แนวโน้มทองคำ 28-10-2564 คอมเฟิร์มแนวโน้มราคาทองปรับตัวขึ้นไปทำ New High อีกครั้ง หลังจากนั้นก็ร่วงลงมาทดสอบ Trend line ที่ได้ Breakout ขึ้นไป จากแนวต้านก็กลายเป็นแนวรับ และราคาได้ลงมาทดสอบกรอบล่างของ Trend line อีกด้วย โซน 1780-90 จุดอ้างอิง ซึ่งมองเป็นแนวรับและจุดที่ราคาจะมีการกลับตัวขึ้น ใน H4 มี Pinbar มี Bull เข้ามาบ้างแล้ว แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ยังมีอยู่ การที่จะมองว่าราคาจะขึ้นทดสอบ High สูงสุด ยังมีโอกาส ส่วนจุดเปลี่ยนแนวโน้มอยู่ที่ 1780 หากราคาร่วงลงต่อสามารถปิดต่ำกว่าโซนนี้ได้ แนวโน้มจะเปลี่ยนทันที แนวรับถัดไปมองไปที่ 1750 , 1760
.
สรุปแนวโน้มจากการวิเคราะห์นี้ ทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปต่อตามสัญญาณ Breakout การลงมารอบนี้มองเป็นการ Throwback ท้ายที่สุดมองว่าขึ้นไปทดสอบ High เดิม 1813 ถ้า Breakout ขึ้นไปต่อได้ เป้าถัดไป 1828-32
ท่านที่อยากติดตามบทวิเคราะห์ทองรายวัน ผมมีวิเคราะห์ทุกวัน ในยูทูปและในแฟนเพจ สามารถเข้าไปค้นห้าด้วยชื่อ Tradingwithtoptrader ได้เลยครับ
#วางแผนก่อนเทรดเสมอ
#บริหารจัดการความเสี่ยง
#มีวินัยในการเทรด
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "CANDLESTICK"
THREE BLACK CROWS "อีกาสามตัว" ลางร้ายของการเปลี่ยนทิศทางTFEX-S50Z21 ส่อสัญญาณบอกลางร้าย ราคาลงปิดลบฟอร์มตัวเป็นแท่งแดงยาวดิดต่อกันสามแท่ง เป็นรูปแบบของ Candlestick Reversal ที่ชือว่า "THREE BLACK CROWS" บงบอกถึงพฤติกรรมที่มีการขายทิ้งอย่างรุนแรงติดต่อกัน (ใน timeframe 1H) เกิดเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงของสภาวะในระยะสั้น ประกอบกับตำแหน่งที่เกิดอยู่ในช่วงปลายของทิศทาง เลยเป็นเหตุผลให้คาดได้ว่า อาจเป็นจุดเปลี่ยนของสภาวะในภาพที่ใหญ่กว่าคือลงเวฟ C ตามที่เรารออยู่ด้วย จึงเป็นเหตุผลในการเลือกทิศทางและทำแผนการเทรด Short ลงหาปลายขา C ตามลำดับ
***วางเป้าหมายปลายขา C ..โดนเข้าซื้อและวาง Stop ตามจังหวะเทคนิคของแต่ละ Trading Style..
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นไปตามแนวโน้มขาขึ้นและทำราคาสูงที่ 57,855 เหรียญ แท่งเทียนเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขาย ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 52,956 เหรียญ เป็นการพักตัวเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากราคาบิทคอยน์เคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 39,573 เหรียญ หลังราคาสามารถยืนปิดเหนือ 52,956 เหรียญ ราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 ที่มีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 62,996 เหรียญ และเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 77,471 เหรียญ ตามลำดับ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 58,336 – 59,603 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 55,800 – 54,657 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 54,657 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 54,657 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 57,855 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,800 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 57,855 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบเปิดสูงปิดต่ำหลังราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 84.22 เหรียญ แท่งเทียนเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Bearish Engulfing กึ่งกลางลำตัวของแท่งเทียน Bearish Candlestick ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI ที่แสดงถึงทิศทางขาขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมาก ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขาย ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ราคาน้ำมันจะมีทิศทางปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 79.97 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 82.79 – 83.46 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 80.02 - 79.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 80.02 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 82.79 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 79.29 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 80.02 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 79.29 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นไปตามแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ ราคาดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 52,956 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคามีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านกรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้น และมีราคาเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 62,996 เหรียญ และเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 77,471 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 39,573 เหรียญ หลังราคาสามารถยืนปิดเหนือ 52,956 เหรียญ ราคาบิทคอยน์มีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 ที่มีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 62,996 เหรียญ และเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 77,471 เหรียญ ตามลำดับ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 57,389 - 59,603 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 52,956 – 51,501 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 53,433 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,345 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 52,956 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 57,389 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 55,345 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 57,389 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก ราคาเปิดต่ำปิดสูง แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 52,956 เหรียญ ราคาบิทคอยน์จะยืนยันการปรับตัวขึ้น และจบคลื่นปรับคลื่น 2 ที่ 39,573 เหรียญ และจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง คลื่น 3 ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 62,996 เหรียญ และ 77,471 เหรียญ (จากการวิเคราะห์ด้วย Fibonacci Projection)
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 52,956 - 54,500 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 49,965 – 48,231 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 52,956 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 49,965 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 52,956 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 50,570 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 52,956 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ลุ้นยืนเหนือ 1,630 จุด
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารรวมไปถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,624.24 จุด เพิ่มขึ้น 9.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.86 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 600 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,630 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคารที่ 5 ตุลาคม ดัชนีหลัก 3 ดัชนีปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากแรงซื้อเก็งกำไรที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นที่รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กยังมีความเสี่ยงจากการปรับลดวงเงินที่จะเข้าซื้อพันธบัตร และเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นจะกดดันให้อัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,612 – 1,600 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนียืนปิดเหนือ 1,630 จุด ดัชนีตลาดมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,639 จุด
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 50.8 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1,630 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,632 – 1,640 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,617 – 1,609 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากกำหนดจุดเข้าซื้อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,593 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆเข้าหาแนวต้านที่ 1,768 เหรียญ หลังจากราคาทองคำดีดตัวขึ้นกว่า 31 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลงที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ราคาทองคำระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,787 เหรียญ และมีจุดต่ำเก่าทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,721 เหรียญ ราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวขึ้นสลับกับการปรับตัวลง เนื่องจากราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,768 – 1,776 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,749 – 1,740 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,768 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,749 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,776 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,765 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,776 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำเปิดต่ำปิดสูง แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ ราคาทองคำปรับตัวลงทดสอบแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,717 เหรียญ (ระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวลงทำราคาต่ำที่ 1,721 เหรียญ)
สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวกในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสลับกับการปรับตัวลง เนื่องจากราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) ลงเป็นคลื่น (ii) แบบ A-B-C โดยคลื่น (ii),C มีเป้าหมาย 100.0 % Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,668 เหรียญ (ราคาทองคำได้ปรับลงมาทำราคาต่ำที่ 1,681 เหรียญ) และคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (3),(v) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,969 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,765 – 1,776 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,745 – 1,734 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,765 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,745 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,776 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,765 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำยืนปิดเหนือ 1,776 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ดีดตัวขึ้นปิดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวรับ ราคามีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 44,400 เหรียญ สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาลง สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก แรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นที่กลับเข้ามา ทำให้ราคาบิทคอยน์ระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้น และจะยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อเมื่อราคายืนปิดเหนือ 44,400 เหรียญ ราคาเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้าน และมีจุดต่ำเก่าที่ 39,573 เหรียญ
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 44,893 - 46,039 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 42,596 – 41,573 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 44,400 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 46,039 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 42,596 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 42,596 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 41,573 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 44,893 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ลุ้นยืนเหนือ 1,591 จุด
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ธนาคารและพลังงาน ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,605.58 จุด ลดลง 11.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9 หมื่นล้านบาท ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,591 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงทั้ง 3 ดัชนีหลัก นักลงทุนนำหุ้นออกเทขาย จากความวิตกว่าเฟดจะปรับลดวงเงินที่เข้าซื้อพันธบัตร และตัวเลขเงินเฟ้อจะกดดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด (ทำจุดต่ำที่ 1,601 จุด) โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,611 – 1,599 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” มีจุดต่ำเก่าเป็นแนวรับอยู่ที่ 1,591 จุด และมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,639 จุด
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 46.5 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,616 – 1,626 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,595 – 1,585 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แกว่งตัวออกด้านข้าง
แรงซื้อเก็งกำไรและการข้าวของต่างชาติเพื่อทำ Cover Short หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,616.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.28 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 1 พันล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap”
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 29 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากแรงซื้อที่กลับเข้าเก็งกำไร ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวลดลงจากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นเทคโนโลยี
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด (ทำจุดต่ำที่ 1,604 จุด) โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,611 – 1,599 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,639 จุด
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 51 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,626 – 1,635 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,606 – 1,595 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBrent Crude Oil
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาน้ำมันดิบเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้าน ระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 80.92 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาขึ้น สะท้อนถึงแนวต้านและสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมาก ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีโอกาสพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ Brent ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 79.56 – 80.60 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 77.59 - 76.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 77.59 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 79.56 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 76.83 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 77.59 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 76.83 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisGBPUSD
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ค่าเงิน GBPUSD ทรุดตัวลงแรง ค่าเงินเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1/3 และ 2/3 ของลำตัว ค่าเงินหลุดแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1.36021 ทำให้ค่าเงินมีทิศทางปรับตัวลงต่อ สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ค่าเงินระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล เป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐานเนื่องจากค่าเงินเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
ค่าเงิน GBPUSD ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1.35720 - 1.36103 และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1.34879 – 1.34576
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) ช่วงที่ค่าเงินปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.36021 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1.35338
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อค่าเงินปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1.36021 เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1.35338 ตัดขาดทุนเมื่อค่าเงินปรับตัวขึ้นเหนือ 1.36103
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
พักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,602 จุด
แรงเทขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,620.02 จุด ลดลง 11.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.34 แสนล้านบาท ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลชี้ว่าดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,602 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 27 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มที่รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแดคปรับตัวลดลงจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ดัชนีฟิวเจอร์สเกิดช่องว่างขาลงและขาขึ้น และปิดช่องว่างโดยสมบูรณ์ (Complete Filling the Gap) ช่องที่เกิดขึ้นเป็นช่องว่างแบบ “Common Gap” ซึ่งจะเกิดในช่วงที่ดัชนีตลาดกำลังเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ดัชนีมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,610 – 1,597 จุด
ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI รอบนี้ปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 46 เปอร์เซ็นต์)
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) เนื่องจากเกิด Common Gap
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,631 – 1,639 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,611 – 1,601 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ราคาบิทคอยน์สร้างจุดสูงยกลงต่ำ (Lower High) ราคาบิทคอยน์จึงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง สอดคล้องกับสัญญาณ DMI ที่แสดงทิศทางปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 41,711 - 42,900 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 39,573 – 38,331 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 39,573 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 41,711 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 39,573 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 42,900 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 40,596 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 42,900 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical AnalysisBTC
คำเตือน การซื้อขายบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มี Intrinsic Value การซื้อขายเพื่อเก็งกำไรเป็นไปตามหลักการ Technical Analysis
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟราวัน ราคาบิทคอยน์ทรุดตัวลงแรง แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางการปรับตัวลง สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาบิทคอยน์จะยืนยันการปรับตัวลงเมื่อราคาปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 42,900 เหรียญ และราคาบิทคอยน์จะมีทิศทางเคลื่อนตัวไปจามแนวโน้มขาลง
ราคาจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 37,481 เหรียญ เมื่อราคาสามารถยืนปิดเหนือ 42,614 เหรียญ โดยราคาจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น IV, E ที่ 29,296 เหรียญ เมื่อราคาสามารถปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 41,341 เหรียญ และราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น V โดยมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 50,520 เหรียญ
ราคา BTC ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 44,413 - 46,039 ดอลลาร์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 41,401 – 39,742 ดอลลาร์
สรุป
เปิดสถานะขาย (Open short) ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นระหว่างการซื้อขาย เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 41,401 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 44,413 เหรียญ
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 39,742 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 41,401 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 39,742 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity