Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนเกิดเป็นสตาร์และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 77.05 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน การเกิดสัญญาณ Bearish Divergence เตือนถึงความเสี่ยงในช่วงปลายตลาดขาขึ้น ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 74.73 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 76.47 – 77.05 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 74.73 - 73.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 76.47 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 74.73 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 77.05 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 76.47 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 77.05 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "COMMODITY"
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้าง ราคาจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 1,833 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,800 เหรียญ
กรณที่ราคาทองคำสามารถยืนปิดเหนือ 1,833 เหรียญ จะเป็นการยืนยันการจบคลื่นปรับ คลื่น (iv),v) ที่ 1,750 เหรียญ และราคาทองคำกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น i) และ ii) ที่มีราคาตาม Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,873 เหรียญ และ 1,924 เหรียญ ตามลำดับ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,824 – 1,834 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,806 – 1,789 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,824 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,800 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,824 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,800 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำดีดตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,832 เหรียญ แท่งเทียนเป็น Bullish Candlestick และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,833 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,833 เหรียญ และ 1,853 เหรียญ ตามลำดับ
กรณที่ราคาทองคำสามารถยืนปิดเหนือ 1,833 เหรียญ จะเป็นการยืนยันการจบคลื่นปรับ คลื่น (iv),v) ที่ 1,750 เหรียญ และราคาทองคำกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น i) และ ii) ที่มีราคาตาม Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,873 เหรียญ และ 1,924 เหรียญ ตามลำดับ
ราคาทองคำจะยืนยันการจบคลื่น ii) ที่ 1,789 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 1,833 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,839 – 1,851 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,816 – 1,806 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,839 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,816 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,851 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,833 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,851 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากราคาแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ราคาน้ำมันระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 77.05 เหรียญ และราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 74.73 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 76.47 – 77.05 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 74.73 - 73.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 76.47 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 74.73 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 74.73 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 73.77 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 76.47 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 41,341 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Top ในเขตซื้อมากเกินสะท้อนถึงการเกิดแนวต้าน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาทองคำระยะสั้นเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคามีโอกาสพักตัว ก่อนที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมายแรก (จากการทำ Measuring Target ที่ 52,500 เหรียญ)
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 41,341 – 42,297 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 39,475 – 38,373 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 41,341 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 39,475 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 41,341 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 38,373 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 40,065 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 38,373 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ขาดปัจจัยบวก
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ยังคงซบเซา ตลาดขาดปัจจัยบวกที่จะมาขับเคลื่อน แต่สัญญาณ Bullish Divergence ถือเป็นสัญญาณทางเทคนิคัลที่แสดงถึงปลายตลาดขาลง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,537.78 จุด เพิ่ม 0.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.9 หมื่นล้านบาท ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 29 ตลาดปิดในแดนบวกขานรับการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดไว้ที่ 0.00 – 0.25 เปอร์เซ็นต์ และคงนโยบายซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ หลังดัชนีปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,530 จุด เกิดแท่งเทียนเป็น Harami ขาลงเป็นครั้งที่สองในเขตขายมากเกิน สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวลง ขณะที่สัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ยอดที่สอง (กรณีที่เกิดยอดที่สามควรเข้าซื้อ) ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนียืนปิดเหนือแนวต้านของเส้น MMA2 ที่ 1,580 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,530 จุด และกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,529 จุด การนับคลื่นปรับ (Collective wave) จะต้องนับใหม่ เนื่องจากคลื่น (iv) ซ้อนทับกับคลื่น (i) ไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping (ใช้ราคาปิดเป็นตัววิเคราะห์)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ สัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ยอดที่สอง กรณีที่เกิดยอดที่สามจะเป็นสัญญาณซื้อ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,547 – 1,558 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,529 – 1,519 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต และในกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,535 จุด ควรปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 29 กรกฏาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดเช้ามืดวันนี้ลบ 10 เซนต์ ก่อนเฟดจะออกแถลงการณ์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. วานนี้ปิดลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,799.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นการปรับตัวลงก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตลาดทองคำได้ปิดทำการซื้อขายก่อนแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐจะเกิดขึ้น
นักลงทุนได้เฝ้าติดตามผลการประชุมในเช้ามืดวันนี้ หลังจากที่เฟดเองก่อนหน้านี้ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดการเงินในการประชุมเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้วเฟดเองยังคงเพิ่มการคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้สู่ระดับ 3.4% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมีนาคมที่ระดับ 2.4%
ทั้งนี้นั้นนักลงทุนเองก็ยังเฝ้ามองการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้ด้วย ก่อนที่เฟดจะจัดให้มีการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 สิงหาคม นี้ จากการแถลงการณ์ที่ผ่านมาเมื่อช่วงเช้ามืด ได้มีคำถามต่อประธานเฟดนายเจอโรม เกี่ยวกับการทำ Taper ว่าจะมีการดำเนินการเมื่อไหร่ นายเจอโรมก็เลี่ยงที่จะตอบคำถามดังกล่าว โดยบอกเพียงว่ายังไม่ถึงเวลาของการทำ Taper ในเวลานี้ คงต้องรอให้เศรษฐกิจมีความมั่นคงและฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ตลอดจนการจ้างงานที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน เมื่อถูกนักข่าวถามว่าวันนี้ไม่มีการพูดถึงเรื่อง Taper แต่จะไปพูดในวันที่มีประชุมที่แจ็กสัน โฮล ใช่หรือไม่ นายเจอโรมก็ยังไม่ตอบคำถามดังกล่าว ซึ่งเรื่องการอัดฉีดเงินเข้าระบบเป็นสิ่งที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจว่าเฟดจะยุติการดำเนินการเรื่องดังกล่าวเมื่อไหร่ จึงยังทำให้เกิดความผันผวนจากตลาดที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากเฟดช่วงเช้ามือวันนี้
นักลงทุนยังเฝ้าติดตามการเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 1 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ประจำไตรมาส 2 วันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์เองคาดการณ์ว่า GDP สหรัฐจะขยายตัว 8.5% ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2626 และพุ่งขึ้นจากระดับ 6.4% ในไตรมาส 1 ซึ่งหาก GDP เป็นบวกสองไตรมาสติดต่อกันก็จะเป็นการสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในยามนี้ จะเป็นเหตุปัจจัยกดดันทองคำได้ในที่สุด เนื่องจากดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าได้อีกครั้ง ก็ติดตามกันในเวลา 19:30 น. คืนนี้ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ของสหรัฐคืนนี้มีดังนี้
- จำนวนคนที่ยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก รายสัปดาห์ คาดการณ์ที่ 380,000 ตำแหน่งจากก่อนหน้าที่ 419,000 ตำแหน่ง เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
- ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย (เดือนต่อเดือน) (มิถุนายน) ตัวเลขคาดการณ์ที่ 0.3% จากก่อนหน้า 8.0% เวลา 21:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
สำหรับในฝั่งของตลาดหุ้นก็ปั่นป่วนไม่น้อยหลังเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 0% - 0.25% เอาไว้เช่นเดิม โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ ยังคงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในข้อตกลง APAC ช่วงต้นของวันพฤหัสบดี หลังจากที่มีเหตุการณ์ที่หลากหลายวานนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ถือ อัตราเงินสดอย่างเป็นทางการที่ระดับ 0-0.25% โดยประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวล ได้ออกมาเตือนในเรื่องดังกล่าวว่าในขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ผู้กำหนดนโยบายยังไม่เห็นความคืบหน้าต่อเป้าหมายการจ้างงานและเสถียรภาพด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่อาจรอจนถึงเดือนพศจิกายนก่อนที่จะประกาศลดการเข้าซื้อสินทรัพย์อย่างเป็นทางการต่อไป
ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ก็ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.238% ส่วนดัชนีดอลลาร์สหรัฐเช้ามืดวันนี้ปิดลบ 0.204 จุด (-0.22%) ปิดที่ระดับ 92.268 รับผิดหวังจากการที่เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยเช่นเดิม
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ทองคำเช้าวันนี้ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังการแถลงของเฟดเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ประเมินเทคนิควันนี้ทองคำยังมีแรงซื้อเข้าหนุนตลาดได้ส่วนหนึ่งมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยให้เฝ้ารอจังหวะการเข้าซื้อทองคำวันนี้เมื่อเกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำบริเวณแนวรับสำคัญๆ ต่างๆ หากวันนี้ทองคำยังมีแรงซื้อเข้าหนุนตลาดอย่างต่อเนื่องอาจมีแนวโน้มที่ทองคำจะสะสมระดับราคาขึ้นไปใกล้ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ต้องระมัดระวังตัวเลข GDP ในค่ำคืนนี้ที่อาจออกมาสนับสนุนการปรับฟื้นคืนของดอลลาร์มากดดันราคาทองคำได้อีกครั้งหนึ่ง จึงควรเน้นการลงทุนระยะสั้นก่อนข่าวดังกล่าวจะถูกประกาศออกมา
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอราคาทองคำย่อลงมาบริเวณ 1,807-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากกลับมาทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น ให้พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่หากผ่านขึ้นไปได้ก็ให้พิจารณาแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : UP trend
-----------------------------------------
4H : UP trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,811 / 1,807 / 1,803
---------------------------------------------------
Resistance : 1,816 / 1,825 / 1,834
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,797.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,025.64 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 10 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -20.14 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
โควิดยังกดดันตลาด
ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากยอดการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กูรูคาดยอดการติดเชื้อโควิดในช่วง 4 – 6 สัปดาห์ข้างหน้าจะลดลงจากการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ดัชนีตลาดปิดที่ 1,537.63 จุด ลดลง 7.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นบวกในเขตขายมากเกิน ติดตามสัญญาณ Bullish Divergence นักลงทุนต่างชาติเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 28 ดัชนีดาวโจนส์และแอสแอนด์พี 500 ปรับลดลง ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.00 – 0.25 เปอร์เซ็นต์ และเฟดยังคงมาตรการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทางลง (Sideways down) ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,530 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวลง ขณะที่สัญญาณ RSI เกิดสัญญาณ Bullish Divergence ยอดที่สอง (กรณีที่เกิดยอดที่สามควรเข้าซื้อ) สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นบวก และภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนียืนปิดเหนือแนวต้านของเส้น MMA2 ที่ 1,574 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,530 จุด และกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,529 จุด การนับคลื่นปรับ (Collective wave) จะต้องนับใหม่ เนื่องจากคลื่น (iv) ซ้อนทับกับคลื่น (i) ไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping (ใช้ราคาปิดเป็นตัววิเคราะห์)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic กลับท่เป็นบวกในเขตขายมากเกิน ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง อย่างไรก็ดี ในภาวะตลาดหมี (Bear Market) การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI อาจเป็นแบบสามยอด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,547 – 1,558 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,529 – 1,519 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต และในกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,535 จุด ควรปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำปรับตัวขึ้นปิดเหนือแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงระยะกลาง หลังราคาปรับตัวลงทำราคาต่ำที่ 1,789 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวลงที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก ราคาทองจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น ii) ที่ 1,789 เหรียญ เมื่อราคาทองสามารถยืนปิดเหนือ 1,834 เหรียญ และราคาทองจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาทองไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,789 เหรียญ ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 1,789 – 1,834 เหรียญ
ราคาทองคำจะยืนยันการจบคลื่น ii) ที่ 1,789 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 1,834 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,814 – 1,820 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,798 – 1,789 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,811 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,820 – 1,834 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,798 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,834 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,820 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,834 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 74.35 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาน้ำมันระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง แรงขายที่มีออกมาจะทำให้ราคามีแนวโน้มพักตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 73.97 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 75.28 เหรียญ ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 75.62 – 76.47 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 73.77 - 72.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 73.97 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 72.84 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 75.62 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 75.28 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 76.47 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 73.97 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวขึ้น แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Top ในเขตซื้อมากเกิน ราคามีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 41,341 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาทองคำระยะสั้นเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคามีโอกาสพักตัว ก่อนที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมายแรก (จากการทำ Measuring Target ที่ 52,500 เหรียญ)
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 41,341 – 42,297 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 39,475 – 38,373 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 41,341 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 39,475 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 41,341 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 38,373 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 40,065 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 38,373 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆและมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางลง (Sideways down) หลังราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,834 เหรียญ สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อปรับฐานเข้าหาแนวรับที่ 1,791 เหรียญ โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,776 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคัลจะกลับมาเป็นบวกเมื่อราคายืนปิดเหนือ 1,811 เหรียญ
ราคาทองคำพักตัวลงเป็นคลื่นปรับแบบ (a)-(b)-(c) โดยคลื่น (iv),(c) และคลื่นปรับจบที่ 1,750 จุด
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,806 – 1,817 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,789 – 1,780 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,791 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,780 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,811 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,811 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,820 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,791 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 74.35 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาน้ำมันระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง แรงขายที่มีออกมาจะทำให้ราคามีแนวโน้มพักตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 72.84 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 75.28 เหรียญ ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 75.62 – 76.47 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 73.77 - 72.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 72.84 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 71.91 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 75.62 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 71.91 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 72.84 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 71.91 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นทะลุแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 36.623 เหรียญ หลังราคาบิทคอยน์พักตัวลงเป็นคลื่นปรับแบบ ABCDE และจบคลื่น IV,E ที่ 29,296 เหรียญ สัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง ราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 41,341 เหรียญ ระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 40,581 เหรียญ ก่อนที่จะปรับตัวลงมาปิดที่ 37,758 เหรียญ เงาส่วนบน (Upper shadow) มีขนาดยาว สะท้อนถึงการเกิดแนวต้านระหว่างวัน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก
การมองราคาในรูปแบบของคลื่นเอลเลียต ราคากำลังพักตัวจากคลื่น III ลงเป็นคลื่น IV,E ราคากำลังพักตัวลงแบบ ABCDE โดยคลื่น IV,E มีแนวโน้มจบคลื่นปรับที่ 29,296 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 38,940 - 40,581 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 35,907 – 34,699 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 38,940 – 40,581 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 35,907 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 41,341 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 38,940 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 41,341 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 27 กรกฏาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คคืนวานนี้ปิดตลาดลบ 2.6 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนรอผลประชุมเฟด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. วานนี้ปิดลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.10% ปิดที่ 1,799.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นการปรับตัวลงต่อกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกรอบ ปัจจัยทองคำกลับมากดดันตลาดอีกครั้งจากการที่นักลงทุนได้ทำการชะลอการซื้อขายทองคำลง เพื่อรอผลประชุมนโยบายทางการเงินธนาคารกลางสหรัฐหรือว่า “เฟด” ในวันพุธที่ 28 กรกฎาคม 2564 นี้ ซึ่งตรงกับช่วงเวลาเช้ามืดของวันพฤหัสบดี ตามเวลาประเทศไทย จากนั้นก็จะเป็นการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ “เฟด” ซึ่งก่อนหน้านี้นายเจอโรมได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีที่ผ่านมาว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสใจความว่า “เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นสูงในเวลานี้ก็ตาม”
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐนั้นก็ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนหวนกลับมาเข้าซื้อทองคำได้ส่วนหนึ่ง จึงยังประคองให้ราคาทองคำไม่ดิ่งลงไปมากนัก โดยรายงานจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่ได้ปรับร่วงลง 6.6% สู่ระดับ 676,000 ยูนิตในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นมา และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์กันไว้ว่าจะเพิ่มขี้น 3% สู่ระดับ 800,000 ยูนิต
สำหรับวันนี้ติดตามรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (MoM) เดือนมิถุนายน คาดการณ์ไว้ที่ 0.8% จากค่าตัวเลขก่อนหน้าที่ระดับ 0.3% เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ภาพรวมทางเทคนิคทองคำวันนี้ทองคำช่วงเช้ายังมีการปรับฐานขึ้นได้เล็กน้อย จากการปรับฐานระยะสั้น ประเมินหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ก็มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,811-1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือบริเวณแนวต้านดังกล่าว เป็นไปได้ว่านักลงทุนอาจทำการเทขายทำกำไรระยะสั้นกันอีก โดยประเมินแนวรับไว้ที่บริเวณ 1,798-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่เฝ้ารอที่จะเข้าซื้อทองคำอาจรอให้ราคาทองคำกลับมาอยู่ที่บริเวณนี้อย่างแข็งแกร่งก่อน จึงจะทำการเสี่ยงเข้าซื้อได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยระยะนี้ราคาทองคำยังคงผันผวนจากตลาดจึงแนะนำให้การลงทุนปรับทิศทางการลงทุนในระยะสั้นเท่านั้น
สำหรับกรอบรายวัน ทางเทคนิคเรายังเห็นการอ่อนค่าของราคาทองคำต่อเนื่อง โดยแนวรับกรอบรายวันจะอยู่ที่ 1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าราคายังไม่หลุดต่ำลงไปจากแนวรับนี้ก็ยังมีโอกาสที่เราจะเห็นการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้เช่นกัน ประเมินทางเทคนิคเราจะพอมองเห็นแรงซื้อที่เข้ามาหนุนตลาดทองคำในกรอบรายวันได้บ้าง ซึ่งถ้าแรงซื้อที่เข้ามานั้นมากพอ โครงสร้างช่วงปรับฐานราคาก็จะกลับขึ้นไปอีกครั้ง หากราคาสามารถผ่านแนวต้าน 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ทิศทางขาขึ้นของทองคำก็จะกลับมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,796-1,793 หากว่าทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้ที่บริเวณนี้ แต่ถ้าราคายังปรับลดต่ำลงไปให้รอไปรอซื้อที่ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกที โดยเน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวรับ 1,803-1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : ในฝั่งขายนั้น ให้รอเข้าเสี่ยง “ขาย” ที่บริเวณแนวต้าน 1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านระยะสั้นดังกล่าวได้ก็ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1,798-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,790 / 1,782 / 1,776
---------------------------------------------------
Resistance : 1,803 / 1,812 / 1,825
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ปรับลดลง -1.74
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,797.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,025.64 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 10 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -20.14 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ติดตามสัญญาณบวก
บรรยากาศการซื้อขายชะลอตัว เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดใกล้แตะ 20 เปอร์เซ็นต์ (เข็มแรก) ดัชนีตลาดปิดที่ 1,545.10 จุด ลดลง 7.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.95 หมื่นล้านบาท สถาบันภายในประเทศและนักลงทุนทั่วไปเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นบวกในเขตขายมากเกิน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม ตลาดปิดบวกในกรอบแคบๆ หลังตัวเลขยอดขายบ้านต่ำกว่าประมาณการ ขณะที่นักลงทุนเฝ้าติดตามผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ที่จะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,530 จุด สัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นบวก และภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนียืนปิดเหนือแนวต้านของเส้น MMA2 ที่ 1,574 จุด (จากเดิม 1,580 จุด)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,530 จุด และกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,529 จุด การนับคลื่นปรับ (Collective wave) จะต้องนับใหม่ เนื่องจากคลื่น (iv) ซ้อนทับกับคลื่น (i) ไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping (ใช้ราคาปิดเป็นตัววิเคราะห์)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณ Modified Stochastic กลับท่เป็นบวกในเขตขายมากเกิน ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง อย่างไรก็ดี ในภาวะตลาดหมี (Bear Market) การเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI อาจเป็นแบบสามยอด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,556 – 1,565 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,537 – 1,529 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต และในกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,535 จุด ควรปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำวันจันทร์ที่ 26 กรกฏาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาปิดลบ 3.60 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. วานนี้ปิดลดลง 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 1,801.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การปรับลดลงของทองคำอีกวันหนึ่งนี้ก็มาจากสาเหตุเดิมจากการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี อีกทั้งยังมีการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทำนิวไฮใหม่เป็นเหตุให้นักลงทุนลดความสนใจในทองคำ
ตอนนี้เราต้องติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 27-28 ก.ค. นี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาอันใกล้นี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นมาสูงมาในเวลานี้ก็ตาม
ประเมินทางเทคนิควันนี้
สำหรับการประเมินทางเทคนิคทองคำเช้าวันนี้ทองคำยังมีแรงซื้อหนุนเข้ามาไม่มากนัก จึงอาจจะยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นสูงกว่าแนวต้านระดับ 1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้หากแรงซื้อยังสามารถประคองราคาทองคำให้ยืนเหนือระดับแนวรับที่ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ก็มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบแบวต้าน 1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เช่นกัน แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าวได้ ก็อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมาอีกครั้ง ประเมินแนวรับที่บริเวณ 1,798-1,794 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงสำหรับฝั่งซื้อนั้น หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,798-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,811 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : ในฝั่งขายนั้น ให้รอเข้าเสี่ยง “ขาย” ที่บริเวณ 1,811 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณนี้ โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวรับ 1,803-1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,811 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,798 / 1,790 / 1,782
---------------------------------------------------
Resistance : 1,811 / 1,817 / 1,825
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ปรับลดลง -1.17
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,802.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,027.38 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 9 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -18.40 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐาน
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และอิเลคโทรนิค หนุนดัชนีปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,552.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลขัดแย้งกัน ทำให้ดัชนีตลาดระยะอยู่ในช่วงปรับฐาน สถาบันในประเทศกลับมาเป็นกลุ่มนำซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม ตลาดแกว่งตัวแคบๆแรงซื้อเริ่มชะลอตัวเนื่องจากผิดหวังตัวเลขการว่างงานที่สูงกว่าที่คาด นักลงทุนยังเฝ้าติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเข้าหาแนวต้านของช่องว่างขาลงที่ 1,557 – 1571 จุด โดยมีเส้น MMA2 ทำหน้าที่เป็นแนวต้านร่วมอยู่ที่ 1,573 – 1,574 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,530 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาลง ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาลง สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางปรับตัวลง สอดคล้องกับดัชนีตลาดที่สร้างสูงยกลงต่ำ (Lower High) ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,530 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,535 จุด และกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,529 จุด การนับคลื่นปรับ (Collective wave) จะต้องนับใหม่ เนื่องจากคลื่น (iv) ซ้อนทับกับคลื่น (i) ไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณ Modified Stochastic แลพ MACD เป็นลบ ขณะที่สัญญาณ RSI กลับมาเป็นบวก สัญญาณทางเทคนิคัลที่ขัดแย้งกัน จะทำให้ดัชนีแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไร้ทิศทางเพื่อปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,563 – 1,574 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,543 – 1,532 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต และในกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,535 จุด ควรปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 22 กรกฏาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คเมื่อคืนนี้ปิดลบ 8 ดอลลาร์ จากเหตุบอนด์ยีลด์พุ่งกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง/b]
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. วานนี้ปิดลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,803.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การปรับร่วงของทองคำครั้งนี้มาจากสาเหตุการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เป็นปัจจัยหลักที่เข้ามากดดันตลาดทองคำอีกครั้ง ถึงอย่างไรการปรับตัวลงของทองคำก็ยังเป็นเพียงการปรับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ยังสร้างความกังวลต่อนักลงทุนที่กระตุ้นให้เข้ามาลงทุนส่วนหนึ่งในตลาดทองคำที่อยู่ในฐานสินทรัพย์ปลอดภัยประเภทหนึ่ง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ได้ดีดตัวขึ้นใกล้ระดับ 1.30% เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นการสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
อย่างไรก็ดีการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ก็มาช่วยให้ทองคำมีแรงดึงดูดในการเข้าซื้อได้เช่นกัน เนื่องจากทำให้ราคาทองคำจะมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ได้มีการถือครองเงินสกุลอื่นๆ สำหรับดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลักในตะกร้าเงินลดลง 0.22% ที่ระดับ 92.76 เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา
นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในสหรัฐในเวลานี้ ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้ออกมาแถลงว่า จำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นในสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าคิดเป็น 83% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด สูงกว่าระดับ 50% ที่พบในช่วงวันที่ 27 มิถุนายน – 3 กรกฏาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์กันว่าทองคำอาจจะพุ่งขึ้น 10% และแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ทองคำวันนี้ยังมีทิศทางการปรับตัวลงต่ำเนื่องจากการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์ สำหรับช่วงเช้าวันนี้บอนด์ฯ ได้ปรับขึ้นทดสอบ SMA200 วันในกรอบรายชั่วโมงซึ่งราคายังคงปรับฐานที่บริเวณดังกล่าว หากไม่ปรับขึ้นต่อก็จะส่งผลต่อทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ แต่อาจเป็นการปรับขึ้นระยะจำกัด เพราะดอลลาร์ช่วงเช้าวันนี้ก็เข้าลักษณะการปรับฐานราคาเหนือเส้น SMA200 วันในกรอบรายชั่วโมง ประเมินทางเทคนิคแล้ววันนี้หากราคาทองคำยังไม่หลุด 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้นั้น เราอาจเห็นการปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านระดั้บ 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนทองคำเวลานี้ให้ทำการซื้อขายด้วยการเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ไม่แนะนำให้มีการถือ Position ข้ามคืน เนื่องจาทองคำมีความผันผวนจากปัจจัยสองด้านคือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดัชนีดอลลาร์ เข้ามามีส่วนกดดันตลาดทองคำเวลานี้ จึงควรติดตามสถานการณ์ของสินทรัพย์สองประเภทนี้ควบคู่กันไปด้วย สำหรับวันนี้ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐได้แก่
1. รายงานงานจำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก คาดการณ์ที่ 350,000 ตำแหน่ง เวลา 19:30 น.
2. ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เดือนมิ.ย. คาดการณ์ 5.90 ล้านยูนิต เวลา 21:00
ตลาดหุ้นวันนี้ฝั่งเอเชียปรับขึ้นเชิงบวกขานรับตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับเชิงบวกไปเมื่อคืนนี้ คาดการณ์วันนี้ตลาดหุ้นจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง จึงจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจทำให้ทองคำถูกสกัดกั้นเชิงบวกได้เช่นกัน ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : กลยุทธ์การเทรดรายชั่วโมงสำหรับฝั่ง Long รอราคาทองคำลงมาบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น ก็อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น ประเมินปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : สำหรับกลยุทธ์การเทรดฝั่ง Short นั้นหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ก็ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ใต้บริเวณแนวต้านดังกล่าว เน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับบริเวณดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,795 / 1,785 / 1,775
---------------------------------------------------
Resistance : 1,804 / 1,810 / 1,825
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,812.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,028.55 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 8 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -17.23 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆและมีทิศทางปรับตัวลง (Sideways down) หลังราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,834 เหรียญ สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อปรับฐาน ระยะสั้นราคาไม่ควรตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,805 เหรียญ เพราะจะเป็นสัญญาณที่แสดงถึงการปรับตัวลง
ราคาทองคำพักตัวลงเป็นคลื่นปรับแบบ (a)-(b)-(c) โดยคลื่น (iv),(c) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,769 จุด
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,813 – 1,818 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,794 – 1,787 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,790 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,813 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,813 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,830 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,800 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นปิดสูง แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ หลังราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 30,066 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลงที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก หนุนให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นในระยะสั้น ระยะกลางราคาแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 30,066 – 36,623 เหรียญ
การมองราคาในรูปแบบของคลื่นเอลเลียต ราคากำลังพักตัวจากคลื่น III ลงเป็นคลื่น IV,C ราคากำลังพักตัวลงแบบ A-B-C โดยคลื่น C จะยาวเท่ากับคลื่น A x 1.618 เป้าของคลื่น IV,C จึงอยู่ที่ 30,655 เหรียญ โดยประมาณ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 33,293 - 34,677 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 31,068 – 29,792 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 33,293 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 31,068 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 34,677 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 33,293 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 34,677 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
เงินบาทอ่อนสร้างแรงกดดัน
ตลาดแกว่งตัวแคบๆแรงซื้อเริ่มกลับเข้ามา ขณะที่ตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ปรับสูงขึ้น มาตรการล็อคดาวน์ทำให้นักลงทุนบางส่วนผวาถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ ดัชนีตลาดปิดที่ 1,540.88 จุด เพิ่มขึ้น 2.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.36 หมื่น 7.36 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธที่ 21 ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อน สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ กระตุ้นนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเกี่ยวกับการเดินทาง ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาสดใส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,529 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาลงในเขตขายมากเกิน สัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI แสดงถึงช่วงปลายตลาดขาลง สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางปรับตัวลง สอดคล้องกับดัชนีตลาดที่สร้างสูงยกลงต่ำ (Lower High) เส้น MMA2 ทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,574 – 1,575 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,580 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,535 จุด และกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,529 จุด การนับคลื่นปรับ (Collective wave) จะต้องนับใหม่ เนื่องจากคลื่น (iv) ซ้อนทับกับคลื่น (i) ไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,529 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,549 – 1,558 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,530 – 1,519 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต และในกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,535 จุด ควรปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ราคาปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 67.63 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Bottom ในเขตขายมากเกิน สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวลง เกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 70.45 – 71.93 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 67.56 - 66.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 70.45 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 68.97 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 70.45 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 67.56 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 70.45 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 67.56 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity