Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวผันผวน และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้าน หลังราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 71.89 เหรียญ แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 71.35 – 74.60 เหรียญ ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 73.42 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 72.35 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 72.88 – 73.90 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 70.88 - 69.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 70.88 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 72.88 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 70.88 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 71.89 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 70.88 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "COMMODITY"
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ราคามีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดสูงเก่าที่ 43,935 เหรียญ และกึ่งกลางลำตัวของ Bearish Candlestick เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน แรงซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น จะหนุนให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 47,419 - 48,049 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 45,355 - 44,436 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 47,419 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 48,049 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 45,550 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 45,550 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 44,436 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 47,419 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวรับระยะสั้น 1,621 – 1,611 จุด
แรงที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างต่อเนื่อง ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,629.12 จุด ลดลง 11.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาขายสุทธิกว่า 2.3 พันล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงต่ำสุดจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตร
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ ระหว่างการซื้อขายดัชนีปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,646 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด จะเป็นจุดเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,637 – 1,646 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวลงแคบๆเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,774 เหรียญ โดยมีขนาดลำตัวของ Bearish Candlestick ที่ 1/3 และ 2/3 ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเพื่อปรับฐานสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,802 – 1,809 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,782 – 1,774 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,780 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,802 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,774 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,774 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 73.42 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 71.35 – 74.60 เหรียญ ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 73.42 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 72.35 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 74.05 – 75.21 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 72.88 - 71.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 73.43 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.05 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 72.35 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 72.35 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 71.35 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 73.43 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวแคบๆ หลังราคาทรุดตัวลง (-11.9%) ระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 44,436 เหรียญ ราคามีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 43,935 เหรียญ แท่งเทียนปรากฏเงาส่วนล่างต่อเนื่องเป็นแท่งที่สอง สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน แรงซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น จะหนุนให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 48,049 – 49,965 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 45,279 - 43,985 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 45,279 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 46,623 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 45,279 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 48,049 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 46,623 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 48,049 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
รอจังหวะเข้าซื้อ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก หลังต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 7.5 พันล้านบาท ดัชนีตลาดปิดที่ 1,640.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.98 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 8 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากความกังวลว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศของสหรัฐฯ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากแรงซื้อเก็งกำไรที่มีเข้ามา สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นเริ่มชะลอตัว ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านกึ่งกลางลำตัวของ Bearish Candlestick ที่ 1,645 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงสลับกับการปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,648 – 1,658 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,632 – 1,621 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำทรุดตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,780 เหรียญ หลังราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,834 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีขนาดลำตัว 1/3 และ 2/3 ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ราคามีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,780 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาทองคำเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาทองพักตัวลงสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,803 – 1,813 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,787 – 1,780 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,803 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,803 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,774 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,787 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,774 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สาม หลังราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 73.74 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ราคาน้ำมันจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ และราคาน้ำมันดิบจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 72.31 เหรียญ ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางลง
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 73.16 – 74.27 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 71.35 - 70.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 72.31 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 71.35 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 73.16 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 70.67 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 71.35 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 70.67 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ทรุดตัวลง (-11.9%) หลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 52,956 เหรียญ ระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 42,900 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีขนาดลำตัว 1/3 และ 2/3 ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 46,309 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI กดดันให้เกิดแรงขาย ระยะสั้นราคาบิทคอยน์อยู่ในช่วงพักตัวลงเพื่อปรับฐาน
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 48,867 – 50,793 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 45,539 - 44,694 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 48,867 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 46,820 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 48,867 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 43,935 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 45,539 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 43,935 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวรับที่ 1,621 จุด
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,636.45 จุด ลดลง 11.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาท ต่างและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคารที่ 7 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์และเอลแอนด์พีปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนหวั่นการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนสองแท่งหลังเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Two Dark Crows ในเขตซื้อมากเกิน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดมีช่องว่างขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,647 – 1,658 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,628 – 1,618 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆใต้แนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,834 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาทองคำเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาทองพักตัวลงสลับกับการปรับตัวขึ้น ราคาทองคำจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 1,834 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,816 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,834 – 1,844 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,816 – 1,808 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,834 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,844 – 1,851 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,816 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,816 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,834 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 73.74 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ราคาน้ำมันจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ และราคาน้ำมันดิบจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 72.31 เหรียญ ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 73.74 – 74.40 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 71.84 - 71.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.40 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 72.31 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 72.31 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 71.35 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 73.74 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์เคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น ราคาดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 50,520 เหรียญ และปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 52,230 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Hanging Man ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาบิทคอยน์เผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคามีโอกาสปรับตัวลดลงสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 53,500 – 54,500 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 51,809 - 50,520 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 52,230 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 53,500 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 51,809 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 51,809 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 50,520 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 52,230 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะสั้นพักตัว
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด กดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,648.37 จุด ลดลง 1.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.8 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันจันทร์ที่ 6 กันยายน ตลาดปิดทำการเนื่องในวัน “แรงงาน”
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายระยะสั้น หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,657 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Star แท่งที่ 2 ในเขตซื้อมากเกิน สะท้อนถึงเริ่มเกิดแนวต้าน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นลบ ขณะที่สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดมีช่องว่างขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,657 – 1,665 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,638 – 1,628 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำดีดตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,834 จุด แท่งเทียนเกิดสัญญาณปรับตัวขึ้นต่อเนื่องแบบ Rising Three Methods ราคาทองคำจะยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 1,834 เหรียญ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาทองคำเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคาทองพักตัวลงสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,834 – 1,842 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,816 – 1,808 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,834 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,816 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,842 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,830 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,842 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบแกว่งแคบๆใต้แนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 73.74 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Shooting Star สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาน้ำมันจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อราคายืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ และราคาน้ำมันดิบจะมีทิศทางปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้ ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 71.35 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 74.40 – 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 72.62 - 71.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.40 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 72.62 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 73.16 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 71.35 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 73.74 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 50,520 เหรียญ ขึ้นมาปิดที่ 51,610 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI เริ่มมีทิศทางปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ราคาบิทคอยน์เผชิญแรงขาย ส่งผลให้ราคามีโอกาสปรับตัวลดลงสลับกับการปรับตัวขึ้น
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 52,379 -53,585 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 50,520 - 49,500 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 52,379 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50,520 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 52,379 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 50,520 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 52,379 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะสั้นมีความเสี่ยง
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ จากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แต่มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน ดัชนีตลาดปิดที่ 1,650.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.87 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้เกิดแรงขาย ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ที่ 3 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนีแนสแดคปิดในแดนบวก นักลงทุนผิดหวังตัวเลขการจ้างงานเดือนสิงหาคมต่ำกว่าที่คาดการณ์ ตลาดได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ หลังดัชนีปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,657 จุด แท่งเทียนเกิดเป็นสตาร์ในเขตซื้อมากเกิน สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นลบ ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงสลับกับการปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดมีช่องว่างขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,660 – 1,670 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,642 – 1,634 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,580 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แท่งเทียนเกิดเป็นสตาร์ สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาทองคำมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,834 เหรียญ และมีแนวรับอยู่ที่ 1,795 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,819 – 1,827 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,800 – 1,795 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,804 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,795 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,816 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,816 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,834 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,804 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 73.74 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ และราคาจะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น กรณีที่ราคาไม่สามารถยืนปิดเหนือ 73.74 เหรียญ ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 71.35 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 74.65 – 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 72.86 - 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.65 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 72.86 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 75.23 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 74.65 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 75.23 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 50,520 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Shooting Star ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI เริ่มมีทิศทางปรับตัวขึ้น ราคาจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 50,520 เหรียญ และราคาจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 48,625 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 50,520 -51,572 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 48,190 - 47,024 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 50,520 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 51,572 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 48,190 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 48,625 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 47,024 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 50,520 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบเป้าหมายที่ 1,673 จุด
ต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิในหุ้นขนาดใหญ่ หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,647.75 จุด เพิ่มขึ้น 13.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 3 พันล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะสั้น โดยดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,673 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 ตลาดปิดในแดนบวกขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าที่คาดการณ์ สะท้อนถึงตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,652 จุด ดัชนีปรับตัวทะลุแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,642 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ การปรับตัวลดลงจะเกิดเมื่อสัญญาณ RSI เกิดเป็น Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น ดัชนีตลาดมีช่องว่างขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,647 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,656 – 1,670 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,638 – 1,628 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เพิ่มพอร์ตการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,580 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity