XAU/USD: SIDEWAYS DOWN แรงขายกดดันสู่ 4,000📊 Timeframe: H1/Weekly (Swing Trading) | 📉
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2568 | 12:20 น.
📌 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน (FUNDAMENTAL OUTLOOK):
▪️ แรงกดดัน (BEARISH): ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ (USD) ที่ทำสถิติแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม
▪️ อัตราดอกเบี้ย: ความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในเดือนธันวาคมเริ่มจางหายไป (FADED EXPECTATIONS) หลังจากการเปิดเผยข้อมูล NFP ย้อนหลัง ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ
▪️ สภาวะตลาด: แม้จะมีความผันผวน แต่ภาพรวมยังคงเป็นการเคลื่อนไหวแบบ SIDEWAYS ภายในกรอบรายสัปดาห์ โดยมีแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสะสมตัวในโซนล่าง
📌 ภาพรวมแนวโน้มทางเทคนิค H1 (TECHNICAL TREND):
▪️ แนวโน้มหลัก: เป็นทิศทาง SIDEWAYS DOWN โดยราคากำลังเคลื่อนไหวในกรอบสะสมราคา (ACCUMULATION) ระหว่าง 4,000 - 4,100 เหรียญ
▪️ ACTION: จากภาพกราฟ H1 ราคามีการทำโครงสร้างขาลงระยะสั้น (SHORT-TERM DOWNTREND) และกำลังทดสอบแนวรับย่อย โดยมีโมเมนตัมมุ่งหน้าสู่กรอบล่างของโซนสะสม
▪️ RSI: อยู่ในโซนต่ำกว่า 50 (BEARISH TERRITORY) สนับสนุนมุมมองว่าแรงขายยังคงได้เปรียบ
📌 แนวรับและแนวต้านที่ต้องติดตาม (KEY LEVELS):
* แนวต้าน (RESISTANCE):
* R1 (PIVOT): 4,105 เหรียญ (ระดับสำคัญระยะสั้น)
* R2 (MAJOR SUPPLY): 4,145 เหรียญ (ยอด High ก่อนหน้า)
* แนวรับ (SUPPORT - TARGETS):
* S1 (INTERMEDIATE): 4,030 เหรียญ
* S2 (KEY PSYCHOLOGICAL): 4,000 - 4,005 เหรียญ (โซนแนวรับจิตวิทยาแข็งแกร่ง)
* S3 (EXTENSION): 3,985 เหรียญ
🚨 ความเห็นส่วนตัว:
ในวันศุกร์ปิดสัปดาห์ (WEEKEND CLOSE) และราคามีแนวโน้มลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 4,000 เหรียญ
* คำแนะนำ: พิจารณาวางแผนสำหรับ ฝั่งขาย (SELL BIAS) ตามแนวโน้มระยะสั้น โดยรอจังหวะที่ราคาดีดตัวไม่ผ่าน 4,105 หรือ 4,080 เหรียญ
* การบริหารความเสี่ยง: การเทรดในกรอบ 4,000 - 4,100 ต้องระวังการดีดตัวกลับแรงที่แนวรับ 4,000 (REJECTION) ควรคำนวณ LOT SIZE ให้เหมาะสมและตั้ง STOP LOSS ตามสัดส่วนเงินทุน (2-3%) อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันความเสี่ยงช่วงปิดตลาด
Xauusdsignals
วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAU/USD) – กราฟ 2 ชั่วโมง – ?จากกราฟ ทองคำกำลังเข้าใกล้ High Probability POI ซึ่งเป็นโซนอุปทานที่เคยมีแรงขายเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง โครงสร้างตลาดยังคงเป็น:
แนวโน้มขาลง (ทำจุดสูงต่ำลงและจุดต่ำใหม่ต่ำกว่าเดิม)
ราคาเข้าใกล้ โซนอุปทานสำคัญ
สภาพคล่องเหนือโครงสร้างถูกดึงออกไปแล้ว (“$$$”) → มีโอกาสกลับตัวลงสูง
สิ่งนี้สนับสนุน โอกาสในการเปิดขาย (Sell)
🔍 ระดับราคาที่สำคัญ
ระดับราคา / พื้นที่ รายละเอียด
4 125 – 4 150 USD High Probability POI / โซนขาย
4 080 – 4 100 USD โซนตอบสนอง / จุดเข้าออเดอร์
4 040 – 4 025 USD เป้าหมายแรก (รีเทรซ 50%)
3 990 – 4 000 USD เป้าหมายหลัก (โซนสภาพคล่องด้านล่าง)
🎯 เป้าหมายราคา
เป้าหมายหลัก: 4 000 USD
(เส้น “TARGET” บนกราฟ)
หากแรงขายยังมีต่อ:
เป้าหมายถัดไป: 3 975 – 3 960 USD
🛑 การจัดการความเสี่ยง
รายละเอียด ระดับราคา
Stop-Loss เหนือระดับ 4 155 USD (เหนือโซนสภาพคล่อง)
R:R ประมาณ 1:3 – 1:4
📌 สรุปภาพรวม
ราคากำลังรีเทสต์โซนอุปทานที่แข็งแกร่ง
หลังการดึงสภาพคล่องแล้ว มีโอกาสลงต่อสูง
คาดการณ์หลัก: ราคาลงสู่ 4 000 USD
📊 หัวข้อที่แนะนำ:
“ทองคำรีเทสต์โซนอุปทาน — คาดลงต่อสู่ 4 000 USD”
รอทดสอบแนวต้าน $4,150-4,155 ลุ้นทะลุทำ NEW HIGH📊 Timeframe: H1
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2568 | 11:42 น.
📌 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน (FUNDAMENTAL OUTLOOK):
▪️ แรงหนุนต่อเนื่อง: ราคาทองคำยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากความคาดหวังที่ FED จะคงนโยบายผ่อนคลาย (RATE CUT BETS) เนื่องจากคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนออกไปจะออกมาอ่อนแอ
▪️ DXY อ่อนค่า: แนวโน้ม DOVISH ของ FED ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมต่อทองคำ
▪️ ข้อควรระวัง: แม้จะมีแรงหนุน แต่ตลาดกำลังจับตาผลการโหวตของสภาผู้แทนฯ (วันนี้) เพื่อยุติ SHUTDOWN ซึ่งเป็นความเสี่ยงหลักที่อาจทำให้เกิดการขายทำกำไรระยะสั้น
📌 ภาพรวมแนวโน้มทางเทคนิค H4 (TECHNICAL TREND):
▪️ แนวโน้มหลัก: ราคาอยู่ในโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และกำลังสะสมพลังรอบ $4,100
▪️ คลื่นลูกที่ 4: อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ มีการก่อตัวของคลื่นลูกที่ 4 (ELLIOTT WAVE 4) ซึ่งบ่งชี้ว่าราคากำลังเตรียมพร้อมสำหรับคลื่นลูกที่ 5 หากสามารถทะลุแนวต้านปัจจุบันได้
▪️ Resistance Zone: ราคากำลังเผชิญโซนแนวต้านสำคัญที่ $4,150–$4,155 ซึ่งเป็นจุดชี้ขาดทิศทาง (BREAKOUT POINT) สำหรับการวิ่งไปยัง $4,200 และ $4,236
📌 แนวรับและแนวต้านที่ต้องติดตาม:
* แนวต้าน (RESISTANCE):
* R1 (BREAKOUT ZONE): $4,150 - $4,155
* R2 (TARGET): $4,170 / $4,208 / $4,236
* แนวรับ (SUPPORT):
* S1 (NEAR-TERM DEMAND): $4,090 - $4,092 (จุดที่บทวิเคราะห์ระบุให้เป็น BUY ZONE)
* S2 (KEY SUPPORT): $4,059 (แนวรับจากการทะลุครั้งก่อน)
🚨ความคิดเห็นส่วนตัว:
ในสภาวะที่ตลาดกำลังลุ้น BREAKOUT ที่แนวต้าน $4,150 กลยุทธ์ที่สำคัญคือการตั้งรับที่แนวรับที่แข็งแกร่งและกำหนด STOP LOSS ที่เคร่งครัด
* คำแนะนำ: พิจารณาการเข้าซื้อ (BUY) ในจังหวะย่อตัวลงมาใกล้แนวรับ S1 ($4,090 - $4,092) หรือ S2 ($4,059) เพื่อจำกัดความเสี่ยง
* หลักการบริหารความเสี่ยง: การวางแผนสำหรับสถานการณ์ SELL (บริเวณ $4,198 - $4,200 ระมัดระวังหากทะลุ $4,205) กลยุทธ์ COUNTER-TREND ที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด ควรเคร่งครัดเรื่อง Stop losss และ LOT SIZE อย่างยิ่ง
XAU/USD: BREAKOUT! ทะลุแนวต้านสำคัญ มุ่งสู่ $4,120📊 Timeframe: H4 (Swing Trading) | 10 - 14 พฤศจิกายน 2568 |
วันที่: 10 พฤศจิกายน 2568 | 14:18 น.
📌 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน (FUNDAMENTAL OUTLOOK):
▪️ ปัจจัยหนุน (BULLISH): ตลาดยังคงเพิ่มการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของ FED (RATE CUT BETS) หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอลง ซึ่งลดต้นทุนการถือครองทองคำ
▪️ ปัจจัยกดดัน (BEARISH): วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังลงคะแนนเพื่อยุติ US GOVERNMENT SHUTDOWN หากสำเร็จจะลดความกังวลในตลาด (RISK-OFF) และกดดันราคาทองคำในฐานะ SAFE-HAVEN
▪️ ข้อสังเกต: การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก็เป็นอีกปัจจัยที่อาจฉุดราคาลงในระยะสั้น
📌 ภาพรวมแนวโน้มทางเทคนิค H4 (TECHNICAL TREND):
▪️ แนวโน้มหลัก: ราคาทองคำได้ ฟื้นตัวและทะลุแนวต้าน (BREAKOUT) อย่างชัดเจนในช่วงเปิดสัปดาห์ บ่งชี้ถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง (STRONG BULLISH MOMENTUM)
▪️ ทิศทางปัจจุบัน: ราคากำลังทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $4087 และมีเป้าหมายหลักในการทดสอบโซน SUPPLY ถัดไป
▪️ สัญญาณ RSI: RSI อยู่ในโซน OVERBOUGHT (80.93) ซึ่งเตือนถึงความเสี่ยงของการขายทำกำไร (PROFIT-TAKING SELL-OFF) ในระยะสั้น
📌 แนวรับและแนวต้านสำคัญ (SUPPORT & RESISTANCE) H4:
* แนวต้าน (RESISTANCE):
* R1 (KEY ZONE): $4120 - $4144 (โซน SUPPLY หลัก/เป้าหมายถัดไป)
* R2 (MAJOR TARGET): $4166
* แนวรับ (SUPPORT):
* S1 (BREAKOUT LEVEL/DEMAND): $4019 - $4029 (แนวต้านเดิมที่เปลี่ยนเป็นแนวรับ)
* S2 (MID-TERM): $3955 - $3960
* S3 (MAJOR DEMAND): $3920
🚨 ข้อเสนอแนะในการปรึกษาและวางแผน:
ในสภาวะที่ราคาเกิด BREAKOUT และ RSI อยู่ในโซน OVERBOUGHT การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
* คำแนะนำ: หากท่านตัดสินใจเข้า POSITION ในบริเวณราคาที่กำหนด โปรดปรึกษาเพื่อวางแผนบริหารความเสี่ยงในการตั้งค่า STOPLOSS และ LOT SIZE ให้เหมาะสม โดยพิจารณาความเสี่ยงของการดีดตัวกลับ (PULLBACK) จากโซน OVERBOUGHT
ทองคำสะสมพลังรอบ $4,000 รับปัจจัยบวก (US Shutdown/Fed Rate Cut)**📊 Timeframe: H4 (Swing Trading) | 10 - 14 พฤศจิกายน 2568 |**
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2568 | 20:12 น.
**📌 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน (FUNDAMENTAL OUTLOOK) สัปดาห์หน้า:**
▪️ **ปัจจัยหนุนหลัก (BULLISH):** การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ (ONGOING US GOVERNMENT SHUTDOWN) และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในเดือนธันวาคม (จากข้อมูล CONSUMER SENTIMENT ที่อ่อนแอ) หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย (SAFE-HAVEN)
▪️ **ภาวะตลาด:** ตลาดอยู่ในโหมดรอคอย (WAIT-AND-SEE MODE) เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญหลายตัวถูกเลื่อนออกไป
▪️ **ความผันผวน:** แม้จะมีแรงซื้อจากความเสี่ยง (RISK AVERSION) แต่การเคลื่อนไหวของราคาคาดว่าจะยังคงอยู่ในกรอบจำกัด จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ที่ชัดเจนมาผลักดันราคา
**📌 ภาพรวมแนวโน้มทางเทคนิค H4 (TECHNICAL TREND):**
▪️ **แนวโน้มหลัก:** ราคาเคลื่อนไหวในรูปแบบ **สามเหลี่ยมสะสมราคา (SYMMETRICAL TRIANGLE/ACCUMULATION)** ใต้ระดับ $4,000 ซึ่งบ่งชี้ถึงการรอเลือกทิศทางครั้งใหญ่ (MAJOR BREAKOUT)
▪️ **ทิศทางปัจจุบัน:** ราคาดีดตัวกลับมาจากแนวรับด้านล่างของสามเหลี่ยม แต่ยังคงถูกจำกัดโดยแนวต้านของรูปแบบ
▪️ **ความเสี่ยง:** การหลุดแนวรับสำคัญที่ $3,960 ลงไป จะเปลี่ยนมุมมองเป็นขาลง (BEARISH) ในระยะสั้น
**📌 แนวรับและแนวต้านสำคัญ (SUPPORT & RESISTANCE) H4:**
* **แนวต้าน (RESISTANCE):**
* **R1 (TRIANGLE APEX):** $4028 (ระดับแนวต้านของสามเหลี่ยม / โซนที่อาจเกิดการปฏิเสธราคา)
* **R2 (KEY LEVEL):** $4083
* **R3 (MAJOR SUPPLY):** $4144
* **แนวรับ (SUPPORT):**
* **S1 (TRIANGLE BASE/PSYCHOLOGICAL):** $3960 - $3961 (แนวรับหลักของรูปแบบสามเหลี่ยม)
* **S2 (MID-TERM):** $3915
* **S3 (MAJOR DEMAND):** $3883 - $3887 (ระดับ LOW ที่สำคัญ)
**🚨 ข้อเสนอแนะในการปรึกษาและวางแผน:**
ในสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง **การซื้อขายในกรอบสามเหลี่ยมมีความเสี่ยงสูง** การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
* **คำแนะนำจากบทวิเคราะห์:** มีการระบุ KEY AREAS ที่ชัดเจน ($4028 และ $3961) สำหรับการสังเกตการกลับตัวหรือการทะลุ
* **หลักการบริหารความเสี่ยง:** การคำนวณ LOT SIZE ให้เหมาะสมกับทุน (4-6% TP, 2-3% SL) เป็นหัวใจสำคัญ เนื่องจากตลาดต้องการความอดทนในการรอให้ราคาเลือกทาง
ท่านต้องการปรึกษาเพื่อวางแผนบริหารความเสี่ยงสำหรับ **การเข้า SELL** เมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน $4028 หรือ **การเข้า BUY** เมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับ $3961 หรือไม่ครับ?
แรงซื้อฟื้นตัวใกล้ $4,000 ท่ามกลางความกังวลรัฐบาลสหรัฐฯ📈 บทวิเคราะห์ XAU/USD (H1/H4) และปัจจัยพื้นฐาน
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568, 12:27 น.
📌 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน (FUNDAMENTAL OUTLOOK):
▪️ ปัจจัยหนุน (BULLISH): ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (SAFE-HAVEN DEMAND) เพิ่มขึ้นจากความกังวลต่อการปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางภาษี
▪️ คาดการณ์ดอกเบี้ย: ผลสำรวจการจ้างงานที่อ่อนแอลง สนับสนุนการคาดการณ์ว่า FED จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ
▪️ ปัจจัยจำกัด: การเข้าซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (MILD USD BUYING) ยังคงจำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ
📌 ภาพรวมแนวโน้มทางเทคนิค H1 (TECHNICAL TREND):
▪️ แนวโน้มหลัก: ราคาอยู่ในช่วงสะสมพลังและแกว่งตัวในกรอบ (ACCUMULATION AND SIDEWAYS) ใต้ระดับ $4,000
▪️ ทิศทางปัจจุบัน: ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในช่องทางขาขึ้นเล็กน้อย (UPWARD CHANNEL) และกำลังรีบาวด์จากแรงขายเมื่อวาน
▪️ สัญญาณสำคัญ: ตราบใดที่ราคายังไม่สามารถทะลุโซน SUPPLY หลัก ($4015 - $4030) ขึ้นไปได้อย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มระยะสั้นยังคงจำกัด
📌 แนวรับและแนวต้านสำคัญ (SUPPORT & RESISTANCE):
* แนวต้าน (RESISTANCE):
* R1 (NEAR-TERM SUPPLY): $4015 - $4030 (โซน SUPPLY/ระดับ BREAKOUT)
* R2 (MID-TERM): $4048 - $4059 (ระดับที่อาจมีแรงขายหนาแน่น)
* R3 (MAJOR): $4082 - $4092
* แนวรับ (SUPPORT):
* S1 (NEAR-TERM DEMAND): $3942 - $3955 (แนวรับของ UPWARD CHANNEL และโซน DEMAND)
* S2 (MID-TERM): $3902 - $3915
* S3 (MAJOR DEMAND): $3887 - $3900 (โซน DEMAND หลัก)
🚨 ข้อเสนอแนะในการปรึกษาและวางแผน:
ตลาดกำลังแสดงความขัดแย้งระหว่างแรงกดดันระยะสั้น (USD BUYING) และแรงหนุนระยะยาว (SAFE-HAVEN DEMAND) การซื้อขายในโซนสะสมราคานี้มีความเสี่ยงสูง
DXY ฟื้นตัว—ราคาทองคำอยู่ภายใต้แรงกดดันในการขายต่ำกว่า $4000📈 บทวิเคราะห์ XAU/USD (H1) และปัจจัยพื้นฐาน
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568, 12:25 น.
📌 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน (FUNDAMENTAL OUTLOOK):
▪️ ปัจจัยกดดัน (BEARISH): ราคาทองคำอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY RECOVERS)
▪️ ตัวเลขเศรษฐกิจ: รายงานการจ้างงานภาคเอกชน ADP ที่แข็งแกร่งกว่าคาด (เพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่ง) บ่งชี้ถึงความมีเสถียรภาพในตลาดแรงงาน ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มที่ FED อาจคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง
▪️ ความเคลื่อนไหวสำคัญ: มีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ FED หลายท่านในวันนี้ ซึ่งอาจสร้างความผันผวนต่อค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำ
📌 ภาพรวมแนวโน้มทางเทคนิค H1 (TECHNICAL TREND):
▪️ แนวโน้มหลัก: ราคาทองคำกำลังเคลื่อนไหวในกรอบสะสมราคา (ACCUMULATION/CONSOLIDATION) ใต้ระดับจิตวิทยาสำคัญที่ $4,000
▪️ ทิศทางปัจจุบัน: ราคายังขาดแรงผลักดันขาขึ้นที่ชัดเจน (LACK CURRENT UPWARD MOMENTUM) และมีการสะสมตัวอยู่ใต้โซน SUPPLY หลัก (ประมาณ $4020 - $4040)
▪️ สัญญาณสำคัญ: ตามภาพ RSI ยังคงอยู่เหนือ 50 เล็กน้อย แต่การเคลื่อนไหวของราคายังคงถูกจำกัดในกรอบแคบ
📌 แนวรับและแนวต้านสำคัญ (SUPPORT & RESISTANCE):
* แนวต้าน (RESISTANCE):
* R1 (NEAR-TERM SUPPLY): $4021 - $4030 (บริเวณโซน SUPPLY สีแดง)
* R2 (MID-TERM): $4045 - $4087 (ระดับที่อาจเกิดแรงขาย/ปฏิเสธราคา)
* R3 (MAJOR): $4130 - $4140 (โซน SUPPLY หลักด้านบนสุด)
* แนวรับ (SUPPORT):
* S1 (NEAR-TERM DEMAND): $3947 - $3955 (โซน DEMAND สีเขียวอ่อน)
* S2 (MID-TERM): $3925 - $3930
* S3 (MAJOR DEMAND): $3887 - $3910 (โซน DEMAND หลักและระดับ LOW ที่สำคัญ)
* S4 (NEXT TARGET): $3840
🚨 ข้อเสนอแนะในการปรึกษาและวางแผน:
เนื่องจากราคากำลังเคลื่อนไหวในกรอบ (RANGE) และมีปัจจัยพื้นฐานที่กดดัน (USD RECOVERY) ความผันผวนจะสูงมาก หากราคาหลุดออกจากกรอบสำคัญ
* มุมมองจากบทวิเคราะห์: มีการวางแผนสำหรับสถานการณ์ SELL (บริเวณ $4087 - $4089) และ BUY (บริเวณ $3948 - $3946) ซึ่งเน้นการเข้าเทรดที่ขอบของกรอบราคา (RANGE BOUNDARY) และใช้ RISK/REWARD RATIO ที่กำหนดไว้
* คำแนะนำในการบริหารความเสี่ยง: การตั้งค่า TAKEPROFIT และ STOPLOSS ควรคำนวณจากขนาด LOT SIZE ที่เหมาะสมกับ BALANCE บัญชีของท่าน (LOT SIZE MANAGEMENT) โดยยึดหลักการบริหารเงินทุน (CAPITAL MANAGEMENT)
XAUUSD – แผนระหว่างวัน H1: การกวาดสภาพคล่องหรือฐานการกลับตัว?วันที่: 4 พฤศจิกายน 2025
กรอบเวลา: H1
🌐 บริบทของตลาด
ทองคำกำลังรวมตัวอยู่ระหว่าง $3,976 และ $4,006 หลังจากการเคลื่อนไหวที่ผันผวนเมื่อวานนี้
ความเชื่อมั่นของตลาดยังคงผสมผสาน เนื่องจากนักเทรดกำลังชั่งน้ำหนักการฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ กับความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์และเงินเฟ้อที่กำลังดำเนินอยู่
การเคลื่อนไหวล่าสุด: ทองคำฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ $3,975 หลังจากการกวาดสภาพคล่องเล็กน้อยต่ำกว่าช่วงของสัปดาห์ที่แล้ว
ความเชื่อมั่น: เป็นกลางถึงขาขึ้นในระยะสั้น — ความต้องการที่ปลอดภัยยังคงให้ฐานที่นุ่มนวล
เซสชันที่ควรจับตามอง:
เซสชันลอนดอน: คาดว่าจะมีการย้อนกลับและการกวาดสภาพคล่องต่ำกว่าระดับต่ำระหว่างวัน
เซสชันนิวยอร์ก: อาจมีการขยายตัวขึ้นหากโซน $4,000 ยังคงเป็นแนวรับ
อคติมาโคร: ขาขึ้นเล็กน้อยหากราคายังคงโครงสร้างเหนือ $3,980–$3,985; มีโอกาสกวาดสภาพคล่องลงก่อนการกลับตัว
📉 การวิเคราะห์ทางเทคนิค (SMC + โครงสร้างสภาพคล่อง)
โครงสร้างตลาด:
H1 กำลังสร้างช่วงการสะสมระยะสั้นโดยมีสภาพคล่องพักอยู่ต่ำกว่า $3,976 (SSL) และสูงกว่า $4,006 (BSL)
การทะลุและปิดเหนือ $4,005.5 อาจกระตุ้น BOS ระยะสั้น → ผลักดันไปสู่ $4,015–$4,020
ความสอดคล้องของ SMC ที่สำคัญ:
$4,200–4,230 แนวต้านขยาย – อุปทานที่ยังไม่ได้ทดสอบสูงขึ้นหากโมเมนตัมกลับมา
โซนอุปสงค์: $3,978–$3,980 → สอดคล้องกับ FVG + การกวาดต่ำก่อนหน้า
โซนอุปทาน: $4,004–$4,006 → OB ก่อนหน้า + สภาพคล่องสูง
🔑 โซนราคาที่สำคัญ
ประเภทโซนราคา คำอธิบาย
4,006–4,004 🔴 อุปทาน สูงก่อนหน้า + สภาพคล่อง BSL
3,996–3,994 🟡 แนวต้าน โซนปฏิเสธสมดุล
3,986–3,984 🟢 อุปสงค์ OB + ฐานสนับสนุน CHoCH
3,980–3,978 🟢 อุปสงค์แข็งแกร่ง การกวาด SSL + ความสอดคล้อง FVG
3,976–3,974 ⚠️ การกวาดสภาพคล่อง โซนสภาพคล่องลึก / โซนล่าสต็อป
⚙️ การตั้งค่าการซื้อขาย
✅ สถานการณ์ซื้อ 1– การฟื้นตัวจากการกวาดลึก
จุดเข้า: 3,968–3,966
จุดหยุดขาดทุน: 3,960
TP1: 3,988
TP2: 3,996
TP3: 4,004
ตรรกะ: การกวาด SSL ต่ำกว่าช่วง + การบรรเทา FVG → คาดว่าปฏิกิริยาขาขึ้นในช่วงเปิดลอนดอน
🚫 สถานการณ์ขาย – การปฏิเสธอุปทาน
จุดเข้า: 4,010–4,008
จุดหยุดขาดทุน: 4,016
TP1: 3,994
TP2: 3,986
TP3: 3,980
ตรรกะ: ราคากวาดสภาพคล่อง BSL ก่อนหน้าที่สูงกว่า $4,006 → มองหา CHoCH ขาลง + แท่งเทียนยืนยัน M5 ก่อนเข้า
⚠️ การขายแบบสเกล – การสั้นเชิงรุก
จุดเข้า: 4,008–4,009
จุดหยุดขาดทุน: 4,012
TP: 3,998 – 3,990 – เปิด
ตรรกะ: การสเกลที่มีความเสี่ยงสูงที่การพุ่งสภาพคล่องสูงกว่าวัน; ยืนยันการปฏิเสธด้วยการลดลงของปริมาณ
🧠 หมายเหตุ / แผนเซสชัน
ให้ความสำคัญกับการตั้งค่าการซื้อใกล้โซน $3,980–3,984 ในช่วงเปิดลอนดอน
มองหาการกวาดสภาพคล่องก่อนเข้า — หลีกเลี่ยงการเข้าเร็วเกินไป
ในช่วงเซสชัน NY ให้ประเมินใหม่หากทองคำทดสอบโซนอุปทาน $4,004–4,006
หลีกเลี่ยงการซื้อขายมากเกินไป; ใช้ขนาดตำแหน่งที่เล็กลงเนื่องจากช่วงแคบ ($30)
รอการยืนยันการปิด H1 เสมอก่อนที่จะลงมือ
🏁 สรุป
ทองคำยังคงอยู่ในช่วงระหว่าง $3,976–$4,006 แต่โครงสร้างบ่งชี้ถึงอคติขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้นหากกวาดสภาพคล่องต่ำกว่า $3,978 ก่อน
โซนการซื้อที่ต้องการคือ $3,984–$3,986 และ $3,978–$3,980 ในขณะที่ปฏิกิริยาการขายอาจเกิดขึ้นใกล้ $4,004–$4,006
คาดว่าจะมีความผันผวนสูงระหว่างการทับซ้อนของลอนดอนและ NY; ซื้อขายเฉพาะกับการยืนยัน SMC ที่ชัดเจนและการควบคุมความเสี่ยงที่เหมาะสม
ตลาด Sideways จับตาตัวเลข ISM สี่ทุ่ม!⚡️ วิเคราะห์แนวโน้ม XAUUSD (ทองคำ) ⚡️
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 (Timeframe H1)
---
📉 ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental)
* ตลาดเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) มากขึ้น หลังความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน มีทิศทางดีขึ้น (มีการผ่อนคลายมาตรการกีดกันทางการค้า)
* สถานการณ์นี้ส่งผลลบ (Bearish 🐻) ต่อทองคำ เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ลดลง
---
📊 การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical)
* โครงสร้างราคา: ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways (สะสมพลัง) อย่างชัดเจน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณ $4000
* ภาพรวม: การเคลื่อนไหวในกรอบนี้ถูกมองว่าเป็นการ ปรับฐาน (Correction) ในไทม์เฟรมที่ใหญ่กว่า
---
🎯 โซนสำคัญที่น่าจับตามอง
* กรอบแนวต้าน (Supply): $4059 - $4061
* กรอบแนวรับ (Demand): $3917 - $3919
---
🚨 ไฮไลท์สำคัญวันนี้! (High Impact News) 🚨
* ข่าว: US ISM Manufacturing PMI (ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ)
* เวลา: 22:00 น. (สี่ทุ่มไทย)‼️
* ข้อควรระวัง: ตลาดกำลังรอข่าวนี้ คาดว่าจะมีความผันผวนสูงมากในช่วงประกาศตัวเลข!
ความตึงเครียดทางภาษี คือแรงขับเคลื่อนหลักที่หนุนราคาทองคำ📊 บทวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAU/USD) รายสัปดาห์
ระหว่างวันที่ 13 – 17 ตุลาคม 2025
⭐️ สรุปสถานการณ์ล่าสุด
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในเชิงบวกเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.6% ในช่วงการซื้อขายวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง, การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลาย, และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
💬 คำพูดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า “พร้อมขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่” และการตอบโต้จากจีนผ่านการจำกัดการส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ได้สร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) อย่างชัดเจน
---
⭐️ มุมมองตลาด
แรงกดดันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนยังคงอยู่ ขณะที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ยืดเยื้อ ส่งผลให้ความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทองคำจึงยังมีแนวโน้มรักษาโมเมนตัมเชิงบวกไว้ได้เหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์
---
📐 มุมมองทางเทคนิค (กรอบ H4)
จากภาพกราฟ H4 ล่าสุด ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในช่องขาขึ้น (Ascending Channel) โดยมีโอกาสรีบาวด์ต่อหลังจากพักตัวใกล้โซนแนวรับล่างของช่องราคา
- แนวต้านสำคัญ: **4058 / 4100 / 4177**
- แนวรับสำคัญ: **3980 / 3942 / 3895 / 3878**
RSI บนกราฟ H4 ยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ 55–60 ซึ่งแสดงว่าแรงซื้อยังไม่หมด แต่เริ่มมีการพักตัวตามรอบ อาจเห็นการสลับขึ้น–ลงในระยะสั้นก่อนปรับตัวขึ้นต่อ
---
📊 แนวโน้มโดยรวมรายวัน
แนวโน้มหลัก: **ขาขึ้น (Bullish Bias)**
สถานะราคา: **ยืนเหนือระดับจิตวิทยา 4,000 ได้อย่างมั่นคง**
จุดสูงสุดปัจจุบัน: **บริเวณ 4,058 – 4,100 USD/oz**
จุดที่น่าจับตา: การเบรกขึ้นเหนือ 4,100 จะเปิดทางสู่โซน 4,177
---
🧭 ข้อแนะนำการเทรด
- ควรบริหารความเสี่ยงไม่เกิน **2–3% ของพอร์ต**
- ตั้งเป้าหมายกำไรที่ **4–6% ของเงินทุน**
- เลือกขนาดล็อตให้เหมาะสมกับความผันผวนสูงของตลาด
- หลีกเลี่ยงการเปิดสถานะสวนแนวโน้มหลัก
“โอกาสซื้อทองคำเมื่อราคาลดลง” ตั้งเป้าไปที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์การวิเคราะห์กราฟ
กราฟแสดงสถานการณ์ขาขึ้นแบบคลาสสิก ซึ่งราคาได้ผ่านแรงกระตุ้นขาขึ้นอย่างรุนแรง ตามมาด้วยการย่อตัวลงแบบปรับฐาน รูปแบบนี้ชี้ให้เห็นว่าแรงซื้อพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง และการลดลงในปัจจุบันอาจเป็นการหยุดชั่วคราวก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวสูงขึ้นครั้งต่อไป
แนวโน้มหลัก: แท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ที่ต่อเนื่องกันอย่างแข็งแกร่งจนถึงระดับราคาปัจจุบัน บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นที่มีศักยภาพอย่างชัดเจน
โซนแนวรับ: พื้นที่ที่คุณเน้นด้วยสีแดง ซึ่งอยู่ระหว่าง $3,950 ถึง $3,956 เป็นโซนแนวรับระยะสั้นที่สำคัญ ระดับนี้มีความสำคัญเนื่องจากเป็นบริเวณการรวมตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแรงผลักดันขาขึ้นครั้งล่าสุด เป็นโซนที่ผู้ซื้อที่พลาดการเคลื่อนไหวครั้งแรกอาจกำลังรอเข้าตลาด
เส้นทางที่คาดการณ์: ลูกศรที่วาดบนกราฟแสดงแผนการซื้อขายที่ถูกต้องและเหมาะสม: รอให้ราคาทดสอบระดับแนวรับที่ระบุอีกครั้ง หาจุดยืนยันการซื้อ แล้วจึงวิ่งต่อไปตามแนวโน้มขาขึ้น มักเรียกกลยุทธ์นี้ว่า "ซื้อเมื่อราคาตก"
“การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ: โมเมนตัมขาขึ้นพร้อมโซนการปรับฐานที่สXAU/USD (ทองคำสปอต) – โมเมนตัมขาขึ้นพร้อมระดับการปรับฐานสำคัญ
การวิเคราะห์ตลาด
กราฟแสดงให้เห็นถึง ช่องแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยมีการสร้าง จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด ราคาปรับตัวลงหลังจากทดสอบโซน 3,915 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวต้านระยะสั้น ขณะที่มีหลายโซนแนวรับที่ระดับ 3,760 และ 3,700 ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหากเกิดการย่อตัว โครงสร้างราคาแสดงรูปแบบ แรงกระตุ้น–การปรับฐาน–แรงกระตุ้น ที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวต่อเนื่องในฝั่งขาขึ้น
สถานการณ์ขาขึ้น (Bullish Scenario)
หากราคายืนเหนือ 3,760–3,780 ได้ มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบ 3,915 (จุดสูงสุดก่อนหน้า)
หากทะลุแนวต้าน 3,915–3,920 ได้ จะเปิดทางไปยัง 3,960–3,980
สถานการณ์ขาลง (Bearish Scenario)
หากราคาหลุดเส้นแนวรับ (~3,760) อาจมีการปรับฐานลึกลงไปสู่โซน 3,680–3,640 (TP1)
พื้นที่นี้ถือเป็น โซนที่แข็งแกร่งสำหรับการกลับเข้า Buy อีกครั้ง
🎯 เป้าหมายราคา
เป้าหมายขาขึ้นใกล้เคียง: 3,915
เป้าหมายขาขึ้นถัดไป: 3,960 – 3,980
เป้าหมายการปรับฐาน (ขาลง): 3,680 – 3,640 (โซนซื้อ)
ทองคำพุ่งขึ้นไม่สะเทือนจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ วิเคราะห์ราคาทองคำ 13/01/2025 - 17/01/2025
ไฮไลท์✨
ราคาทองคำฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบวันในวันศุกร์ โดยเป็นวันที่สี่ติดต่อกันที่ปรับตัวขึ้น แม้ว่ารายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งก็ตาม ซึ่งทำให้ความกังวลของธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับตลาดแรงงานคลายลงบ้าง แม้ว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นประเด็นที่ผู้กำหนดนโยบายให้ความสนใจ เพิ่มขึ้น 0.69% สู่ระดับ 2,689 ดอลลาร์(ราคาปิด) ก่อนหน้านี้ ทองคำร่วงลงชั่วครู่หลังจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเกิน 200,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานลดลง ตัวเลขเหล่านี้ทำให้ผู้ลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลง เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงสร้างงานต่อไปในขณะที่กระบวนการลดภาวะเงินฝืดดูเหมือนจะหยุดชะงัก ตามรายงานการประชุมล่าสุดของเฟด
วิเคราะห์ราคาทองคำ 13/01/2025 - 17/01/2025
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 เราระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังต่อไปนี้:
🔽แนวต้าน: 2723 , 2758, 2750
🔼แนวรับ: 2640 , 2612 , 2586
ความเห็นเพิ่มเติม หากกวาดสายตามาจากพื้นที่ D1 แนวรับใกล้สุดที่ยังคงรองรับขาขึ้นแข็งแกร่งยังคงมองทีี 2680-2675 โดยเป้าหมายสำคัญยังวางไว้ที่ 2720 หากผ่านได้ จะมีเป้าถัดไปที่ 2758 ก่อนถึงจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2790 ต่อไป
อนึ่งหากสูญเสียแนวรับแรก 2675 อาจไปพบแนวรับถัดไปบริเวณ 2645 - 2635 และ 2600 ในที่สุด
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำยังคงมีแนวโน้มลดลงในช่วงต้นสัปดาห์เช้านี้ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์จากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง แนวโน้มขาขึ้นดูเหมือนจะยังถูกจำกัด
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากลงมาทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่บริเวณ 2,644-2,643 ดอลลาร์ ซึ่งแตะระดับดังกล่าวในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้า ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินน้อยลง โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าเฟดจะระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ท่ามกลางสัญญาณว่าความคืบหน้าในการปรับลดอัตราเงินเฟ้อให้เข้าใกล้เป้าหมาย 2% นั้นหยุดชะงักลง ซึ่งในทางกลับกัน ปัจจัยดังกล่าวยังคงสนับสนุนให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสูงขึ้น และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลง
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะเริ่มชะลอการลงทุน และอาจเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนการตัดสินใจนโยบายที่สำคัญของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนวันพุธนี้ โดยความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ คือการที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ทำให้ผู้ซื้อขายดอลลาร์สหรัฐยังคงต้องตั้งรับ นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ อาจยังคงให้การสนับสนุนราคาทองคำในระดับหนึ่ง อนึ่งนักลงทุนต่างจับจ้องไปที่การเปิดเผยดัชนี PMI ของทั่วโลกเพื่อมองหาโอกาสในระยะสั้น
📊 ปัจจัยทางเทคนิค:
การปรับราคาทองคำทางเทคนิคทำให้ต้องระมัดระวัง ราคามีโอกาสผันผวนสูง
📉จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำที่ต่ำในรอบเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 2,644-2,643 ดอลลาร์ อยู่ในโซนที่มีการซื้อขายหนาแน่น หากการปรับลดต่อไปอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งเป้าไปที่ 2,625 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดประจำเดือนที่บริเวณ 2,614 ดอลลาร์ ตามลำดับ และแนวรับสำคัญที่ 2,605-2,600 ดอลลาร์ หากราคาทองคำทะลุลงมาต่ำกว่า 2,605 ดอลลาร์ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อขายที่มีแนวโน้มจะขาลง และเปิดทางให้เกิดการขาย หรือขาดทุนเพิ่มเติม(Panic sell)
📈ในทางกลับกัน ระดับ 2667 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคทันทีก่อนที่จะถึงระดับ 2,677 ดอลลาร์ ซึ่งหากสูงกว่านั้น ราคาทองคำอาจมุ่งเป้าไปที่การกลับตัวกลับขึ้นไปถึงระดับ 2,700 ดอลลาร์อีกครั้ง การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจขยายไปสู่จุดสูงสุดรายเดือนที่บริเวณ 2,726 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะใกล้ต่อไป
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
Seller ยังคุมเกมส์หลังจากทดสอบ Al ltime high ไม่ผ่าน✍️ ความคิดเห็นเกี่ยวกับราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 9/9 - 13/9/2024
สิ้นสุดสัปดาห์ ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่า 2,500 ดอลลาร์ ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯในสัปดาห์ถัดไป
หลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2,531 ดอลลาร์ได้ ปิดที่ 2,493 ดอลลาร์ ขณะที่การคาดการณ์เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีมากขึ้น / แม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะลดลง แต่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐกลับฟื้นตัวขึ้นเหนือระดับ 101.00 ได้ ทำให้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม หลังจากไม่สามารถทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,531 ดอลลาร์ และร่วงลงมากกว่า 0.80% ในช่วงท้ายของการซื้อขายในอเมริกา รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนสิงหาคมต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ปรับตัวดีขึ้นจากตัวเลขที่ปรับปรุงใหม่ในเดือนกรกฎาคม อัตราการว่างงานลดลง และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้เกิดความลังเลเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 หรือ 25 จุดพื้นฐาน (bps) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือนกันยายน
แนวโน้มทางเทคนิค:
ในกรอบเวลาระยะยาว ด้านเทคนิคยังคงแสดงให้เห็นว่าทองคำกำลังพัฒนาอย่างมั่นคง โดยแนวโน้มหลักคือขาขึ้น เร็วๆ นี้เราจะได้เห็นจุดสูงสุดใหม่ ATH ใหม่ในช่วงปลายปี 2024 แต่ในระยะสั้น ดูเหมือนว่าราคาจะเคลื่อนไหวในเชิงลบ หลังจากที่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรายวันเหนือ 2,520 ดอลลาร์ ราคาได้เปลี่ยนทิศทางและก่อตัวเป็นรูปแบบแท่งเทียนแบบ Bearish engulfing” ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดการเทขายเพิ่มเติม
📌สิ่งที่ควรสังเกต: ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเดิมที่ ATH 2527-2531 ถึง 6 ครั้ง ราคาจึงตอบสนองอย่างรุนแรง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมของการปรับขึ้นราคายังคงแข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ตาม กองทุนขนาดใหญ่และนักลงทุนไม่ต้องการให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้ บางทีอาจจะหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
โมเมนตัมเปลี่ยนเป็นขาลงตามที่ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) แสดง RSI กำลังจะข้ามไปต่ำกว่าระดับกลาง
📉หากราคาร่วงลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดของวันที่ 22 สิงหาคมที่ 2,470 ดอลลาร์ นั่นอาจเปิดช่องให้ราคาลดลงต่อไป Demand zone ถัดไปคือจุดบรรจบของระดับสูงสุดในวันที่ 12 เมษายน ซึ่งกลายเป็นแนวรับ และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันระหว่าง 2,435 ดอลลาร์และ 2,431 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน หากมีแรงซื้อเข้ามาดันราคาขึ้นไปเหนือ 2,500 ดอลลาร์ แนวต้านถัดไปจะเป็นระดับสูงสุดในรอบปีที่ 2,531 ดอลลาร์ หากทะลุผ่านได้ จุดหยุดถัดไปจะเป็นระดับจิตวิทยาที่ 2,550 ดอลลาร์ ตามด้วยระดับ 2,600 ดอลลาร์
จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H2 ช่วงวันที่ 9/9 - 13/9/2024
ระบุพื้นที่สำคัญดังต่อไปนี้:
Resistance: $2505, $2530, 2560
Support : $2470, $2453, $2432
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
ขอให้เทรดเดอร์จัดการเงินทุนของตนให้ดี
- เลือกจำนวนล็อตที่ตรงกับเงินทุนของคุณ
- Takeprofit เท่ากับ 4-6% ของบัญชีเงินทุน
- Stoplose เท่ากับ 2-3% ของบัญชีเงินทุน
- ผู้ชนะคือผู้ที่อยู่กับตลาดนานที่สุด
--------------------------------------
ยังไม่เสียฟอร์มขาขึ้น รอปรับฐานเตรียมทะลุ ATH📊ราคาทองคำ (XAU/USD) ร่วงลงอย่างรวดเร็วกว่า 1.5% ในวันพุธ หลังจากแตะใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การร่วงลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลง และตอกย้ำความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้ลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมาก ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อทองคำ
แม้จะเป็นเช่นนี้ ความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางก็ช่วยจำกัดการร่วงลงของทองคำ เทสแนวรับระดับ 2,438 ดอลลาร์ เช้านี้เริ่มฟื้นตัวขึ้นประมาณ 10 ดอลลาร์จากระดับต่ำสุดประจำวัน และสร้างแรงหนุนได้บ้างในช่วงการซื้อขายในโซนตลาดเอเชีย แม้ว่าการซื้อดอลลาร์สหรัฐอย่างต่อเนื่องจะปิดกั้นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม สำหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะหยุดการร่วงลงติดต่อกันสองวันได้ เนื่องจากผู้ซื้อขายกำลังรอข้อมูลยอดขายปลีกของสหรัฐฯ และรายงานเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ในวันคืนนี้เพื่อรับทราบทิศทางใหม่
.......................................................
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2567
Buy zone 2425-2420
Sl 2400
TP1 2445
TP2 2465
TP3 2485
TP4 2495
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
.......................................................
⭐️SET UP GOLD PRICE: ประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2567
🔥Scalping zone
Sell zone : 2459 - 2462
SL 2466
TP1 2455
TP2 2448
TP3 2440
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
Daytrade
⚠️หลีกเลี่ยงการเทรดหากมีปัจจัยสนับสนุนหรือช่วงที่มีปริมาณซื้อขายสูงราคาจะผันผวนสูง
Sell zone 2484-2486-2488
Sl 2502
TP1 2475
TP2 2367
TP3 2459
TP4 2450
ไอเดียเพิ่มเติมจะแจ้งในกลุ่ม
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
ขอให้เทรดเดอร์จัดการเงินทุนของตนให้ดี
- เลือกจำนวนล็อตที่ตรงกับเงินทุนของคุณ
- Takeprofit เท่ากับ 4-6% ของบัญชีเงินทุน
- Stoplose เท่ากับ 2-3% ของบัญชีเงินทุน
- ผู้ชนะคือผู้ที่อยู่กับตลาดนานที่สุด
--------------------------------------
คาดการณ์ทางเทคนิคราคาทองคำวันนี้จะลดลงเล็กน้อยและมีโมเมนตัมเพิ่มราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันพุธ (31 กรกฎาคม) หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ แนะนำว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามารถทำได้เร็วที่สุดในเดือนกันยายน 2024 หากอัตราเงินเฟ้อสอดคล้องกับการคาดการณ์
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 31 กรกฎาคม สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 1.2% เป็น 2,437.39 USD/ออนซ์ และทำสถิติการเพิ่มขึ้นรายเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 โดยกระโดดมากกว่า 4% สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.9% เป็น 2,473 USD/ออนซ์
นายพาวเวลล์กล่าวในงานแถลงข่าวภายหลังการตัดสินใจของเฟดที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ช่วยให้นักลงทุนฟื้นความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 2567 โดยระบุว่าผู้กำหนดนโยบายมีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ เคลื่อนตัวไปสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%
การสนับสนุนสินทรัพย์ปลอดภัยที่แข็งแกร่งขึ้นคือความเสี่ยงที่จะเพิ่มความขัดแย้งในตะวันออกกลาง หลังจากผู้นำกลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ ถูกลอบสังหารเมื่อเช้าวันพุธในอิหร่าน
Bob Haberkorn นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures ให้ความเห็นว่า "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed รวมกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางอาจผลักดันให้ทองคำขึ้นไปอยู่ที่ 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์"
ทองคำโลกเพิ่มขึ้นด้วยความหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร (30 กรกฎาคม) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองในแง่ดีว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจบอกเป็นนัยถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเมื่อสิ้นสุดการประชุมหลักในสัปดาห์นี้
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 30 กรกฎาคม สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.8% เป็น 2,403.47 USD/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1% เป็น 2,451.9 USD/oz
Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Blue Line Futures ให้ความเห็นว่า "ยุโรปกำลังเผยให้เห็นถึงจุดแตกหักของเศรษฐกิจเพิ่มเติม และคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายน นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกด้วย" ตลาดทองคำ”
เมื่อสิ้นสุดการประชุมสองวันในวันที่ 31 กรกฎาคม เฟดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน แต่อาจส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายนโยบายโดยเร็วที่สุดในเดือนกันยายน
ตลาดคาดการณ์ความเป็นไปได้ 100% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองโลหะมีค่า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอชุดข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานการจ้างงานที่สำคัญที่จะเปิดเผยในวันที่ 2 สิงหาคม
ราคาทองคำเคลื่อนไหวไซด์ไซด์เพื่อรอการประชุมข้อมูลของเฟดราคาทองคำร่วงลงในวันจันทร์ (29 กรกฎาคม) โดยได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนที่รอการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใดๆ หรือไม่?
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 29 กรกฎาคม สัญญาทองคำสปอตร่วงลง 0.1% สู่ 2,382.40 USD/ออนซ์ สัญญาทองคำล่วงหน้าร่วงลงเกือบ 0.1% อยู่ที่ 2,379.9 USD/oz
“เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และเราได้รับข้อมูลจากจีนว่าการบริโภคทองคำในประเทศลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่สำคัญ” เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์ของ Marex กล่าว
USD เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
การบริโภคทองคำในจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดลง 5.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เนื่องจากความต้องการเครื่องประดับทองลดลง อย่างไรก็ตาม การซื้อทองคำแท่งและเหรียญเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนความต้องการทองคำเพื่อเป็นช่องทางในการป้องกันความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ขยายตัวในตะวันออกกลางหลังการโจมตีด้วยขีปนาวุธในที่ราบสูงโกลานที่อิสราเอลยึดครอง
ทองคำโลกร่วงลงเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นรอการประชุมเฟดราคาทองคำร่วงลงในวันจันทร์ (29 กรกฎาคม) โดยได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนที่รอการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใดๆ หรือไม่?
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 29 กรกฎาคม สัญญาทองคำสปอตร่วงลง 0.1% สู่ 2,382.40 USD/ออนซ์ สัญญาทองคำล่วงหน้าร่วงลงเกือบ 0.1% อยู่ที่ 2,379.9 USD/oz
“เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และเราได้รับข้อมูลจากจีนว่าการบริโภคทองคำในประเทศลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่สำคัญ” เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์ของ Marex กล่าว
USD เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
การบริโภคทองคำในจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดลง 5.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เนื่องจากความต้องการเครื่องประดับทองลดลง อย่างไรก็ตาม การซื้อทองคำแท่งและเหรียญเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนความต้องการทองคำเพื่อเป็นช่องทางในการป้องกันความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ขยายตัวในตะวันออกกลางหลังการโจมตีด้วยขีปนาวุธในที่ราบสูงโกลานที่อิสราเอลยึดครอง
คาดว่าราคาทองคำจะลดลงอย่างรวดเร็วในวันนี้คาดว่าราคาทองคำวันนี้จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ หลังจากเข้าใกล้ระดับ 2,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์
ในช่วงสุดสัปดาห์ของวันที่ 28 กรกฎาคม ราคาทองคำแท่ง SJC ยังคงจดทะเบียนโดย SJC Gold Company โดยซื้อ 77.5 ล้านดองเวียดนาม ขาย 79.5 ล้านดองดอง/ตำลึง ซึ่งทรงตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำแท่งลดลงประมาณ 500,000 ดอง/ตำลึง
นี่เป็นราคาขายทองคำแท่ง SJC ของธนาคารพาณิชย์รวมถึง BIDV (HM:BID), Vietcombank (HM:VCB), Agribank และ VietinBank เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย
ในขณะเดียวกัน ราคาแหวนทองและเครื่องประดับทอง 24K ทุกประเภทซื้อขายกันที่ซื้อมา 75.6 ล้านดองเวียดนาม ขายไป 77.06 ล้านดองดอง ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในตลาดภายในประเทศ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงผันผวนตามราคาแหวนทองคำ ขณะเดียวกันก็มีเสถียรภาพมากขึ้นด้วยราคาทองคำแท่ง SJC เพราะราคาแหวนทองมีขึ้นและลงใกล้เคียงกับราคาโลกมากขึ้น
คาดว่าราคาทองคำวันนี้จะเพิ่มขึ้นอีกในตลาดต่างประเทศ
ในตลาดโลก ราคาทองคำปิดสัปดาห์ซื้อขายที่ 2,386 USD/ออนซ์ เพิ่มขึ้นอย่างมาก 50 USD/ออนซ์ เมื่อเทียบกับปลายสัปดาห์ที่แล้ว ในระหว่างสัปดาห์ มีช่วงหนึ่งที่ราคาทองคำทะลุ 2,430 USD/ออนซ์ แต่ไม่สามารถถือไว้ได้และลดลงอีกครั้งหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่ใกล้ถึงเกณฑ์ที่ 2,400 USD/ออนซ์ ทั้งนักวิเคราะห์และนักลงทุนเชื่อว่าราคาทองคำอาจยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป ตามผลการสำรวจของ Kitco
คาดว่าราคาทองคำจะยังคงลดลงอย่างรวดเร็วราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันพุธ แม้ว่าการเพิ่มขึ้นจะถูกจำกัดด้วยเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และการคาดหมายว่าจะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้ผู้ค้ากังวล
อย่างไรก็ตาม โลหะอุตสาหกรรมกำลังร่วงลงอย่างรวดเร็ว โดยราคาทองแดงซื้อขายกันที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสี่เดือน ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ถดถอยต่อผู้นำเข้าสินค้าชั้นนำของจีน การลดลงล่าสุดของทองแดงเกิดจากข้อมูลการเติบโตที่อ่อนแอจากประเทศจีน
ราคาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2,416.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 2,417.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาสปอตลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทองคำทรงตัวเมื่อเงินดอลลาร์ฟื้นตัว
การเพิ่มขึ้นของทองคำถูกจำกัดด้วยการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งได้ประโยชน์จากการผสมผสานระหว่างอุปสงค์ที่ปลอดภัยและสถานะก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
ผู้ค้ายังคงมีอคติต่อดอลลาร์เป็นส่วนใหญ่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขันและเสนอชื่อรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
ทองคำโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ลดลงอย่างรวดเร็ว คาดว่าทองราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันพุธ แม้ว่าการเพิ่มขึ้นจะถูกจำกัดด้วยเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และการคาดหมายว่าจะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้ผู้ค้ากังวล
อย่างไรก็ตาม โลหะอุตสาหกรรมกำลังร่วงลงอย่างรวดเร็ว โดยราคาทองแดงซื้อขายกันที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสี่เดือน ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ถดถอยต่อผู้นำเข้าสินค้าชั้นนำของจีน การลดลงล่าสุดของทองแดงเกิดจากข้อมูลการเติบโตที่อ่อนแอจากประเทศจีน
ราคาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2,416.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 2,417.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาสปอตลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทองคำทรงตัวเมื่อเงินดอลลาร์ฟื้นตัว
การเพิ่มขึ้นของทองคำถูกจำกัดด้วยการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งได้ประโยชน์จากการผสมผสานระหว่างอุปสงค์ที่ปลอดภัยและสถานะก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
ผู้ค้ายังคงมีอคติต่อดอลลาร์เป็นส่วนใหญ่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขันและเสนอชื่อรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต






















