วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ทองดับฝันไม่ถึงฝั่ง 1800 หลังรายงานข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
ศุกร์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวร่วง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวลดลง 15.7 ดอลลาร์หรือ -0.87% ปิดที่ราคา 1,791.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การปรับร่วงของทองคำอีกครั้งหลังได้มีการเปิดเผยตัวเลขแรงงานที่ดีเกินคาด โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) ตัวเลขออกมาที่ 528,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฏาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 258,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานเดือนกรกฎาคมได้ปรับลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเหตุให้กดดันราคาทองคำอีกครั้ง โดยดอลลาร์กลับมาเคลื่อนไหวปรับขึ้นที่ระดับ 106.57 เพิ่มขึ้น 0.82% หรือ +0.78% การปรับขึ้นของดอลลาร์นั้นเป็นผลจากการคาดการณ์ว่าเมื่อตัวเลขแรงงานที่ออกมาดีเกินคาดนั้น จะส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ประเมินทางเทคนิคทองคำยังคงแกว่งตัวผันผวนตามการขึ้นลงของดอลลาร์เป็นหลัก โดยปัจจัยหลักๆ ที่กระทบก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญๆ ต่างทั่วโลก ภาพรวมตลาดทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
กรอบเวลารายสัปดาห์ (Week) : หลังเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวลงที่ระดับ 1680.74 ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (Exponential Moving Average 200 ) และโดนปฏิเสธราคาที่บริเวณดังกล่าว ทำให้ทองคำ rebound กลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตลอดเวลาที่ปรับขึ้นมานั้นทองคำยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และบอนด์ยีลส์อายุ 10 ปีของสหรัฐ โดยมองว่าตลาดทองคำในภาพรวมกว้างๆ นั้นยังคงเป็นตลาดหมี (Bearish market) อยู่ หากทองคำจะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราถึงจะมองว่าภาพของฝั่งกระทิง (Bullish market) กำลังกลับมาอีกครั้ง ตราบใดที่ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็อย่าเพิ่งเบาใจสำหรับนักลงทุนฝั่งตลาดกระทิง ทางเทคนิคเรายังมองเห็นทองคำยังต้องเผชิญกับแนวต้านหลักๆ ตั้งแต่ 1772 และ 1830 ขึ้นไปให้ได้ก่อน ถึงจะมีลุ้นว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กรอบรายวัน (Day) : สำหรับในกรอบรายวันนั้น หลังทองคำปรับร่วงเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงรักษาระดับไว้เหนือแนวรับบริเวณ 1756 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงซื้อยังคงเข้าช่วยพยุงราคาไว้ ทางเทคนิคในกรอบรายวันเราให้ช่วงบริเวณรับราคาในระหว่าง 1756-1727 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจมีแรงซื้อเข้ามาผยุงราคาทองคำหลังราคาทองคำปรับราคาถูกลง โดยเมื่อทองคำมีราคาที่ถูกลงก็มักจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนระยะสั้น เข้าทำการเก็งกำไรและเทขายสลับออกมา นักลงทุนจึงควรเฝ้ามองหาโอกาสจากการช่วงชิงการซื้อขายของทองคำในภาวะดังกล่าวตามแนวรับแนวต้านสำคัญๆ ประเมินว่าทองคำยังคงพยายามขึ้นทดสอบระดับ 1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณดังกล่าวจะมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันพาดผ่านอยู่ นักลงทุนควรให้ความสำคัญในแนวบริเวณดังกล่าว เพราะหากทองคำสามารถขึ้นไปได้ถึงจุดนั้น อาจเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนบางส่วนจะมองหาโอกาสการทำกำไรในบริเวณดังกล่าว
กรอบรายชั่วโมง (H1) : สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ให้ความสำคัญในกรอบรายชั่วโมงนั้น หลังทองคำปรับตัวเข้าในบริเวณ Demand zone ช่วง 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ทองคำก็ยังคงรักษาระดับได้เหนือบริเวณดังกล่าว โดยทางเทคนิคหากทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการเทขายทองคำอีกครั้งจนทำให้ราคาทองคำจะกลับมาเคลื่อนไหวในบริเวณ 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่เฝ้าติดตามจังหวะเข้าซื้ออาจพิจารณารอจังหวะซื้อทองคำที่บริเวณดังกล่าวได้เช่นกัน แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้าน 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1795-1804 ก็มีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าลืมว่าทองคำขณะนี้มีปัจจัยกดดันจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง จึงไม่แนะนำนักลงทุนให้วางแผนการเทรดในระยะกลางถึงยาว ควรเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก เทรดตามแนวโน้มราคาปัจจุบันจะดีที่สุด
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงรอขายทำกำไรระยะสั้นจากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำเคลื่อนไหวไม่ผ่านแนวรับ 1762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวรับถัดไปประเมินที่บริเวณ 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อคืนทองคำบริเวณ 1762-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ ให้เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนไปก่อน สำหรับแนวต้านถัดไปประเมินที่บริเวณ 1795-1804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1779 / 1795 / 1804
-------------------------------------------
Support : 1770 / 1763 / 1754
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -1.16 ตัน
คงถือสุทธิ = 999.16 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,774.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -6.71 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ทองคำกลับมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
ทองคำวานนี้ปิดบวกไป 30.5 ดอลลาร์ การซ้อมรบของจีนรอบบริเวณเกาะไต้หวันที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวานเป็นเหตุให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อทองคำกันอีกครั้ง โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 30.5 ดอลลาร์หรือ +1.72% ปิดที่ราคา 1,806.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การกลับมาของทองคำเมื่อวานนี้เกิดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา โดยทางการจีนได้มีการเปิดการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันหลังนางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานรัฐสภาของสหรัฐได้มาเยือนเกาะไต้หวัน ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐเริ่มมีมากขึ้น
ประเมินทางเทคนิคแล้ววันนี้ในกรอบรายวันเรายังเห็นการเคลื่อนไหวทองคำถึงโอกาสที่จะเข้าทดสอบระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ทั้งนี้ต้องมีแรงซื้อสนับสนุนต่อเนื่องถึงจะเคลื่อนไหวเข้าเหนือหรือทดสอบบริเวณดังกล่าวได้
ทั้งนี้หากราคาทองคำยังมีแรงปรับฐานเหนือบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้งเพื่อผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ 1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือระดับสูงสุดของเมื่อวานนี้ สำหรับวันนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ "รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) นักวิเคราะห์คาดการว่าจะมีตัวเลขการจ้างงานที่ 250,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ลดลงจากเดิม 381,000 ตำแหน่ง จากเดือนมิถุนายน และตัวเลขรายงานอัตราการว่างงานของเดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการว่างงานคงที่ที่ระดับ 3.6% ของเดือนมิถุนายน ในเวลา 19:30 น. (ตามเวลาของประเทศไทย) ในช่วงวันนี้คาดว่าทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนเพื่อติดตามรายงานดังกล่าวในค่ำคืนนี้ จึงให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1795-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึันไปได้ เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1779-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถหลุดแนวรับดังกล่าวลงมาได้ เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1795-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1779 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1790 / 1756 / 1727
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1795 / 1804 / 1810
-------------------------------------------
Support : 1785 / 1779 / 1774
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -2.32 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,000.65 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,765.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 2
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -5.22 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 3 สิงหาคม 2565 วานนี้ทองคำไม่สามารถถึงฝันเหนือ 1800 ได้หลังดอลลาร์ได้แรงหนุนกลับมาอีกครั้ง
ทองคำวานนี้ปิดบวกไป 2 ดอลลาร์ จากความวิตกกังวลต่อความขัดแย้งใหม่ที่เสี่ยงจะเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น จนทำให้วานนีัทองคำกลับขึ้นไปทำ High ใกล้ๆ กับระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทำจุดสูงสุดของวันเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 2 ดอลลาร์หรือ 0.11% ปิดที่ราคา 1,789.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำโดนสกัดการพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้จากการแข็งค่าของดอลลาร์อีกครั้งหลังเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกครั้ง จนทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันราคาทองคำที่มีราคาที่แพงขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งปล่อยเทขายทำกำไรจากความกังวลดังกล่าว แต่ก็มีนักลงทุนส่วนหนึ่งที่วางเป้าหมายทำกำไรในบริเวณ 1800 เช่นกัน ทำให้ราคาบริเวณดังกล่าวเกิดความไม่สมดุลย์ ทั้งนักลงทุนที่มองเห็นกำไรที่เริ่มลดลงเกิดความกังวลต่อผลกำไรรอบนี้ก็เทขายออกมาเพื่อปรับฐานราคากันใหม่อีกครั้ง ทองคำจึงเป็นสิ่งที่เวลานี้ต้องมีการวางแผนสำรองการคาดหมายไว้มากกว่า 1 แผนเสมอ
เจ้าหน้าที่เฟดคือ แมรี เดลี่ ประธานเฟดในซานฟรานซิสโก ได้ออกมากล่าวกับสำนักข่าว CNBC ว่า “เฟดยังมีหนทางอีกยาวไกล ก่อนที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในความควบคุมได้ ซึ่งน่าจะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น”
และเจ้าหน้าที่อีกคนคือ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดประจำชิคาโก ได้ออกมาระบุว่ามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสำคัญอีกครั้ง
ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นเหตุให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันทองคำให้ไม่สามารถกลับไปเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ได้ แต่ทั้งนี้ภาพรวมทองคำก็ยังมีนักลงทุนเฝ้าติดตามสถานการณ์ระดับราคาที่เหมาะสมในการเข้าทำกำไรต่อเนื่องเสมอ โดยเมื่อทองคำขยับขึ้นก็มักจะมีการทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะๆ
ทางเทคนิควันนี้ภาพรวมทองคำยังเห็นการปรับฐานราคาเหนือบริเวณ Support zone 1746-1755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากวันนี้ทองคำไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำกลับมาอ่อนค่าลงไปได้อีกครั้ง ทั้งนี้เราได้ประเมินแนวรับต้านสำคัญที่ระดับ 1768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำผ่านตรงจุดนี้ไปได้ ก็ยังเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อขายในระยะสั้นๆ ได้ ใครที่รับความเสี่ยงได้ก็อาจเสี่ยงเปิดซื้อทำกำไรระยะสั้นที่ระดับแนวต้าน 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหร้บเป้าหมายกำไรระหว่างวัน หากทองคำได้รับแรงหนุนเหนือแนวต้าน 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ประเมินแนวทำกำไรระหว่างวันที่ระดับ 1796-1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ พิจารณเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายที่แนวรับ 1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวได้ก็ให้ชะลอการทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน พิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1746-1755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาขยับขึ้นเหนือกว่า 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนหากราคาทองคำปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1755-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายการทำกำไรที่ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถขยับขึ้นไปเหนือกว่าก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวทำกำไรถัดไปประเมินที่ 1796-1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1780 / 1803 / 1836
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1781 / 1790 / 1796
-------------------------------------------
Support : 1754 / 1746 / 1733
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -2.90 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,002.97 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,760.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 1
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -2.90 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับบวกเล็กน้อย รับการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง
ทองคำช่วงนี้เรียกว่าผูกติดกับหมัดของสกุลเงินดอลลาร์จริงๆ พอฝั่งโน้นเบาแรงก็จะขยับขึ้นได้ แต่ก็ยังถูกจำกัดจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ทำให้การปรับฟื้นไม่ได้ดีเท่าที่ควรนัก
การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้วก็พอเป็นปัจจัยให้เงินไหลเข้ามาระบบของทองคำได้บ้าง โดยดาวโจนส์ร่วงลง 2.9% ดัชนี S&P500 ร่วงลง 3.0% และ ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.8%
สำหรับในสัปดาห์นี้นักลงทุนเฝ้าติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐฯ เพื่อที่จะทำการประเมินแนวทางการลงทุน และทิศทางแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาเซนต์หลุยต์ กล่าวไว้ว่าการเทขายหุ้นสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะส่วนหนึ่งนั้นการเทขายออกของหุ้นเกิดจากความกังวลในเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคากลางสหรัฐฯ และเขาได้ยืนยันว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะไม่เกิดภาวะถดถอยในปีนี้และปีหน้า นอกจากจะมีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นกับระบบของเศรษฐกิจสหรัฐ
มีข้อมูลจาก Refinitiv Lipper ได้ออกมาชี้แจงว่า นักลงทุนทั่วโลกขณะนี้ได้มีการปรับลดขนาดการลงทุนในกลุ่มของกองทุนพันธบัตรและกองทุนหุ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวเรื่องของเงินเฟ้อ และการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว จนอาจเป็นเหตุให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถอถอยได้ นั่นจึงอาจเป็นเหตุให้ทองคำอาจมีแรงซื้อเข้าหนุนให้วิ่งกลับไปเหนือ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.05% ปิดที่ระดับ 1,842.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำทางเทคนิคในกรอบรายวันกำลังวิ่งตามแบบของ Harmonic Pattern (Gartley) แต่ก็ยังมีแนวต้านสำคัญที่อาจะเป็นอุปสรรค์ต่อการปรับฟื้นของทองคำได้ที่ระดับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันนั้นยังไม่มีการปรับขึ้นมาในระหว่างนี้ แต่เส้นค่าเฉลี่ย 200 ในระยะยาวได้มีการปรับขึ้นต่อเนื่อง แม้ก่อนหน้าทองคำจะย่อตัวลงแรงก็ตาม แต่ภาวะแนวโน้มระยะยาวทองคำก็ยังมีโอกาสปรับขึ้นสูงได้
สำหรับแนวทางระยะสั้นกรอบรายชั่วโมงนั้น ทองคำกำลังพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจทำให้มีการเทขายทำกำไรระยะสั้นได้ที่บริเวณดังกล่าว
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก พิจารณาปิดกำไรหากราคาทองคำไม่หลุด 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดลงไปก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น เป้าหมายกำไรที่ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือเป้าหมายดังกล่าวให้ชะลอปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1865-1870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1859 / 1865 / 1870
-------------------------------------------
Support : 1849 / 1839 / 1833
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดซื้อเพิ่ม 7.25 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,063.43 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,846.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 13
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -31.12 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ทองคำปรับบวกขึ้นมาได้ 4.9 ดอลลาร์วานนี้หลังร่วงลงมาต่อเนื่อง
เมื่อวานนี้ผลการวิเคราะห์ทองคำก็เป็นไปตามที่วาดไว้อีกวันหนึ่ง วันนี้ผมมองว่าการปรับขึ้นในช่วงสั้นๆ เมื่อวานนี้ยังไม่เห็นการปรับขึ้นของทองคำที่ชัดเจน เนื่องจากพิจารณาในกรอบรายวันแล้วเรายังเห็นว่าทองคำยังมีแนวทางของการทดสอบราคาที่ระดับ 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปัจจัยเสริมที่ทำให้คิดเช่นนั้นก็มาจากบริเวณดังกล่าวมีเส้นค่าเฉลี่่ย 200 วัน (SMA200) ในแนวดังกล่าวอยู่ จึงต้องติดตามกันว่าที่ระดับบริเวณดังกล่าวทองคำจะสามารถฝ่ากลับขึ้นไปได้หรือไม่ ถ้าฝ่าขึ้นไปได้ เรามีโอกาสได้เห็นทองคำปรับขึ้นเหนือ 1850 ได้อีกครั้ง
วานนี้การปรับฟื้นของทองคำทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นหลังขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1829-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่จากการกลับมาพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง สำหรับกองทุน SPDR กองทุนทองคำขนาดใหญ่ของโลกก็มีการปรับลดการถือครองต่อเนื่อง ทำให้น้ำหนักราคาทองคำจะกลับไปสู่ตลาดกระทิง (Bullish) ยังไม่คงเห็นเค้าลางชัดเจนสักเท่าไหร่ เหมือนเรายังยืนอยู่กลางสายหมอกที่เส้นทางการลงทุนทองคำยังไม่ชัดเจนมากนัก ก็ต้องมาดูว่า 1800 จะโดนทลายลงเมื่อไหร่ ซึ่งก่อนหน้าที่ผมคาดการณ์แนวรับไว้ที่ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ผมก็ยังยืนยันว่าโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับฐานลงมาสู่ระดับดังกล่าวยังมีความเป็นไปได้อยู่ ซึ่งหากหลุดจากแนวนี้ไม่ต้องพูดแล้วระดับ 1800 ในช่วงเวลาที่เรายังต้องติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
วันนี้ขอเล่ายาวๆ ถ้าใครอ่านก็จะมีประโยชน์ บริบททองคำในอดีตคือเครื่องมือต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันตลาดการลงทุนมันถูกเปลี่ยนผันไปจากเดิมเกือบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดใหม่ของตลาดการลงทุน สินทรัพย์ใหม่ที่นักลงทุนรุ่นใหม่ๆ ให้ความสนใจและเข้าทำการซื้อขายอย่างกว้างขวาง ทองคำจึงลดสเน่ห์ลงไปพอสมควร แต่ด้วยมูลค่าความน่าเชื่อถือทองคำจึงยังคงเป็นสินทรัพย์ถาวรที่ใครๆ ยังให้ความมั่นใจอยู่
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.27% ปิดที่ระดับ 1,818.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ตลาดทองคำทางเทคนิควันนี้ก็คงมีแนวทางเดิมอยู่ในกรอบรายวันหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกขายออกทำกำไรระยะสั้นได้อีก ในกรอบระยะสั้นรายชั่วโมงในช่วงเช้านี้ถ้าราคาทองคำยังไม่หลุด 1810-1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่จะปรับฟื้นขึ้นระยะสั้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1822-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ถ้าหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวนี้ก็จะเห็นการปรับตัวต่ำของทองคำได้อีกครั้งหนึ่ง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1822-1830 ขึ้นไปได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านััน พิจารณาทำกำไรหากราคาทองคำปรับย่อลงมาไม่เกินแนวรับ 1810-1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับสูงกว่า 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับทรงตัวได้ในบริเวณ 1810-1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้าน 1830-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1842 / 1891 / 1925
-------------------------------------------
Support : 1780 / 1701 / 1600
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1822 / 1830 / 1840
-------------------------------------------
Support : 1810 / 1799 / 1792
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -4.07 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,049.21 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,815.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 11
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -45.34 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 ทองคำปรับฐานช่วงเช้ามืดวันนี้ หลังร่วงลงต่อเนื่องมาหลายวัน
การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์กลับมาอีกครั้งจากช่วงการปรับฐานราคาจากระดับ 104 ซึ่งมีโอกาสที่ดอลลาร์จะปรับฐานเข้าใกล้ 103 ก่อนจะตั้งทรงตัวได้หรือไม่นั้น ถ้าดอลลาร์ทรงตัวได้ในแนว 103 การปรับฟื้นที่นักลงทุนจะเข้าซื้อจากแนวดังกล่าวอีกครั้งก็มีความเป็นไปได้สูง จึงอาจเป็นเหตุผลให้เกิดการกดดันราคาทองคำขึ้นได้อีกครั้ง
การอ่อนค่าของดอลลาร์นั้นส่วนหนึ่งก็มาจากหลังมีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีการผลิต (Empire State Index) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ร่วงลงสู่ระดับติดลบในเดือนพฤษภาคม โดยร่วงลงแตะ -11.6 จากระดับ 24.6 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งการที่ตัวเลขติดลบต่ำกว่า 0 เป็นเครื่องสะท้อนถึงการหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก นักลงทุนจึงเข้าซื้อทองคำในช่วงจังหวะดังกล่าว เมื่อเห็นความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้
ตลาดทองคำฟื้นคืนกลับมาในช่วงปรับฐานราคาอีกครั้ง โดยทองคำมีช่วงจังหวะน่าเข้าซื้อที่ใกล้ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้แรงซื้อเข้ามาสนับสนุนพร้อมกับการเทขายทำกำไรของนักลงทุนที่เข้าคำสั่ง “ขาย” ไว้ก่อนหน้า ซึ่งถ้าพิจารณาจากกรอบรายวันที่เราพบเจอรูปแบบของ Harmonic pattern “Gartley” นั้น ถ้าไม่เสียสมดุลที่ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับราคาขึ้นจากแนวดังกล่าวได้ ตามรูปแบบที่ควรจะเป็น แต่เนื่องจากการปรับฐานระยะสั้นยังคงมีอุปสรรคจำกัด
ในส่วนของทองคำนั้นหากพิจารณาจากกรอบรายวัน โอกาสที่ยังมองเห็นถึงการกลับมาของตลาดกระทิง (Bullish) นั้นยังต้องดูว่าระดับ 1,780 จะรับราคาสุดท้ายไว้ได้หรือไม่ (เกิดแนวรับที่ฟอร์ม harmonic pattern gartley) ถ้าทองคำสามารถทรงตัวได้ที่แนวทางดังกล่าว (Day) เราก็ยังพอจะมีลุ้นว่าทองคำอาจมีแรงซื้อระยะสั้นเข้าหนุนตลาดในจังหวะที่ราคาทองคำปรับตัวต่ำเช่นนี้ มันเป็นโอกาสของการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ในตอนที่ดอลลาร์กำลังเข้าช่วงการปรับฐานราคาในระดับ 104-103 ตรงนี้เราอาจมองประเด็นการเข้าซื้อในระยะสั้นได้เช่นกัน โดยประเมินแนวต้านไว้ดังนี้ 1891, 1925, 1960 และ 2001 ตามลำดับ
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.32% ปิดที่ระดับ 1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ตลาดทองคำฟื้นคืนกลับมาในช่วงปรับฐานราคาอีกครั้ง โดยทองคำมีช่วงจังหวะน่าเข้าซื้อที่ใกล้ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้แรงซื้อเข้ามาสนับสนุนพร้อมกับการเทขายทำกำไรของนักลงทุนที่เข้าคำสั่ง “ขาย” ไว้ก่อนหน้า ซึ่งถ้าพิจารณาจากกรอบรายวันที่เราพบเจอรูปแบบของ Harmonic pattern “Gartley” นั้น ถ้าไม่เสียสมดุลที่ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับราคาขึ้นจากแนวดังกล่าวได้ ตามรูปแบบที่ควรจะเป็น แต่เนื่องจากการปรับฐานระยะสั้นยังคงมีอุปสรรคจำกัดในกรอบรายวันเรายังคงเห็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (Simple Moving Average 200) อยู่เหนือระดับราคาที่บริเวณ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเป็นเหตุผลที่ทองคำปรับขึ้นได้เพียงระยะสั้นในรอบแรก ก่อนที่จะปรับตัวย่อได้ต่อ ฉะนั้นนักลงทุนควรให้ความสำคัญแนวต้านบริเวณ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไว้ก่อน หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านในบริเวณดังกล่าวได้ นักลงทุนอาจตัดสินใจซื้อขายได้จากบริเวณดังกล่าว แนะนำให้ติดตามแนวต้านนั้นไว้
สำหรับกรอบรายชั่วโมงผู้ลงทุนระยะสั้น ไม่ควรเข้าซื้อขายระยะกลางหรือยาวในเวลานี้ เนื่องจากดอลลาร์ยังคงมีความผันผวนในระยะสั้น ซึ่งผมประเมินไว้ว่าดอลลาร์พยายามจะปรับขึ้นเหนือ 104 เพื่อเข้าสู่ระดับ 105 ตรงนี้จึงยังคงเป็นแรงกดดันต่อเนื่องที่อาจทำให้ทองคำอาจมีการปรับร่วงมาทดสอบแนวรับ 1780 ได้อีกครั้ง หากแนวทางนี้ปรากฎก็ให้นักลงทุนได้เตรียมการวางแผนล่วงหน้าเพื่อหาทางออกในการเข้าทำกำไรให้เกิดประโยชน์กับพอร์ตของนักลงทุนให้ได้มากที่สุด สำหรับช่วงเช้ามืดวันนี้ราคาทองคำปรับฟื้นจนหลุดแนวต้าน 1820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังขยับไม่ได้เกินจากระดับ 1829-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์สำหรับกรอบรายชั่วโมง อาจมีช่วงปรับฐานย่อตัวเกิดขึ้นได้ จึงควรระมัดระวังแนวทางดังกล่าวไว้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1829-1840 ขึ้นไปได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านััน พิจารณาทำกำไรหากราคาทองคำปรับย่อลงมาไม่เกินแนวรับ 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ก็ให้ปิดการทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับสูงกว่า 1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับทรงตัวได้ในบริเวณ 1820-1822 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้าน 1834-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1820 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1842 / 1891 / 1925
-------------------------------------------
Support : 1780 / 1701 / 1600
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1829 / 1834 / 1840
-------------------------------------------
Support : 1822 / 1810 / 1799
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -2.61 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,053.28 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,823.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 10
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -41.27 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2565 ทองคำนิวยอร์กวันศุกร์ที่ผ่านมาร่วงใกล้หลุด 1,810-1,800 ดอลลาร์
ตลาดทองคำนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากการแข็งค่าของดอลลาร์เหนือ 104 ทำให้ทองคำอยู่ในภาวะกดดันราคาลงจนหลุดระดับคาดการณ์ไว้หลายจุดด้วยกัน จนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ระดับ 1,797.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวันทองคำสามารถรีบาวน์กลับมายืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งโดยปิดระดับ 1808.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้การอ่อนค่าของทองคำยังคงอาจมีต่อเนื่องอีกสักระยะ เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้ความสำคัญต่อดอลลาร์ จากการที่ตลาดหุ้นร่วงติดต่อกัน และ Bitcoin ที่โดนโจมตีจนเกิดความเสียหายอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาถือครองดอลลาร์กันไว้ก่อนในระยะนี้ เพราะปัจจัยเร่งเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคงเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจเข้าซื้อดอลลาร์ของนักลงทุนในเวลานี้ ซึ่งส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าดอลลาร์จะปรับแข็งค่าไปไกลมากนัก เพราะยังงัยระบบกลไกควบคุมค่าเงินก็ยังคงต้องนำออกมาใช้อยู่ดี แต่จะจบลงและเหมาะสมที่ตรงไหน นั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องเฝ้ารอและหาคำตอบกันในประเด็นนี้
ในส่วนของทองคำนั้นหากพิจารณาจากกรอบรายวัน โอกาสที่ยังมองเห็นถึงการกลับมาของตลาดกระทิง (Bullish) นั้นยังต้องดูว่าระดับ 1,780 จะรับราคาสุดท้ายไว้ได้หรือไม่ (เกิดแนวรับที่ฟอร์ม harmonic pattern gartley) ถ้าทองคำสามารถทรงตัวได้ที่แนวทางดังกล่าว (Day) เราก็ยังพอจะมีลุ้นว่าทองคำอาจมีแรงซื้อระยะสั้นเข้าหนุนตลาดในจังหวะที่ราคาทองคำปรับตัวต่ำเช่นนี้ มันเป็นโอกาสของการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ในตอนที่ดอลลาร์กำลังเข้าช่วงการปรับฐานราคาในระดับ 104-103 ตรงนี้เราอาจมองประเด็นการเข้าซื้อในระยะสั้นได้เช่นกัน โดยประเมินแนวต้านไว้ดังนี้ 1891, 1925, 1960 และ 2001 ตามลำดับ
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลง 10.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.58% ปิดที่ระดับ 1,808.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
สำหรับทองคำในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้คาดทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบมากกว่า เนื่องจากตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐไม่มีรายงานในวันดังกล่าว โดยประเมินว่าหากราคาทองคำกรอบระยะสั้น (รายชั่วโมง) ยังไม่สามารถวิ่งขึ้นเหนือระดับ 1820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเกิดการเทขายทองคำระยะสั้นออกมาอีกรอบประเมินแนวรับที่บริเวณ 1799 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับกรอบรายวันจากที่ได้เกิด pattern ของ harmonic pattern gartley ขึ้นนั้น นักลงทุนสามารถเฝ้ารอติดตามเข้าซื้อทองคำได้ในช่วงเวลานี้ โดยเป้าหมายที่ควรจับตามองคือระดับแนวรับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าไม่หลุดในแนวรับดังกล่าว แนะนำให้เข้าซื้อทองคำในระดับดังกล่าวเพื่อการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นในรอบ
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1817-1821 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้น้้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ในบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาเป้าหมายกำไรที่แนวรับ 1798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1821 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้ที่บริเวณ 1798-1799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาเป้าหมายแนวต้าน 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1798 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1842 / 1891 / 1925
-------------------------------------------
Support : 1780 / 1701 / 1600
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1822 / 1834 / 1840
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1799 / 1792
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -4.93
คงถือสุทธิ = 1,055.89 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,810.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 9
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -38.66 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 ทองคำนิวยอร์กยังปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี เหตุเดิมดอลลาร์แข็งค่า
ทองคำนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ยังปรับร่วงลงจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยหลักๆ ก็คงเป็นความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เห็นได้ว่า FedWatch tool ได้ชี้ว่านักลงทุนเชื่อมั่น 100% ว่าเฟดจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ในเดือนมิ.ย. และ ก.ค. ทำให้ดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องสลับช่วงปรับฐานสั้น ทำให้ทองคำเจอแรงกดดันตลอดเวลา แม้ระหว่างวันอาจมีการปรับขึ้นได้บ้างของราคาทองคำ แต่ก็ไม่อาจปรับขึ้นจากแรงซื้อระยะยาว เพียงมีแต่การกทำกำไรระยะสั้นๆ ตามการทดสอบแนวรับและแนวต้านสำคัญๆ
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลง 29.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1.57% ปิดที่ระดับ 1,824.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้พิจารณาในกรอบรายวันกันก่อน กรอบรายวันตอนนี้ทางเทคนิคเราได้เห็นรูปแบบของ Gartley Pattern เกิดขึ้นมาโดยหากพิจารณาตามหลักการของรูปแบบดังกล่าวช่วงโอกาสในการเข้าซื้อประเมินไว้ที่ระดับ 1800-1809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป้าหมายราคาระดับช่วงแนวต้านบริเวณที่ 1 ระหว่าง 1977-1998 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านบริเวณที่ 2 ระหว่าง 2048-2071 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำจะกลับไปเหนือระดับ 1900 แล้วทดสอบบริเวณ 2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่นั้น หากพิจารณาตามเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน โอกาสที่จะเป็นก็มีความเป็นไปได้ ไม่ว่าความไม่แน่นอนจากสงครามที่อาจส่อเค้าขยายวงกว้างขึ้น และเหตุการแพร่ระบาดโควิดที่พบเป็นรายแรกที่เกาหลีเหนือ และที่จะไม่กล่าวถึงเลยไม่ได้คือภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงทั่วโลกขณะนี้ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่จะมีการเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยรุนแรงขึ้น โดยคาดว่าจะปรับที่ระดับ 0.50% ในอีกสองครั้งที่จะมีการประชุมต่อจากนี้ จึงคงเป็นเหตุผลให้เกิดความผันผวนต่อราคาทองคำตลอดเวลา ปกติแล้วผมจะเป็นคนที่ชอบหารูปแบบของ Harmonic ในการตัดสินใจวางแผนการเทรดในกรอบรายวันเป็นหลัก ซึ่งจากรูปแบบนี้ถ้าประเมินกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ผมมีความเชื่อลึกๆ ว่าเรื่องการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลไกระยะสั้น ผมไม่เชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าสูงสุดที่เป็นอยู่ขณะนี้ได้ยาวเกินไป เพราะก็จะไม่ส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ค้าส่งออกของสหรัฐฯ โดยเฉพาะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากภาวะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่มีเรื่องพลังงานเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเรื่องต้นๆ ชาติยุโรปก็คงตัดสินใจซื้อพลังงานราคาแพงจากสหรัฐฯ ได้ลำบากมากขึ้น ยิ่งค่าดอลลาร์แข็งค่าเช่นนี้ก็จะส่งผลต่อราคาพลังงานที่จะนำเข้าจากสหรัฐฯ โดยตรงอยู่แล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเหตุให้ติดตามได้ตลอดเวลาจริงๆ ประเมินสำหรับกรอบรายวันนั้น ถ้าหากรูปของ Harmonic (Gartley) ที่เปิดขึ้นไม่เสียทรง คาดว่าถ้าไม่หลุด 1800-1809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ถ้าพิจารณาส่วนย่อยนั้นเรายังคงเห็นอุปสรรคจากแรงซื้อที่ยังไม่สูงพอเท่าไหร่นัก เมื่อพิจารณาจากเส้น SMA50 ที่บริเวณ 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะเป็นอุปสรรคพอสมควรที่จะทำให้ราคาทองคำฟื้นคืนตัวกลับไปได้อีกอย่างมั่นคงเหนือระดับ 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ต้องเฝ้าติดตามหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปได้จริง และเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1829-1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากแนวบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรในกรอบแนวรับตั้งแต่ 1822-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำทรงตัวเหนือแนวรับบริเวณ 1822-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากแนวบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก ให้พิจารณาปิดทำกำไรในกรอบแนวต้านบริเวณ 1840-1835 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1842 / 1891 / 1925
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1829 / 1834 / 1840
-------------------------------------------
Support : 1822 / 1810 / 1799
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -5.80
คงถือสุทธิ = 1,060.82 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,821.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 8
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -33.73 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565 ทองคำยังปรับร่วงต่อเนื่องปัจจัยกดดันจากดอลลาร์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก
ช่วงนี้จะได้ยินบ่อยๆ ถึงอาการเบื่อทองคำจากความผันผวนที่กดดันทองคำตลอดเวลา แต่ผมกลับมองว่านี้คือโอกาสที่จะทำให้เราสามารถหาช่องทางการลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ ดีกว่านิ่งๆ หรือเป็นเทรนด์ยาวๆ เพราะสายสั้นจะมีโอกาสน้อยกว่าสายยาว สำหรับทองคำเมื่อมองกันที่ภาวะตลาดตอนนี้คงไม่หนีหายจากแรงกดดันจากดอลลาร์เป็นเหตุผลหลักๆ โดยตลาดทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ในวันอังคารที่ผ่านมา เหตุความกังวลที่เกี่ยวกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่คาดว่าจะปรับรุนแรงขึ้นอีก จึงยังเป็นปัจจัยเร่งดอลลาร์ให้ขยับขึ้นในช่วงนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบในเดือนมิถุนายน ได้ปรับตัวลดลง 17.6 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ระดับ 1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทางฝั่งของ FedWatch Tool ได้บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งได้เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% ของเดือนที่แล้ว นักลงทุนได้เฝ้าติดตามรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐประจำเดือนเมษายน ในวันนี้เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ให้การคาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคอาจมีการปรับตัวขึ้น 8.1% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบกับรายปี
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทางด้านเทคนิคการเทรดนั้น เรายังมองที่กรอบใหญ่เนื่องจากการปรับฐานในกรอบรายวันค่อนข้างชัดเจน จากที่ราคาทองคำได้มีความพยายามปรับตัวลงทดสอบเส้น SMA200 วันแถวๆ แนวบริเวณ 1,842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ในระยะสั้นอาจมีความผันผวนได้ในแนวบริเวณดังกล่าว แต่ปัจจัยเร่งอื่นๆ ก็คงเป็นประเด็นที่ทำให้เรายังไม่ฟันธง 100% จากการแข็งค่าของดอลลาร์ยังคงเป็นอุปสรรคที่ทองคำจะปรับฟื้นตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว แนะนำสำหรับคนเล่นช่วงสั้นอาจหาจังหวะได้จากบริเวณดังกล่าว ในกรณีที่เส้น SMA200 วันรองรับราคาไม่ได้ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,813 และ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ สำหรับในกรอบรายชั่วโมงนาทีนี้คงไม่มีอะไรที่จะลงเล่นได้แบบเข้าตลาดอย่าอยู่ให้นาน เพราะดูจะปลอดภัยมากกว่าสำหรับการเล่นช่วงนี้ สำหรับรายชั่วโมงวันนี้ถ้าหากราคาทองคำยังไม่ขยับสูงกว่า 1,846-1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีการเทขายทำกำไรอีกครั้ง แนวรับติดตามวันนี้คือ 1,842-1,838 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,846-1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1,842-1,838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดต่ำกว่าให้เลื่อนการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน พิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1,813 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1846 / 1855 / 1862
-------------------------------------------
Support : 1832 / 1818 / 1809
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = N
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -7.25
คงถือสุทธิ = 1,068.65 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,838.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -25.90 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2565 ทองคำวานนี้ปรับตัวลดลง หลังดอลลาร์และบอนด์กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ตลาดทองคำนิวยอร์กกลับมาปรับตัวลดลงอีกครั้งเมื่อวานนี้ทำให้ราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคำได้พยายามปรับขึ้นทดสอบ 1905 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่ก็ไม่สามารถประคองราคาได้ที่แนวดังกล่าว จนช่วงค่ำราคาทองคำก็ปรับตัวต่ำลงมาอีกรอบจากการฟื้นต้วของสกุลเงินดอลลาร์กับพันธบัตรรัฐบาลสหรับอายุ 10 ปี
ส่วนหนึ่งจาการเทขายทองคำวานนี้ก็มาจากการเก็งกำไรระยะสั้นของนักลงทุนเมื่อช่วงที่เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยไป 0.50% ซึ่งทองคำก็เคลื่อนไหวมาในจุดที่เป็นการซื้อขายมากเกินไป (Overbought) ทำให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายเพื่อทำกำไรระยะสั้นกันออกมา จึงคงเป็นส่วนที่เป็นเหตุผลหลักๆ ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของการคาดการณ์การปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบต่อไป (มิ.ย.) นักลงทุนได้คาดการณ์กันไว้แล้วว่า เฟดอาจจำต้องปรับถึงระดับ 0.75% ซึ่งเป็นการปรับที่สูงมาก ส่งผลให้ดอลลาร์เวลานี้มีความผันผวนพอสมควร
แต่ทั้งนี้สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และการแพร่ระบาดไวรัสโควิดโอมิครอนในจีน ยังคงเป็นประเด็นรักษาระดับของราคาของทองคำไว้เช่นกัน ถ้าเราพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่สำคัญๆ ตอนนี้เกี่ยวกับการกดดันราคาทองคำนั้นๆ หลักเรามองไปที่สงครามการเงินระหว่างประเทศที่หลายฝ่ายหลายประเทศเริ่มช่วงชิงท่าทีต่อเงินสกุลของตนเองมากขึ้น รวมถึงภาวะสงครามการท่องเที่ยงที่เริ่มเกิดการแย่งชิงนักท่องเที่ยวอย่างดุเดือด ทำให้ความผันผวนเวลานี้ไปอยู่ที่ระบบเงินตราระหว่างประเทศ หนึ่งในนั้นก็คงเป็นสกุลเงินดอลลาร์ที่เป็นปัจจัยหลักๆ ต่อความผันผวนของทองคำนั่นเอง
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทางเทคนิดกรอบรายวันเรายังคงเห็นการเคลื่อนตัวราคาปรับลดลงต่ำเพื่อทดสอบเป้าหมายเดิม แม้ก่อนหน้าราคาจะปรับขึ้นไปทีระดับ 1,900 แต่ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าเป็นการปรับขึ้นเพื่อทำกำไรระยะสั้นออกมาก หากเราวัดแนวรับที่ระดับ 1842 ดอลลาร์ก็ยังพอเห็นเหตุผลตรงบริเวณนั้นถึงความสำคัญ ว่าทองคำในระยะรายวันนั้นจะหลุดขาขึ้นโดยสมบูรณ์ไม่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเราวัดเส้น SMA200 วันพาดผ่านแนวบริเวณนั้นเช่นกัน หากทองคำยังสามารถพิสูจน์ได้ว่านักลงทุนยังให้ความสำคัญถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ที่กำลังเป็นอยู่ เราอาจจะได้เห็นการฟื้นตัวกลับคืนจากแนวดังกล่าวได้ ก็ให้ติดตามจากแนวบริเวณนี้ในแผนการเทรดด้วย
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1866-1863 ดอลลาร์ต่อออนซ์เราอาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากแนวดังกล่า่ว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรแนวต้านบริเวณ 1886-1895 ดอลลสาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1863 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1880-1887 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรแนวรับบริเวณ 1,866-1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านแนวรับบริเวณนี้ลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,887 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1880 / 1887 / 1896
-------------------------------------------
Support : 1872 / 1863 / 1850
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Up trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -4.06
คงถือสุทธิ = 1,084.98 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,877 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 3
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -9.57 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2565 ดอลลาร์-บอนด์ยังพุ่งกดดันทองคำไม่หยุด
ตลาดทองคำนิวยอร์กยังปรับตัวลดลงในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยตลาดยังคงถูกแรงกดดันจาการแข็งค่าของดอลลาร์และบอดน์ยีลด์ โดยหลักๆ แรงกดดันยังคงมาจากการที่นักลงทุนมีคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.5% ในการประชุมระหว่างวันที่ 3-4 พ.ค.นี้
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 3% ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะขยับกลับมาสู่ระดับ 2.99% ฝั่งของดัชนีดอลลาร์ก็ปรับพุ่งขึ้น 0.76% แตะระดับ 103.74 เมื่อคืนนี้เช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย ปรับลดลง 48.1 ดอลลาร์ หรือ -2.52% ปิดที่ 1,863.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
จากที่ได้ประเมินไปก่อนหน้านั้น ทองคำหากพิจารณาในกรอบรายวันเรายังคงเห็นเป้าหมายราคากำลังลงไปทดสอบที่ระดับ 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งก็เป็นแนวเส้น SMA200 วันเคลื่อนไหวในแนวดังกล่าว หากราคาทองคำทดสอบแนวดังกล่าวแล้วทรงตัวได้ เราอาจเห็นการฟื้นตัวของทองคำได้จากบริเวณดังกล่าว จึงแนะนำให้นักลงทุนเฝ้าติดตาม ในทางปัจจัยกดดันอื่นๆ นั้นก็คงจะหลีกไม่พ้นเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่มีขึ้นในวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2565 นี้ คาดว่าเฟดจะปรับมากถึง 0.5% ตรงนี้จะเป็นผลกดดันทองคำให้ร่วงลงได้่เช่นกัน แต่เนื่องจากระดับ 1842 จะเป็นแนวที่นักลงทุนอาจเฝ้าติดตามและรอเข้าซื้อเพื่อทำกำไรช่วงสั้นๆ ก็อาจส่งผลให้ทองคำอาจไม่ร่วงลงไปมากนัก แต่หาก 1842 ไม่สามารถรองรับแรงได้นั้น โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวลงไปต่ำกว่า 1800 ดอลลาร์ก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน ประเมินแนวรับกรอบรายวันถัดไปที่ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับสายลงทุนรายชั่วโมง (เล่นสั้น H1-H4)
เฝ้าติดตามระดับ 1854 ดอลลาร์ต่อออนซ์ว่าสามารถรองรับการทดสอบราคาได้หรือไม่ หากราคาสามารถรองรับได้ในแนวดังกล่าวเราจะเห็นการเคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นระยะสั้นได้ โดยเป้าหมายปรับขึ้นประเมินแนว 1870-1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านแนวนี้ก็มีโอกาสที่จะปรับร่วงต่อได้เช่นกัน สำหรับกรณีที่ 1854 ไม่สามารถรองรับราคาได้ เราประเมินว่าทองคำอาจลงไปได้ระยะแรกที่ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวในระดับ 1854-1839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราอาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากแนวบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1870-1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1854-1839 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำบริเวณ 1870-1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแน้วต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1854-1839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1870 / 1879 / 1895
-------------------------------------------
Support : 1854 / 1839 / 1830
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Up trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -2.32
คงถือสุทธิ = 1,092.23 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,862.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 1
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -2.32 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 26 เมษายน 2565 สัญญาทองคำปิดร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนในวันจันทร์ที่ผ่านมา
ตลาดทองคำนิวยอร์กยังปรับตัวลดลงจากภาวะการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกิดจากการคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อในระบบอย่างรุนแรง คงเป็นปัจจัยกดดันทองคำโดยตรงในเวลานี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย ปรับลดลง 38.3 ดอลลาร์ หรือ -1.98% ปิดที่ 1,896 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 25 ก.พ. 65
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำกรอบรายวัน (DAY) ยังคงทดสอบราคาที่แนวรับเดิมบริเวณ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากแนวรับดังกล่าวถูกทลายลง ทองคำยังมีโอกาสปรับลดลงต่อเนื่อง เป้าหมายประเมินหากแนวรับ 1891 ทลายลงนั้นคือ 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในทางตรงกันข้ามกันหากแนวรับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สามารถรองรับราคาทองคำได้อีกครั้ง โอกาสที่ทองคำจะปรับราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1900 ก็ยังคงความเป็นไปได้อยู่ สำหรับการพิจารณาระยะสั้นในกรอบรายชั่วโมง (H1) เช้านี้เรายังเห็นการฟื้นตัวของราคาทองคำกลับมายืนเหนือ 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากวันนี้ทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1923-1917 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็จะมีโอกาสที่นักลงทุนอาจเข้าทำการเทขายทองคำกันอีกรอบ ก็ยังประเมินเป้าหมายสำคัญของวันที่ระดับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป เนื่องจากเป็นเป้าหมายรับเดียวกับกรอบรายวัน จึงให้ระมัดระวังในแนวดังกล่าว หากนักลงทุนตัดสินใจเข้าทำการซื้อทองคำจากบริเวณดังกล่าว
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือระดับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายพิจารณาปิดทำกำไรระยะสั้นแนวต้านบริเวณ 1923-1917 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1923-1917 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนอาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1891-1866 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1923 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1925 / 1960 / 2002
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1916 / 1932 / 1945
-------------------------------------------
Support : 1891 / 1866/ 1850
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Up trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -2.90
คงถือสุทธิ = 1,101.23 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,898.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 12
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +9.79 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 ทองคำปิดตลาดเช้าวันเสาร์ปรับร่วงลง 1.4% เหตุดอลลาร์และบอนด์ย้งแข็งแกร่ง
ตลาดทองคำนิวยอร์กร่วงลง 1.4% เหตุจากการแข็งค่าของดอลลาร์และบอนด์ยังเป็นปัจจัยหลักๆ ที่กดดันราคาทองคำ ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรหรือ NFP เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 490,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานได้ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% ขณะเดียวกันตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงสถาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน โดยตัวเลขการจ้างงานเฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.4% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ข้อมูลที่ออกมาดังกล่าวจึงยังส่งผลต่อความคาดหวังว่าเฟดอาจจะมีการปรับดอกเบี้ยที่รุนแรงในการประชุมครั้งต่อไป จึงทำให้ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเป็นเหตุให้กดดันราคาทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย ปรับลดลง 30.3 ดอลลาร์ หรือ -1.55% ปิดที่ 1,923.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 1.6% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำวันนี้ขอไปโฟกัสที่กรอบราย 4 ชั่วโมงก่อน โดยการเคลื่อนไหวในกรอบ H4 นั้นทองคำยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยประเมินราคาทองคำหากยังไม่หลุดแนวรับ 1895 ดอลลาร์ต่อออนซ์นั้น โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นไปได้นั้นก็ยังคงมีอยู่ เพราะหากพิจารณาเหตุผลประกอบระยะยาวนั้น ทางด้านเงินเฟ้อที่รุนแรงขณะนี้อาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำได้ แต่หากพิจารณาระยะสั้น ทองคำจะมีความผันผวนพอสมควร สำหรับกรอบรายชั่วโมงนั้นทองคำยังคงแกว่งตัวโดยวันนี้หากราคาทองคำไม่หลุดกรอบแนวรับระยะสั้น 1920-1913 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจทำให้ทองคำขยับตัวขึ้นได้ระยะสั้นๆ ที่แนว 1926-1935 ดอลลาร์ต่อออนซ์
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) RSI ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวบวก และตัดกับ SMA20 ขึ้นไป
เส้น SMA200 ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางแนวระนาบ
เส้น SMA 50 ปรับตัวลดลงห่างจากเส้น SMA200 วัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1930-1935 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณ 1920-1913 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำลงไปไม่ทะลุแนวนี้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1935 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1920-1913 ดอลลาร์ต่อออนซ์และสามารถทรงตัวในบริเวณดังกล่าวได้ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณ 1930-1935 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1913 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1960 / 2002 / 2070
-------------------------------------------
Support : 1891 / 1842 / 1813
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1927 / 1936 / 1950
-------------------------------------------
Support : 1920 / 1913/ 1903
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Up trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่ม 0.29 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,091.73 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1924.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 1
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +0.28 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 2565 ตลาดทองคำยังผันผวนตลอดเวลาหลังเจรจารัสเซียยูเครนยังไม่ชัดเชน
ตลาดทองคำนิวยอร์กวานนี้ปิดบวก 21 ดอลลาร์ ภายหลังดอลลาร์และบอนด์ฯ อ่อนค่าลงจึงเป็แรงหนุนทางครับให้กลับไปใกล้กับ 1940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยระหว่างวันราคาทองคำทำจุดสูงสุดที่ระดับ1938.35 ดอลลาร์ต่ออนซ์ เป็นสัญญาณบวกอีกครั้งหลังทองคำปรับตัวลงต่ำสุดในรอบเดือนมีนาคาที่ระดับ 1889.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้แรงสนับสนุนการเข้าซื้อทองคำเมื่อวานนี้เกิดจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาของรัสเซียและยูเครนที่จะมีการทำข้อตกลงหยุดยิง หลังรัสเซียได้ออกมาแถลงว่าจะมีการลดกิจกรรมทางการทหารลง แต่เมื่อวานนี้รัสเซียก็ยังมีการถล่มยูเครนอย่างหนัก ซึ่งสวนทางกับคำพูดของรัสเซีย ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อไปในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะความอ่อนไหวในเรื่องพลังงานที่ชาติตะวันตกยังต้องเผชิญอยู่ขณะนี้ นี่ยังคงเป็นเหตุให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำกลับมาอีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย ปรับเพิ่มขึ้น 21 ดอลลาร์ หรือ +1.09% ปิดที่ 1,939 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำระยะนี้ต้องพิจารณาจากกรอบ 4 ชั่วโมงเป็นหลักเพราะจะสามารถมองหาโอกาสในระยะกลางและสั้นได้ดีกว่ากรอบ 1 ชั่วโมง สำหรับแนวราคาที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าทองคำจะปรับฟื้นคืนตัวได้นั้นราคาทองคำต้องปรับขึ้นเหนือระดับ 1940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อน จึงจะมีโอกาสที่ทองคำจะเคลื่อนไหวในฝั่งแดนบวกได้อีกสักระยะ แต่เนื่องจากนักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลข NFP ในวันศุกร์นี้ อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ราคาทองคำยังผันผวนในกรอบแคบๆ ประเมินทางเทคนิควันนี้หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือระดับ 1920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำอาจแกว่งตัวในช่วงระหว่าง 1940-1920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ให้ติดตามสถานการณ์ทางรัสเซียกับยูเครนจะเป็นปัจจัยหลักๆ ที่จะทำให้ทองคำสามารถดีดตัวพุ่ง หรือทิ้งตัวดิ่งได้ตลอดเวลานอกจากปัจจัยอื่นๆ ในระยะนี้
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) RSI ยังเคลื่อนไหวในแดนบวกเหนือระดับ 50 ส่วน SMA20 ก็เคลื่อนไหวในแดนบวกเช่นกัน
เส้น SMA200 ปรับตัวฟื้นขึ้นมาเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในลักษณะแนวระนาบ
เส้น SMA 50 ปรับฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยตามการเคลื่อนไหวราคาที่ปรับตัวขึ้นไปยืนเหนืออีกครั้ง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1938-1942 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณ 1927-1920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำลงไปไม่ทะลุแนวนี้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1942 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1920-1914 ดอลลาร์ต่อออนซ์และสามารถทรงตัวในบริเวณดังกล่าวได้ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณ 1940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1914 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1960 / 2002 / 2070
-------------------------------------------
Support : 1891 / 1842 / 1813
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1938 / 1950 / 1957
-------------------------------------------
Support : 1920 / 1914/ 1908
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = N
Time Frame Day = Up trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
คงถือสุทธิ = 1,091.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1919.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 17
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +64.45 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 30 มีนาคม 2565 ทองคำปิดร่วง 26.70 ดอลลาร์หลังมีรายงานเจรจารัสเซีย-ยูเครนมีความคืบหน้า
ตลาดทองคำยังถูกเทขายออกมาหนักอีกหนึ่งวันจนทำให้ทองคำปรับหลุด 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ที่สุดก็มีแรงซื้อกลับมาอีกครั้งผยุงราคาคทองให้กลับมายืนเหนือ 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ ตลาดทองคำยังคงต้องเผชิญความผันผวนอีกต่อไปในระยะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินเฟ้อที่อาจเป็นตัวเร่งให้เฟดปรับดอกเบี้ยที่รุนแรงมากกว่า 2 ครั้งในปีนี้ หรือจะเรื่องความคืบหน้าการเจรจาของรัสเซียและยูเครนเพื่อยุติสงครามที่เกิดขึ้นขณะนี้ และภาวะอุปสงค์ชะลอตัว จากการล็อคดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ประเทศจีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย ปรับลด 26.70 ดอลลาร์ หรือ -1.37% ปิดที่ 1,918 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้เราขอพิจารณาในกรอบรายวันเป็นส่วนสำคัญ เพราะเนื่องจากกรอบรายวันกำลังการเคลื่อนตัวมากขึ้นจากแรงสะสมที่มีอยู่มาพักหนึ่งแล้วในบริเวณแนวราคา 1925 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากวันนี้ราคาทองคำในกรอบรายวันยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น โอกาสที่ทองคำจะถูกเทขายก็ยังได้ในทางเทคนิค โดยยังคงมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับในกรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น) พิจารณากรอบแนวต้านบริเวณ 1924-1933 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น อาจมีการเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมา นักลงทุนระยะสั้นจึงควรให้ความสำคัญในแนวบริเวณดังกล่าว
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) RSI ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 50 อีกครั้งหลังเส้น RSI เคลื่อนตัวต่ำกว่าระดับ Oversold เมื่อวานนี้ โดยพื้นที่ที่เหลืออยู่ระหว่าง 50-70 ยังพอจะทำให้ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวทางเทคนิคปรับขึ้นได้ในระยะสั้น
เส้น SMA200 เริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อย
เส้น SMA 50 ตัดกับเส้น 200 วันลงมา
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1925-1933 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากแนวต้านดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1900-1889 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำสูงกว่า 1933 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาทรงตัวเหนือบริเวณ 1889-1877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1910-1918 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำต่ำกว่า 1877 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1960 / 2002 / 2070
-------------------------------------------
Support : 1891 / 1842 / 1813
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1924 / 1933 / 1950
-------------------------------------------
Support : 1910 / 1902/ 1890
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Up trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -1.74 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,091.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1919.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 17
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +64.45 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 29 มีนาคม 2565 ทองคำปิดร่วง 14.40 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ คาดเจรจารัสเซีย-ยูเครนมีความคืบหน้า
ตลาดทองคำวันจันทร์ปิดตลาดลดลง 14.40 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ของรัสเซียกับยูเครน ที่มีความคืบหน้าว่ามีโอกาสที่จะมีการตั้งโต๊ะเจรจาเพื่อยุติสงคราม และสิ่งที่เป็นผลให้ทองคำร่วงลงต่อเนื่องอีกประเด็นคือการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐ และการแข็งค่าของดอลลาร์ต่อเนื่อง จากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจนเป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจเข้ามาปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปที่ 0.50 BPS จึงสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐจะเกิดขึ้น
ดัชนีดอลลาร์เทียบกับ 6 สกุลเงินหลักเพิ่มขึ้น 0.31% แตะที่ระดับ 99.0920 การแข็งค่าดังกล่าวยังกดดันราคาทองคำต่อเนือง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลด 14.40 ดอลลาร์ หรือ -0.74% ปิดที่ 1,939.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ในกรอบรายวันเรายังเห็นการทรงตัวในระดับ 1925 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเส้น SMA50 ในกรอบรายวันยังคงมีลักษณะการยกตัว รวมถึง SMA200 วัน เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแรงซื้อสะสมที่ยังมีอยู่ในตลาดทองคำระยะยาว เนื่องจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ยังไม่จบ รวมถึงโควิดก็ยังไม่ได้หายไปจากโลกนี้ จึง ฉะนั้นในกรอบรายวันให้โฟกัสแนวรับระหว่าง 1925-1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับในกรอบรายชั่วโมง คาดว่าทองคำจะอ่อนตัวลงใกล้ๆ บริเวณ 1915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้เราเฝ้ารอการซื้อคืนทองคำเพื่อทำกำไรระยะสั้นจังหวะการปรับฐานที่บริเวณ 1915-1909 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากกรอบแนวรับดังกล่าวจะเป็นแนวรับสุดท้ายการที่ราคาทองคำจะปรับหลุด 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยถ้าราคายังทรงตัวเหนือระดับดังกล่าวได้ ก็ยังพอจะให้เราได้เห็นการปรับฟื้นในระยะสั้นได้อยู่ในขณะนี้
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) RSI ยังปรับตัวในแดนลบใกล้ระดับ LV40 ในส่วนของ SMA20 วันเริ่มส่งสัญญาณแรงซื้อระยะสั้นเข้ามา ถ้ามีแรงซื้อสะสมเข้ามาชัดเจน อาจเห็นการปรับขึ้นของราคาทองคำในวันนี้ในลักษณะการปรับฐานราคา
เส้น SMA200 เริ่มทรงตัวในแนวระนาบ
เส้น SMA 50 ปรับตัวโน้มลงเข้าใกล้เส้น 200 วัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นเหนือระดับ 1935-1941 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1925 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดไปได้ให้ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1915-1910 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำขึ้นเหนือ 1941 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวไม่หลุด 1915-1910 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” จากแนวบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ แนวต้าน 1940-1935 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1910 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance :1960 / 2002 / 2070
-------------------------------------------
Support : 1891 / 1842 / 1813
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1934 / 1945 / 1950
-------------------------------------------
Support : 1915 / 1910/ 1905
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = -
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล
คงถือสุทธิ = 1,093.18 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1958.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 16
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +66.19 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 ทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับลบ 8 ดอลลาร์จากเหตุบอนด์กลับมากดดันราคาอีกครั้ง
ตลาดทองคำปิดตลาดช่วงเช้าวันเสาร์ของบ้านเราปรับตัวลดลง 8 ดอลลาร์ โดยเหตุผลการปรับตัวลงครั้งนี้ของทองคำคงมาจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่กดดันราคาทองคำลง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับขึ้นที่ระดับ 2.492% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่มีระดับสูง จนเป็นเหตุให้เฟดอาจตัดสินใจเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นรุนแรง จนอาจเป็นเหตุให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวได้
ในส่วนของคู่สงครามระหว่างรัสซเซียกับยูเครนก็ยังเป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐนำไปประเมินร่วมด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลด 8 ดอลลาร์ หรือ -0.41% ปิดที่ 1,954.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดหลังรัสเซียได้เปิดการยิงขีปนาวุธไปถล่มใกล้ๆ กับชายแดนระหว่างยูเครนกับโปแลนด์ในขณะที่นายโจ ไบเดนได้เยือนโปแลนด์ ก็ยังคงสร้างความตึงเครียดเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งหากมีการตอบโต้มาจากทางฝั่ง NATO ก็อาจจะเป็นสัญญาณถึงความรุนแรงที่อาจมีได้ในอนาคต แต่การปรับลดท่าทียุทธวิธีการโจมตีโดยมุ่งเน้นมายังภูมิภาคดอนบาสนั่น ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่อาจจะได้เห็นการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนในเร็ววันนี้ หากรัสเซียตัดสินใจถอยแผนการโจมตี
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ยังปรับทรงตัวเหนือระดับ 1945 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยคงยังมีแรงขายสนับสนุนอยู่ต่อเนื่อง จนอาจทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับดังกล่าวลงมาได้ แต่หากราคาทรงตัวได้ก็อาจมีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้กลับไปทดสอบที่ระดับ 1953 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในกรณีที่ราคาทองคำอาจถูกกดดันลงไปนั่นประเมินแนวรับถัดไประหว่าง 1958-1932 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวนี้อาจเป็นแนวในการเข้าซื้อคืนทองคำได้ ถ้าหากราคาไม่หลุดต่ำกว่าแนวดังกล่าวลงไป
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) RSI ยังคงปรับตัวลงต่ำเข้าใกล้ระดับ OVER SOLD
เส้น SMA200 เริ่มมีสัญญาณการปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย สะท้อนแรงซื้อสะสมเข้ามาบ้างส่วน
เส้น SMA 50 เริ่มทรงตัวแนวระนาบ ยังต้องเฝ้ารอดูแรงสนับสนุนว่าฝั่งไหนจะเข้ามามากกว่า
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือระดับ 1945-1938 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณากำไร 1953 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1938 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance :1974 / 2020 / 2048
-------------------------------------------
Support : 1928 / 1900 / 1877
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1953 / 1966 / 1979
-------------------------------------------
Support : 1938 / 1931/ 1922
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่มทองคำล่าสุด 5.52 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,093.18 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1958.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 16
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +66.19 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือการศึกษาพฤติกรรมของราคาในอดีตและปัจจุบัน เพื่อคาดการณ์ความน่าจะเป็นที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เก่าแก่ที่สุดคาดว่าน่าจะเป็นกราฟแท่งเทียน
#การเทรดด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือ การซื้อขายจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่เห็นปัจจุบันอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่การวิเคราะห์ในสิ่งที่ไม่มีอยู่หรือยังไม่เกิดขึ้น “Trader ที่เทรดด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่ จะไม่ดูข่าว จะไม่สนใจข่าว เพราะเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตลาดนั้นได้แสดงให้เห็นในกราฟราคาแล้ว”
-----------------------------
*** ไม่ใช่ หมอดู “ราคาจะขึ้นตอนไหน จะลงตอนไหนเราไม่รู้ …แต่เรารู้ว่าถ้าขึ้นเราจะทำยังไง ถ้าลงเราจะทำยังไง”
เป็นการหาความน่าจะเป็นเท่านั้น เราไม่สามารถสั่งกราฟหรือหาความแม่นได้ เช่นเดียวกับการที่เราสั่งฝนไม่ให้ตกหรือสั่งพระอาทิตย์ไม่ให้ส่องแสงไม่ได้ ...เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ 100% ถ้าเราควบคุมทุกอย่างได้ 100% …โลกนี้คงไม่มีคำว่า อุบัติเหตุ ***แต่สิ่งที่เราทำได้คือ ลดความเสี่ยง ลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ
#จุดประสงค์ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
…ทราบถึงระดับความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยง
…เพื่อให้การเทรดของเราไม่ใช่การพนัน
เมื่อเราทราบถึงระดับความเสี่ยงแล้วเนี่ย การวางแผนเทรดของเราก็จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
// พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้มั่ว ไม่ได้เดา
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
นักเทรดทั้งหลาย อย่าไปเข้าใจว่าเราสามารถหาความแม่นในตลาดได้
ถ้าหาความแม่นในตลาดได้จริง คงไม่มีคำว่า “Black Swan”
นอกจากบุญกับบาป ก็หาไม่มีแล้วที่เที่ยงแท้แน่นอน
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2565 รัสเซีย-ยูเครนวิกฤตหนักกลับมาหนุนแรงซื้อทองคำอีกครั้ง
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดพุ่งกว่า 15.8 ดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนอีกครั้ง และที่ลืมกันไม่ได้คือเรื่องเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นยังสร้างแรงกดดันต่อระบบเศรษฐกิจโลกอย่างร้ายแรง จึงเป็นแรงหนุนทองคำได้ในเวลานี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ +0.82% ปิดที่ 1,937.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หลังการเจรจาสงบศึกระหว่างรัสเซียกับยูเครนล้มเหลว ไร้ความคืบหน้า โดยที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวว่า การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียกำลังเจอกับความยากลำบากต่อการเจรจามากยิ่งขึ้น ขณะที่กองทุน SPDR กองทุน ETF ทองคำขนาดใหญ่ของโลกได้มีการเพิ่มการถือครองทองคำในสัปดาห์นี้ขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2564
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ประเมินทางเทคนิคทองคำเช้านี้หากยังทรงตัวเหนือระดับ 1937 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ยังมีโอกาสที่ทองคำจะพยายามขึ้นไปทดสอบระดับ 1950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง โดยวันนี้ให้นักลงทุนเฝ้าติดตามระยะการย่อพักฐานในระดับ 1937-1929 แนวนี้อาจเป็นแนวซื้อคืนทองคำระยะสั้นได้ หากราคาทองคำยังคงมีแรงซื้อสนับสนุนต่อเนื่อง เพื่อให้ได้จุดที่สูงกว่า 1950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันนี้ แต่หากราคาทองคำไร้แรงซื้อที่มากพอ ก็อาจทำให้ราคาทองคำกลับตัวลงไปอยู่บริเวณ 1929-1916 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังถือว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกหลังปรับฐานลงมา ซึ่งหากแรงของบอนด์ปรับขึ้นก็อาจทำให้ทองคำถูกสกัดช่วงบวกราคาได้เช่นกัน ให้ติดตามภาวะการเคลื่อนไหวของบอนด์เป็นประเด็นสำคัญของวัน สิ่งสำคัญของวันนี้คือถ้าราคาไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา จึงควรระมัดระวังแนวต้านดังกล่าว
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) RSI ปรับตัวลงจากการปรับฐานราคาทองคำก่อนหน้า
เส้น SMA200 ยังปรับทิศทางราคาลง
เส้น SMA 50 ยกตัวเข้าหาเส้นค่าเฉลี่ยนระยะยาวมากขึ้น
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1937-1929 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นทำกำไรระยะสั้น พิจารณากรอบทำกำไรบริเวณ 1950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1929 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance :1974 / 2020 / 2048
-------------------------------------------
Support : 1900 / 19877 / 1854
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1950 / 1962 / 1970
-------------------------------------------
Support : 1937 / 1929/ 1922
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่มทองคำ 4.06 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,087.66 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1944.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 15
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +60.67 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 ทองคำยังปรับพุ่งขึ้นไม่เหน็ดเหนื่อย หลังเฟดปรับดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดเพิ่ม 34 ดอลลาร์หรือเกือบ 2% ในช่วงเช้ามืดวันนี้ หลักๆ การกลับมาเพิ่มขึ้นของทองคำนั้นมาจากเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ผ่านมาในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี ทำให้ดอลลาร์มีการอ่อนค่าลงต่อเนื่อง จากการปรับอัตราดอกเบี้ยที่ไม่รุนแรงอย่างที่นักลงทุนได้วิตกกังวลไว้ก่อนหน้านี้ว่าเฟดอาจปรับดอกเบี้ยแบบรุนแรงที่ระดับ 0.50% ได้ ทองคำก่อนหน้าจึงปรับร่วงลงจาการเทขายของนักลงทุนเพื่อเฝ้าติดตามเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อที่สุดธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดได้ตัดสินใจปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายออกมาที่ระดับ 0.25% ทำให้หลายคนคลายความกังวลลงไป
แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นก็คงจะเป็นเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ก็คงต้องติดตามรายงานของเดือนถัดไปที่เกี่ยวกับเรื่องเงินเฟ้อว่าจะมีตัวเลขตอบรับการการปรับดอกเบี้ยครั้งนี้ได้หรือไม่ ทองคำระหว่างนี้จึงยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับเรื่องของการติดตามการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพื่อหาข้อยุติในสงครามครั้งนี้ ว่าจะจบการเจรจากันอย่างไร
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับขึ้น 34 ดอลลาร์ หรือ 1.78% ปิดที่ 1,943.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
เช้านี้ทองคำปรับตัวลดลงในกรอบเวลา 1 ชม. หลังจากที่ได้ทำการเข้าทดสอบแนวต้านระดับ 1948-1958 และไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ เป็นเหตุให้ทองคำเช้านี้ปรับตัวลงต่ำจากการทำกำไรระยะสั้น โดยหากราคาทองคำยังไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 1928-1926 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเห็นการปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้ง โดยคงมีแนวต้านระยะสั้นแรกที่ระดับ 1938 และ 1948 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับแนวซื้อคืนในระหว่างวันนั้น เรายังประเมินแนวซื้อคืนที่ระดับแนวรับเดิมคือ 1915-1927 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ยังพอจะเป็นแนวรับว่าทองคำจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกหรือไม่
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) RSI ยังปรับตัวลดลงตามรอบจากการปรับฐานราคา
เส้น SMA200 ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง บอกถึงแรงขายระยะยาวยังไม่สะท้อนตลาดมาพอ
เส้น SMA 50 ปรับเพิ่มขึ้นในระยะสั้น โดยเส้นเข้าทดสอบราคาในช่วงเช้าวันนี้ ก็ต้องรอว่าราคาจะทดสอบระดับเส้นแล้วทรงตัวได้หรือไม่
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นแล้วไม่ผ่าน 1948-1958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้ในบริเวณนี้ พิจารณาทำกำไรระยะสั้นที่ 1938 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (แรงขายอาจลดลงหากทองคำปรับสูงขึ้นอีกครั้ง) ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1958 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาไม่เกินแนวรับ 1928-1926 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรแนวต้านบริเวณ 1948-1958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1926 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance :1974 / 2020 / 2048
-------------------------------------------
Support : 1900 / 19877 / 1854
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1939 / 1948 / 1958
-------------------------------------------
Support : 1926 / 1907 / 1887
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่มทองคำ 2.91 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,073.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1942.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 12
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +46.45 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 15 มีนาคม 2565 บอนด์กลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้งก่อนการประชุมเฟด เป็นเหตุกดดันราคาทองคำ
ทองคำร่วงลงหนักวานนี้จากการปรับพุ่งของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ก่อนจะเปิดฉากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคม 2565 ซึ่งคาดว่าเฟดจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% โดยราคาทองคำโดนกดดันจนทำให้หลุดต่ำกว่าระดับ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน นักลงทุนเองก็ได้แต่หวังว่าจะมีผลการเจรจาในทางที่ดีขึ้น ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปออกมาและได้มีการพักการเจรจาไปก่อน และจะมีการเจรจาใหม่ในรอบวันที่ 15 หรือวันนี้อีกครั้ง เพื่อให้รัสเซียยุติการโจมตีและถอนกำลังทหารออกไปก่อน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง 14.60 ดอลลาร์ หรือ -0.74% ปิดที่ 1,946.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ตอนนี้ทองคำเราต้องกลับไปพิจารณากรอบรายวันเป็นเส้นทางหลักการตัดสินใจเพื่อให้ได้เห็นระยะการเคลื่อนไหวคาดการณ์ในอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าระยะการเคลื่อนไหวของทองคำที่มีเป้าหมายในทางฝั่งตลาดหมีนั้นยังมีระยะทดสอบที่แนวรับระดับ 1932-1928 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นั่นหมายถึงถ้าราคายังมีการขายออกทองคำต่อเนื่องในเวลานี้ระดับเป้าหมายคาดการณ์ก็อยู่ในบริเวณดังกล่าวว่าจะสามารถรองรับราคาในอนาคตได้หรือไม่ แต่หากหลุดแนวบริเวณดังกล่าวนั้น ด่านสุดท้ายก็จะเป็นระดับ 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งจะเป็นแนวสุดท้ายสำหรับทิศทางขาขึ้นก่อนหน้า สำหรับในกรอบรายชั่วโมงสำหรับการเล่นสั้นตามแผนนั้น ก็ต้องเฝ้าว่าทองคำจะสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1939-1927 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งก็เป็นระดับใกล้เคียงกับรายวัน ในระยะสั้นหากราคาปรับฐานอาจเกิดขึ้นในบริเวณนี้ ซึ่งมีแนวต้านที่ระดับ 1950-1958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดวัดระดับว่าจะสามารถผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ สำหรับระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคม นี้อาจเกิดความผันผวนต่อราคาทองคำได้จึงควรระมัดระวังการลงทุนในช่วงวันเวลาดังกล่าว
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) เส้น RSI ปรับเข้าบริเวณ Over sold จึงอาจมีการปรับฐานราคาได้ในระดับนี้ เส้น SMA20 ก็ยังมีแรงขายออกชัดเจน
เส้น SMA200 เริ่มลดระดับการปรับตัวขึ้นและแสดงลักษณะการเคลื่อนไหวในระดับแนวราบ
เส้น SMA 50 ตัดกับเส้น SMA200 วันและยังเคลื่อนไหวลงสู่ด้านล่าง บอกแรงขายที่ยังมีอยู่ในตลาดตอนนี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1958-1970 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่ผ่านแนวดังกล่างให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณนี้ โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรที่บริเวณ 1939-1927 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1970 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับบริเวณ 1939-1927 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้เสี่ยงเปิดซื้อคืนทองคำได้จากแนวดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1958-1970 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1927 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance :1974 / 2020 / 2048
-------------------------------------------
Support : 1928 / 1900 / 1877
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1958 / 1970 / 1978
-------------------------------------------
Support : 1939 / 1927 / 1907
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีรายงานความเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 1,064.15 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1987.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 9
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +37.16 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 ทองคำยังปรับร่วงเหตุกังวลรัสเซียยูเครนและเงินเฟ้อยังกดดัน
ทองคำปรับร่วง 15.40 ดอลลาร์ หลังความกังวลกเกี่ยวกับรัสเซียและยูเครนยังไม่มีท่าทีว่าจะมีการยุติลง อีกทั้งดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.62% แตะที่ระดับ 99.1230 โดยที่นักวิเคราะห์ยังคงให้การคาดการว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ขณะที่เงินเฟ้อยังสะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนในเวลานี้ว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยจะสามารถหยุดการขึ้นของเงินเฟ้อได้
นักลงทุนเฝ้าติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 15-16 มีนาคม นี้เพื่อติดตามเรื่องของการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งก่อนหน้านายเจอโรม พาวเวล ได้ออกมาให้สัญญาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง15.4 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,985 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ยังปรับตัวลดลง และต่ำกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันในกรอบรายชั่วโมง โดยเป้าหมายที่คาดการณ์คือระดับ 1958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังมีแนวรับระยะสั้นที่ 1970 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเป็นจุดทำกำไรระยะสั้นจุดแรกที่จะรับราคาทองคำสำหรับช่วงแรกของวัน หากราคาทองคำปรับตัวที่บริเวณดังกล่าว แต่ไม่สามารถผ่าน 1978 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงสู่แนวรับคาดการณ์ที่ระดับ 1958 ดอลลาร์ต่อออนซ์
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) เส้น RSI ทรงตัวเหนือระดับ 40 โดยแรงซื้อยังไม่ปรับเข้าตลาดในเวลานี้มากพอ จึงทำให้ภาพรวมยังปรับตัวลงต่ำ หากระดับ 40 ทรงตัวได้อาจมีปรับขึ้นสู่ระดับ 50
เส้น SMA200 ยังปรับตัวขึ้นเข้าหาเส้นเฉลี่ยระยะสั้น
เส้น SMA 50 ปรับตัวลงลงตามการขายออกทองคำในระยะสั้น ซึ่งหากเส้นดังกล่าวสามารถปรับตัวเหนือเส้นเฉลี่ยระยะยาวได้ก็มีสัญญาณถึงแรงซื้อเข้าตลาดอีกครั้ง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบ 1977-1984 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิด “ขาย” โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1962-1958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (หากราคาสูงกว่า 1984 ให้ตัดการขาดทุนทันที)
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อลงมาในบริเวณ 1958-1962 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรหาทองคำไม่สามารถผ่าน 1977-1984 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากทองคำหลุดต่ำกว่า 1958 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 2020 / 2048 / 2071
-------------------------------------------
Support : 1928 / 1900 / 1877
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1978 / 1990 / 2003
-------------------------------------------
Support : 1970 / 1958 / 1946
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่ม 2.61 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,064.15 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1987.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 9
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +37.16 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2565 ทองร่วงกว่า 11 ดอลลาร์ล่า หลังราคาบอนด์พุ่ง และราคาน้ำมันดิ่งลง
ทองคำร่วงลงจากระดับ 2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.9% และการปรับร่วงลงของราคาน้ำมันก็เป็นกดดันให้ทองคำปรับร่วงลง
สถานการณ์รัสเซียกับยูเครนก็ส่อไปทางที่ดีขึ้นจากการเจรจาหยุดยิงรอบที่ 3 โดยตกลงว่าจะให้มีการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงก่อน แต่การสู้รบยังไม่สรุปจบเพราะเงื่อนไขบนโต๊ะเจรจายังไม่ได้ข้อสรุปและดำเนินการ เพียงแต่เป็นการหยุดยิงชั่วคราว ก็ต้องดูท่าทีของฝั่งรัสเซียว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เหตุผลดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นกลับ มาคึกคักอีกครั้งจนเกิดการเทขายทองคำเพื่อกลับไปลงทุนในตลาดความเสี่ยงสูงตามโอกาสที่มีอยู่ในระยะสั้นๆ สำหรับวันนี้ติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรายงานตัวเลขสะท้อนเงินเฟ้อที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงปัจจุบัน เป็นเหตุผลที่เฟดจะนำไปกำหนดนโยบายทางการเงินภายในประเทศต่อการตัดสินใจการปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วงระหว่าง 15-16 มีนาคม 2565 นี้ วันนี้ธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB จะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลา 19:45น. คาดว่าจะคงอัตราเดิมที่ 0.00% ให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง 11.40 ดอลลาร์ หรือ -0.57% ปิดที่ 1,976.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำปรับย่อตัวลงมาใกล้กับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันในกรอบรายชั่วโมง เป็นช่วงราคาระหว่าง 1976-1954 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่หลุดช่วงดังกล่าวนั้น ก็ยังมีโอกาสที่จะมีแรงซื้อกลับมาหนุนราคาทองคำให้กลับขึ้นสู่ด้านบนได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแรงซื้อของทองคำหากวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐาน เรายังมองไม่เห็นโอกาสปรับขึ้นตอนนี้ ต้องรอให้เรื่องราวของรัสเซียกับยูเครนดำเนินการในทางลบต่อ หรือเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ตลอดจนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่จะมีขึ้นว่าจะออกยาแรงหรือดำเนินการเป็นขั้นๆ ไป
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) เส้น RSI ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 40 และเหนือระดับ Over sold ส่วนเส้น SMA20 ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง บอกถึงแรงซื้อยังไม่กลับมา
เส้น SMA200 ปรับตัวใกล้เป็นแนวระนาบ ต้องระมัดระวังการซื้อขายในระดับเส้นแบบนี้ เนื่องจากทิศทางแรงซื้อหรือขายยังไม่ชัดเจน
เส้น SMA 50 ปรับตัวลดลงตามแรงขายที่เข้ามาหนุนตลาดทั้งวันเมื่อวานนี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 2012-1998 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากแนวดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไร 1976 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 2012 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1976-1954 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณ 2012-1998 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1954 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 2020 / 2048 / 2071
-------------------------------------------
Support : 1928 / 1900 / 1877
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1988 / 2012 / 2023
-------------------------------------------
Support : 1954 / 1940 / 1928
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -4.06 ตัน
คงถือสุทธิ = 1063.28 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1991.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 7
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +36.29 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต