การอัปเดตล่าสุดของ GBPUSDเช่นเดียวกับ EURUSD GBPUSD ได้รับประโยชน์จากการลดลงของ USD แม้ว่าเหตุการณ์ BOE จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าของปอนด์อย่างมีนัยสำคัญ แต่ความอ่อนแอของเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในขนาดใหญ่ได้รับอนุญาต GBP/USD เพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีและต่อเนื่อง จนถึงวันนี้จนถึงวันนี้การซื้อขายรอบ ๆ พื้นที่ 1.237
ใน 4H ระดับความต้านทานหลักสองระดับ 1,226 และ 1,231 นั้นถูกทำลายได้ง่าย สัญญาณจาก EMA 34 ยังสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของปัจจุบัน การทดสอบพื้นที่ฝ่าวงล้อมสามารถช่วยให้เงินคู่นี้แข็งแกร่งขึ้น
Supportandresistancezones
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ทองคำปรับบวกก่อนรายงานเงินเฟ้อถูกเปิดเผยช่วงคืนวันนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ราคา 1,812.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1800 ได้อีกครั้ง โดยการปรับขึ้นมาครั้งนี้ก็มีปัจจัยเดิมๆ ที่เกิดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และส่วนหนึ่งก็มาจากที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นร่วง ขณะที่นักลงทุนก็ยังคงเฝ้าติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ที่จะรายงานในช่วงค่ำของวันนี้เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งจากการติดตามข้อมูลของนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ในเดือนกรกฎาคม ทั่วไปรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวลดลง 8.7% จากเดือนมิถุนายนที่ 9.1% ส่วนดัชดีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน CPI ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานของเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้น 6.1% จากเดือนมิถุนายนที่ระดับ 5.9% ทั้งนี้หากตัวเลข CPI ซึ่งสะท้อนถึงตัวเลขเงินเฟ้อของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หากออกมาลดน้อยลงตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่สังเกตุจากราคาพลังงาน (น้ำมัน) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้การตัดสินใจของเฟดต่อการดำเนินนโยบายการเงินอาจมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะก่อนหน้าสัปดาห์ก่อนหน้าตัวเลขแรงงานออกมาดีเกินคาดทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรง ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อนั้นจะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของดัชนีดอลลาร์ และการปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีได้เช่นกัน
ประเมินทางเทคนิคทองคำระยะสั้นวันนี้ทองคำกลับมาช่วงปรับฐานราคาอีกครั้งหลังปรับตัวเข้าโซน Overbought (ซื้อมากเกินไป) ทางเทคนิคประเมินว่าหากราคาทองคำยังมีแรงซื้อหนุนสนับสนุนไว้ แนวรับทองคำช่วง 1787-1778 จะเป็นช่วงที่ควรรอเข้าซื้อทองคำอีกครั้ง หากราคาทองคำไม่หลุดต่ำไปจากแนวรับดังกล่าว ซึ่งทองคำยังคงรักษาระดับได้ดีส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่จะชะลอตัวลงในเดือนกรกฏาคมนี้ ทำให้มีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นได้เหนือ 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนจึงควรวางแผนโอกาสการเข้าซื้อทองคำสะสมช่วงแนวรับสำคัญๆ สำหรับแนวต้านวันนี้จะอยู่ที่ช่วง 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาขายออกบริเวณแนวรับ 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อคืนทองคำหากราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจราณาขายออกบริเวณแนวต้าน 1800-1810 หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แต่หากผ่านขึ้นไปได้ก็ให้พิจารณาชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1817-1822 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1808 / 1814
-------------------------------------------
Support : 1787 / 1778 / 1772
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
คงถือสุทธิ = 999.16 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,774.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -6.71 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ทองดับฝันไม่ถึงฝั่ง 1800 หลังรายงานข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
ศุกร์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวร่วง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวลดลง 15.7 ดอลลาร์หรือ -0.87% ปิดที่ราคา 1,791.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การปรับร่วงของทองคำอีกครั้งหลังได้มีการเปิดเผยตัวเลขแรงงานที่ดีเกินคาด โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) ตัวเลขออกมาที่ 528,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฏาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 258,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานเดือนกรกฎาคมได้ปรับลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเหตุให้กดดันราคาทองคำอีกครั้ง โดยดอลลาร์กลับมาเคลื่อนไหวปรับขึ้นที่ระดับ 106.57 เพิ่มขึ้น 0.82% หรือ +0.78% การปรับขึ้นของดอลลาร์นั้นเป็นผลจากการคาดการณ์ว่าเมื่อตัวเลขแรงงานที่ออกมาดีเกินคาดนั้น จะส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ประเมินทางเทคนิคทองคำยังคงแกว่งตัวผันผวนตามการขึ้นลงของดอลลาร์เป็นหลัก โดยปัจจัยหลักๆ ที่กระทบก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญๆ ต่างทั่วโลก ภาพรวมตลาดทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
กรอบเวลารายสัปดาห์ (Week) : หลังเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวลงที่ระดับ 1680.74 ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (Exponential Moving Average 200 ) และโดนปฏิเสธราคาที่บริเวณดังกล่าว ทำให้ทองคำ rebound กลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตลอดเวลาที่ปรับขึ้นมานั้นทองคำยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และบอนด์ยีลส์อายุ 10 ปีของสหรัฐ โดยมองว่าตลาดทองคำในภาพรวมกว้างๆ นั้นยังคงเป็นตลาดหมี (Bearish market) อยู่ หากทองคำจะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราถึงจะมองว่าภาพของฝั่งกระทิง (Bullish market) กำลังกลับมาอีกครั้ง ตราบใดที่ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็อย่าเพิ่งเบาใจสำหรับนักลงทุนฝั่งตลาดกระทิง ทางเทคนิคเรายังมองเห็นทองคำยังต้องเผชิญกับแนวต้านหลักๆ ตั้งแต่ 1772 และ 1830 ขึ้นไปให้ได้ก่อน ถึงจะมีลุ้นว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กรอบรายวัน (Day) : สำหรับในกรอบรายวันนั้น หลังทองคำปรับร่วงเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงรักษาระดับไว้เหนือแนวรับบริเวณ 1756 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงซื้อยังคงเข้าช่วยพยุงราคาไว้ ทางเทคนิคในกรอบรายวันเราให้ช่วงบริเวณรับราคาในระหว่าง 1756-1727 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจมีแรงซื้อเข้ามาผยุงราคาทองคำหลังราคาทองคำปรับราคาถูกลง โดยเมื่อทองคำมีราคาที่ถูกลงก็มักจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนระยะสั้น เข้าทำการเก็งกำไรและเทขายสลับออกมา นักลงทุนจึงควรเฝ้ามองหาโอกาสจากการช่วงชิงการซื้อขายของทองคำในภาวะดังกล่าวตามแนวรับแนวต้านสำคัญๆ ประเมินว่าทองคำยังคงพยายามขึ้นทดสอบระดับ 1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณดังกล่าวจะมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันพาดผ่านอยู่ นักลงทุนควรให้ความสำคัญในแนวบริเวณดังกล่าว เพราะหากทองคำสามารถขึ้นไปได้ถึงจุดนั้น อาจเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนบางส่วนจะมองหาโอกาสการทำกำไรในบริเวณดังกล่าว
กรอบรายชั่วโมง (H1) : สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ให้ความสำคัญในกรอบรายชั่วโมงนั้น หลังทองคำปรับตัวเข้าในบริเวณ Demand zone ช่วง 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ทองคำก็ยังคงรักษาระดับได้เหนือบริเวณดังกล่าว โดยทางเทคนิคหากทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการเทขายทองคำอีกครั้งจนทำให้ราคาทองคำจะกลับมาเคลื่อนไหวในบริเวณ 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่เฝ้าติดตามจังหวะเข้าซื้ออาจพิจารณารอจังหวะซื้อทองคำที่บริเวณดังกล่าวได้เช่นกัน แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้าน 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1795-1804 ก็มีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าลืมว่าทองคำขณะนี้มีปัจจัยกดดันจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง จึงไม่แนะนำนักลงทุนให้วางแผนการเทรดในระยะกลางถึงยาว ควรเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก เทรดตามแนวโน้มราคาปัจจุบันจะดีที่สุด
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงรอขายทำกำไรระยะสั้นจากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำเคลื่อนไหวไม่ผ่านแนวรับ 1762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวรับถัดไปประเมินที่บริเวณ 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อคืนทองคำบริเวณ 1762-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ ให้เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนไปก่อน สำหรับแนวต้านถัดไปประเมินที่บริเวณ 1795-1804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1779 / 1795 / 1804
-------------------------------------------
Support : 1770 / 1763 / 1754
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -1.16 ตัน
คงถือสุทธิ = 999.16 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,774.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -6.71 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ทองคำกลับมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
ทองคำวานนี้ปิดบวกไป 30.5 ดอลลาร์ การซ้อมรบของจีนรอบบริเวณเกาะไต้หวันที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวานเป็นเหตุให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อทองคำกันอีกครั้ง โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 30.5 ดอลลาร์หรือ +1.72% ปิดที่ราคา 1,806.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การกลับมาของทองคำเมื่อวานนี้เกิดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา โดยทางการจีนได้มีการเปิดการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันหลังนางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานรัฐสภาของสหรัฐได้มาเยือนเกาะไต้หวัน ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐเริ่มมีมากขึ้น
ประเมินทางเทคนิคแล้ววันนี้ในกรอบรายวันเรายังเห็นการเคลื่อนไหวทองคำถึงโอกาสที่จะเข้าทดสอบระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ทั้งนี้ต้องมีแรงซื้อสนับสนุนต่อเนื่องถึงจะเคลื่อนไหวเข้าเหนือหรือทดสอบบริเวณดังกล่าวได้
ทั้งนี้หากราคาทองคำยังมีแรงปรับฐานเหนือบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้งเพื่อผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ 1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือระดับสูงสุดของเมื่อวานนี้ สำหรับวันนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ "รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) นักวิเคราะห์คาดการว่าจะมีตัวเลขการจ้างงานที่ 250,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ลดลงจากเดิม 381,000 ตำแหน่ง จากเดือนมิถุนายน และตัวเลขรายงานอัตราการว่างงานของเดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการว่างงานคงที่ที่ระดับ 3.6% ของเดือนมิถุนายน ในเวลา 19:30 น. (ตามเวลาของประเทศไทย) ในช่วงวันนี้คาดว่าทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนเพื่อติดตามรายงานดังกล่าวในค่ำคืนนี้ จึงให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1795-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึันไปได้ เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1779-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถหลุดแนวรับดังกล่าวลงมาได้ เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1795-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1779 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1790 / 1756 / 1727
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1795 / 1804 / 1810
-------------------------------------------
Support : 1785 / 1779 / 1774
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -2.32 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,000.65 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,765.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 2
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -5.22 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 2 สิงหาคม 2565 ทองคำยังพุ่งปรับเพิ่มสูงกว่า 4.03% ขยับใกล้ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำกลับมาอีกครั้งวานนี้ปิดบวกไป 5.9 ดอลลาร์ หลังดอลลาร์ซบเซาเหตุข้อมูลเศรษฐกิจออกมาน่าผิดหวัง ทองคำกลับมาบวกติดต่อกันต่อเนื่องเป็นวันที่ี 4 โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 5.9 ดอลลาร์หรือ 0.33% ปิดที่ราคา 1,787.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ทองคำปรับเพิ่มขึ้นก็มาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาไม่ดีสร้างความกังวลต่อนักลงทุนที่เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังเช้าสู่ภาวะถดถอยในเร็วๆ นี้
วานนี้สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือน ก.ค. ซึ่งจัดว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ระหว่างนี้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนทองคำบางส่วนเพื่อเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันศุกร์นี้คือ “รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP)”
สำหรับวันนี้ประเมินทางเทคนิคแล้วหลังทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นต่อเนื่องกว่า 4 วัน จนเข้าใกล้ระดับต้านสุดท้ายของ Level 1700 คือ 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตรงนี้เราประเมินว่าถ้าราคาทองคำวันนี้ไม่ผ่าน 1780 -1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการพักปรับฐานกันอีกรอบ โดยอาจย่อตัวลึกกว่าที่ผ่านมา โดยประเมินใกล้ๆ ระดับ 1764 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ทั้งนี้แรงซื้อในกรอบรายวันอาจลดลงไปแต่ก็ยังแรงหนุนเพื่อปรับตัวอยู่พอสมควร เราจึงคาดว่าการปรับย่อน่าจะไม่ลงลึกไปกว่า 1750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนจึงควรใช้ประโยชน์การวิเคราะห์นี้ไปวางแผนเพื่อปรับเป้าหมายการเข้าทำกำไรต่อไป สำหรับเป้าหมายของกรอบรายวัน (Day) เราประเมินที่ระดับ 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการถดถอยเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นจะยิ่งหนุนทองคำได้มากขึ้นเวลานี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อว่าหากสัญญาการถดถอยทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นจริง ธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา จะปรับลดท่าทีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยลง จึงส่งผลลบต่อสกุลเงินโดยตรง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1780-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ พิจารณเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายที่แนวรับ 1774-1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาขยับขึ้นเหนือกว่า 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนหากราคาทองคำปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1755-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายการทำกำไรที่ 1774-1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถขยับขึ้นไปเหนือกว่าก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวทำกำไรถัดไปประเมินที่ 1802-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1780 / 1803 / 1836
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1781 / 1790 / 1800
-------------------------------------------
Support : 1768 / 1754 / 1746
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 1,005.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = - ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = -
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = - ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565ทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องใกล้ 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำกลับมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังการอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อเฟดออกมาประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 75 จุด จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะปรับที่ 100 จุด คณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐได้เพิ่ม Benchmark rate จาก 1.5% ถึง 1.75% เป็น 2.25% ถึง 2.5%
นักลงทุนยังให้ความกังวลในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ เฟดอาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวเร็วขึ้นจนมากจนเกินไป สมาชิกของเฟดก็ออกมายอมรับสัญญาณของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวว่า “ตัวชี้วัดการใช้จ่ายและการผลิดล่าสุดได้อ่อนตัวลง” แต่ก็ยังมีการจ้างงานที่ค่อนข้างแข็งแกร่งที่ยังคงบ่งชี้ว่าความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงดีอยู่ แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อยังสูงขึ้นหลายคนจึงยังคงเชื่อว่าภาวะการถอถอยจะได้เกินขึ้นได้ในไม่นาน เพราะต้นทุนการใช้สินค้าและบริการ ตลอดจนต้นทุนในการกู้ยืมเงินที่สูงขึ้น จะเป็นปัจจัยหลักที่จะกดดันให้เศรษฐกิจต้องชะลอตัวลงได้
สำหรับสัปดาห์นี้จะมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่าง Non farm payroll (NFP) “การจ้างงานนอกภาคการเกษตร” ที่จะรายงานทุกศุกร์แรกของเดือน ซึ่งจะเป็นรายงานของเดือนกรกฏาคม 2565 รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะแสดงให้นักลงทุนได้รู้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาของเฟดครั้งล่าสุดนั้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดการจ้างงานของสหรัฐฯ อย่างไรได้บ้าง
สำหรับนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีการจ้างงาน 250,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฏาคม 2565 ลดลงจากระดับ 372,000 ตำแหน่งของเดือนมิถุนายน สำหรับอัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวในระดับที่ต่ำสุดที่ 3.6% ถือว่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
หากตัวเลขดังกล่าวออกมาน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เฟดเองอาจจะปรับเปลี่ยนนโยบายกระชับนโยบายการเงินที่เข้มงวดลง ซึ่งเฟดอาจเลือกปรับอัตราดอกเบี้ยในคราวต่อไปไม่ถึง 75 จุด อาจอยู่ที่ 50 จุด เพราะจากข้อมูลในวันพฤหัสบดีที่ผานมานั้น พบแล้วว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หดตัวลงในไตรมาสที่สองแล้ว จึงอาจเป็นเงื่อนไขให้เฟดต้องปรับเปลี่ยนท่าทีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ภาวะดัวกล่าวก็จะส่งผลดีต่อการลงทุนตลาดทองคำได้อีกครั้ง เมื่อดอลลาร์อาจต้องปรับตัวอ่อนลงโดยขณะเขียนบทวิเคราะห์นี้ดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงที่ระดับ 105.64 จากระดับสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ 107.42 โดยเราประเมินว่าดอลลาร์อาจย่อตัวลงที่ระดับ 105-104
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
โดยการลงทุนทองคำก่อนที่จะมีรายงาน NFP ศุกร์นี้อาจแกว่งตัวในกรอบ จึงควรระมัดระวังการลงทุนในขณะนี้ ควรเล่นตามทิศทางการเคลื่อนไหวราคาในระยะสั้นเท่านั้น ไม่ควรสะสมการลงทุนระยะยาวไว้มากจนเกินไป หากทองคำยังไม่หลุดแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1761-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่แรงซื้อจะกลับเข้ามาหนุนทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1767-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถทรงตัวหรือหลุดจากแนวรับ 1761-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น แนวรับระหว่างวันจะอยู่ที่บริเวณ 1740-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1767-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น เป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1761-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคำกลับคืนหากราคาทองย่อตัวลงมาที่บริเวณ 1746-1740 ดอลลาร์ต่อออนซ์และสามารถทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายกำไรที่ระดับ 1761-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1767-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1740 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1780 / 1803 / 1836
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1768 / 1781 / 1790
-------------------------------------------
Support : 1754 / 1746 / 1740
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPtrend
Time Frame H4 = N
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ =
คงถือสุทธิ = 1,005.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = - ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = -
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = - ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
GBPJPY วันที่ 15 July 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 15 July 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
EURUSD วางแผนการเทรดวันที่ 14 June 2022 - Northanos FXEURUSD วางแผนการเทรดวันที่ 14 June 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
EURUSD วางแผนการเทรด 13 June 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 13 June 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
GBPJPY วางแผนการเทรด 13 June 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 13 June 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
EURUSD วางแผนการเทรด 8 June 2022 - Northanos FXEURUSD วันที่ 8 June 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
GBPJPY วางแผนการเทรด 8 June 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 8 June 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
GBPJPY วางแผนการเทรด 7 June 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 7 June 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับบวกเล็กน้อย รับการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง
ทองคำช่วงนี้เรียกว่าผูกติดกับหมัดของสกุลเงินดอลลาร์จริงๆ พอฝั่งโน้นเบาแรงก็จะขยับขึ้นได้ แต่ก็ยังถูกจำกัดจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ทำให้การปรับฟื้นไม่ได้ดีเท่าที่ควรนัก
การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้วก็พอเป็นปัจจัยให้เงินไหลเข้ามาระบบของทองคำได้บ้าง โดยดาวโจนส์ร่วงลง 2.9% ดัชนี S&P500 ร่วงลง 3.0% และ ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.8%
สำหรับในสัปดาห์นี้นักลงทุนเฝ้าติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐฯ เพื่อที่จะทำการประเมินแนวทางการลงทุน และทิศทางแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาเซนต์หลุยต์ กล่าวไว้ว่าการเทขายหุ้นสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะส่วนหนึ่งนั้นการเทขายออกของหุ้นเกิดจากความกังวลในเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคากลางสหรัฐฯ และเขาได้ยืนยันว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะไม่เกิดภาวะถดถอยในปีนี้และปีหน้า นอกจากจะมีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นกับระบบของเศรษฐกิจสหรัฐ
มีข้อมูลจาก Refinitiv Lipper ได้ออกมาชี้แจงว่า นักลงทุนทั่วโลกขณะนี้ได้มีการปรับลดขนาดการลงทุนในกลุ่มของกองทุนพันธบัตรและกองทุนหุ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวเรื่องของเงินเฟ้อ และการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว จนอาจเป็นเหตุให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถอถอยได้ นั่นจึงอาจเป็นเหตุให้ทองคำอาจมีแรงซื้อเข้าหนุนให้วิ่งกลับไปเหนือ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.05% ปิดที่ระดับ 1,842.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำทางเทคนิคในกรอบรายวันกำลังวิ่งตามแบบของ Harmonic Pattern (Gartley) แต่ก็ยังมีแนวต้านสำคัญที่อาจะเป็นอุปสรรค์ต่อการปรับฟื้นของทองคำได้ที่ระดับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันนั้นยังไม่มีการปรับขึ้นมาในระหว่างนี้ แต่เส้นค่าเฉลี่ย 200 ในระยะยาวได้มีการปรับขึ้นต่อเนื่อง แม้ก่อนหน้าทองคำจะย่อตัวลงแรงก็ตาม แต่ภาวะแนวโน้มระยะยาวทองคำก็ยังมีโอกาสปรับขึ้นสูงได้
สำหรับแนวทางระยะสั้นกรอบรายชั่วโมงนั้น ทองคำกำลังพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจทำให้มีการเทขายทำกำไรระยะสั้นได้ที่บริเวณดังกล่าว
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก พิจารณาปิดกำไรหากราคาทองคำไม่หลุด 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดลงไปก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น เป้าหมายกำไรที่ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือเป้าหมายดังกล่าวให้ชะลอปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1865-1870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1859 / 1865 / 1870
-------------------------------------------
Support : 1849 / 1839 / 1833
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดซื้อเพิ่ม 7.25 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,063.43 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,846.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 13
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -31.12 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 20 มกราคา 2565 ทองคำพุ่งผลบวกจากการอ่อนแอเศรษฐกจิของสหรัฐฯ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 30.80 ดอลลาร์หรือ +1.70% ปิดที่ระดับ 1,843.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำได้รับการหนุนจากรายงานตัวเลขที่อ่ออนแอของสหรัฐฯ อเมริกา และการปรับฐานย่อตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดอลลาร์ที่ต่างปรับตัวย่อฐานลง ทำให้เป็นเหตุหนุนราคาทองคำในระยะสั้นให้ปรับขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1824-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ โดยราคาทองคำของตลาด COMEX สามารถทำจุดสูงสุดของวันที่ผ่านมาได้ที่ระดับ 1843.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปรับร่วงลงมาในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางด้านกองทุน SPDR ก็ได้เข้าซื้อทองคำเป็นมูลค่ากว่า 5.23 ตัน เป็นสัญญาการเข้าซื้อที่สามารถหนุนราคาทองคำได้อีกรอบหนึ่ง แต่ทั้งนี้นักลงทุนก็ต้องเฝ้าระวังการซื้อที่กระโดนขึ้นมาใกล้ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากบริเวณนี้ยังไม่มีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุนต่อเนื่องได้นั้น อาจทำให้มีการเทขายทำกำไรออกมาได้เช่นกัน และการเทขายทองคำหากราคาปรับฐานไม่ต่ำกว่า 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากแล้วที่ทองคำจะปรับขึ้่นทดสอบระดับ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป ทั้งนี้ต้องอาศัยรายงานเศรษฐกิจคืนนี้มาเป็นตัวช่วยหนุนด้วย หากรายงานออกมาตรงกันข้ามกับการหนุนตลาดทองคำก็จะทำให้ทองย่อตัวกันอีกรอบ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้เข้าช่วงพักฐานราคาระหว่าง 1842-1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากฝั่งของบอนด์และดอลลาร์ยังปรับฐานต่ำต่อเนื่องก็คงจะได้ลุ้นกันต่อที่ระดับ 1850 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวันนี้มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ผลเป็นลบมากกว่าเชิงบวก เพราะรายงานก่อนหน้าสะท้อนถึงความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ ตลาดจนรายงานผลประประกอบการใน 3 ตลาดหุ้นที่ผ่านมาก็ไม่ได้สวยงามสักเท่าไหร่ เลยคาดการณ์ตัวเลขวันนี้่อาจส่งผลหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้อีก โดยช่วงระหว่างวันทองคำอาจผันผวนช่วงราคา 1842-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงยังควรระมัดระวังแนวดังกล่าวและติดตามอย่างใกล้ชิด
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับเข้าช่วงการซื้อมากเกินไปแต่เส้นโน้มตัวกลับเข้าระดับ 70 อีกครั้ง เส้น SMA20 วันก็จบกับเส้น RSI ที่ระดับเดียวกัน ยังสะท้อนแรงซื้ออยู่ขณะนี้
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นสนับแรงซื้อที่เข้าตลาดเมื่อช่วงวานนี้ ทำให้ภาพรวมทองคำเวลานี้น้ำหนักฝั่งกระทิงจะดูได้เปรียบตลาดหมี แต่ก็ต้องระวังการปรับฐานย่อตัวที่จะเกิดขึ้นตามแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับ 1830-1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนว 1843 ขึ้นไปได้นั้นก็ให้เสี่ยง “ขาย” ต่ำกว่าบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณ 1837-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้อีกให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1862 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1814 / 1800
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1842 / 1858 / 1876
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1811 / 1805
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่ม 5.23 ตัน
คงถือสุทธิ = 981.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,840.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.78ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต