Gold Market Outlook [23 ธันวาคม 2567]🌟 Gold Market Outlook
📰 ทองพุ่งปิดตลาด $37 รับอานิสงส์ดอลลาร์อ่อน-บอนด์ยีลด์ร่วง หลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด
💰 สรุปภาวะตลาดทองคำ
ราคาทองคำปิดตลาดในแดนบวกอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนสำคัญจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลง 0.6% จากระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี พร้อมกับการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ส่งผลให้ต้นทุนการถือครองทองคำลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
📊 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา
• เงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว
ดัชนี PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้นเพียง 2.4% ในเดือนพฤศจิกายน ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.5% สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันด้านราคาที่เริ่มผ่อนคลายลง
• แนวโน้มนโยบายการเงิน
แม้ราคาทองจะปรับตัวลดลง 0.9% ในรอบสัปดาห์ เนื่องจากเฟดส่งสัญญาณผ่าน dot plot ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปี 2568 แต่ตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วขึ้น
📈 มุมมองทางเทคนิค
ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดในช่วงต้นสัปดาห์หน้า เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวและปัจจัยขับเคลื่อนตลาดที่จำกัด แนะนำให้เทรดเดอร์เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นตามแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
📊 กรอบแนวรับ-แนวต้าน
XAUUSD
สถานะ: 📉 Slightly Bearish
🔼 แนวต้าน 3: $2,643
🔼 แนวต้าน 2: $2,636
🔼 แนวต้าน 1: $2,630
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,613
🔽 แนวรับ 2: $2,607
🔽 แนวรับ 3: $2,590
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
ไอเดียชุมชน
23-27 ธันวามคม 2567 ไม่ใช่ช่วงเวลาแพนิค มองหาโอกาสในตลาดหุ้นไทย23-27 ธันวามคม 2567 ไม่ใช่ช่วงเวลาแพนิค ควรมองหาโอกาสในตลาดหุ้นไทย
### การวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคแบบมืออาชีพ (Elliott Wave และ Fibonacci Analysis)
จากภาพที่แสดง คือ SET50 แสดงการนับคลื่น **Elliott Wave** ซึ่งอยู่ในโครงสร้างของ Impulse Wave (5 คลื่น) โดยระบุว่า:
- **W1**: คลื่นขาขึ้นแรกที่เริ่มต้นแนวโน้มใหญ่
- **W2**: การพักตัว (Correction) แรก
- **W3**: คลื่นที่ยาวที่สุดและแข็งแรงที่สุด
- **W4**: กำลังอยู่ระหว่างการปรับฐาน
---
### การประเมินตำแหน่งของ W4
**คลื่นที่ 4 (W4)** มักมีลักษณะดังนี้:
1. **โครงสร้าง Correction**:
- รูปแบบ W4 มักเป็น **Flat, Zigzag หรือ Triangle** ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของตลาด
- การพักตัวจะไม่ลงต่ำกว่าโซน **Wave 1** (หากเป็น Impulse Wave ตามทฤษฎี Elliott)
2. **Fibonacci Retracement**:
- ระดับราคาสำคัญที่มักใช้ในการคาดการณ์จุดจบของ W4 คือ:
- **38.2% Fibonacci Retracement**: (901.16) - เป็นเป้าหมายตื้น
- **50% Fibonacci Retracement**: (881.20) - เป็นเป้าหมายกลาง
- **61.8% Fibonacci Retracement**: (861.24) - เป็นเป้าหมายลึก
- โครงสร้าง W4 มีโอกาสลงมาทดสอบ **50%-61.8% Retracement** ก่อนกลับตัวเป็น W5
3. **Fibonacci Time Zone**:
- ช่วงเวลาในภาพแสดงให้เห็นว่า W4 อาจจบใกล้จุด **Fibonacci Time Zone 0.5-0.618** ซึ่งสอดคล้องกับวันที่:
- ช่วงปลาย **ธันวาคม 2024** ถึงต้น **มกราคม 2025**
4. **Awesome Oscillator (AO)**:
- AO แสดงลักษณะการชะลอตัวของแรงขาย (Histogram ลดความยาวลงในแดนลบ)
- บ่งชี้ว่าคลื่น W4 กำลังเข้าสู่จุดใกล้เคียงกับการจบ Correction
---
### การคาดการณ์กรอบราคาและเวลา
จากการวิเคราะห์:
1. **กรอบราคา**:
- เป้าหมายการจบ W4 อยู่ในโซน **861-883**:
- **ระดับ 50% (881.20)**: เป็นแนวที่น่าสังเกตมากที่สุด เพราะใกล้กับระดับ Pivot สำคัญ
- **ระดับ 61.8% (861.24)**: หากตลาดมีแรงขายต่อเนื่องในระยะสั้น
2. **ช่วงเวลา**:
- คลื่น W4 มีโอกาสจบในช่วง **20 ธันวาคม 2024 - 6 มกราคม 2025**
- ช่วงนี้สอดคล้องกับ Fibonacci Time Zone (0.5-0.618) และลักษณะการชะลอตัวของ Momentum
---
### สัญญาณยืนยันการจบ W4
ควรติดตามปัจจัยต่อไปนี้เพื่อยืนยันว่าคลื่น W4 จบ:
1. **รูปแบบราคา (Price Action)**:
- สัญญาณกลับตัว เช่น Pin Bar, Engulfing บริเวณ 861-883
2. **Breakout ของแนวต้านย่อย**:
- เมื่อราคาเริ่มยืนเหนือแนวต้านที่ **901.16**
3. **Awesome Oscillator**:
- Histogram ใน AO เปลี่ยนจากลบเป็นบวก
---
### สรุป
1. W4 คาดว่าจะจบในกรอบราคา **861-883**
2. ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับจุดกลับตัวคือ **ปลายธันวาคม 2024 ถึงต้นมกราคม 2025**
3. การกลับตัวสู่ W5 จะยืนยันได้เมื่อราคายืนเหนือ 901.16 และ AO เริ่มเปลี่ยน Momentum
แนะนำติดตามใกล้ชิดที่ระดับ Fibonacci 50%-61.8% เพื่อหาจังหวะเข้าเทรดในคลื่น W5!
................
### **แผนการเทรดสำหรับการจบ W4 และเตรียมตัวเข้าสู่ W5**
#### **1. ประเมินแนวรับสำคัญ (จุดที่ W4 อาจจบ)**
จากการวิเคราะห์:
- **แนวรับหลัก**:
- **881.20 (50% Fibonacci)**: มีโอกาสสูงที่ราคาจะดีดตัวกลับ
- **861.24 (61.8% Fibonacci)**: แนวรับถัดไป หากแรงขายยังคงกดดัน
- **โซนการจบ Correction ของ W4**: ระหว่าง **861-883**
---
#### **2. การตั้งแผนเทรด**
##### **A. แผนสำหรับการซื้อ (Buy Plan)**
1. **เข้าซื้อ (Buy)**:
- รอให้ราคายืนยันกลับตัวในโซน **861-883**
- มองหาสัญญาณกลับตัว เช่น:
- แท่งเทียนกลับตัว (Pin Bar, Bullish Engulfing)
- Breakout ของแนวต้านระยะสั้น (บริเวณ 890)
2. **จุด Cut Loss**:
- ตั้ง Stop Loss ใต้แนว **860** (ต่ำกว่า 61.8% Fibonacci)
3. **เป้าหมายกำไร (Take Profit)**:
- เป้าหมายแรก: **925** (23.6% Fibonacci Retracement ของ W3)
- เป้าหมายถัดไป: **965-975** (จุดสูงสุดของ W3)
##### **B. แผนสำหรับรอการยืนยัน**
- หากราคาไม่ดีดตัวทันทีที่ 50%-61.8%:
- รอราคายืนเหนือ **901** (38.2% Fibonacci) เพื่อคอนเฟิร์มการกลับตัว
- เข้าซื้อเมื่อเห็น Volume เพิ่มขึ้น และมีสัญญาณ Breakout ชัดเจน
---
#### **3. การจับตาเวลา**
- ติดตามใกล้ชิดในช่วง **20 ธันวาคม 2024 - 6 มกราคม 2025**:
- ช่วงนี้คาดว่าเป็นจุดสิ้นสุดของ W4 ตาม Fibonacci Time Zone
- ใช้กรอบเวลารายวัน (Daily) ในการยืนยันสัญญาณกลับตัว
---
#### **4. สัญญาณสนับสนุน (Confirmations)**
- **Awesome Oscillator (AO)**:
- หาก Histogram เปลี่ยนจากแดง (ลบ) เป็นเขียว (บวก) เป็นสัญญาณสำคัญ
- **Volume**:
- ดูการเพิ่มขึ้นของ Volume เมื่อราคาดีดตัว
- **Breakout**:
- การทะลุแนวต้านที่ **890-901** จะเพิ่มความมั่นใจในการเข้าซื้อ
---
### **สรุปแผนการเทรด (Key Points)**
1. รอเข้าซื้อในโซน **861-883** พร้อมสัญญาณกลับตัว
2. ตั้ง Stop Loss ใต้ **860**
3. เป้าหมายกำไรระยะสั้น **925** และระยะยาว **965-975**
4. เน้นดูสัญญาณกลับตัวทั้ง Price Action, AO, และ Volume
5. ช่วงเวลาเหมาะสม: **ปลาย ธ.ค. 2024 ถึงต้น ม.ค. 2025**
**แนะนำให้ติดตามกราฟอย่างใกล้ชิด และอย่าลืมจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม!**
Day Trading Strategy กลยุทธ์การเทรดรายวันมีอะไรบ้างนะ?Day Trading Strategy
กลยุทธ์การเทรดรายวันมีอะไรบ้างนะ?
👽👽 กลับมาพบเจออกันอีกแล้ว กับเทคนิคการทำกำไร ทริคดีๆทริคเด็ดๆ ที่แอดเอามาฝากกันเช่นเคย บทความนี้เอาใจสายเทรดที่ชอบเก็บกำไรทุกวันครับ มาครับมา ใครชื่นชอบหรือเสพติดการเทรดแบบรายวันต้องอ่านแล้วน๊า
การเทรดรายวัน (Day Trading) คือการซื้อและขายสินค้าหรือสินทรัพย์ทางการเงินให้จบภายในวันเดียวกัน โดยมีจุดมุ่งหมายในการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด โดยการเปิดและปิดจบในวันเดียว ไม่มีแช่ หรือข้ามวันนั่นเอง
กลยุทธ์ Day Trading มีอะไรบ้าง
1. การเทรดแบบ Scalping
กลยุทธ์นี้ใช้กรอบเวลาตั้งแต่ 1นาทีขึ้นไป จนถึง 30 นาที ทำกำไรได้น้อย แต่บ่อยครั้ง
2. กลยุทธ์ Range trading
กลยุทธ์นี้ส่วนใหญ่จะใช้ระดับแนวรับและแนวต้านเป็นหลัก เพื่อกำหนดจุดในการเข้า หรือเรียกว่า Swing Trading โดยจะเข้าทำกำไรและถือนานเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน แต่ไม่ข้ามวัน
3. กลยุทธ์ News-based trading
กลยุทธ์นี้จะทำการซื้อขายจากความผันผวน เหตุการณ์ข่าวและพาดหัวข่าว เพราะกราฟค่อนข้างวิ่งเร็วและแรง ส่วนใหญ่นิยมเทรดหลังจากข่าวออกตั้งแต่วินาทีแรก จนถึง15 นาที แรก และ เทรดอีกครั้ง หลังข่าวออกไปแล้วอีก 15 นาที เรียกว่าเก็บรอบกำไรได้หลายทางแล้วแต่ความถนัดและความชำนาญ
4. กลยุทธ์ Reversal
กลยุทธ์นี้จะทำการซื้อขายจากการกลับตัวของเทรนในระยะสั้นและระยะยาวได้หมด ขึ้นอยู่กับแพทเทรินก่อนหน้าที่เป็นตัวบอกเทรนด์
เทคนิคการเทรดรายวัน
1. การวิเคราะห์เทคนิค (Technical Analysis) พวกกราฟแท่งเทียนเป็นต้น
2. การวิเคราะห์ข่าวสารและเหตุการณ์ (Fundamental Analysis) อ่านข่าวให้เยอะเข้าไว้
3. การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators) สำคัญมากเลือกให้ตรงกับใจเราคือใช้แล้วชอบใช้แล้วดีนั่นเอง
4. การกำหนดเป้าหมายและวางแผนการเทรด เราจะได้เทรดตามแผนเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
5. การควบคุมการเสี่ยง ตัวนี้สำคัญ รู้แพ้ รู้ชนะ ยังไงเราก็กำไรฮะ
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ทริคดีๆในการทำกำไรเพิ่มกันแล้วใช่มั้ยครับ อย่าลืมเอาไปลองใช้กันดูนะฮะ ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นเทคนิคการทำกำไรที่ดีของเราเลยก็ว่าได้ แอดหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เราอ่านกราฟได้ดี อ่านกราฟได้เก่งมากขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่ากราฟมีขึ้นแล้วก็มีลง ไม่ต้องไปเครียดกะมันหมั่น ฝึกฝนและเพิ่มเติมความรู้อย่างสม่ำเสมอ รับรอง เทรดยังไงก็รอดครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM กันด้วยนะครับ วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอนครับ แอดเอาใจช่วยสู้ๆ
BTCUSD Daily Analysis 21/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด): การที่เฟดประกาศว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ถือครองบิตคอยน์ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
การเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่: การที่บริษัทและนักลงทุนรายใหญ่แสดงความสนใจหรือไม่สนใจในบิตคอยน์ ส่งผลต่อราคาของสกุลเงินดิจิทัลนี้
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 97071.00
✅ Tp: 95157.19 92150.30
❗ SL: 38390.47
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาขึนมาปรับฐาน และเริ่มที่จะมีแรงขายเข้ามา
ลุ้นในการลงต่อไปทดสอบโซน92000 เพื่อทำ BOS
fibo : เป้าหมาย ประมาณ 100 ลุ้น BOS
เป้ามหาย เป้าหมายคือ2550
RSI: ยกฐาน ไปทดสอบโซน 50
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
การหาเทรนด์ด้วย EMA ในการเทรด Forexการหาเทรนด์ (Trend) เป็นหนึ่งในเทคนิคที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเทรด Forex เพราะช่วยให้เราสามารถวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ใช้ในการหาเทรนด์คือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (Exponential Moving Average หรือ EMA)
EMA คืออะไร?
EMA คือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลราคาล่าสุดมากกว่าข้อมูลในอดีต ทำให้เส้น EMA ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้รวดเร็วกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบธรรมดา (Simple Moving Average หรือ SMA) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ตลาดที่มีความผันผวนสูง เช่น ตลาด Forex
การใช้ EMA ในการหาเทรนด์
การใช้ EMA เพื่อหาเทรนด์สามารถทำได้โดยการวิเคราะห์ตำแหน่งของราคาและการเปรียบเทียบ EMA หลายเส้นดังนี้:
การวิเคราะห์ตำแหน่งของราคา
หากราคาปัจจุบันอยู่เหนือเส้น EMA แสดงว่าแนวโน้มตลาดกำลังเป็นขาขึ้น (Uptrend)
หากราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าเส้น EMA แสดงว่าแนวโน้มตลาดกำลังเป็นขาลง (Downtrend)
การใช้ EMA หลายเส้น
การใช้ EMA หลายเส้น เช่น EMA 30, EMA 50 และ EMA 100 ช่วยให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มระยะสั้นและระยะยาวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการหาเทรนด์:
หาก EMA 30 > EMA 50 > EMA 100 หมายถึงตลาดอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น
หาก EMA 30 < EMA 50 < EMA 100 หมายถึงตลาดอยู่ในเทรนด์ขาลง
ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดด้วย EMA
กลยุทธ์ Cross Over
เมื่อเส้น EMA ระยะสั้น (เช่น EMA 30) ตัดขึ้นเหนือเส้น EMA ระยะยาว (เช่น EMA 50) เป็นสัญญาณซื้อ (Buy Signal)
เมื่อเส้น EMA ระยะสั้นตัดลงใต้เส้น EMA ระยะยาว เป็นสัญญาณขาย (Sell Signal)
การใช้ EMA ร่วมกับแนวรับแนวต้าน
หากราคาปรับตัวลงมาทดสอบเส้น EMA ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับ และเด้งกลับขึ้นไป อาจเป็นจุดเข้าเทรด Buy
หากราคาปรับตัวขึ้นมาทดสอบเส้น EMA ที่ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน และปรับตัวลง อาจเป็นจุดเข้าเทรด Sell
การวัดความแข็งแกร่งของเทรนด์
หากระยะห่างระหว่างเส้น EMA หลายเส้นกว้างขึ้น แสดงว่าเทรนด์มีความแข็งแกร่ง
หากเส้น EMA เริ่มเข้ามาใกล้กัน อาจบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของเทรนด์หรือการเข้าสู่ช่วงไซด์เวย์ (Sideway)
ข้อควรระวังในการใช้ EMA
EMA ตอบสนองต่อราคาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอก (False Signal) ได้ในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน
ควรใช้ EMA ร่วมกับเครื่องมืออื่น เช่น RSI, MACD หรือ Fibonacci เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
สรุป
การใช้ EMA ในการหาเทรนด์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ควรทำการทดสอบกลยุทธ์ (Backtest) และฝึกฝนการใช้งานในบัญชีทดลองก่อนนำไปใช้ในบัญชีจริง เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ
XAUUSD 21-23 /12/24 กลับขึ้นจากเบรค 2626.5 รอบ 5 60จาก สญ.หยุดลง กำลังกลับขึ้น
อาจมีพักบ้าง แต่ค้างขึ้นได้อีก 1 ขา
กรณีขึ้น
a. เบรค 2629.3 กลับขึ้น w.5 tf5
b. เบรค 2632 tf15 60 ขึ้นต่อตาม fibo
240 ดีดขึ้น ob
กรณีลง
c. หลุด 2619 ไม่เบรค 2629.3 tf5 ลง w.4
d. หลุด 2589 ล้างหัวขึ้น 15
e. หลุด 2587 ล้างหัวขึ้น 60
......................................
D : sw os
- กรอบ 2536.8-2790
240: os LL ในกรอบ D
- rsi HL คาดมีแรงดีด ob
- 60 มีหัวขึ้นพา 240 ob
60 : ob HH หัวขึ้น พึ่งเบรค
- จากลงโซนดีด rsi ob ได้จึงกลับขึ้น
- ขาขึ้น กรอบ 2584-2726
15 : os HL หัวขึ้น ขึ้น 00+rsi ob
- หัวขึ้น os-L 2589.5
- ถ้าจะขึ้นเบรค 2632
- ถ้าจะลง ฟอร์มหัวลงก่อน
5 : มีหัวลง 2629.3 คาดทำ w.4
- ถ้าเบรค 2629.3 กลับขึ้น w.5
EURUSD Daily Analysis 20/12/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่ง และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE จะปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนต.ค.
BUY : 1. 03661
TP : 1. 03973
SL : 1. 03398
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคายังคงไม่เลือกทางที่ชัดเจน ยังวิ่งในกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์แม้ว่าจะลดระดับต่ำลงเรื่อยๆ แต่ยังไม่ลงต่ำกว่าแนวรับเก่า จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวจากแท่งเทียน และกรอบแนวรับเดิมในTF H1ในการเข้าออเดอร์ คาดหวังการสวิงในกรอบพักตัวระยะสั้นๆในรอบขาขึ้นระยะสั้น ตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาลง เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 20/12/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ในวันที่ 19 ธันวาคม 2024 ราคากลับร่วงลงกว่า 5% มาอยู่ที่ประมาณ $100,230 หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่าเฟดไม่มีอำนาจในการถือครอง Bitcoin
Mt. Gox ได้โอน Bitcoin มูลค่า 172 ล้านดอลลาร์ไปยังวอลเล็ตใหม่ ขณะที่นักลงทุนยังคงถอน Bitcoin ออกจากเว็บเทรดรวมมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 100584.85
✅ Tp: 98855.11 95602.91
❗ SL: 102487.67
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาเป็นเทรนที่ชัดเจน เน้นย่อและเข้าขาย
fibo : เน้นเข้าประมาณ 0.5
เป้ามหาย เป้าหมายคือ 950000
RSI: OverSold
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”