**"EUR/USD ใกล้โซนวิกฤต ลุ้นทะลุแนวต้านหรือดิ่งลงต่อ"**### **การวิเคราะห์ EUR/USD อย่างละเอียดและรอบด้าน**
---
### **1. การวิเคราะห์ Fibonacci Retracement และแนวโน้มระยะยาว**
- **โซนสำคัญ (Key Levels)**:
- แนวรับ: **1.01475 (Fibonacci 0.786)** และ **1.04515 (Fibonacci 0.618)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มดีดกลับจากแรงซื้อ (Demand Zone) หากราคาลงมาทดสอบ.
- แนวต้าน: **1.06803 (Fibonacci 0.382)** และ **1.08465 (Fibonacci 0.236)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มเผชิญแรงขาย (Supply Zone) หากราคาฟื้นตัวขึ้น.
- **การตีความ**:
- หากราคาทะลุแนวต้านที่ 1.06803 อาจพุ่งต่อเนื่องไปยังโซน 1.08465.
- หากราคาหลุดแนวรับ 1.05982 อาจปรับตัวลงไปยังระดับ 1.04515 หรือ 1.02478.
---
### **2. การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยเส้น EMA**
- **EMA 20/50/100/200**:
- EMA 200 อยู่ด้านบนของกราฟ บ่งบอกว่าแนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาลงที่ชัดเจน.
- ราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า EMA 20 และ 50 แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังไม่หมด.
- **กลยุทธ์**:
- หากราคายืนเหนือ EMA 20 ได้อีกครั้ง อาจบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในระยะสั้น.
- หากราคายังอยู่ต่ำกว่า EMA 50 ให้พิจารณาตามแนวโน้มขาลงต่อไป.
---
### **3. การวิเคราะห์พฤติกรรมตลาด (RSI และ MACD)**
- **RSI (Relative Strength Index)**:
- RSI อยู่ที่ **35.85** ใกล้โซน Oversold แสดงถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนแรง.
- หาก RSI ลงไปต่ำกว่า 30 จะเป็นสัญญาณ Oversold ที่ชัดเจน และอาจเกิดการดีดกลับของราคา.
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence)**:
- เส้น MACD ยังคงต่ำกว่าเส้น Signal Line และอยู่ในแดนลบ แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังเด่นชัด.
- หากเกิด Bullish Divergence (MACD เริ่มกลับขึ้นขณะที่ราคายังลง) จะเป็นสัญญาณกลับตัวที่น่าเชื่อถือ.
---
### **4. การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)**
#### **Descending Triangle**:
- **ลักษณะของกราฟ**:
- ราคาสร้างรูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลง (Descending Triangle) โดยมีแนวรับที่ 1.05982 และแนวต้านลาดลง.
- รูปแบบนี้มักเป็นสัญญาณของการ Breakout ขาลง หากราคาหลุดแนวรับ.
- **โอกาส**:
- หากราคาหลุดแนวรับที่ 1.05982 อาจปรับตัวลงต่อไปยังเป้าหมายที่ 1.04515 หรือ 1.02478.
- หากราคาทะลุแนวต้านด้านบนของสามเหลี่ยม อาจฟื้นตัวขึ้นสู่ 1.08465.
#### **Descending Channel**:
- ราคากำลังเคลื่อนที่ใน **Descending Channel**:
- ขอบล่างของ Channel ใกล้ 1.04515 อาจเป็นจุดดีดกลับ (Rebound Zone).
- ขอบบนของ Channel ใกล้ 1.08700 เป็นแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตา.
---
### **5. การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)**
- **Bearish Engulfing**:
- รูปแบบแท่งเทียนขาลงที่กลืนแท่งก่อนหน้า (Bearish Engulfing) บ่งบอกถึงแรงขายเด่นชัดในแนวต้าน.
- **Doji Candlestick**:
- การเกิด Doji ในโซนสำคัญ เช่น Fibonacci 0.618 อาจสะท้อนการลังเลของตลาดและการพักฐาน.
---
### **6. Harmonic Patterns**
- **Gartley Pattern**:
- หากราคาย่อตัวลงไปที่โซน 1.04515 (Fibonacci 78.6%) และเด้งกลับ จะยืนยันการสร้าง Bullish Gartley Pattern.
- หากราคาหลุดต่ำกว่า 1.04515 และแตะ 1.02478 (Fibonacci 88.6%) โอกาสเด้งกลับมีสูง.
---
### **7. การวิเคราะห์โซนอุปสงค์-อุปทาน (Supply and Demand Zones)**
- **Demand Zones**:
- โซน 1.04515 และ 1.02478 เป็นจุดที่ราคามีโอกาสเด้งกลับจากแรงซื้อ.
- **Supply Zones**:
- โซน 1.08773 เป็นพื้นที่ที่แรงขายมีโอกาสเกิดขึ้นมาก หากราคาฟื้นตัวขึ้นมา.
---
### **สรุปแผนการเทรด**
1. **กลยุทธ์ขาลง (Bearish Strategy)**:
- หากราคาหลุดแนว 1.05982:
- Short ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.04515.
- ติดตาม RSI และ MACD เพื่อยืนยันโมเมนตัมขาลง.
2. **กลยุทธ์ขาขึ้น (Bullish Strategy)**:
- หากราคายืนเหนือ 1.06803:
- Buy ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.08465.
- ใช้ RSI และรูปแบบแท่งเทียนเพื่อคอนเฟิร์ม.
3. **เฝ้าดูพฤติกรรมราคา**:
- หากราคาลงมาทดสอบโซน Demand (1.04515 หรือ 1.02478) พร้อมเกิด Bullish Candlestick เช่น Hammer หรือ Bullish Engulfing ให้มองหาจังหวะเข้าซื้อ.
4. **การบริหารความเสี่ยง**:
- ใช้ Stop Loss ที่ต่ำกว่า Demand Zone สำหรับการตั้งสถานะซื้อ และเหนือ Supply Zone สำหรับการตั้งสถานะขาย.
- ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่คาดหวัง.
---
**หมายเหตุ**: ควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยหรือดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อปรับแผนการเทรดให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน. 📊📈📉
ไอเดียชุมชน
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 19 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำดึงดูดกระแสน้ำบางส่วน หลังจากที่ร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 3 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว และยุติการแพ้ติดต่อกัน 6 วันในวันจันทร์ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงยังกระตุ้นให้มีการเทกำไรในสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) ภายหลังการเลือกตั้งหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ สู่ระดับใหม่สำหรับปีที่กลายเป็นปัจจัยลบอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนโลหะสีเหลืองที่ไม่ทำกำไร
ภาวะกระทิงของ USD ยังคงเป็นแนวรับในช่วงเซสชั่นเอเชียในวันอังคาร และสนับสนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวเพิ่มเติมจากระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ความคาดหวังก็คือนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะจุดชนวนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและจำกัดขอบเขตของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม สิ่งนี้น่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ สูงและเป็นประโยชน์ต่อนักเก็งกำไร USD ซึ่งอาจจำกัด XAU/USD
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ระดับแนวต้านทางเทคนิคที่ 2,624 ที่ทองคำเผชิญอยู่จะมีความสำคัญมากในช่วงการซื้อขายของยุโรปในปัจจุบัน แนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งและไม่มีการฟื้นตัวของราคามากนัก ปัจจุบันพื้นที่ปี 2595 ถือเป็นเป้าหมายคลื่นขาลงทั้งหมด โซน 2648-2650 ถือเป็นแนวต้านหลักวันนี้ ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง คุณควรจัดลำดับความสำคัญของสัญญาณซื้อ 2615 ที่จุดทะลุเก่าเพื่อให้มีกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง
Gold Market Outlook【20 พฤศจิกายน 2567】Gold Market Outlook【20 พฤศจิกายน 2567】💫
ราคาทองพุ่งต่อเนื่องหลังความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครนกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย 🌍
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง 📈 แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ทวีความรุนแรง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงหันมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ตลาดจับตาสัญญาณจากเฟดเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาทองพุ่งขึ้น 2% 🚀 นับเป็นการปรับตัวขึ้นรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม และฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนของสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์ระบุว่า รายงานล่าสุดเกี่ยวกับการที่รัสเซียเปลี่ยนแปลงหลักการด้านนิวเคลียร์ หลังยูเครนโจมตีดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลเป็นครั้งแรก ส่งผลให้เกิดกระแสเงินไหลเข้าสู่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 🛡️
ความน่าสนใจของทองคำได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำ 📊
สัปดาห์นี้มีกำหนดการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านจะกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยนักเทรดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 62% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม 💭
นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า "เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนทองคำยังไม่ลดลง ระดับราคาที่ต่ำลงจึงดึงดูดความสนใจในการซื้อ" 📝
ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ การซื้อทองคำของธนาคารกลาง และการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และประเทศตะวันตกอื่นๆ ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์หลังจากแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว ยังช่วยให้ทองคำน่าดึงดูดสำหรับผู้ซื้อในสกุลเงินอื่นๆ 💱
ด้านเทคนิค ราคาทองคำวันนี้ยังคงมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ $2,670 และแนวต้านสำคัญที่ $2,680 เป็นจุดพิจารณาทำกำไรสำหรับสถานะ Buy 📊 สำหรับผู้ที่ยังไม่มีสถานะ หากราคาขึ้นไปยืนเหนือ $2,640 อาจพิจารณาเข้าซื้อตามแนวรับที่สูงขึ้น
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน (09:10)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish 🎯
🔼 แนวต้าน 3: $2,680
🔼 แนวต้าน 2: $2,670
🔼 แนวต้าน 1: $2,650
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,631
🔽 แนวรับ 2: $2,617
🔽 แนวรับ 3: $2,594
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 📊💡
SAPPEบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
..................
บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ภายใต้ กว่า 20 ตราสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย
1) ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม ได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์, เครื่องดื่มน้ำผสมวิตามินบลู และเครื่องดื่มผสม CBD คาโมมายล์ และวิตามินบีแบรนด์คีฟ
2) ผลิตภัณฑ์ประเภทผงพร้อมชงเพื่อสุขภาพและความงาม ได้แก่ เพรียว คอฟฟี่, เพรียว คลอโรฟิลล์, สลิมฟิต คอฟฟี่ และกาแฟทอรีน และสินค้ากลุ่มผงชงดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม ภายใต้แบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์
3) ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มน้ำผลไม้ (มีและไม่มีชิ้นเนื้อ) ได้แก่ โมกุ โมกุ, เซ็ปเป้ อโล เวร่า, น้ำมะพร้าวน้ำหอม ออลโคโค และ กุมิ กุมิ by โมกุ โมกุ
4) ผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพ ได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ เยลลี่, แม็กซ์ทีฟ, โมกุ โมกุ เยลลี่, กุมิ กุมิ เยลลี่, ออลโคโค พุดดิ้ง และลูกอมครูเพ็ญศรี
5) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอื่นๆ ได้แก่ เซ็ปเป้ อินโน ซายน์, เซ็ปเป้ อินหยาง, เม็ดอมลิมิตเลส, เครื่องหอมสมุนไพรสูดสุด และชาคีฟ
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 33.50💥
💥Book value = 13.64 💥
💥D/E = 0.34 💥
💥P/E = 19.5 💥
💥P/BV = 5.71 💥
💥EPS = 0.98💥
💥Free Float = 26.44% 💥(18/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 2.19% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 11.23% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 18/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ขาย 311,250 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
17 พ.ค. 2024
เงินปันผล 2.18 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2023 - 31 ธ.ค. 2023
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
OKJ (มีพี่ทัก IB มาสอบถาม)บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน)
..................
ให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 12.5💥
💥Book value = 2.79💥
💥D/E = 0.48 💥
💥P/E = 46.77 💥
💥P/BV = 6.25 💥
💥EPS = 0.09 💥
💥Free Float =29.72% 💥(27/09/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 1.24% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 0.01% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 18/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ขาย 1,056,600 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
********
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
XAUUSD Daily Analysis 19/11/2024 by TraderTanTrading note: XAUUSD / GOLD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (18 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น
ดาเนียล พาวิโลนิส นักกลยุทธ์การตลาดจากบริษัท RJO Futures นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems หรือ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย
B UY : 2618
TP : 2600
SL : 2638
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H1-H4
ราคาเริ่มไต่ขึ้นเรื่อยๆหลังจากดิ่งลงอย่างหนักหลังรู้ผลเลือกตั้งอเมริกา โดยขาขึ้นยังมีลุ้นต่อในระยะยาว จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณแท่งเทียนการขึ้นต่อ จากกรอบ TF H1 โดยเป็นไปได้ที่ราคาจะยังพุ่งขึ้นอีก เพื่อไปทดสอบเส้นแนวต้านที่ EMA200 ในกรอบ H4 โดยตั้งเป้าหมายกำไร 1000 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 500 จุด
RSI : เป็นขาขึ้น ใช้แนวรับเก่าเป็นตัวกำหนดจุดเข้า และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้เป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
EURUSD Daily Analysis 19/11/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเลบานอนเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันจันทร์ (18 พ.ย.) ว่า เลบานอนและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ตอบรับข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการหยุดยิงกับอิสราเอลแล้ว พร้อมกับความคิดเห็นบางประการเกี่ยวกับเนื้อหาในข้อตกลง ชี้ความสำเร็จของข้อตกลงนี้ขึ้นอยู่กับอิสราเอล
อาลี ฮัสซัน คาลิล ผู้ช่วยของนาบีห์ เบอร์รี ประธานรัฐสภาเลบานอน ซึ่งได้รับการรับรองจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ให้เป็นผู้แทนเจรจาหยุดยิง เปิดเผยว่า เลบานอนได้ยื่นหนังสือตอบกลับอย่างเป็นทางการต่อเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเลบานอนแล้วในวันจันทร์ และเอมอส โฮชสไตน์ ผู้ประสานงานพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กำลังเดินทางมายังกรุงเบรุตเพื่อหารือในรายละเอียดต่อไป
BUY : 1. 05898
TP : 1. 06423
SL : 1. 05576
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคาเริ่มมีการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากทำโลว์ยกสูงขึ้น จากแนวรับเดิม เป็นไปได้ที่ราคาจะสวิงออกนอกกรอบเส้นเทรนไลน์ ในขาขึ้นระยะสั้น จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวจากแท่งเทียน โดยราคาอาจขึ้นไปทดสอบเส้น EMA200 อีกคร้ง ในกรอบ H1 โดยใช้กรอบ H4 เป็นตัวช่วยหลักในการเข้าออเดอร์ โดยตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ราคาทองคำฟื้นตัวต่อเนื่องราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น 4% ในสัปดาห์นี้และกลับมาอยู่เหนือระดับ 2,604 ได้แรงหนุนหลักมาจาก การอ่อนค่าของดอลลาร์ และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากความไม่แน่นอนในสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังจากสหรัฐมีการอนุมัติการใช้ขีปนาวุธที่อาจเพิ่มความตึงเครียด
โดยทางเทคนิค ทองคำมีแนวโน้มขึ้นทดสอบที่ 2,684 และแนะนำเข้าซื้อเมื่อย่อตัวที่ 2,592.50
XAU/USD [SMC]📌 มุมมอง XAU/USD 🏆 (H1)
แผนของเราในตอนนี้คือ รอราคาเดินทางขึ้นไปหา Sz. ด้านบน และ รอการยืนยันใน LTF หากมีการยืนยันเราจะทำการเข้าSell ตามลงมาครับ
หากราคาได้ ทำลาย Sz. ไปได้ เราจะสลับฝั่งไปหา Setup Buy
แต่ถ้าหากราคา Bos ลงมาต่อ เราจะมาวางแผนหาโซนใหม่กันอีกทีครับ 🫡💙
กลุ่ม,Signal >> linktr.ee
XAUUSD 19/11/24 Beardi. ovs เท่านั้น ถ้าไม่หลุด 2617 ขึั้นต่อกรอบ 2536.8-2710.5
ระยะกลาง มี สญ.หยุดลง
ระยะสั้นเบรค 2577.5 ขึ้น
D ปรับฐาน os จิ้มลึกแล้ว =ค้างดีด ob
240 ขาลง ที่ค้าง rsi ob
ob +hi-beardi. แต่ไม่มี สญ.กลับลง
120 60 หัวลงเดียวกัน
ob +beardi. แต่ยังไม่มี สญ.กลับลง
30 15 มีหัวขึ้น ขึ้น 00 + beardi.
ยังไม่เสียทรง ก็ยังขึ้นต่อ เฝ้าระวังเท่านั้น
15 5 sw up ไม่เสียทรงขึ้นต่อ
.................................
กรณีขึ้น L
-5 15 30 รอ os ลงไม่หลุด 2617.7
sl low 2617.7
-60 120 240 รอ os / sl os-L
-D เข้าจาก ts 2619 / sl 2536.8
.
กรณีลง S
-5 15 30 เมื่อเสียทรงนับ1 ob + ts
sl แท่ง H ก่อนหน้า
เมื่อเสียทรง นับ 2 จะเข้าเมื่อหลุด หรือรอ ob
sl high แท่งก่อนหน้า / ob-H
-60 120 240 ob เมื่อเสียทรงนับ1 ob + ts
sl แท่ง H ก่อนหน้า
BTCUSD Daily Analysis 19/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาขยับขึ้นแตะระดับสูงใหม่: ราคาของ Bitcoin ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 2,019,770 บาทต่อ BTC หรือเพิ่มขึ้นราว 3.04% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ แต่ถือเป็นการกลับมายืนเหนือระดับ 2 ล้านบาทอีกครั้ง ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นตั้งแต่ปี 2021
ปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายเศรษฐกิจจีน: รัฐบาลจีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่งผลให้ตลาดคริปโตได้รับแรงสนับสนุน โดยเฉพาะ Bitcoin ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม มีแรงขายสถานะ Short Bitcoin สูงถึง 88 ล้านดอลลาร์จากการปรับขึ้นของราคา
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 91580.83
✅ Tp: 93523.56 95230.16
❗ SL: 89000
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคากำลังยกฐานขึ้นต่อ กำลังยกฐานขึ้นต่อไปทดสอบโซน 95000.00
ลุ้นในการถือยาวได้ครับ
fibo : เข้าประมาณ 168
เป้ามหาย 95000. ในการเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
จุดสังเกตุ ต้นทุนฝรั่งรอบนี้-ในกรอบสีแดง เมื่อวานฝรั่งซื้อที่ 1.6พันล้าน
- ปกติการซื้อแบบนี้มักจะดันไป 30 - 50 จุด นั่นคือจุดสูงสุดแถว 965 นั่นเอง
- ขณะเดียวกันถ้าต่ำกว่ากรอบแดงคือ 936.5 ก์ไปรับที่ 929 ถ้าหลุดอีก หวังที่ 890 ได้เลย
- ส่วนตัวยิ่งสูงยิ่งหนาว อ่านการบ้าน wk นี้ไว้นะครับผมว่าน่าจะออกมารูปนั้น ผมก็ action ตามนั้น
- แล้วถ้าเลือกขึ้น เมื่อถึง high เดิมคง ออกก่อน แล้วค่อยว่ากัน
- ส่วนตัวคิดว่าไปไม่น่าเกิน 970
S50Z24 กับ Bearish Butterfly Pattern Bearish Butterfly Pattern เป็นหนึ่งในรูปแบบฮาร์โมนิกราคา (Harmonic Patterns) ที่ช่วยนักเทรดในการคาดการณ์การกลับตัวของราคาในตลาด โดยทั่วไปใช้กับตลาดที่มีแนวโน้มขาลง (Bearish) และมักเกิดขึ้นใกล้จุดสูงสุดก่อนที่ราคาจะปรับตัวลง
### โครงสร้างของ Bearish Butterfly Pattern
รูปแบบนี้ประกอบด้วย 4 จุดหลัก (X, A, B, C, D) และใช้ Fibonacci Ratios เพื่อยืนยันตำแหน่งดังนี้:
1. **XA**: เป็นขาขึ้นแรกเริ่ม (Initial move) ของรูปแบบ
2. **AB**: ย่อตัวลงมาประมาณ **78.6%** ของ XA
3. **BC**: ดีดตัวขึ้นไปประมาณ **38.2%-88.6%** ของ AB
4. **CD**: เป็นขาขึ้นสุดท้ายที่ยาวกว่า XA โดยมักอยู่ที่ **127.2%-161.8%** ของ XA
จุดที่สำคัญที่สุดคือ **D** ซึ่งเป็นจุดที่ราคามักกลับตัวลง (Reversal Zone)
### สัญญาณที่ใช้
1. **PRZ (Potential Reversal Zone)**: บริเวณจุด D ที่เกิดจากการคำนวณ Fibonacci จะเป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มกลับตัว
2. **Confirmation**: เมื่อราคามาถึงจุด D ต้องใช้สัญญาณเพิ่มเติม เช่น แท่งเทียนกลับตัว หรือเครื่องมืออื่นๆ เพื่อยืนยันการกลับตัว
### การใช้งาน
1. **เข้าออเดอร์**: เปิดคำสั่งขาย (Short) ใกล้จุด D
2. **จุดทำกำไร (Take Profit)**: มักวางไว้ที่ระดับ Fibonacci Retracement ของ CD เช่น 38.2% หรือ 61.8%
3. **จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)**: ตั้งไว้เหนือจุด D เพื่อป้องกันความเสี่ยง
### ตัวอย่างการมองภาพ
- คิดง่ายๆ ว่า Bearish Butterfly เหมือนผีเสื้อที่กำลังกางปีกขึ้นไป แต่พอถึงจุดสูงสุด (D) จะ "ร่อนลง" (ราคากลับตัวลง)
เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ตลาดที่มีโครงสร้างชัดเจนและเน้นการเทรดตาม Fibonacci Ratios!
เทรนด์ทองคำ 18/11 - การฟื้นตัวของ S-T เริ่มต้นขึ้นตลาดทองคำในสัปดาห์ที่แล้วเป็นไปตามการคาดการณ์ของเรา ในขณะที่ช่วงการแข็งค่ายังคงดำเนินต่อไป ราคาทะลุแนวต้าน 2650(1) ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยเริ่มเคลื่อนตัวลงสู่เป้าหมายของเราที่ 2600 ต่อมาราคาตกลงสู่ระดับต่ำสุดประจำสัปดาห์ที่ 2536 ตามข้อมูลเงินเฟ้อในวันพุธ หลังจากนั้นมีการดีดตัวขึ้นเล็กน้อย โดยปิดสัปดาห์ใกล้กับปี 2562 ในวันศุกร์ ซึ่งลดลง 102 ดอลลาร์
หลังการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่า ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 250 ดอลลาร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในการขายลดลงหลังจากการฟื้นตัวจากปี 2538 เป็นที่น่าสังเกตว่าประธานเฟด พาวเวลล์ กล่าวอย่างชัดเจนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า ไม่มีการเร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามสภาวะตลาดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการจำกัดศักยภาพของทองคำที่สูงขึ้นในขณะนี้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลตลาดที่มีนัยสำคัญในปฏิทินสำหรับสัปดาห์นี้ ราคาทองคำจึงคาดว่าจะทรงตัวในทิศทางด้านข้าง
แผนภูมิ 1 ชั่วโมง (ด้านบน) > โมเมนตัมขาลงมีการชะลอตัวลงตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว หากราคาทะลุออกจากเส้นแนวโน้มขาลงในปัจจุบัน (3) เราก็สามารถกำหนดเป้าหมายขาขึ้นเริ่มต้นที่ 2620 (4) เนื่องจากไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ จึงถือว่าช่วงปี 2555-2620 (4) เป็นเขตปฏิบัติการชั่วคราว
กราฟรายวัน (ด้านบน) >ทองคำทะลุแนวต้าน 50% ในสัปดาห์ที่แล้ว (5) และดีดตัวขึ้นจากเส้น MA 100 วัน (6) เราคาดแนวต้านระยะสั้นได้ประมาณ 2,600-2,605(7) ในกรณีที่มีการละเมิดสูงกว่า 2600 เป้าหมายถัดไปคาดว่าจะอยู่ใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันที่ประมาณ 2630
P.To
USDCAD H4 | สัญญาณกลับตัวขาลงราคากำลังเข้าใกล้โซน Pivot ที่ 1.4083 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญและใกล้เคียงกับระดับ Fibonacci 38.2% หากราคาย่อตัวและกลับทิศทางที่นี่ มีโอกาสร่วงลงไปแนวรับแรกที่ 1.3960 ซึ่งเป็นแนวรับซ้อนกับ Fibonacci 50%
สถานการณ์ทางเลือก:
ถ้าราคาทะลุแนว Pivot ไปได้ อาจพุ่งต่อไปถึงแนวต้านถัดไปที่ 1.4103 ซึ่งเป็นจุด Swing-High
SET GDP ทั้งปีทำไว้ ที่2.4 % นำมาจับมุมมองกราฟSET:SET Key Takeaways:
📍GDP ไทย ไตรมาส 3/24 ขยายตัวได้ 3.0% YoY (1.2% QoQ) ขยายตัวมากกว่าตลาดคาดที่ 2.4% YoY (Bloomberg Consensus) แต่เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับ BLS House view ที่ 2.9% YoY
📍ปัจจัยหนุนหลักในไตรมาสนี้ ได้แก่ การบริโภคภาครัฐ (+6.3% YoY) การลงทุนภาครัฐ (+25.9% YoY) และการส่งออกสินค้า (+8.3% YoY) ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนเติบโตชะลอลงที่ 3.4% YoY จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 4.9% YoY
📍อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนยังน่าเป็นห่วง โดยหดตัว 2.5% YoY เป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 สะท้อนถึงภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวได้บางสาขา
เนื้อหา:
GDP ไทยไตรมาส 3/24 ขยายตัวเร่งขึ้น โดยมี 3 ปัจจัยหนุนหลัก ได้แก่
1. การบริโภคภาครัฐขยายตัว 6.3% YoY ขณะที่การลงทุนภาครัฐขยายตัวได้สูงถึง 25.9% YoY ซึ่งเป็นผลจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณก่อนการสิ้นสุดปีงบประมาณ 67 บวกกับผลของฐานต่ำ
2. การส่งออกสินค้าไทยขยายตัวได้ดีกว่าที่คาด โดยโตถึง 8.3% YoY จากอานิสงส์ด้าน Front-loaded demand ของสหรัฐฯ และยุโรป ก่อนมาตรการขึ้นภาษีมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนกันยายน ประกอบกับ Demand ของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ อาทิ HDDs ที่ยังคงเติบโตสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่หนุนการส่งออกของไทยตลอดทั้งไตรมาส 3/24 และ
3. การบริโภคภาคเอกชนที่ยังคงขยายตัวได้ดี 3.4% YoY แม้จะเป็นการขยายตัวในทิศทางที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 4.9% YoY โดยการใช้จ่ายในหมวดโรงแรม ร้านอาหาร เติบโตชะลอลงจากผลของ Low Season ด้านการท่องเที่ยว ส่วนสินค้าคงทนยังคงหดตัวต่อเนื่องถึง 9.9% YoY ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง อันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่คาดว่าจะกดดันการบริโภคภาคเอกชนโดยรวมของไทยไปอย่างต่อเนื่องไปถึงปีหน้า (หากไม่มีมาตรการมากระตุ้นการบริโภคเพิ่มเติม)
อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว 2.5% YoY ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า (-6.8% YoY) สะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคธุรกิจแบบไม่ทั่วถึง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อโดยภาพรวมยังไม่สามารถกลับมาแบบยั่งยืนได้ ทำให้ sentiment การลงทุนของภาคเอกชนโดยรวมยังไม่ฟื้นกลับมา
ทั้งนี้ เราคาดว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/24 น่าจะขยายตัวเร่งขึ้นได้ราว 3.6% YoY (Base case) จากผลของฐานต่ำและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ เช่น โครงการแจกเงิน 10,000 บาท ที่น่าจะการแจกเฟสสองแก่กลุ่มคนอายุ 50 – 60 ปี ก่อนสิ้นปี ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ ร่วมกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (เที่ยวคนละครึ่ง) ที่น่าจะออกมาเพิ่มเติมก่อนสิ้นปี รวมถึงการท่องเที่ยวในช่วง High Season โดยเราคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติไตรมาส 4/24 น่าจะอยู่ที่ราว 9.5 ล้านคน และน่าจะทำให้ยอดทั้งปีมาแตะที่ 35.6 ล้านคน ตามที่เราคาดไว้ (คิดเป็นสัดส่วน 89.2% ของ Pre-covid) อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/67 ยังคงมีความเสี่ยงด้านการส่งออกที่เรามองว่าน่าจะชะลอตัวลงแรงกว่าที่คาด จาก Demand ของเศรษฐกิจคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐฯ และจีนที่ชะลอลง ทำให้เรายังคงยืนมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งปี 67 โตที่ 2.6% YoY
จากรายงานนี้บ้านเรา GDP ทั้งปีทำไว้ ที่2.4 % พอมาจับกับภาพตลาดมอง 1 เดือนครึ่งที่เหลือบัานเราจะเล่นออกข้าง ในกรอบ 1436 ถึง1500 ยกเว้นมีปัจจัยใหม่เข้ามาครับ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปจะสังเกตเห็นได้ว่าในแต่ละธรรมเตรียมบอกเนื้อหาของหน้างานไม่เหมือนกันแต่สุดท้ายก็จะวิ่งไปหาจุดใหญ่ก่อนเสมอแล้วจะไปทำอะไรต่อนั้นก็ไม่รู้ดูตามหน้ากราฟเลย H4 บอกลง h1 บอกครึ่งแล้วตัวเราจะเทรดในแผนไหนรูปแบบไหนทำเฟมไหนนั่นคือการวางแผนของแต่ละคนซึ่งจะมีเทคนิคการลำเลียงซึ่งแตกต่างกันต้องลองศึกษาเล่าเรียนและก็ลองทดลองทำซ้ำๆในรูปแบบเดิมๆดูถ้ามันใช่มันก็คือรูปแบบที่ใช่ในเทคนิคที่เราถนัดก็ต้องลองฝึกดูฝึกบ่อยๆส่วนตัวก็จะฝึกในท่าเดิมๆเสมออาจจะมีเพิ่มเติมความรู้อะไรเข้ามาบ้างให้มันแน่นขึ้นจากเทคนิคเดิมแต่จะไม่รื้อเพื่อเริ่มต้นใหม่