Price Action Toolkit (PAT) - รายละเอียด⚙️Price Action Toolkit (PAT) – อินดิเคเตอร์ที่ช่วยให้การเทรด-วิเคราะห์กราฟ-วางแผนการเทรดของคุณให้ง่ายขึ้น
📕อ่านรายละเอียดฟังชันก์ทั้งหมดพร้อมรูปภาพประกอบได้ที่ : www.facebook.com
🖥วีดีโอแนะนำเบื้องต้น (ตัวอย่างเมื่อเปิดใช้งาน-ฟังชันก์การทำงาน) : www.facebook.com
📍 ฟังก์ชันหลัก (Main Function)
• Market Structure - สร้างโครงสร้างราคาที่ช่วยระบุแนวโน้มอัตโนมัติบอกจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด
• Breakout - สัญญาณเปลี่ยนโครงสร้างตลาด
• Volumetric Order Block - บ่งบอกโซนสำคัญในตลาดอัตโนมัติพร้อมบอกปริมาณการซื้อขาย
• Demand & Supply - สร้าง Supply/Demand อัตโนมัติ ช่วยพิจารณาการเข้าเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
• Bullish FVG / Bearish FVG - สร้างช่องว่างของราคา (FVG) อัตโนมัติที่เกิดจากแรงซื้อ/ขายอย่างรวดเร็ว
• HTF Candlestick - ดูภาพรวมตลาดจากแท่งเทียนไทม์เฟรมที่สูงกว่า ช่วยให้คุณเห็นจุดสำคัญและแนวโน้มชัดเจนขึ้น
• Auto-Trendline - วาดเส้นเทรนด์ไลน์อัตโนมัติ ช่วยให้คุณเห็นแนวรับ-แนวต้านได้ชัดเจนและทันที
• Screener - เครื่องมือดูภาพรวมหลายไทม์เฟรม เพื่อประเมินสภาวะตลาดอย่างรวดเร็วในตารางเดียว
✨ ฟังก์ชันเพิ่มเติม (Additional Function)
• Swing High/Low - บอกจุดสูง-ต่ำของราคาอย่างชัดเจน ช่วยให้คุณติดตามโครงสร้างแนวโน้มได้แม่นยำยิ่งขึ้น
• Support&Resistant (Pivot-Point) - คำนวณแนวรับแนวต้านอัตโนมัติด้วย Pivot Point เพื่อวางแผนการเข้าออกอย่างแม่นยำ
• Reversal-Candle / Reversal-Signal - สัญญาณกลับตัวที่มาจาก Strength Oscillator ร่วมกับรูปแบบแท่งเทียน (Candle Pattern) Rejection
• EMA-1, EMA-2, EMA-3, EMA-4 - พร้อม EMA 4 เส้นปรับแต่งค่าต่างๆได้อย่างอิสระ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้ดียิ่งขึ้น
⏰พร้อมระบบแจ้งเตือนแบบ All-In-One เมื่อราคาถึงโซนต่างๆ
• Market Structure Created (เมื่อเกิดโครงสร้างตลาดเมื่อปิดแท่งเทียน)
• Hit Orderblock Zone (เมื่อราคาถึงโซนสำคัญ เรียลไทม์ไม่ต้องรอปิดแท่งเทียน)
• Hit Demand&Supply Zone (เมื่อราคาถึงโซนสำคัญ เรียลไทม์ไม่ต้องรอปิดแท่งเทียน)
💰 ราคาพิเศษ
• รายเดือน: 590 บาท
• รายปี: 5490 บาท (ประหยัด 20%!)
• ใช้งานถาวร: 9999 บาท
💳 รับผ่อน-ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต (Visa-Mastercard)
👨🏻💻มือใหม่หรือมือโปรก็ใช้งานได้
⚒ สามารถตั้งค่าฟังชันก์ต่างๆได้อย่างอิสระ (เบื้องต้นสามารถใช้ค่าที่ตั้งค่าไว้ได้เลยพร้อมใช้งานทันทีหลังจากเปิดใช้งาน)
✅เป็นบัญชีธรรมดาสามารถใช้งานได้และใช้ฟังชันก์ได้ครบ
📲สามารถใช้ได้ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ ผ่าน Tradingview
⭐️พร้อมมีการอัพเดท Indicator อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เข้ากับผู้ใช้งานมากขึ้น
⏰ใช้งานได้ทุกไทม์เฟรม ทุกตลาด ทุกคู่เหรียญ
🖥วีดีโอแนะนำเบื้องต้น (ตัวอย่างเมื่อเปิดใช้งาน-ฟังชันก์การทำงาน) : www.facebook.com
📕คู่มือการใช้งานอินดิเคเตอร์ Price Action Toolkits สามารถลองอ่านก่อนตัดสินใจซื้อได้เลยครับ :
🔗 www.facebook.com
⚙️ อ่านรายละเอียดการติดตั้งได้ที่ : 🔗 www.facebook.com
🌟รีวิวจากลูกค้าที่ใช้ Indicator ของเรา
www.facebook.com
✨ภาพตัวอย่างเมื่อเปิดเพียงฟังชันก์หลัก
✨ภาพตัวอย่างเมื่อเปิดเพียงฟังชันก์เสริม
✨ภาพตัวอย่างเมื่อเปิดใช้งานทุกฟังชันก์
📕รายละเอียดของอินดิเคเตอร์อธิบายด้วยรูปภาพ
เครื่องมือการเทรด
Retest Trading แบบไหนให้ได้กำไรRetest Trading แบบไหนให้ได้กำไร
👽👽 เคยเป็นกันบ้างมั้ยกับการอ่านกราฟทางเทคนิคแล้วโดนกราฟหลอก ไปทางไหนก็ผิดทาง รีเทสแล้ว รีเทสอีก ก็ยังผิดทาง หรือเราจะอ่านกราฟผิดกันนะ มาครับ บทความนี้แอดมีคำตอบให้
กลไกของกลยุทธ์การ Retest
กลไกของกลยุทธ์ Retest มักมาควบคู่กันพร้อมกับ Breakout เสมอ หลักและใจความสำคัญ ที่จำเป็นในการเทรดก็คือการอ่านแนวรับแนวต้านให้ออก และจำเป็นต้องใช้เครื่องมือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคช่วยด้วยอีกทางหนึ่ง
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก็คือ
1. เมื่อกราฟราคาพุ่งขึ้นสูงสุดหรือลงต่ำสุด และทะลุแนวรับหรือแนวต้าน โดยมีปริมาณ Volumn การซื้อขายที่สูงหรือต่ำตามมาติดๆ
- การ Breakout ในแนวรับหรือแนวต้าน จะเกิดขึ้นเป็นอันดับแรก
- อันดับต่อมาที่ต้องเฝ้าระวังคือ การย่อ..........หรือการเปลี่ยนทิศทางกระทันหันเพื่อหลอกล่อเม่าน้อยๆให้มาติดกับ
- ถัดจากการล่อเม่าเสร็จสิ้น ราคาจึงจะวิ่งกลับไป Retest ณ จุด จุด เดิมอีกครั้ง
- จุดนี้แหละ ที่เราต้องเฝ้าระวัง เพื่อหาจุดเข้าสวยๆเข้าฮะ
รูปแบบแท่งเทียนที่พบได้บ่อยที่สุดในกลยุทธ์ Break and Retest ได้แก่
1. Wedge Pattern แสดงถึงเส้นแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงภายในช่วงราคาที่แคบลงเรื่อยๆ
2. Consolidation Pattern บ่งบอกถึงช่วงราคาในแนวนอน หรือกราฟไซด์เวย์ สำหรับการเล่นสั้น ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งยังหาแนวโน้มที่ชัดเจนไม่ได้แต่คันมือ จัดเบาๆไปก่อน
3.Triangles Pattern รูปแบบสามเหลี่ยม คือการทะลุกรอบสามเหลี่ยมออกไป เป็นไปได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
4. The Channel Patterns แสดงถึงเส้นแนวโน้มเส้นขนาน ซึ่งเป็นไปได้ทั้งไซด์เวย์สลับฟันปลา และไซด์เวย์อัพ ไซด์เวย์ดาว์น โดยราคาจะวิ่งไต่กรอบเส้นเทรนไลน์ไปเรื่อยๆ เป็นเส้นคู่ขนาน
**** นอกจากรูปแบบแท่งเทียนแล้ว อินดิเคเตอร์ที่จัดว่าเด็ดและช่วยในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ MACD หรือ RSI เพื่อช่วยยืนยันทิศทางของแนวโน้มที่เราคาดการณ์ไว้
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ แอดหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เราอ่านกราฟได้ดี อ่านกราฟได้เก่งมากขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่ากราฟมีขึ้นแล้วก็มีลง ไม่ต้องไปเครียดกะมันหมั่นึกฝนและเพิ่มเติมความรู้อย่างสม่ำเสมอ รับรอง เทรดยังไงก็รอดครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM กันด้วยนะครับ วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอนครับ แอดเอาใจช่วยสู้ๆ
[CASE STUDY หาหุ้นปันผล] กอง REIT กับผลตอบแทนไม่ธรรมดาสวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับสินทรัพย์การเงินชนิดหนึ่งนะครับ ที่สร้างผลตอบแทนได้จากทั้งเงินปันผลที่จ่ายอย่างสม่ำเสมอ และส่วนต่างราคาซึ่งราคาเหมือนกับหุ้น แต่ไม่ผันผวนมากเท่าหุ้นกันครับ
สินทรัพย์นี้คือกอง REIT นั่นเองครับ ซึ่งกอง REIT จะมี Business Model เป็นการรับค่าเช่าจากผู้เช่า และเอาค่าเช่านั้นมาจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างเราๆ นั่นเอง
โดยทั่วไปแล้วกอง REIT ส่วนมากจะเป็นกองของ "ห้างสรรพสินค้า" . "คลังสินค้า" , "โรงแรม" , "อาคารสำนักงาน"
ทั้งนี้เองเจ้าของจะเป็นคนที่ไปเก็บค่าเช่าจากคนที่มาใช้บริการครับ เช่นหากกอง REIT เป็นห้างสรรพสินค้า รายได้ก็ได้มาจากค่าเช่ารายเดือนของห้างร้านในนั้น
กอง REIT เองมี 2 แบบ คือแบบซื้อสิทธิ์ขายอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นของตัวเอง(Freehold) กับซื้อกรรมสิทธิ์ระยะยาว (Leasehold)
ในเคสนี้ผมจะพูดถึงเรื่องกอง Reit ที่สามารถเป็นหุ้นเด้งได้ยาวๆ และจ่ายเงินปันผลให้เราได้ตลอด นอกจากนี้ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงไปที่สินทรัพย์อื่นๆ ได้ด้วย
คุณสมบัติหลักๆ คือ
- กองนั้นต้องมีความสามารถในการดึงดูดผู้เช่าให้มาใช้บริการเขาได้ตลอด
- สามารถปรับค่าเช่าตามเงินเฟ้อได้
- ความสามารถที่โดดเด่นคือการ "ฆ่าเงินเฟ้อ" ได้ครับ จากการปรับค่าเช่า และมูลค่าที่ดินที่ปรับสูงขึ้นได้เสมอ
- หากกองเป็นแบบ Leasehold ความขยันของเจ้าของเป็นสิ่งสำคัญ หากกองมีการขาย Asset เข้ากอง Reit ตลอด การที่กองนั้นราคาจะขึ้นไปตามความคาดหวังของอนาคตก็มี สามารถทำกำไรแบบส่วนต่างราคาหรือ Capital Gain ได้ไม่ยากนัก
ข้อเสียที่ร้ายแรงของกอง REIT ก็มีครับ นั่นคือ
- สภาพคล่องของกองอาจจะมีน้อยมากจนอาจเข้าออกได้ยาก
- การที่ราคาไม่ไปไหนอาจมีความเสี่ยง หากราคาเปิด Gap ลงมาจนทำให้เราเสียเงินทางบัญชี
- เงินปันผลอาจไม่การันตีจ่ายได้ตลอดได้ จากการที่มีปัญหาเฉพาะที่ครับ เช่นกองนั้นอาจเกิดไฟไหม้ทำให้ไม่สามารถเก็บค่าเช่าได้ หรือแม้แต่ COVID ที่อาจทำให้ผู้เช่าไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้จากการต้อง Lock Down
ผมหวังว่าไอเดียนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการลงทุนได้ และได้ผลตอบแทนจากสินทรัพย์นี้ที่ดีนะครัย