Gold Market Outlook [3 ธันวาคม 2567]Gold Market Outlook
💥 ดอลลาร์ทะยานแรง! กดทองย่อต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ
ตลาดทองคำเผชิญแรงเทขายหนักในวันจันทร์ (2 ธ.ค.) 📉 ท่ามกลางการแข็งค่าอย่างรุนแรงของดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนต่างชะลอการเข้าซื้อ รอลุ้นตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางดอกเบี้ยของเฟด
นักวิเคราะห์ชั้นนำในตลาดโลหะมีมุมมองว่า 🎯 ราคาทองได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากดอลลาร์ที่พุ่งทะยานขึ้น หลังจากทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้า 100% จากกลุ่มบริกส์ หากมีความพยายามสร้างสกุลเงินใหม่มาท้าชิงดอลลาร์
💹 ดัชนีดอลลาร์ทะยานขึ้นแรง 0.7% นับเป็นการปรับตัวขึ้นรายวันที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน ส่งผลให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปดอลลาร์ มีต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
📊 สัปดาห์นี้ตลาดจับตามองข้อมูลแรงงานสำคัญของสหรัฐฯ หลายรายการ:
- วันนี้: ตัวเลข JOLTS เดือน ต.ค.
- วันพุธ: การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP
- วันศุกร์: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
🎯 นักลงทุนจับตาการปราศรัยของ "เจอโรม พาวเวล" ประธานเฟด ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. เวลา 01.45 น. (เวลาไทย)
📈 มุมมองทางเทคนิค:
ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด เหตุนักลงทุนรอดูตัวเลขจ้างงานวันศุกร์ แนะนำเทรดระยะสั้นหรือรอสัญญาณที่ชัดเจน
แนวรับ-แนวต้าน (10:35)
XAUUSD
สถานะ: Sideway
🔼 แนวต้าน 3: $2,651
🔼 แนวต้าน 2: $2,645
🔼 แนวต้าน 1: $2,641
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,635/2637
🔽 แนวรับ 2: $2,627
🔽 แนวรับ 3: $2,622
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
X-indicator
XAUUSD 02/12/24 ระยะสั้นขึ้น พา 30 test 2666.5 ถ้าหลุด 2622 จะลงการขึ้นของ 5 ทำให้ 30 60 ob
- ดูการขึ้น 5 ว่าจะถึง เท่าไหร่ ในกรอบ 30 60
- ถ้า 30 60 หลุด 2622 จะกลับเป็นขาลง
พา 240 D ลง os
.................................
D : ob มีสญ.หยุดขึ้น ob
- ถ้าหลุด 2605 จะลง os
- ถ้าเบรค 2721.5 ยังขึ้นต่อ
240 : ob will os
- กรอบ 2605-2721.5
- ถ้าหลุด 2605 จะมีหัวลงพา D os
- ถ้าเบรค 2666.5 ob ลากเลื้อยขึ้น test 2721.5
60 : os will ob
- จากลง os-L ไม่ถึง 161.8 จึงค้างดีด ob
- กรอบ 2622-2666.5
- ถ้าหลุด 2622 จะลงถึง 161.8 = 2614.5
- ถ้าดีด ob จะฟอร์มหัวลงใหม่
ถ้าขึ้นไม่เบรค 2666.5 แล้วหลุด 2622
30 : ob จากลงไม่ถึง 161.8 ค้าง ob
- กรอบ 2622-2666.5
5 : มีหัวขึ้น พา 30 60 ob
อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ BTCUSD นับ TD SELL COUNTDOWN#13**TD Sell Countdown #13** เป็นส่วนหนึ่งของ **TD Sequential Indicator** ซึ่งพัฒนาโดย Tom DeMark เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและจุดกลับตัวของตลาด โดย TD Sequential จะแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนหลัก:
1. **TD Setup (9 Count):** เป็นการระบุแนวโน้มเริ่มต้น โดยจะนับจำนวนแท่งเทียนที่สูง/ต่ำกว่าราคาแท่งก่อนหน้า 4 แท่ง
2. **TD Countdown (13 Count):** เป็นการติดตามแนวโน้มจนกว่าจะครบ 13 แท่ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดใกล้ถึงจุดกลับตัว
เมื่อ **BTC/USD นับ TD Sell Countdown #13** สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้คือ:
### 1. **สัญญาณกลับตัวในตลาดขาขึ้น**
- TD Sell Countdown #13 มักจะบ่งชี้ว่าการขึ้นของราคาน่าจะอ่อนแรงลงและใกล้ถึงจุดกลับตัว (จากขาขึ้นเป็นขาลง)
- ผู้เทรดอาจพิจารณาทำกำไร (Take Profit) หากพอร์ตอยู่ในสถานะ Long
### 2. **แนวต้านที่สำคัญ**
- การเกิด TD Countdown #13 อาจสอดคล้องกับแนวต้านที่สำคัญในกราฟราคา
- หากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ ก็มีแนวโน้มที่จะเริ่มลดลง
### 3. **ตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติม**
- แม้ว่า TD Countdown #13 จะส่งสัญญาณการกลับตัว แต่มันไม่ใช่สัญญาณเด็ดขาด (Standalone Indicator) ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น Volume, แนวรับ-แนวต้าน, และข้อมูลเชิงพื้นฐาน (ข่าว, ความเชื่อมั่นในตลาด)
- อาจต้องรอการยืนยันจากแท่งเทียนต่อไป เช่น Pin Bar หรือ Bearish Engulfing
### 4. **ความเป็นไปได้ของ Fake Signal**
- ในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนสูง การกลับตัวหลัง TD Countdown #13 อาจเกิดได้ไม่เต็มรูปแบบ หรือเกิดการ "Fake Breakout"
- หากตลาดมีข่าวบวก/ลบแรง ๆ อาจทำให้ราคาผันผวนผิดจากที่คาด
### สรุป
TD Sell Countdown #13 เป็นเครื่องมือที่ช่วยบ่งชี้ว่าราคามีแนวโน้มที่จะอ่อนแรงลงหรือกลับตัวจากขาขึ้นสู่ขาลง แต่การตัดสินใจเทรดควรพิจารณาข้อมูลอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติมหรือปัจจัยพื้นฐานของตลาดในช่วงเวลานั้น
XAUUSD Daily Analysis 2/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ความตึงเครียดทางการเมือง: สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ: ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำมีมูลค่าเป็นดอลลาร์
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 2646.35
✅ Tp: 2666.36 2680.69
❗ SL: 2633.20
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคากำลังทดสอบโซน 2650 ยังลุ้นให้ราคายกฐานขึ้นต่อไปทดสอบโซน 2666 หรือทำ BOS 2680.69
fibo : เป้าหมาย 168.00
เป้ามหาย 2680 เป้าหมายในการกเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 2/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาบิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนคาดการณ์ว่าราคาบิตคอยน์อาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปี 2567
INFOQUEST
นอกจากนี้ มีรายงานว่าบริษัททรัมป์มีเดียแอนด์เทคโนโลยีกรุ๊ป (Trump Media & Technology Group) กำลังเจรจาซื้อแพลตฟอร์มเทรดคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาบิตคอยน์
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 96909.80
✅ Tp: 99460.01 100000.00
❗ SL: 96592.89
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาเริ่มที่จะสะสมแรงในการซื้อขึ้นต่อไปทดสอบโซนที่เราวางแผนใว้
ลุ้นขึ้นไปทดสอบโซน100000
fibo : เป้าหมาย 168.00
เป้ามหาย 100000 เป้าหมายในการกเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
เทรนด์ทองคำ – แรงขายทำกำไรจะครองตลาดก่อนสิ้นปีแม้ว่าราคาทองคำจะลดลงครั้งแรกในวันจันทร์ แต่ราคาทองคำกลับค่อนข้างเงียบสงบในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาพุ่งสูงถึงประมาณ 2,710 เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่แล้วมันก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วหลังจากสุดสัปดาห์ที่ไม่มีเหตุการณ์สำคัญ ค่าความเสี่ยงลดลงอย่างมากเมื่อตลาดเอเชียเปิดทำการในวันจันทร์ ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่า 2,700 ในช่วงแรกของเซสชั่น ในระหว่างช่วงการซื้อขายของสหรัฐฯ ในวันเดียวกันนั้น ทรัมป์ได้ประกาศนโยบายภาษีเบื้องต้นสำหรับจีน แคนาดา และเม็กซิโกผ่านทางโซเชียลมีเดีย ตลาดคาดการณ์ว่าสภาพแวดล้อมที่ดอกเบี้ยสูงในสหรัฐฯ จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2025 สร้างความกดดันให้กับราคาทองคำอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาร่วงลงต่ำกว่า 2,650(1) หลังจากนั้นราคาทองคำก็ทรงตัว โดยมีบรรยากาศช่วงเทศกาลวันหยุด ราคาดีดตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ ปิดใกล้ 2,650
ราคาทองคำมีความผันผวนอย่างมากในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ในรัสเซีย/ยูเครน และอิสราเอล/ปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม เมื่อความตึงเครียดผ่อนคลายลง โมเมนตัมขาขึ้นของราคาก็ลดลง เมื่อเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2024 ตลาดทองคำยังคงได้รับอิทธิพลจากความรู้สึกในการทำกำไร เนื่องจากจำนวนดอกเบี้ยแบบเปิดในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของ COMEX ลดลงจาก 560,000 ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เหลือ 450,000 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปัจจัยพื้นฐาน ราคาทองคำคาดว่าจะทรงตัวต่อไป
สัปดาห์นี้ จุดสนใจจะอยู่ที่ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ โดยการคาดการณ์ของตลาดบ่งชี้ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจะฟื้นตัวขึ้นเป็น 200,000 ตำแหน่ง ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับแรงกดดันก่อนที่ข้อมูลจะถูกเปิดเผย
กราฟ 1 ชั่วโมง (ด้านบน) > ในช่วงเช้าของเซสชั่นเอเชียวันนี้ แนวโน้ม S-T เปลี่ยนเป็นตลาดหมีเนื่องจากราคาทองคำลดลงต่ำกว่าเส้นแนวรับ (2) แนวต้านการขายที่แข็งแกร่งปรากฏใกล้ระดับ 2,665 เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่ามีการดำเนินการเบื้องต้นภายในช่วง 2,600-2665(3) หากข้อมูลงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ทำงานได้ดีในช่วงหลังของสัปดาห์ ราคาทองคำอาจกลับมาต่ำกว่า 2,600 อีกครั้ง
กราฟรายวัน(ด้านบน) > แนวโน้มโดยรวมของราคาทองคำยังคงปรับไปสู่ระดับ 2,600 ดังที่ได้กล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงกดดันขายที่สำคัญในวันจันทร์ (4) คาดว่าจะยังคงส่งผลต่อทิศทาง S-T ช่วงกราฟรายวันถูกกำหนดไว้ระหว่าง 2605-2665 และหากมีการทะลุแนวรับขาลงในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ก็อาจตั้งเป้าหมายขาลงบริเวณ MA 100 วันใกล้กับ 2574 (6)
P.To
อัตราความสำเร็จที่แท้จริงของ Ascending Wedge ในการซื้อขายอัตราความสำเร็จที่แท้จริงของ Ascending Wedge ในการซื้อขาย
การแนะนำ
ลิ่มที่เพิ่มขึ้นหรือที่เรียกว่าลิ่มที่เพิ่มขึ้น เป็นรูปแบบกราฟที่มีอัตราความสำเร็จในการซื้อขายที่โดดเด่น การวิเคราะห์นี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และตัวบ่งชี้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
อัตราความสำเร็จและประสิทธิภาพ
สถิติที่สำคัญ
อัตราความสำเร็จโดยรวม: 81% ในตลาดกระทิง
กำไรที่เป็นไปได้เฉลี่ย: 38% ในแนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่
- การจัดการฝ่าวงล้อม
หยาบคาย: 60% ของกรณี
รั้น: 40% ของกรณี
ความน่าเชื่อถือตามบริบท
ตลาดกระทิง: สำเร็จ 81% กำไรเฉลี่ย 38%
หลังแนวโน้มขาลง: สำเร็จ 51% ลดลงเฉลี่ย 9%
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ
โดยทั่วไปแล้วลิ่มที่เพิ่มขึ้นจะเป็นรูปแบบหมี ซึ่งบ่งชี้ถึงการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
ความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการสร้างรูปแบบ
การยืนยันการทะลุผ่านโดยตัวชี้วัดอื่นๆ โดยเฉพาะปริมาณ เป็นสิ่งสำคัญ
ตัวชี้วัดเพิ่มเติม
-ปริมาณ
ลดลงทีละน้อยระหว่างการฝึก
เพิ่มขึ้นอย่างมากระหว่างการฝ่าวงล้อม
-ออสซิลเลเตอร์
RSI (Relative Strength Index): ระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป/การขายมากเกินไป
Stochastic: ตรวจจับความแตกต่างของราคา/ตัวบ่งชี้
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
Crossovers: สัญญาณการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
- แนวรับ/แนวต้านแบบไดนามิก: ยืนยันความถูกต้องของมุมเอียง
-ตัวชี้วัดโมเมนตัม
MACD: ระบุความแตกต่างของราคา/ตัวบ่งชี้
โมเมนตัม: ประเมินแนวโน้มที่กำลังจะหมดลง
-องค์ประกอบอื่นๆ
ระดับฟีโบนัชชี: ระบุแนวรับ/แนวต้านที่เป็นไปได้
การวิเคราะห์แท่งเทียนญี่ปุ่น: ให้ข้อบ่งชี้ในการกลับตัว
บทสรุป
ลิ่มจากน้อยไปหามากเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ โดยเสนออัตราความสำเร็จสูงและศักยภาพในการทำกำไรที่สำคัญ การใช้ตัวบ่งชี้เสริมร่วมกันจะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณและปรับปรุงความแม่นยำของการตัดสินใจซื้อขาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสวงหาการบรรจบกันของสัญญาณจากหลายแหล่งเพื่อลดสัญญาณเท็จและเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขาย
-
นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อขายหลังจากลิ่มตัวขึ้นอย่างมืออาชีพ:
- ยืนยันการฝ่าวงล้อมแล้ว
รอให้เทียนปิดต่ำกว่าเส้นแนวรับลิ่ม
มองหาปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่จุดฝ่าวงล้อมเพื่อยืนยันความถูกต้อง
- การสอบซ้ำ
สังเกตการดึงกลับของแนวรับที่ขาดซึ่งกลายเป็นแนวต้าน
ป้อนเมื่อราคากระเด้งต่ำลงจากแนวต้านใหม่นี้ เพื่อยืนยันแนวโน้มขาลง
-การรวมตัวหลังการฝ่าวงล้อม
ระบุการก่อตัวของธงหรือชายธงหลังจากการฝ่าวงล้อมครั้งแรก
เข้าสู่ที่จุดทะลุของรูปแบบย่อยนี้ในทิศทางของแนวโน้มขาลงหลัก
- ยืนยันความคลาดเคลื่อน
มองหาความแตกต่างที่เป็นขาลงบนออสซิลเลเตอร์ เช่น RSI หรือ MACD
ป้อนเมื่อราคายืนยันความแตกต่างโดยทำลายแนวรับใกล้เคียง
-จับเวลาด้วยเทียนญี่ปุ่น
ระบุรูปแบบหมีๆ เช่น ดาวยามเย็น ฮารามิหมี หรือเมฆดำ
เข้าทันทีที่แท่งเทียนถัดไปยืนยันรูปแบบหมี
- ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ
วางจุดหยุดขาดทุนเสมอเพื่อจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
อดทนและรอการยืนยันการตั้งค่าก่อนเข้าสู่การซื้อขาย
ตรวจสอบแนวโน้มในกรอบเวลาที่สูงขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าการซื้อขายมีความสม่ำเสมอ
ผสานรวมการวิเคราะห์ลิ่มจากน้อยไปมากกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการตัดสินใจ
โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพรายการของพวกเขาในเวดจ์จากน้อยไปมากในขณะเดียวกันก็ลดความเสี่ยงของสัญญาณที่ผิดพลาด
ราคาทองคำถูกเทขายอย่างหนักท่ามกลางความสนใจซื้อดอลลาร์สหรัฐ
📊ราคาทองคำกระตุ้นการขายเพื่อทำกำไรอย่างหนักประเดิมวันต้นสัปดาห์/ประเดิมเดือนใหม่ และร่วงลงมาที่ระดับ 2,621 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายของตลาดเอเชีย ท่ามกลางอุปสงค์ของดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นตามความคาดหวังว่าแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ อาจจุดชนวนแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออีกครั้ง และจำกัดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งในทางกลับกัน ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่แตะเมื่อวันศุกร์ และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้กระแสเงินไหลออกจากทองคำ
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางของสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ มาตรการภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ไว้ ได้กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่ปะทุขึ้นใหม่ และอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งนี้ เมื่อรวมกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่จากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยยังสามารถยืนเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ได้
📊 ปัจจัยทางเทคนิค:
Gold price seems vulnerable; one-week-old ascending channel breakdown in play
📉จากมุมมองทางเทคนิค การร่วงลงของราคาในวันเดียวต่ำกว่าขอบล่างของช่องทางขาลงที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งสัปดาห์ก่อนอาจถือเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่มีแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน/4 ชั่วโมงเริ่มสร้างแรงกระตุ้นเชิงลบอีกครั้ง และบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มลดลงต่ำสุด ดังนั้น การร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในสัปดาห์ที่แล้วที่บริเวณ 2,605 ดอลลาร์จึงดูมีความเป็นไปได้สูง การขายตามราคาที่ต่ำกว่า 2,600 ดอลลาร์อาจเปิดโอกาส ให้เห็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 100 วัน (SMA) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ 2,575 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน จุดทะลุแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่บริเวณ 2,642-2,643 ดอลลาร์ อาจทำหน้าที่เป็นอุปสรรคทันทีก่อนที่แนวต้านคงที่ที่ 2,652 ดอลลาร์และจุดสูงสุดของสวิงที่บริเวณ 2,665 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การซื้อตามราคาบางส่วนจะช่วยให้ราคาทองคำสามารถกลับขึ้นไปถึงระดับ 2,700 ดอลลาร์ได้อีกครั้งและขยายการเคลื่อนไหวในเชิงบวกให้เข้าใกล้โซนอุปทาน 2,721-2,722 ดอลลาร์มากขึ้น จุดหลังนี้ควรทำหน้าที่เป็นจุดสำคัญ ซึ่งหากผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะบ่งชี้ว่าการปรับลดลงล่าสุดจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อเดือนตุลาคมได้ผ่านพ้นไปแล้วและปูทางไปสู่การเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นต่อไป
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทรัมป์คุกคามอิฐกว่าแผนสกุลเงินประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เลือกตั้งออกคำเตือนที่คมชัดไปยังประเทศบริกส์ในช่วงสุดสัปดาห์กระตุ้นให้พวกเขา"หาอีกดูด"และคุกคามภาษี 100%เกี่ยวกับความพยายามใดๆในการสร้างสกุลเงินทางเลือกที่ท้าทายสถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลก
ประธานาธิบดีบราซิลลูอิซในอิซซิโอลูลาซิลวาเป็นผู้สนับสนุนที่โดดเด่นสำหรับการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์เสนอสกุลเงินที่ใช้ร่วมกันในอเมริกาใต้ในปี 2023 เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เตือนว่าสำนวนของทรัมป์อาจย้อนกลับ นทางเลือกซึ่งยังคงเป็นสัญลักษณ์มากขึ้นกว่าที่เป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจของแท้ไปยังสหรั
BREADTH SET50 DASHBOARDภาพรวม ตลาด SET50 ยังไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็เริ่มมี DATA ระยะสั้นบางตัว เริ่มส่งสัญญาณ Divergence ออกมาให้เห็นบ้างแล้ว
หุ้นหลายๆตัว เริ่ม กลับมายืนเหนือ ma22 กันมากขึ้น ในขณะที่ SET50 INDEX ยังไม่ขึ้น
อาทิตย์นี้น่าสนใจ ถ้า ตลาดมีการรีบาวขึ้นมาได้ โอกาส data ระยะยาว กลับตัวได้ อาจจะส่งสัญญาณดี เทรน เดือน ธันวาคม อาจจะกลับขึ้นได้อีกรอบ
Gold Market Outlook [2 ธันวาคม 2567]Gold Market Outlook
แรงซื้อทองคำกลับมาคึกคัก หลังดอลลาร์อ่อนค่า-ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ 🔍
ราคาทองคำปรับตัวในแดนบวก 💫 ท่ามกลางการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยนักลงทุนยังคงมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง
สำหรับภาพรวมตลาดทองคำในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา 📊 ราคาปรับตัวลดลงถึง 3% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 สาเหตุหลักมาจากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าในช่วงต้นเดือน
ด้านดัชนีดอลลาร์ 💵 แม้จะปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้จ่ายภาครัฐขนาดใหญ่ การปรับขึ้นภาษี และมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด
ปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ ⚡️ ยังคงมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าภาวะเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายภาษีใหม่ อาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย
สำหรับมุมมองทางเทคนิค 📝 แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากแนวรับ-แนวต้านอยู่ในกรอบแคบ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคมนี้
แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish 🎯
🔼 แนวต้าน 3: $2,682
🔼 แนวต้าน 2: $2,665
🔼 แนวต้าน 1: $2,656
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,646
🔽 แนวรับ 2: $2,641
🔽 แนวรับ 3: $2,636
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
Divergence analysis สัญญาณไดเวอร์เจ้นท์บอกอะไรได้บ้าง??Divergence analysis สัญญาณไดเวอร์เจ้นท์บอกอะไรได้บ้าง??
👽👽 กลับมาพบเจออกันอีกแล้ว กับเทคนิคการทำกำไร ทริคดีๆทริคเด็ดๆ ที่แอดเอามาฝากกันเช่นเคย วันนี้เอาใจสายเทคนิคอลอีกแล้ว ใครที่ชื่นชอบกราฟเปล่า และอินดิเคเตอร์น้อยๆ ต้องมาลองครับ กับสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์ ที่จัดว่าแม่นเว่อร์เหมือนจับวาง มันใช้กันอย่างไร ตามมาอ่านกันได้เลยครับ
Divergence คืออะไร
Divergence คือสัญญาณการขัดแย้งระหว่างราคาและอินดิเคเตอร์ (Indicators) คือราคาเคลื่อนที่ไปยังทิศทางหนึ่ง ส่วนอินดิเคเตอร์เคลื่อนที่ไปอีกทิศทางหนึ่ง เรียกว่าวิ่งกันไปคนละทาง
รูปแบบแพทเทรินของ สัญญาณ Divergence
สัญญาณ Divergence หาได้จากอินดิเคเตอร์ตัวไหนบ้าง ?
เรามักจะใช้อินดิเคเตอร์เพื่อหาสัญญาณ Divergence ประเภท Oscillator ลักษณะอินดิเคเตอร์ที่วิ่งอยู่ในกรอบ เช่น RSI, MACD และ Stochastic Oscillator เป็นต้น
Divergence แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
1. Bullish Divergence ขาขึ้น
2. Bearish Divergence ขาลง
หลักการหาจุดเข้าจากสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์
1. กราฟเปล่า + MACD
อินดิเคเตอร์ตัวนี้จัดเป็นตัวยอดนิยมอันดับหนึ่งในการใช้หาสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์แต่มักให้สัญญาณที่ค่อนข้างช้า แต่ชัวร์ โดยจะนิยมใช้ใน Time Frame 1H และ 4H
- เมื่อราคาแท่งเทียนเกิดสัญญาณในทิศทางตรงกันข้ามกันแล้ว ให้เราใช้สัญญาณ MACD เป็นสัญญาณหลักในการเข้าออเดอร์
**** ตัวอย่างจากรูป MACD มีคลื่นที่ต่ำลง ในขณะที่แท่งเทียนทำยอดสูงขึ้น ให้เรามองหาจุดเข้า SELL เพื่อทำกำไร
2. กราฟเปล่า + Stochastic Oscillator
อินดิเคเตอร์ตัวนี้มักให้สัญญาณที่ค่อนข้างไว ทำให้เราสามารถพบ Divergence ได้ค่อนข้างบ่อย และอาจเจอสัญญาณหลอกได้อีก โดยจะนิยมใช้ใน Time Frame 30M และ 4H และส่วนใหญ่ให้น้ำหนักจากกราฟแท่งเทียนเป็นสัญญาณในการเข้าออเดอร์
3. กราฟเปล่า + RSI
RSI ย่อมาจากคำว่า Relative Strength Index โดย RSI เป็นอินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาด แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในการหาสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์ เนื่องจาก ค่อนข้างเกิดขึ้นยากมากๆ และใช้เวลานาน แต่ก็เกิดขึ้นได้และแม่นด้วย โดยจะนิยมใช้ใน Time Frame 1H และ 4H การหาจุดเข้าออเดอร์มักให้น้ำหนักไปทางตัว RSI เป็นหลัก
👽👽👽 เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ทริคดีๆในการทำกำไรเพิ่มกันแล้วใช่มั้ยครับ อย่าลืมเอาไปลองใช้กันดูนะฮะ ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นเทคนิคการทำกำไรเบอร์ต้นๆของเราเลยก็ว่าได้ แอดหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เราอ่านกราฟได้ดี อ่านกราฟได้เก่งมากขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่ากราฟมีขึ้นแล้วก็มีลง ไม่ต้องไปเครียดกะมันหมั่น ฝึกฝนและเพิ่มเติมความรู้อย่างสม่ำเสมอ รับรอง เทรดยังไงก็รอดครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM กันด้วยนะครับ วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอนครับ แอดเอาใจช่วยสู้ๆ
ปัจจัยที่จะทำให้ Bitcoin (BTC) ไปถึง $100,000Bitcoin (BTC) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของโลก มักได้รับการคาดการณ์ถึงศักยภาพในการพุ่งสูงขึ้นถึง $100,000 ต่อ 1 BTC แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวนักสำหรับนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงินดิจิทัล เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่สามารถผลักดันให้ราคา BTC ขึ้นไปแตะระดับนี้ได้
1. อุปสงค์และอุปทาน (Demand and Supply)
BTC มีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้มันแตกต่างจากเงินตราปกติที่สามารถพิมพ์เพิ่มได้ไม่จำกัด เมื่อมีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากนักลงทุนหรือบริษัทต่าง ๆ ในขณะที่อุปทานยังคงเดิม ราคาของ BTC จึงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น การ Halving ซึ่งเกิดขึ้นทุก 4 ปี ช่วยลดจำนวน BTC ใหม่ที่เข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ราคามักพุ่งสูงในระยะยาว
2. การยอมรับจากสถาบันการเงิน (Institutional Adoption)
สถาบันการเงินและบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Tesla, MicroStrategy, และ Grayscale มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับ BTC การที่บริษัทเหล่านี้ถือ BTC เป็นสินทรัพย์สำรอง หรือแม้แต่การใช้ BTC ในการชำระเงิน จะช่วยสร้างความต้องการในระดับมหภาค
นอกจากนี้ สถาบันการเงินเช่น BlackRock และ Fidelity ยังมีแผนเปิดตัว Bitcoin ETF ซึ่งสามารถดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่เข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น
3. สภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ (Economic Conditions and Inflation)
ในช่วงที่เงินเฟ้อสูงและความเชื่อมั่นในระบบการเงินแบบดั้งเดิมลดลง BTC มักถูกมองว่าเป็น "ทองคำดิจิทัล" ที่สามารถรักษามูลค่าได้ นักลงทุนจำนวนมากจึงเลือกถือ BTC เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
4. การพัฒนาเทคโนโลยีและเครือข่าย (Technological Advancements)
Bitcoin Lightning Network และโซลูชัน Layer 2 ช่วยลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม ซึ่งช่วยให้ BTC ใช้งานได้ง่ายขึ้น การพัฒนาเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดการใช้งานจริงในวงกว้างและเพิ่มมูลค่าของ BTC
5. การสนับสนุนจากรัฐบาลและการออกกฎหมาย (Government Support and Regulation)
แม้ว่ากฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีจะยังมีความไม่แน่นอนในหลายประเทศ แต่การสนับสนุนในเชิงบวกจากรัฐบาลบางแห่ง เช่น เอลซัลวาดอร์ ที่ประกาศใช้ BTC เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจกระตุ้นให้ประเทศอื่น ๆ ทำตาม
ในทางกลับกัน หากมีการออกกฎหมายที่ชัดเจนและสนับสนุนการใช้คริปโตเคอเรนซีในตลาดการเงิน กระแสการลงทุนใน BTC อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
6. พฤติกรรมของนักลงทุนและจิตวิทยาตลาด (Investor Behavior and Market Psychology)
BTC มีความผันผวนสูง และมักได้รับแรงกระตุ้นจากกระแสข่าวและความเชื่อมั่นของนักลงทุน หากมีข่าวบวกเกี่ยวกับ BTC อย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มการยอมรับในวงกว้าง หรือการคาดการณ์ราคาที่ทะลุเพดานใหม่ จะช่วยสร้างแรงซื้ออย่างมหาศาลและผลักดันให้ราคาพุ่งขึ้น
สรุป
ปัจจัยข้างต้นล้วนมีส่วนสำคัญในการผลักดัน BTC ไปสู่เป้าหมาย $100,000 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักว่า ตลาดคริปโตเคอเรนซีมีความเสี่ยงสูงและอาจมีการปรับตัวลงในระยะสั้น การลงทุนใน BTC หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ควรพิจารณาจากข้อมูลที่รอบคอบและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ
BTC มีศักยภาพสูงในการเป็นสินทรัพย์แห่งอนาคต แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการสนับสนุนและการยอมรับในระดับโลกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
BTCUSD Daily Analysis 30/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ Bitcoin ยังคงมีแนวโน้มที่ผันผวน โดยราคาล่าสุดอยู่ใกล้ระดับ $95,000 ซึ่งทำสถิติใหม่ในเดือนนี้ เนื่องจากแรงสนับสนุนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการคาดการณ์เกี่ยวกับ Spot Bitcoin ETF ที่กำลังรอการอนุมัติจาก SEC (คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ)
นักวิเคราะห์เชื่อว่าการเปิดตัว Bitcoin ETF จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดและอาจหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม มีคำเตือนเกี่ยวกับการย่อตัวของราคาในระยะสั้นจากแรงเทขายทำกำไรในตลาด
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 96909.80
✅ Tp: 97170.61 101769.13
❗ SL: 95633.10
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาเริ่มที่จะมีแรง และกำลัง retest ยกฐาน ลุ้นขึ้นไปทดสอบโซน 100000
fibo : เป้าหมาย 168.00
เป้ามหาย 100000 เป้าหมายในการกเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD 30/11/24 ขาขึ้น ที่ระยะสั้นกำลังลง 2634-2666ระยะสั้น : กำลังลง test 2634
ถ้าไม่หลุด ยังขึ้นได้ต่อ sw เลือกทางในกรอบ
ถ้าหลุด จะลง test 2614
.
ระยะกลาง : ขาขึ้น ที่เริ่มไม่แน่ใจ
ถึงขึ้นเบรค 2666.3 ยังขึ้นต่อตาม fibo
แต่ถ้าลงไม่ถึง 2614 อย่างไงก็ค้างดีดได้ 1 รอบ เพื่อเลือกทาง
ต้าน = 2666.3 fibo 30 60 240
รับ = fibo 5 : 2643 2636/ 2634 2621
.......................................
D: ob ลากเลือย
240: ob ลากเลือย
60: ob will os ขาขึ้น
กรอบ 2605-2721.5
30: os ขาขึ้น
ถ้าลงไม่หลุด 2634 ยังขึ้นต่อ
ถ้าหลุด 2634 แต่ไม่ถึง 2614 ค้างขึ้น
15 5: os ขาลง
กรอบ 2634-2666.3
อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ SET TIME FRAME WEEK นับ TD SET UP #4อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ SET TIME FRAME WEEK นับ TD BUY SETUP ทางลงได้ต่อเนื่องเป็นแท่งที่ 4
**TD Buy Setup** เป็นส่วนหนึ่งของ **TD Sequential Indicator** ที่พัฒนาโดย Tom DeMark ซึ่งมักใช้ในการวิเคราะห์ทิศทางของราคาในตลาดการเงิน เช่น หุ้น, ดัชนี หรือสินทรัพย์อื่น ๆ
### การตีความในกรณีที่ **SET TIME FRAME WEEK** นับ TD Buy Setup ทางลงต่อเนื่องได้ 4 แท่ง
1. **TD Buy Setup คืออะไร**
- TD Buy Setup เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวลงต่อเนื่องอย่างน้อย 9 แท่ง (Candle) ที่ราคาปิดของแท่งที่ปัจจุบันต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเมื่อ 4 วันก่อนหน้า
- การนับจะเริ่มตั้งแต่แท่งแรกที่เงื่อนไขนี้เป็นจริง และนับต่อไปเรื่อย ๆ จนถึง 9 แท่ง
2. **TD Buy Setup แท่งที่ 4 หมายถึงอะไร**
- เมื่อ SET TIME FRAME นับ TD Buy Setup ได้ถึงแท่งที่ 4 หมายความว่า ราคาได้ลงมาต่อเนื่อง 4 แท่งแล้ว โดยทุกแท่งปิดต่ำกว่าแท่งที่ 4 แท่งก่อนหน้านั้น
- ยิ่งจำนวนแท่งที่เกิดมากขึ้น ความเป็นไปได้ที่ราคาจะถึงจุด Oversold หรืออยู่ในจุดที่ใกล้กลับตัวจะเพิ่มขึ้น (แต่ยังไม่ถึงจุดกลับตัวจริงจนกว่าจะครบ 9 แท่ง)
3. **สิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไป**
- **แนวโน้มราคายังคงลงต่อ**: การนับถึงแท่งที่ 4 บ่งบอกว่าแรงขายยังคงมีอยู่ในตลาด ราคายังอยู่ในช่วงขาลงและมีโอกาสนับต่อจนถึง 9 แท่ง
- **จับตาแท่งถัดไป**: หากถึงแท่งที่ 9 โดยไม่มีการตัดเงื่อนไขหรือเกิดสัญญาณ Buy Countdown (การกลับตัวหลัง TD Buy Setup) อาจมีโอกาสเกิดการดีดตัว (Reversal) จากแรงซื้อกลับ
- **ยืนยันแนวโน้ม**: ต้องดูปัจจัยเสริม เช่น ปริมาณการซื้อขาย, เส้นแนวรับ-แนวต้าน, หรือสัญญาณอื่น ๆ ที่สอดคล้องเพื่อยืนยัน
4. **แนวทางการวิเคราะห์**
- ถ้าเป็นนักลงทุนสายเทคนิค: รอสัญญาณเพิ่มเติม เช่น TD Buy Countdown, การทะลุเส้นแนวต้าน หรือ Bullish Divergence ในอินดิเคเตอร์ เช่น RSI
- ถ้าเป็นนักลงทุนสายพื้นฐาน: ตรวจสอบปัจจัยพื้นฐานหรือข่าวที่อาจส่งผลต่อดัชนี เช่น ผลประกอบการบริษัท, นโยบายการเงิน, หรือเหตุการณ์สำคัญในตลาดโลก
### สรุป
การนับได้ TD Buy Setup 4 แท่งยังคงบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงในกรอบเวลานั้น ๆ และมีโอกาสนับต่อไปถึง 9 แท่ง หากแรงขายยังไม่หมด นักลงทุนควรติดตามแท่งเทียนต่อไป รวมถึงปัจจัยเทคนิคและพื้นฐานที่สนับสนุนเพื่อวางแผนการลงทุนหรือการเทรดอย่างรอบคอบ
BTCUSD Daily Analysis 29/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาทำสถิติใหม่: BTC ได้ทะลุระดับ $95,000 (ประมาณ 3.35 ล้านบาทในไทย) ซึ่งถือเป็นราคาสูงสุดใหม่ (All Time High) หลังจากการเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนช่วยดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันเข้ามาในตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง
Spot Bitcoin ETF: กองทุน Spot Bitcoin ETF ที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ นั้น ช่วยเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนสามารถถือครอง Bitcoin ได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์เองโดยตรง นับเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ช่วยผลักดันตลาดคริปโตเข้าสู่กระแสหลัก
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 95481.27
✅ Tp: 97170.61 98441.59
❗ SL: 94344.02
เหตุผลในการเข้าเทรด:
หลังจากที่ราคามีแรงซื้อกลับเข้ามา นั้นทำให้ราคา เริ่มที่จะสมแรงในการยกฐานขึ้นต่ไปทดสอบโซนถัดไป นั้นคือ 98473.44
fibo : เป้าหมาย 168.00
เป้ามหาย 97000 เป้าหมายในการกเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”