หลักการ Trail Stop ด้วย EMA แต่ละtimeframe🎯 หลักการ Trail Stop ด้วย EMA
การใช้เส้น EMA ในการวาง Trailing Stop ต้องเข้าใจธรรมชาติของแต่ละเส้นก่อนครับ:
| เส้น EMA | ความหมายเชิงกลยุทธ์ | ระยะการเทรดที่เหมาะสม |
| EMA 34 | ปรับตัวเร็ว เหมาะกับเทรดScalping, Quick Move | 5m – 15m |
| EMA 55 | ปรับตัวเร็ว ปานกลาง เหมาะกับเทรดสวิงระยะกลาง | 15m – 1h |
| EMA 89 | ปรับตัวช้า ลงลึก มักเป็นแนวรับแนวต้านลึกซึ้ง | 1h – 4h |
| EMA 200 | ระยะยาว เทรนด์ใหญ่ เปลี่ยนเทรนด์จริงเท่านั้นถึงทะลุ | 4h ขึ้นไป |
## 📍 วิธีใช้งานแต่ละ TF:
### ⏱ TF 15 นาที (เหมาะกับ BTCUSDT)
- ✅ ใช้ **EMA 55** เป็น Trailing Stop หลัก
- ✅ ถ้าราคาอยู่เหนือ EMA 55 = ถือ Position
- ❌ หากปิดต่ำกว่า EMA 55 2 แท่งติด = Cut Partial หรือ Full Stop
- 💡 ใช้ EMA 89 เป็น Stop หลักรอบลึก ถ้ากราฟสวิงเยอะ
- 🔥 EMA 200 ไว้เป็น POI ใหญ่ หากหลุดให้พิจารณารีเซ็ต Bias
⏱ TF 1 ชั่วโมง (เหมาะกับ BTCUSDT & XAUUSD)
- ✅ ใช้ **EMA 89** เป็น Trailing Stop หลัก
- ✅ ตัดขาดทุนหรือ Lock Profit เมื่อหลุด EMA 89 แบบชัดเจน
- 💡 EMA 55 ไว้จับ Pullback ถ้าจะ Reload Position
- 🔥 EMA 200 ใช้เป็น Dynamic Stop หากถือยาว
⏱ TF 4 ชั่วโมง (เหมาะกับ XAUUSD เทรนด์ใหญ่)
- ✅ ใช้ **EMA 200** เป็น Stop ระดับเทรนด์
- ✅ EMA 89 ใช้สำหรับเลื่อน Stop แบบแอคทีฟ (Trailing ตามราคา)
- ✅ EMA 55 ใช้ประเมินแนว Pullback สั้น
- 💡 ถือ Position ตราบเท่าที่ราคาไม่ปิดหลุด EMA 89/200
📊 ตัวอย่างแผนเทรด + Trailing Stop
✅ Long จาก Break Out EMA 200 บน TF 1h:
- ✅ Entry: Break สูงกว่า EMA 200 และ EMA 55/89 เรียงตัว
- ❌ SL: ตัดขาดทุนใต้ EMA 89 หรือแท่งยืนยันกลับตัว
- 🔁 Trail: ขยับ SL ตาม EMA 55 ทุก 2 แท่ง
- 🛑 Stop-out: หากหลุด EMA 89 ปิดแท่งยืนยัน 2 แท่ง
🧠 กลยุทธ์ที่เหมาะกับแต่ละคู่:
| คู่ | Timeframe เด่น | EMA Trail หลัก | ความผันผวน | ข้อควรระวัง |
| BTCUSDT | 15m – 1h | EMA 55 หรือ EMA 89 | สูงมาก | ระวัง Fakeout |
| XAUUSD | 1h – 4h | EMA 89 หรือ EMA 200 | ปานกลาง – สูง | เหมาะเทรนด์ยาว |
✅ สรุปแนวทาง O Master Trader:
- EMA 55 = เก็บกำไรไว เน้น Swing
- EMA 89 = ถือกลาง ป้องกันโดน Fake out
- EMA 200 = แนวรับสุดท้าย หัก Bias เมื่อหลุด
- ให้พิจารณาใช้ร่วมกับพฤติกรรมราคารอบ POI เดิม, หรือ FVG ด้วยเพื่อเพิ่มความแม่นยำ
- ใช้ Trailing Stop Dynamic ดีกว่า Fix Point โดยเฉพาะใน Crypto
🧠 เข้าใจก่อน: จุดแข็งของแต่ละ Timeframe
| TF | ลักษณะ | กลยุทธ์เด่น | ความเร็ว |
| 1m | Noise เยอะ | Scalp & Fast Trail | เร็วมาก |
| 15m | มีเทรนด์ย่อย | Intraday Swing | เร็วปานกลาง |
| 30m | เริ่มเห็นโครงสร้างย่อม | Mini Swing / Scout Trend | ช้ากว่าเล็กน้อย |
✅ สรุปการเลือก EMA Trail Stop ให้เหมาะ:
| Timeframe | EMA ใช้ Trail | EMA เสริมดูแนวโน้ม | เหมาะกับสไตล์ |
| **1m** | EMA 21 / EMA 34 | EMA 55 | Scalping, Quick Move |
| **15m** | EMA 55 | EMA 89 | Intraday Swing |
| **30m** | EMA 89 | EMA 200 | Scout Trend จับทิศใหญ่แต่ Entry เร็ว |
🔧 วิธีใช้ในแต่ละ TF แบบเจาะลึก
⏱ 1M: เร็วเป็นพิเศษ (เหมาะกับ BTCUSDT)
- ✅ ใช้ **EMA 21 หรือ EMA 34** เป็น Stop Dynamic
- 📉 เมื่อหลุด EMA 21 + Volume เบา → Cut
- 🎯 ใช้ EMA 55 เป็น POI กลับตัวหรือจุด Reload
> 💡 เหมาะมากกับการลากเร็วใน BTC หรือข่าวแรงใน XAUUSD
⏱ 15M: จังหวะ Swing Intraday (เหมาะทั้ง BTC & XAU)
- ✅ ใช้ **EMA 55** เป็นเส้น Trail หลัก
- ✅ EMA 89 เป็นแนว Stop สุดท้ายถ้าไม่อยากหลุดเทรนด์
- 💡 ใช้ร่วมกับ OB/POI และ Candlestick Confirmation
⏱ 30M: เทรนด์เริ่มชัด แต่ไม่ช้าเกิน
- ✅ ใช้ **EMA 89** เป็น Trailing Stop
- ✅ EMA 200 เป็นแนวรับใหญ่ — ถ้าหลุดให้พิจารณากลับฝั่ง Bias
- 🔄 เหมาะกับการเข้าเทรดช้า แต่ตามเทรนด์ได้นาน
📌 สูตรลับ O Master Trader:
> "TF ยิ่งเล็ก เส้นยิ่งสั้น Trail ยิ่งไว"
>
> "TF ยิ่งใหญ่ เส้นยิ่งยาว Trail ยิ่งนิ่ง"
>
🧭 ตัวอย่างแผน (TF 15m):
- ✅ Bias: Long
- ✅ Entry: หลังราคาย่อลงมาใกล้ EMA 55 แล้วกลับขึ้น (Confirm Trigger)
- ❌ SL: หากหลุด EMA 89
- 🔁 Trail SL ตาม EMA 55 ตลอดทาง
- 💡 ปรับ SL ถ้าปิดแท่งหลุด EMA 55 อย่างแรง
🧠 ตารางสรุป: Trail SL แต่ละ Timeframe
| TF | EMA Trail หลัก | EMA เสริมแนวรับ/แนวโน้ม | กลยุทธ์เหมาะสม | วิธีวาง Trail SL |
| **1m** | EMA 21 หรือ EMA 34 | EMA 55 | Scalping เร็ว ๆ | ✅ SL อยู่ใต้ EMA 21/34 เสมอ✅ ปรับ SL ทุก 2 แท่งใหม่❌ หลุด EMA 55 = ปิด Full |
| **15m** | EMA 55 | EMA 89 | Intraday Swing | ✅ Trail SL ตาม EMA 55✅ ใช้ EMA 89 เป็น Stop สุดท้าย❌ หลุด EMA 89 แบบแท่งแรง = Cut |
| **30m** | EMA 89 | EMA 200 | Mini Swing | ✅ SL ตาม EMA 89✅ หากทะลุ EMA 200 แบบแรง = เปลี่ยน Bias✅ ปรับ SL ทุก 3–5 แท่ง |
| **1h** | EMA 89 | EMA 200 | Swing กลางวัน | ✅ SL ตาม EMA 89✅ EMA 55 ไว้หาจังหวะ Reload✅ หลุด EMA 200 = พักฝั่ง |
| **4h** | EMA 200 | EMA 89 / 55 | Swing ใหญ่ / Trend Hold | ✅ SL ไว้ใต้ EMA 200✅ Trail ตาม EMA 89 ถ้าเทรนด์ชัด✅ ปรับ SL แบบไม่ถี่ รอแท่งปิดใหญ่ |
💡 ทริคเสริมจาก Oak Master Trader:
- 🟢 **เน้นลากให้สุด = SL ต้องอยู่ใต้ EMA ที่ “Trend ยังถือได้”**
- 🔴 **โดน SL = ต้องรู้ว่าตัดตรงไหนถึงคุ้ม R:R**
- 🔁 ใช้ Candlestick Confirmation หรือ OB เสริมก่อนปรับ SL ทุกครั้ง
- 🔥 อย่าขยับ SL ถ้าราคาไม่ปิดหลุด EMA
🧠 หลักคิด: เติมของ = ต้องซื้อใน "จังหวะพักตัวที่ยังไม่เปลี่ยนเทรนด์"
> ❗ ไม่ใช่ “ซื้อเพิ่มมั่ว ๆ” เพราะถ้าซื้อผิดจุด = เทรนด์เปลี่ยน = กลายเป็น “เฉลี่ยขาดทุน”
✅ สรุปเส้น EMA ที่ใช้เป็น "จุดเติมของ"
| TF ที่เทรดหลัก | เส้น EMA ที่เติมของ | ใช้เติมใน TF ใด | สภาพจุดเข้า | เงื่อนไขเติม |
| 1m | EMA 21 / EMA 34 | 1m หรือ 5m | พักในเทรนด์ย่อยเร็ว | อยู่เหนือ EMA ใหญ่กว่า เช่น EMA 55/89
| 15m | EMA 55 | 5m หรือ 15m | พักตัวเบา แต่ไม่หลุดเทรนด์ | Candlestick กลับตัว, OB/POI ซ้อน |
| 30m | EMA 55 / EMA 89 | 15m หรือ 30m | พักแบบ HL / LH ชัด | FVG หรือ OB สอดคล้อง |
| 1h | EMA 89 | 15m / 30m | พักตัวกลับเข้าเทรนด์ | ไม่หลุด EMA 200 TF ใหญ่ |
| 4h | EMA 200 | 30m / 1h | เทรนด์ใหญ่พักเบา | มี Volume Support + No BOS กลับฝั่ง |
💡 เทคนิคเติมของแบบ "O Master Style"
1. ✅ **Bias ต้องยังไม่เปลี่ยน** (ยังทำ HH/HL หรือ LL/LH ตามเทรนด์เดิม)
2. ✅ **เติมเฉพาะจังหวะพักตัวใน OB / POI / EMA เท่านั้น**
3. ✅ ใช้ Timeframe ย่อยกว่าหนึ่งขั้นเพื่อหา Confirm Trigger
4. ✅ ต้องยังไม่ปิดแท่งหลุด EMA ใหญ่ของ TF หลัก
🔍 ตัวอย่างสถานการณ์
📈 เทรด BTCUSDT TF 15m แล้วได้ Entry แรกแล้ว:
- ✅ กำไรลอยอยู่ + ยังไม่ถึง TP
- ⏳ ราคากลับลงมาใกล้ **EMA 55 ของ TF 15m**
- 🔍 ไปดู TF 5m: เจอ Price Action กลับตัว + OB + ไม่หลุด EMA 89
- 👉 **เติมของได้!** SL ชุดเติม = Low ของ OB หรือใกล้ EMA 89
🧭 Timeframe ที่เหมาะกับการ "เติมของ" ที่แม่นและรอดง่าย:
| กลุ่มเทรด | TF หลัก | TF เติม | เส้นเติม | ความแม่น |
| Scalping | 1m | 1m | EMA 21 / 34 | 🔥ไว แต่ต้องแม่น |
| Intraday | 15m | 5m–15m | EMA 55 | ✅ แม่นดี ใช้บ่อย |
| Swing | 1h | 15m–30m | EMA 89 | ✅ ปลอดภัยสุด |
| Trend Hold | 4h | 30m–1h | EMA 200 | 🛡 ถือยาวเสถียร |
📌 สรุปแนวทาง O Master:
- 🟩 ใช้ EMA เป็นเส้นเติมเฉพาะช่วงพักตัวในเทรนด์เดิม
- 🔁 อย่าเติมถ้าราคาใกล้ SL หรือหลุดเทรนด์ TF ใหญ่
- 🔎 ใช้ TF ย่อยคอนเฟิร์ม เช่น 15m เติม → ดู Confirm ที่ 5m
เครื่องมือการเทรด
Price Action Toolkit (PAT) - รายละเอียด⚙️Price Action Toolkit (PAT) – อินดิเคเตอร์ที่ช่วยให้การเทรด-วิเคราะห์กราฟ-วางแผนการเทรดของคุณให้ง่ายขึ้น
📕อ่านรายละเอียดฟังชันก์ทั้งหมดพร้อมรูปภาพประกอบได้ที่ : www.facebook.com
🖥วีดีโอแนะนำเบื้องต้น (ตัวอย่างเมื่อเปิดใช้งาน-ฟังชันก์การทำงาน) : www.facebook.com
📍 ฟังก์ชันหลัก (Main Function)
• Market Structure - สร้างโครงสร้างราคาที่ช่วยระบุแนวโน้มอัตโนมัติบอกจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด
• Breakout - สัญญาณเปลี่ยนโครงสร้างตลาด
• Volumetric Order Block - บ่งบอกโซนสำคัญในตลาดอัตโนมัติพร้อมบอกปริมาณการซื้อขาย
• Demand & Supply - สร้าง Supply/Demand อัตโนมัติ ช่วยพิจารณาการเข้าเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
• Bullish FVG / Bearish FVG - สร้างช่องว่างของราคา (FVG) อัตโนมัติที่เกิดจากแรงซื้อ/ขายอย่างรวดเร็ว
• HTF Candlestick - ดูภาพรวมตลาดจากแท่งเทียนไทม์เฟรมที่สูงกว่า ช่วยให้คุณเห็นจุดสำคัญและแนวโน้มชัดเจนขึ้น
• Auto-Trendline - วาดเส้นเทรนด์ไลน์อัตโนมัติ ช่วยให้คุณเห็นแนวรับ-แนวต้านได้ชัดเจนและทันที
• Screener - เครื่องมือดูภาพรวมหลายไทม์เฟรม เพื่อประเมินสภาวะตลาดอย่างรวดเร็วในตารางเดียว
✨ ฟังก์ชันเพิ่มเติม (Additional Function)
• Swing High/Low - บอกจุดสูง-ต่ำของราคาอย่างชัดเจน ช่วยให้คุณติดตามโครงสร้างแนวโน้มได้แม่นยำยิ่งขึ้น
• Support&Resistant (Pivot-Point) - คำนวณแนวรับแนวต้านอัตโนมัติด้วย Pivot Point เพื่อวางแผนการเข้าออกอย่างแม่นยำ
• Reversal-Candle / Reversal-Signal - สัญญาณกลับตัวที่มาจาก Strength Oscillator ร่วมกับรูปแบบแท่งเทียน (Candle Pattern) Rejection
• EMA-1, EMA-2, EMA-3, EMA-4 - พร้อม EMA 4 เส้นปรับแต่งค่าต่างๆได้อย่างอิสระ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้ดียิ่งขึ้น
⏰พร้อมระบบแจ้งเตือนแบบ All-In-One เมื่อราคาถึงโซนต่างๆ
• Market Structure Created (เมื่อเกิดโครงสร้างตลาดเมื่อปิดแท่งเทียน)
• Hit Orderblock Zone (เมื่อราคาถึงโซนสำคัญ เรียลไทม์ไม่ต้องรอปิดแท่งเทียน)
• Hit Demand&Supply Zone (เมื่อราคาถึงโซนสำคัญ เรียลไทม์ไม่ต้องรอปิดแท่งเทียน)
💰 ราคาพิเศษ
• รายเดือน: 590 บาท
• รายปี: 5490 บาท (ประหยัด 20%!)
• ใช้งานถาวร: 9999 บาท
💳 รับผ่อน-ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต (Visa-Mastercard)
👨🏻💻มือใหม่หรือมือโปรก็ใช้งานได้
⚒ สามารถตั้งค่าฟังชันก์ต่างๆได้อย่างอิสระ (เบื้องต้นสามารถใช้ค่าที่ตั้งค่าไว้ได้เลยพร้อมใช้งานทันทีหลังจากเปิดใช้งาน)
✅เป็นบัญชีธรรมดาสามารถใช้งานได้และใช้ฟังชันก์ได้ครบ
📲สามารถใช้ได้ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ ผ่าน Tradingview
⭐️พร้อมมีการอัพเดท Indicator อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เข้ากับผู้ใช้งานมากขึ้น
⏰ใช้งานได้ทุกไทม์เฟรม ทุกตลาด ทุกคู่เหรียญ
🖥วีดีโอแนะนำเบื้องต้น (ตัวอย่างเมื่อเปิดใช้งาน-ฟังชันก์การทำงาน) : www.facebook.com
📕คู่มือการใช้งานอินดิเคเตอร์ Price Action Toolkits สามารถลองอ่านก่อนตัดสินใจซื้อได้เลยครับ :
🔗 www.facebook.com
⚙️ อ่านรายละเอียดการติดตั้งได้ที่ : 🔗 www.facebook.com
🌟รีวิวจากลูกค้าที่ใช้ Indicator ของเรา
www.facebook.com
✨ภาพตัวอย่างเมื่อเปิดเพียงฟังชันก์หลัก
✨ภาพตัวอย่างเมื่อเปิดเพียงฟังชันก์เสริม
✨ภาพตัวอย่างเมื่อเปิดใช้งานทุกฟังชันก์
📕รายละเอียดของอินดิเคเตอร์อธิบายด้วยรูปภาพ
Retest Trading แบบไหนให้ได้กำไรRetest Trading แบบไหนให้ได้กำไร
👽👽 เคยเป็นกันบ้างมั้ยกับการอ่านกราฟทางเทคนิคแล้วโดนกราฟหลอก ไปทางไหนก็ผิดทาง รีเทสแล้ว รีเทสอีก ก็ยังผิดทาง หรือเราจะอ่านกราฟผิดกันนะ มาครับ บทความนี้แอดมีคำตอบให้
กลไกของกลยุทธ์การ Retest
กลไกของกลยุทธ์ Retest มักมาควบคู่กันพร้อมกับ Breakout เสมอ หลักและใจความสำคัญ ที่จำเป็นในการเทรดก็คือการอ่านแนวรับแนวต้านให้ออก และจำเป็นต้องใช้เครื่องมือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคช่วยด้วยอีกทางหนึ่ง
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก็คือ
1. เมื่อกราฟราคาพุ่งขึ้นสูงสุดหรือลงต่ำสุด และทะลุแนวรับหรือแนวต้าน โดยมีปริมาณ Volumn การซื้อขายที่สูงหรือต่ำตามมาติดๆ
- การ Breakout ในแนวรับหรือแนวต้าน จะเกิดขึ้นเป็นอันดับแรก
- อันดับต่อมาที่ต้องเฝ้าระวังคือ การย่อ..........หรือการเปลี่ยนทิศทางกระทันหันเพื่อหลอกล่อเม่าน้อยๆให้มาติดกับ
- ถัดจากการล่อเม่าเสร็จสิ้น ราคาจึงจะวิ่งกลับไป Retest ณ จุด จุด เดิมอีกครั้ง
- จุดนี้แหละ ที่เราต้องเฝ้าระวัง เพื่อหาจุดเข้าสวยๆเข้าฮะ
รูปแบบแท่งเทียนที่พบได้บ่อยที่สุดในกลยุทธ์ Break and Retest ได้แก่
1. Wedge Pattern แสดงถึงเส้นแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงภายในช่วงราคาที่แคบลงเรื่อยๆ
2. Consolidation Pattern บ่งบอกถึงช่วงราคาในแนวนอน หรือกราฟไซด์เวย์ สำหรับการเล่นสั้น ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งยังหาแนวโน้มที่ชัดเจนไม่ได้แต่คันมือ จัดเบาๆไปก่อน
3.Triangles Pattern รูปแบบสามเหลี่ยม คือการทะลุกรอบสามเหลี่ยมออกไป เป็นไปได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
4. The Channel Patterns แสดงถึงเส้นแนวโน้มเส้นขนาน ซึ่งเป็นไปได้ทั้งไซด์เวย์สลับฟันปลา และไซด์เวย์อัพ ไซด์เวย์ดาว์น โดยราคาจะวิ่งไต่กรอบเส้นเทรนไลน์ไปเรื่อยๆ เป็นเส้นคู่ขนาน
**** นอกจากรูปแบบแท่งเทียนแล้ว อินดิเคเตอร์ที่จัดว่าเด็ดและช่วยในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ MACD หรือ RSI เพื่อช่วยยืนยันทิศทางของแนวโน้มที่เราคาดการณ์ไว้
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ แอดหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เราอ่านกราฟได้ดี อ่านกราฟได้เก่งมากขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่ากราฟมีขึ้นแล้วก็มีลง ไม่ต้องไปเครียดกะมันหมั่นึกฝนและเพิ่มเติมความรู้อย่างสม่ำเสมอ รับรอง เทรดยังไงก็รอดครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM กันด้วยนะครับ วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอนครับ แอดเอาใจช่วยสู้ๆ
[CASE STUDY หาหุ้นปันผล] กอง REIT กับผลตอบแทนไม่ธรรมดาสวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับสินทรัพย์การเงินชนิดหนึ่งนะครับ ที่สร้างผลตอบแทนได้จากทั้งเงินปันผลที่จ่ายอย่างสม่ำเสมอ และส่วนต่างราคาซึ่งราคาเหมือนกับหุ้น แต่ไม่ผันผวนมากเท่าหุ้นกันครับ
สินทรัพย์นี้คือกอง REIT นั่นเองครับ ซึ่งกอง REIT จะมี Business Model เป็นการรับค่าเช่าจากผู้เช่า และเอาค่าเช่านั้นมาจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างเราๆ นั่นเอง
โดยทั่วไปแล้วกอง REIT ส่วนมากจะเป็นกองของ "ห้างสรรพสินค้า" . "คลังสินค้า" , "โรงแรม" , "อาคารสำนักงาน"
ทั้งนี้เองเจ้าของจะเป็นคนที่ไปเก็บค่าเช่าจากคนที่มาใช้บริการครับ เช่นหากกอง REIT เป็นห้างสรรพสินค้า รายได้ก็ได้มาจากค่าเช่ารายเดือนของห้างร้านในนั้น
กอง REIT เองมี 2 แบบ คือแบบซื้อสิทธิ์ขายอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นของตัวเอง(Freehold) กับซื้อกรรมสิทธิ์ระยะยาว (Leasehold)
ในเคสนี้ผมจะพูดถึงเรื่องกอง Reit ที่สามารถเป็นหุ้นเด้งได้ยาวๆ และจ่ายเงินปันผลให้เราได้ตลอด นอกจากนี้ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงไปที่สินทรัพย์อื่นๆ ได้ด้วย
คุณสมบัติหลักๆ คือ
- กองนั้นต้องมีความสามารถในการดึงดูดผู้เช่าให้มาใช้บริการเขาได้ตลอด
- สามารถปรับค่าเช่าตามเงินเฟ้อได้
- ความสามารถที่โดดเด่นคือการ "ฆ่าเงินเฟ้อ" ได้ครับ จากการปรับค่าเช่า และมูลค่าที่ดินที่ปรับสูงขึ้นได้เสมอ
- หากกองเป็นแบบ Leasehold ความขยันของเจ้าของเป็นสิ่งสำคัญ หากกองมีการขาย Asset เข้ากอง Reit ตลอด การที่กองนั้นราคาจะขึ้นไปตามความคาดหวังของอนาคตก็มี สามารถทำกำไรแบบส่วนต่างราคาหรือ Capital Gain ได้ไม่ยากนัก
ข้อเสียที่ร้ายแรงของกอง REIT ก็มีครับ นั่นคือ
- สภาพคล่องของกองอาจจะมีน้อยมากจนอาจเข้าออกได้ยาก
- การที่ราคาไม่ไปไหนอาจมีความเสี่ยง หากราคาเปิด Gap ลงมาจนทำให้เราเสียเงินทางบัญชี
- เงินปันผลอาจไม่การันตีจ่ายได้ตลอดได้ จากการที่มีปัญหาเฉพาะที่ครับ เช่นกองนั้นอาจเกิดไฟไหม้ทำให้ไม่สามารถเก็บค่าเช่าได้ หรือแม้แต่ COVID ที่อาจทำให้ผู้เช่าไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้จากการต้อง Lock Down
ผมหวังว่าไอเดียนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการลงทุนได้ และได้ผลตอบแทนจากสินทรัพย์นี้ที่ดีนะครัย