วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 29/12/2021multiverse โลกคู่ขนาน ภาพเดิมฉายซ้ำ ความรู้สึกเหมือนฉายภาพซ้ำของเมื่อช่วงเดือน พฤษภา-กรกฎา แต่เป็นแบบย่อเวลาให้สั้นลง
มาลองวิเคราะห์ใน time frame day ดูบ้างครับ
จากเมื่อวาน ใน tf 4h ราคาก็ร่วงตาม pattern และปริ่มๆว่าเส้นแนวรับเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยว เคี้ยวเบา ๆ ก็ขาด
ราคาไม่ไปไหน เพราะ tf 1d กด ราคาไว้หนักมาก ฝึืนขึ้นได้ ก็น่าจะได้ไม่เยอะ มีโอกาสลงมาได้อีก
ใน tf 4h macd ที่เฝ้าติดตามก็ตำกว่า 0 แล้ว กว่าจะโงหัวขึ้นได้อีก ไม่ง่ายเลย
RSI และ STO RSI ชี้ลง เป็นสาละวันเตี้ยลง ทำให้รั้งราคาให้ลงตาม
จุดสนใจคือ MACD จะตัดลงกับเค้าด้วยมั๊ย ถ้าตัดลง จะไม่สนุกเหมือน death note เพราะมีโอกาสเกิด death cross
death cross ตอนนี้ ถามว่าดีมั๊ย ตอบเลยว่าดี บางคนรอเงินเดือนออก รอโบนัสออก เราควรได้รับโอกาสอีกครั้ง ในการได้ซื้อของถูก เหมือน spider man มีโอกาส..แก้ตัวครั้งที่สอง(ไม่ได้สปอย)
*** สรุป ***
- สำหรับสายเล่นยาว ใน time frame 1d ให้รอสัญญาณ macd มากกว่า 0 หรือเริ่มทะยอยเก็บของ ตอน STO RSI เข้า Over Sold หรือ ตัดกันขึ้น
- สำหรับสาขาเล่นสั้น ยังอาศัยจังหว่ะ swing ได้ ใช้ time frame เล็ก ๆ พอได้ แต่ต้องเฝ้า เพราะช่วงนี้ยังฝันผวน
- ให้สังเกตุความเหมือนกันของพฤติกรรมราคาในช่วง พฤษภา-กรกฎา เทียบเคียงกับช่วงเวลานี้ ดูในกรอบสีม่วงๆ
- รอให้เป็น รอให้เป็น รอให้เป็น ไม่ต้องใจร้อน ค่อย ๆ ดูไปครับ
** บทความนี้ไม่ได้แนะนำ หรือ ชักชวนให้ลงทุน เป็นเพียงแต่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในความเห็นส่วนตัว
** การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณของตัวท่านเองในการตัดสินใจลงทุน
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "MACD"
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 23/12/2021มาทรงดีแล้ว แต่มาติดตรงเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ใน time frame 1D
พฤติกรรมคล้ายๆช่วงวันที่ 15 มิย ซึ่งถ้าเหมือนกันจริงๆ ก็คือไม่ผ่านเส้น EMA200 ก็ร่วงแรงๆ อีกรอบนึง
macd ตัดกันแล้ว ถือเป็นจุดนับ 1 สำหรับการเตรียมกลับตัว แต่!!! จะเป็นขาขึ้นชัวร์ๆๆ macd ต้องอยู่เหนือเส้น 0 !!!
***สิ่งที่น่าติดตามคือ จะผ่าน EMA200 ได้หรือไม่ ถ้าผ่านได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนเทรนเป็นขาขึ้น
***กว่า macd จะขึ้นไปเหลือเส้น 0 ยังต้องใช้เวลา ช่วงนี้ เริ่มหาจังหว่ะทะยอยสะสมของ
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 19/12/2021ต้องรีบบอก ใน time frame day สัญญาณเริ่มมารำไรๆ
- สัญญาณ macd กำลังจะตัดกัน เพื่อความชัวร์รอดูสิ้นวันนี้ ถ้าดูกราฟย้อนหลัง จะคล้าย ๆ ช่วงวันที่ 30 พ.ค.
- macd ตัดกันแล้วยังงัย ถ้า macd ตัดกันลึก ๆ เวลาขึ้นจะขึ้นแรง เหมือนกดลูกปิงปอง ลงน้ำลึก ๆ แล้วปล่อยมือ
- สัญญาณ divergence กำลังค่อย ๆ ก่อตัว ค่อยเห็นทิศ เห็นทางหน่อย
- ในความพยายามขึ้น ก็ยังจะถูกกดลงเป็นระยะ จากอิทธิพลของ time frame week แต่กดได้ไม่นานหรอก
- ถ้าสายเล่นชัวร์ ก็รอ แท่งเทียน break เส้นแนวต้าน ถ้ามีข่าวดี แรง ๆ ปัง ๆ มาช่วยหนุนสักหน่อย น่าจะ break ได้ไม่ยาก
- ถ้าสายรับความเสี่ยงได้ RSI ใน time frame day ถือว่าต่ำ น่าจะทะยอยๆเก็บได้
** บทความนี้ไม่ได้แนะนำ หรือ ชักชวนให้ลงทุน เป็นเพียงแต่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในความเห็นส่วนตัว
** การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณของตัวท่านเองในการตัดสินใจลงทุน
การวิเคราะห์ราคา EUR/USD: เน้นที่แนวรับรายสัปดาห์ 100-SMAการวิเคราะห์ราคา EUR/USD: เน้นที่แนวรับรายสัปดาห์ 100-SMA เนื่องจาก MACD หยอกล้อ
27 สิงหาคม 2021, 01:47 น
•EUR/USD ยังคงอ่อนตัวหลังจากดีดตัวขึ้นสี่วันใกล้ระดับสูงสุดประจำสัปดาห์
•ความล้มเหลวในการข้าม 200-SMA สัญญาณ MACD ที่ลดลงยังคงมีความหวัง
•61.8% FE เพิ่มตัวกรองด้านลบด้านล่างด้านล่างรายปี
EUR/USD ยังคงกดดันบริเวณจุดสูงสุดของสัปดาห์ โดยพุ่งขึ้นใกล้ 1.1750-55 ท่ามกลางตลาดเอเชียในวันศุกร์หลังจากการปิดรายวันติดลบครั้งแรกของวันก่อนหน้า
ในการทำเช่นนั้น ผู้ขายทั้งคู่โจมตี 100-SMA และเส้นแนวโน้มขาขึ้นจากวันศุกร์ที่แล้ว ใกล้ 1.1750-45 เนื่องจากเส้นสัญญาณ MACD ขยับเข้าใกล้สัญญาณขาลง
เช่นเดียวกับการไม่สามารถข้าม 200 SMA ของใบเสนอราคาได้ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้าเพื่อนำผู้ขายไปสู่จุดต่ำสุดประจำปีซึ่งทำเครื่องหมายไว้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมรอบ 1.1665
เป็นที่น่าสังเกตว่าระดับ Fibonacci Expansion (FE) 61.8% ของการเคลื่อนไหวในเดือนปัจจุบันของทั้งคู่อยู่ที่ประมาณ 1.1630 จะเพิ่มตัวกรองข้อเสียก่อนที่จะลากไปที่ระดับต่ำสุดในเดือนพฤศจิกายน 2020 ใกล้ที่ 1.1600
ในขณะเดียวกัน การกวาดล้างขาขึ้นที่ระดับ 200-SMA ที่ 1.1785 จำเป็นต้องมีการหยุดพักที่ชัดเจนเหนือระดับสูงสุดกลางเดือนสิงหาคมที่ 1.1804 เพื่อตั้งเป้าสำหรับจุดสูงสุด 05 สิงหาคมใกล้กับ 1.1855
หากตลาดกระทิง EUR/USD ยังคงโดดเด่นเหนือ 1.1855 ระดับสูงสุดรายเดือนที่ 1.1899 จะอยู่ในความสนใจ
EUR/USD: กราฟสี่ชั่วโมง
แนวโน้ม: คาดว่าจะอ่อนตัวลงอีก
วิเคราะห์ Options รายสัปดาห์ที่ 17 และ รายวัน (ณ วันที่ 26/04/2030/04/2021)
Option รายสัปดาห์
ตัว SET50 ใน สัปดาห์ ที่ผ่าน ยังวิ่งอยู่ในกรอบ 925-975 จุด แต่มีการปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นอาการของการ side way down ค่อนข้างชัดเจน โดยที่ ตัว MACD ในราย Week เริ่มมีจุดตัด กับเส้น Singnal บ่งบอกถึงสวาวะตลาดที่มีการปรับตัวลดลง และATR ก็ยังมีความผันผวนในระดับที่ค่อนข้างที่ต่ำ อยู่ที่ 33.30 ซึ่งอาจจะทำให้ SET มีความผันผวนที่ต่ำและไม่ วิ่งหลุดกรอบไปข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งผู้เล่นฝั่ง shot options ค่อนข้างจะได้เปรียบกว่าฝั่ง Long โดย แนวต้านที่สำคัญ อยู่ที่ 975 และแนวรับ 918 Options หากสภาวะตลาดยังคงปรับตัวลงโดยเป็นลักษณะ side way down อย่างนี้ ฝั่ง Short call ดูมีความได้เปรียบกว่าฝั่ง Short put และ options ที่ยังมีความน่าสนใจ ในการเข้าถือ Short ได้แก่
Short Call - S50M21C1000 Short Put - S50M21P900
- S50M21C1025 - S50M21P850
- S50M21C1050 - S50M21P825
- S50M21C1075 - S50M21P800
โดย Short Call มี Resistane 975 เมื่อถึงแนวต้าน สำคัญควรลด จำนวน ถือครอง Position ลงหรือ stop oder และหันไปถือฝัง Put แทน และ มี Support ที่ 918 ควรเข้าสถานะเพื่มขึ้น และ Hold Short ฝั่ง Call ต่อไป
Short Put มี Support ที่ 918 เมื่อถึงแนวรับ สำคัญควรลด จำนวน ถือครอง Position ลงหรือ stop oder และหันไปถือฝัง call แทน มี Resistane 975 เมื่อถึงแนวต้านควรเข้าสถานะเพื่มขึ้น และ Hold Short ฝั่ง Put ต่อไป
ส่วนฝั่ง Long
แนะนำ ฝั่ง Put โดยหากชื้อที่ S50M21P950 โดยแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 925-930 หากหลุดแนวรับสำคัญได้ ให้ Hold Short ต่อไป โดยที่ stop oder ที่ 965-975
****Otion รายวัน****
- มีอาการซึมๆลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ตัว MACD เกิดจุดตัด โดยที่เส้น MACD ได้ตัดลงกับเส้น Signal ชึ่งมีโอกาสที่ตัว SET50 จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่น่าจะรุนแรงเนื่องจาก ต้ว ATR ยังมีค่า ความผันผัวที่ต่ำอยู่ที่ 11.86 และตัว SET50 เอง ก็ได้วิ่งหลุดกรอบ 950-975 หากภายในสัปดาห์นี้ราคาวิ่งลงไปถึงแนวรับแรกที่ 935 ก็อาจจะมีการหลุดกรอบ 950 และมาอยู่ในกรอบ 925 แทน แนวต้านไม่ไกลมากแถวบริเวณ 950-955
ในรายวันนี้ ฝั่ง Short call จะได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด และ Long Put ค่อนข้างที่จะหน้าสนใจ
Short Call - S50M21C1000 Short Put - S50M21P900
- S50M21C1025 - S50M21P850
- S50M21C1050 - S50M21P825
- S50M21C1075 - S50M21P800
และ ฝั่งที่น่าสนใจ ในการ Long ได้แก่ ฝั่ง Long Put ATM
Long Put -S50M21P950 (ATM)
โดย มี่ เป้าทำกำไร อยู่ที่ 925 และ stop oder ที่ 955
Options รายสัปดาห์ที่ 17 และ รายวัน (ณ วันที่ 26-30/04/20)วิเคราะห์ Options รายสัปดาห์ที่ 17 และ รายวัน (ณ วันที่ 26/04/2021-30/04/2021)
Option รายสัปดาห์
ตัว SET50 ใน สัปดาห์ ที่ผ่าน ยังวิ่งอยู่ในกรอบ 925-975 จุด แต่มีการปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นอาการของการ side way down ค่อนข้างชัดเจน โดยที่ ตัว MACD ในราย Week เริ่มมีจุดตัด กับเส้น Singnal บ่งบอกถึงสวาวะตลาดที่มีการปรับตัวลดลง และATR ก็ยังมีความผันผวนในระดับที่ค่อนข้างที่ต่ำ อยู่ที่ 33.30 ซึ่งอาจจะทำให้ SET มีความผันผวนที่ต่ำและไม่ วิ่งหลุดกรอบไปข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งผู้เล่นฝั่ง shot options ค่อนข้างจะได้เปรียบกว่าฝั่ง Long โดย แนวต้านที่สำคัญ อยู่ที่ 975 และแนวรับ 918 Options หากสภาวะตลาดยังคงปรับตัวลงโดยเป็นลักษณะ side way down อย่างนี้ ฝั่ง Short call ดูมีความได้เปรียบกว่าฝั่ง Short put และ options ที่ยังมีความน่าสนใจ ในการเข้าถือ Short ได้แก่
Short Call - S50M21C1000 Short Put - S50M21P900
- S50M21C1025 - S50M21P850
- S50M21C1050 - S50M21P825
- S50M21C1075 - S50M21P800
โดย Short Call มี Resistane 975 เมื่อถึงแนวต้าน สำคัญควรลด จำนวน ถือครอง Position ลงหรือ stop oder และหันไปถือฝัง Put แทน และ มี Support ที่ 918 ควรเข้าสถานะเพื่มขึ้น และ Hold Short ฝั่ง Call ต่อไป
Short Put มี Support ที่ 918 เมื่อถึงแนวรับ สำคัญควรลด จำนวน ถือครอง Position ลงหรือ stop oder และหันไปถือฝัง call แทน มี Resistane 975 เมื่อถึงแนวต้านควรเข้าสถานะเพื่มขึ้น และ Hold Short ฝั่ง Put ต่อไป
ส่วนฝั่ง Long
แนะนำ ฝั่ง Put โดยหากชื้อที่ S50M21P950 โดยแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 925-930 หากหลุดแนวรับสำคัญได้ ให้ Hold Short ต่อไป โดยที่ stop oder ที่ 965-975
****Otion รายวัน****
- มีอาการซึมๆลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ตัว MACD เกิดจุดตัด โดยที่เส้น MACD ได้ตัดลงกับเส้น Signal ชึ่งมีโอกาสที่ตัว SET50 จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่น่าจะรุนแรงเนื่องจาก ต้ว ATR ยังมีค่า ความผันผัวที่ต่ำอยู่ที่ 11.86 และตัว SET50 เอง ก็ได้วิ่งหลุดกรอบ 950-975 หากภายในสัปดาห์นี้ราคาวิ่งลงไปถึงแนวรับแรกที่ 935 ก็อาจจะมีการหลุดกรอบ 950 และมาอยู่ในกรอบ 925 แทน แนวต้านไม่ไกลมากแถวบริเวณ 950-955
ในรายวันนี้ ฝั่ง Short call จะได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด และ Long Put ค่อนข้างที่จะหน้าสนใจ
Short Call - S50M21C1000 Short Put - S50M21P900
- S50M21C1025 - S50M21P850
- S50M21C1050 - S50M21P825
- S50M21C1075 - S50M21P800
และ ฝั่งที่น่าสนใจ ในการ Long ได้แก่ ฝั่ง Long Put ATM
Long Put -S50M21P950 (ATM)
โดย มี่ เป้าทำกำไร อยู่ที่ 925 และ stop oder ที่ 955
วิเคราะห์ Otion รายสัปดาห์ และ รายวัน (ณ วันที่ 16/04/2021-23/04Otion รายสัปดาห์
ตัว SET50 ใน 4-5 สัปดาห์ ที่ผ่าน ยังวิ่งอยู่ในกรอบ 900-1000 จุด เป็นอาการของการ side way มาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ ตัว MACD ในราย Week เองก็ยัง ไม่มีจุดตัดในการเปลี่ยนมุมมอง ที่ยังเป็นขาขึ้น และATR ก็ยังมีความผันผวนในระดับที่ค่อนข้างที่ต่ำ อยู่ที่ 33.44 ซึ่งอาจจะทำให้ SET มีความผันผวนที่ต่ำและไม่ วิ่งหลุดกรอบไปข้างใดข้างหนึ่ง โดย แนวต้านที่สำคัญ อยู่ที่ 978 และแนวรับ 912 Otion ที่ยังมีความน่าสนใจ ในการเข้าถือ Short ได้แก่
Short Call - S50M21C1000 Short Put - S50M21P900
- S50M21C1025 - S50M21P850
- S50M21C1050 - S50M21P825
- S50M21C1075 - S50M21P800
โดย Short Call มี Resistane 978 เมื่อถึงแนวต้าน สำคัญควรลด จำนวน ถือครอง Position ลงหรือ stop oder และหันไปถือฝัง Put แทน และ มี Support ที่ 912 ควรเข้าสถานะเพื่มขึ้น และ Hold Short ฝั่ง Call ต่อไป
Short Put มี Support ที่ 912 เมื่อถึงแนวรับ สำคัญควรลด จำนวน ถือครอง Position ลงหรือ stop oder และหันไปถือฝัง call แทน มี Resistane 978 เมื่อถึงแนวต้านควรเข้าสถานะเพื่มขึ้น และ Hold Short ฝั่ง Put ต่อไป
Otion รายวัน
ตัว MACD เกิดจุดตัด โดยที่เส้น MACD ได้ลงกับเส้น Signai ชึ่งมีโอกาสที่ตัว SET50 จะปรับตัวลดลง แต่ไม่น่าจะรุนแรงเนื่องจาก ต้วATR ยังมีค่า ความผันผัวที่ต่ำอยู่ที่ 11.88 และตัวSETเอง ก็ยังวิ่งอยู่ในกรอบ 925-990 Otion ที่ยังมีความน่าสนใจ ในการเข้าถือ Short ได้แก่
Short Call - S50M21C1000 Short Put - S50M21P900
- S50M21C1025 - S50M21P850
- S50M21C1050 - S50M21P825
- S50M21C1075 - S50M21P800
และ ฝั่งที่น่าสนใจ ในการ Long ได้แก่ ฝั่ง Long Put ATM
Long Put -S50M21P950 (ATM)
โดย มี่ เป้าทำกำไร อยู่ที่ 932 และ stop oder ที่ 955
วิเคราะห์ Otion รายสัปดาห์ และ รายวัน (ณ วันที่ 16/04/2021-23/04Otion รายสัปดาห์
ตัว SET50 ใน 4-5 สัปดาห์ ที่ผ่าน ยังวิ่งอยู่ในกรอบ 900-1000 จุด เป็นอาการของการ side way มาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ ตัว MACD ในราย Week เองก็ยัง ไม่มีจุดตัดในการเปลี่ยนมุมมอง ที่ยังเป็นขาขึ้น และATR ก็ยังมีความผันผวนในระดับที่ค่อนข้างที่ต่ำ อยู่ที่ 33.44 ซึ่งอาจจะทำให้ SET มีความผันผวนที่ต่ำและไม่ วิ่งหลุดกรอบไปข้างใดข้างหนึ่ง โดย แนวต้านที่สำคัญ อยู่ที่ 978 และแนวรับ 912 Otion ที่ยังมีความน่าสนใจ ในการเข้าถือ Short ได้แก่
Short Call - S50M21C1000 Short Put - S50M21P900
- S50M21C1025 - S50M21P850
- S50M21C1050 - S50M21P825
- S50M21C1075 - S50M21P800
โดย Short Call มี Resistane 978 เมื่อถึงแนวต้าน สำคัญควรลด จำนวน ถือครอง Position ลงหรือ stop oder และหันไปถือฝัง Put แทน และ มี Support ที่ 912 ควรเข้าสถานะเพื่มขึ้น และ Hold Short ฝั่ง Call ต่อไป
Short Put มี Support ที่ 912 เมื่อถึงแนวรับ สำคัญควรลด จำนวน ถือครอง Position ลงหรือ stop oder และหันไปถือฝัง call แทน มี Resistane 978 เมื่อถึงแนวต้านควรเข้าสถานะเพื่มขึ้น และ Hold Short ฝั่ง Put ต่อไป
Otion รายวัน
ตัว MACD เกิดจุดตัด โดยที่เส้น MACD ได้ลงกับเส้น Signai ชึ่งมีโอกาสที่ตัว SET50 จะปรับตัวลดลง แต่ไม่น่าจะรุนแรงเนื่องจาก ต้วATR ยังมีค่า ความผันผัวที่ต่ำอยู่ที่ 11.88 และตัวSETเอง ก็ยังวิ่งอยู่ในกรอบ 925-990 Otion ที่ยังมีความน่าสนใจ ในการเข้าถือ Short ได้แก่
Short Call - S50M21C1000 Short Put - S50M21P900
- S50M21C1025 - S50M21P850
- S50M21C1050 - S50M21P825
- S50M21C1075 - S50M21P800
และ ฝั่งที่น่าสนใจ ในการ Long ได้แก่ ฝั่ง Long Put ATM
Long Put -S50M21P950 (ATM)
โดย มี่ เป้าทำกำไร อยู่ที่ 932 และ stop oder ที่ 955
ทองในมุมมองของ Silly Technical จากกราฟทองคำภาพวีค เมื่อทองคำเบรกเส้นกดในภาพ week ออกมา ลักษณะ Macd ทำนิวไปตามไปด้วย อ้างอิงจากหนังสือ trading chaos ในเรื่อง Elliot wave by Macd และหนังสือทฤษฎีสามสูง เราสามารถที่จะตีวัดเป้าได้โดยการยิง Fibonacci ขึ้นไปแนวเวฟ 3 261.8 แบะ 423.6 จะเห็นว่าราคาในภาพวีคขึ้นไปชนเป้า 423.6 ก่อนพักฐานในระดับวีค
โดยธรรมชาติระดับของการพักฐานของเวฟ 4 มักจะย่อลงมา 38.2-50% หรือเราอาจสังเกต Macd ของเวฟ 4 มักจะลงมาเฉียด 0 หรือต่ำกว่า
ถ้าต่ำกว่าในขณะที่ราคาลงมาแค่ 23.6 จะพักฐานไม่นาน แต่ถ้าลงมาระดับ 38.2 จะมีการฟอร์มฐานนาน
BTCUSD 23/2/64หากราคามาที่ ประมาณ 46000 อาจปิดเก็บกำไรไปก่อน รอดูการรีบาวด์อีกที โดยใน TF 1 hr นอกจาก macd จะอยู่ในแดนลบ เส้นค่าเฉลี่ยยังมีการตัดลง แสดงถึงราคาอยู่ภายใต้แนวโน้มขาลง(ระยะสั้น) TF มากกว่า 1 Hr. ก็ยังติดอยู่ในแดนลบ อีกทั้ง TF daily เส้นสัญญาณ MACD ปริ่มๆจะตัดลงและฮิวโตรแกรมก็ปริ่มๆจะเข้าแดนลบ จึงคาดว่าราคาน่าจะลงได้ต่อ แต่ระหว่างนี้อาจมีการรีบาวด์เป็นระยะ คาดแนวต้านที่ไม่ควรรีบาวด์ไปเกินสำหรับตอนนี้คือ 51000โดยประมาณ
โดยหาก MACD daily เข้าแดนลบ ราคาอาจลงต่ำกว่า 42000
*วันนี้ติดงานประจำค่ะ อาจไม่ได้ตอบเม้นท์
ขอให้โชคดีมีกำไรทุกท่านค่ะ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ราคาน้ำมันหนุนตลาดทุน
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มปตท. หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,138.27 จุด เพิ่มขึ้น 32.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้น MMA2 ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดี (2/4) ตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ดาวโจนส์บวก 469 จุด หลังทรัมป์เข้าเป็นตัวกลางยุติสงครามราคาน้ำมันดิบระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมรูป Ascending Triangle ที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1,130 จุด ดัชนีตลาดทะลุผ่านแนวต้านขึ้นมาปิดที่ 1,138 จุด และมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,184 จุด เส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,203 จุด การเกิดสัญญาณ Convergence ของสัญญาณ MACD Histogram แสดงว่าดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลงหรือปรับฐาน
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E มีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 942 จุด ซึ่งเป็นแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 843 จุด
เมื่อนำจุดต่ำที่ 380 จุด กับจุดสูงที่ 1,852 จุด มาวิเคราะห์แนวรับ จะได้แนวรับดังนี้
38.0% Fibonacci Retracement = 1,290 จุด
50.0% Fibonacci Retracement = 1,116 จุด
61.8% Fibonacci Retracement = 942 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,161 – 1,184 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,120 – 1,100 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
คำแนะนำ
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายวัน ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จากกราฟรายวัน เพื่อการลงทุนระยะสั้น
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์ ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ MACD Histogram จากกราฟรายสัปดาห์ เพื่อการลงทุนระยะกลาง – ยาว
- ในกรณีที่ตลาดเป็น Bear Market มากๆ การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence อาจเกิดถึง 3 ยอด (โดยทั่วไปในภาวะที่ตามปกติ สัญญาณ Bullish Divergence ส่วนใหญ่จะเป็นสองยอด)
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
โควิด-19 กดดันตลาด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (1/4) ปรับตัวลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ ดาวโจนส์ดิ่งลง 973 จุด หลังทรัมป์เตือนการแพร่ระบาดโควิด-19 จะทวีความรุนแรงในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,105.51 จุด ลดลง 20.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อปรับฐาน ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมรูป Ascending Triangle ที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1,130 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,130 จุด ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,184 จุด และมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,214 จุด การเกิดสัญญาณ Convergence ของสัญญาณ MACD Histogram แสดงว่าดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลงหรือปรับฐาน
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E มีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 942 จุด ซึ่งเป็นแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 843 จุด
เมื่อนำจุดต่ำที่ 380 จุด กับจุดสูงที่ 1,852 จุด มาวิเคราะห์แนวรับ จะได้แนวรับดังนี้
38.0% Fibonacci Retracement = 1,290 จุด
50.0% Fibonacci Retracement = 1,116 จุด
61.8% Fibonacci Retracement = 942 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,125 – 1,140 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,087 – 1,073 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
คำแนะนำ
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายวัน ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จากกราฟรายวัน เพื่อการลงทุนระยะสั้น
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์ ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ MACD Histogram จากกราฟรายสัปดาห์ เพื่อการลงทุนระยะกลาง – ยาว
- ในกรณีที่ตลาดเป็น Bear Market มากๆ การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence อาจเกิดถึง 3 ยอด (โดยทั่วไปในภาวะที่ตามปกติ สัญญาณ Bullish Divergence ส่วนใหญ่จะเป็นสองยอด)
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
เคลื่อนตัวออกด้านข้าง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (31/3) ดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 400 จุด หลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทวีความรุนแรง จนอาจเป็นสาเหตุให้คนสหรัฐเสียชีวิต 100,000 – 240,000 ราย
แรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด เพื่อดักเม็ดเงินจากกองทุน SSF ที่จะเปิดขายในวันที่ 1 เมษายน เป็นวันแรก ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นที่ 1,125.86 จุด เพิ่มขึ้น 38.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,130 – 1,184 จุด สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมรูป Ascending Triangle ที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1,130 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,130 จุด ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,184 จุด และมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,214 จุด การเกิดสัญญาณ Convergence ของสัญญาณ MACD Histogram แสดงว่าดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลงหรือปรับฐาน
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E มีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 942 จุด ซึ่งเป็นแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 843 จุด
เมื่อนำจุดต่ำที่ 380 จุด กับจุดสูงที่ 1,852 จุด มาวิเคราะห์แนวรับ จะได้แนวรับดังนี้
38.0% Fibonacci Retracement = 1,290 จุด
50.0% Fibonacci Retracement = 1,116 จุด
61.8% Fibonacci Retracement = 942 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,150 – 1,164 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,108 – 1,091 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
คำแนะนำ
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายวัน ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จากกราฟรายวัน เพื่อการลงทุนระยะสั้น
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์ ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ MACD Histogram จากกราฟรายสัปดาห์ เพื่อการลงทุนระยะกลาง – ยาว
- ในกรณีที่ตลาดเป็น Bear Market มากๆ การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence อาจเกิดถึง 3 ยอด (โดยทั่วไปในภาวะที่ตามปกติ สัญญาณ Bullish Divergence ส่วนใหญ่จะเป็นสองยอด)
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แกว่งตัวออกด้านข้าง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวก ดาวโจนส์ (30/3) ปรับเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ทรัมป์ต้องขยายเวลามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาดในช่วงบ่าย ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยลดช่วงลบ ดัชนีตลาดปิดที่ 1,087.82 จุด ลดลง 11.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.1 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน ต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีกครั้ง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมรูป Ascending Triangle ที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1,130 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,130 จุด ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,220 จุด การเกิดสัญญาณ Convergence ของสัญญาณ MACD Histogram แสดงว่าดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลงหรือปรับฐาน
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E มีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 942 จุด ซึ่งเป็นแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 843 จุด
เมื่อนำจุดต่ำที่ 380 จุด กับจุดสูงที่ 1,852 จุด มาวิเคราะห์แนวรับ จะได้แนวรับดังนี้
38.0% Fibonacci Retracement = 1,290 จุด
50.0% Fibonacci Retracement = 1,116 จุด
61.8% Fibonacci Retracement = 942 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,100 – 1,120 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,071 – 1,058 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
คำแนะนำ
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายวัน ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จากกราฟรายวัน เพื่อการลงทุนระยะสั้น
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์ ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ MACD Histogram จากกราฟรายสัปดาห์ เพื่อการลงทุนระยะกลาง – ยาว
- ในกรณีที่ตลาดเป็น Bear Market มากๆ การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence อาจเกิดถึง 3 ยอด (โดยทั่วไปในภาวะที่ตามปกติ สัญญาณ Bullish Divergence ส่วนใหญ่จะเป็นสองยอด)
GBP/USDสนับสนุนทันที่ 1.2217 การพลิกกลับที่1.2670GBP/USDสนับสนุนทันที่ 1.2217 การพลิกกลับที่1.2670
การวิเคราะห์ราคา GBP / USD: สูงกว่า 21 วัน SMA ท่ามกลาง MACD ที่แข็งแกร่ง
30 มีนาคม 2020, 03:28
• GBP / USD ลงทะเบียนแนวรับรางวัล 5 วันพร้อมโพรบ Fibonacci 50%
•ตัวแบ่ง SMA ที่ชัดเจนในระยะ 21 วันแสดงถึงการดีดตัวของ MACD
• SMA 200 วัน 61.8% Fibonacci retracement บนเรดาร์ของวัว
ในขณะที่ขยายระยะเวลาใช้งานเกิน 21 วัน SMA / USD จะใช้ราคาเสนอที่ 1.2460 ท่ามกลางการซื้อขายในเอเชียวันจันทร์ ในการทำเช่นนั้นคำพูดได้เผชิญหน้ากับ Fibonacci 50% ของการลดลงจาก 12 ธันวาคม 2019 ท่ามกลาง MACD ที่เป็นขาขึ้น
ถึงแม้ว่าการหยุดที่ชัดเจนของเครื่องหมาย 1.2470 ซึ่งประกอบด้วย 50% Fibonacci retracement กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ซื้อที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของพวกเขา แต่ความสนใจที่สำคัญได้รับในระดับ SMA 200 วันที่ 1.2670 ในช่วงต่อไป
นอกจากนี้ระดับ Retracement Fibonacci 61.8% ที่ 1.2715 จะทำหน้าที่เป็นความท้าทายเพิ่มเติมให้กับผู้ซื้อ
ในขณะเดียวกันการปิดประจำวันต่ำกว่าระดับ SMA 21 วันที่ระดับ 1.2355 สามารถดึงราคาอ้างอิงไปที่ระดับ Fibonacci retracement 38.2% ที่ 1.2217 ก่อนที่จะเน้นเครื่องหมาย 1.2000 สำหรับผู้ขาย
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
จับตายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ (27/3) ปรับตัวลดลง ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 900 จุด หลังตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งทะลุ 1 แสนรายมากที่สุดในโลก นักลงทุนผวาเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ยอดผู้ว่างงานกว่า 3 ล้านคน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายออกมาในช่วงบ่าย หลังดัชนีดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,099.76 จุด เพิ่มขึ้น 7.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน สถาบันภายในประเทศและต่างชาติเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ นับเป็นการซื้อสุทธิของต่างชาติวันแรกในรอบ 17 วัน ภาพทางเทคนิคัลชี้ว่าดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,000 จุด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,124 จุด ดัชนีเปิดสูงปิดต่ำ เส้น MMA2 จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านถัดไป ลักษณะของ Common gap เป็นช่องว่างที่เกิดในช่วงที่ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) การเรียงตัวของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง และการเกิดสัญญาณ Convergence ของสัญญาณ MACD Histogram แสดงว่าดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลงหรือปรับฐาน
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E มีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 942 จุด ซึ่งเป็นแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 843 จุด
เมื่อนำจุดต่ำที่ 380 จุด กับจุดสูงที่ 1,852 จุด มาวิเคราะห์แนวรับ จะได้แนวรับดังนี้
38.0% Fibonacci Retracement = 1,290 จุด
50.0% Fibonacci Retracement = 1,116 จุด
61.8% Fibonacci Retracement = 942 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,114 – 1,133 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,084 – 1,066 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
คำแนะนำ
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายวัน ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จากกราฟรายวัน เพื่อการลงทุนระยะสั้น
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์ ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ MACD Histogram จากกราฟรายสัปดาห์ เพื่อการลงทุนระยะกลาง – ยาว
- ในกรณีที่ตลาดเป็น Bear Market มากๆ การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence อาจเกิดถึง 3 ยอด (โดยทั่วไปในภาวะที่ตามปกติ สัญญาณ Bullish Divergence ส่วนใหญ่จะเป็นสองยอด)
BTCUSD : Bullish View ( มุมมองขาขึ้น ) วันก่อนผมทำวิเคราะห์ Bearish View หรือมุมมองขาลงของ BTC ไป
วันนี้เราเหลืออีก 5 วันก็จะปิดแท่ง Monthly และทรง Month งวดนี้ค่อนข้างสวยเลย
ก็เลยจะมาเขียนมุมมอง Bullish View หรือมุมมองขึ้นกันบ้าง จะได้มองให้ครบทั้งสองด้านครับ
ใครอ่านแล้วก็อย่าเพิ่ง FOMO นะครับ เป็นการวิเคราะห์เฉยๆ มันอาจจะเป็น หรือไม่เป็นก็ได้นะ
เชิง Fundamental + อื่นๆ
---------------------------
1) การ QE ไม่ยั้ง ของอเมริกา อาจจะส่งผลให้เกิดภาวะ Hyper Inflation ได้ .. ซึ่งการถือเงิน USD ไว้เฉยๆ ไม่ดีแน่ และทองเองก็มีปัญหาเรื่อง liquidity เวลาที่จะต้องเอาไปขายมาเป็นเงินจริง ซึ่ง... หวยก็คงมาตกที่ BTC นี่แหละ เพราะมันซื้อง่าย ขายคล่อง จริงๆ
2) Halving ที่กำลังจะถึงในอีกไม่ถึงสองเดือนข้างหน้า ซึ่งทุกคนก็เก็งกันว่าจะทำให้ BTC ราคาขึ้น เพราะ ขุดได้น้อยลง
3) คนมองลงกันเยอะ จากโพยที่มีคนถามใน Twitter โดยคนมองว่า มันจะลงไปทำ new low ถึง 80%!! และคนมองว่า ตรงนี้คือ Bottom แค่ 20% เท่านั้น! ตรงนี้ น่าสนใจ เพราะตลาดมักจะเคลื่อนไหวตรงข้ามกับความเห็นของคนหมู่มาก
4) จากข้อที่แล้ว ทำให้คนเปิด short กันเยอะมาก เห็นได้จาก Funding Rate ของ perpetual swap ที่ทำให้คนถือ short ต้องจ่ายดอกที่แพงหูฉี่ มาหลายวันแล้ว ( แพงตั้งแต่มันเริ่มร่วงลงมาหนัก )
เชิง Technical Analysis และรูปแบบของกราฟ
--------------------
1) แท่ง Monthly ทรง super bullish ทิ้งหางยาวเฟื้อย ... แต่ก็ต้องรออีก 5 วันเพื่อดูว่าจะไม่ทุบ
2) โดยถ้าราคามีการดันทะลุ 7000 ขึ้นไปได้ และปิดแท่ง Month แถวๆ 7000-8000 ก็จะทำให้ กราฟ Monthly ทรงโคตรสวย และลบล้างทรงขาลงระดับ Monthly ไปได้เลย
3) การย่อลงมาแถวๆ 3600-5500 คือการทดสอบ Key fibo เลเวลที่สำคัญมาก
* 0.786 ในภาพใหญ่มาก ( วัดจากฐาน ไปยอด 20k ) ตรงราคา 4300
* 0.887 ในการย่อเวฟ 1-2 ใน 3 ใหญ่ ( วัดจากฐาน 3100 ไปยอด 14k ) ตรงราคา 4250
จะเห็นได้ว่า การแหย่หางครั้งนี้ ทำให้เรามีการทดสอบ key fib สำคัญๆ ที่คนรออยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
4) ราคาสามารถกลับมายืนเหนือ MA 200 Weekly ได้ โดยเส้นนี้ทำหน้าที่เป็นแนวรับสำคัญ ตอน BTC ร่วงลงมาจาก 6000 ไป 3100
5) MACD Monthly ถ้าดู histogram จะเห็นว่า ราคาลงมาเกือบ low เดิม แต่ histogram ยกแรงมาก ถือเป็น bullish divergence บน MACD
6) RSI Monthly ยกขึ้น
7) ทรงกราฟ ทำทรง สามเหลี่ยม symmetrical Triangle เป็นทรง bullish ใหญ่
=============
แต่สิ่งที่เรายังไม่ confirm ก็คือ.. ใน TF Daily เรายังไม่มีสัญญาณซื้อมาจาก indicator บางตัว เช่น Action Zone ( MACD ตัดศูนย์ขึ้น ) แต่ดูทรงก็น่าสนใจ.. ถ้าราคาสามารถ sideway ต่อแถวนี้อีกหลายวัน เราก็น่าจะเห็น Action Zone เขียวเร็วๆ นี้
ใครอยากปลอดภัย อย่างน้อยก็รอให้ Action Zone เขียวก่อนแล้วค่อยเข้า น่าจะดีกว่าครับ
ก็เป็นมุมมองฝั่งบวกนะ เอาจริงๆ ที่คนมองลงกันเยอะก็ไม่ค่อยแปลกใจ เพราะกราฟ มันก็ทำทรงขาลงจริงๆ ในภาพใหญ่
แต่ก็นั่นแหละครับ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาจากตลาดคือ "ห้าม fking มั่นใจ เด็ดขาด"
โดยเฉพาะสาย short ที่ตอนนี้ อาจจะพยายามถัว short ที่ short มาจาก 5000 อยู่...
ถึงแม้ กราฟ จะลง .. แต่เราก็ห้ามมั่นใจว่า "มันจะต้องลง"
เพราะตอนที่เราร่วงหลุด 8000 ลงมาเนี่ย ก็เพราะว่า มันมีคนมั่นใจกันเพียบว่า "มันจะต้องขึ้น มันไม่หลุดหรอก"
... แล้วก็ไป long กันจัดหนักจัดเต็มตรง 7500 พอหลุดทีก็ไส้แตก พอร์ตระเบิด
ตรงนี้ก็เหมือนกัน ไอ้คนที่โดนล้างพอร์ตไปรอบ ก่อน ก็จะมามั่นใจกันอีกละว่า รอบนี้ ลงแน่ new low แน่นอน
แล้วก็ short จัดหนักจัดเต็มกันตรงแนวต้าน 6900 นี่แหละ ( มันเป็นแนวต้านที่ super obvious ครับ คนก็เลยจัดกันเต็ม )
แต่อย่าลืมกฏข้อแรก ของการเทรด นะครับว่า "อย่ามั่นใจ" ... ทุกการเทรด ต้องมีจุดยอมแพ้ เสมอ เพื่อรักษาทุนของเราไว้ไม่ให้เสียมากที่่สุด
รอบนี้ ผมว่า ถ้ามันดันจนทะลุ 7000 ขึ้นไปได้ น่าจะเกิดการ ล้าง short ขนานใหญ่กันอีกรอบครับ เพราะไอ้พวกที่ short มาแถวๆ 8000-9000 ก่อนราคาร่วง ก็จะตกใจรีบปิด short กัน เพราะกลัวจะไม่เหลือกำไร
ส่วนไอ้พวกที่ short มาจาก 4000-5000 ด้วยความเสี่ยงต่ำที่สุด ( 2x ) ก็จะโดนล้างกันแถวๆ 8000-9000 นี่แหละครับ
ย้ำนะครับ
-------
อย่ามั่นใจ -- มีจุดที่เราจะยอมรับว่า การวิเคราะห์เราผิด และต้องยอมแพ้ ทุกกรณี เสมอ ( จุด cut loss น่ะแหละ ) -- และต้องไม่ให้พอร์ตเสียหาย มากจนเกินไป ( -10% เต็มที่ ถ้าจะ bet ภาพใหญ่ๆ )
--------
เทรดกันอย่างมีสติ เดากราฟได้ แต่อย่ามั่นใจว่าเราจะถูกนะครับ
BTC Halving 2020 อาจจะเป็นครั้งแรกที่เราจะเป็นกราฟ ขาลงจากรูป จะเห็นว่า
BTC Halving 2 ครั้งแรก
เราอยู่ในตลาด "กระทิง"
เพราะ ราคาวิ่งเหนือ MA 18 ( ครั้งแรก )
และ MA 18+200 ( ครั้งที่สอง )
รวมถึงกราฟก็ชี้ขึ้น
แค่ดูด้วยตาก็เห็นว่าเป็นขาขึ้นชัดเจน
แถม MACD Weekly ก็วิ่งเหนือ 0 อีกด้วย ( Action Zone เขียว )
พูดง่ายๆ คือเป็นทรงขาขึ้น ชัดเจน..
===========
แต่! การ Halving รอบนี้
จะเป็นครั้งแรกที่..
1) ราคาอาจจะวิ่งอยู่ใต้ MA 18 และ MA 200
2) เรายังอยู่ในกรอบขาลงใหญ่
3) เราหลุด Trendline สำคัญที่ลากมาเป็นแนวรับตลอดอายุของ BTC
4) MACD Weekly อยู่ใต้ศูนย์!
ดังนั้น รอบนี้ มุมมองของราคา
จะแตกต่างกับการ halving 2 ครั้งที่ผ่านมามาก
ซึ่ง เราก็ไม่ควรที่จะหวังอะไรกับ halving ครั้งนี้มากจนเกินไป
เพราะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
อย่าลืมว่า กรอบล่างของ bear channel นี้
อยู่แถวๆ 2000-1500 โน่น
ถ้า BTC จะทำทรงกระทิง เหมือน halving ครั้งก่อนๆ
BTC ก็จะต้อง...
1) ดีดแรงมาก และวิ่งขึ้นไปยืนเหนือ 8000 ได้ ภายใน 1 เดือนกว่าๆ ข้างหน้า
2) MACD กลับมาเขียว
3) จะให้ดีต้อง Break กรอบ bear channel ที่ลากลงมาตั้งแต่ 14k ลงมา .. พูดง่ายๆ คือต้องทำ Higher High เหนือ 10500
ถามว่า เป็นไปได้ไหม.. ที่ผ่านมา BTC ก็เคยดีดบ้าคลั่งแบบนี้มาแล้ว
ก็มีความเป็นไปได้อยู่หน่อยๆ เหมือนกัน 555
ซึ่ง ถ้ามันขึ้นไปเคลียร์ ทรงหมีได้หมด เราก็ค่อยมองขึ้นกันอีกรอบได้เหมือนกันครับ :D
ผมก็พร้อมเปลี่ยนมุมมองเสมอ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ลุ้นทดสอบแนวรับที่ 1,000 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กติด Circuit Breaker เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ หลังตลาดทรุดตัวลง 10 เปอร์เซ็นต์ ภัยคุกคามจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน ต่างนำหุ้นออกเทขาย ส่งผลให้ดาวโจนส์ดิ่งลง 2,352 จุด หวั่นเศรษฐกิจสหรัฐทรุดตัวลงหนัก
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,114.91 จุด ลดลง 134.95 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 1 แสนล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,000 จุด นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ต่างชาติเดินหน้าขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดทรุดตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 1,095 จุด ดัชนีตลาดเปิดลงแบบมีช่องว่างขาลง (Gap = 1,184 จุด – 1,249 จุด) ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเพื่อปิดช่องว่างขาลง (Filling the gap) แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อลงหรือปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณ MACD Histogram เป็น Convergence ที่แสดงว่าดัชนีตลาดยังมีทิศทางเคลื่อนตัวลง และเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) เรียงตัวแบบตลาดขาลง เป็นการยืนยันว่าดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลง
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E ที่มีแนวรับทางจิตวิทยาอยู่ที่ 1,000 จุด มีแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) อยู่ที่ 1,116 จุด และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 942 จุด
เมื่อนำจุดต่ำที่ 380 จุด กับจุดสูงที่ 1,852 จุด มาวิเคราะห์แนวรับ จะได้แนวรับดังนี้
38.0% Fibonacci Retracement = 1,290 จุด
50.0% Fibonacci Retracement = 1,116 จุด
61.8% Fibonacci Retracement = 942 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,000 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,159 – 1,204 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,070 – 1,045 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
คำแนะนำ
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายวัน ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จากกราฟรายวัน เพื่อการลงทุนระยะสั้น
- ในกรณีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ (ทยอย) โดยพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์ ควรดูพิจารณาสัญญาณ Bullish Divergence ของ MACD Histogram จากกราฟรายสัปดาห์ เพื่อการลงทุนระยะกลาง – ยาว
- ในกรณีที่ตลาดเป็น Bear Market มากๆ การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence อาจเกิดถึง 3 ยอด (โดยทั่วไปในภาวะที่ตามปกติ สัญญาณ Bullish Divergence ส่วนใหญ่จะเป็นสองยอด)
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
พักตัวเพื่อปรับฐาน
ตลาดหุ้นทั่วโลกผวาการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 จะสร้างผลกระทบเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง นักลงทุนต่างนำหุ้นออกเทขาย ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,364.57 จุด ลดลง 26.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจันศุกร์ (6/3) ปรับลดลงเกือบ 2 เปอร์เซ็นต์ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 แต่ไม่สามารถทำให้นักลงทุนผ่อนคลายลงได้
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,400 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงระหว่างการซื้อขายที่ 1,408 จุด แท่งเทียนมีลักษณะของ Gravestone Doji แต่ไม่อยู่ในเขตซื้อมากเกิน มีช่องว่างทั้งขาขึ้นขาลง สะท้อนถึงการเกิดแนวต้าน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล และเป็นการปรับตัวขึ้นตามหลักการของ Granville ดัชนีตลาดมีแนวต้านกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงอยู่ที่ 1,430 จุด แต่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากการเรียงตัวของเส้น MMA2 แสดงถึงดัชนีตลาดยังมีทิศทางเคลื่อนตัวลง
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E ที่มีแนวรับทางจิตวิทยาอยู่ที่ 1,300 จุด มีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) อยู่ที่ 1,292 จุด และมีแนวรับของคลื่น (4) อยู่ที่ 1,220 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่การที่สัญญาณ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Convergence ทำให้ดัชนีตลาดยังมีโอกาสปรับตัวลงหรือปรับฐานต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,375 – 1,390 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,348 – 1,335 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐาน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน แรงซื้อที่มีเข้ามาในช่วงเช้าหนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,400 จุด แรงขายที่มีออกมาในช่วงท้ายตลาดฉุดดัชนีตลาดกลับลงมาปิดที่ 1,390.83 จุด เพิ่มขึ้น 12.22 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.68 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,400 จุด ก่อนที่จะพักตัวตามมา สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ นักลงทุนผวาการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในสหรัฐจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่าที่คาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,400 จุด ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,408 จุด แรงขายที่มีออกมา ส่งผลให้เกิดแท่งเทียนรูป Gravestone Doji (แต่ยังไม่เข้าเขตซื้อมากเกิน) สะท้อนถึงการเกิดแนวต้าน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล และเป็นการปรับตัวขึ้นตามหลักการของ Granville ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,430 จุด แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากการเรียงตัวของเส้น MMA2 แสดงถึงดัชนีตลาดยังมีทิศทางเคลื่อนตัวลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E ที่มีแนวรับทางจิตวิทยาอยู่ที่ 1,300 จุด มีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) และมีแนวรับของคลื่น (4) อยู่ที่ 1,220 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่การที่สัญญาณ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Convergence ทำให้ดัชนีตลาดยังมีโอกาสปรับตัวลงหรือปรับฐานต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,400 – 1,408 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,378 – 1,369 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้าน 1,400
ตลาดทุนเริ่มกลับมาคึกคักหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายนอกรอบลง 0.50 เปอร์เซ็นต์ หนุนแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,378.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.85 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,400 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 10 วัน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (4/3) กลับมาร้อนแรง ดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 1,173 จุด หลัง Joe Biden คว้าชัยชนะศึก “Super Tuesday”
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดช่องว่าง (Gap) ขาขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล และเป็นการปรับตัวขึ้นตามหลักการของ Granville ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,430 จุด แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากการเรียงตัวของเส้น MMA2 แสดงถึงดัชนีตลาดยังมีทิศทางเคลื่อนตัวลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,852 จุด ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II,E ที่มีแนวรับทางจิตวิทยาอยู่ที่ 1,300 จุด มีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) และมีแนวรับของคลื่น (4) อยู่ที่ 1,220 จุด
หมายเหตุ
ได้ตัดการนับคลื่นช่วงวันที่ 30 เมษายน 2518 ที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 76.43 จุด ถึงวันที่ 4 กันยายน 2541 ที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 204 จุด ในช่วงเวลานี้ดัชนีตลาดได้ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงที่ 1,789 จุด เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2537 เหตุที่ต้องตัดช่วงนี้ออก เนื่องจากการนับคลื่นเอลเลียต นับคลื่น III จบที่ 1,850 จุด คลื่น IV จะซ้อนทับกับคลื่น I ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping และช่วงที่ดัชนีตลาดทำจุดต่ำที่ 204 จุด ราคาหุ้นธนาคารขนาดใหญ่หลายตัวปรับตัวลงทำจุดใหม่ต่ำกว่าช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการซื้อ หุ้นกลุ่มธนาคารจึงไม่สามารถนำมานับคลื่นได้ จึงต้องตัดดัชนีตลาดออก
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่การที่สัญญาณ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Convergence ทำให้ดัชนีตลาดยังมีโอกาสปรับตัวลงหรือปรับฐานต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,385 – 1,397 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,366 – 1,357 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ยังมีความเสี่ยง
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,375.02 จุด เพิ่มขึ้น 39.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากเส้น MMA2 แสดงถึงทิศทางขาลง สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิ 5,324 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 9
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 จะกระทบเศรษฐกิจในวงกว้าง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง หลังดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,317 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล และเป็นการปรับตัวขึ้นตามหลักการของ Granville ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,430 จุด แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐาน เนื่องจากการเรียงตัวของเส้น MMA2 แสดงถึงดัชนีตลาดยังมีทิศทางเคลื่อนตัวลง
จากกราฟรายเดือน ดัชนีตลาดจบคลื่น I,(5),5) ที่ 1,850 จุด ก่อนที่จะปรับตัวลดลงเป็นคลื่น II ตามหลักการคลื่น II มีโอกาสพักตัวลง 0.618 เท่าของความยาวของคลื่น I แต่ต้องไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น I
หมายเหตุ
ได้ตัดการนับคลื่นช่วงวันที่ 30 เมษายน 2518 ที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 76.43 จุด ถึงวันที่ 4 กันยายน 2541 ที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 204 จุด ในช่วงเวลานี้ดัชนีตลาดได้ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงที่ 1,789 จุด เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2537 เหตุที่ต้องตัดช่วงนี้ออก เนื่องจากการนับคลื่นเอลเลียต นับคลื่น III จบที่ 1,850 จุด คลื่น IV จะซ้อนทับกับคลื่น I ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping และช่วงที่ดัชนีตลาดทำจุดต่ำที่ 204 จุด ราคาหุ้นธนาคารขนาดใหญ่หลายตัวปรับตัวลงทำจุดใหม่ต่ำกว่าช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการซื้อ หุ้นกลุ่มธนาคารจึงไม่สามารถนำมานับคลื่นได้ จึงต้องตัดดัชนีตลาดออก
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่การที่สัญญาณ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Convergence ทำให้ดัชนีตลาดยังมีโอกาสปรับตัวลงหรือปรับฐานต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,385 – 1,397 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,357 – 1,348 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ได้แนะนำให้ล้างพอร์ตการลงทุน จะกลับเข้าซื้อเมื่อสัญญาณ RSI และ MACD Histogram เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง