วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดี 18 พฤศจิกายน 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คกลับมาปิดบวกเพิ่ม 16.1 ดอลลาร์เหตุแรงซื้อหนุนจากเงินเฟ้อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 16.1 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ระดับ 1,870.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำอีกครั้งหลังที่ปรับตัวลงเมื่อวันก่อนหน้าเมื่อรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาสดใส แต่เมื่อความกังวลเงินเฟ้อยังคงอยู่จากรายงานตัวเลขที่ออกมาเร่งอัตราเงินเฟ้อนั้น ทำให้มีแรงซื้อเข้าตลาดทองคำ และการอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นเหตุปัจจัยของการปรับตัวขึ้นของทองคำด้วยเช่นกัน โดยดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.09% แตะที่ 95.8305
เมื่อวานนี้จุดเข้าทำกำไรของเราไม่สามารถรอเปิดคำสั่งได้ เนื่องจากความคิดก่อนหน้าที่ผมได้บอกว่าแม้ทองคำจะย่อตัวลงมาก็ตาม แต่หากไม่หลุด 1845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราก็ยังมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของทองคำได้ เพราะสาเหตุหลักๆ มาจากการที่อัตราเฟ้อออกมาสูงขึ้น ก็ยังเป็นปัจจัยหลักๆที่จะหนุนทองคำอยู่ในเวลานี้ เพราเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิด หากมีเรื่องดังกล่าวเข้ามาในเวลานี้ก็จะทำให้เห็นการผันผวนในตลาดเพียงระยะสั้นเท่านั้น นักลงทุนจึงควรให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพราะมีผลต่อการลงทุนทองโดยตรง
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลงหลังจากที่ได้ทดสอบแนวต้านสำคัญ 1868 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านบริเวณนี้ถือเป็นบริเวณที่ต้องให้ความสำคัญเพราะมีการปรับขึ้นทดสอบมาแล้วหลายครั้งด้วยกัน หากราคาทองคำยังไม่ปรับขึ้นเหนือ 1868-1877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีการปรับตัวลงในระยะสั้นอีกรอบ โดยประเมินที่แนวรับ 1850-1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะมีแรงขายเข้ามาต่อเนื่อง อาจทำให้ทองคำกลับตัวเป็นขาลงได้ในระยะสั้น เนื่องจากแนวรับสำคัญในกรอบรายวันอยู่ที่บริเวณดังกล่าว
===========
Indicator
===========
True RSI (14) เส้น RSI สูญเสียแรงซื้อโดยปรับตัวลงมาที่บริเวณใกล้ Center line 50 หากเส้นไม่ผ่านแนว center line 50 ไปได้นั้นก็มีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมได้อีก เนื่องจากแนวดังกล่าวใกล้ๆกับแนวราคา 1862-1860 ให้มองแนวนี้เป็นรับระยะสั้นไว้ก่อน สำหรับ SMA20 เริ่มปรับตัวลงด้านล่างเล็กน้อย
เส้น SMA200 เคลื่อนตัวเข้าใกล้ราคาทองคำมากขึ้น มีโอกาสที่จะมีการทดสอบได้ที่บริเวณ 18451-1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เฝ้าสังเกตที่บริเวณดังกล่าวว่าจะสามารถ Break out ราคาลงไปได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ให้รอจังหวะ Trowback กลับเข้าหาเส้นรอบสองแล้วค่อยมองการขายซ้ำเมื่อราคากลับทางเดิม อย่าเปิดคำสั่งทันทีที่มีการ Breakout แต่หากสามารถทรงตัวเหนือได้นั้นก็มองหาจังหวะ BUY ได้ต่อ เพียงแต่ให้เน้นระยะสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวสูงมาถึงระดับหนึ่งเป็นเวลาต่อเนื่องกว่าสัปดาห์แล้วอาจมีการทำกำไรออกมาสลับการขึ้นลงของราคาตลอดเวลา
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาหลุดแนวรับระยะสั้น 1862-1860 ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” โดยเน้นกำไรระยะสั้น พิจารณาบริเวณแนวรับ 1850-1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับขึ้นเหนือ 1862 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง)
Long Position : รอทองคำปรับย่อตัวมาบริเวณ 1850-1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทรงตัวในบริเวณดังก็ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว พิจารณาที่แนวต้าน 1868-1877 เป็นแนวทำกำไร (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1880 / 1894 / 1910
-------------------------------------------
Support : 1850 / 1842/ 1826
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 0.88 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,867.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 976.87 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 5
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -5.27 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
