วิเคราะห์ทองคำพฤหัสฯที่ 25 มีนาคม 2564 ภาคเช้าทองคำระยะนี้เราจะสังเกตได้ว่าราคาอยู่ช่วงระหว่าง 1,680-1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งการที่ทองคำยังไม่สามารถเคลื่อนไหวทางใดทางหนึ่งชัดเจนได้นั้น เป็นเพราะทองคำยังคงโดนปัจจัยทั้งด้านบวกและลบเข้ามาในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ทิศทางทองคำยังไม่สามารถสร้างผลกำไรกับนักลงทุนสายกลางและยาวได้ สิ่งที่เราทำได้เวลานี้คือเล่นตามน้ำ ไล่ตามคลื่นเท่านั้น เทคนิคคอลต่างๆ ก็ต้องเอามาใช้กันอย่างระมัดระวังมากขึ้น เช้าวางแผนเรียบร้อย บ่ายข่าวกระทบมาแรงฉีกแผนทิ้งเสียงั้น เรียกได้ว่าทำการตรงหน้า ว่ากันตรงก้าวเท่านั้นเวลานี้
ทองคำวานนี้กลับมาปิดบวกได้อีกครั้งหลังร่วงลงมากว่า 2 วัน โดยปิดที่ระดับ 1,733.94 +7.25 (+0.42%) ซึ่งก็มักจะเป็นแบบนี้เวลาที่ทองคำเคลื่อนตัวไปในบริเวณที่มีราคาถูก ก็จะถูกเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น แม้การปรับขึ้นจะเห็นได้บ้าง แต่ก็เป็นการปรับขึ้นในทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งหากเรามองกรอบรายวัน เรายังจะมองเห็นเพียงการขึ้นทดสอบแนว EMA20 วันเท่านั้น แถมยังโดยปฏิเสธราคาอีกต่างหาก และยังตอกย้ำถึงการเคลื่อนไหวทองคำว่าอยู่ในช่วงที่มีการซื้อมากเกินไปแล้ว (Overbought) ใน Stochastic Period 14 เราจะเห็นว่าเส้นเร่ิมคล้อยลงจากจุด Level 80 ลงมาบ้างแล้ว สอดคล้องกับกราฟที่โดนปฏิเสธราคาที่บริเวณ EMA20 ด้วย ทำให้มั่นใจว่าทิศทางทองคำคงจะปรับตัวลงกันอีกรอบ ยิ่งตอกย้ำการแข็งค่าของดอลลาร์เวลานี้แล้วด้วยที่พุ่งทยานทำจุดสูงสุดใหม่อย่างเมามัน ก็คงเป็นแรงกดดันทองคำได้ตลอดทั้งอาทิตย์หรือไม่
สำหรับในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ดูแล้วการเข้าฝั่ง Short จะดูได้เปรียบกว่าฝั่ง Long เวลาที่เทรนด์มันลงไปจะมีเวลายาวนานกว่าเทรนด์ที่มันขึ้น จึงอยากบอกว่าความได้เปรียบของฝั่งซื้อมันจะอยู่ที่บริเวณ 1,680 ซึ่งมองว่าแถวๆ นั้นถ้าลงไปจะให้มองผ่านไปก็คงกะไรอยู่เช่นกัน สำหรับฝั่งขายความได้เปรียบก็จะอยู่ที่บริเวณ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังโดนปฏิเสธราคาเรื่อยๆ ก็คงต้องมองการขายเอาไว้จะดีกว่าครับ
ดอลลาร์เมื่อวานก็ปิดบวกที่ 92.528 จุดหรือ +0.192 (+0.21%) ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 เดือนที่ระดับ 92.611 จุด จึงยังเป็นแรงกดดันราคาทองอยู่ในเวลานี้ ดอลลาร์กรอบรายวันขยับขึ้นทดสอบ EMA200 วันก็ต้องดูกันว่าจะผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ หากเกิดการปฏิเสธกันบริเวณนี้ ก็จะเป็นผลดีที่ทองคำจะได้ปรับตัวขึ้นมาอีกรอบในระยะสั้น เน้นย้ำว่าในระยะสั้น
ในฝั่งของ Bond Yield 10 Year ก็เริ่มลดความร้อนแรงลงไปหลังจากที่ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1.754% และเมื่อถ้อยแถลงจากปากของปธ.เฟด และรัฐมนตรีคลัง เราเลยเห็นการลดลงของ Bond ได้เวลานี้ แต่เมื่อมองทางเทคนิค Bond ก็ยังคงปรับตัวลดลงเพียงระดับการปรับฐานซึ่งจะทดสอบแนว EMA20 วัน และ RSI, STO ก็ยังมีพืนที่ให้กลับขึ้นไปด้านบนอีกพอสมควร ก็ต้องระวังแรงกดดันเพิ่มเติมตรงนี้ด้วย เว้นแต่มันจะร่วงหลุด 1.50% ตรงนี้เราอาจเห็นการร่วงของ Bond ในระยะสั้นๆ ได้ครับ
ประเมินทางเทคนิค ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดระหว่าง 1,736-1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งแนวโน้มตลอดภาคกลางวันเราอาจเห็นการเคลื่อนไหวออกด้านข้าง (Sideway) หากราคาทองคำยังทรงตัวได้แข็งแกร่งเหนือ 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง แต่หากไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวมันก็จะเป็นจุดขายทำกำไรออกมาของนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรจากระดับ 1,728 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้อีกครั้งได้เช่นกัน แนะนำว่าวันนี้ให้เล่นตามเทรนด์ไปก่อน เว้นแต่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาอีกครั้ง วันนี้ติดตามประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวถึงนโยบายการเงินของยุโรปเวลา 16:30 ตามเวลาประเทศไทย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ของสหรัฐก็มี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ เวลา 19:30 ตามเวลาประเทศไทย
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือ 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง "ซื้อ" เหนือบริเวณดังกล่าว โดยพิจารณาปิดทำกำไรเมื่อราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถยืนเหนือได้ (ตัดขาดทุนหากหลุดต่ำกว่า 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นบริเวณ 1,736-1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "ขาย" ในบริเวณแนวต้านที่โดนปฏิเสธราคาลงมา โดยเน้นการลงทุนในกรอบระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวรับ 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้านกรอบรายชั่วโมง
------------------------------------
Support : 1,726 / 1,718 / 1,708
------------------------------------
Resistance : 1,740 / 1,746 / 1,755
------------------------------------
กองทุน SPDR ลดการถือครอง -2.33 ตัน ปัจจุบันถือครองสุทธิ 1,043.03 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
Tradinganalysis
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564ทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมา (เช้าวันเสาร์) ปรับตัวขึ้น ขานรับบอนด์ฯ ชะลอตัว
ราคาทองคำฟิวเจอร์เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปอีก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. บวก 3.30 ดอลลาร์หรือ 0.19% สู่ระดับ 1,735.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ Bond Yield 10 Year ได้ชะลอตัวลงหลังพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.74% แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน สำหรับทองคำวันนี้ตลาดเอเซีย ราคาทองคำฮ่องกงเปิดตลาดลดลงแตะ 16,110 HKD/tael
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำยังรักษาระดับเชิงบวกบริเวณ 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์เอาไว้ได้ แนวโน้มที่ทองคำจะปรับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,742-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ซึ่งถ้าวันนี้แรงซื้อยังมีเข้ามาเด่นชัดจะทำให้ทิศทางของทองคำยังปรับขึ้นได้อีก แต่ทั้งนี้หากเราพิจารณาจาก Bond Yield 10 Year หากยังปรับฐานไม่หลุดต่ำกว่า 1.674% ก็ยังจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกเช่นกัน หากเป็นเช่นนี้จะทำให้ทองคำจะโดนกดดันได้อีกรอบ ประเมินอัตราผลตอบแทนฯ วันนี้เรายังเห็นการอ่อนแรงของ Bond อยู่ โดยให้เฝ้าพิจารณาแนวรับรับสองแนวคือ 1.674% และ 1.646%
กลยุทธ์การเทรดทองคำเช้านี้
-----------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำยังไม่หลุดแนวรับ 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นโอกาสให้เปิดเสี่ยงคำสั่งซื้อได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยให้เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ 1,742-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
-----------------------------------------
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,742-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่งขายที่บริเวณดัวกล่าว เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่าบริเวณแนวรับ 1,730-1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านลงไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,719-1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับแนวต้านกรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Support : 1,732 / 1,725 / 1,717
-------------------------------------------
Resistance : 1,737 / 1,740 / 1,755
-------------------------------------------
กองทุน SPDR
-------------------------------------------
สถานะการถือครอง | ซื้อทองเพิ่ม +3.5 ตัน
-------------------------------------------
ปัจจุบันถือครองสุทธิ | 1,051.78 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในภาคเช้าตามแรงซื้อต่อเนื่องจากวานนี้ โดยสามารถทำจุดสูงสุดระหว่างวันได้ที่ 1,735.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งปัจจัยหนุนให้แรงซื้อกลับเข้ามาสู่ตลาดทองคำหลักๆ คงหนีไม่ได้เลยจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาตลอดกาลของตลาดทองคำได้ปรับตัวอ่อนค่าลงจากเมื่อวานหลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) แบบเดือนต่อเดือน ของเดือนกุมภาพันธ์ ออกมาที่ระดับ 0.1% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 0.2% เลยทำให้ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวร่วงลง ช่วยหนุนราคาทองคำให้กลับฟื้นขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้อีกครั้ง (EMA200)ในกรอบรายชั่วโมง
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,739-1,748 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมาที่บริเวณดังกล่าวได้อีกครั้ง ทำให้แนวโน้มทองคำอาจย่อตัวลงไปสู่แนวรับด้านล่างบริเวณ 1,720-1,711 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือหรือทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว อาจมีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,739-1,748 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำภาคบ่าย
หากราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,720-1,711 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด Long Position ที่บริเวณดังกล่าวโดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ประเมินพิจารณาทำกำไรหรือซื้อคืนทองคำที่บริเวณ 1,739-1,748 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากกรณีที่ราคาทองคำหลุดต่ำกว่าแนวรับแรกไปได้ ให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยให้ไปรอซื้อคืนทองคำที่บริเวณแนวรับถัดไปี่ 1,704-1,699 ดอลลาร์ต่อออนซ์
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ใช่เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%