XBTUSD
คริปโตยังคงขาขึ้นจริงหรือหลังจากที่ราคาบิทคอยทำจุดสูงสุด และราคาเกิดการร่วงอย่างรุนเเรง และดูเหมือนการเปิดตัว Bakkt ยิ่งทำให้ราคาร่วงต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดคำถามกับหลายคนที่เทรดคริปโตว่าเรายังอยู่ในขาขึ้นจริงหรือไม่
สำหรับวันนี้จะพามาดูกราฟภาพรวมของวงการคริปโต หรือ Crypto Market Cap ทีดูเหมือนหลังจากที่ผ่านช่วงพีคไปแล้ว เราได้เข้าสู่ระยะคอลเลคชั่นที่ยาวนานและดูเหมือนยังไม่สิ้นสุดสักที ถ้าหากมองจากกราฟจะสังเกตเห็นว่าเรากำลังเข้าสู่ช่วง คอลเลคชั่นประเภท Double correction ที่หากเกิดจะทำให้เกิดที่ยาวนานและสามารถขยายตัวเป็นTriple correctionได้อีกด้วย แต่เนื่องจากจุดที่กราฟอยู่ในปัจจุบัน มีโอกาสที่จะเกิดการกลับตัวได้ทุกเมื่อ จากสัญญาณการนับเวฟที่ใกล้สิ้นสุด และRAI เข้าสู่จุดต่ำสุดใกล้เคียงจุดที่จบขาลงครั้งก่อนอีกด้วย และเข้าสู่ฟิบ 61.8 อีกด้วย ทำให้จุดนี้สามารถเกิดการรีบาวกลับได้ทุกเมื่อ หรือกราฟสามารถเกิดการยืดและลงต่อได้ หากการรีบาวไม่สามารถผ่านจุดเวฟสี่ย่อยไปได้และไปดูที่ฟิบ 76.8อีกที
สำหรับคำแนะนำในการเล่นบาย สายเล่นสั้น สามารถเล่นได้สั้นๆได้และดูแนวโน้มอีกที ส่วนการลงทุนระยะกลางและยาว ควรรออีกหน่อย จากการคอนเฟิมเวฟ 12 ภายในอีกที
นอกจากนี้อย่าลืมจัดการความเสี่ยงด้วยนะครับ ไม่สนับสนุนให้เล่นแบบเทหมดหน้าตัก และ ไม่มี stop limitนะครับ
โชคดีสำหรับการเทรดแล้วพบกันใหม่ครับ
ราคาปิดแท่ง Daily ใต้ EMA120 Daily เป็นครั้งแรก ในปีนี้เนื่องจากวันนี้ ราคามีการกดหลุด EMA120 Daily ในช่วงค่ำ ทำให้ต้องมาประเมินสถานการณ์ใหม่ โดยผมได้แยกส่วนการมองขึ้น และมองลง ออกมา ตามเงื่อนไขดังนี้
BTC Downside Possibilities
=======================
1) ราคาปิด Daily ใต้ EMA(120)
2) MACD หันหัวกลับลงต่อ
3) RSI หลุด trendline สำคัญ และลงต่อได้อีกเยอะมาก
4) หลุดสามเหลี่ยมด้านเท่า
5) Bakkt fail อย่างรุนแรง
6) ยังอีกนานกว่าจะ halving ( เกือบปี )
7) ADX trend ลงเริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น
8) EMA18 และ EMA120 จะตัดกัน
9) Action Zone ยังไม่เขียว และ Strategy ทุกตัวที่ทำไว้ยังไม่บอกให้เข้า
Upside Possibility
===============
1) ยังไม่หลุดแนวรับ 9400 และยังไม่ปิดแท่งต่ำกว่า low ก่อนหน้า
2) ยังไม่หลุดสามเหลี่ยมฐานเรียบ
3) Week ยังไม่ confirm ขาลง
4) ราคามักจะดีดหลังจากวันหมดสัญญา future
5) Halving ปีหน้า
6) ย่อไปก็ยังมีแนวรับ 8500
==========================
สรุป
==========================
หลังจากนั่งประเมินสถานการณ์ ก็พบว่า มุมมอง downside ค่อนข้างจะมีน้ำหนักมากกว่า upside ทำให้ อาจจะต้องทำการ ลดความเสี่ยง ของ position BTC spot ที่เข้าไว้ ออกครึ่งนึง
โดยจะออกหมดเลย 100% ถ้าไปปิดแท่ง Weekly ใต้ EMA(18) ในวันจันทร์หน้า
รอบนี้จะทยอยเข้าอีกที ถ้าหากว่า Daily เริ่มมีสัญญาณกลับตัว เช่น bullish divergence หรือถึงแนวรับ fibo สำคัญแล้วไม่ลงต่อ
วิเคราะห์มุมมอง BTC สำหรับ Q4 2019 และ Q1-Q2 2020สำหรับ BTC ช่วงใกล้ปิดสัญญา XBTU19 ( Sep 2019 ) ที่กำลังจะปิดในวันที่ 27 นี้ .. พอเรามาดูกราฟย้อนหลังของ XBTU19 ... ผมก็ไม่แปลกใจเลยครับ ที่เราจะโดนดองราคาไม่ให้ไปไหนกันมานาน
สัญญา Bitcoin Future ของ Bitmex series U19 เปิดให้เทรดกันมาตั้งแต่วันที่ 15 Mar 2019 ตอนนั้นราคา BTC ยังอยู่แค่ 3800 เอง
หลังจากนั้น เจ้าก็ลากราคาขึ้นมา เรื่อยๆ โดยมา peak สุดตอนก่อนปิด Q2 ช่วงเดือน June 2019 ตอนนั้นลากกันไปถึง 14k ด้วยพลังเม่าเสริมด้วย .. ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่า สัญญา June 19 นี่ก็น่าจะเปิดให้เทรดแถวๆ 15 Dec 2018 ซึ่งตอนนั้น BTC กำลัง Sideway อยู่ในกรอบสะสม 3200-4200 พอดี
=================
ดังนั้น การที่มีการทุบแรงทุบหนัก ในช่วง 2-3 วันนี้ ก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะคนที่ถือ U19 กันมาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะพวกที่ถือ Long กันมาตั้งแต่ราคาต่ำๆ.. ก็ต้องปิด Long ( ขาย ) เพื่อ รับรู้กำไร กันก่อนจะถึงวัน settlement นั่นเอง
=================
ดังนั้น ถ้ามองกันต่อ ในอนาคต สัญญา Z19 ( รูปสอง ) ก็จะเห็นว่า... ตอนนี้ BTC เข้าสู่ช่วงสะสมกันอีกแล้ว
และถ้าเกิดว่า เจ้าอยากจะขายให้ได้ราคาดี ก็จะทำไง ? ง่ายนิดเดียว ก็ต้องลากขึ้นต่อขึ้นไปน่ะสิ ลากให้ทะลุ high เดิม ลากให้ทะลุ 20k ขี้คร้านเม่าก็จะแห่กันเข้ามาาตามแล้ว
ถึงตอนนั้น พอใกล้ๆ หมดสัญญา เดี๋ยวก็ค่อยทุบกันอีกรอบ
===============
อ้าว แล้วเจ้า กดราคาลง ไม่ง่ายกว่าเหรอ? .. เอาจริงๆ เจ้าก็คงอยากกดราคาลงน่ะแหละ แต่การกดราคาลง มันทำกำไรยากกว่าการลากขึ้น เพราะกดลงไป เม่าที่ไหนจะเข้ามาซื้อล่ะ จริงไหม เพราะเม่าซื้อได้แค่ด้าน long ด้านเดียว สู้ลากขึ้นไปล่อเม่า จะง่ายซะกว่า
ยิ่งราคาขึ้นไปสูงๆ ชันๆ เม่ายิ่งชอบ เพราะเม่าที่ดี ต้องเข้าที่ยอด.. ช่วงราคานิ่งๆ แบบนี้เม่าไม่กล้าเข้า 555
================
ก็ลองดูแล้วกันนะครับ ว่ามันจะเป็นอย่างที่ผมคิดหรือเปล่า
ถ้าให้ผมฟันธง วิเคราะห์จากสัญญา Future ผมว่า ราคาแถวนี้ คือจุดที่น่าเข้าซื้อ BTC ครับ
BTC ใกล้ระเบิดเต็มแก่แล้ว คาดว่าไม่เกินสองอาทิตย์ จะเลือกข้างจาก ประสบการณ์ ของผม ที่ผ่านมา เวลาที่ BB ( Bollinger Band ) มันเริ่มบีบๆ แคบๆ และวิ่งเป็นเส้นตรง
โดยเฉพาะตรงปลายๆ สามเหลี่ยม
หลังจากนั้นมันมักจะมีการเลือกทิศทางที่รุนแรงนะครับ .. ต้องระวังกันด้วย
รอบนี้ เราก็ไม่รู้หรอก ว่ามันจะ break ขึ้น หรือ break ลง
แต่ถ้าดูจากเส้น EMA 120 และราคาที่ยังสามารถยืนเหนือเส้นได้ .. ส่วนตัวผมมองว่า มันน่าจะมีโอกาสทะลุขึ้นไปประมาณ 60% ครับ
อย่างไรก็ดี ทุกๆ ท่านก็ควรเตรียมรับมือการเคลื่อนไหวที่รุนแรงกันไว้ด้วยนะครับ
===================
1) ควรงดเทรด margin ด้วย position ใหญ่ๆ หรือ leverage เยอะๆ โดยเฉพาะการเทรดปิงปองตามแนวรับแนวต้าน
===================
* เวลากราฟมันวิ่งแคบๆ เนี่ย มันจะมีคนบางคนที่คิดว่า โอ้ย ตังมันหาง่ายจัง .. ( มันก็ง่ายจริงน่ะแหละ ) ก็แค่เปิด long รอรับที่แนวรับ แล้วไปขายที่แนวต้าน กรอบบน
* พอถึงแนวต้านกรอบบนก็เปิด short ลงมา แล้วค่อยมาขายแนวรับ
* ทำไปแรกๆ ก็อาจจะยังเขินๆ หน่อย แต่พอเทรดไปเทรดมา สักพัก เริ่มได้กำไรง่ายๆ ความโลภ และความมั่นใจ ก็จะเข้ามาครอบงำ
* โดยเฉพาะการที่จะเปิดหน้าตักใหญ่มาก โดยการใช้ leverage ที่สูงมากๆ ( all-in + high leverage )
* ซึ่งปกติแล้ว พอราคามัน break มันก็จะ วิ่ง "สวนทาง" กับไม้ที่เราเข้าเสมอ เช่น
***** ถ้าเรา Long แนวรับ แล้วมันหลุดลง : บางคนก็จะไปถัวสู้ เพราะคิดว่า เดี่ยวมันก็เด้ง... ตรงนี้ก็จะนำไปสู่ความหายนะ
***** ถ้าเรา short แนวต้าน แล้วมันดีดขึ้น : บางคนก็จะไปถัวสู้ เพราะคิดว่า เดี๋ยวมันก็ลง... ตรงนี้ก็จะนำไปสู่ความหายนะอีกเช่นกัน
***** ถ้าเราไปสู้ จนสุดท้าย ..ก็ต้องยอมแพ้ .. ผมเชื่อเลยว่า กำไรที่อุตสาห์ปั้นมาตลอดหลายเดือน จะหายหมด ดีไม่ดีเข้าเนื้อไปด้วยซ้ำ
***** หรือถ้าร้ายกว่านั้น มันลากตอนเราไม่ได้อยู่หน้าคอม แล้วเราไม่ได้ตั้ง stop ไว้ ตั้งแต่ไม้ ถัวตลอดทาง...ก็รับประกันได้ว่า กลับมาอีกที เราจะไม่พบ position ของเราแล้ว เพราะล้างไปเรียบร้อย 5555
===================
2) อย่ากลัวมากจนมือว่าง แบ่งรับแบ่งสู้ ให้มีของติดมือไว้บ้าง ขึ้นก็ดี ลงก็ได้ ไร้กังวล
===================
* หลายๆ คน จะ Bias ทางเดียวเสมอ คิดว่า มันต้องลงแน่ หรือขึ้นแน่
* เอาจริงๆ เราจะไปรู้กับตลาดได้ไงครับว่ามันจะขึ้นหรือลง เพราะเราต้องรอตลาดเฉลยอย่างเดียว
* สิ่งที่เราพอทำได้ก็คือ ต้องบริหารพอร์ต ของเรา ให้เหมาะสมครับ เพราะเป็นแค่สิ่งเดียวที่เรา ควบคุมได้
***** ถ้าเราเชื่อว่าขึ้น ก็ถือไว้ แต่ก็อย่ามั่นใจจัดจน all-in ถือเงินสดไว้บ้าง เวลาคัทจะได้ไม่เจ็บหนัก
***** ถ้าเราเชื่อว่าจะลง ก็ถือเงินสดไว้บ้าง .. แต่ก็ควรมี BTC ติดตัวไว้ด้วย เพราะไม่แน่ มันอาจจะขึ้นก็ได้
* ส่วนเรื่องจะถือเท่าไหร่นั้น ก็แล้วแต่ความเสี่ยงที่เรารับได้ของแต่ละคน เราต้องไปคิดกันเอาเอง..
===================
3) นั่งเฉยๆ อดทนรอ ให้ได้
===================
* ข้อนี้โคตรสำคัญ มือใหม่หลายๆ คนชอบเสพติดการเทรด วันๆ นึงต้องเข้าๆ ออกๆ ให้ได้ ไม่งั้นคันมือ นอนไม่หลับ
* นั่งเฉยๆ รอดูจังหวะกันไม่ค่อยจะเป็น ซึ่งก็ไม่ค่อยแปลกใจครับ เพราะการเทรด มันเสพติด มันเหมือนการเล่นการพนัน
* แต่เราจะต้องหักห้ามใจ และบรรลุเอาชนะตัวเองให้ได้ และทำตามแผน อย่างเคร่งครัด เช่น
***** เราวางแผนไว้ว่าถ้า break ขึ้นก็จะเข้าเพิ่ม ถ้ามันขึ้นจริงก็อย่าไปกลัวและรีบขายหมู ก็ต้องทยอยเข้าเพิ่มและถือต่อเพื่อรันเทรน และต้องนั่งทับมือ ไม่ยอมขาย จนกว่าจะมีสัญญาณขายออกมา ( ซึ่งอาจจะเป็นปีๆ ก็ได้ )
***** เราวางแผนไว้ว่า ถ้ามัน break ลง เราจะออกหมด แล้วค่อยไปรอซื้อตามแนวรับสำคัญ .. ก็ต้องทำให้ได้ และไม่คันมือไปถัวมั่วซั่ว ทั้งๆ ที่ยังไม่มีสัญญาณกลับตัว .. ซึ่งก็ต้องนั่งรอ จนมีสัญญาณซื้อเข้ามาใหม่ ( อาจจะเป็นปีก็ได้เช่นกัน )
ก็ฝากไว้ประมาณนี้นะครับ ลองวางแผนของตัวเองกันดู
ผมเชื่อว่า ถ้าทุกคนมีแผน และทำตามได้ ชีวิตเทรดของคุณก็จะดีขึ้นมากๆ ครับ
เป้า BTC ถ้าทะลุโซน Sideway 9500-11500 ทั้งขึ้นและลงจากที่ผมเทรดมา เมื่อไหร่ที่เราเริ่มมั่นใจในตัวเอง ว่าตลาดต้องเป็นไปอย่างที่เราคิด
แล้วก็จัดหนักจัดเต็ม เพราะเรามั่นใจ ... บางที ตลาดก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้
เพราะตลาดมันคือ Random Walk .. คุณไม่มีวันรู้ล่วงหน้าว่าตลาดจะไปทางไหน
สิ่งที่คุณทำได้ก็แค่คาดการณ์
รอบนี้ก็เช่นกัน คนส่วนใหญ่ มองลงกันหมด
ที่มองลง ก็เพราะว่า indicator ต่างๆ มันชี้หมดว่าจะลง
ซึ่งก็ไม่แปลก ที่คนส่วนใหญ่ ที่ใช้ indicator ช่วยในการตัดสินใจ จะมองลง
แต่ทว่า ตลาดมันไม่ได้วิ่งด้วย "Fact" น่ะสิ
ว่า.. ถ้า indicator ทรงมาแบบนี้ ... แล้วผลลัพทธ์ มันต้องเป็นแบบนั้น
แต่ตลาด มันวิ่งด้วย "Probability" หรือ "ความน่าจะเป็น"
มันอาจจะวิ่งอย่างนั้น หรือไม่วิ่งอย่างนั้นก็ได้ ไม่มีใครรู้
สิ่งที่เราทำได้ ก็คือ การวางแผนการรับมือ ทุก "Possibility" ว่า
ถ้าเกิดเหตุการณ์ นี้ เราจะทำไง
แล้วก็ทำการวางแผนไว้ล่วงหน้า เวลาเหตุการณ์เกิดจริง
เราจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดหน้างานกันอีกที ว่า จะทำไงดีวะ
อย่างรอบนี้ก็เหมือนกัน ผมเชื่อว่า คนที่ดู indicator แล้วมั่นใจว่า "จะลงแน่ๆ"
ก็ทำการขายทิ้งจนหมดพอร์ต ร้ายกว่านั้นคือไป short แบบจัดหนักจัดเต็ม
มีกี่ x ใส่เข้าไปเต็มที่..กะว่า กูจะรวยกันแล้ววะรอบนี้
กลายเป็นว่า บางทีตลาดมันก็ไม่ได้วิ่งอย่างที่เราคิดก็ได้นะ
เพราะจากประสบการณ์ที่ผมเจอมา คือ เมื่อไหร่ ที่คนส่วนใหญ่ คิดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
ตลาด มักจะเล่นสวนกับคนหมู่มาก ...
มันอาจจะไม่จริงเสมอไป แต่ มันค่อนข้างตรงพอสมควร ตลอดปีกว่าๆ ที่ผมนั่งดูไอ้กราฟ BTC บ้าเนี่ย "ทุกวัน"
==========
สำหรับรอบนี้ ผมมองว่า
การขึ้นครั้งนี้ มันก็ยังมองไปไหนไกลไม่ได้หรอก
เพราะมันก็แค่วิ่งในกรอบ sideway เท่านั้นเอง
เรายังบอกอะไรไม่ได้เลยว่ามันจะขึ้นต่อหรือลงต่อ
สิ่งที่เราจะทำได้ก็แค่รอกราฟมันเฉลยแค่นั้น..
โดยผมได้ลองเขียนแผนออกมาดังนี้ เผื่อใครจะสนใจตามครับ
--------------
BTC มุมมองขาขึ้น
--------------
- รอบนี้ จะขึ้นได้ ผมมองว่าต้องปิด Week เหนือ 11500 ขึ้นไป นี่คือเงื่อนไขข้อแรก
- ถ้าวีคหน้าไม่ปิดเหนือ 11500 ก็ sideway กันต่อไปอย่างน่าเบื่อ
- โดยถ้าทะลุ 11500 ไปได้ ก็จะมีเป้าตามแนว fibo ในรูปครับ
- ซึ่ง key resistant อีกจุดที่ต้องปิด daily เหนือให้ได้ก็คือ 12500 ครับ
- ถ้า BTC ไม่สามารถ ทะลุขึ้นไป เราก็คงจะ expect การ sideway ออกข้างไปอีกยาวๆ
-------------
BTC มุมมองขาลง
-------------
- รอบนี้ ถ้าจะยอมลงต่อ ผมว่า ก็ต้องมีการปิดแท่ง Week ใต้ 9500 ลงไป
- แต่สุดท้าย ถึงมันจะปิดต่ำกว่า 9500 ผมเชื่อว่า โซน 8000-9000 น่าจะมีคนรอเข้ากันเพียบ
- และแย่สุดๆ ยังไง เราก็ยังมีแนวรับ 7500 อีก ที่คนก็รอเข้ากันอยู่
- วิธีเล่นก็คือ แบ่งเงินสดส่วนนึง อาจจะสัก 40%-60% เอาไว้รับของสองโซนนี้ครับ
- และถ้ามันลงมาจริง เราก็คงจะ expect การ sideway ในกรอบใหญ่ๆ กันอีกหลายสัปดาห์เลย
-------------
สรุป
-------------
- จริงๆ กฏข้อแรกของคริปโตก็คือ การที่เราต้องใช้เงินเย็น และเป็นเงินที่เอาเข้ามาแล้ว แล้วมันอาจจะเสียไปหมดเลย มาเทรด หรือมาซื้อสะสมครับ
- จริงๆ ต้องนี้คือ risk control ของเรา ซึ่งมือใหม่หลายๆ คนไม่ค่อยจะเข้าใจ และคิดว่า การมาซื้อคริปโต คือ หนทางลัด สู่ความร่ำรวย ซึ่งมันไม่จริงเลยครับ
- จริงอยู่ Bitcoin อาจจะมีโอกาสราคาขึ้นเป็นแสนเป็นล้านเหรียญก็ได้ แต่ในทางกลับกัน มันก็อาจจะลงไปเป็นไร้ค่า หรือเป็นขยะ digital ก็ได้เช่นกัน
- ถ้าเราตั้งต้นด้วย "ความน่าจะเป็น" และควบคุม "ความเสี่ยง" ให้อยู่ในจุดที่เรารับได้ รวมถึงวางแผนรับมือให้ครบทุกความน่าจะเป็น
- ราคามันจะย่อ ลงมา เราก็ไม่เห็นจะต้องไปเครียดอะไรเลย 55555 ก่อนหน้านี้ BTC มันย่อเลวกว่านี้อีก
inwCoin's CDC Action Zone Strategy บอกให้เข้า Long BTC แล้ว!สำหรับ Strategy inwCoin's CDC Action Zone Quick Exit ตัวนี้
จะทำการเพิ่มเงื่อนไขสำหรับเก็บกำไร ในกรณีที่ราคาหลุดเส้น EMA(18) ลงมา
โดยรอบที่ผ่านมา ได้ส่งสัญญาณให้เก็บกำไรไปแล้ว
และล่าสุด.. เมื่อวานที่ผ่านมา ก็ได้มีสัญญาณให้เข้าใหม่อีกครั้งเกิดขึ้น แถวๆ 8150
รอบนี้ ถ้าเชื่อ สัญญาณ เราก็เข้าตามระบบไป ไม่ต้องคิดมาก
ถ้าโดน Stop ก็ค่อยออก ง่ายดี อย่าไปคิดเยอะ
BTC ยังค้างการย่อหนัก ระดับ -30% อยู่ หลังจากนี้ต้องระวังให้มากๆอะไรที่มันขึ้น ไปแบบชันๆ
มันก็ต้องมีการย่อแรง ลงมา สักวันครับ
รอบนี้ ถ้า BTC จะไปต่ออย่าง แข็งแรง
ก็ต้องมีการย่อแรงๆ ลงมาก่อนสักรอบนึง
เพราะที่ผ่านมา มันขึ้นมาตลอด หลายสัปดาห์
จนตอนนี้ น่าจะแรงหมดเต็มที่แล้ว
การพัก เพื่อเติมน้ำมัน ก็เป็นเรื่องปกติ
ในการขึ้น สัปดาห์หน้า
เราน่าจะได้เห็น Bearish Divergence ในระดับสัปดาห์เลย
ดังนั้น ถ้าเราเห็นทรง Bearish Div ระดับสัปดาห์ โอกาสที่มันจะลงต่อก็จะสูงมากๆๆ
เช่นกันครับ
สิ่งที่เราทำได้ ก็คือการ รักษากำไร ให้หายไปให้น้อยที่สุด
โดยคิดแผนรับมือเอาไว้ให้รอบด้านนะครับ
รอบนี้ ถ้ามันแตะ 9,000-10,000
ผมมองว่า น่าจะมีการค่อยๆ ย้อย
ลงมาทดสอบ โซน 6000-7000
เพราะปกติแล้ว BTC มักจะชอบย่อประมาณ -30% ถึง -35%
จากจุดสูงสุดของแต่ละรอบ
แล้วค่อยๆ ไปต่อ ( ดูกราฟ ปี 2017 ได้ครับ )
และ โซน 6-7k ก็เป็นแนวต้านที่เป็นแนวรับ ที่เราควรจะต้องลงมาทดสอบกันสักรอบ
ก่อนที่จะไปต่อได้อย่างแข็งแรง
รวมถึงยังเป็นจุดของ 0.5 fibo และเส้น EMA(18) weekly ด้วย..
( ที่ผ่านมา BTC ชอบย่อลงมาทดสอบ EMA(18) Weekly เสมอๆ )
ดังนั้น การย่อ แรง ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ถามว่า .. แล้วจะเกิดวันไหนล่ะ? เอาแบบเป๊ะๆ ได้ไหม?
ไอ้บ้า ใครถามแบบนี้ขอเบิ๊ดกระโหลกสักที
นี่คนนะ ไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ดินฟ้า จะได้บอกเวลาตกฟากได้ 100%
ไม่งั้น ผมรวยตายห่าไปแล้ว (ว้อย)
สิ่งที่เราทำได้ ก็คือวางแผน รับมือ ให้ครบทุกทาง
เวลาเกิดขึ้นจริง จะได้ทำอะไรได้ถูกนะครับ