Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบ Brent แกว่งตัวแคบในทิศทางปรับตัวขึ้น (Sideways up) โดยดัชนีเคลื่อนตัวไปตามแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ราคาแกว่งตัวขึ้นเป็นรูปธงที่ชายธงชี้ขึ้น เป็นสัญญาณของการปรับตัวลงต่อเนื่อง (Continuation pattern) ซึ่งจะถูกยืนยันการปรับตัวลงต่อเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 71.10 เหรียญ ระยะสั้นราคาน้ำมันดิบมีแนวต้านที่เกิดจากกึ่งกลางลำตัวของ Long Bearish Candlestick อยู่ที่ 73.05 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 73.05 – 74.28 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 71.38 – 70.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 73.05 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 70.07 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 73.05 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 70.07 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 73.05 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 70.07 เหรียญ
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "CANDLESTICK"
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบ Brent ดิ่งลงทดสอบแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 71.70 เหรียญ หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 75.71 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Shooting Star ในเขตซื้อมากเกิน กระตุ้นแรงขายทำกำไรออกมา แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 73.05 เหรียญ และราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลงต่อหากราคาน้ำมันปรับตัวลงต่ำกว่า 71.38 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลดลงหลังทรัมป์อ้างว่ากลุ่มโอเปกจะเพิ่มการผลิตน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 72.53 – 73.05 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 70.70 – 69.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 73.05 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 69.77 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 73.05 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 69.77 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 72.53 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 69.77 เหรียญ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวโน้มพักตัว
แรงขายที่มีออกมาช่วงปลายตลาดกดดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงปิดที่ 1,671.31 จุด ลดลง 2.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.16 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,654 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ผลประกอบการที่แข็งแกร่งและยอดขายบ้านใหม่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นหลังสหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะที่ราคาทองดิ่งลงทำราคาต่ำในรอบ 4 เดือน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุดแต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ แท่งเทียนปรากฏเงาส่วนบนที่สะท้อนถึงอิทธิพลแนวต้าน หากดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำและแท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick จะเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,654 จุด โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับถัดไป ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่าแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,674 จุด ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,654 จุด (ดัชนีตลาดต้องปรับตัวลงปิดไม่ต่ำกว่าแนวรับนี้) ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ และจะใช้แนวรับนี้เป็นจุดเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,677 – 1,683 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,100 – 1,096 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,650 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำเปิดสูงปิดต่ำ หลังราคาทองคำปรับตัวเข้าหาแนวต้านกึ่งกลางลำตัวของ Long Bearish Candlestick ที่ 1,299 เหรียญ แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ส่งผลให้ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,281 เหรียญ ระยะสั้นหากราคาทองคำไม่สามารถยืนปิดเหนือแนวรับนี้ได้ ราคาทองคำจะปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,263 เหรียญ สัญญาณ DMI ยังขาดความชัดเจน
ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,293 – 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,281 – 1,276 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,299 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,281 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,300 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,280 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,295 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,280 เหรียญ
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ฉุดราคาทองคำดิ่งลงแรงหลังราคาหลุดแนวรับที่ 1,306 เหรียญ ลงมาทำราคาต่ำที่ 1,288 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,299 เหรียญ ระยะสั้นหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,280 เหรียญ ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,260 เหรียญ
ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,295 – 1,299 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,285 – 1,280 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,299 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,280 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,300 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,280 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,295 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,280 เหรียญ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปัจจัยลบรุมเร้า
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,625.51 จุด ลดลง 13.49 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบและเริ่มเข้าเขตขายมากเกิน จะทำให้เกิดแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรเป็นระยะ นักเก็งกำไรระยะสั้นควรสัญญาณซื้อ Modified Stochastic รูป W-shape ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับลดลงหลังเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัว
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำหลุดแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,630.5 จุด หากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนเหนือ 1,625 จุด ดัชนีตลาดจะปรับลดลงเข้าหาแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement ที่ 1,610 จุด และในกรณที่มีข่าวร้าย (Worst case) ดัชนีตลาดจะปรับตัวลงเข้าหาแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,595 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,651 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น (i),v) ที่ 1,674 จุด ทำให้คลื่น v) มีลักษณะเป็นคลื่นหดตัว (Truncation wave) ตามหลักการคลื่นเอลเลียตจะทำให้คลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงแรงตามมา โดยคลื่น (ii) มีแนวรับที่คำนวณระหว่างจุดต่ำที่ 1,545 จุด กับจุดสูงที่ 1,674 จุดจะได้ 38.2%, 50.0% และ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,625 จุด, 1,610 จุด และ 1,595 จุด ตามลำดับ
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อลง ระยะสั้นดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,610 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,632 – 1,637 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,619 – 1,613 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
สำหรับนักเก็งกำไรจะกลับเข้าซื้อหุ้น เมื่อสัญญาณ Modified Stochastic เกิดสัญญาณซื้อรูป W-shape สำหรับนักลงทุนควรซื้อหุ้นพื้นฐานไว้ในพอร์ตไม่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ เงินสด 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold ทรุดตัวลงต่เนื่องเป็นวันที่ 4 แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ต่อเนื่อง สะท้อนถึงข่าวร้ายที่มีเข้ามา ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่างจุดต่ำที่ 1,160 เหรียญ/1,346 เหรียญ) อยู่ที่ 1,275 เหรียญ และมีแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,253 เหรียญ ระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,293 – 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,275 – 1,270 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,300 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,275 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวยืนเหนือ 1,304 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,275 – 1,253 เหรียญ หรือรอสัญญาณให้ชัดเจนกว่านี้
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold เปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,302 เหรียญ ราคาทองหลุดแนวรับกรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้น ราคามีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่างจุดต่ำที่ 1,160 เหรียญ/1,346 เหรียญ) อยู่ที่ 1,275 เหรียญ และมีแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,253 เหรียญ ระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,300 – 1,306 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,284 – 1,275 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,302 – 1,306 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,275 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวยืนเหนือ 1,310 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,275 – 1,253 เหรียญ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ตลาดผิดหวังการเจรจา “ทรัมป์ – คิม” ล่ม
ทันทีที่ปรากฏข่าวผลการเจรจา “ทรัมป์ - คิม” ไร้ข้อสรุป กดดันให้เกิดแรงเทขายออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,653.48 จุด ลดลง 11.79 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,651 จุด ต่างชาติขายสุทธิกว่า 4 พันล้านบาท (เป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ) ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงจากแรงกดดันจากผลประกอบการและการเจรจาระหว่าง “ทรัมป์ - คิม” ไร้ข้อสรุป
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ซึ่งมีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,660.5 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้น และมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนเหนือ 1,651 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,645 จุด
จากกราฟรายวัน ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนเหนือแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,651 จุด จะเป็นสัญญาณว่าคลื่น v) หรือคลื่น (i),v) จบลงที่ 1,674 จุด และดัชนีตลาดจะปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) โดยดัชนีตลาดระยะสั้นจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,634 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ดัชนีตลาดมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนเหนือ 1,651 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,659 – 1,666 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,647 – 1,640 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต หลังดัชนีตลาดยืนเหนือ 1,667 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท และควรเพิ่มน้ำหนักการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,668 – 1,665 จุด
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold แกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) หลังราคาทองคำปรับตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้น ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำราคาสูงไว้ที่ 1,346 เหรียญ ระยะสั้นราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,317 เหรียญ และมีกึ่งกลางลำตัวของ Long Bearish Candlestick เป็นแนวต้าน ระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,333 – 1,336 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,321 – 1,317 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,333 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,320 – 1,317 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาสามารถยืนเหนือ 1,333 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,317 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,333 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,317 เหรียญ
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold แกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง หลังราคาทองคำปรับตัวเข้าหาแนวต้านกึ่งกลางลำตัวของ Long Bearish Candlestick ที่ 1,333.50 เหรียญ และมีกรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,360 เหรียญ สัญญาณ Bearish Divergence เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงในช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,333 – 1,336 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,321 – 1,315 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,333 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,320 – 1,315 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาสามารถยืนเหนือ 1,333 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,315 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,325 – 1,330 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,315 เหรียญ
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold ปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,315 จุด หลังราคาทองคำดีดตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นและทำจุดสูงที่ 1,346 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาขึ้น ตามด้วย แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางตัวเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,330.50 เหรียญ สัญญาณ Bearish Divergence เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงในช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,333 – 1,336 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,321 – 1,315 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,333 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,320 – 1,315 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาสามารถยืนเหนือ 1,333 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,315 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,325 – 1,330 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,315 เหรียญ
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold เปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางตัวเป็นแนวต้าน หลังราคาทองคำปรับตัวเข้าหาแนวต้านกรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้น ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,346 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาขึ้นในเขตซื้อมากเกินร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,313 เหรียญ โดยระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,333 – 1,338 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,317 – 1,313 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,333 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,320 – 1,317 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาสามารถยืนเหนือ 1,333 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,313 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,300 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,313 เหรียญ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งตัวลงส่งท้ายสัปดาห์ที่ 1,636.94 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับตัวลง 14.74 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 4.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,628 จุด ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับทะยานขึ้นปิดบวก ขานรับสัญญาณการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่คืบหน้า และเฟดมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ทำให้ราคาทองคำและน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น iii) ก่อนปรับลดลงเป็นคลื่น iv) จากหลักการ Overlapping คลื่น iv) ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น i) ดังนั้น คลื่น iv) จึงไม่ควรต่ำกว่า 1,600 จุด ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น v) หรือคลื่น (i),v) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,700 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดิ่งลงเข้าหาแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 1,628 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) และกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวรับร่วม แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,644 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement ที่ 1,616 จุด เป็นแนวรับถัดไป ระยะกลางดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,628 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,643 – 1,650 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,628 – 1,623 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มน้ำหนักการลงทุน 10 เปอร์เซ็นต์ (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 40 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,616 จุด
Por : Technical AnalysisGOLD Comex Futures
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำล่วงหน้าเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง และกำลังปรับตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,333 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็นโดจิในเขตซื้อมากเกิน จะกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ โดยเฉพาะเมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,333 เหรียญ ระยะสั้นควรระวังการเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเป็น Bearish Candlestick (ควรวิเคราะห์ร่วมกับสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI) ซึ่งจะเป็นสัญญาณการปรับตัวลงของราคาทองคำระยะสั้น
ราคาทองคำระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,330 – 1,333 เหรียญ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,320 – 1,315 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุน
กรณีที่เปิดสถานะซื้อไว้ ระยะสั้นปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำล่วงหน้าปรับตัวเข้าแนวต้านที่ 1,330 – 1,333 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,330 – 1,333 เหรียญ หรือเมื่อราคาเปิดสูงปิดต่ำ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,303 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคายืนเหนือ 1,333 เหรียญ
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระวังเปิดสูงปิดต่ำ
อานิสงส์จากเฟดคงอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยร้อนแรงช่วงเช้า แรงขายที่มีออกมาในช่วงท้ายตลาดทำให้ดัชนีตลาดลดช่วงบวกลงเหลือ 9.13 จุด ปิดที่ 1,641.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน แรงขายทำกำไรระยะสั้นจะฉุดให้ดัชนีตลาดปรับตัวลดลง แต่ยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น สถาบันภายในประเทศในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ต่างชาติกลับมาขายสุทธิครั้งแรกใน 6 วัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดมีทั้งบวกและลบ หลังดีดตัวขึ้นร้อนแรงขานรับเฟดคงอัตราดอกเบี้ยและผลประกอบการที่สดใส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นที่ 1,640 จุด ดัชนีตลาดเปิดกระโดดแบบมีช่องว่าง (Gap) แท่งเทียนเกิดเป็น Shooting Star ในเขตซื้อมากเกิน จึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ (Long Bearish Candlestick) จะเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดจะปรับตัวลง แต่ถ้าเปิดต่ำปิดสูงจะเป็นสัญญาณปรับตัวขึ้น
ดัชนีตลาดมีแนวต้าน 50.0% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,656 จุด ซึ่งคำนวณระหว่างจุดสูงที่ 1,765 จุด กับจุดต่ำที่ 1,546 จุด และมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ทำหน้าที่เป็นแนวรับเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดกำลังแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) โดยดัชนีตลาดจะปรับตัวซิกแซกขึ้นเป็นเลขอนุกรมแบบ 5+4+4+4...... และจะยืนยันการจบคลื่น i) เมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลงหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,628 จุด และจะปรับตัวลดลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น ii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,612 – 1,590 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้เกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดอ่อนตัวลงแต่จะเป็นการปรับตัวลงเพื่อขึ้นต่อ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,648 – 1,654 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,635 – 1,630 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
สำหรับการซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ควรระวังแรงขายเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,650 – 1,656 จุด
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง - ยาว ควรรอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนจาก 50 เปอร์เซ็นต์ เป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,612 – 1,590 จุด
Por : Technical AnalysisGOLD Comex Futures
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำล่วงหน้าแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,300 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Doji สะท้อนถึงแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน ราคาปิดวันถัดไปจะบอกทิศทาง หากราคาเปิดต่ำปิดสูง ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อเข้าหาแนวต้านที่ 1,325 เหรียญซึ่งเป็นแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้น แต่ถ้าราคาเปิดสูงปิดต่ำราคาจะปรับลดลงเข้าหาแนวรับกึ่งลำตัวของ Long Bullish Candlestick ที่ 1,291 เหรียญ แม้ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มพักตัว แต่จะเป็นการพักตัวลงเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากระยะกลางขึ้นไปราคาทองคำล่วงหน้ายังคงเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคาทองคำระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,308 – 1,313 เหรียญ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,300 – 1,298 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาอ่อนตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,291 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,313 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,289 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,280 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,270 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคายืนเหนือ 1,313 เหรียญ
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคา Gold ปรับตัวลดลงแท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick หลังจากแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,300 เหรียญ เป็นรูปลิ่ม (Wedge) ในเขตซื้อมากเกินร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 23.6% และ 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 1,274 เหรียญ และ 1,259 เหรียญตามลำดับ โดยระยะกลางราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,286 – 1,292 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,274 – 1,270 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปิดสูงปิดต่ำ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,274 – 1,270 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคายืนเหนือ 1,292 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,259 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,292 – 1,300 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,259 เหรียญ
Por : Technical Analysisสมาชิกสอบถามมาว่า “ราคาทองคำจะพักตัวลงไปถึงไหน”
จากกราฟรายวัน จะเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาเป็นรูปลิ่ม (Wedge) ร่วมกับการเกิดสัญญาณซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเตือนว่าราคาทองคำ (ระยะสั้น) อยู่ในช่วงปลายตลาดขาขึ้น แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ตอกย้ำสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ราคามีโอกาสพักตัวลงจากคลื่น 3) ลงเป็นคลื่น 4)
จากหลักการคลื่นเอลเลียต
คลื่น 4) จะหดตัวลง เท่ากับ 0.382 เท่าของความยาวของ 3) = 1,259 เหรียญ (ภาวะปกติ)
แนวรับ 50.0% และ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,247 เหรียญ และ 1,235 เหรียญ ตามลำดับ
โดยระยะกลางราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น ระยะสั้นราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,259 เหรียญ จะใช้เป็นจุดปิดสถานะขาย และเป็นจุดเปิดสถานะซื้อ (Open Long)
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้านที่ 1,612 จุด
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาดในช่วงบ่าย ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดสูงปิดต่ำที่ 1,590.50 จุด ลดลง 3.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.65 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงทดสอบแนวต้านที่ 1,612 จุด โดยดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลงระยะกลาง ต่างชาติเดินหน้าขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เนื่องจากตลาดคาดว่าจีนและสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงทางการค้า หลังเจรจามา 3 วัน ขณะที่เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 50.0% Fibonacci Retracement ที่ 1,612 จุด และมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง ทำหน้าที่เป็นแนวต้านร่วม ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,609 จุด แรงขายที่มีออกมาในช่วงบ่าย ทำให้ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างที่ 1,575 – 1,584 จุด
สัญญาณทางเทคนิคัลที่เป็นบวกจะทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,600 – 1,610 จุด แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อลง เนื่องจากดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลงระยะกลาง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่น 4,C ที่ 1,546 จุด หลังดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นมาปิดเหนือ 1,584 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2%, 50.0% และ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,597 จุด, 1,612 จุด และ 1,627 จุด ตามลำดับ ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น 4,C โดยสมบูรณ์เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,630 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,612 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,597 – 1,604 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,584 – 1,575 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,600 – 1,612 จุด สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไรตามสัญญาณซื้อของ Modified Stochastic รูป W-Shape ควรใช้เป็นจุดขายเพื่อทำกำไร หรือปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสด ควรถือเงินสดอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ภาวะขายมากเกิน
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยที่เปิดสูงลงมาปิดต่ำในช่วงบ่าย ดัชนีตลาดปิดที่ 1,548.37 จุด ลดลง 8.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.95 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางทางเทคนิคัลแต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อลง กรณีที่ต้องการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร ควรรอสัญญาณซื้อของ Modified Stochastic เป็นรูป W-shape สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาปิดบวกในช่วงท้ายตลาดหลังจากดิ่งลงในช่วงเช้า จากแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลง (Closing the window) ที่ 1,576 – 1,589 จุด ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำแท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick กึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,565 จุด ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง และสัญญาณ DMI ชี้ว่าดัชนีตลาดเป็นขาลง โดยดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,520 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเป็นคลื่นปรับคลื่น 4 แบบ A-B-C การที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,570 จุด จะทำให้คลื่น 4 ซ้อนทับกับคลื่น 1 ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping ของคลื่นเอลเลียต
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบในเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางทางเทคนิคัลแต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อลง กรณีที่ต้องการซื้อเพื่อเก็งกำไร ควรรอให้สัญญาณ Modified Stochastic เกิดสัญญาณซื้อเป็นรูป W-shape
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,556 – 1565 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,540 – 1,532 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,520 จุด ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น นักลงทุนควรเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรเมื่อสัญญาณ Modified Stochastic เกิดสัญญาณซื้อเป็นรูป W-shape
และการปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลงเมื่อวานคือโอกาสปรับพอร์ตเพื่อเงินสดเพิ่มอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
Low Price Gapping Play
ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงตามตลาดหุ้นชั้นนำที่พร้อมใจทรุดตัว หลังสงครามการค้าระหว่างจีน – สหรัฐ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดดิ่งลงปิดที่ 1,552.65 จุด ลดลง 34.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน จะทำให้เกิดแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางทางเทคนิคัลแต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อลง นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดทรุดตัวลงแบบมีช่องว่างขาลง (Low Price Gapping Play) แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่กึ่งกลางลำตัวจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,566 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นเพื่อปิดช่องว่างขาลง (Closing the window) จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อลงต่อ สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง และสัญญาณ DMI ชี้ว่าดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเป็นคลื่นปรับคลื่น 4 แบบ A-B-C การที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,570 จุด จะทำให้คลื่น 4 ซ้อนทับกับคลื่น 1 ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการ Overlapping ของคลื่นเอลเลียต
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบในเขตขายมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,540 จุด สลับกับการปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลระหว่างการซื้อขาย จะเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเมื่อสัญญาณ Modified Stochastic เกิดสัญญาณรูป W-shape
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,564 – 1,570 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,545 – 1,540 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,570 จุด ตามหลักการทฤษฎีดาว แสดงว่าดัชนีตลาดได้เปลี่ยนทิศทางเป็นตลาดขาลง จึงควรหาจังหวะปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดให้มากสุด และหาจังหวะปรับพอร์ตกรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย