XAUUSD Daily Analysis 16/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ราคาทองคำ (XAUUSD) มีแนวโน้มที่ยังคงผันผวน โดยราคาปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับ $2,700 ต่อออนซ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายด้าน เช่น การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่กำลังจะเกิดขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะชี้ให้เห็นทิศทางของเงินเฟ้อ และอาจส่งผลต่อการปรับนโยบายทางการเงินของ Fed หากตัวเลขจริงออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง แต่หากต่ำกว่าคาดการณ์ ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้น
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 2652.16
✅ Tp: 2666.04 2681.67
❗ SL: 2642.25
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาลงมาปรับฐานที่โซนมีนัยยะสำคัญ และเริ่มทีจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา
มีโอกาสที่ราคาจะยกฐาน ขึ้นต่อ ทดสอบ 2666.00 เพื่อตัดสินใจ อีกรอบ
fibo : กำไรประมาณ 168.00
เป้ามหาย เป้าหมาย ไกลหนอยคือ 108117.09
RSI: Overbought
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
X-indicator
XAUUSD 16/12/24 ถ้าลงไม่หลุด 2643.5 หรือเบรค ob-H ถึงจะหยุดลงกรอบ 2643.5-2693
กรณีหยุดลง
- เบรค 2693
- ย่อไม่หลุด 2643.5
- ย่อ os แล้วกลับขึ้นเบรค ob-H
กรณีลงต่อ
- ขึ้นไม่ถึง 2693
- หลุด 2643.5 ลง test 2613
.................................
D : ob ลากเลื้อย sw
240 : os จิ้มลึกแล้ว ขาขึ้น ในกรอบ D
60 : ob ขาขึ้น ในกรอบ 2613-2726
30 : ob ขาลงพา 60 240 ปรับฐาน
- ob จาก rsi bulldi.
15 : ob จาก bulldi.
- ถ้าไม่เบรค 2693 ค้าง os 1 รอบ
- กรอบ 2643.5-2693
DEC 16,2024. THTH : ทำธุรกิจ เงินทุนหลักทรัพย์ เป็นอีกธุรกิจที่สนใจ หาข้อมูลเพื่อศึกษา กราฟลงมาเยอะแต่พอเข้าไปดูข้อมูลการเงินที่เสนอไว้ เลยส่องกราฟสักหน่อย แต่ก็ได้ต้องเฝ้าไว้เพราะไม่มีปันผล อันนี้ไว้หาจุดเข้าที่น่าสนใจราคาลงมาสมเหตุสมผล ถึงจะเข้า ในส่วนของหนี้สิน ดูแล้วต่ำมาก แสดงว่าบริหารหนี้ได้ดีทีเดียวสำหรับมุมมองผมนะเพราะดูหลายๆบริษัทที่ทำธุกิจนี้ มีหนี้สิ้นสูงหลายๆบริษัท แต่การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ถ้าจะลงทุนต้องทำความเข้าใจธุรกิจที่จะลงทุน หาข้อมูลเพื่อการตัดสินใจให้เยอะๆ ถ้ามีประโยชน์ก็ยินดีด้วยครับ ศึกษาไปด้วยกันครับ
ทองคำยังคงมีแนวโน้มลดลงในช่วงต้นสัปดาห์เช้านี้ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์จากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง แนวโน้มขาขึ้นดูเหมือนจะยังถูกจำกัด
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากลงมาทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่บริเวณ 2,644-2,643 ดอลลาร์ ซึ่งแตะระดับดังกล่าวในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้า ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินน้อยลง โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าเฟดจะระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ท่ามกลางสัญญาณว่าความคืบหน้าในการปรับลดอัตราเงินเฟ้อให้เข้าใกล้เป้าหมาย 2% นั้นหยุดชะงักลง ซึ่งในทางกลับกัน ปัจจัยดังกล่าวยังคงสนับสนุนให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสูงขึ้น และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลง
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะเริ่มชะลอการลงทุน และอาจเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนการตัดสินใจนโยบายที่สำคัญของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนวันพุธนี้ โดยความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ คือการที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ทำให้ผู้ซื้อขายดอลลาร์สหรัฐยังคงต้องตั้งรับ นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ อาจยังคงให้การสนับสนุนราคาทองคำในระดับหนึ่ง อนึ่งนักลงทุนต่างจับจ้องไปที่การเปิดเผยดัชนี PMI ของทั่วโลกเพื่อมองหาโอกาสในระยะสั้น
📊 ปัจจัยทางเทคนิค:
การปรับราคาทองคำทางเทคนิคทำให้ต้องระมัดระวัง ราคามีโอกาสผันผวนสูง
📉จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำที่ต่ำในรอบเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 2,644-2,643 ดอลลาร์ อยู่ในโซนที่มีการซื้อขายหนาแน่น หากการปรับลดต่อไปอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งเป้าไปที่ 2,625 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดประจำเดือนที่บริเวณ 2,614 ดอลลาร์ ตามลำดับ และแนวรับสำคัญที่ 2,605-2,600 ดอลลาร์ หากราคาทองคำทะลุลงมาต่ำกว่า 2,605 ดอลลาร์ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อขายที่มีแนวโน้มจะขาลง และเปิดทางให้เกิดการขาย หรือขาดทุนเพิ่มเติม(Panic sell)
📈ในทางกลับกัน ระดับ 2667 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคทันทีก่อนที่จะถึงระดับ 2,677 ดอลลาร์ ซึ่งหากสูงกว่านั้น ราคาทองคำอาจมุ่งเป้าไปที่การกลับตัวกลับขึ้นไปถึงระดับ 2,700 ดอลลาร์อีกครั้ง การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจขยายไปสู่จุดสูงสุดรายเดือนที่บริเวณ 2,726 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะใกล้ต่อไป
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทำไมอ่านตลาดหุ้นไทยลงในกรอบ 1447.72-1429.46-1411.21 ได้ล่วงหน้าทำไมเราถึงให้น้ำหนักการพักตัวของตลาดหุ้นไทยในกรอบ 1447.72-1429.46-1411.21 ได้ล่วงหน้า ก่อนที่ตลาดจะลงมาในกรอบนั้น
ในขณะที่บรรยากาศมวลชนพุ่งเป้าไปที่ 1500-1600 หรือ มากกว่านั้น
เหตุผล ก็คือการอ้างอิงแนวพักตัวจาก "Dinapoli Levels" ที่มีคำอธิบายดังนี้
Joe Dinapoli Levels เป็นเครื่องมือที่ใช้ใน **การวิเคราะห์ทางเทคนิค** (Technical Analysis) โดยอิงกับ **Fibonacci Retracement** ซึ่งมักใช้เพื่อระบุแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ที่สำคัญในตลาดการเงิน เช่น หุ้น, ฟอเร็กซ์, หรือคริปโต
Dinapoli ให้ความสำคัญกับ **38.2% และ 61.8%** ซึ่งเป็นสองระดับที่สำคัญใน Fibonacci Retracement เพราะเขาเชื่อว่า:
1. **38.2%**
- เป็นระดับที่แสดงถึงการ **พักตัวเล็กน้อย** (Shallow Retracement)
- เมื่อราคาเคลื่อนที่ถึงระดับนี้ จะมีแนวโน้มที่ตลาดจะรีบาวน์กลับไปในทิศทางเดิม
- เหมาะสำหรับตลาดที่มี **แรงเทรนด์แข็งแกร่ง** (Strong Trend) เพราะราคาอาจไม่ถอยลึกมากนัก
2. **61.8%**
- เป็นระดับที่แสดงถึงการ **พักตัวลึก** (Deep Retracement)
- หากราคามาถึงระดับนี้ มักแปลว่าแรงเทรนด์เริ่มอ่อนตัวลงหรือมีการพักตัวที่ชัดเจน
- เหมาะสำหรับการมองหาโอกาสในการกลับเข้าซื้อขาย (Re-entry) หากตลาดยังคงทิศทางเดิม
### แนวคิดหลัก:
- **Dinapoli Levels** ไม่ใช่แค่ตัวเลข 38.2% และ 61.8% แต่ Jo Dinapoli แนะนำให้มองการเคลื่อนไหวของราคาควบคู่กับ **อินดิเคเตอร์อื่น** (เช่น Moving Average หรือ Stochastic) เพื่อช่วยยืนยันว่าระดับเหล่านี้เป็นจุดกลับตัวที่สำคัญจริงๆ
- เป้าหมายคือการเข้าออเดอร์เมื่อราคา **พักตัว** และกลับมาสอดคล้องกับแนวโน้มใหญ่ (Trend) เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร
### ทำไมต้อง 38.2% และ 61.8%?
- ตัวเลขทั้งสองมาจาก **สัดส่วนฟีโบนักชี** ซึ่งมีพื้นฐานจากคณิตศาสตร์ธรรมชาติ และถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมนุษย์ในตลาดการเงิน
- Joe Dinapoli เชื่อว่าตลาดมักตอบสนองต่อระดับเหล่านี้บ่อยกว่าระดับอื่น เช่น 50% หรือ 23.6%
สรุปง่ายๆ:
1447.42 คือระดับ **38.2%** ใช้ในตลาดที่เทรนด์แรง (Shallow Pullback)
และ 1411.21 คือระดับ **61.8%** ใช้ในตลาดที่พักตัวลึก (Deep Pullback) โดยผสมผสานกับเครื่องมืออื่นเพื่อยืนยันจุดกลับตัวของราคา
Gold Market Outlook [16 ธันวาคม 2567]🌟 Gold Market Outlook
📈 ทองคำเผชิญแรงขายทำกำไรแต่ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนการลดดอกเบี้ยของเฟด
🔍 สถานการณ์ตลาดทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันศุกร์ หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ในการซื้อขายก่อนหน้านี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคายังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์ ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า
💫 ปัจจัยสนับสนุน
• ตลาดให้น้ำหนักถึง 97% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17-18 ธ.ค.นี้
• แรงซื้อทองคำที่แข็งแกร่งจากธนาคารกลางทั่วโลก
• ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงแข็งแกร่ง
🔮 มุมมองตลาดปี 2568
นักวิเคราะห์ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นในปีหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลดน้อยลง นอกจากนี้ ตลาดยังจับตานโยบายการคลังของสหรัฐฯ โดยเฉพาะแผนภาษีที่อาจส่งผลต่อเงินเฟ้อและทิศทางนโยบายการเงิน
📊 การวิเคราะห์ทางเทคนิค
แนวโน้มระยะสั้นมีความเสี่ยงขาลงหลังจากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ 2,664 ดอลลาร์ โดยหากไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ ราคามีโอกาสปรับตัวลงต่อ แนะนำกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นด้าน Sell เป็นหลัก
📈 แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: 📉 Slightly Bearish
🔼 แนวต้าน 3: $2,675
🔼 แนวต้าน 2: $2,664
🔼 แนวต้าน 1: $2,655
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,648
🔽 แนวรับ 2: $2,640
🔽 แนวรับ 3: $2,632
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
Moving Average Guide เส้นไหนโดนใจที่สุดMoving Average Guide เส้นไหนโดนใจที่สุด
👯👯👯 กลับมาพบเจอกันอีกแล้ว กับบทวามเทคนิคดีๆในการเทรด วันนี้เอาใจเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบเส้น EMA แต่เอ๊ะ EMA ทำไมมีหลายเส้นจัง มาครับ บทความนี้มีคำตอบ
Moving Average คืออะไร??
Moving Average (MA) หรือที่เราเรียกว่า เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็น Indicators ที่ใช้ง่ายถึงง่ายที่สุดและถูกนำไปใช้งานบ่อยและเป็นที่นิยมมากในตลาดการเงินและะตลาดหุ้น
แต่เคยสังเกตุมั้ยทำไมเส้น Moving Average ถึงมีให้เลือกใช้งานมากมายหลากหลายประเภทจัง ในหัวข้อนี้แอดจะเน้นไปที่เส้น Exponential Moving Average (EMA) เพราะเป็นค่ามาตรฐานที่ค่อนข้างละเอียด และเป็นที่นิยมกันมาก
ส่วนใหญ่ เส้น EMA ก็จะมีการคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลังไปครับ ไม่ว่าจะเป็นเส้นย้อนหลังไป 5 วัน หรือ 10 วัน 100 วัน หรือมากกว่า ทีนี้เรามาดูกันดีกว่า ว่าเส้น EMA ย้อนหลัง เส้นแบบไหนที่เหมาะกับเราบ้าง
1. หากเราชื่นชอบการเทรดสั้นๆเน้นเข้าเร็วออกเร็ว เหมาะกับการเทรดแบบ Day Trading และ Scalping ปิดจบในวัน แอดแนะนำให้ใช้เส้น 5 หรือ 9 หรือ 10 โดยที่เราต้องมีเส้นตัดบอกทิศทาง 1-2 เส้นขึ้นไปร่วมด้วย เพื่อบอกแนวรับแนวต้าน ส่วนใหญ่จะใช้เส้น 20 , 100 เป็นเส้นหลักในการรตัดกัน
2. หากเราชื่นชอบการเทรดระยะกลางๆปิดจบรายวัน ตั้งแต่ H1 ขึ้นไปจนรายวัน และเหมาะกับการเทรดตามเทรนด์ หรือ Trend Following แอดแนะนำให้ใช้เส้น 25 หรือ 50 หรือ 75 โดยที่เราต้องมีเส้นตัดบอกทิศทาง 1-2 เส้นขึ้นไปร่วมด้วย เพื่อบอกแนวรับแนวต้าน ส่วนใหญ่จะใช้เส้น 20 , 100 เป็นเส้นหลักในการรตัดกัน
3. หากเราชื่นชอบการเทรดระยะยาว ตั้งแต่รายวันจนถึงรายวีคและรายเดือนขึ้นไป เหมาะกับการเทรดตามเทรนด์ หรือ Trend Following แอดแนะนำให้ใช้เส้น 20 ร่วมกับเส้น 100 และ 200 ขึ้นไป โดยที่เราต้องมีเส้นตัดบอกทิศทาง 1-2 เส้นขึ้นไปร่วมด้วย เพื่อบอกแนวรับแนวต้าน
เส้น EMA ที่นิยมใช้
เส้น EMA5 = การคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 วันทำการ หรือ 1 สัปดาห์
เส้น EMA10 = การคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 วันทำการ หรือ 2 สัปดาห์ หรือ ประมาณครึ่งเดือน
เส้น EMA20 = การคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 20 วันทำการ หรือ 4 สัปดาห์ หรือ เกือบๆ 1 เดือน
เส้น EMA25 = การคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 25 วันทำการ หรือ ประมาณ 1 เดือน
เส้น EMA40 = การคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 40 วันทำการ หรือ 8 สัปดาห์ หรือ เกือบๆ 2 เดือน
เส้น EMA50 = การคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 50 วันทำการ หรือ ประมาณ 2 เดือน
เส้น EMA75 = การคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 75 วันทำการ หรือ ประมาณ 3 เดือน หรือ 1 ไตรมาส
เส้น EMA200 = การคำนวณค่าเฉลี่ยเป็นตัวเลขกลม ๆ ของจำนวนวันประมาณ 3 ไตรมาส
👽👽👽 เป็นอย่างไรกันบ้างครับพอจะได้ทริคดีๆในการใช้เส้น EMA กันบ้างแล้วใช่มั้ยครับ แอดว่ามันเรียบง่ายและใช้ง่ายที่สุดแล้วครับ แต่อย่าใส่เส้น EMAเยอะเกินไปจนลายตานะครับ ไม่งั้นนอกจากจะดูกราฟไม่รู้เรื่องแล้วเผลอๆจะเข้าออเดอร์ผิดๆถูกๆไปอีก
แล้วที่สำคัญ หมั่นฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน ยิ่งเราเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
ทำกำไร 3500% จากเหรียญ ALPHA/UADT ในตลาดสปอตร์ ด้วย fiboลงซื้อเหียญ ALPHA ที่ 10000 usdt ตอนนี้ (15/12/24 )และอดทนถือไว้ เป็นเวลาหนึ่งปี และรอขายปลายปี 2025 หรือเมื่อเหรียญราคาเพิ่มขึ้นตาม fibo ไปที่ 1.618 หรือตั้ง sell limit ที่ราคา 4.53970 usdt คุณจะได้รับกำไรถึง 3500 % จาก 10,000 usd ไป 350,000 usd
BTCUSD Daily Analysis 14/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2024 ราคาบิตคอยน์ (BTC) อยู่ที่ประมาณ 101,380 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2024 ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้ กองทุน ETF ที่ลงทุนในบิตคอยน์และอีเธอร์กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีเม็ดเงินไหลเข้ามากเป็นประวัติการณ์
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 101372.71
✅ Tp: 102560.37 104703.96
❗ SL: 100244.37
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาเริม่สะสมแรงอักครั้ง มีโอกาสที่ราคาจะฐานขึ้นต่อไปทดสอบโซน 105000.00
fibo : กำไรประมาณ 168.00
เป้ามหาย เป้าหมาย ในกรอบ 105000.00
RSI: Overbought
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ความยากในการเป็น Full-Time Traderการเป็น Full-Time Trader คือความฝันของใครหลายคนที่ต้องการอิสรภาพทางการเงินและเวลา แต่ในความเป็นจริงนั้น ความยากลำบากและความท้าทายที่ซ่อนอยู่มักไม่ได้รับการพูดถึงอย่างชัดเจน บทความนี้จะพาคุณสำรวจปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้การเป็น Full-Time Trader ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิด
1. ความกดดันทางการเงิน
Full-Time Trader ต้องพึ่งพารายได้จากการเทรดเป็นหลัก หากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อาจทำให้เกิดความเครียดสะสม อีกทั้งยังต้องเผชิญกับภาระค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ การไม่มีรายได้ที่มั่นคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ
2. ความไม่แน่นอนของตลาด
ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดต้องเผชิญในทุกวัน การคาดการณ์ทิศทางของตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าคุณจะมีประสบการณ์หรือใช้เครื่องมือทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยมก็ตาม การขาดทุนอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ขาดความมั่นใจและส่งผลต่อจิตใจ
3. การบริหารความเสี่ยง
หนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดของ Full-Time Trader คือการบริหารความเสี่ยง หากไม่มีการวางแผนที่ดีหรือการควบคุมความเสี่ยงที่เหมาะสม อาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ในระยะเวลาอันสั้น การรักษาเงินทุนเป็นสิ่งที่ยากและต้องอาศัยความมีวินัยอย่างสูง
4. ความรู้และทักษะที่จำเป็น
Full-Time Trader ไม่ได้อาศัยแค่โชคหรือการคาดเดา แต่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับตลาด การวิเคราะห์เทคนิค และการวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ การพัฒนาทักษะเหล่านี้ต้องใช้เวลา การฝึกฝน และการลงทุนในการศึกษาอยู่ตลอดเวลา
5. ผลกระทบต่อสุขภาพจิต
ความกดดันจากการขาดทุน ความกลัวที่จะพลาดโอกาส (FOMO) หรือแม้กระทั่งการติดตามตลาดตลอดเวลา สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้อย่างมาก Full-Time Trader ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและสามารถจัดการอารมณ์ของตนเองได้ดี
6. การจัดการเวลา
แม้ว่าการเป็น Full-Time Trader จะดูเหมือนมีอิสระในการจัดการเวลา แต่ในความเป็นจริง การติดตามตลาด วิเคราะห์กราฟ และวางแผนการเทรดอาจใช้เวลามากกว่าการทำงานประจำเสียอีก การไม่มีตารางเวลาที่ชัดเจนอาจนำไปสู่ความเหนื่อยล้าและลดประสิทธิภาพในการเทรด
7. การปรับตัวกับเทคโนโลยี
ในยุคปัจจุบัน การเทรดต้องอาศัยเทคโนโลยี เช่น การใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูล การตั้งค่า EA (Expert Advisor) หรือการใช้ API เพื่อการเทรดอัตโนมัติ Full-Time Trader ต้องมีความเข้าใจในเทคโนโลยีเหล่านี้และพร้อมที่จะปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง
วิธีเตรียมตัวรับมือกับความยากลำบาก
การวางแผนทางการเงิน: ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 6-12 เดือนเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในกรณีที่เทรดไม่มีกำไร
การเรียนรู้และพัฒนา: หมั่นศึกษาและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของตนเองอยู่เสมอ
การสร้างเครือข่าย: การพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเทรดเดอร์คนอื่นสามารถช่วยให้คุณเห็นมุมมองใหม่ ๆ
การดูแลสุขภาพ: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และฝึกสมาธิเพื่อลดความเครียด
บทสรุป
การเป็น Full-Time Trader ไม่ใช่เพียงแค่การซื้อขายในตลาดการเงิน แต่ยังต้องมีวินัย ความรู้ และความสามารถในการจัดการอารมณ์ของตนเอง แม้ว่าจะมีความยากลำบาก แต่หากเตรียมตัวและปรับตัวอย่างเหมาะสม คุณอาจสามารถก้าวข้ามความท้าทายและประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้ได้
เมื่อ XAUUSD ไม่ผ่าน TDST-LEVEL ที่ 2721.42 พร้อม TD#9เมื่อ **XAUUSD** (ราคาทองคำเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ) ไม่สามารถทะลุ **TDST Level** ที่ 2721.42 ได้ พร้อมมีสัญญาณ **TD Sell Setup #9** เกิดขึ้น มีผลต่อการวิเคราะห์ดังนี้:
### 1. **TDST Level** คืออะไร?
- **TDST Level** (Tom DeMark Setup Trend Level) เป็นแนวรับหรือแนวต้านสำคัญที่เกิดจากการวิเคราะห์ของ **DeMark Sequential** ซึ่งมักใช้เป็นจุดอ้างอิงว่าราคาจะทะลุแนวต้าน/แนวรับสำคัญ หรือกลับตัวในช่วงนั้น
- เมื่อราคาไม่สามารถทะลุ TDST Level ได้ แปลว่าแนวต้านหรือแนวรับนั้นมีนัยสำคัญ และอาจเกิดแรงขายหรือการปรับฐานของราคาในระยะสั้น
### 2. **TD Sell Setup #9** บ่งบอกอะไร?
- **TD Sell Setup** เป็นส่วนหนึ่งของระบบ DeMark Sequential ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมี 9 แท่งเทียนขาขึ้นติดต่อกัน (โดยมีเงื่อนไขที่แท่งเทียนที่ 9 สูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้าในลักษณะเฉพาะ)
- สัญญาณนี้บ่งชี้ว่าราคาอาจอยู่ในจุดที่เกิดแรงขายหรือการพักตัวของแนวโน้มขาขึ้น
### 3. **การวิเคราะห์กรณีนี้**
- เมื่อ XAUUSD ไม่สามารถทะลุ TDST Level ที่ 2721.42 ได้:
- **TDST Level ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน**: เป็นสัญญาณว่าแรงซื้ออ่อนแอ และผู้ขายเริ่มเข้ามาในตลาด
- **TD Sell Setup #9** เสริมสัญญาณกลับตัว: เป็นการยืนยันว่าอาจเกิดแรงขายในระยะสั้นหลังจากราคาเข้าสู่ช่วงขยายตัว (9 แท่งเทียนขาขึ้น)
- นักวิเคราะห์มักคาดการณ์ว่า:
1. ราคาอาจพักตัวหรือปรับฐานในระยะสั้น
2. หากเกิดการขายทำกำไร อาจมีแนวรับถัดไปอยู่ในระดับต่ำกว่า TDST Level
### 4. **กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน**
- หากถือสถานะ Long:
- พิจารณาทยอยปิดสถานะหรือยก Stop-Loss ขึ้นมาเพื่อปกป้องกำไร
- ติดตามแนวรับที่สำคัญต่ำกว่า 2721.42
- หากมองหาจังหวะ Short:
- ใช้ระดับ TDST Level เป็นจุดเริ่มต้นการขาย พร้อมวาง Stop-Loss เหนือแนวต้าน
- ติดตามความแข็งแกร่งของสัญญาณ Sell Setup ว่ามีแรงขายสนับสนุนหรือไม่
### 5. **ข้อควรระวัง**
- สัญญาณ TD Sequential เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์เชิงเทคนิคอื่นๆ เช่น RSI, MACD หรือ Volume
- สถานการณ์ตลาดจริงอาจเปลี่ยนแปลงได้เร็ว หากมีข่าวสำคัญเกี่ยวกับทองคำหรือดอลลาร์สหรัฐ เช่น นโยบายการเงินหรืออัตราเงินเฟ้อ
### สรุป:
เมื่อ XAUUSD ไม่สามารถทะลุ TDST Level ที่ 2721.42 พร้อมสัญญาณ TD Sell Setup #9 นักลงทุนควรระวังการปรับฐานของราคา และติดตามการเคลื่อนไหวในกรอบ TDST Level อย่างใกล้ชิดเพื่อวางกลยุทธ์ซื้อขายอย่างเหมาะสม.
XAUUSD 13/12/24 ค่ำ ลงตามระยะสั้น เพื่อให้ระยะกลางปรับย่อจาก 240 ค้าง os จิ้มลึก
30 15 เมื่อมีหัวลงจึงพา 60 240 os
ถ้าระยะสั้น ยังไม่มี สญ.หยุดลง ยังลงต่อ
โดยระยะกลาง ถ้ายัง HH HL การลงจะเป็นเพียงปรับฐาน
การเสี่ยงเข้า L ควรเข้าเมื่อ ระยะกลาง os + ระยะสั้นมี สญ.นับ1 รับ sl ได้จึงเข้า
..................................
D: ob ลาก มีแท่งหยุด ob
- ถ้าเบรค 2718 ยังขึ้น ob test 2790
240: os คาดจิ้มลึก ในขาขึ้น
- กรอบ 2605-2726
- จากมี สญ.หยุดขึ้น= คาดปรับฐานก่อน
60: os/ rsi os/ ในขาขึ้น
- กรอบ 2613-2726
30 15: os มีหัวลง
- มีหัวลงพา 60 240 os
- จากค้าง rsi os ลง os แล้ว
- ถ้ายังไม่มี สญ.หยุดลง ก็ยังลงต่อ
- ควรอยู่ที่หน้าปัจจุบัน
- ถ้าจะสวนควรรอ สญ. นับ1 เสี่ยงเข้า sl/ หรือรอ นับ2 เข้า sl
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ S&P500 เกิดสัญญาณ Bearish Price Flip@DAYจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ S&P500 เกิดสัญญาณ Bearish Price Flip TF DAY
สัญญาณ **Bearish Price Flip** ในกรอบเวลา Day บนดัชนี S&P500 หมายถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มจากภาวะตลาดที่มีแรงซื้อเป็นส่วนใหญ่ (Bullish) ไปสู่แนวโน้มที่มีแรงขายเริ่มเด่นชัดขึ้น (Bearish) โดยมีความหมายและผลกระทบดังนี้:
### 1. **ความหมายของ Bearish Price Flip**
- Bearish Price Flip เกิดขึ้นในระบบการวิเคราะห์บางระบบ เช่น **TD Sequential** ซึ่งมักระบุว่าเกิดเมื่อราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียน 4 วันก่อนหน้า
- เป็นสัญญาณเริ่มต้นว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจสิ้นสุดลงและเริ่มมีโอกาสเกิดการปรับตัวลงในระยะสั้น
### 2. **ผลกระทบต่อตลาด**
- **แรงขายเพิ่มขึ้น**: สัญญาณนี้อาจดึงดูดนักลงทุนบางกลุ่มที่เชื่อมั่นในเทคนิคนี้เข้าสู่สถานะขาย (short positions) หรือปิดสถานะซื้อ (long positions)
- **การทดสอบแนวรับ**: หากแรงขายมีความต่อเนื่อง อาจนำไปสู่การทดสอบระดับแนวรับสำคัญ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือแนวรับในกรอบ Fibonacci Retracement
- **ความผันผวนเพิ่มขึ้น**: ความไม่แน่นอนในแนวโน้มทำให้ความผันผวนในระยะสั้นสูงขึ้น
### 3. **วิธีการรับมือ**
- **วาง Stop Loss**: สำหรับผู้ที่ถือสถานะซื้อ ควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุนในกรณีที่ราคาทะลุแนวรับสำคัญ
- **รอดูการยืนยันสัญญาณ**: Bearish Price Flip อาจไม่ได้ยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มทั้งหมด หากแนวรับยังคงแข็งแกร่ง
- **ติดตามตัวชี้วัดอื่น**: ใช้เครื่องมือเพิ่มเติม เช่น RSI, MACD หรือ Volume Analysis เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- **ประเมินแนวรับถัดไป**: หากตลาดปรับตัวลง ให้หาจุดแนวรับถัดไปที่อาจช่วยชะลอแรงขาย
### 4. **ตัวอย่างสถานการณ์**
หาก S&P500 อยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วเกิด Bearish Price Flip:
- นักลงทุนบางกลุ่มอาจเริ่มทยอยขายทำกำไร
- ดัชนีอาจปรับตัวลงระยะสั้นก่อนกลับมาทดสอบแนวต้านอีกครั้ง หากยังคงอยู่ในกรอบขาขึ้นที่ใหญ่กว่า
Bearish Price Flip เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยจับสัญญาณแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจหรือผลประกอบการของบริษัทที่มีน้ำหนักมากในดัชนีประกอบการตัดสินใจลงทุน.
BTCUSD Daily Analysis 13/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2024 ราคาบิตคอยน์ (BTC) อยู่ที่ประมาณ 101,380 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11 ดอลลาร์สหรัฐ (0.00011%) จากวันก่อนหน้า โดยมีราคาสูงสุดในวันนี้ที่ 102,009 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาต่ำสุดที่ 100,410 ดอลลาร์สหรัฐ
การพุ่งขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ เลือกพอล แอตกินส์ เป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการพัฒนาตลาดคริปโตเคอเรนซี
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 97902.94
✅ Tp: 101400.00 ,100000.00
❗ SL: 95888.73
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีแรงขายเข้ามา พักตัว และ เป็น sw ตามแผนที่วางใว้
มีโอกาสที่ราคาจะลงไปเก็บของและสะสมแรงที่ 97902.94
fibo : เข้าประมาณช่วง 50-68
เป้ามหาย เป้าหมาย ในกรอบ 100000.00
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การเทรดรูปแบบ QM เป็นรูปแบบที่มีนัยยะสำคัญที่มืออาชีพชอบเทรด และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
การตัดสินใจ PUT DW (Derivative Warrants) ใน HSI Futures ทำตอนไหนการตัดสินใจ PUT DW (Derivative Warrants) ใน HSI Futures ทำตอนไหน
สำหรับการตัดสินใจ PUT DW (Derivative Warrants) ในกรณีที่ **HSI Futures เกิดสัญญาณ TD SELL COUNTDOWN #13 บนกรอบ DAY** และคุณคาดการณ์ว่าเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 20,000 จุด มีปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาดังนี้:
---
### **1. ความหมายของ TD SELL COUNTDOWN**
- **TD Sequential** เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ตรวจสอบการเปลี่ยนแนวโน้ม โดย:
- **TD SELL COUNTDOWN #13** บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังหมดแรง และมีโอกาสเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลง
- สัญญาณนี้มักต้องการการยืนยันเพิ่มเติม เช่น การ Break แนวรับสำคัญ หรือสัญญาณเทคนิคอื่นๆ
---
### **2. การประเมินเป้าหมายที่ 20,000 จุด**
- หากคุณประเมินว่าเป้าหมายระยะสั้นคือ **20,000 จุด** (ซึ่งต่ำกว่าระดับปัจจุบัน) และแนวโน้มขาลงได้รับการยืนยันจากการวิเคราะห์เพิ่มเติม เช่น:
- **EMA/SMA ตัดลง**
- **MACD** หรือ **RSI** ชี้ไปในโซน Bearish
- การ Breakout ต่ำกว่าระดับแนวรับสำคัญ
**แผน PUT DW อาจเหมาะสม** แต่ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงจาก:
- ความผันผวน (Volatility)
- ระดับเวลา (Time Decay) ในกรณีที่ใช้ DW
---
### **3. การเลือก DW และกลยุทธ์**
- ควรเลือก **DW PUT** ที่มี Leverage สูง และอายุคงเหลือเพียงพอ (เช่น มากกว่า 30 วัน) เพื่อหลีกเลี่ยง Time Decay ที่รวดเร็ว
- วางแผน Stop Loss ชัดเจน หากราคาย้อนกลับเหนือแนวต้านสำคัญ หรือหากไม่มีสัญญาณยืนยันเพิ่มเติม
---
### **4. การติดตามปัจจัยอื่นๆ**
- **ปัจจัยภายนอก:** เช่น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน, ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นโลก, หรือข่าวสำคัญที่เกี่ยวข้อง
- **Volume:** หากมี Volume สูงในช่วงที่ราคาลง อาจเป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้มขาลง
---
### **สรุป: PUT DW ได้ แต่ต้องรอการยืนยันเพิ่มเติม**
หากสัญญาณ TD SELL COUNTDOWN #13 บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงได้รับการยืนยัน เช่น Break แนวรับหรือปัจจัยเทคนิคอื่นๆ การ PUT DW อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม โดยเฉพาะหากเป้าหมายอยู่ที่ 20,000 จุด แต่ควรระวังความเสี่ยงจากความผันผวนและตั้ง Stop Loss เพื่อจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DW ที่ควรเลือกหรือการวิเคราะห์เชิงลึก แจ้งมาได้เลยครับ!
Gold Market Outlook [13 ธันวาคม 2567]🌟 Gold Market Outlook
📉 ทองคำดิ่งกลับ! นักลงทุนเทขายหลังแตะจุดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์
สรุปภาวะตลาดทองคำ
ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายอย่างหนัก ดิ่งลงกว่า 1% ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ หลังจากที่ราคาพุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนเริ่มปรับพอร์ตการลงทุนก่อนการประชุมสำคัญของเฟดในสัปดาห์หน้า
📊 ปัจจัยกดดันตลาด
- เงินเฟ้อผู้ผลิตสหรัฐฯ (PPI) เดือนพ.ย. พุ่งแรงที่ 3.0% สูงสุดในรอบ 9 เดือน และเหนือคาดการณ์ที่ 2.6%
- Core PPI ทรงตัวที่ 3.4% สูงกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่
👥 ตลาดแรงงานส่งสัญญาณอ่อนแอ
ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พุ่งขึ้น 17,000 ราย แตะระดับ 242,000 ราย สูงสุดในรอบ 2 เดือน สะท้อนความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ
📈 วิเคราะห์แนวโน้มทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงแสดงทิศทางเชิงบวกในภาพรวม โดยมีแนวรับสำคัญที่ $2,680 ซึ่งหากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้านที่ $2,695 และ $2,700 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผ่าน $2,700 ได้ ราคาอาจเข้าสู่ช่วงพักตัว
💡 กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ โดยพิจารณาจุดเข้าซื้อบริเวณแนวรับ และทยอยขายทำกำไรเมื่อราคาทดสอบแนวต้านสำคัญ
📊 แนวรับ-แนวต้าน (08:45)
XAUUSD
สถานะ: 📈 Slightly Bullish
🔼 แนวต้าน 3: $2,705
🔼 แนวต้าน 2: $2,700
🔼 แนวต้าน 1: $2,695
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,680
🔽 แนวรับ 2: $2,675
🔽 แนวรับ 3: $2,662
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
XAUUSD 13/12/24 ลงในระยะสั้น เพื่อให้ระยะกลางย่อเท่านั้นระยะยาว กลาง ยังเป็นขาขึ้น
ระยะกำลังลง พา 60 240 os ย่อปรับฐาน
ลงตาม fibo ยังไม่มี สญ.หยุดลง
จะกลับขึ้นเมื่อ
1.ระยะสั้นฟอร์มตัวหยุดลง กลับขึ้นได้
2.เบรค 2726 ระยะกลางยังขึ้นต่อ
ต้าน : 2720.5 2736 2752.5
รับ : 2669 2656 2547 2637
.......................................
D: ob ขึ้นเบรค 2721.5 แต่ยังยืนไม่ได้
- ob ลากเพื่อ test 2790 หรือ sw ต่อ
240: ob will os / มีหัวขึ้น
- beardi.+สญ.หยุดขึ้น = os
- กรอบ 2605-2790
120 60: os ขาขึ้น
- หัวขึ้น ขึ้น 200+สญ.หยุดขึ้น = os
- กรอบ 2613-2752.5
30 15: os จากขาขึ้นจบรอบ
- หัวลง 2720.5 ลง 200
XAUUSD Daily Analysis 12/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (11 ธ.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 38.30 ดอลลาร์ หรือ 1.41% ปิดที่ 2,756.70 ดอลลาร์/ออนซ์
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 2720.71
✅ Tp: 2709.11 2702.75
❗ SL: 2730.74
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีแรงขายเข้ามา มีโอกาสที่ราคาจะวิ่งเป็น กรอบ sw เล่นในกรอบ ราคา สั้นๆ
fibo : เป้าหมาย ประมาณช่วง ประมาณ 30
เป้ามหาย เป้าหมาย ในกรอบ 2700 - 2718
RSI: Overbought
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 2/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุ 100,000 ดอลลาร์ ใกล้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
cr.ryt9
Trading note: ✅
Sell : 101266.00
✅ Tp: 100000.00,99269.90
❗ SL: 102613.87
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาได้มีแรงซื้อเข้ามา นั้นทำให้ราคา ขึ้นไปทดสอบโซน 101266.00
หาจังหวะในการขาย เก็บสั้นๆ ชิงจังหวะ
fibo : เป้าหมาย ประมาณช่วง ประมาณ 30
เป้ามหาย เป้าหมาย 100000.00
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSDวันนี้ก็เป็นแนวโน้มราคาอีกเช่นเคยนะครับโซนเข้าต้องดูหน้างานเป็นหลัก โดยมองว่าทองคำกำลังเดินทางในคลื่น 3 และยังไม่ได้มีสัญญาณบอกว่าจบ 3 หรือยังแต่หากนับคลื่นย่อยใกล้จะพักตัวแล้วโดยราคามีการปิดเนื้อเทียนเหนือ Fibo 200 ใน TF H1 จึงมองว่ามีโอกาศวิ่งต่อไป Fibo 261.8% ได้และปกติคลื่น 3 เท่าที่ผมสังเกตุมาหลายปี Fibo 261.8% - 361.8% ราคามักจะวิ่งถึงอยู่แล้วเราแค่ต้องหาว่าเค้าจะขึ้นยังไงนะครับ
โจทย์ที่ว่า Buy ตรงไหน? มุมมองผมเองทำไว้สองโซนและเป็นโซนที่เก็บ FVG ครบหมดแล้วทั้งนั้นคือไม่ต้องลงมาแล้วก็ได้ไหลขึ้นเรื่อยๆ แต่ !! หากลงมาเข้าโซนก็ให้พิจารณา Buy จากเทคนิคส่วนตัวของเพื่อนๆนะครับ แท่ง Day ยังต่อแท่งขึ้นเรื่อยๆและราคายังไม่แตะโซนสำคัญมองว่ายังไปต่อแน่นอนแค่ต้องหาว่าไปยังไง
**Fibo 261.8% ทางซ้ายมือมี EQH อยู่ก่อนถึงเลข Fibo ตรงนี้ผมจะ Sell เก็บสั้น 1 ชุดนะครับมองว่าแตะเลขมีโอกาศมีแรงเทขายทำกำไรให้หนึ่งชุดเล็กๆเพราะฉนั้นหากเค้าไม่ย่อให้เข้า Buy ก็รอ Sell ด้านบนเอาไม่ต้องรีบ (มี SL ด้วยห้ามปล่อยลาก)**