วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – อัปเดตแผนกลยุทธ์การเทรด XAUUSD | 10/06
ขณะนี้ตลาดมีหลายรูปแบบของคลื่นที่มีโอกาสเกิดขึ้นใกล้เคียงกัน ดังนั้นเราจะเปลี่ยนไปดูที่กรอบเวลา H4 เพื่อลดความสับสนจากสัญญาณรบกวนระยะสั้น
🔹 โซนราคาสำคัญ
ตามที่ได้กล่าวไว้ในการอัปเดตเมื่อวานนี้ โซน 3340 ยังคงเป็นระดับสำคัญ ราคายังไม่สามารถทะลุผ่านระดับนี้ได้และได้ปรับตัวลงมาที่ 3307
🔹 โมเมนตัม & Volume Profile
H4: อีกเพียงแท่งเทียนเดียว อินดิเคเตอร์โมเมนตัมก็จะเข้าสู่เขต oversold ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงขายเริ่มอ่อนแรงลง
Volume Profile: ราคากำลังตอบสนองอย่างชัดเจนบริเวณจุดสมดุล (POC สีฟ้า) และยังไม่มีสัญญาณของการทะลุลง
🧩 สองแนวโน้มหลักที่อาจเกิดขึ้น
🔸 แนวโน้มที่ 1: คลื่นที่ 5 ยังคงปรับตัวลดลง
ราคากำลังอยู่ในโครงสร้างคลื่น 5 โดยมีเป้าหมายที่:
🎯 เป้าหมายที่ 1: 3290
🎯 เป้าหมายที่ 2: 3279
✅ เงื่อนไขยืนยัน: ราคาทะลุต่ำกว่า 3294
⚠️ หมายเหตุ: แม้จะเป็นแนวโน้มที่เห็นได้ชัด แต่ต้องระวังมากขึ้นเพราะตลาดมักสร้างกับดักในแนวโน้มที่ชัดเจนเกินไป
🔸 แนวโน้มที่ 2: การปรับฐานสิ้นสุดแล้ว – คลื่นที่ 3 ขาขึ้นกำลังเริ่มต้น
โครงสร้างคลื่นปรับฐาน ABC (สีดำ) ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
การดีดตัวขึ้นล่าสุดคือคลื่น 1 และขณะนี้ราคาอยู่ในคลื่น 2
เตรียมตัวสำหรับคลื่น 3 ขาขึ้น
✅ เงื่อนไขเบื้องต้น: ราคาต้องทะลุระดับ 3340
✅ เงื่อนไขยืนยัน: ราคาทะลุจุดยอดของคลื่น b (สีดำ)
➡️ ในแนวโน้มนี้ การตั้งคำสั่งล่วงหน้าอาจไม่เหมาะสม – ควรรอการยืนยันและอัปเดตสัญญาณแบบเรียลไทม์
📉 วิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: กำลังเข้าเขต oversold – มีโอกาสสูงที่จะเกิดการดีดตัวกลับภายใน 5–7 แท่งเทียนถัดไป
กรอบเวลา H4: ใกล้ oversold เช่นกัน – มีแนวโน้มที่จะเกิดการดีดตัวขึ้นในวันนี้
🎯 แผนการเทรด
🔵 โซน BUY ที่ 1:
• Entry: 3292 – 3289
• Stop Loss: 3282
• เป้าหมายกำไร:
– TP1: 3306
– TP2: 3340
– TP3: 3375
🔵 โซน BUY ที่ 2:
• Entry: 3281 – 3279
• Stop Loss: 3271
• เป้าหมายกำไร:
– TP1: 3307
– TP2: 3340
– TP3: 3375
Xauusdidea
รูปแบบคลื่นเอลเลียต: แผนการเทรด XAUUSD วันที่ 8 มิถุนายน 2025
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต
หลังจากร่วงลงอย่างหนักในวันศุกร์ ราคาลงมาแตะบริเวณคลื่นที่ 1 (สีดำ) ซึ่งทำให้แนวโน้มคลื่น 4 แบบแฟลตไม่สามารถใช้งานได้อีก โครงสร้างของคลื่นที่ 5 (สีดำ) ปรากฏเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมสิ้นสุด และ การลดลงที่รุนแรงและรวดเร็วหลังจากนั้นสอดคล้องกับลักษณะของราคาเมื่อจบคลื่นสามเหลี่ยม
มี 2 กรณีที่เป็นไปได้หลังจากจบคลื่น 5:
กรณีที่ 1: ราคากำลังอยู่ในรูปแบบซิกแซก (abc สีดำ) โดยคลื่น c อาจสิ้นสุดที่ 3305 และยังมีแนวรับสำคัญที่ 3290 หากมีการรีบาวด์ทะลุ 3340 ได้ จะช่วยยืนยันว่าไม่ใช่กรณีที่ 2
กรณีที่ 2: ราคาอยู่ในแนวโน้มขาลงแบบ 5 คลื่น โดยต้องไม่ทะลุ 3340 ไม่เช่นนั้นจะเป็นการล้ำเขตคลื่นที่ 1 และรูปแบบจะผิดเงื่อนไข
วิเคราะห์โมเมนตัม
กราฟรายวัน (D1): คาดว่าโมเมนตัมจะเข้าสู่เขตขายมากเกินไป ซึ่งเป็นสัญญาณว่าขาลงอาจเริ่มอ่อนแรง
H4: อยู่ในเขตขายมากเกินไป มีโอกาสฟื้นตัว
H1: คาดว่า ตลาดเอเชียหรือยุโรป อาจเห็นการกลับตัวของราคา และ เหมาะกับการ Buy ตามกรณีที่ 1
แผนการเทรด
ซื้อ 3305 – 3302
SL: 3295
TP1: 3340
TP2: 3393
ซื้อ 3292 – 3289
SL: 3282
TP1: 3305
TP2: 3340
TP3: 3393
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – แผนเทรด XAUUSD 5/6/2025
📌 บนกราฟ H1 การเคลื่อนไหวของราคาซ้อนทับกัน แสดงว่าการปรับฐานอาจยังไม่จบ หากจบที่ 3334 จริง ราคาควรพุ่งแรงเป็นคลื่น 3 (สีเขียว) ของคลื่น 3 (สีดำ) ซึ่งมักเป็นช่วงพุ่งแรงที่สุด การไม่เกิดแรงส่งนี้แปลว่ายังอยู่ในช่วงปรับฐาน
คลื่น a และ b (สีแดง) แสดงโครงสร้าง 3 คลื่น → บ่งบอกว่าอาจเป็นรูปแบบ Flat
คลื่น b (สีแดง) กำลังเกิดคลื่นย่อย abc (สีเขียว) และน่าจะอยู่ที่คลื่น c (สีเขียว)
🎯 เป้าหมายราคา:
โซนขาย: 3390–3393
หากราคากลับตัวที่นี่ คลื่น c (แดง) อาจจบที่ 3334–3324
⚡ โมเมนตัม:
D1: เริ่มชะลอ ควรรอปิดแท่งเทียนเพื่อยืนยัน
H4: เริ่มกลับตัวลง
H1: Oversold → อาจมีเด้งเล็กน้อยก่อนกลับลง
📈 แผนเทรด:
SELL: 3390–3393 | SL: 3400 | TP: 3370 & 3357
BUY: 3334–3331 | SL: 3322 | TP: 3357, 3393 & 3410
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD H1 30/05/2025
🔍 อัปเดตรูปแบบคลื่น
ขณะนี้ราคาทะลุจุดสูงสุดของคลื่น X และกำลังปรับฐานกลับลงมา นี่ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งชี้ว่า คลื่น 1 (สีดำ) ในโครงสร้างคลื่นขาขึ้นสีเขียวอาจได้ก่อตัวแล้ว และตอนนี้ราคาอาจอยู่ใน คลื่น 2 (สีดำ) ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมตัวเข้าสู่ คลื่น iii (สีเขียว)
ในคลื่น 2 คาดว่าจะเกิดรูปแบบการปรับฐาน เช่น zigzag หรือ flat โดยตามพฤติกรรมราคาในปัจจุบัน อาจเกิดการดีดขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะปรับลงอีกระลอกเพื่อจบโครงสร้างการปรับฐาน
🎯 เป้าหมายคลื่น 2 ที่เป็นไปได้
• เป้าหมาย 1: 3290
• เป้าหมาย 2: 3272
❗ หากราคาลดลงถึงระดับ 3245 แนวคิดที่ว่าคลื่น 2 จบแล้วอาจไม่ถูกต้อง และคลื่น Y อาจดำเนินต่อไปสู่ระดับ 3215
📈 วิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบ D1: โมเมนตัมเริ่มเปลี่ยนทิศทางขึ้น – สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นในสัปดาห์หน้า
กรอบ H4: โมเมนตัมอ่อนตัว – คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหว sideways หรือปรับฐานลงในวันนี้
กรอบ H1: อยู่ในโซน Oversold – อาจมีการดีดกลับหรือแกว่งตัว เพื่อรอให้ H4 ลงมาถึงโซน Oversold เช่นกัน
🧭 แผนการเทรด
🔹 Scalp Buy
• จุดเข้า: 3291 – 3289
• SL: 3286
• TP1: 3306
• TP2: 3324
• TP3: 3346
🔹 โซน Buy หลัก
• จุดเข้า: 3272 – 3269
• SL: 3262
• TP1: 3290
• TP2: 3324
• TP3: 3373
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – แผนการเทรด XAUUSD ประจำวันที่ 02/06/20
🌀 โครงสร้างคลื่นปัจจุบัน
บนกรอบเวลา H1 คลื่น 2 สีดำเสร็จสมบูรณ์ในรูปแบบ Zigzag โดยราคาลงแตะระดับ 3272 และดีดกลับขึ้นแรง – เป็นสัญญาณว่าโครงสร้างคลื่นปรับฐาน abc สีเขียวอาจสิ้นสุดแล้ว
เมื่อพิจารณาใกล้ขึ้นในกรอบ M10 การดีดขึ้นล่าสุดแสดงโครงสร้าง 5 คลื่นในรูปแบบสามเหลี่ยมเริ่มต้น (Leading Diagonal)
⇒ บ่งชี้ว่าคลื่น 1 สีแดงได้สิ้นสุดลง และตอนนี้ราคากำลังอยู่ในคลื่น 2 สีแดง
📍เป้าหมายของคลื่น 2 สีแดงอยู่ที่บริเวณ 3281 – เป็นโซนที่น่าจับตาสำหรับการวางแผน Buy
อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุระดับ 3272 โครงสร้างการนับคลื่นปัจจุบันจะไม่ถูกต้อง และต้องรอแผนใหม่สำหรับการปรับฐานที่ลึกกว่า
🔋 แรงสนับสนุนจากโมเมนตัม:
• กรอบ D1: โมเมนตัมเตรียมกลับตัวขึ้น ⇒ สนับสนุนการเกิดคลื่น 3 สีดำ และแนวโน้มขาขึ้นหลักในสัปดาห์นี้
• กรอบ H4: โมเมนตัมกำลังสร้างฐานและใกล้กลับตัว ⇒ ช่วยหนุนให้คลื่น 3 สีแดงเริ่มต้นในรอบถัดไป
• กรอบ H1: โมเมนตัมกำลังอ่อนตัวลง ⇒ คาดว่าต้นรอบราคาจะมีการปรับฐาน รอสัญญาณกลับตัวขึ้น และราคายังไม่หลุดระดับ 3272 เพื่อเข้าออเดอร์
✅ แผนการเทรดวันนี้
🎯 Buy Zone: 3282 – 3279
🛑 Stop Loss: 3272
🎯 Take Profit:
– TP1: 3308
– TP2: 3324
– TP3: 3346
⏳ หมายเหตุ:
พฤติกรรมราคาบริเวณ 3272 – 3281 จะเป็นกุญแจสำคัญในการยืนยันว่าคลื่น 2 สีแดงสิ้นสุดแล้วหรือไม่
หากได้รับการยืนยัน คลื่น 3 จะเริ่มต้นพร้อมแรงซื้อที่ชัดเจน โดยเฉพาะหลังทะลุแนวต้าน 3296
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD กรอบเวลา H1 – วันที่ 29/05/2025
🔍 โครงสร้างคลื่นปัจจุบัน
ราคากำลังปรับฐานในรูปแบบ WXY – ซึ่งเป็นโครงสร้าง Zigzag คู่
ขณะนี้ราคาอยู่ในคลื่น Y โดยมีสองเป้าหมายหลัก:
🎯 เป้าหมายที่ 1: บริเวณ 3245 – ราคาแตะระดับนี้แล้วและดีดตัวขึ้นแรง
🎯 เป้าหมายที่ 2: บริเวณ 3215 – เป็นเป้าหมายที่ไกลกว่า ต้องรอยืนยันเพิ่มเติมจากพฤติกรรมราคาและโมเมนตัมแบบเรียลไทม์
📈 หากคลื่น Y สิ้นสุดที่บริเวณ 3245 ขณะนี้ราคาอาจเข้าสู่คลื่น 1 ของแนวโน้มขาขึ้นใหม่
เมื่อคลื่น 1 จบลง เราจะรอคลื่น 2 ซึ่งเป็นจุดเหมาะสมสำหรับเตรียมเข้าเทรดคลื่น 3
👉 คลื่น 2 มักมีรูปแบบ zigzag หรือ flat
เมื่อรวมกับการวิเคราะห์ Fibonacci และโซนสภาพคล่อง เราระบุโซนเป้าหมายของคลื่น 2 ไว้ที่บริเวณ 3265 – 3262
⚡ การวิเคราะห์โมเมนตัม
🕯 D1: โมเมนตัมเข้าสู่เขต Oversold – มีแนวโน้มสูงที่ราคาจะกลับตัวขึ้นในวันนี้หรือพรุ่งนี้
🕯 H4: เตรียมกลับตัวขึ้น – แท่งเทียน H4 กำลังจะปิดในอีกประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมส่งสัญญาณกลับตัวชัดเจน
🕯 H1: โมเมนตัมกำลังขึ้น – รอให้ H1 ปรับฐานลงแล้วกลับขึ้นใหม่ (โดยไม่หลุดต่ำกว่า 3245) → นั่นจะเป็นจุดสิ้นสุดของคลื่น 2 และเป็นโอกาสในการเข้า Buy
📌 ข้อควรระวัง:
หากโมเมนตัม H4 กลับตัวเป็นขาลง และราคายังไม่สามารถทะลุ 3324 ได้ → แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงยังมีความเป็นไปได้ และเป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 3215 ในคลื่น Y
🛒 แผนการเทรด
• Buy Zone: 3265 – 3262
• Stop Loss (SL): 3255
🎯 Take Profit (TP):
• TP1: 3290
• TP2: 3324
• TP3: 3346
❗ หากราคาทะลุจุดต่ำสุด 3245 → ยืนยันว่าคลื่น Y ยังไม่จบ และให้เฝ้าดูบริเวณ 3215 เพื่อมองหาโอกาสในการเข้า Buy รอบใหม่
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – แผนการเทรด XAUUSD ประจำวันที่ 28/05/20
🔍 รูปแบบคลื่นปัจจุบัน
หลังจากราคาลดลงอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ ราคามีการฟื้นตัวเล็กน้อยและขณะนี้ชะลอตัวอยู่บริเวณ 3314
การปรับฐานครั้งก่อนเกือบแตะเป้าหมายของคลื่น C (สีเขียว) แต่การรีบาวด์ล่าสุดด้วยแท่งเทียน H1 ขนาดเล็กและสลับกัน บ่งชี้ว่ารูปแบบขาขึ้นยังไม่น่าเชื่อถือ
ดังนั้นจึงมี 2 แนวโน้มที่เป็นไปได้:
✅ กรณีที่ 1 – คลื่นปรับฐานสิ้นสุดแล้ว
ราคาสิ้นสุดคลื่น C และเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้นใหม่
อย่างไรก็ตาม แท่งเทียน H1 ที่สลับกันอาจบ่งชี้ว่าเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมเริ่มต้นของคลื่น 1
ในกรณีนี้ คลื่น 2 มักจะย่อลงแรง โดยมีโครงสร้าง zigzag หรือ flat
📌 กลยุทธ์:
รอให้คลื่น 2 ก่อตัวและจบลงก่อน เพื่อหาจุดเข้า Buy ที่สวยกว่า
🌀 กรณีที่ 2 – การปรับฐานยังไม่สิ้นสุด
หากราคายังเคลื่อนไหวช้า หรือไซด์เวย์ อาจอยู่ในคลื่น b ของโครงสร้าง zigzag คู่ (คลื่น Y)
เป้าหมายของคลื่น c ในคลื่น Y: 3324
หากราคาทะลุจุดต่ำสุดที่ 3284 ก่อนถึง 3324 แสดงว่าคลื่น c อาจเริ่มขึ้น และอาจสิ้นสุดแถวบริเวณ 3280–3274
📈 โมเมนตัมของตลาด
• D1: โมเมนตัมยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง ⇒ เทรนด์หลักยังคงเป็นขาลง
• H4: โมเมนตัมเป็นขาขึ้น ⇒ วันนี้อาจเป็นวันฟื้นตัว
• H1: ใกล้ Oversold ⇒ หากเกิดสัญญาณกลับตัวในโซนนี้ อาจมีโอกาส Buy ระยะสั้น
🎯 แผนการเทรด
⏰ สำหรับวันนี้ (28/05/2025):
• Buy Scalp: 3292 – 3289
⛔ SL: 3282
🎯 TP1: 3313 – TP2: 3324
• Buy Swing: 3280 – 3277
⛔ SL: 3270
🎯 TP1: 3290 – TP2: 3313 – TP3: 3324
🕰️ คาดหวัง: ตั้งแต่รอบยุโรปจนถึงสิ้นสุดรอบอเมริกา
• Sell Zone: 3324 – 3327
⛔ SL: 3334
🎯 TP1: 3313 – TP2: 3290 – TP3: 3280
🕰️ คาดหวัง: เมื่อราคาขึ้นแตะแนวต้านในรอบอเมริกาหรือช่วงท้ายรอบยุโรป
📌 ทุกแนวทางจะได้รับการอัปเดตอีกครั้งเมื่อคลื่น 2 สิ้นสุด หรือเมื่อราคายืนยันการทะลุจุดต่ำสุดที่ 3284
ขอให้ใจเย็น และรอให้ตลาดส่งสัญญาณที่ชัดเจนก่อนลงมือเทรด
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD – กรอบเวลา H1📊 ราคามีแนวโน้มอยู่ในช่วงการปรับฐานคลื่น iv สีส้ม หลังจากที่คลื่น iii สีส้มเสร็จสิ้นด้วยโครงสร้างคลื่นย่อย 5 คลื่นสีเขียว
ในช่วงปรับฐานนี้ได้เกิดโครงสร้าง abc แบบซิกแซกขึ้น จากนั้นราคามีการดีดกลับแต่ยังไม่ชัดเจน ทำให้เกิด 2 แนวโน้มที่เป็นไปได้:
🔸 แนวโน้มที่ 1: คลื่น iv จบลงแล้ว
โครงสร้าง abc เสร็จสมบูรณ์ ขณะนี้ราคากำลังก่อตัวเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมเริ่มต้น โดยปัจจุบันอยู่ในคลื่น 2
หากทะลุระดับ 3343 และปิดแท่งเทียนเหนือระดับนี้ จะยืนยันแนวโน้มขาขึ้นใหม่ → แนะนำ Buy ตามเทรนด์
🔸 แนวโน้มที่ 2: การปรับฐานแบบซิกแซกยังดำเนินต่อ
คลื่น X เสร็จแล้ว ขณะนี้ราคาอยู่ในคลื่น Y (อาจเป็นรูปแบบ abc หรือสามเหลี่ยม)
หากราคาทะลุจุดต่ำสุดของคลื่น c สีเขียวที่ 3324 จะยืนยันการปรับฐานต่อเนื่อง
🎯 เป้าหมายของคลื่น Y (จาก Fibonacci + Volume Profile):
• เป้าหมาย 1: 3317
• เป้าหมาย 2: 3290
🔍 โมเมนตัม:
• กรอบวัน: โมเมนตัมยืนยันขาลง → มีแนวโน้มว่าราคาจะยังคงลดลงจนถึงสิ้นสัปดาห์
• กรอบ H4: โมเมนตัมกำลังขึ้น → อาจเกิดการดีดตัวหรือเคลื่อนไหวในกรอบ
• กรอบ H1: ใกล้เข้าสู่ภาวะ Oversold → ควรรอการกลับตัวเป็นขาขึ้นของโมเมนตัมก่อน หากไม่สามารถทะลุระดับ 3349 ได้ อาจพิจารณา Sell Scalp ได้ แต่ถ้าทะลุขึ้นไป คลื่น X อาจกำลังขยายตัว หรือแนวโน้มขาขึ้นได้เริ่มขึ้นแล้ว
📌 แผนการเทรดวันนี้
• Buy Zone: 3317 – 3314
• Stop Loss: 3307
• TP1: 3334
• TP2: 3373
✅ ควรรอให้โมเมนตัม H1 กลับตัวเป็นขาขึ้นก่อนเข้าซื้อ
❗ หากหลุดโซนนี้ ให้รอ Buy อีกครั้งที่บริเวณ 3290
ทองคำใน H4 เกิดรูปแบบ Triangle ราคารอเลือกข้างรุนแรง📊วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 12/05/2025 - 16/05/2025
🌐 สถานการณ์ล่าสุด:
ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) อ่อนค่าลงหลังจากที่ปรับตัวขึ้ตนติดต่อกัน 2 วัน โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลง ความรู้สึกไม่ยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ความต้องการโลหะที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ในขณะที่ซื้อขายที่ระดับ 3,325 ดอลลาร์ก่อนตลาดปิดทำการ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนการประชุมระดับสูงระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯ และจีนในสวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์ที่ผ่านมา แม้ว่าความหวังในการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้ายังคงสูง แต่ความไม่แน่นอนยังคงครอบงำความรู้สึกดังกล่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยังได้จุดชนวนความกังวลด้านการค้าอีกครั้ง โดยระบุบนโซเชียลมีเดียว่า “ภาษีนำเข้าจากจีน 80% ดูเหมาะสมแล้ว! ขึ้นอยู่กับสก็อตต์ บี”
💬 ความเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำชะลอตัวลง เริ่มสะสมมากขึ้น การเจรจาการค้าจะเกิดขึ้นมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำมีแรงกดดันในการขายในอนาคตอันใกล้
🕯 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ตั้งแต่วันที่ 12/05/2025 - 16/05/2025 ระบุได้ดังนี้:
แนวต้าน: 3,402 ดอลลาร์ 3,435 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,282 ดอลลาร์ 3,202 ดอลลาร์
แนวโน้มทางเทคนิค:
📈ราคาทองคำดีดตัวกลับเหนือ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้ง
ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากหลุดต่ำกว่าระดับ 3,400 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อบ่งชี้ว่าผู้ซื้อกำลังเข้ามาซื้อ โดยดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บ่งชี้ว่าโลหะที่ไม่คืนตัวนี้อาจทดสอบระดับแนวต้านสำคัญถัดไปที่ 3,350 ดอลลาร์ และกำลังจะไปถึง 3,400 ดอลลาร์
📉ในทางกลับกัน ทองคำอาจปรับตัวลดลงต่อไปอีกหากปิดตลาดรายวันต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเผยให้เห็นจุดต่ำสุดของรอบวันที่ 1 พฤษภาคมที่ 3,202 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
แนวโน้มขาลง - ราคาทองคำจะกลับไปสู่ 3,233 หรือไม่???H1 Gold 9/5/2025
📊 แนวโน้มขาลง - ราคาทองคำจะกลับไปสู่ 3,233 หรือไม่???
ราคาทองคำฟื้นตัวจากภาวะขาดทุนเล็กน้อยใน หลังจากที่ร่วงลงในรอบการซื้อขายเอเชียสู่ระดับ 3,275-3,274 เหรียญสหรัฐฯ และสามารถไต่ระดับเหนือระดับ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายวัน และกลับมายืนเหนือระดับทางจิตวิทยาที่ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงชั่วโมงที่ผ่านมา ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใหม่บริเวณชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาขึ้นดูเหมือนว่าจะถูกจำกัดโดยความรู้สึกด้านความเสี่ยงที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยความหวังใหม่ที่มีต่อข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-อังกฤษ และการเริ่มต้นการเจรจาภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ-จีนในช่วงสุดสัปดาห์
ในขณะเดียวกัน ความหวังว่าสหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมกับประเทศอื่นๆ ช่วยบรรเทาความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการแข็งค่าในวันพุธ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน ซึ่งอาจช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวที่มีความหมายของราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนได้ ในขณะนี้ เทรดเดอร์ต่างรอคอยที่จะฟังคำปราศรัยของสมาชิก FOMC ที่มีอิทธิพลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
⌛อย่างไรก็ตามทองคำดูเหมือนว่าจะพร้อมที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
🔽ราคาทองคำจำเป็นต้องอ่อนตัวลงต่ำกว่าบริเวณ 3,262-3,258 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนแนวโน้มขาลงต่อไป
จากมุมมองทางเทคนิค การพังทลายลงของแนวต้านที่ 3,260 ดอลลาร์ในช่วงข้ามคืนและกลายเป็นแนวรับ และร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ในวันศุกร์นั้นส่งผลดีต่อแนวโน้มขาลงของทองคำ อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะเริ่มสูญเสียแรงดึงดูด) ยังไม่ยืนยันแนวโน้มขาลงนี้ ซึ่งในทางกลับกันก็ควรระมัดระวังก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อปรับตัวลดลง และบ่งชี้ว่าราคาทองคำอาจพบแนวรับบางส่วนใกล้โซนแนวนอน 3,262-3,258 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การขายตามหลังบางส่วนน่าจะช่วยเปิดทางให้ราคาทองคำร่วงลงสู่แนวรับกลางที่ 3,223-3,222 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่บริเวณ 3,200 ดอลลาร์
🔼ในทางกลับกัน ราคาสูงสุดในรอบเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 3,324 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าจะเป็นอุปสรรคทันที การเคลื่อนตัวขึ้นต่อไปอาจดึงดูดผู้ขายบางรายและจำกัดราคาทองคำให้อยู่ใกล้แนวต้านคงที่ 3,360-3,365 ดอลลาร์ หากราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเกินกว่าแนวต้านดังกล่าว จะทำให้กลับมายืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และไต่ระดับขึ้นต่อไปใกล้ระดับ 3,434-3,435 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดรายสัปดาห์
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โมเมนตัมขาขึ้นสะสมกำลัง ราวรอบๆ 3400📊ราคาทองคำ กลับมามีโมเมนตัมขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้า โดยดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ในช่วงชั่วโมงที่ผ่านมา และฟื้นตัวจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ได้เป็นอย่างดี ความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในเร็วๆ นี้ โดยระบุว่าเขาไม่รู้สึก "เร่งรีบ" ที่จะสรุปข้อตกลง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ ความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งทางการทหารที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างอินเดียและปากีสถาน ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น
💬ความเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงฟื้นตัวได้ดีที่บริเวณ 3400 คำกล่าวของ FED ค่อนข้างปานกลาง ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า ตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ในเชิงบวก
⚙️การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
📊ปัจจัยทางเทคนิคอล
ราคาทองคำอาจมุ่งทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง เมื่อผ่านแนวต้าน 3,438-3,440 ดอลลาร์ไปได้
🔼จากมุมมองทางเทคนิค การเกิดการซื้อใหม่บริเวณแนวต้านที่ 3,260 ดอลลาร์ที่เปลี่ยนเป็นแนวรับและการเคลื่อนตัวขึ้นที่ตามมา ส่งผลดีต่อขาขึ้นของทองคำ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังคงอยู่ในเขตบวกอย่างสบายๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวต้านที่น้อยที่สุดสำหรับราคาทองคำยังคงอยู่ด้านบน การซื้อตามหลังบางส่วนที่เกินระดับ 3,433-3,436 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดรายสัปดาห์ จะช่วยยืนยันแนวโน้มเชิงบวกอีกครั้ง และช่วยให้สินค้าโภคภัณฑ์สามารถทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง และพยายามอีกครั้งเพื่อพิชิตระดับทางจิตวิทยาที่ 3,500 ดอลลาร์
🔽ในทางกลับกัน บริเวณ 3,365-3,360 ดอลลาร์อาจทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งทันที ก่อนที่จะถึงบริเวณ 3,328-3,327 ดอลลาร์ และรอบ 3,300 ดอลลาร์ การทะลุลงต่ำกว่าบริเวณหลังนี้จะทำให้แนวโน้ม เชิงบวกในระยะใกล้หายไป และกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิค แนวโน้มขาลงอาจทำให้ราคาทองคำพุ่งไปที่แนวรับระยะกลางที่ 3,265-3,260 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 3,223-3,222 ดอลลาร์ และจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วที่บริเวณ 3,200 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
ทองคำมีการอ่อนกำลังมาอยู่ในกรอบไซด์เวย์สมสมกำลังต่ำกว่า 33025/7/2525
📊ทองคำมีการอ่อนกำลังมาอยู่ในกรอบไซด์เวย์สมสมกำลังต่ำกว่า 3302
ราคาเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มเชิงบวก โดยพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,272 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายเอเชียของวันนี้ โดยความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยดังกล่าว ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ประกอบกับความตึงเครียดที่ปะทุขึ้นใหม่ในตะวันออกกลาง ยังคงทำให้ความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยงทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับวาระด้านภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทำให้ผู้ลงทุนระมัดระวังมากขึ้น ส่งผลให้ทองคำยังคงน่าดึงดูดใจในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในช่วงเวลาที่ไม่มั่นคง
💬ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำคงยังคงสะสมกำลังต่อไป แล้วมีแอมพลิฟายเออร์ต่ำในช่วงต้นสัปดาห์ ยังรอข้อมูลอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้ก่อน
🕯ปัจจัยทางเทคนิค
หลังทองคำทะลุ 3,263/59 จนไปถึงเป้าหมาย และเจอแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 3,220/3,210 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่มผู้ซื้อ ที่ระดับราคา 3220/3210 นั้นก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน เนื่องจากได้บรรลุเป้าหมาย 3 จุดของเราที่ 3233/36 และ 3245/50 และ 3265 เรียบร้อยไปแล้ว
ปัจจุบันเราอยู่ในแนวโน้มขาลงระยะสั้นเนื่องจากราคาปรับตัวลงสู่สภาวะซื้อมากเกินไป หลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงต้นเดือนเมษายน สัญญาณเตือนก่อนแล้วว่าเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริงๆ
ปัจจุบันแนวต้านแข็งแกร่งที่ 3,270/75 ที่ทดสอบไปเมื่อเช้านี้
แต่การขายในระดับดังกล่าวควรกำหนดจุดตัดขาดทุนระยะสั้นที่ 3,285 / 3310 /3325 (Sl) ตามระดับ
เป้าหมายขาลงยังคงวางไว้ที่ : 3260, 3250, 3240.
แนวรับที่แข็งแกร่งที่ 3215/3202 ในวันนี้ ส่วนผู้ซื้อต้องหยุดซื้อที่ต่ำกว่า 3193
💬อย่างไรก็ตาม การหลุดต่ำกว่า 3,193 ถือเป็นสัญญาณขาย (และมีแนวโน้มว่าเราจะเห็นการทะลุลงต่ำกว่านี้ในช่วงสัปดาห์นี้) โดยมีเป้าหมายเบื้องต้นที่ระดับ 3,170/65
การหลุดต่ำกว่า 3,160 จะเป็นสัญญาณขายครั้งต่อไป และอาจร่วงลงไปถึง 3,125/20 เพื่อทำกำไรจากการขายชอร์ต
ระหว่างแนวรับที่ 3,215/3,205 และแนวต้านที่ 3,270/75 นั้นไม่มีพื้นที่ซื้อขายที่ชัดเจน ดังนั้นเราจึงต้องอดทน
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
ทองคำขาดโมเมนตัมขาขึ้น ราคากำลังอยู่ในช่วงพักฐาน🔜วิเคราะห์ราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 05/05/2025 - 05/09/2025
💬ทองคำขาดโมเมนตัมขาขึ้น ราคากำลังอยู่ในช่วงพักฐาน
แรงกดดันต่อทองคำมีความเข้มข้นขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราสังเกตเห็นว่าการปรับฐานในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์มักตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์
ต้นเดือนเมษายนเป็นช่วงขาขึ้น ในขณะที่สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงขาลงซึ่งกำลังทดสอบระดับ 3,200 ดอลลาร์ การย่อตัวครั้งนี้ทำให้ราคากลับมาอยู่ที่บริเวณการรวมตัวในช่วงกลางเดือนเมษายน หากตลาดยังคงเคลื่อนไหวลงมาในระดับเดียวกัน จุดตัดขาดทุนถัดไปจะเป็นบริเวณ 2,900 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ราคาจะซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเกิดการพังทลายของแนวโน้มขาขึ้น การเร่งขาย(Panic sell)อาจทำให้ราคาปรับตัวลงมาที่บริเวณ 2,600-2,700 ดอลลาร์ได้อย่างรวดเร็ว
🌐สถานการณ์ล่าสุด
ทองคำ (XAU/USD) ร่วงลงมากกว่า 0.35% ในวันศุกร์ และมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ด้วยการร่วงลงมากกว่า 2.5% เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่คลี่คลายลงและข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้ลงทุนมีความอยากเสี่ยงมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนี้ จากการตรวจสอบล่าสุด ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,226 ดอลลาร์ โดยร่วงลงจากระดับสูงสุดระหว่างวัน 3,269 ดอลลาร์
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีนยังยืนยันว่าสหรัฐฯ แสดงความเต็มใจที่จะกลับมาหารือเรื่องภาษีศุลกากรอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ย้ำว่าปักกิ่งยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจา
💵สัปดาห์นี้ผู้ค้าทองคำกำลังจับตาการเผยแพร่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางของสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม
💡มุมมองส่วนตัว:
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงในระยะสั้น โดยยังขาดแรงผลักดันที่จะปรับขึ้นในระยะใกล้ ราคาเคลื่อนไหวภายในกรอบประมาณ 3200 - 3350
⚙️ ในทางเทคนิค:
แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น แต่มีแนวโน้มที่จะลดลงต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์
⌛ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่า 3,250 ดอลลาร์ หลังจากผู้ซื้อขายพยายามจะกลับขึ้นไปที่ระดับ 3,270 ดอลลาร์แต่ไม่สำเร็จ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) แสดงให้เห็นว่าผู้ขายกำลังเร่งตัวขึ้น ดังนั้น ราคาทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะร่วงลงไปต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์
จากผลลัพธ์ดังกล่าว แนวรับถัดไปจะเป็นจุดสูงสุดในวันที่ 3 เมษายน ซึ่งกลายเป็นแนวรับที่ 3,167 ดอลลาร์ เมื่อทะลุแนวรับนี้แล้ว จุดหยุดถัดไปจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันที่ 3,080 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากผู้ซื้อยกราคาทองคำขึ้นเหนือ 3,300 ดอลลาร์ ก็จะเปิดทางให้ราคาทองคำท้าทาย 3,350 ดอลลาร์ และตามด้วย 3,400 ดอลลาร์
🕯ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025
จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 เราระบุแนวรับสำคัญทางเทคนิคได้ดังนี้:
แนวต้าน: $3285, $3316, $3355
แนวรับ: $3202, $3155, $3100
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
เส้นแนวโน้มขาลง H4 กำลังแสดง🕯วิเคราะห์ราคาทองคำกัน ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025
การปรับฐานจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จะรุนแรงขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนคลี่คลายลง
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ (XAU/USD) เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มขาขึ้น และทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3,500 ดอลลาร์ในการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อวันอังคาร ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ โดยลบกำไรจากวันพฤหัสบดีและหลุดต่ำกว่าเกณฑ์ 3,300 ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำได้รับผลกระทบอย่างหนัก แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะลดลงก็ตาม ความตึงเครียดในข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงมากกว่า 1.6%ความคืบหน้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญที่เผยแพร่โดยสหรัฐฯ อาจผลักดันมูลค่าของทองคำในระยะใกล้
อารมณ์ของตลาดยังคงเปราะบาง โดยแกว่งตัวไปมาระหว่างโหมดเสี่ยงและโหมดเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความคิดเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ บลูมเบิร์กรายงานว่าจีนกำลังพิจารณายกเว้นภาษีสินค้าบางรายการของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความหวัง อย่างไรก็ตาม อารมณ์กลับแย่ลงหลังจากที่ทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกภาษีกับจีนหากไม่ประนีประนอมอย่างมีนัยสำคัญ
🙂สัปดาห์นี้นักลงทุนทองคำให้ความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลของสหรัฐฯ
สำนักงานวิเคราะห์ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ (BEA) จะเผยแพร่ประมาณการครั้งแรกเกี่ยวกับ การเติบโตของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรก โดยตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวในอัตราต่อปี 0.4% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ช้ากว่ามากเมื่อเทียบกับการขยายตัว 2.4% ที่บันทึกไว้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024
ตัวเลข GDP ที่เป็นลบอาจกระตุ้นให้เกิดการเทขาย USD ทันทีและส่งผลให้ XAU/USD ปรับตัวสูงขึ้น ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME ตลาดแทบไม่เห็นโอกาสที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม ขณะที่มีโอกาสเกือบ 40% ที่ Fed จะคงนโยบายเดิมในเดือนมิถุนายน ข้อมูลการเติบโตที่น่าผิดหวังอาจส่งผลต่อการคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในเดือนมิถุนายน ในทางกลับกัน USD อาจได้รับประโยชน์จากตัวเลขที่ 1% ขึ้นไป และบังคับให้ค่าเงินคู่นี้ปรับตัวลดลง
ในวันศุกร์ นักลงทุนจะจับตาดูรายงานการจ้างงานเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ผู้กำหนดนโยบายของเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของ ตลาดแรงงาน ประธานเฟดมินนิอาโปลิส นีล คาชคารี กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าเขากังวลว่าธุรกิจต่างๆ อาจเริ่มเลิกจ้างพนักงานเนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากความขัดแย้งทางการค้า ในทำนองเดียวกัน คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด กล่าวกับบลูมเบิร์กว่าเขาจะไม่แปลกใจหากเห็นการเลิกจ้างเพิ่มขึ้นและอัตราการว่างงานสูงขึ้น "วิธีที่ง่ายที่สุดในการชดเชยต้นทุนภาษีศุลกากรคือการลดจำนวนพนักงาน" วอลเลอร์กล่าว
ดังนั้น การที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ออกมาต่ำกว่าหรือต่ำกว่า 100,000 อาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และช่วยให้XAU/USDปรับตัวสูงขึ้นก่อนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ ในทางกลับกัน อัตราการว่างงานที่ลดลง ประกอบกับตัวเลข NFP ที่แข็งแกร่งที่สูงกว่า 200,000 อาจทำให้ตลาดเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน และส่งผลให้คู่เงินนี้ปรับตัวลดลง
ผู้เข้าร่วมตลาดจะประเมินพัฒนาการใหม่ๆ เกี่ยวกับข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนด้วยเช่นกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอยกลับและตัดสินใจที่จะหยุดหรือลดภาษี ทองคำอาจต้องดิ้นรนเพื่อหาอุปสงค์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
👀มุมมอง:
ข่าวการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนในสุดสัปดาห์นี้จะยังคงสร้างแรงกดดันการขายให้กับราคาทองคำในสัปดาห์หน้า โดยเคลื่อนตัวตามแนวเส้นแนวโน้มขาลง H4
🕯 ในทางเทคนิค:
ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025 จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 เราระบุแนวรับสำคัญทางเทคนิคได้ดังนี้:
แนวต้าน: $3358, $3500, $3600
แนวรับ: $3211, $3150, $3100
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอโชคดีทุกคน
ทองคำกำลังทดสอบระดับ 3100 ท่ามกลางความวุ่นวายจากสงครามการค้า✍️วิเคราะห์ราคาทองคำ 31/03/2025 - 04/04/2025
ทองคำพุ่งทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3,100 ดอลลาร์ ท่ามกลางความวุ่นวายจากสงครามการค้า
ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในวันศุกร์ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 3,086 ดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับการปรับขึ้นของมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เลือกใช้ หลังจากนั้น ความรู้สึกของตลาดก็บ่งชี้ว่ามั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2025 ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ซื้อขายที่ 3,084 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.81%
บรรยากาศตลาดมีแนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากผู้ค้าเตรียมรับมือกับวันที่ 2 เมษายน ซึ่งตรงกับวันปลดปล่อยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ โดยเขาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ทุกคันในอัตรา 25% ต่อรถยนต์ที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคนาดาและสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเริ่มเตรียมการตอบโต้ต่อมาตรการดังกล่าว
ในระหว่างนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงและมีแนวโน้มที่จะปิดสัปดาห์ด้วยการลดลง 0.11% ตามดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาโลหะมีค่า อัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยได้ซื้อทองคำแท่งและเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY)
ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯเปิดเผยว่าดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (PCE) ในเดือนกุมภาพันธ์ส่วนใหญ่สอดคล้องกับที่คาดการณ์ ขณะที่การสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมีนาคมกลับแย่ลงไปอีก
นอกจากนี้ นางแมรี่ เดลีย์ แห่งธนาคารกลาง ซานฟรานซิ สโก กล่าวว่าเธอคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2568 และเมื่อไม่นานนี้ เธอเสริมว่าเธอจะมุ่งเน้นไปที่อัตราเงินเฟ้อ 100% เนื่องจากความคืบหน้ายังคงเท่าเดิม
ในขณะเดียวกัน ตลาดเงินได้กำหนดราคาการผ่อนคลายนโยบายของเฟดที่ 73.5 จุดพื้นฐานในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 จุดพื้นฐานจากวันก่อนหน้า ตามความน่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยใน Prime Market Terminal
สัปดาห์นี้จับตา รายการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะประกอบด้วยการประกาศภาษีของทรัมป์ในวันที่ 2 เมษายน, ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ ISM ประจำเดือนมีนาคม, การเปิดรับสมัครงานแบบ JOLTS และการจ้างงานนอกภาคเกษตร
👀 มุมมองส่วนตัว:
ราคาทองคำขยับขึ้น ต้นเม.ย. มีโอกาสจะระเบิดขึ้นต่อเนื่องเป็น NEW Ath
📊 ปัจจัยทางเทคนิค: :
แนวโน้มทางเทคนิคของราคาทองคำ: หลังจากพุ่งทะลุ 3,050 ดอลลาร์ จับตาแนวต้านถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์
📈ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,086 ดอลลาร์ และเตรียมที่จะทดสอบระดับ 3,100 ดอลลาร์ แนวโน้มดังกล่าวบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยหากราคาทองคำสามารถทะลุแนวรับ 3,150 ดอลลาร์และ 3,200 ดอลลาร์ได้ ราคาทองคำก็จะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป
📉เนื่องจากแนวโน้มขาขึ้นมีความรุนแรงมาก ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) จึงกลายเป็นซื้อมากเกินไป โดยทะลุ 70 อย่างไรก็ตาม การอ่านค่าที่รุนแรงที่สุดจะอยู่ที่ 80 ในทางกลับกัน หากร่วงลงต่ำกว่าระดับสูงสุดของเดือนมีนาคมที่ 3,057 ดอลลาร์ อาจทำให้ราคาปรับตัวลดลงไปที่ 3,000 ดอลลาร์
✍️ราคาทองคำ 31/03/2025 - 04/04/2025
จากแนวต้านและแนวรับของราคา
ทองคำตามกรอบ H4 จะระบุแนวรับและแนวต้านสำคัญดังนี้:
แนวต้าน: $3115, $3171, $3200
แนวรับ: $3002, $2957, $2880
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ความตึงเครียดการค้าโลก ยังกระตุ้นราคาทองคำต่อเนื่อง วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 10/03/2568 - 14/03/2568
🔥 สถานการณ์:
คูเกลอร์เน้นย้ำว่าความไม่แน่นอนเป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้เธอกล่าวว่านโยบายการเงินน่าจะทรงตัวไปอีกสักระยะ และมองว่าค่าจ้างเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ยืนยันอีกครั้งว่าธนาคารกลางไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยยอมรับว่าการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% จะเป็นกระบวนการแบบค่อยเป็นค่อยไป และเตือนว่าอย่าตอบสนองมากเกินไปต่อความผันผวนของข้อมูลในระยะสั้น โดยระบุว่าเฟดมีจุดยืนที่ดีในเรื่องนโยบายการเงิน
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับภาษีศุลกากร พาวเวลล์ตั้งข้อสังเกตว่าผลกระทบต่อเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นยังคงไม่แน่นอน
🔥ความเห็น:
การสะสมกำลังเหนือระดับ 2900 เป็นสัญญาณที่ดี อนึ่งความตึงเครียดทางการค้าจะครอบคลุมทั่วโลก พร้อมส่งเสริมราคาทองคำมุ่งหน้าสู่ระดับ 3000+
แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำลดลง ผู้ขายคาดการณ์ไว้ที่ 2,900 ดอลลาร์
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวราบ โดยไม่สามารถทะลุระดับ 2,930 ดอลลาร์ได้ หลังจากที่ พุ่งขึ้น อย่างโดดเด่นกว่า 1.72% ในเดือนนี้ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไป เนื่องจาก RSI ยังคงเป็นขาขึ้น
ดังนั้นแนวต้านถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ 2,950 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,956 ดอลลาร์ หากทะลุแนวต้านหลังได้ ราคาจะทะลุ 3,000 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากราคาตกลงต่ำกว่า 2,900 ดอลลาร์ ราคาจะทะลุจุดต่ำสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ 2,832 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุด 2,800 ดอลลาร์
🔥 ในทางเทคนิค: ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 10/03/2568 - 14/03/2568
จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบระบุพื้นที่สำคัญสำคัญดังนี้:
แนวต้าน 2930, 2956 , 3000
แนวรับ 2900, 2832, 2800
XAUUSD (GOLD) H4 (ทองคำโลก)เห็นยังไง วิเคราะห์ไปแบบนั้น
ไม่ยึดติดทฤษฏี มองถึงความได้เปรียบของรูปทรงกราฟที่เกิดขึ้น
นำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างผลตอบแทน !!
แต่ถ้าอยากรู้เหตุผลอย่างอื่นเพิ่มเติม
เข้ามารับชมได้ที่เพจ Order Concept
หรือพิมพ์ค้นหาที่ FacebooK : @OrderConceptFX ได้เลย
ไลฟ์วิเคราะห์ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
(เวลา 14:00 น.) เป็นต้นไป สามารถดูย้อนหลังได้ตลอด
ที่นี้เราจะไม่พูดถึงแค่เรื่องกราฟแบบมือใหม่
แต่เราจะพาไปเจาะลึกถึง Macroeconomics (เศรษฐศาสตร์มหภาค)
สัญญาณการซื้อขายข้อมูล NFP ประจำสัปดาห์นี้สวัสดีทุกคน. สัปดาห์นี้เรามีข้อมูล NFP มาวิเคราะห์อัตราต่อรองทองคำในสัปดาห์นี้กัน ระดับการสนับสนุนทองคำในปัจจุบันอยู่ที่ 2840-2830-2817
1: ในเส้น K รายวัน ตัวบ่งชี้สุ่มอยู่ในสถานะ Golden Cross ซึ่งเป็นสัญญาณขาขึ้นหลัก เส้นคู่ MACD ยังคงเพิ่มขึ้นเป็นหลัก ดังนั้นเส้น K รายวันยังคงถูกครอบงำโดยขาขึ้น และแนวโน้มขาขึ้นเป็นที่โดดเด่น ในแง่ของรูปแบบ วันนี้เป็นวันที่ 6 ของการทะลุขึ้น ดังนั้นควรระมัดระวังและเริ่มปรับตัวทีละน้อยในวันศุกร์ หากมีรูปแบบบวก 3 รูปแบบติดต่อกัน รูปแบบบวก 6 รูปแบบติดต่อกัน หรือรูปแบบบวก 9 รูปแบบติดต่อกัน ให้ระวังการลดลงและการแก้ไขในรูปแบบ
2: ในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง ตัวบ่งชี้สุ่มจะอยู่ในสถานะของการยึดเกาะและเฉื่อยชั่วคราว และตัวบ่งชี้ MACD อยู่ในแนวเส้นคู่ขึ้น ทั้งสองนี้ค่อนข้างขัดแย้งกัน แสดงให้เห็นว่าจะมีการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระหว่างวัน ตำแหน่งแนวรับการแปลงจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดใน 4 ชั่วโมงปัจจุบันอยู่ที่ตำแหน่งแนวรับสามตำแหน่งคือ 2840-2830-2817
เมื่อวานเราก็เริ่มขายทองคำในระดับสูงและตอนนี้ดูเหมือนว่าแนวคิดการซื้อขายนี้จะประสบความสำเร็จ
XAUUSD (GOLD)เห็นยังไง วิเคราะห์ไปแบบนั้น
ไม่ยึดติดทฤษฏี มองถึงความได้เปรียบของรูปทรงกราฟที่เกิดขึ้น
นำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างผลตอบแทน !!
แต่ถ้าอยากรู้เหตุผลอย่างอื่นเพิ่มเติม
เข้ามารับชมได้ที่เพจ Order Concept
หรือพิมพ์ค้นหาที่ FacebooK : @OrderConceptFX ได้เลย
ไลฟ์วิเคราะห์ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
(เวลา 14:00 น.) เป็นต้นไป สามารถดูย้อนหลังได้ตลอด
ที่นี้เราจะไม่พูดถึงแค่เรื่องกราฟแบบมือใหม่
แต่เราจะพาไปเจาะลึกถึง Macroeconomics (เศรษฐศาสตร์มหภาค)
ทองคำอาจท้าทาย ATH ได้เมื่อผ่านแนวต้าน 2772-2773 ได้เด็ดขาดราคาทองคำอาจมุ่งท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลได้เมื่อสามารถผ่านแนวต้าน 2,772-2,773 ดอลลาร์ได้อย่างเด็ดขาด
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากการเคลื่อนไหวในเชิงบวกของวันก่อนหน้า และแกว่งตัวขึ้นเหนือระดับ 2,760 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายเอเชียในวันนี้ สัญญาณของเสถียรภาพในตลาดหุ้นเป็นปัจจัยต้านโลหะมีค่าที่ปลอดภัย ในขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงอีกครั้งและการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ ส่งผลให้ การฟื้นตัวของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ลดลงจากระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน สิ่งนี้ควบคู่ไปกับความกังวลเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ช่วยหนุนโลหะมีค่าที่ไม่มีผลตอบแทนนี้
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่เต็มใจที่จะเดิมพันอย่างก้าวร้าวเกี่ยวกับราคาทองคำ และเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลาง ซึ่งเป็นผลจากการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เป็นเวลา 2 วัน เฟดมีกำหนดจะประกาศผลการตัดสินใจในช่วงเซสชั่นอเมริกาเหนือ และคาดว่าจะยังคงยืนหยัดต่อไป แม้ว่าทรัมป์จะเรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันทีก็ตาม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนโยบายของเฟดจะมีบทบาทสำคัญในการส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาดอลลาร์สหรัฐในระยะใกล้ และกำหนดขั้นตอนต่อไปของการเคลื่อนไหวในทิศทางของโลหะมีค่า
ในขณะเดียวกัน ความสนใจของตลาดยังคงยึดติดกับการตัดสินใจด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และช่วยผลักดันทองคำใหม่
🕯มุมมองทางเทคนิค
📈จากมุมมองทางเทคนิค การทะลุแนวต้านที่ระดับ 2,720-2,725 ดอลลาร์ล่าสุดและออสซิลเลเตอร์เชิงบวกบนกราฟรายวันบ่งชี้ว่าแนวต้านต่ำสุดสำหรับราคาทองคำยังคงอยู่ด้านบน การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปเหนือระดับ 2,772-2,773 ดอลลาร์จะยืนยันแนวโน้มเชิงบวกและผลักดันให้ XAU/USD ทะลุระดับ 2,786 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ที่แตะเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยมุ่งสู่จุดสูงสุดตลอดกาล ใกล้กับโซน 2,790 ดอลลาร์ การซื้อตามหลังบางส่วนซึ่งนำไปสู่ความแข็งแกร่งเหนือระดับ 2,800 ดอลลาร์ จะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับเทรดเดอร์ขาขึ้น และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนซึ่งเห็นได้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
📉ในทางกลับกัน การอ่อนตัวลงต่ำกว่าแนวรับทันทีที่ 2,755-2,753 ดอลลาร์อาจยังคงดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนและยังคงอยู่ในขอบเขตจำกัดใกล้จุดต่ำสุดของรอบสัปดาห์ที่บริเวณ 2,730 ดอลลาร์ที่แตะเมื่อวันจันทร์ การขายตามลงมาต่ำกว่าแนวต้านที่ 2,725-2,720 ดอลลาร์ที่กลายเป็นแนวรับอาจเปิดทางให้เกิดการขาดทุนที่รุนแรงขึ้นและลากราคาทองคำไปที่บริเวณ 2,707-2,705 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 2,684 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
สัปดาห์นี้ทองคำน่าจะมีโอกาสปรับตัวลงและหรือมีแนวโน้มไปทางข้าง✍️ วิเคราะห์ราคาทองคำโดยพื้นที่ราคา H4 ระหว่างวันที่ 20/01/2025 - 24/01/2025
ทองคำยืนหยัดมั่นคงเหนือระดับ 2,700 ดอลลาร์ สัปดาห์นี้ทองคำน่าจะมีโอกาสปรับตัวลงและหรือมีแนวโน้มไปทางข้าง(Sideway)
🔥ไฮไลท์สถานการณ์สำคัญ:
⭐️ราคาทองคำร่วงลงในช่วงปลายเซสชันของตลาดอเมริกาเหนือ แต่ยังปิดสัปดาห์ด้วยกำไรมากกว่า 0.40% เนื่องจากผู้เล่นในตลาดรอพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ว่าจะซื้อขายที่ 2,701 ดอลลาร์ ลดลง 0.44% แต่ผู้ลงทุนยังคงซื้อทองคำต่อไปเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
⭐️ราคายังคงถูกขับเคลื่อนโดยภูมิรัฐศาสตร์และการเมืองในสหรัฐฯ (US) แม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในระดับโควตาจะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผู้ซื้อทองคำแท่งก็ไม่สามารถดันราคาให้สูงขึ้นเพื่อทำกำไรเพิ่มก่อนสุดสัปดาห์ได้
⭐️ตารางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าการเริ่มก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นสองหลัก แม้ว่าใบอนุญาตการก่อสร้างจะหดตัวในเดือนธันวาคมก็ตาม ทองคำแทบไม่ตอบสนองต่อข่าวนี้เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่ที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งนำโดยยอดขายปลีกที่นำเสนอในวันพฤหัสบดี บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีความมั่นคง
⭐️ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ(DXY) ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ 6 สกุลที่เป็นคู่กัน พุ่งขึ้น 0.35% สู่ระดับ 109.34
⭐️ข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยในช่วงเซสชั่นเอเชียแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนมีอัตราการเติบโต 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2567 ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
⭐️เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้ว่าการเฟด คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ แสดงท่าทีผ่อนปรนนโยบาย และแสดงความเห็นว่าธนาคารกลางของสหรัฐสามารถลดต้นทุนการกู้ยืมได้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น หากกระบวนการลดภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้น
⭐️ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปี 2568 และจะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน
👀สัปดาห์นี้ มี รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การเปิดเผยข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และข้อมูล PMI
🕯แนวโน้มทางเทคนิค
📈ราคาทองคำลดลงเนื่องจากไม่มีปัจจัยกระตุ้นมากพอก่อนสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ว่าผู้ซื้อต้องรักษาราคาไว้เหนือ 2,700 ดอลลาร์ เพื่อให้สามารถมีความหวังในการผลักดันให้ทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในวันที่ 12 ธันวาคมที่ 2,726 ดอลลาร์ เมื่อทะลุผ่านแล้ว จุดหยุดถัดไปคือ 2,750 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,790 ดอลลาร์
📉ในทางกลับกัน หากผู้ซื้อไม่สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่กล่าวไว้ข้างต้นได้ อาจส่งผลให้ราคาทองคำอาจทดสอบจุดต่ำสุดในวันที่ 13 มกราคมที่ 2,656 ดอลลาร์ จากนั้นจึงมาบรรจบกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 และ 100 วันที่ 2,639 - 2,642 ดอลลาร์
🔥 ระบุ:
ทองคำแตะแนวต้านกรอบใหญ่ที่ 2726 อ่อนตัวลงและปรับฐานลงระยะสั้น ตลาดรอรับนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์
🔥 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: 2726, 2750, 2790
แนวรับ: 2656, 2642-2639
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
สัญญาณการซื้อขายทองคำที่ถูกต้องสวัสดีทุกคน. มีข้อมูล NFP ที่สำคัญมากในสัปดาห์นี้ ข้อมูลนี้จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของทองคำ มาวิเคราะห์แนวโน้มทองคำประจำสัปดาห์นี้กัน คุณยังสามารถโพสต์มุมมองของคุณเกี่ยวกับแนวโน้มของทองคำในสัปดาห์นี้ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น
ตำแหน่งสำคัญของทองคำปัจจุบันอยู่ที่ 2610-2584 หากสีเหลืองวันจันทร์ยังคงอยู่เหนือแนวรับ 2610 ก่อนข้อมูล NFP ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ทองคำจะรักษาระดับการรวมตัวไว้ที่ 2610-2665 ก่อนที่จะมีการปรับฐานเงินเดือนนอกภาคเกษตรกรรม รอคำแนะนำจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปิดบังว่าข่าวด่วนอาจทำให้ทองคำทะลุกรอบ 2610-2665 ล่วงหน้าได้
ในทางกลับกัน หากทองคำตกลงต่ำกว่า 2610 ทองคำจะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลง
หากมันทรงตัวเหนือ 2610 หลังจากที่ตกลงไปต่ำกว่า 2610 แล้ว พื้นที่สำหรับทองคำจะค่อนข้างแคบ และช่วงอาจถูกจำกัดไว้ที่ 2610-2625 ตรงกันข้ามหากภาพเป็น 2665 ช่วงเวลาก็จะรันในช่วง 2665-2720
เงินหลักของเราคือซื้อที่ 2615 หลังจากจบ TP และเลือกขายที่ 2660 เมื่อวานก็ตกลงไปที่ 2642 เช่นกัน ทิศทางการซื้อขายของเราถูกต้อง การเผยแพร่เนื้อหาที่นี่อาจมีความล่าช้า หากคุณคิดว่าบทความของฉันมีประโยชน์สำหรับคุณ โปรดชอบด้วย ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณ