ไอเดียชุมชน
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 (ActionZone) มีสัญญาณ "ขาย" 30/12/2024อธิบาย : ระบบ Action Zone หรือ MACD ตัดศูนย์ คือระบบที่ใช้หลักการดูเส้น MACD ว่า เส้นนี้จะตัดกับเส้นศูนย์เมื่อไหร่ โดย ถ้าตัดขึ้นก็จะเป็นสัญญาณซื้อ ถ้าตัดลงก็จะเป็นสัญญาณขาย ถือเป็นระบบ Trend Following ที่ใช้ได้ดีกับตลาดที่มีเทรนจ๋าๆ เช่น BTC
แต่ระบบนี้ก็จะมีจุดอ่อนอยู่หลายจุดเช่นกัน คือ ในช่วงตลาด sideway ออกข้างเราอาจจะเจอ false sig ทำให้ต้องคืนกำไร คืนทุน กันบ่อยๆ ได้ หรือบางทีถ้าตลาดมีการทุบแรงๆ ก็อาจจะทำให้เจอการคืนกำไรหมดเช่นกัน เพราะระบบจะต้องรอ confirm ของเส้น MACD ก่อน ถึงจะยอมขาย ตอนขึ้น บางทีทำให้มันถือได้นาน ถือได้ทน รันเทรนได้นาน แต่ถ้าลงแรงก็จบกัน 555
ความเห็นของผม :
ตอนระบบนี้เขียวเมื่อวันที่ 19/9/2024 ที่ผ่านมา ผมก็เขียนความเห็นไว้ว่า ยังไงถึงแม้ก่อนหน้าเราจะโดนหลอกมาบ่อยจนท้อ แต่ เราก็ไม่ควรท้อ เพราะว่า ถ้าเกิดว่าเราท้อแล้วไม่ได้เข้า ถ้ามันไปจริงเราก็จะต้องมาเซ็งทีหลังกันอีก
สรุปว่า รอบนี้มันก็ไปจริง ใครที่ท้อ ไม่ได้เข้าตั้งแต่เขียวแรกในวันนั้น ก็อาจจะต้องไปเข้าช้า หรือไปไล่ราคาทีหลัง ทำให้แทนที่จะได้เข้าตั้งแต่ต้นรอบ ก็ตกรถกันไปซะงั้น 555 ใครที่ตกรถรอบนี้ก็ขอให้ได้บทเรียนเพื่อไปปรับปรุงตัวเองกันไปนะครับ
และแน่นอน เมื่อมีสัญญาณซื้อ ก็ต้องมีสัญญาณขาย และ... ใครไม่เชื่อสัญญาณขาย ถ้าหากว่า มันลงต่อหนัก หรือไปซื้อที่ยอดแล้วไม่มีแผนขาย ท่านก็อาจจะคืนกำไรหมด หรือขาดทุนหนักก็ได้เช่นกันครับ
รอบนี้ผมเริ่มเห็นหลายๆ คนมีความเห็นว่า เดี๋ยว BTC ก็น่าจะมี rally ต้นปีเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา แล้วจะไปจบรอบอีกทีตอนเดือนมีนา-เมษา แต่ส่วนตัวก็มองว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับตลาดนี้ มันอาจจะไม่เป็นไปตามอดีตก็ได้นะครับ วิธีรับมือก็คือ สำหรับพอร์ตระบบก็ไม่ควรไปวัดดวง ทำตามระบบไปก่อนดีกว่า จะวัดดวงก็ไปรอวัดกับพอร์ตระยะยาวแทนครับ
ส่วนตัวก็อยากให้มันขึ้นไปต่อนะ แต่ว่า ในเมื่อระบบแดงเรียบแล้วแบบนี้ ผมก็ขอออกมามือว่างถือเงินสดรอดูทิศทางลมก่อนดีกว่าครับ
BTC Action Zone = เขียว ( 19/9/2024 )
------------------
Entry : 61760+-
SL : 56400 (-8.6%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
BTC Action Zone = แดง ( 30/12/2024 )
------------------
Entry : 61760+-
TP : 93738 (+51.77)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
Actual Profit = 10% * 51.77% = 5.18%
เพื่อความง่ายต่อการคำนวณ ผมจะ cut off กำไร 2024 ของระบบสุดท้ายที่ยังเขียวอยู่ไปด้วยเลย ตามด้านล่างนะครับ
BTC CloseAboveEMA120D = เขียว ( 19/9/2024 ) - TP Cut off 2024 ( 30/12/2024 )
------------------
Entry : 61760+-
TP : 93738 (+51.77)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
Actual Profit = 10% * 51.77% = 5.18%
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-27Aug) EMA120DCross = -0.7%
(26Aug-30Aug) ActionZone = -0.75%
(24Aug-2Sep) ATR = -1.04%
(14Sep-2Oct) ATR = +0.05%
(19Sep-2Oct) EMA120DCross = -0.155%
(25Sep-2Oct) BreakHigh = -0.538%
(15Oct-23Dec) ATR = 5.74%
(15Oct-28Dec) BreakHigh = 5.57%
(19Sep-30Dec) ActionZone = 5.18%
(15Oct-30Dec) EMA120D *cut off 2024 * = 5.18%
เทรดทั้งหมด 20 ครั้ง
เทรดที่มีกำไร = 9 ครั้ง
เทรดที่ขาดทุน = 11 ครั้ง
เปอร์เซ็นของกำไร (win rate) = 45%
Sum กำไรสะสมของปี 2024 = 32.23% + 5.18% + 5.18% = 42.59% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง ( Max 4% กำไรหน่วย USD )
ดังนั้น กำไรตามระบบเป๊ะๆ ของปีนี้ ถ้าวัดกันตามความเสี่ยง ก็จะได้ประมาณ 10R นั่นเองครับ และก็น่าจะเป็นกำไรที่สูงที่สุดตั้งแต่ช่วงขาขึ้นปี 2021 มาเลยครับ
ส่วนกำไรที่ได้จริง ในส่วนตัวที่ผมได้ ก็จะน้อยกว่านี้พอสมควร โดยได้ประมาณ 30% เพราะว่า ได้มีการทยอยแบ่งไม้ขายไปบ้าง ยังไม่นับค่า fee อีก รวมถึงอาจจะมีไป ซื้อ-ขายด้วยอารมณ์ระหว่างทางบ้าง บางไม้ หรือแม้แต่ค่าเงินบาทที่แข็งจัดจนทำให้ กำไรจริงที่ realised เป็น THB น้อยกว่ากำไร benchmark ตัวนี้นั่นเองครับ
/7djkodikaปีใหม่แล้วก็คือปีใหม่อย่าไปให้ความสำคัญอะไรกับปีใหม่มันก็แค่วันที่31บสวกอีก1วันก็มค2025แค่นั้น
อยากให้โฟกัสว่าเราจะได้อิสระภาพการเงินเมื่อไหร่ต่อให้มีอีกกี่ปีใหม่มันก็ไม่มีค่าอะไรหากเรายังไม่หลุดพ้น
ฉะนั้นตั้งใจลดละเลิกการสังสรร ทรมารตนเองตั้งเป้าความสำเร็จให้กับตัวเองว่าเราจะต้องทำให้ได้เพื่อให้ปีใหม่ต่อไปเป็นปีที่สดใสสำหรับเราและครอบครัวของเรา
ต่อไปนี้ผมยัง
ใช้ชุดวิเคราะห์เดิมM15ทำPA BUYไม่ผ่านเส้นฟ้าBUYได้เก็บTP บริเวณต้านM5
Improve your Strategy วิธีปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายในตลาด ForexImprove your Strategy
วิธีปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายในตลาด Forex
👯👯👯 กลับมาพบเจอกันอีกแล้ว กับบทความเทคนิคดีๆในการเทรด วันนี้แอดพาพวกเราไปทำการบ้านกันครับ การบ้านในการเทรดก็คือการปรับปรุง ปรับแต่ง และการพัฒนากลยุทธ์ในการเทรดนั่นเอง มาครับไปดูกันว่าเราควรเริ่มจากอะไรได้บ้าง
💁 เพราะตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก การซื้อขายสกุลเงินถือเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่าย และรวยเร็ว และจนเร็วได้ด้วยเช่นกัน การปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องใช้เวลา และความพยายาม และความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง
💁การปรับปรุงกลยุทธ์หรือเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเทรด จึงถือเป็นเคล็ดลับที่เราควรต้องทำ อย่างน้อยปีละครั้งครับ
💁เพราะตลาดการเงินในตอนนี้ส่วนใหญ่แล้ว AI โรบอทเข้ามามีบทบาทสำคัญมากในตลาด ไอ่เจ้าพวกนี้แหละที่คอยจับตาและสร้าสถิติการเลียนแบบการเทรด รวมไปถึงพฤติกรรมการเทรดของเรา ให้เราชนะได้ยากขึ้น และแพ้มากขึ้นนั่นเอง
1.การเลือกโบรกเกอร์และประเภทบัญชีที่เหมาะสม
เพราะโบรกเกอร์นั้นมีเยอะและหลากหลาย แต่ประสิทธิภาพไม่ได้เหมือนกันทุกโบรก
- บางโบรกข่าวมาก็ค้างบ่อย
- บางโบรกมีเก็บค่า swap บางโบรกไม่มี
- ค่าสเปรดสูง-ต่ำ ไม่เท่ากัน ฯลฯ
การเลือกโบรกจึงค่อนข้างสำคัญฮะ เพราะความหลากหลายตรงนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำกำไร เราต้องวางแผนให้ดี ว่าการเทรดของเรา เป็นไปในลักษณะไหน ถ้าชอบถือนานๆเป็นอาทิตย์เป็นเดือน ก็ไม่ควรเลือกโบรกที่มีค่า swap แล้วหันไปเลือกโบรกที่ไม่มีค่าswap แทน เป็นต้น
2. Leverage เลเวอเรจ เป็นได้ทั้งปืนและดาบสองคม
ยิ่งซื้อมาก(Overtrade) ยิ่งล้างง่าย คำนี้จำให้ขึ้นใจ เพราะเลเวอเรจไม่ต่างจากการยืมเงินคนอื่นมาใช้ หากชักหน้าไม่ถึงหลัง ก็เตรียมหงายการ์ดล้มละลายได้เลย แต่หากใช้ให้ถูกทาง ถูกหลักและแบบแผนในการเทรดเราแล้วหละก็ มีแต่กำไรแน่นอนครับ
เราต้องเลือกเลเวอเรจ ที่ไม่มากจนเกินไป และไม่น้อยจนเกินไป เพราะอัตราส่วนเลเวอเรจเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงและความเหมาะสมในการเทรดของแต่ละคนครับ คำนวณดีๆยังไงเราก็ชนะแน่นอน
3. ปรับเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์ผลกำไรและการขาดทุน
เพราะค่าเฉลี่ยความผันผวนการวิ่งในตลาดนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เป้าหมายการทำกำไร และการกำหนดจุดหรือเปอร์เซ็นต์การเทรดจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตาม
เช่น เราเคยทำกำไรจากตลาดทองคำ เราจะรู้ว่าเมื่อก่อนนี้หรือปีที่ผ่านๆมา ทองจะวิ่งแต่ละครั้งไม่เกิน 10-15$ หรือคิดเป็น 10,000 - 15,000 จุด แต่ในปีนี้ และปีถัดไป มันไม่ใช่แล้ว ทองสามารถวิ่งสวิงในแต่ละรอบ อยู่ที่ 50 -100$ ในแต่ละวัน เอ๊า! คิดดูเอาเองแล้วกัน ถ้าเรายังต้องการกำไร-ขาดทุนที่ 10 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม เราจะเทรดขาดทุนตลอดเวลา ด้วยสัดส่วนที่มันกว้างมากขึ้นนี่เอง
4. จดบันทึกยังคงสำคัญเสมอ
อดีตมักสอนเราเกี่ยวกับอนาคต ดังนั้นการจดสถิติการเทรดของตัวเอง การติดตามการซื้อขายของเราเองจึงช่วยทำให้เราเห็นจุดอ่อนและจุดแข็ง อย่าปล่อยให้ AI โรบอทมาล้วงความลับของเราแค่ฝ่ายเดียว
การวิเคราะห์ข้อมูลของตัวเอง ช่วยให้เราเห็นจุดบอด และทำให้เราแก้ไขได้ตรงจุดด้วยนะ รวมไปถึงการอัพเกรดให้มันมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
5. จิตวิทยาและ mindset ก็สำคัญไม่แพ้กัน
อย่าปล่อยปะละเลยกับความสุขที่แท้จริงในชีวิต การไม่มีอะไรและการไม่คิดอะไรเลยคือความสุขที่ถาวร ปรับเปลี่ยนความคิดของเราให้ไม่ยึดติดมากเกินไปในการเทรด สิ่งนี้แหละจะช่วยทำให้เราชนะตลาดได้มากขึ้น พยายามฝึกจิต ควบคุมอารมณ์ และปล่อยวาง ไม่จดจ่ออยู่ที่ผลกำไรมากเกินไป แล้วความสุขจะมาหาเราเองครับ
👽👽👽 เป็นอย่างไรกันบ้างครับพอจะได้ทริคดีๆในการปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดกันแล้วใช่มั้ยครับ อย่าลืมเอาไปลองใช้กันดูนะครับ มันดีจริงๆแอดคอนเฟริมเลย
แล้วที่สำคัญ หมั่นฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน ยิ่งเราเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
BTCUSD Daily Analysis 29/12/2024 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ออกมาคาดการณ์ว่า Bitcoin (BTC) จะทำราคาได้สูงถึงประมาณเท่าไหร่ในตลาดรอบนี้
ในการสัมภาษณ์ครั้งใหม่กับ Anna Tutova CEO ของ Coinstelegram Hayes กล่าวว่า Bitcoin อาจแตะหลักล้านดอลลาร์ในเวลาประมาณอีก 1 ปีหรือเนื่องจากปริมาณเงินที่อัดเข้ามาในระบบเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากรัฐบาล
นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าในขณะที่ altcoins บางตัวร่วงลง แต่มูลค่าตลาด crypto โดยรวมก็เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงไปต่อ
“มูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดยังคงเพิ่มขึ้นในช่วง 12-18 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นผมเชื่อว่าเรายังอยู่ในตลาดกระทิงกันต่อ”
BUY : 95025
TP : 97221
SL : 93754
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF H1
ราคายังคงวิ่งในกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยเป็นช่วงที่ราคาพักตัว และขยับไต่ขึ้นช้าๆ ส่งผลให้ขาขึ้นมีลุ้นต่อในระยะยาว จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้จุดกึ่งกลางของเส้นกรอบเส้น BB ในกรอบ TFH1 เป็นตัวกำหนดขอบเขตในการทำกำไรและการเข้าออเดอร์ โดยเป็นไปได้ที่ราคาจะสวิง ในกรอบแคบๆ จาก H1-H4 ยังคงเน้นเก็บกำไรสั้นๆ
RSI เป็นกลาง ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD : ระบบ Break 52Days high มีสัญญาณ"ขาย" 28/12/2024อธิบาย : ระบบ Break 52Days High เป็นระบบที่จะดู High ย้อนหลังของแท่งเทียน เป็นเวลา 52 วัน และตีเส้นราคาลากมาเรื่อยๆ จนกว่าเมื่อไหร่ที่ราคาปิดแท่งเหนือกว่าเส้น 52 วันย้อนหลัง ระบบก็จะมีสัญญาณซื้อ ส่วนสัญญาณขายจะใช้ MA 52 วัน เพื่อตัดสินใจ โดยเมื่อไหร่ที่ราคาปิดแท่งต่ำกว่าเส้น MA52 ก็จะมีสัญญาณขาย นั่นเอง
ระบบนี้ดัดแปลงไอเดียมาจาก Break 52 Weeks High ที่ใช้กับตลาดหุ้น แต่ว่ามาใช้กับคริปโตแล้วมันช้าเกิน ก็เลยลองลดเหลือเป็น 52 วันแทน ก็ให้ผลที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะหลายๆ ครั้งระบบนี้ก็ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาเข้าๆ ออกๆ ตอนตลาด sideway down หรือขาลงจ๋าๆ เพราะเราจะนั่งเฉยๆ ตลอดทางนั่นเอง ( เหมือนกับ 5 เดือนที่ผ่านมา )
ความเห็นของผม : หลังจาก ยึกๆ ยักๆ กันมาเป็นเดือน ในที่สุดก็เริ่มเสียทรงและทำให้ระบบแดงกันไปอีกระบบจนได้ครับ ถ้ามองว่าเป็นการปิดจ๊อบของปี 2024 ผมว่าก็น่าสนใจดีเหมือนกัน ขายออกมาก่อน reset ทุกระบบ ปีหน้าว่ากันใหม่ อย่างน้อยๆ ปีนี้ก็มีกำไรกันถ้วนหน้าแล้ว
BTC BreakHigh = เขียว ( 15/10/2024 )
------------------
Entry : 66000+-
Exit : 61000 (-7.5%)
Position Size = 13% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
BTC BreakHigh = แดง ( 28/12/2024 )
------------------
Entry : 66000+-
TP : 94300 ( +42.87%)
Position Size = 13% ของพอร์ต ( Risk1% )*
Actual Profit = 13%*42.87% = 5.57% (5.5R)
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-27Aug) EMA120DCross = -0.7%
(26Aug-30Aug) ActionZone = -0.75%
(24Aug-2Sep) ATR = -1.04%
(14Sep-2Oct) ATR = +0.05%
(19Sep-2Oct) EMA120DCross = -0.155%
(25Sep-2Oct) BreakHigh = -0.538%
(15Oct-23Dec) ATR = 5.74%
(15Oct-28Dec) BreakHigh = 5.57%
(19Sep-???) ActionZone = ?%
(15Oct-???) EMA120D = ?%
Sum กำไรสะสมของปี 2024 = 26.66% + 5.57% = 32.23% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
* โดยกำไรด้านบน ยังไม่ใช่กำไรสุทธิ เพราะยังเหลืออีก 2 ระบบที่ยังไม่ได้ realized profit นะครับ ซึ่งตอนนี้อีก 2 ระบบที่เหลือมีกำไรรวมราวๆ +10.9% ถ้ารวมกับยอดที่ realized ไปแล้วอีก 32.23% ในปีนี้ก็มีกำไรเบื้องต้นอยู่ที่ 43.13% ครับ สำหรับความเสี่ยง 4% ก็ตีคร่าวๆ ก็เกือบ 11R เลยนะ ถือว่าเป็นปีที่ดีมากๆ ปีนึงครับ
BTCUSD Daily Analysis 28/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ณวันที่ 28 ธันวาคม 2024 ราคาบิตคอยน์ (BTC) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 96,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,360,000 บาท)
การลดลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในช่วงปลายปี
นอกจากนี้ มีรายงานว่ารัสเซียเริ่มใช้บิตคอยน์ในการค้ากับต่างประเทศ และมีแผนขยายการใช้งานในปีหน้า
cr.investing -siamblockchain
Trading note: ✅
Sell : 94662.52
✅ Tp: 92389.71 90189.95
❗ SL: 96156.80
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีแรงขายเข้ามา หลังจากที่ราคามีแรงซื้อเข้ามา
ลุ้นในการยกฐานขึ้นต่อไปทดสอบโซน 98954.05 ในรูปแบบ QM
fibo : เก็บกำไรประมาณ 1.27
เป้ามหาย เป้ามหายราคา 90000.00
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD Daily Analysis 27/12/2024 by TraderTanTrading note: XAUUSD / GOLD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (26 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่นักลงทุนจับตาสัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีหน้า
ทั้งนี้ พาวิโลนิสคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์ในปีหน้า โดยได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรอง
รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมเร่งส่งมอบอาวุธให้ยูเครนเพื่อใช้ต่อสู้กับรัสเซีย พร้อมกับประณามรัสเซียที่โจมตีระบบพลังงานของยูเครนในวันคริสต์มาส
BUY : 2630
TP : 2636
SL : 2652
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H1-H4
ราคายังคงไต่ขึ้นอย่างช้าๆ จากการลงไปทดสอบแนวรับต่ำสุดอีกครั้ง โดยยังยืนเหนือแนวรับจิตวิยาที่2600 จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวและการรีบาว์นกลับของเทรนด์ในระยะสั้น โดยราคายืนยืนขึ้นเหนือแนวรับทางจิตวิทยา ที่2600 จากกรอบ TF H1 คาดหวังการวิ่งสวิงในรอบขาขึ้นระยะสั้น โดยตั้งเป้าหมายกำไร 1000 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 500 จุด
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น ใช้แนวรับเก่าเป็นตัวกำหนดจุดเข้า และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้เป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
EURUSD Daily Analysis 27/12/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 ขึ้นสู่ระดับ 4.9% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.8% และปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2568 ขึ้นสู่ระดับ 4.5% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.1% โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งออกที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจจีนในปีหน้าอาจเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งความเชื่อมั่นที่อ่อนแอลงทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้ (27 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับวันเสาร์ที่ 28 ธ.ค. เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย
BUY : 1. 04093
TP : 1. 04467
SL : 1. 03841
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคายังคงไม่เลือกทางที่ชัดเจน ยังวิ่งในกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์แคบๆแม้ว่าจะลดระดับต่ำลงเรื่อยๆ แต่ยังไม่ลงต่ำกว่าแนวรับเก่าและยกก้นขึ้นสูง จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวจากแท่งเทียน และกรอบแนวรับเดิมในTF H1ในการเข้าออเดอร์ คาดหวังการสวิงในกรอบพักตัวระยะสั้นๆในรอบขาขึ้นระยะสั้น เป็นไปได้ที่ราคาจะวิ่งขึ้นไปทดสอบเส้นENA100-200 ตามลำดับ ตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลาง เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD 27/12/24 tfเล็ก กำลังลง พา tfกลาง ปรับฐานกรอบ 2608-2639
กรณีขึั้น
a. เบรค 2639 กลับขึ้นตาม fibo
b. tf เล็กฟอร์มหัวขึ้น หยุดลงได้ก่อน
กรณีลง
c. ไม่เบรค 2639 ยังลงตาม fibo เล็ก
d. ถ้าหลุด 2621.5 เล่นลงใกล้ 2610
.....................................
240 : ob จากลงไม่ถึง 161.8
120 60 : มีหัวขึ้น พา 240 ob
- จาก beardi. = ค้างลง os
- test 2610 2608
30 15 5 : มีหัวลง พา 60 120 os
- หัวขาลง tf เล็กจะพา tf ใหญ่ ปรับฐาน
ดัชนีดอลลาร์พุ่ง! (DXY) ลุ้นแตะ 110 ขณะ EUR/USD เสี่ยงดิ่งตลาดค่าเงินผันผวนหนัก EUR/USD ดิ่งจาก 1.12 เหลือ 1.0350 หลังเลือกตั้งสหรัฐฯ
ECB ลดดอกเบี้ย 4 ครั้งในปี 2024 เหลือ 3.15% ท่ามกลางเศรษฐกิจยูโรโซนที่โตต่ำและปัญหาการเมือง ขณะที่ USD แข็งค่าจาก "Trump Trade" และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ Fed ลดดอกเบี้ยแต่ยังคงจัดการเงินเฟ้อ สำหรับปี 2025 Fed คาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ โต 2.1% ส่วน ECB คาดโต 1.1% ความต่างด้านนโยบายการเงินจะกำหนดทิศทาง EUR/USD ในปีหน้า
ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน ตัวชี้วัดบ่งชี้ว่าราคามีแนวโน้มแตะระดับ 109 และอาจทดสอบ 110 หากปัจจัยพื้นฐานของยูโรโซนแย่ลงต่อเนื่อง ขณะที่นโยบายของทรัมป์ยังคงกดดันคู่ค้า หากความเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้นจริง อัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD ที่ 1.0000 อาจเกิดขึ้นได้
วางแผนการบ้านปีหน้า และ รอบเทรดเดือนหน้า ( 2 - 10 มค 68 )ผ่านมา 1 ปี กับการเทรด ถ้ารวมกับปีที่ผมเริ่มเทรด ก็ทั้งหมด 11 ปี
ตอนเริ่มเทรด ผมมุ่งที่ตลาด future และบอกตนเองว่าจะ Master ใน index ให้ได้และเท่านั้น ไม่มีสนใจหุ้นปกติเลย
และเมาหมัดอยู่หลายๆๆๆๆๆ ปี กว่าจะ ขาแข็ง ชกไม่มั่ว ไปเปิดดู dairy ที่ตนเองทำเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็ปวดใจมากพร้อมสบถว่า ทำไปได้
11 ปี เจออะไรบ้างที่ทำให้จำ อันดับแรก slippage 50 - 60 จุดนับจากเปลี่ยนตัวคูน futures จากจุดละ 1000 เป็นจุดละ 200 , ระเบิดราชประสงค์ , รัฐประหาร ยุคปู , ร9 สวรรคต , สงครามการค้าจีน สหรัฐ , โรคระบาด แต่ก็สามารถรอดมาได้โดยไม่โดน force sell หลักๆมาจาก มองว่าการลงทุนของเราทำการค้าอยู่ เราเปิดร้านที่ชื่อ S50 ซื้อมาขายไป มองแบบธุรกิจ ไม่มองแบบการพนัน มองแค่ราคาชึ้นลงเท่านั้น
มันจึงนำมาซึ่งการ วางแผนความเสี่ยงและการเงิน อย่างรัดกุม
โอเค เรามาเข้าเรื่อง กราฟที่เห็นเป็นกราฟรายเดือน ถ้าดูเผินๆ เหมือนกำลังจะฟอร์มตัวขี้น
การใช้ กราฟ รายเดือน เรามองระยะเห็นผลคืออย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป
แต่ก็จะเห็นแนวต้านใหญ่ๆอยู่ ถ้าใครเชื่อผมใน กระทู้ที่ผ่านมา คุณควรจะกำไร อย่างน้้อย 15 จุด ถ้าออกวันนี้
สว่นตัวปีหน้าผมมอง ไม่น่าจะไปได้ดีเกิน 3 เดือน หลังจากนั้น น่าจะเกิดการสวิงขนาดใหญ่และนาน ค่อยๆ ไปเลือกทาง ขึ้นหรือลงช่วง พค. หรือ มิย.
- แนวทางผมถึงเดือนวันที่ 10 เดือนหน้าคือ ถือไปก่อนแล้วพิจารณาออกแถว 940 ถ้าถึง หวังอีกทีก็ 970 จากนั้นจะรอก่อน แต่ไม่คิดว่าจะขึ้นแรงขนาดนั้น
- สังเกตอย่างนึงว่า โรงงานใหญ่ๆทยอยปิดสะสมมา 2-3 ปี เยอะมาก (ที่ทยอยเปิดก็มีแต่น้อยกว่า)
- ผมสนใจข้อมูลรากหญ้า จากการเดินถนน จากข่าวทั่วไป ที่ไม่ได้ออกทางสำนักการคลัง การธนาคารของประเทศ สักเท่าไร นอกจากยอดหนี้บ้านค้างชำระ ถ้าขึ้น peak อันนี้ไม่ค่อยดีแล้ว แต่ว่าเท่าที่รู้ยังไม่มีรายงานประจำปีเท่าไร
- เอาเป็นว่า เปิดมา ผมยังมองดี ถ้าไม่มีอะไร เซอร์ไพรซ์ตลาด