลงเพราะเหตุผลของพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้กดดันราคาทองคำต่อเนื่องหลุดจาก 1,800 ดอลลาร์ต่อออน์ ก่อนจะกลับมายืนเหนือได้อีกครั้ง วันนี้ยังคงต้องเฝ้าติดตามคำแถลงการณ์ของ ปธ.เฟด เวลา 22:00 น.อีกครั้ง เป็นวันที่สอง และติดตามตัวเลขยอดขายบ้านใหม่สหรัฐ เดือนมกราคม เวลาเดียวกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
หากราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นเหนือบริเวณแนวต้าน 1,813-1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง ทองคำก็อ่อนตัวลงทดสอบแนวรับเดิมที่ 1,800-1,804 นักลงทุนจึงติดตามราคาในบริเวณดังกล่าว แนะนำให้เราราคาอ่อนตัวหากทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,813-1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหาจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับบริเวณ 1,800-1,804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งยังคงเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,813-1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือได้ หากปรับตัวขึ้นไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน
วันนี้แนะนำให้เน้นเปิด Long position โดยรอจังหวะการย่อตัวบริเวณแนวรับสำคัญๆ ต่างๆ
แนวรับแนวต้านทองคำระยะสั้น
-----------------------------------
Resistance : 1,816 / 1,827 / 1,847
-----------------------------------
Support : 1,804 / 1,795 / 1,788
-----------------------------------
*การลงทุนทองคำมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงมิได้เป็นเครื่องมือการันตีผลตอบแทนจากการลงทุนได้ 100% นักลงทุนจึงควรระมัดระวังการใช้ข้อมูลดังกล่าวให้รอบคอบก่อนเสมอ
Xpowerteam
ทองคำภาคค่ำ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เย็นนี้ไม่อยากพูดถึงสาเหตุทองคำปรับตัวต่ำแล้ว เพราะรู้กันแล้วว่าเพราะอะไร แต่มาพูดถึงสาเหตุใหม่ๆ กันดีกว่านะครับ ทองคำตอนนี้โดนรุมเร้ากดดันกันเรียกว่าเกือบจะรอบด้าน แทนที่เมื่อภาวะกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อในอนาคตจะกลับมาหนุนทองคำอีกรอบตามที่พวกเราคาดหวัง ตลาดนักลงทุนดันไปให้ความสนใจสกุลเงินดอลลาร์ซะงั้น ทำให้ทองลดต่อเนื่อง ยังกู่ไม่กลับเลยเวลานี้ ยิ่งตอกย้ำเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันยังกดลงห่างจากเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันชัดเจนแบบนี้ ก็หมดแรงจะหวังว่าใกล้ๆ จะกลับไปรับชาวดอยลงจากเขา งานนี้ถ้ายังถลำลึกจนเลยเถิดเกิน 1,712 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขอบอกก่อนเลยว่า ตัวใครตัวมันละครับ ใครจะขอเมียคนแรกหรือคนต่อไป รอซื้อทองเก็บราคาถูกๆ ไว้เลย (ขออย่าให้เงินบาทอ่อนมากก็แล้วกัน) เอาละมาดูประเด็นใหม่ๆ กันดีกว่า ได้รับข่าวจาก website ของ BelnCrypto ได้ออกมารายงานว่า รัฐซูคหนึ่งในรัฐของสวิตเซอร์แลนด์ ได้เริ่มให้ชำระภาษีด้วยสกุลเงินบิตคอยน์และเงินอีเธอร์แล้ว ซึ่งได้ร่วมมือกับบริษัทบิตคอยน์ สวิส (Bitcoin Suisse) มาทำหน้าที่แปลงเงินที่ได้รับชำระภาษีในรูปแบบของเงินบิตคอยน์มาเป็นเงินฟรังก์สวิสให้กับรัฐซูค มันเลยส่งผลให้นักลงทุนส่วนหนึ่งหันไปให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับการลงทุนบิตคอยน์ในยามนี้ เลยทำให้มันกลับมากดดันทองคำให้ลดความน่าสนใจในการลงทุนลง แต่กระนั้นทองคำก็ยังจัดว่าเป็นสินทรัพย์ชั้นดีในยามไม่ปกติ จะให้หันหลังกันไปเลยทีเดียวก็คงจะไม่ใช่ เพียงแต่ทองคำตอนนี้มันส่งสัญญาณภาวะขาลงออกมาได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเรามอง EMA50 ที่ถอยห่างออกจาก EMA200 วันแบบนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่าทองจะลงไปถึงไหน หรือจะถึง 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามที่เขาว่ากัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำค่ำนี้
ทองคำแม้ปรับตัวขึ้นได้บ้างจากการอ่อนตัวลงของ Bond yeild 10 year และ Dollar Index แต่ก็เป็นเพียงการอ่อนตัวลงในระยะสั้น จึงทำให้แรงซื้อทองคำเข้ามาในระดับจำกัด หากทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,773-1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น แนะนำให้เปิดสถานะ short เพื่อทำกำไรระยะสั้นอีกครั้ง ให้พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับ 1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังหลุดต่ำลงไปได้อีกก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวรับถัดไปอยุ่ที่ 1,755 ดอลาร์ต่อออนซ์ (แนวรับจาก FIBO แนวรับของราคาไม่มีในระยะกำหนดนี้) และให้ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทวิเคราะห์ทองคำว 18 กุมภาพันธ์ 2564 (Gold analysis 18-02-21)สวัสดีทองคำและเพื่อนนักลงทุนทองคำทุกๆ ท่าน วันนี้มาช้าไปหน่อย ด้วยอาการช่วงเช้าค่อนข้างอ่อนเพลียนึกว่าจะมาเขียนไม่ไหว ได้ดื่มน้ำสมุนไพรไปแก้วสองแก้วก็ฟื้นตัวได้อีก กลับนั่งหน้าจอทำตามหน้าที่เดิมกันอีกครั้ง ทองคำวานนี้ปิดปรับตัวร่วงหล่นมาพอสมควร โดยปิดตลาดลดลงไป 18.10 ดอลลาร์ต่ออออนซ์ ซึ่งการร่วงของทองคำวานนี้เนื่องจากช่วงค่ำของเมื่อวานมีการประกาศค่าตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สำคัญๆ ออกมาก ซึ่งตัวเลขที่ออกมาก็ดีเกินคาดการณ์ เช่นยอดค้าปลีกที่ออกมาแข็งแกร่ง 5.3% ในเดือน ม.ค. โดยมาจากการหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่ได้จ่ายเงินเยียวยาให้กับชาวอเมริกันเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังการแพร่ระบายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระรอกที่สองเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในทางด้านตัวเลขของ PPI ก็ออกมาดีเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนมกราคม ถือว่ามากสุดในรอบ 11 ปีเลยทีเดียว ปัจจัยดังกล่าวจึงหนุนให้ดอลลาร์กลับมาแข็งแกร่งและแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ซ้ำยังไปกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อขายในตลาดหุ้นเมื่อคืนเช่นกัน ทางด้านพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ก็ยังคงแกว่งตัวในบริเวณไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ทังหมดนี้จึงเป็นที่มาของการกดดันทองคำในตลาดวานนี้ให้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับวันนี้ตลาดการเงินและการลงทุนของจีนได้เปิดทำการวันแรกหลังหยุดยาวมากว่า 3 วันทำการ ก็อาจจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดทองคำได้บ้างในภาคเช้าของตลาดฝั่งเอเซีย ด้วยราคาทองคำที่ต่ำลงจึงอาจเป็นแรงจูงใจให้เกิดการเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้นได้ แต่ก็ต้องเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของ Dollar index และ Bond yield 10 year รวมทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นด้วย วันนี้ติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจดังนี้
1. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
2. การอนุญาตก่อสร้างและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน
3. ดัชนีภาคการผลิดจากเฟดฟิลาเดลเฟีย
กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองทองคำลง -3.79 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้น 1,132.89 ตัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,784-1,795 ได้นั้น ทองคำอาจถูกขายออกมาทำกำไรอีกครั้ง โดยมีแนวรับที่ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง Short เมื่อราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ และให้พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับเหนือ 1,800) สำหรับนักลงทุนที่มีคำสั่งซื้อ Long เก็บไว้ให้ทยอยปรับลดขนาดการลงทุนเมื่อทองคำขึ้นสู่บริเวณแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ แล้วอาจมาเปิดฝั่ง short เพื่อปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนลงไปบ้างบางส่วน สำหรับนักลงทุนที่ยังต้องการเสี่ยงเข้าเปิดคำสั่ง Long ต้องมีจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจนทุกครั้ง
แนวรับ แนวต้าน
Resistance : 1,789 / 1,795 / 1,803
----------------------------------
Support : 1,779 / 1,774 / 1,764
----------------------------------
แนวโน้มทองคำวันนี้
Time frame H1 = Downtrend
Time frame H4 = Downtrend
Time frame DAY = Downtrend
Time frame Week = Uptrend
Time frame Month = Uptrend
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการอ้างอิงค่าสถิติในอดีตถึงความเป็นไปได้ในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำกำไรจาการลงทุน 100%
วิเคราะห์ทองคำภาคค่ำ 17 กุมภาพันธ์ 2564 (XAUUSD)ทองคำภาคค่ำวันนี้ถือว่าวันนี้ทั้งวันยังไม่ใช่วันดีของทองคำ จากการแข็งค่าของดอลลาร์ต่อเนื่องจากวานนี้ โดยปัจจัยหลักๆ ก็มาจากอัตราผลตอบแทนพันธ์บัตรสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 1.30% และวันนี้มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาในทิศทางที่ดี จากการที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเร่ิมมีผู้ป่วยรายใหม่ลดจำนวนลงหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปก่อนหน้าแล้วนั้น ทำให้ตลอดทั้งวัน Dollar index ดูแข็งแกร่งมาก ขณะที่เขียนอยู่ Dollar กำลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงใหม่อีกครั้งที่ $91.00 ก็ไม่ต้องบอกนะครับว่าน้องสาวทองของเราจะไปในทิศทางไหนต่อ
สำหรับทองคำวันนี้มีการทำจุดต่ำสุดใหม่จากก่อนหน้าเป็นที่เรียบร้อย และยังมีแรงขายกดดันราคาทองคำออกมาต่อเนื่องจากผลประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อช่วงสองทุ่มที่ผ่านมา ทำให้ทองคำเคลื่อนตัวปรับลงต่ำอีกครั้ง โดยหากราคาทองคำยังสามารถประคองราคาไว้ได้ที่บริเวณแนวรับ 1,774-1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีโอกาสที่ทองคำจะปรับฐานราคาขึ้นไปที่บริเวณแนวต้าน 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดต่ำจากแนวรับดังกล่าว ก็จะมีแนวรับทดสอบที่ 1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตรงนี้เป็นจุดต่ำสุดของปีที่แล้วเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ก็ต้องมาดูว่าตลาดยังคงมองโอกาสฝั่งหมีอีกทั้งคืนหรือไม่
สำหรับแนวต้านสำคัญจะมีบริเวณ 1,784-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ต้องรอให้ทองคำเคลื่อนตัวขึ้นเหนือบริเวณนี้ไปก่อน ถึงจะมองโอกาสว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำคืนนี้
หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,774-1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราอาจมีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นเพื่อกลับไปทดสอบแนวต้าน 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเราอาจเสี่ยงเปิดคำสั่งซื้อเน้นเก็งระยะสั้น และปิดทำเป้าหมายกำไรที่แนวต้าน 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากว่าราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือไปได้ (ตัดขาดทุนหากหลุดต่ำกว่า 1,766) สำหรับคำแนะนำการเทรดที่เหมาะสมคืนนี้อยากให้เน้นเปิดคำสั่งขาย (Short) โดยมองหาโอกาสเมื่อทองคำเคลื่อนตัวทดสอบแนวต้านสำคัญแล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ เราอาจเปิดคำสั่งขาย (Short) ที่บริเวณดังกล่าว โดยยังคงให้เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น และมองหาโอกาสปิดทำกำไรจากแนวรับสำคัญต่างๆ
แนวรับ แนวต้าน (Support & Resistance)
Resistance : 1,797 /1,803/ 1,812
------------------------------------
Support : 1,774 /1,764/ 1,752
------------------------------------
ทองคำ 17/02/21 (Gold Analysis 17/02/21)สวัสดีทองคำพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ครับ เมื่อคืนถือว่าเกิดการร่วงทองคำที่แรงพอสมควรอีกครั้งหนึ่ง ทำเอาทองคำปิดลงมาต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนทอง สาเหตุอันเนื่องมากจากการแข็งแกร่งของพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับเพิ่มอัตราผลตอบแทน ส่งผลให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นทดสอบใกล้ๆ จุดสูงสุดก่อนหน้าที่ระดับ 90.70-90.73 และยังปรับขึ้นเหนือ EMA200 วันขึ้นไปด้วย
เช้านี้ทองคำยังปรับย่อต่อเนื่อง โดยมีแนวรับบริเวณ 1,789-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถปรับตัวต่ำลงจากแนวรับดังกล่าวได้ก็จะทำให้ราคาทองคำมีโอกาสกลับไปทดสอบแนวรับจุดต่ำสุดก่อนหน้าเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ระดับราคา 1,785 (1,784.79)ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่องในวันนี้ อาจลงมาได้ต่ำสุดถึง 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งมองว่าเป็นเป้าหมายทำกำไรของวันนี้
ในส่วนของ Dollar ก็ปรับขึ้นเหนือ EMA200 เพื่อทำจุดสูงสุดใหม่บริเวณแนวต้าน 90.70-90.73
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นไปจากแนวรับบริเวณ 1,789-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น จะมีการขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง กดดันทองคำให้กลับลงไปทดสอบแนวรับ 1,785 และ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำจังหวะที่ราคาปรับฐานขึ้นไม่หลุดจาก 1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดคำสั่งขาย (Short) โดยเน้นเก็งกำไรระยะสั้น เป้าหมายพิจารณาที่ระดับต่ำสุดก่อนหน้า 1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังปรับตัวตำ่ลงไปก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรออกไปก่อนบ่างส่วน โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับขึ้นเหนือ 1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน (Support & Resistance)
------------------------------------
Resistance : 1,797 / 1,803 / 1,812
------------------------------------
Support : 1,785 / 1,779 / 1,774
------------------------------------
แนวโน้มทองคำวันนี้ = ทองคำยังปรับตัวลดลงในระยะสั้นเพื่อทำจุดเป้าหมายใหม่ (จุดต่ำสุดใหม่)
Time frame H1 = Downtrend
Time frame H4 = Downtrend
Time frame DAY = Downtrend
Time frame WEEK = Uptrend
Time frame MONTH = Uptrend
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดพิจารณาและใช้วิจารณญาญให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นการนำค่าสถิติจากอดีตมาเพื่อแสดงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคตเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำกำไรที่ถูกต้อง 100%
บทวิเคราะห์ทองคำ 16 กุมภาพันธ์ 64 (Gold analysis 16/02/21)สวัสดีทองคำวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 หลังผ่านมาวันจันทร์ที่แสนเหงาหงอยเนื่องจากปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำค่อนข้างซบเซาจากการที่ตลาดการเงินการลงทุนของสหรัฐฯ และจีนปิดทำการลงไป สำหรับภาคเช้าวันนี้ทองคำก็ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด สาเหตุที่มาจากปริมาณการซื้อขายที่หายไปจากตลาดบางส่วนของประเทศจีนที่ยังคงปิดทำการตลาดการเงินและการลงทุนถึงวันพุธนี้ การปรับตัวขึ้นที่ค่อนข้างจำกัดนั้นมีแนวต้านบริเวณ 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ราคาอาจปรับขึ้นไปทดสอบได้ แม้ว่าเมื่อวานทองคำจะพยายามปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,828-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ราคาทองคำก็ไม่สามารถขึ้นไปถึงบริเวณดังกล่าวได้ เพราะยังติดแนวต้าน 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รวมทั้งปริมาณการซื้อขายที่ไม่มากพอ
วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีที่ต้องติดตามเวลา 17:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่อาจส่งผลกระทบกับ Dollar index คือ German ZEW Economic Sentiment คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 59.7 จากระดับก่อนหน้าที่ 61.8 หากตัวเลขออกมาก็จะส่งผลให้ Dollar Index อ่อนตัวลงไปในระยะสั้นได้อีก ช่วงจังหวะดังกล่าวมีโอกาสที่ Dollar index จะทำจุดต่ำสุดใหม่ได้หรือไม่ก็ต้องดูตัวเลขที่ออกมาก่อน ประเด็นนี้จึงควรติดตาม
สำหรับทองคำด้วยแรงซื้อที่ค่อนข้างจำกัด สลับแรงขายออกมาเป็นระยะๆ หากช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,820-1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้นั้น นักลงทุนอาจเทขายทองคำออกมาทำให้เกิดการอ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวแนวรับที่บริเวณ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากว่ามีแรงซื้อเข้ามาหนุนตลาดได้ในวันนี้ ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่บริเวณ 1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการทดสอบแนวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (EMA200) ด้วย โดยประเด็นสำคัญจากผลกระทบทองคำวันนี้ก็มีจากคู่สกุล EUR/USD ซึ่งต้องติดตามกันด้วยครับ ถ้าดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้ ทองคำอาจร่วงลงไปถึงแนวรับบริเวณ 1,807-1,9809 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
- Long Position ภาคเช้าวันนี้ทองคำอาจเคลื่อนไหวออกทางข้าง (Sideway) ให้รอจังหวะย่อตัวของทองคำลงมาแถวๆ 1,817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ที่บริเวณดังกล่าวก็อาจเสี่ยงเปิดคำสั่งซื้อ โดยให้เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายพิจารณาทำกำไรอยู่ที่บริเวณ 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถหลุดแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ซึ่งจะมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,828-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา)
- Short Position ภาคเช้าควรรอให้ราคาทองคำหลุดแนว 1,817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมาก่อน จึงเสี่ยงเปิดคำสั่งขายที่บริเวณดังกล่าว ให้เน้นการทำกำไรระยะสั้นเช่นกัน เป้าหมายพิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวรับ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับขึ้นเหนือ 1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้านทองคำ (Resistance & Support) Time frame H1
Resistance : 1,824 / 1,828 / 1,833
--------------------------------------
Support : 1,810 / 1,800 / 1,795
--------------------------------------
แนวโน้มทองคำวันนี้
Time frame H1 = Downtrend
Time frame H4 = Downtrend
Time frame DAY = Neutral
Time frame WEEK = Uptrend
Time frame MONTH = Uptrend
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบการทำการลงทุนหรือเปิดการซื้อขายทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตเพื่อกำหนดค่าความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นการยืนยันความถูกต้อง 100%
***การวิเคราะห์เป็นเพียงการแสดงโอกาสการลงทุนของนักลงทุน ไม่ได้เป็นเครื่องชี้นำโอกาสทำกำไรของนักทุนเสมอไป โปรดพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ
Gold Analysis, Monday 15 February 2021สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเทศกาลวันแห่งความรัก คงจะมีความสุขกันนะครับ สำหรับเพื่อนๆ นักลงทุนชาวเหมืองทองคำก็ต้องมาดูกันต่อว่าตลอดทั้งสัปดาห์นี้ทองคำจะกลับไปสู่แดนบวกช่วงตลาดขาขึ้น (Uptrend) ได้อีกหรือไม่ หลังปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวต่ำเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นรับเศรษฐกิจฟื้นตัวของสหรัฐฯ แต่นักลงทุนก็ยังคงกังขาตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งก็ยังคงไม่ชี้ชัดว่าดอลลาร์จะแข็งค่าได้ตลอดกาลอีกหรือไม่ หากพิจารณาจากกรอบ 4 ชั่วโมงของ Dollar index จะเห็นว่าการปรับตัวของ Dollar Index ยังคงปรับตัวขึ้นในระดับจำกัด ราคาปรับตัวขึ้นทดสอบ EMA200 แต่ก็มีแท่ง rejection แสดงถึงการอ่อนตัวลง หากไม่มีข่าวดีอะไรเกี่ยงกับสหรัฐฯเข้ามาช่วงสัปดาห์นี้ Dollar Index อาจกลับไปอยู่ด้านล่างอีกครั้งที่แถวๆ $90.35
สำหรับทองคำสัปดาห์นี้ หาก Dollar Index ไม่แข็งค่าขึ้นไปอีก ก็มีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบ EMA200 วันได้อีกครั้งหรือบริเวณแนวต้าน 1,828-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำสามารถปรับตัวเหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น เราจะได้เห็นแรงซื้อกลับเข้าสู่ตลาดทองคำได้อีกครั้ง ซึ่งเป้าหมายอาจเคลื่อนไหวราคาตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1,833 / 1,839 และ 1,847 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดก่อนหน้า แต่ถ้าหากราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือบริเวณแนวต้าน 1,828-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการทำกำไรระยะสั้น ตามรอบระดับการเคลื่อนตัวของราคาทองคำออกมาอีกครั้งเพื่อปรับฐานราคาและสะสมกำลังซื้อใหม่ ซึ่งมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,817-1,819 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าหากแรงขายทำกำไรออกมาไม่มากนักเราคงคาดการณ์ว่าราคาทองคำคงจะกลับมาปรับฐานที่บริเวณแนวรับดังกล่าว สำหรับกรณีที่แรงขายกลับสู่ตลาดทองคำอีกครั้ง การย่อตัวของราคาอาจจะหลุดแนวรับระยะสั้น โดยเราจะมีจุดเฝ้ามองที่บริเวณแนวรับ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดต่ำสุดของราคาทองคำก่อนหน้า (1,810)
กลยุทธ์การเทรดทองคำวันนี้
1. นักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงสูงแนะนำให้เข้าซื้อทองคำระยะสั้น หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้าน 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ และพิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,828-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถผ่านบริเวณดังกล่าว อาจพิจารณาชะลอการปิดทำกำไรพอร์ตลงทุนบางส่วนออกไปก่อน ซึ่งแนวต้านถัดไปคือ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
2. นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย อาจรอการย่อตัวของราคาทองคำบริเวณแนวรับ 1,817-1,819 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถยืนได้ที่บริเวณราคาดังกล่าว ให้พิจารณาเสี่ยงเข้าซื้อทองคำโดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น และให้ปิดทำกำไรเมื่อราคาทองคำกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,828-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไป หากสามารถผ่านขึ้นไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวต้านถัดไปคือ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับ 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ-แนวต้าน (TF: H1)
Resistance : 1,825 / 1,829 / 1,833
Support : 1,819 / 1,810 / 1,803
แนวโน้มทองคำวันนี้
Time frame H1 = Downtrend
Time frame H4 = Downtrend
Time frame Day = Uptrend
Time frame Week = Uptrend
Time frame month = Uptrend
วันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบการทำการลงทุนหรือเปิดการซื้อขายทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตเพื่อกำหนดค่าความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นการยืนยันความถูกต้อง 100%
***การวิเคราะห์เป็นเพียงการแสดงโอกาสการลงทุนของนักลงทุน ไม่ได้เป็นเครื่องชี้นำโอกาสทำกำไรของนักทุนเสมอไป โปรดพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ
ทิศทางทองคำพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 (เช้า)ทองคำช่วงเช้ามืดวันนี้ปิดทำการตลาดทองคำนิวยอร์ก ปิดบวกไป $3.3 ซึ่งเป็นการปิดบวก 3 วันติดต่อกันแล้วหลังนักลงทุนขานรับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดน ที่จะออกมาเร็วๆ นี้ ซึ่งคาดกันว่าจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อจากมาตรการดังกล่าว เกิดแรงกดดันให้สกุลดอลลาร์ปรับร่วงลงหลังจาก rebound กลับขึ้นมาได้เพียงไม่กี่วัน
สำหรับทองคำเช้านี้ยังมีทิศทางปรับตัวขึ้นในฝั่งของตลาดเอเซีย โดยเคลื่อนไหวในแดนบวกตามตลาดสหรัฐฯที่ปิดบวกไปวานนี้ ทั้งนี้ราคาทองคำอาจปรับบวกในกรอบจำกัดช่วงเช้านี้ โดยมีบริเวณแนวต้านระยะสั้นที่ 1,838-1,842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าวขึ้นไปได้ ก็จะไปทดสอบที่ 1,848 แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้เกิดแรงขายสลับออกมาทำกำไร ซึ่งมีแนวรับระยะสั้น ที่บริเวณ 1,832-1,838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับดังกล่าวลงไป แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,828 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนะนำให้รอการอ่อนตัวของราคาบริเวณ 1,832-1,838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดแนวรับดังกล่าวก็ให้เสี่ยงเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น โดยพิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้าน 1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถปรับขึ้นเหนือบริเวณดังกล่าวได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,828 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณก่อนการลงทุนให้รอบคอบทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติในอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการลงทุน 100%
ทองคำ 9 Feb.21 (ภาคเช้า)ทองคำภาคเช้าวันนี้ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามการอ่อนค่าของ Dollar Index ซึ่งหากพิจารณาจากกราฟของ US.Dollar Index จะเห็นว่าราคาได้เคลื่อนตัวลงใกล้จุดกลับตัวของราคาเพื่อปรับฐานอีกครั้ง จึงสอดคล้องกับตลาดทองคำที่ราคายังพยายามเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อยู่ขณะนี้ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น อาจเกิดการอ่อนตัวของราคาเพื่อปรับฐานสะสมกำลังซื้ออีกครั้ง โดยประเมินแนวรับที่บริเวณ 1,830-1,831 และแนวรับถัดไปที่ 1,822 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำการเทรดช่วงเช้าวันนี้ หากราคาทองคำเกิดการอ่อนตัวของราคาลงมาบริเวณ 1,830-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิดคำสั่งซื้อที่บริเวณดังกล่าว หากราคาไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ โดยให้เน้นการทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้านเดิม 1,838 และ 1,845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดุนหากราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,822 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ทิศทางทองคำค่ำคืนนี้ (8 Feb.21)ทิศทางทองคำภาคค่ำวันนี้จ้า.....
ทองคำแม้จะฟื้นกลับจาก $1,800 ก็ตาม หลังการลดทอนของสกุลดอลลาร์จากตัวเลขเศรษฐกิจ NFP เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่การลดทอนของสกุลเงินดอลลาร์ก็เป็นเพียงช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น โดยดอลลาร์ยังคงทรงตัวเหนือระดับ 91 จุด โดยมาจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณในวันศุกร์ที่ผ่านมา และปัจจัยหนุนที่ทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อดอลลาร์อีกเวลานี้นั้นสะท้อนจากข้อมูลของ CFTC ที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์พบว่าเทรดเดอร์ถือสถานะขายสุทธิดอลลาร์สหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ สะท้อนคาดการณ์เชิงบวกมากขึ้นในดอลลาร์ การฟื้นตัวของทองคำจึงยังอยู่ในกรอบจำกัด สถานะการณ์การเทรดทองคำตอนนี้ขอให้ติดตามความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เพิ่มเติม
สำหรับการเคลื่อนไหวทองคำช่วงตลาดภาคค่ำวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวออกด้านข้าง (Sideway) เพื่อปรับฐานสะสมกำลัง ซึ่งถ้าราคาทองคำไม่หลุดโซนบริเวณ 1,808-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,830-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้เสี่ยงเข้าซื้อทองคำระยะสั้น หากสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,803-1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยพิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1,830-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทิศทางทองคำวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ทองคำสุดสัปดาห์นี้ (ศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564)
ที่สุดราคาทองคำก็หลุด 1,800 ลงมาได้ ขณะที่เขียนอยู่นั้นราคาอยู่ท่ี 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งก็ไม่ได้เกินคาดหมายอะไรนัก เพราะตัวเลขเศรษฐกิจก่อนหน้าที่ออกมาดีเกินคาดก็เป็นแรงหนุนให้ดอลลาร์กลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำเริ่มหมดความน่าสนใจในเวลาทำให้ราคาร่วงลงแรงหลุด 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมาได้ในที่สุด
สำหรับกรอบรายวันที่มองเห็นได้นั้น จะเห็นว่าทองคำยังคงพยายามลงไปทดสอบที่จุดต่ำสุดก่อนหน้าที่ระดับราคา 1,764.22 (30/11/63) หากมองความเป็นไปได้นั้นก็ต้องรอดูผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสองตัวคือ
1.การจ้างงานนอกภาคการเษตร (NFP : Non-farm payroll) โดยตัวเลขก่อนหน้าที่ระดับ -140K คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 50K เวลา 20:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
2.อัตราการว่างงาน เดือน ม.ค. (Unemployment Rate) ตัวเลขก่อนหน้าที่ระดับ 6.7% คาดการณ์ที่ระดับ 6.7% เวลา 20:30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
หากสองตัวเลขที่กล่าวมาออกมาดีเกินคาดก็จะส่งผลสะท้อนต่อดอลลาร์ให้ปรับตัวแข็งขึ้นได้ ตรงนี้จึงเป็นสาเหตุที่อาจกดดันราคาทองคำให้กลับไปที่จุดต่ำสุดก่อนหน้าได้นั่นเอง แต่หากตัวเลขออกมาแย่ ทองคำอาจกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (EMA200) ได้อีกครั้ง โดยต้องผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ระดับ 1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปให้ได้ก่อน
โดยส่วนตัวผมหากสัปดาห์นี้ยังไม่มีข่าวที่จะเข้ามาหนุนทองคำให้กลับขึ้นไปเหนือ 1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้นั้น อาจจะมีแรงขายทำให้ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,764-1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งช่วงราคานี้อาจกินเวลาในการเคลื่อนไหวไม่น้อยกว่า 2 เดือน ถ้าไม่มีปัจจัยรุนแรงเข้ามาส่งผลกระทบกับตลาดทองคำมากพอ
กลยุทธ์การเทรดทองคำวันนี้
ให้รอจังหวะราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านก่อนหน้าที่ระดับ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถขยับขึ้นสูงจากระดับราคาดังกล่าว ทองคำอาจปรับตัวต่ำจากการทำกำไรของนักลงทุนอีกรอบ โดยมีแนวรับที่ 1,787 และ 1,775 ตามลำดับ หากราคาทองคำสะท้อนแรงขายเข้าตลาดมากพอนั้น ก็มีสิทธิ์ที่ราคาทองคำจะปรับตัวทดสอบจุดต่ำสุดก่อนหน้าที่ 1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวอาจเก็บไว้พิจารณาปิดทำกำไรได้ การเทรดให้เน้นคำสั่ง "ขาย" โดยยังให้เก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ NFP, Unemployment Rate ค่ำคืนนี้เวลา 20:30 น.ตามเวลาประเทศไทยด้วย ช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนในตลาดทองคำได้
แนวรับแนวต้านทองคำ : แนวรับสำคัญ 1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์ / แนวต้านสำคัญ 1,803 และ 1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการซื้อขายทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติในอดีต ถึงค่าความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ใช่เป็นเครื่องมือยืนยันถึงความถูกต้อง 100%
สวัสดีเดือนความรัก กับทองคำวันแรกของเดือนกุมภาพันธ์ 64ทองคำจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
เช้านี้ตลาดเอเซียทองคำปรับตัวต่อเนื่องในกรอบเวลา 4 ชั่วโมงราคาทองคำขยับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (1,862 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขยับขึ้นเหนือที่บริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจมีแรงซื้อเข้ามาหนุนราคาขึ้นขยับทดสอบแนวต้านจุดสูงสุดก่อนหน้าที่บริเวณ 1,877-1,876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่ถ้าหากราคาทองคำไม่สามารถทำ Breakout เส้น 200 วันได้นั้น มีโอกาสที่นักลงทุนจะทยอยทำกำไรที่บริเวณดังกล่าวออกมาอีกครั้ง โดยจะมีแนวรับแรกระยะสั้นที่บริเวณ 1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ต้องมาดูว่าราคาจะกลับมาพักฐานที่บริเวณดังกล่าวได้หรือไม่ หากราคาทองคำพักฐานปรับตัวที่บริเวณดังกล่าวได้ชัดเจนนั้น จะมีแรงซื้อกลับมาหนุนเพื่อทำราคากลับขึ้นทดสอบแนวต้านที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันอีกครั้ง แต่กรณีที่ราคาหลุดแนวรับ 1,847 ลงไปได้นั้น ยังมีแนวรับสำคัญที่ 1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกแนวหนึ่ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำภาคเช้า
หากราคาไม่สามารถทำ breakout เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นไปได้ ให้รอจังหวะย่อตัวเพื่อเก็บสะสมทองคำอีกครั้งที่บริเวณ 1,847 และ 1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ โดยเน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นที่แนวต้านบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หรือที่ 1,865-1,862 ดอลลาร์ออนซ์
**การลงทุนมีความเสี่ยงควรใช้วิจารณญาณให้ถี่ถ้วนรอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานความน่าจะเป็นจากค่าในอดีตถึงเหตุการณ์ต่อไปในอนาคต จึงไม่สามารถการันตีถึงความถูกต้องได้ 100% จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
สวัสดีทองคำ 29 มกราคม 2564ห่างไปพอสมควรหลังต้องซ่อมบำรุงร่างกาย ต้องเข้ารับการผ่าตัด เมื่อร่างกายพร้อมก็ค่อยๆ เข้ามาทำในสิ่งที่ตัวเองรักอีกครั้ง กับการแบ่งปันประสบการณ์ในตลาดการลงทุนต่อไป
วานนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูจะถดถอยหลายรายการ โดยเฉพาะ GDP ไม่เกินคาดหมายทำให้ดอลลาร์อ่อนตัวลงในช่วงแรกหลังข่าวออก ก่อนจะถูกดอลลาร์กลับมาแข็งอีกครั้งกดดันทองคำร่วงลงปิดระยะที่เพิ่มขึ้นเอาทั้งหมด เล่นเอาสายสวิงเทรดเมามันเทรดสนุกกันสองฝั่ง ทำกำไรกันไม่จบทั้งคืน หลังเที่ยงคืนกลับมานอนนิ่งกราฟไม่ขยับจนถึงช่วงเช้าวันนี้ โดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ 1,845-1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์
มาดูทางเทคนิคเย็นนี้กัน ถ้าราคายังไม่ขยับเหนือ 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างเด่นชัด อาจจะมีการทำกำไรระยะสั้นออกมาอีกรอบ ซึ่งหากเป็นในรูปแบบนี้ผมขอแนะนำให้รอซื้อเก็บ 2 โซน คือ
- โซนระยะสั้นที่ 1,831-1,836 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (คาดว่าราคาจะพักช่วงสั้นตรงบริเวณนี้ก่อนกลับขึ้นไปในรอบแคบๆ พอจะทำกำไรได้ช่วงสั้นๆ 1 รอบ)
- โซนเก็บของ 1,817 - 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โซนนี้น่าสนใจ หากสามารถรับราคาไม่หลุดไปที่จุดต่ำสุดของวันที่ 18 มกราคม 2564 ที่ผ่านมาที่ระดับ 1,802.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาทองคำจะปรับขึ้นทางเทคนิคสไตล์เก็บของเข้ามาทำกำไรกันอีกรอบ โดยมีแนวต้านที่ระดับราคา 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทริกเล็กน้อยเพื่อทำกำไร แนะนำให้เล่นในรอบช่วงย่อของราคา วันนี้ขา BUY ไม่แนะให้ถือยาว ส่วนขา Sell มองหาแนวต้านเดิมหากยังไม่สามารถเหนือได้ ก็มีโอกาสที่จะหลุดลงมาได้อีก โดยยึดแนวรับสำคัญจากจุดต่ำสุดก่อนหน้าไว้เป็นแนวพิจารณาทำกำไร
ทิศทางทองคำภาคเช้า 21 ธันวาคม 2563ทิศทางทองคำเช้าวันนี้ราคาปรับตัวขึ้นทดสอบระดับราคาสูงสุดของสัปดาห์ก่อนที่ 1,896.18 อีกครั้ง ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ประเมินหากราคาทองคำยังมีแรงซื้อเข้ามาหนุนต่อในภาคเช้าวันนี้ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นเหนือ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่ต้องมีแรงซื้อที่มีปริมาณมากพอ และราคาทองคำต้องปิดเหนือระดับราคาสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้าก่อน (1,896.18) คาดการณ์ว่าหากราคาทองคำสามารถขึ้นทดสอบ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเกิดการเทขายทำกำไรออกมาอีกครั้งที่บริเวณดังกล่าว จึงควรระมัดระวังในการเข้าทำการซื้อขายที่บริเวณดังกล่าวด้วย แนะนำให้รอราคายืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ชัดเจนก่อน จึงหาโอกาสเข้าเปิดคำสั่ง "ซื้อ" ได้ใหม่อีกครั้ง สำหรับใครที่มีออเดอร์ก่อนหน้าแล้ว ก็ให้บริหารพอร์ตสมดุลย์ที่บริเวณดังกล่าว หากหลุดจากการย่อต่ำกว่า 1,896.18 ลงไปมากให้พิจารณาตัดขาดทุน หรือปิดกำไรบางส่วนออกไปก่อน
แนวรับ แนวต้านทองคำ (ระยะสั้น)
------------------------------------
Support : 1,879 / 1,866 / 1,847
------------------------------------
Resistance : 1,896 / 1,900 / 1,97
------------------------------------
=====================================================
*การลงทุนมีความเสี่ยง ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐานจากค่าในอดีตถึงปัจจุบัน ถึงความน่าจะเป็นไปได้ในอนาคต จึงมิได้เป็นการการันตีหรือเป็นเครื่องมือยืนยันการลงทุนที่ต้องถูกต้องเสมอไป
ทิศทางทองคำศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2563ทองคำศุกร์ที่ 4 ธ.ค.63
สวัสดีศุกร์หรรษาแรกของเดือนสุดท้ายประจำปี 2563 มาดูกันครับว่าทองคำของวันนี้จะมีทีท่าอย่างไรต่อไป หลังจากคืนนี้ราคาทองคำปรับย่อตัวลงจากระดับ 1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงสู่ระดับต่ำสุดของวันที่ 1,823.64 ซึ่งการลดลงของราคาเกิดจากค่าตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกออกมาดีเกินคาด 712K vs. 775K แต่สุดท้ายราคาก็สามารถกลับสู่ช่วงบวกได้อีกครั้ง ก่อนปิดรอบวัน โดยปิดที่ 1,840.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวันนี้ต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ Non-farm ในเวลา 20:30 น.
กลยุทธ์การเทรดสำหรับช่วงเช้าวันนี้ ตลอดทั้งวันคาดว่านักลงทุนยังชะลอการลงทุนทองคำบางส่วนเพื่อรอผลประกาศ NFP ในค่ำคืนนี้ ประเมินว่าเช้านี้ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงย่อของราคาแถวๆ แนวรับบริเวณ 1,833-1,832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากแนวรับดังกล่าวยังสามารถรับราคาของทองคำไว้ได้นั้น ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำปรับย่อหลุด 1,832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา แนวรับถัดไปคือ 1,817 และ 1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนะนำให้เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเมื่อราคาย่อลงตามแนวรับสำคัญๆ ต่างๆ และพิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้าน 1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถขึ้นยืนเหนือได้ก็ให้ชะลอการทำกำไรออกไปก่อน โดยมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับแนวต้านทองคำ
---------------------------
Support : 1,832 / 1,817 / 1,806
Resistance : 1,841 / 1,850 / 1,861
**การลงทุนมีความเสี่ยง จึงควรใช้ดุลยพินิจให้เหมาะสมกับการลงทุน
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้การันตีว่าจะถูกต้อง 100%
ทิศทางทองคำค่ำนี้ทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ปรับลดลงต่ำกว่า 5 สัปดาห์นั้น โดยทองคำยังคงมีทิศทางขาขึ้น ซึ่งตลอดระยะการปรับตัวก็ยังมีการแบ่งขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะตามแนวรับและต้านสำคัญๆ ต่างๆ
ประเมินแนวรับว่าราคาทองคำยังคงย่อตัวเล็กน้อยบริเวณ 1,833-1,832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังสามารถยืนได้ที่บริเวณดังกล่าว ก็มีโอกาสที่จะกลับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
กลยุทธ์การเทรด แนะให้รอราคาย่อตัวในแนวรับบริเวณ 1,833-1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทรงตัวได้บริเวณดังกล่าวค่อยหาโอกาสเข้าซื้อ โดยเน้นย้ำให้ทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ ก็ให้ปิดทำกำไรที่บริเวณดังกล่าวไปก่อน
ทิศทางทองคำประจำวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 (ภาคเช้า)ทองคำพุธที่ 2 ธ.ค.63
สำหรับราคาทองคำวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 นั้น หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นทดสอบยืนเหนือแนวต้าน 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็จะเป็นการปรับตัวขึ้นหลุดแนวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้อีกครั้งสำหรับกรอบเวลา 1 ชม. โดยมีแนวต้านเป้าหมายต่อไปที่บริเวณ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ราคาทองคำจะปรับตัวลงอีกครั้งประเมินแนวรับไว้ที่ระดับราคา 1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งตรงนี้หากแนวรับดังกล่าวไม่สามารถรับราคาของทองคำไว้ได้นั้น ราคาทองอาจย่อลงไปที่บริเวณแนวรับ 1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับกลยุทธ์การเทรด นั้นก็ให้รอราคาทดสอบแนวต้าน 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันกับ EMA200 หากราคาไม่สามารถผ่านได้ ใครที่ยังรอจังหวะขึ้นของราคาให้รอราคาทองคำย่อตัวลงไปบริเวณ 1,806 -1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคากลับมาทรงตัวที่บริเวณนี้ได้ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง
แนวรับแนวต้านทองคำ
Support : 1,806 / 1,797 / 1,784
Resistance : 1,818 / 1,833 / 1,840
ถึงเวลาที่ทองคำจะเป็นขาลง? (Downtrend?)ทองคำขาลง?
วานนี้ทองคำดิ่งลงถึง 34.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าทองคำเองจะพยายามทรงตัวแถวๆ 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แต่ก็มีการทิ้งตัวดิ่งแรงหลังจากตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น "เกินคาด" สู่ระดับ 56.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ
74 เดือน และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้น "เกินคาด" เช่นกันสู่ระดับ 57.7 ซึ่งก็เป็นระดับสูงสุดในรอบ 68 เดือน จึงเป็นปัจจัยเร่งดอลลาร์ที่อ่อนค่าฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 92.016 สู่ระดับ 92.51 จึงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ และนอกจากนี้ทองคำยังถูกกดดันจากความคืบหน้าเชิงบวกเกี่ยวกับวัคซีนต้าน covid-19 ที่ทางแอสตร้าเซนเนเก้าเปิดเผยว่า วัคซีนที่บริษัทพัฒนาร่วมกับ ม.อ็อกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัส Covid-19 จึงเกิดแรงกดดันให้มีการเทขายทองคำออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญลงไปได้ ด้านกองทุน SPDR ปล่อยขายทองคำออกมา -7.00 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้น 1,213.17 ตัน
ปัจจัยติดตามสำคัญวันนี้เกี่ยวกับทองคำ
- การเปิดเผยดัชนีราคาบ้านโดย S&P/CS
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB
- ดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์
กลยุทธ์การเทรดทองคำวันนี้
เนื่องจากราคาทองคำยังไม่หยุดทำจุดต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า แต่ก็สังเกตได้ว่าการอ่อนตัวของทองคำก็ค่อนข้างจำกัดลงหลังราคาทองคำลดลงทำให้ราคาการเข้าซื้อของนักเก็งกำไรระยะสั้นเสี่ยงเข้ามาในตลาดอีกครั้ง แต่ก็เป็นไปในระดับจำกัดเช่นกัน จึงเน้นว่าให้นักลงทุนหาโอการเข้าเสี่ยงเปิดคำสั่งขาย หากราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นเหนือแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1,846-1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าถ้าราคาไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ก็จะมีการเทขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง จึงเป็นเหตุให้ราคาทองคำกลับมาอ่อนตัวได้อีก
แนวรับแนวต้านทองคำ
----------------------------------
Support : 1,821 / 1,805 / 1,789
----------------------------------
Resistance : 1,847 / 1,863 / 1,876
----------------------------------
**การลงทุนมีความเสี่ยงการวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานจากความน่าจะเป็นในอดีตต่อเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงไม่สามารถการันตีว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้น 100%