วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 05/02/2022Break ได้สักที สิ่งนี้ที่รอยคอ รอมา 2 เดือนกว่า
ตอนนนี้ก็ฝ่าเส้นแนวต้านได้แล้ว แบบนี้เข้าง่ายเพราะหา RR ง่าย เข้าตอน break แล้วไปตั้ง custloss ใต้เส้นแนวรับ (เส้นแนวต้านที่เพิ่งทะลุมา)
ตอนนี้กำลังทดสอบ EMA50 ถ้าหมดกำลังก่อนก็ย่อลงมา ตีเส้นแนวรับรอไว้แล้ว
ด่านต่อไปคือให้ขึ้นไปทดสอบ EMA200
RSI สูงว่า 50 แล้ว ยังขึ้นไปได้อีก เป็นแนวโน้มหรือจุดเริ่มต้นที่ดี
MACD ยังคงตัดกันขึ้น พยายามจะขึ้นไปให้พ้น 0 แบบนี้แหล่ะดี
STORSI ฟอร์มตัวเหมือนจะไต่ ๆ อยู่ด้านบนเหมือนช่วงเดือน ตุลา
สายสั้น หาจังหว่ะเข้าได้เพราะ break แล้ว เล่นตามรอบ swing ในขาขึ้น เป็นอะไรที่ฟินสุดแล้ว
สายยาว อาจจะรอให้ CDC เขียวก่อน หรือ macd มากกว่า 0 ก่อน
***สรุป***
break แล้ว ก็ไม่น่ากังวลมาก หาจุดพัก จุด cut ได้ ก็ทะยอยๆ วางไม้
** บทความนี้ไม่ได้แนะนำ หรือ ชักชวนให้ลงทุน เป็นเพียงแต่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในความเห็นส่วนตัว
** การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณของตัวท่านเองในการตัดสินใจลงทุน
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "macd"
Gold Today Plan... 04.02.22เมื่อคืนราคาทองได้ร่วงลงไปแนว 1788-1790 จากปัจจัยของผลของการประชุมการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่ทางผลประชุมของBoE มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.5% ตามคาด ขณะที่ ECB มีมติยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด โดยผลของแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของทางอังกฤษและทางยุโรปนั้น ส่งผลให้หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลี, เยอรมนี, อังกฤษ และสหรัฐฯ อย่างมาก และจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยข้างต้นยังส่งผลให้ค่าเงินปอนด์และเงินยูโรแข็งค่าขึ้นทำให้กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้ปัจจัยหลังกลายเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำกลับขึ้นมาเหนือ 1800 อีกครั้งโดยทันทีจากที่ร่วงลงไป
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ตัวเลขค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ (Average Hourly Earnings), ดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน (ที่ไม่รวมภาคการเกษตร) (Non-Farm Employment Change) และ อัตราการว่างงาน (Unemployment rate)
-เชิงเทคนิคคอล-
ถึงแม้ว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจทีกล่าวข้างต้นจะทำให้ราคาร่วงแล้วก็กลับมาขึ้นปิดเหนือ1800 เหมือนเดิม และวันนี้ก็ยังอยู่ในช่วง 1804-1809 และถึงแม้ราคาจะร่วงลงไป Sto. RSI และ MACD Timeframes H1 และ H4 นั้นก็ยังไม่เข้า oversold และก็ยังมีแนวโน้มที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกราฟได้ทะลุแนวกรอบขาลงระยะสั้นออกมาแต่ก็ยังไม่ชัดเจนในกรอบขาขึ้นมากหนัก โดยยังมีแรงขายใน Keyzone 1810-1812 อย่างต่อเนื่อง และอาจจะมองได้ว่าเกิด Pattern Bearish Rising Wedge ก็เป็นได้
เพราะหากดู Sto. Timeframes H4 ที่ Overbought และกำลังจะเกิดภาพ Hidden Bearish Divergence อีกทั้ง Sto. RSI และ MACD Timeframes ใน H1
และ Sto. Timeframes M15 นั้นก็กำลังเกิด Bearish Divergence เช่นกัน จึงคาดว่าโอกาสที่ราคาจะมีการย่อลงมากนั้นสูง แต่หากย่อลงมาไม่ต่ำกว่า 1805 ก็ถือว่า effect ของ Divergence นั้นไม่มีผลมากหนัก และราคาอาจะขึ้นไปทดสอบแนว
1810-1812 อีกครั้งและหากผ่านไปได้ ก็จะไปทดสอบจุดสำคัญที่แนว 1815-1817 ที่จะเป็นจุดยืนยันว่ากราฟราคาจะอยู่ในกรอบขาขึ้นต่อไปในระยะสั้นหรือจะเป็น Pattern Bearish Rising Wedge ที่อาจจะเกิดการร่วงและการเทขายเชิงเทคนิคคอล
โดยยังต้องจับตา Keyzone ทั้ง 2 เช่นเดิม โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยยังเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 อีกทั้งเป็นแนวเส้น EMA200/100/50 ของ H4 อีกด้วย และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1802
และจับตาแนวย่อยที่สำคัญ แนว 1805 ที่เป็นแนวเส้น EMA200 Timeframes M15 และ M30 แนวเส้น EMA100และ50 ของ Timeframes H1 และแนวเส้น EMA20 ของ Timeframes H4 อีกทั้งยังเป็นแนวกรอบล่างของขาขึ้นระยะสั้นอีกด้วย
และแนวย่อยสำคัญอีกแนวคือ 1815-1817 ซึ่งหากผ่านไปได้ก็จะยิ่งหนุนขาขึ้นมากยิ่งขึ้น
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1815-1817 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1800-1805 ระยะกลางที่แนว 1787-179
สรุปภาพรวม : ขาขึ้นระยะสั้นยังได้เปรียบแต่ยังต้องจับตา keyzoneที่ 1 และจุดแนว 1815-1817 ซึ่งหากราคาไม่ผ่านจุดดังกล่าวก็อาจจะทำให้มุมมองที่จะเป็น Pattern Bearish Rising Wedge ก็มีมากขึ้น อาจจะทำให้ราคาร่วงอย่างรุนแรงได้
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1803-1805 TP 1810-1815 SL 1797-1800
*Bet Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1810-1814 TP 1800-1805 SL 1815-1818
*Bet Sell Zone 2 : 1800-1802 TP 1793-1795 SL 1805-1807
Follow Sell Zone 3 : 1795-1798 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
การวิเคราะห์ราคา GBP/USD: ขยับสูงขึ้นประมาณ 1.3600การวิเคราะห์ราคา GBP/USD: ขยับสูงขึ้นประมาณ 1.3600 เนื่องจากกระทิงกลัวถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ
4 กุมภาพันธ์ 2022, 10:21
แนวโน้ม: คาดว่าจะมีอัพไซด์เพิ่มเติม
• GBP/USD ยังคงถูกกีดกันที่จุดสูงสุดสองสัปดาห์หลังจากขาขึ้นห้าวัน
• MACD, RSI ส่งสัญญาณกลับหัวขึ้น แต่เส้นแนวโน้มสำคัญ, 200-DMA ท้าทายวัว
• ผู้ขายต้องการการตรวจสอบจาก 100-DMA ระดับ Fibonacci retracement สามารถเพิ่มลงในตัวกรองการซื้อขายได้
กระทิง GBP/USD พักฟื้นรอบระดับสูงรอบสองสัปดาห์ที่ 1.3600 ในช่วงวันที่บวกที่หกท่ามกลางเซสชั่นเอเชียของวันศุกร์
ในการทำเช่นนั้น คู่สายเคเบิลแสดงให้เห็นถึงการขึ้นฝั่งที่ชัดเจนของ 50% Fibonacci retracement (Fibo.) ของ downside กรกฎาคม-ธันวาคม 2021 รวมถึงการซื้อขายที่ยั่งยืนเกิน 100-DMA
นอกจากนี้ การทำให้ผู้ซื้อ GBP/USD มีความหวังคือเส้น RSI ที่แข็งขึ้น ไม่ใช่การซื้อเกิน ร่วมกับเส้น MACD ที่ยั่วยุตลาดกระทิง
ที่กล่าวว่าใบเสนอราคานั้นขึ้นสำหรับความก้าวหน้าต่อไปต่อแนวต้านจากมากไปน้อยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมใกล้กับ 1.3635 ซึ่งเป็นอุปสรรคในทันที
ต่อจากนี้ Fibo 61.8% และแนวต้านตั้งแต่เดือนกันยายนตามลำดับใกล้ 1.3670 และ 1.3690 จะท้าทาย GBP/USD upside เป็นที่น่าสังเกตว่าระดับ 200-DMA ที่ 1.3712 กลายเป็นการป้องกันครั้งสุดท้ายสำหรับหมี
อีกทางหนึ่ง การเคลื่อนไหวแบบดึงกลับจะมุ่งเป้าไปที่ 50% Fibo ในขั้นต้น และ 100-DMA โดยรอบ 1.3570 และ 1.3510 ก่อนที่จะลดลงสู่ระดับต่ำสุดของวงสวิงล่าสุด ซึ่งประกอบด้วย 23.6% Fibonacci retracement ที่ประมาณ 1.3350
ในช่วงการเคลื่อนไหวของทั้งคู่ระหว่าง 1.3510 ถึง 1.3350 จุดต่ำสุดของเดือนกันยายนที่ใกล้ 1.3410 จะทำหน้าที่เป็นการหยุดชะงักระดับกลาง
โดยรวม GBP/USD มีแนวโน้มที่จะขยาย upside ล่าสุด แต่ถนนไปทางเหนือจะเป็นหลุมเป็นบ่อ
GBP/USD: กราฟรายวัน
Gold Today Plan... 03.02.22กราฟราคาทองคำได้ขึ้นไปทำ new high ในรอบ 1 อาทิตย์ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในฝั่งขาขึ้น โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี และการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ประธานาธิบดีไบเดนได้อนุมัติการส่งกำลังทหารสหรัฐจำนวน 3,000 นายเข้าไปประจำการในยุโรปตะวันออก ประกอบกับผลการประกาศตัวเลขดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงานจาก ADP นั้นลดลงอย่างมาก ซึ่งผิดกับที่คาดการณ์ไว้ จากข่าวดังกล่าวทำให้กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯอย่างมาก และหนุนราคาทองคำ
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ (Unemployment Claims) และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Service PMI)
-เชิงเทคนิคคอล-
ราคาขึ้นไปทดสอบแนว 1807-1812 อีกครั้งตามที่คาด แต่ด้วยจุดนี้เป็นแนวต้านนัยยะสำคัญและอาจจะถือเป็นแนวกรอบขาลงระยะสั้น จึงทำให้ราคากราฟยังไม่สามารถผ่านไปได้ ประกอบกับการขายเชิงเทคนิคคอลที่ Sto. RSI และ MACD Timeframes H1 และ H4 เกิดภาพ Bearish Divergence
โดยภาพกราฟราคายังอยู่ในกรอบขาลงระยะสั้นก่อนหน้า แต่หากดู Sto. Timeframes H1 ที่กำลัง oversold นั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น oversold Higher Low และ MACD อาจจะเกิดภาพ Hidden Bullish Divergence ทำให้มีความเป็นไปได้ราคาจะทะลุเส้นกรอบขาลงระยะสั้นก่อนหน้าและเปลี่ยนเป็นกรอบขาขึ้นระยะสั้นแทน และคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนว Keyzone 1807-1812 อีกครั้ง หากทะลุขึ้นไปได้ก็มีความเป็นได้สูงที่จะขึ้นไปเป้าขาขึ้นระยะกลางต่อไป
โดยให้จับตา Keyzone ทั้ง 2 เช่นเดิม โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยยังเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 อีกทั้งเป็นแนวเส้น EMA200/100/50 ของ H4 อีกด้วย และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1802 และจับตาแนวย่อย 1804 ที่เป็นแนวเส้น EMA200 Timeframes M15 และ M30 แนวเส้น EMA100และ50 ของ Timeframes H1 และแนวเส้น EMA20 ของ Timeframes H4
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1807-1812 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1790-1793 ระยะกลางที่แนว 1780-1785
สรุปภาพรวม : ในช่วงวันสองวันนี้ระยะสั้นขาขึ้นยังได้เปรียบหลังจากราคายังไม่ต่ำกว่าแนว 1797-1800 แต่ก็ต้องจับตา keyzone และกรอบราคาขาขึ้นทั้งสอง คาดว่าราคาจะเลือกทางในวันสองวันนี้ ซึ่งหากยังไม่สามารถผ่าน keyzone 1 ได้ภาพรวมก็ยังเป็นขาลงอยู่ แต่ระยะกลาง-ยาวขาขึ้นยังได้เปรียบ
-- แผนเข้า -- (คล้ายเมื่อวาน)
Buy Zone 1: 1796-1802 TP 1807-1812 SL 1794-1797
Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1807-1812 TP 1798-1800 SL 1815-1818
Sell Zone 2 : 1793-1797 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
การวิเคราะห์ราคา GBP/USD: กระตุ้นแนวต้านระยะสั้นเหนือ 1.3500
การวิเคราะห์ราคา GBP/USD: กระตุ้นแนวต้านระยะสั้นเหนือ 1.3500
2 กุมภาพันธ์ 2022, 01:41
• GBP/USD ขยับสูงขึ้นรอบระดับสูงสุดประจำสัปดาห์ตามแนวโน้มขาขึ้นสามวัน
• เส้นแนวต้านอายุสามสัปดาห์ทดสอบผู้ซื้อก่อน 100-SMA
• สัญญาณ MACD แบบกระทิง, การพักตัวของ 50-SMA ที่เอื้อต่อผู้ซื้อ
•ผู้ขายต้องการการตรวจสอบจาก 61.8% Fibonacci retracement เพื่อนำรายการใหม่
กระทิง GBP/USD โจมตีแนวต้านใกล้ๆ ระดับสูงสุดประจำสัปดาห์ที่ 1.3528 ในช่วงเซสชั่นเอเชียของวันพุธ
ในการทำเช่นนั้น ผู้ซื้อคู่เงินจะพักหายใจหลังจากฟื้นตัวสามวันจาก 61.8% Fibonacci retracement (Fibo.) ของเดือนธันวาคม 2021 ถึงต้นเดือนมกราคม 2022 upside
นอกจากการเด้งจากคีย์ฟีโบ ระดับ, MACD ที่กระชับขึ้น และความสามารถของคู่สายเคเบิลที่จะอยู่เหนือระดับ 50-SMA ยังช่วยให้ผู้ซื้อมีความหวังที่จะเอาชนะแนวต้านเทรนด์ไลน์ในทันที ซึ่งขยายจากวันที่ 13 มกราคม ที่ประมาณ 1.3530
ถึงกระนั้น ระดับ 100-SMA ใกล้ 1.3560 จะทำหน้าที่เป็นตัวกรองพิเศษไปทางทิศเหนือก่อนที่จะเติมเชื้อเพลิงให้ราคา GBP/USD ไปสู่จุดสูงสุดของเดือนก่อนหน้าที่ 1.3748
อีกทางหนึ่ง การเคลื่อนไหวของ pullback อาจมุ่งไปที่ระดับ 50-SMA ที่ 1.3470 ก่อนเน้นการบรรจบกันของแนวต้านก่อนหน้าตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมและ 61.8% ระดับ Fibonacci retracement โดยรอบ 1.3385
เป็นที่น่าสังเกตว่าระดับต่ำสุดของเดือนมกราคมที่ 1.3357 สามารถทดสอบแนวรับ GBP/USD ก่อนที่จะให้การควบคุมเพื่อตั้งเป้าไปที่พื้นที่ย่อย 1.3300
GBP/USD: กราฟสี่ชั่วโมง
แนวโน้ม: คาดว่าจะมีอัพไซด์เพิ่มเติม
Gold Today Plan... 26.01.22หลังจากราคาได้ขึ้นไปทำ new high ที่แนว 1852-1854 ในเมื่อคืน โดยคาดว่าได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดต่อสถานการณ์ระหว่างรัฐเซียและยูเครน อีกทั้งจากการประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer Confidence) ในเมื่อคืนที่ต่ำกว่าครั้งที่แล้ว
ส่งผลให้กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯให้อ่อนค่าลง ส่งผลทำให้หนุนราคาทอง แต่ถึงแม้การประกาศตัวเลขจะเป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่ด้วยเงินดอลล่าร์สหรัฐฯถือเป็นสกุลเงินปลอดภัยทำให้ยังมีกระแสเงินเข้ามาเรื่อยๆ จากสถานการณ์ระหว่างรัฐเซียและยูเครน
อีกทั้งจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นและมากกว่าที่คาดไว้เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้กดดันราคาทองคำสลับมาต่อเนื่อง ทำให้แรงซื้อนั้นชะลอตัวหลังจากขึ้นไปทำ new high แล้ว แต่ถึงอย่างไร
ก็ยังต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิดในคืนนี้ ช่วงเวลา 02.00 น. และต่อจากนั้นก็เป็นการแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในเวลา 02.30 น.
หากผลการประชุมยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เบื้องต้นและส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มีนา นี้ เป็นไปตามที่คาด อาจจะส่งผลหนุนทองคำก็เป็นได้
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนนี้
-เชิงเทคนิคคอล-
เมื่อคืนราคาได้ขึ้นไปยังแนวต้านนัยยะสำคัญ โดยมีแรงหนุนจากปัจจัยที่กล่าวไว้เบื้องต้น และวันนี้ในช่วงเวลาตลาดเอเชียและยุโรปนั้นได้มีแรงเทขายทำกำไรทั้งปัจจัยการแข็งค่าของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและปัจจัยทางเทคนิคคอลโดยมีความเป็นไปได้
ที่จะเป็นการเทขายจากผลที่เกิด Bearish Divergence TF H4 และ ณ ตอนนี้ indicator ไม่ว่าจะเป็น Sto. RSI และ MACD นั้นมีการย่อตัวขอแนวเส้นต่อเนื่อง แต่กราฟราคากลับสูงขึ้นต่อเนื่องทำให้ ทั้งหมดยังเกิดภาพ Bearish Divergence อยู่
หากย่อยเข้ามาดู Sto TF H1 กลับเกิดภาพ hidden bullish divergence แต่ยังไม่เข้า oversold zone (บางกราฟอาจจะเข้าแล้ว) ซึ่งทำให้ผลของ Bearish Divergence TF H4 นั้น ที่อย่างน้อยจบรอบ 1 Sto. oversold ใน TF H1 ยังมีผลอยู่
(หากกราฟที่ sto เข้า oversold zone แล้ว ก็ถือว่าจบรอบ Divergence แล้ว) แต่คาดว่าอาจจะมีการย่อขอราคาอีกซักระยะอาจจะด้วยผลจาก Sto กำลังมีแนวโน้มย่อลงหลังจากเข้า zone overbought อีกทั้ง RSI และ MACD มีเส้นย่อลงต่อเนื่อง
และหากดูกราฟราคาใน TF M15 นั้นแนวกราฟนั้นปรับตัวลงมาใกล้เส้น EMA200 ที่แนว 1842 ซึ่งถือว่าเป็น keyzone 1 แต่โดยภาพรวมใน TF H4 และ H1 นั้นถือยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่ แต่อาจจะมีย่อบ้างจากเทขายเพื่อกำไร และชะลอการเข้าซื้อ เนื่องจากรอผลการประชุมของเฟดในคืนนี้
โดย keyzone สำคัญยังเป็นแนวเดียวกับเมื่อวาน โดย keyzone ที่1 ยังเป็นแนว 1852-1858 ถึงแม้ว่าเมื่อวานมีการขึ้นไปถึงแต่ก็ยังไม่สามารถทะลุหรือยืนเหนือได้ และkeyzone ที่ 2 ที่แนว 1828-1831 และ key zone ย่อย ที่ช่วง 1837-1841
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1837-1841 ระยะกลางที่แนว 1827-1832 ระยะไกลที่แนว 1806-1812
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1845-1848 ระยะกลางที่แนว 1855-1858 ระยะไกลที่แนว 1864-1870(1874)
สรุปภาพรวม : ในภาพระยะสั้น-กลางขาขึ้นยังได้เปรียบ แต่ยังต้องติดตามข่าวผลการประชุมคืนนี้อย่างใกล้ชิด
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1840-1843 TP 1851-1858 SL 1835-1838
Buy Zone 2: 1828-1832 TP 1843-1845 SL 1824-1828
====
Sell Zone 1 : 1852-1858 TP 1840-1845 SL 1856-1860
Sell Zone 2 : 1833-1837 TP 1828-1830 SL 1841-1844
(หากทะลุแนว 1828 อาจจะค่อยรอrestestค่อย sell หรือ follow sell TP 1819-1822 Sl 1833-1837)
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
USD/JPY: Bulls ข้าม 200-SMA แต่ 115.10 ดูเหมือนจะยากที่จะแตกการวิเคราะห์ราคา USD/JPY: Bulls ข้าม 200-SMA แต่ 115.10 ดูเหมือนจะยากที่จะแตก
17 มกราคม 2022, 14:34 น
• USD/JPY ขยับสูงขึ้นในช่วงบนระหว่างวัน ขยายการเด้งกลับจากระดับต่ำสุดของเดือนก่อนหน้าของวันก่อนหน้า
• สัญญาณ MACD แบบ Bullish เป็นการกลับตัวของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่สำคัญซึ่งเอื้อต่อผู้ซื้อ
•การบรรจบกันของ 100-SMA, 50-SMA และเส้นแนวโน้มขาลงอายุสองสัปดาห์ที่ท้าทายวัว
USD/JPY แข็งค่าขึ้นที่ 114.50 เพิ่มขึ้น 0.26% ระหว่างวันเข้าสู่ช่วงตลาดยุโรปในวันจันทร์
ในการทำเช่นนั้น คู่เงินเยนขยายการรีบาวด์ของวันก่อนหน้าจากระดับต่ำสุดในรอบหลายวันเพื่อข้าม 200-DMA ที่ประมาณ 114.35 อย่างช้าที่สุด
จุดกลับตัวที่ชัดเจนที่ 114.35 ประกอบกับสัญญาณ MACD ที่เป็นขาขึ้นเพื่อให้ผู้ซื้อหวังว่าจะตั้งเป้าหมายที่ระดับ 115.00 ซึ่งประกอบด้วย 38.2% Fibonacci retracement (Fibo.) ของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ถึง 4 มกราคม 2565 กลับหัวกลับหาง
อย่างไรก็ตาม การบรรจบกันของ 50-SMA เส้นแนวต้านยาวสองสัปดาห์ และ 100-SMA กลายเป็นอุปสรรคสำคัญรอบ 115.10 ที่ราคากระทิง USD/JPY จะข้ามหลังจากนั้น
ในขณะเดียวกัน 61.8% และ 78.6% Fibo ระดับตามลำดับประมาณ 114.00 และ 113.40 จะจำกัดการลดลงในระยะสั้นของราคาก่อนที่จะส่งผู้ขาย USD/JPY ไปสู่จุดต่ำสุดปลายปี 2021 รอบ 112.50
โดยรวมแล้ว ราคา USD/JPY มีแนวโน้มที่จะยังคงแข็งค่าขึ้น แต่ระดับ 115.10 จะเป็นบททดสอบสำหรับคู่ขาขึ้น
USD/JPY: กราฟสี่ชั่วโมง
แนวโน้ม: คาดว่าจะมีอัพไซด์เพิ่มเติม
การวิเคราะห์ราคา GBP/USD: ข้อเสียเพิ่มเติมจากการแตกหัก 1.3655กระทิง GBP/USD ไม่สามารถทะลุเหนือ 200-DMA และปกป้องตัวเลข 1.3700 ได้
การวิเคราะห์ราคา GBP/USD: ข้อเสียเพิ่มเติมจากการแตกหัก 1.3655
17 มกราคม 2022, 07:51
แนวโน้ม: คาดว่าจะอ่อนตัวลงอีก
• GBP/USD ยังคงอ่อนตัว โดยรักษาระดับการดึงกลับของสัปดาห์ที่แล้วจาก 200-DMA
• แนวโน้มขาขึ้นของ MACD ลดลง เกือบจะเป็นสัญญาณซื้อ RSI ที่อ่อนตัวลง
• เส้นแนวต้านก่อนหน้าตั้งแต่เดือนกันยายน เส้นแนวรับอายุสองสัปดาห์มีข้อจำกัดด้านลบทันที
•78.6% Fibonacci retracement level, 100-DMA ทำหน้าที่เป็นตัวกรองการซื้อขายเพิ่มเติม
GBP/USD ดีดตัวจากระดับต่ำสุดระหว่างวันไปที่ 1.3675 ในช่วงเซสชั่นเอเชียของวันจันทร์ ถึงกระนั้นก็ตาม สายเคเบิลคู่ยังคงกลับรถของสัปดาห์ก่อนหน้าจาก 200-DMA
นอกจากความล้มเหลวในการข้ามเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่สำคัญแล้ว การผ่อนคลายความเอนเอียงของ MACD และเงื่อนไข RSI ที่ซื้อมากเกินไปยังบ่งบอกถึงการลดลงอีกของคู่ GBP/USD
อย่างไรก็ตาม การบรรจบกันของแนวต้านก่อนหน้าอายุ 4 เดือนและเส้นแนวโน้มขาขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มกราคมที่ประมาณ 1.3655 กลายเป็นแนวรับระยะสั้นที่สำคัญ
แนวโน้มที่จะท้าทาย GBP/USD หมีก็คือ 61.8% Fibonacci retracement (Fibo.) ของการชะลอตัวของเดือนกันยายน-ธันวาคม ใกล้ 1.3620 เช่นเดียวกับระดับ 100-DMA ที่ 1.3550
ในขณะเดียวกัน การย้ายการกู้คืนอาจพยายามข้ามระดับ 200-DMA ที่ 1.3735 ในขณะที่ Fibo 78.6% ระดับโดยรอบ 1.3755 ทำหน้าที่เป็นตัวกรองเพิ่มเติมไปทางทิศเหนือ
หากกระทิง GBP/USD สามารถข้ามอุปสรรค์ 1.3755 ได้ จุดสูงสุดในเดือนตุลาคมและกันยายน 2564 ตามลำดับประมาณ 1.3835 และ 1.3915 จะอยู่ในโฟกัส
GBP/USD: กราฟรายวัน
การคาดการณ์ราคา GBP/USD: ทางเทคนิค
กราฟรายวัน GBP/USD แสดงให้เห็นถึงการก่อตัวของรูปแบบแท่งเทียนในตอนเย็นที่จุดบรรจบของ 200-DMA ที่สามารถขับเคลื่อน GBP/USD ไปสู่ 100-DMA
แนวรับครั้งแรกจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดของวันที่ 12 มกราคม ที่ 1.3621 ทุกวัน การฝ่าฝืนอย่างหลังจะเผยให้เห็นจุดบรรจบกันของระดับต่ำสุดรายวันของวันที่ 11 มกราคมและ 100-DMA ที่กล่าวถึงข้างต้นที่ 1.3551 หากระดับนั้นเปิดทาง GBP/USD อาจร่วงลงสู่ 1.3500
การวิเคราะห์ราคา GBP/USD: คาดว่าจะฟื้น 1.3600 ภายในสามเหลี่ยมการวิเคราะห์ราคา GBP/USD: คาดว่าจะฟื้น 1.3600 ภายในสามเหลี่ยมขาขึ้นประจำสัปดาห์
11 มกราคม 2022, 08:10
• GBP/USD กลับการดึงกลับของวันก่อนหน้าจากจุดสูงสุดสองเดือน
• วัวกระทิงดูเหมือนว่าจะหมดแรงเกินกว่า 50-SMA, MACD ชี้ไปที่การดึงกลับ
• เส้นแนวต้านในแนวนอนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน รวมเส้นบนของสามเหลี่ยมเพื่อทดสอบตลาดกระทิง
GBP/USD เทียบการขาดทุนของวันก่อนหน้าประมาณ 1.3580 ท่ามกลางเซสชั่นเอเชียของวันอังคาร
ในการทำเช่นนั้น คู่สายเคเบิลจะรับการเสนอราคาภายในรูปแบบสามเหลี่ยมจากน้อยไปมากในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม RSI ที่คงที่และ MACD ที่ซบเซาร่วมกับความล้มเหลวของทั้งคู่ที่จะอยู่เหนือ 1.3600 ทำให้ผู้ขายมีความหวัง
ในขณะที่เกณฑ์การเคลื่อนตัวของตาในปัจจุบัน 1.3600 เส้นบนของสามเหลี่ยมที่ระบุตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมและเส้นแนวนอนที่ประกอบด้วยหลายระดับที่ทำเครื่องหมายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ให้เน้นที่ระดับ 1.3610 เป็นอุปสรรคสำคัญ
หากราคาขึ้นเหนือ 1.3610 ซึ่งมีโอกาสน้อยลง การพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ใกล้ 1.3700 จะไม่สามารถตัดออกได้
ในทางกลับกัน การเคลื่อนที่แบบดึงกลับในขั้นต้นอาจมุ่งไปที่เส้นล่างของสามเหลี่ยมใกล้กับ 1.3550 แม้ว่าตลาดหมียังคงไม่มั่นใจเกินระดับ 50-SMA ที่ 1.3530 การทำหน้าที่เป็นตัวกรองด้านลบก็คือการแกว่งตัวของเดือนธันวาคมล่าสุดที่ใกล้ 1.3480 และระดับ 200-SMA ที่ 1.3355
โดยรวมแล้ว คู่ GBP/USD ไม่สามารถคงความแข็งแกร่งไว้ได้เมื่ออยู่ท่ามกลางผู้ขายชั้นนำที่หยอกล้อกันหลายวัน
GBP/USD: กราฟสี่ชั่วโมง
เทรนด์: คาดดึงกลับ
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 05/01/2022เข้าใกล้ช่วงเลือก ยาเม็ดสีแดง หรือสีเขียว เหมือนในหนัง the matrix
กราฟวันนี้บอกอะไรบ้าง มาลองดูกันครับ
ราคายังคงถูกดดันจาก EMA 50 200 จับตาว่าจะ cross กันหรือไม่ ราคาเลยถูกกดไว้จนกว่าตรงนี้จะชัดเจน
ดูจากเส้นแนวรับ แนวต้าน ในกรอบสีเหลือง บีบแคบเข้ามาทุกทีๆ และแท่งเทียนจะไปชนเส้นแนวต้านสีส้มแล้ว ใกล้ได้เวลาแท่งเทียนตัดสินใจแล้ว จะทะลุขึ้นข้างบน หรือ ล่วงลงข้างล่าง
มาดู indicator บอกอะไรเราได้บ้าง
MACD ตัดกันลงแล้ว histogram เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงให้เห็น แต่โมเมนตั้ม ยังไม่ได้เหวี่ยงรุนแรง แสดงว่าราคาค่อย ๆ ซึมลงๆ
แนวรับสำคัญ ราวๆ 45K ยังรับได้อย่างเหนียวแน่ว แต่ถูกทดสอบถี่ แบบนี้ก็ไม่มี อาจรับไม่ไหว ถ้าหลุดมา ราคามีโอกาสลงไปถึง zone แนวรับถัดไป ช่วง 42K-40k แต่คนอาจจะแย่งกันเข้าช้อน จนราคาอาจไปไม่ถึง
RSI พอตีเส้นแนวรับ-แนวต้านประกบแล้ว ก็บีบเข้า จนแคบมากเช่นกัน ถ้าเป็นพฤติกรรมคล้ายช่วงเดือน พฤษภา ก็มีโอกาสหลุดแนวรับลงมาได้ครับ แล้วค่อยขึ้นไปใหม่อีกรอบ ถ้าเป็นแบบนี้จะสวย
STORSI เริ่มมุ่งเข้าสูง แนว Over Sold ราคายังมีโอกาสลงต่อได้อีก
*** สิ่งที่ควรเฝ้าติดตาม ***
- รอสัญญาณ macd ตัดกันขึ้น
- รอสัญญาณ STORSI เข้า Over Sold แล้วตัดกันขึ้นมาอีกที
- รอสัญญาณ RSI Break
สำหรับสายเล่นสั้นๆ การ swing เริ่มตีกรอบแคบ อาจจะ swing ขึ้น ลง ในกรอบ ไม่ค่อยมากแล้ว
สำหรับสายเล่นกลางๆ รอดู แท่งเทียน break เส้น แนวรับ-ต้าน สีเหลืองน่าจะปลอดภัยกว่า รอให้เลือกข้างก่อน
สำหรบสายเล่นขาว รอ break แนวต้านเส้นสีส้ม หรือรอสัญญาณ CDC เป็นมีเขียว
**ช่วงนี้ถ้าไม่รีบ ก็รอให้เห็นก่อนว่าออกหัว หรือ ออกก้อยครับ
**ส่วนใครรับ ก็แบ่งไม้ ทะยอยเก็บนะครับ สะสมราคาบริเวณแนวรับ
** บทความนี้ไม่ได้แนะนำ หรือ ชักชวนให้ลงทุน เป็นเพียงแต่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในความเห็นส่วนตัว
** การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณของตัวท่านเองในการตัดสินใจลงทุน
การวิเคราะห์ราคาEUR/USD:100-SMAปกป้องตลาดกระทิงที่สูงกว่า 1.1300การวิเคราะห์ราคา EUR/USD: 100-SMA ปกป้องตลาดกระทิงที่สูงกว่า 1.1300
31 ธันวาคม 2564, 08:59
Trend: Sideways
•EUR/USD จางหายไปจาก 100-SMA ลดลงมากที่สุดในรอบสองสัปดาห์ในวันก่อนหน้า
• RSI คงที่ คำแนะนำ MACD ที่ซบเซาที่การขยายระยะระหว่าง 100-SMA และแนวต้านรายเดือน
• ท็อปส์กลางเดือนพฤศจิกายนเพิ่มตัวกรองกลับหัวกลับหาง เส้นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นห้าสัปดาห์ทำหน้าที่เป็นการสนับสนุนเพิ่มเติม
EUR/USD รวมการขาดทุนรายวันที่หนักที่สุดในรอบสองสัปดาห์ด้วยช่วงที่ผันผวนเหนือ 1.1300 ในช่วงเริ่มต้นของเอเชียในวันศุกร์ ที่กล่าวว่าใบเสนอราคาพุ่งใกล้ 1.1325 ตามเวลากด
ในการทำเช่นนั้น คู่สกุลเงินหลักพยายามดิ้นรนเพื่อให้ดีดตัวออกจาก 100-SMA หลังจากกลับตัวจากระดับสูงสุดรายเดือนในวันพุธ
แม้ว่าผู้ซื้อ EUR/USD ยังคงกลับมาจาก 100-SMA ออสซิลเลเตอร์ที่ซบเซา นั่นคือ MACD และ RSI บ่งบอกถึงประสิทธิภาพรายวันที่ไม่เคลื่อนไหวอื่นของทั้งคู่เมื่อเข้าใกล้ปี 2022
ที่กล่าวว่าการพังทลายของระดับ 100-SMA ที่ 1.1300 จะได้รับการสนับสนุนที่น่าจับตามองอีกประการหนึ่งคือเส้นแนวโน้มขาขึ้นอายุสองสัปดาห์ใกล้ 1.1280
นอกจากนี้ การท้าทายหมี EUR/USD ยังเป็นแนวรับที่ลาดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ใกล้ 1.1245
ในขณะเดียวกัน การกวาดล้างอุปสรรคแนวนอนรายเดือนรอบ 1.1360 จะต้องมีการตรวจสอบจากจุดสูงสุด 16 พฤศจิกายนที่ 1.1385 เพื่อโน้มน้าวให้กระทิง EUR/USD
ต่อจากนั้น วิ่งขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในช่วงเดือนมิถุนายนและมีนาคม 2020 ตามลำดับใกล้ 1.1425 และ 1.1500 ไม่สามารถตัดออกได้
EUR/USD: กราฟสี่ชั่วโมง
เทรนด์: ไปด้านข้าง
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 28/12/2021ทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่โรยด้วยหนามกุหลาบ
มาดูใน time frame 4h กัน
ราคายังยืนเหนือ EMA200 ไม่ได้ แรงเทขายเกร็งกำไรกันยังเยอะ จนราคาถูกเทหนัก
แท่งเทียนเกิดเป็น pattern double top ราคามีโอกาสลงมาทดสอบเส้นแนวรับ ที่ราว ๆ 47K
MACD ยังอยู่เหนือ 0 แต่ก็เข้าใกล้ 0 มาก ถ้าลงต่ำกว่า 0 จะพลิกเป็นขาลงในระยะสั้นๆ
RSI หลุด 50 มีโอกาสลงไปได้อีก ซึ่งจะฉุดราคาให้ลงตามลงไปด้วย
**** จุดเฝ้าติดตามใน tf 4h คือ
- STO RSI เริ่มเข้า zone over sold แล้ว รอสัญญาณตัดกันก่อน หรือให้หมดแรงเทขายก่อน น่าจะประมาณสัก 1 ทุ่ม
- ราคาอาจลงทดสอบแนวรับ แต่ไม่ควรหลุดแนวรับ หรือ ช่วงราคา 47K-48K
**** สรุป ใน tf 4h ****
- ราคายังคงผันผวนมาก
- macd อย่าต่ำกว่า 0 เป็นใช้ได้ ไม่งั้นอาจเกิด panic เทขายตามๆกัน
- ราคามีโอกาส swing ใน channel กรอบสีเหลือง
** บทความนี้ไม่ได้แนะนำ หรือ ชักชวนให้ลงทุน เป็นเพียงแต่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในความเห็นส่วนตัว
** การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณของตัวท่านเองในการตัดสินใจลงทุน
เกณฑ์ 1.1200 และระดับต่ำสุดรายปีที่ 1.1186 อาจใกล้เข้ามาแล้วการวิเคราะห์ราคา EUR/USD: การยืนยันรูปสามเหลี่ยมจากน้อยไปมากกำลังรอ 1.1120 on Fed day
15 ธันวาคม 2564, 06:21
•EUR/USD ยังคงอยู่ในกราฟขาลงหลังจากขาลงสองวัน
• เงื่อนไข MACD จุดสูงสุดที่ต่ำลงช่วยให้ผู้ขายตั้งเป้าไว้ที่ระดับต่ำสุดในปี 2021
•200-SMA เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ upside barrier, double tops ป้องกันการกู้คืนทันที
•Fed Preview: ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากจุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยปี 2022 แนวทางการซื้อขายรอบสุดท้ายของปี 2564
EUR/USD ถือครองฐานล่างหลังจากการลดลงสองวัน ท้าทายเส้นแนวรับของสามเหลี่ยมขาขึ้นระยะสั้นที่ใกล้ 1.1250 ระหว่างช่วงต้นของเอเชียในวันพุธ
สัญญาณ MACD ที่เป็นขาลงและรูปแบบ double top ของคู่สกุลเงินหลักประมาณ 1.1330 อย่าลืมจุดต่ำสุดที่แสดงให้เห็นตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน และหนุนคู่สกุลเงิน EUR/USD เพื่อพิชิตแนวรับ 1.1250 ในทันที
ต่อจากนั้น เกณฑ์ 1.1200 และระดับต่ำสุดรายปีที่ 1.1186 อาจใกล้เข้ามาแล้วสำหรับผู้ขายคู่เงินก่อนที่จะกำหนดเป้าหมายระดับ Fibonacci Expansion (FE) 61.8% ของวันที่ 28 ตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายนที่ขยับใกล้ 1.1120
ในขณะเดียวกัน การกวาดล้าง upside ของอุปสรรค์ 1.1330 ทันทีจะนำราคา EUR/USD ไปยังภูมิภาค 1.1375-87 ซึ่งประกอบด้วย 200-SMA ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของรูปสามเหลี่ยมดังกล่าว
หากราคา EUR/USD ยังคงทรงตัวเหนือ 1.1375 อัตราการเห็นตัวเลขที่ผ่าน 1.1500 จะไม่สามารถตัดออกได้
EUR/USD: กราฟสี่ชั่วโมง
Eth รอเลือกทางETHUSDT
24/11/2021
อธิบายกราฟ
Sideway ให้ใจบาง
ราคา ETH ตอนนี้ได้ปรับฐานลงมาที่เส้น EMA 50 แนวรับสำคัญ และ เส้น B.Band ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเส้นที่แข็งจริงๆเพราะราคาอยู่ที่เส้นนี้เกือบจะ 10 วันแล้วยังไม่ไปไหนทำ รูปแบบ Triangle อยู่บน แนวรับสำคัญนี้ RSI ยืนต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงแรงซื้อที่ยังไม่ได้มากพอ แม้ฮิทโทแกรมของMACD จะเริ่มชันน้อยลง พยายามจะทำท่า Golden Cross ยังดีที่เส้น MACD ยันรันอยู่บนเส้น 0 ทำให้สถานการณ์ของ ETH ไม่ได้ดูแย่นัก อีกทั้งราคาให้ปรับฐานลงมาในจุดที่สวย
จึงทำให้เม่าวิเคราะห์ออกมาได้ดังนี้
โอกาส
ถ้าราคาเลือกเบรคขึ้นด่านแรกในระยะสั้นๆที่ต้องเจอคือ ระยะยืดของ Triangle นี้ ช่วงราคา 46xx ถ้าผ่านไปได้ ก็จะเจอแนวต้านเก่า 48xx จากนั้นเรามาวิเคราะห์กันอีกครั้งตอนนั้นจากกราฟว่าราคามีโอกาสยืดไปได้ถึงไหน
ความเสี่ยง
ถ้าราคาเลือกเบรคลง หมายความว่าแนวรับสำคัญนี้รับไม่อยู่ เรามีโอกาสได้จะได้รับที่ราคา 32xx-36xx ถ้าหากเป็นกรณีนี้ใจเม่าจะเทไปทางรับอยู่ แต่ก็มีแผนสำรองหากเกิดดารผิดพลาดไว้เสมอ วางแผนรับมือในกรณีที่ผิดพลาดไว้ดีๆนะคะ
ตอนนี้ เม่าเองได้แบ่งไม้เข้าช่วงราคานี้ไปเรียบร้อย แต่ก็ยังมีแผนรองรับไว้เสมอไม่ All in ถ้าหากผิดพลาด กระสุนก็พร้อมเสมอ แล้วเพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง บริหารอะไรกันยังไง มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อเป็นไอเดียกันที่กลุ่มได้นะคะ
ทั้งนี้ การวิเคราะห์เป็นเพียงมุมมองและประสบการณ์ของเม่าเพียงคนเดียว ซึ่งไม่สามารถการันตีว่าจะเป็นไปตามนี้เสมอ
บทวิเคราะห์นี้วิเคราะห์จากกราฟที่เกิดขึ้นในขณะนี้เท่านั้น ช่วงราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามสถานการณ์
ปล.เป็นการวิเคราะห์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้เป็นการชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด ทุกท่านต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ในการลงทุน
Divergence ทองคำDivergence ในทาง เทคนิคอล หมายถึง การที่กราฟราคาหุ้น กับ Indicator ขยับในทิศทางที่แตกต่างกัน ไม่สอดคล้องกัน โดยปกติ Indicator ที่ใช้ดูสัญญาณ Divergence จะเป็นเครื่องมือประเภท Oscillator เช่น RSI, ROC (Rate of Change), MACD, Stochastic หรือ MACD Oscillator ซึ่งเครื่องมือพวกนี้ จะใช้แสดงพลังของราคา หรือ Momentum ของราคา หรือ การเหวี่ยงของราคา
เปิดที่ราคา 1849 Take profit 1792 Stop loss 1877
ความลับ 10 กลยุทธ์ ที่ทำให้ไม่กำไรสักที (เชื่อว่าต้องช่วย)เคยถามตัวเองไหมครับว่าในแต่ละสถานะ ไม่กำไรสักที โดนแต่ stop loss หรือถ้าได้กำไรก็ได้น้อย
วันนี้ผมจะบอกความลับครับ
ความลับคือ การ identify phase
ปกติจะมีแค่
1. trending คือ ทำ higher high higher low ไปเรื่อยๆ สำหรับขาขึ้น (ขาลงศึกษากลับกัน)
2. ranging คือ กราฟไม่ทำ higher high higher low แล้ว อยู่ใน process พักตัว
ซึ่ง ranging จะมีอยู่สองแบบครับ
ranging continuation คือแบบพวกกลุ่มพักแล้วไปต่อเลยสั้นๆ พวก flag
ranging sideway ตือ พวกที่ไซย?์เวย์ นานหน่อย ก่อนจะ ไปต่อ continue the trend หรือ reversal the trend
3. reversal ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ timeframe ที่เทรดครับ ถ้าเทรดกราฟรายนาที reversal ก็เกิดบ่อยครั้ง
แต่ปกติแล้วมันจะมีกราฟ daily คุมอยู่ เช่น บิทคอยขึ้น มันก็จะส่งแรงขึ้นตลอด
ดังนั้นความลับอีกจุดที่ผมจะเปิดเผยคือ การที่เล่นในทิศทางกับ timeframe ใหญ่ งงไหมครับ
เช่น บิทคอยกราฟ daily เป็นซื้อ
ถ้าคุณเทรดกราฟรายช.ม. ก็ควรต้องรอสัญญาณเป็นซื้อก่อน แล้วเข้าซื้อ มันจะได้ไม่สวนกับตัวหลัก
และหลายๆคนคือ ซื้อแล้วอยากให้ไปเลย ผมแนะนำแบบนี้ครับ สำหรับเข้า position อาจต้องใช้ 5-15 นาทีในการเข้า เพื่อให้แม่นยำ และให้มันเป็นสัญญาณซื้อเหมือนกัน
ดังนั้นสรุปคือ ทั้งสาม ต้องซื้อหมด daily hour minute
และ forex บิทคอย ผมบอกเลยนะครับว่า มือใหม่ที่เคยเทรดหุ้นมาก่อน มาเล่น forex จะตายหมด
เพราะ technical แบบหุ้น คือ กราฟ day มีแต่กลยุทธ์ breakout อย่างเดียว
ดังนั้นไปใช้กับพวกกราฟรายชม. รายนาที จะตายหมดครับ
ปล. ผมไม่อยากจะบอกว่า technical ที่ร่ำเรียนมา เอาจริงๆใช้ไม่ได้เลยครับ เพราะออกแบบมาให้ซื้อสูง ขายต่ำอย่างเดียว และที่สำคัญตลาดต้องมีทิศทางด้วย ถึงจะไปตามนั้น
จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ต่อให้อ่านเทคนิคคอลอีกกี่ร้อยเล่ม ถ้าเล่มนั้น เขียนโดยคนที่ไม่ใช่คนเคยเทรด หรือเขียนโดยคนเทรดแต่กราฟ daily แบบหุ้น
แนวคิดการเทรดในกราฟรายชม. รายนาที จะผิดไปหมดครับ
สิ่งที่ผมอยากให้จำเสมอคือ แนวโน้มเกิดแล้ว จะคงอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงง่ายๆ
ดังนั้นสิ่งแรกที่ผมเห็นความผิดพลาดคือ การที่เราเล่นเป็นแต่ reversal ซึ่งจริงๆแล้ว reversal มันไม่ได้เกิดขึึ้นง่าย
แต่เราเล่น trending ไม่เป็น
ซึ่งก็ต้องบอกว่า trending ก็ไม่ได้เล่นง่าย หากไม่ได้เข้าใจ phase มันให้ดีครับ
ผมแนะนำเครื่องมือตัวนึงที่ช่วยผม identify phase ได้ดีนั้นคือ macd ครับ
ถ้าทั้งสามกราฟ daily hour minute ตัด signal buy โดยคุมกันอยู่ เช่น day แล้ว hour แล้ว minute ตัด นี่แหละครับ น่าจะเป็น phase ที่ buy ได้
ซึ่งปกติต้องรอเวลาหน่อยนะครับ เพราะมันจะตัดพร้อมๆกันหลายๆววันทีนึง
แต่อย่าลืมนะ macd เป็น lacking indicator การดู price action หน้ากราฟ สำคัญที่สุด
แค่เเอามันมาช่วยบอก phase เ้รา เพื่อไม่ให้เทรดไปมั่วๆไม่ดูอะไร
ผมไม่รูจะเขียนไรต่อแล้วครับ ดึกแล้ว ถ้าเพื่อนๆท่านใดมีคำถาม ใส่มาได้ครับ
ข้อ 7 ตามเทรนหลักนะครับ
บิทคอยน์ตั้งท่าสร้างขาลงขาลงจาก $67,000 ของบิทคอยน์ครั้งล่าสุดแรงพอที่จะหลุดกรอบราคาขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่ $50,000 ก่อให้เกิดความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นบิทคอยน์ฟอร์มตัวเป็นรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) เมื่อพิจารณาที่อินดิเคเตอร์ จะเห็นว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นของ MACD ได้ตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวลงมาแล้ว ในขณะเดียวกัน อินดิเคเตอร์อย่าง RSI และ ROC ก็ได้วิ่งส่งสัญญาณขาลงออกมาก่อนแล้ว
เมื่ออินดิเคเตอร์ RSI สามารถตัดเส้น neckline ลงมาได้ นั่นหมายความว่าการฟอร์มตัวแบบหัวไหล่ของขาลงได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ในขณะเดียวกัน อินดิเคเตอร์ ROC ก็ได้ฟอร์มตัวอยู่ในกรอบราคาขาลง มาตั้งแต่ก่อนเส้นค่าเฉลี่ยของ MACD จะตัดกันเสียอีก ถึงภาพทางเทคนิคจะชี้ไปทางขาลง แต่เราขอออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้เชื่อเช่นนั้น ตราบใดที่ตัวกราฟยังไม่หลุดเส้น neckline ลงมา เราจะไม่เรียกว่ากราฟบิทคอยน์ว่าเป็นขาลง
Reef strong BReef TF 4hมีโอกาส เกิด strong B ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ MACD ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ MACD เกิดตัดระหว่างกลางเขา hight สูงขึ้น momentum ไม่ขึ้น มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด Strong B
แนวโน้มยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ inside barกราฟน่าจะฟอร์มตัวอยู่ในแท่งกราฟ daily ที่เป็นตัวคุมที่ breakout resistance 60000
เพื่อให้คนที่อยากขาย (ทั้งคนที่ปิดที่ถือ L มาและก็คนที่อยากจะสวน S กัน)
ซึ่งปกติใน phase นี้ วอลุ่มต้อง dry ไป
ตอนนี้ใน phase นี้ เราคงต้องรอดูกราฟทำการ dry out ไปก่อน
ก่อนจะไปต่อ ดังนั้นสำหรับผม ผมยังไม่เห็นสัญญาณขาย ดังนั้นก็ไม่ควรขาย หรือเปิด S ใส่แบบไม่จำเป็น
ถ้าไม่ได้เฝ้ากราฟ หรือตั้ง STOP LOSS
ควรหาจังหวะซื้อมากกว่า....
มันไปใช่เรื่องที่แปลกเลยที่จะบอกอีกครั้งว่า แนวโน้มขาขึ้น ความหมายคือ
ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นปกติที่เราในฐานะผู้อยู่ในแนวโน้ม ก็ย่อมต้องซื้อราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้นการมองในลักษณะที่ว่า "ราคาสูงแล้ว แล้วไม่ซื้อ" ไม่ผิด
แต่จะผิดอย่างมาก ถ้ามองว่า "ราคาสูงแล้ว แล้วไปเปิดอะไรสวนเทรนแบบไม่ได้มีสัญญาณขาการเปลี่ยนแปลง
เช่น อยู่ดีๆไปเปิด short สวน ยกเว้นจะมีสัญญาณอะไรที่ท่านๆรู้ว่า
ลงเพราะอันนี้แน่ๆ อันนี้ถ้ารู้ก็๋แบ่งปันกันได้ครับ
และอีกจุดที่จะบอกคือ การเปลี่ยนแนวโน้มนั้น เป็นเรื่องที่ยากกว่า การคงอยู่ของแนวโน้ม
แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงพยายามอยากจะเปลี่ยนแนวโน้มกันมากมายเหลือเกิน
อีกจุดหนึ่งที่น่าจะมีคนสงสัย
macd 4 hour rsi sto ในรายชม. เป็น divergence หมดแล้วนะ
สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ งั้นผมก็บอกได้ว่า macd daily weekly ไม่ได้เป็นแบบนั้น
เครื่องมือถูกออกแบบมา ส่วนใหญ่ที่เราใช้ ในเชิง reversal
ซึ่งจริงๆ เราน่าจะใช้มันในเชิง continuation ของแนวโน้มมากกว่า
ดังนั้นสรุป divergence จริง แต่มี timeframe ที่ใหญ่กว่าคุมอยู่ หรือเปล่า?
และระมัดระวังการใช้เครื่องมือในเชิง reversal ตลอดเวลา
สุดท้ายเรื่องของแนวรับแนวต้าน
อยากให้มองว่า มันทำหน้าที่ในลักษณะที่ให้คนมีสถานะมาขาย
แต่ไม่ใช่ทำหน้าที่แบบว่า ยังไม่ได้มี สัญญาณว่าไม่ไปต่อใดๆ แล้วมาแทงลง short sell
ดังนั้นบิทคอยในราคา 60000 เป็นแนวต้านถูกต้อง
หลายๆท่านอาจถูกก็ได้นะที่มาแทงลงที่แนวต้าน
แต่สำหรับผม ผมคงไม่ได้ทำอะไรจนกว่ามันจะ prove ว่ามันไม่ขึ้นแล้ว
และส่วนใหญ่ในหัวผมตอนนี้ก็คิดอยู่ว่า มันจะย่อมากน้อยแค่ไหน เพื่อรอซื้อในทิศทางฝั่งขึ้น
ทั้งหมดสมมตินะ พรุ่งนี้ บิทคอยลงเลย ไป 55000
ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะมันก็จะโดน stop loss ของเรา 1 ครั้งเท่านั้นเอง
ซึ่งถ้ามันเป็นแบบนั้น เราก็แค่เปลี่ยนตามที่กราฟมันเป็น
ซึ่งมันก็ถููกต้องเลยนะครับ ที่เราจะมองกราฟแบบที่มันเป็น
ไม่ใช่แบบที่เราอยากให้มันเป็น
ด้วยรัก
การพยากรณ์ราคาทองคำ: XAU/USDยังคงมีแนวโน้มขาลง 3สัปดาห์ที่ 1,717การพยากรณ์ราคาทองคำ: XAU/USD ยังคงมีแนวโน้มขาลง 3 สัปดาห์ที่ 1,717 ดอลลาร์จากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่แข็งค่าขึ้น
24 กันยายน 2021, 01:46 น.
• ทองคำรวมการขาดทุนรายวันที่ใหญ่ที่สุดในสัปดาห์ใกล้ระดับต้นเดือนสิงหาคม
• ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากข่าวของ Evergrande การคิดใหม่หลังเฟด และการมองในแง่ดีด้านวัคซีน/การกระตุ้น
• ควรจับตาดูผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ อย่างรอบคอบ โดยจับตาจีน ซึ่งเป็นข้อมูลระดับสอง
หมีทองคำ (XAU/USD) พักฟื้นรอบระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยเพิ่มราคาเสนอเป็น 1,744 ดอลลาร์ในช่วงเซสชั่นเอเชียช่วงต้นของวันศุกร์
โลหะสีเหลืองร่วงลงมากที่สุดในหนึ่งสัปดาห์ในวันก่อนหน้า หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ พิมพ์การกระโดดรายวันที่ใหญ่ที่สุดในรอบเจ็ดเดือน ประมาณ 1.43% ตามเวลาที่กด
หลังจากปฏิกิริยาตอบโต้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตกต่ำในขั้นต้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเนื่องจากผู้ค้าประเมินปรากฏการณ์ที่ตกต่ำของนายธนาคารกลางสหรัฐอีกครั้ง ที่กล่าวว่าเฟดออกจากอัตรามาตรฐานไม่เปลี่ยนแปลงใกล้ 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด แต่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดลงอย่างจริงจังมากขึ้น
ที่อื่นๆ ความกลัวที่ค่อยๆ จางหายไปว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Evergrande ที่ประสบปัญหาของจีนเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญ บริษัทมีแผนปรับโครงสร้างและแสดงความพร้อมที่จะจ่ายคูปองตามกำหนดเวลาในขณะที่ยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการยกระดับความเชื่อมั่น
เป็นที่น่าสังเกตว่าการพูดคุยที่คืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐและการมองโลกในแง่ดีของวัคซีนช่วยเพิ่มความเสี่ยงให้กับอารมณ์
ที่กล่าวว่า Wall Street แสดงให้เห็นภาพที่ร่าเริงของความเชื่อมั่นของตลาดในขณะที่ S&P 500 Futures เพิ่มขึ้น 0.10% อย่างช้าที่สุด
ควรสังเกตว่าการอ่านค่า PMI เบื้องต้นของสหรัฐในเดือนกันยายนที่อ่อนลงนั้นไม่สามารถเรียกคืนผู้ซื้อทองคำได้ และดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ก็ร่วงลงในวันพฤหัสบดีเช่นกัน ซึ่งมากที่สุดในรอบเดือน
ต่อไป ผู้ค้าทองคำต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐสำหรับแรงกระตุ้นใหม่ ในขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนสิงหาคม ที่คาดการณ์ไว้ 0.7 ล้านเทียบกับ 0.708 ล้านก่อนหน้า อาจมีเบาะแสเพิ่มเติม
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
แม้จะเด้งกลับ 23.6% Fibonacci retracement (Fibo.) ของ downside มิ.ย.-ส.ค. ราคาทองคำยังคงทะลุแนวรับอายุ 6 สัปดาห์เมื่อวันก่อน ตอนนี้แนวต้านอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ผู้ขายที่ชื่นชอบคือสัญญาณ MACD ขาลงและการซื้อขายที่ต่ำกว่า 10-DMA รวมถึงเส้นแนวโน้มจากมากไปน้อยตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน
อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าราคาต่ำสุด 10 สิงหาคมใกล้ 1,717 ดอลลาร์อาจท้าทายหมีทองคำที่ทะลุ 23.6% Fibo ระดับ $1,741 เนื่องจาก RSI นิ้วใกล้เคียงกับเงื่อนไขการขายมากเกินไป
หากราคาโลหะลดลงต่ำกว่า 1,717 ดอลลาร์ เกณฑ์ที่ 1,700 ดอลลาร์และระดับต่ำสุดรายปีใกล้ 1,687 ดอลลาร์จะกลับสู่แผนภูมิ
ในขณะเดียวกัน การขึ้นเหนือแนวต้านแนวรับที่ใกล้ 1,750 ดอลลาร์จะถูกตรวจสอบโดยระดับ 10-DMA ที่ 1,770 ดอลลาร์และแนวต้านระยะยาวสามสัปดาห์ใกล้กับ 1,780 ดอลลาร์
หลังจากการทะลุกลับของ $1,780 ระดับ Fibonacci retracement 50% และ 61.8% ตามลำดับที่ประมาณ $1,801 และ $1,829 อาจสร้างความบันเทิงให้กับผู้ซื้อทองคำก่อนการท้าทายด้วย double tops ที่ $1,834 ที่ $1,834
โดยรวมแล้ว ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงขาลง แต่ $1,717 จะเป็นปัจจัยที่ยากสำหรับผู้ขาย
ทอง: กราฟรายวัน 3 สัปดาห์ที่ 1,717 ดอลลาร์จากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่แข็งค่าขึ้น
24 กันยายน 2021, 01:46 น.
• ทองคำรวมการขาดทุนรายวันที่ใหญ่ที่สุดในสัปดาห์ใกล้ระดับต้นเดือนสิงหาคม
• ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากข่าวของ Evergrande การคิดใหม่หลังเฟด และการมองในแง่ดีด้านวัคซีน/การกระตุ้น
• ควรจับตาดูผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ อย่างรอบคอบ โดยจับตาจีน ซึ่งเป็นข้อมูลระดับสอง
หมีทองคำ (XAU/USD) พักฟื้นรอบระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยเพิ่มราคาเสนอเป็น 1,744 ดอลลาร์ในช่วงเซสชั่นเอเชียช่วงต้นของวันศุกร์
โลหะสีเหลืองร่วงลงมากที่สุดในหนึ่งสัปดาห์ในวันก่อนหน้า หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ พิมพ์การกระโดดรายวันที่ใหญ่ที่สุดในรอบเจ็ดเดือน ประมาณ 1.43% ตามเวลาที่กด
หลังจากปฏิกิริยาตอบโต้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตกต่ำในขั้นต้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเนื่องจากผู้ค้าประเมินปรากฏการณ์ที่ตกต่ำของนายธนาคารกลางสหรัฐอีกครั้ง ที่กล่าวว่าเฟดออกจากอัตรามาตรฐานไม่เปลี่ยนแปลงใกล้ 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด แต่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดลงอย่างจริงจังมากขึ้น
ที่อื่นๆ ความกลัวที่ค่อยๆ จางหายไปว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Evergrande ที่ประสบปัญหาของจีนเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญ บริษัทมีแผนปรับโครงสร้างและแสดงความพร้อมที่จะจ่ายคูปองตามกำหนดเวลาในขณะที่ยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการยกระดับความเชื่อมั่น
เป็นที่น่าสังเกตว่าการพูดคุยที่คืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐและการมองโลกในแง่ดีของวัคซีนช่วยเพิ่มความเสี่ยงให้กับอารมณ์
ที่กล่าวว่า Wall Street แสดงให้เห็นภาพที่ร่าเริงของความเชื่อมั่นของตลาดในขณะที่ S&P 500 Futures เพิ่มขึ้น 0.10% อย่างช้าที่สุด
ควรสังเกตว่าการอ่านค่า PMI เบื้องต้นของสหรัฐในเดือนกันยายนที่อ่อนลงนั้นไม่สามารถเรียกคืนผู้ซื้อทองคำได้ และดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ก็ร่วงลงในวันพฤหัสบดีเช่นกัน ซึ่งมากที่สุดในรอบเดือน
ต่อไป ผู้ค้าทองคำต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐสำหรับแรงกระตุ้นใหม่ ในขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนสิงหาคม ที่คาดการณ์ไว้ 0.7 ล้านเทียบกับ 0.708 ล้านก่อนหน้า อาจมีเบาะแสเพิ่มเติม
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
แม้จะเด้งกลับ 23.6% Fibonacci retracement (Fibo.) ของ downside มิ.ย.-ส.ค. ราคาทองคำยังคงทะลุแนวรับอายุ 6 สัปดาห์เมื่อวันก่อน ตอนนี้แนวต้านอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ผู้ขายที่ชื่นชอบคือสัญญาณ MACD ขาลงและการซื้อขายที่ต่ำกว่า 10-DMA รวมถึงเส้นแนวโน้มจากมากไปน้อยตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน
อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าราคาต่ำสุด 10 สิงหาคมใกล้ 1,717 ดอลลาร์อาจท้าทายหมีทองคำที่ทะลุ 23.6% Fibo ระดับ $1,741 เนื่องจาก RSI นิ้วใกล้เคียงกับเงื่อนไขการขายมากเกินไป
หากราคาโลหะลดลงต่ำกว่า 1,717 ดอลลาร์ เกณฑ์ที่ 1,700 ดอลลาร์และระดับต่ำสุดรายปีใกล้ 1,687 ดอลลาร์จะกลับสู่แผนภูมิ
ในขณะเดียวกัน การขึ้นเหนือแนวต้านแนวรับที่ใกล้ 1,750 ดอลลาร์จะถูกตรวจสอบโดยระดับ 10-DMA ที่ 1,770 ดอลลาร์และแนวต้านระยะยาวสามสัปดาห์ใกล้กับ 1,780 ดอลลาร์
หลังจากการทะลุกลับของ $1,780 ระดับ Fibonacci retracement 50% และ 61.8% ตามลำดับที่ประมาณ $1,801 และ $1,829 อาจสร้างความบันเทิงให้กับผู้ซื้อทองคำก่อนการท้าทายด้วย double tops ที่ $1,834 ที่ $1,834
โดยรวมแล้ว ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงขาลง แต่ $1,717 จะเป็นปัจจัยที่ยากสำหรับผู้ขาย
ทอง: กราฟรายวัน
การวิเคราะห์ราคา EUR/USD: บูลส์ต้องการการฝ่าวงล้อม 1.1790การวิเคราะห์ราคา EUR/USD: บูลส์ต้องการการฝ่าวงล้อม 1.1790 เพื่อเข้าควบคุมอีกครั้ง
24 กันยายน 2564, 00:30 น.
•EUR/USD ดิ้นรนเพื่อขยายการขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบหกสัปดาห์
•แนวต้านรายเดือน 50-DMA ท้าทายขาขึ้นท่ามกลางสัญญาณ MACD ขาลง
• ผู้ขายทดสอบหยุดหลายแห่งโดยตั้งเป้าไปที่ระดับการขยาย Fibonacci 61.8%
EUR/USD ค่อยๆ อ่อนตัวลงจากขาขึ้นที่ต่ำกว่า 1.1750 ถอยกลับมาที่ 1.1738 อย่างช้าที่สุด หลังจากเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบหกสัปดาห์ ที่กล่าวว่าราคาเห็นในช่วงที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้ค้าชาวเอเชียเริ่มงานในวันศุกร์
แม้ว่า RSI ที่ขายเกินจะกระตุ้นให้ราคา EUR/USD ฟื้นตัวอย่างหนักจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม แต่ตลาดกระทิงก็จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบจากเส้นแนวโน้มที่ลาดลงซึ่งมีอายุสามสัปดาห์และ 50-DMA ความท้าทายในการวิ่งขึ้นคือสัญญาณ MACD ที่หยาบคายและ RSI ที่ทรงตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้
ดังนั้นราคาจึงขึ้นสำหรับการดึงกลับเข้าหาแนวรับระยะสั้นใกล้ 1.1700
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนเพิ่มเติมใดๆ จะถูกสอบสวนโดยระดับต่ำสุดของปีที่ 1.1664 ซึ่งจะทำให้ EUR/USD หมีไปสู่ 61.8% Fibonacci Expansion (FE) ของวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 20 สิงหาคม การลดลงตามด้วยการฟื้นตัวจะเลื่อนไปในช่วงต้น กันยายน รอบ 1.1610
อีกทางหนึ่ง การแบ่งที่ชัดเจนของอุปสรรคสำคัญ 1.1790 ซึ่งประกอบด้วยแนวต้านที่ระบุไว้และ 50-DMA จะนำใบเสนอราคาไปที่ 1.1850 อย่างรวดเร็ว
ในกรณีที่ตลาดกระทิง EUR/USD ยังคงรักษาระดับที่ 1.1850 อยู่ จุดสูงสุดคู่ที่ใกล้ 1.1910 จะเป็นความท้าทายหลักสำหรับพวกเขา
EUR/USD: กราฟรายวัน
แนวโน้ม: คาดว่าจะอ่อนตัวลงอีก
การวิเคราะห์ราคา GBP/USD: Bears รั้งสำหรับเดือนกรกฎาคมที่ต่ำก่อนการวิเคราะห์ราคา GBP/USD: Bears รั้งสำหรับเดือนกรกฎาคมที่ต่ำก่อน BOE
23 กันยายน 2021, 01:01
• GBP/USD ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเดือน
• แนวรับในช่วงสองเดือนที่ขาดหาย, MACD ที่เป็นขาลงสนับสนุนผู้ขาย
• 200 วัน EMA เพิ่มตัวกรองกลับหัว 61.8% Fibonacci retracement ให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ
หมี GBP/USD ยังคงควบคุมที่ 1.3620 ท่ามกลางเซสชั่นเอเชียเริ่มต้นใน Super Thursday หลังจากรีเฟรชระดับต่ำสุดรายเดือนที่ 1.3609 เนื่องจากเฟดลดน้อยลงก่อนไม่กี่ชั่วโมง
การร่วงลงของคู่เคเบิลครั้งล่าสุดได้ทะลุแนวรับที่พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ซึ่งจะรวมสัญญาณ MACD ที่เป็นขาลงเพื่อบอกใบ้ถึงด้านลบเพิ่มเติมของราคาเสนอ
ไฮไลท์ระดับเดียวกันในเดือนสิงหาคมและกรกฎาคมตามลำดับคือประมาณ 1.3600 และ 1.3570 ซึ่งได้รับการสนับสนุนทันทีเมื่อตลาดเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
อ่าน:
อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวของ GBP/USD ที่ผ่าน 1.3570 จะขึ้นอยู่กับว่าสามารถเอาชนะ 61.8% Fibonacci retracement (Fibo.) ของเดือนธันวาคม 2020 ถึงมิถุนายน 2564 ได้ดีเพียงใด ใกล้ 1.3560
ในทางตรงกันข้าม เส้นแนวรับ-กลับแนวต้านใกล้กับ 1.3635 จะช่วยป้องกันการดึงกลับเพื่อแก้ไขก่อน 50% Fibo ระดับใกล้ 1.3695
แม้ว่ากระทิง GBP/USD จะสามารถข้ามเกณฑ์ 1.3700 ได้ แต่ระดับ EMA 200 วันที่ 1.3730 จะเป็นกุญแจสำคัญในการท้าทายผู้ซื้อคู่เงิน
GBP/USD: กราฟรายวัน
Case Study : EVERGRANDE ( 3333 ) ทำตามระบบก็รอดตายไม่ขาดทุน -80%วันสองวันมานี้ ผมเห็นข่าว Evergrande Group ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน กำลังจะผิดนัดการชำระหนี้ และอาจจะเป็นชนวนให้เกิดผลกระทบในวงกว้างได้
ในฐานะที่ผมเป็นสาย Technical Analysis เวลาเจอเคสแบบนี้ ผมก็จะชอบมาเปิดกราฟดู ว่า เอ.. ข่าวร้ายมันออกมาตอนนี้ แล้วกราฟมันเป็นยังไงนะ
ก็พบว่า.. มันเป็น "ขาลง" มาตั้งนานแล้วครับ โดยถ้าดูกราฟ Daily จะเห็นได้ว่า ระบบ อย่าง MACD ตัดศูนย์ หรือ Action Zone ได้มีสัญญาณ "ขาย" มาตั้งแต่ 9 มีนาคม 2021 โน่นแล้ว
และหลังจากมีสัญญาณขาย คุณก็เห็นว่า หลังจากนั้น กราฟมันก็ค่อยๆ ทำทรงดิ่งเหว มาตลอด .. แต่ มันก็ไม่ได้ลงพรวดๆ พราดๆ นะ .. มันค่อยๆ ซึมลงมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ จากวันนั้น จนถึงวันที่เขียนบทความนี้ ก็ประมาณ 6 เดือนพอดี
ทีนี้ มาดูกันว่า เราได้เรียนรู้อะไรกันจากเคสนี้บ้างนะครับ
----------------------------------
1) ระบบแดง ก็ขายสิ จะไปยากอะไร!
----------------------------------
* เคสนี้ เป็นเคส สุดจะคลาสสิค ที่มือใหม่ หลายๆ คน ที่เข้ามาเทรดตามคนที่อวดกำไร และไม่มีระบบ จะโดนตลาดเล่นก่อนเพื่อน
* เพราะหลักคิดของมือใหม่ ที่เผยแพร่กันทั่วไป นั่นก็คือ การ "ไม่ขายไม่ขาดทุน" + "ถือๆ ไว้ เดี๋ยวมันก็กลับมา"
* ซึ่ง ไอ้แนวคิดเนี้ย มันโคตรๆ อันตราย และ มันทำให้คนส่วนใหญ่พอร์ตพังกันมานักต่อนักแล้ว เมื่อตลาดขาลงมาจริงๆ.. นี่ยังไม่นับเรื่องไปถัวเฉลี่ยขาลง เพราะคิดว่าหุ้นถูกแล้วนะ 555
* แต่ ใช่ ตราบใด ตลาดขาลง ไม่มา ...มือใหม่หลายๆ คนก็จะไม่เข้าใจในจุดนี้ครับ จนกว่าจะต้องไปเจอเองกับตัว
* ซึ่งเห็นมะ ถ้าเรามีระบบ อย่าง Action Zone เข้ามาช่วยในการตัดสินใจ เคสอย่างนี้ เราจะชิวมากๆ เพราะ... แค่ ระบบแดง เราก็ขาย แล้วก็ออกมามือว่าง นั่งเฉยๆ ไม่ทำไร ไม่ช้อนซื้อ นั่งดูเฉยๆ แค่นั้นเองครับ
* รอเขียว แล้วก็ค่อยเข้าก็ได้ เพราะถ้าคุณไม่รอเขียว แล้วไปรีบร้อน ช้อนตอนมันลงมาแถวๆ แนว key fibo 0.618-0.786 ก็จะเห็นว่า มันรูดต่อลงไปอีกเยอะเลยล่ะ 555
----------------------------------
2) สัญญาณเตือนจาก indicator มันมักมาก่อนข่าวร้าย เสมอ
----------------------------------
* ก็ตามกราฟแหละ ระบบแดงตั้งแต่ โน่น มีนาคม...เพิ่งจะมีข่าวร้ายกันก็ตอนเดือน กันยายน
* ถ้าใครที่ถือหุ้นตัวนี้ แล้วมีแผน ก็มือว่างกันไปตั้งแต่ปีมะโว้ละ ไม่เห็นจะต้องไปตื่นเต้น panic sell กันตอนนี้เลย
* แต่ ถ้าเป็นมือใหม่ ที่ช้อนซื้อหุ้นตัวนี้มาตลอดทาง หรือ ดอยกันมาหนักเรื่อยๆ ... ผมเชื่อเลยว่า พอมีข่าวร้าย อย่างเคสนี้ออกมา .. ก็แน่นอน ว่า ..เขาเหล่านั้นก็ต้องไปขายที่ก้นกันอีกอย่างแน่นอน 55
* เรื่องนี้ก็สอนให้รู้ว่า ..เหมือนข้อ 1 ระบบแดงก็ขายไปเถ้อ ขายเสร็จแล้วก็นั่งเฉยๆ กันน่ะเป็นม้าย
----------------------------------
3) อย่าไปรีบช้อน ให้รอ confirm เขียวก่อน ค่อยเข้าซื้อ!
----------------------------------
* มือใหม่ จะติดนิสัยอย่าง เวลาหุ้นหรืออะไรปรับตัวลงมาแรงๆ จากยอด ATH เขาเหล่านั้น ก็จะชอบไปคิดว่า "มันถูกแล้ว"
* แต่ผมบอกเลยว่า มันไม่จริงเลยครับ.. ยิ่งถูกแล้ว ก็มีถูกกว่า มีถูกกว่า มีถูกๆๆๆ กว่า ได้เรื่อยๆ
* เพราะ การย่อลง -50% นั้น ไม่ว่าจากจุดไหน ในเส้นจำนวน มันก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด เช่น 100 ไป 50 ( -50% ) ... 50 ไป 25 ( -50% ) ... 25 ไป 12.5 ( -50% ) ... 12.5 ไป 6.25 ( -50% )
* เห็นไหมว่า ไม่ว่าคุณจะไปช้อนตอนไหน ถ้ากราฟมัน "ยังไม่กลับตัว" คุณก็จะมีโอกาสที่จะขาดทุนซ้ำๆ ซากๆ อยู่ได้เสมอครับ
* ดังนั้น ... ก็ย้อนไปสองข้อแรกว่า .. ระบบแดง ก็นั่งเฉยๆ และ อย่าไปช้อนส่งเดช เพราะคุณจะ panic ขายที่ก้น ตอนข่าวร้ายออกมาครับ .. ให้รอเขียว แล้วค่อยเสี่ยงเข้า จะปลอดภัยกว่า
-----------
สรุป
-----------
* ในตลาด แนวความคิดที่เผยแพร่กันอย่างแพร่หลาย ก็อาจจะไม่ใช่แนวคิดที่ถูกต้องนะครับ
* เพราะตามสถิติแล้ว เทรดเดอร์มือใหม่ กว่า 80-90% จะเป็นผู้แพ้ และเสียเงินให้กับตลาดไป
* ถ้าคิดง่ายๆ ก็หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะไปคุยกับใครในห้องแชทไหนๆ คุณก็จะมีโอกาสที่จะไปเจอ มือใหม่ ที่มีแนวคิด ของผู้แพ้ เช่นกรณี ไม่ขาย ไม่ขาดทุน อยู่ดีครับ เพราะถ้าว่ากันตาม % มันเป็นจำนวนที่เยอะ ยังไงคุณก็ต้องเจออยู่แล้ว 555
* ผมเองก็อยากจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่เผยแพร่ไอเดียเรื่องการทำตามระบบ โดยต่อยอดมาจากของคุณลุงโฉลก และ อจ. ตั๊ม พิริยะ เพื่อช่วยกระจายเสียง ให้มือใหม่ ที่เข้ามาในตลาด ไม่หลงผิดไปกับแนวคิดที่สุดท้ายแล้วจะทำให้พอร์ตพัง กันนะครับ
* ระบบอย่าง Action Zone หรือ MACD ตัดศูนย์ มันไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก มันง่ายมากๆ .. ซึ่ง มันง่าย จนคนหลายๆ คนไม่เชื่อ ว่า มันจะช่วยให้เรารอดในตลาด และทำกำไรได้อย่างยั่งยืนจริงๆ 555
* ก็ฝากบทความนี้ไว้ ให้ลองคิดกันดูนะครับ ใครยังไม่เข้าใจ ก็ลองไปค้นๆ เพื่อศึกษาเพิ่มเติมได้ จากในยูธูป มีเนื้อหาฟรีๆ ดีๆ เยอะแยะไปครับ
* จำไว้นะครับ "รอดให้ได้ก่อน แล้วค่อยหาวิธีทำกำไร"