กับดักรีบาวด์ทางเทคนิค หรือโอกาสทอง?XAUUSD บนกรอบเวลา H1 แสดงสัญญาณการรีบาวด์ทางเทคนิคหลังจากการปรับตัวลงอย่างรุนแรงจากโซน 3,190–3,200 ขณะนี้ราคาลงมาถึงแนวรับบริเวณ 3,120–3,130 และเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาเล็กน้อย คาดว่าจะมีการดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 3,180–3,190 ซึ่งสอดคล้องกับเส้น EMA 34 และ 89 ที่กำลังชี้ลง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาลง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่งจากความคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ แม้จะมีปัจจัยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
กลยุทธ์ในตอนนี้คือ รอซื้อระยะสั้นใกล้โซน 3,120 หากมีสัญญาณยืนยัน หรือให้ความสำคัญกับการขายหากราคาดีดกลับขึ้นไปถึงโซน 3,190 แล้วไม่สามารถผ่านไปได้ – โดยมีเป้าหมายทำกำไรระยะสั้นที่บริเวณ 3,080–3,100 ผู้เทรดควรติดตามพฤติกรรมราคาที่โซนสำคัญเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
โลหะ
แนวโน้มขาลงยังไม่หยุด – ทองคำสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไร?ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง XAUUSD ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงภายในช่องราคาที่ชัดเจน สะท้อนถึงแรงขายที่ยังคงเป็นฝ่ายครองตลาด หลังจากราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 3,287 (จุดตัดของ EMA 34 และ 89) แต่ไม่สามารถผ่านได้ ก็ได้มีแรงขายกลับลงมาจนราคาลดลงมาที่บริเวณ 3,233.71
พฤติกรรมราคาบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะเคลื่อนไหวในรูปแบบซิกแซกต่อเนื่องภายในช่องขาลง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่แนวรับบริเวณ 3,105 ซึ่งตรงกับขอบล่างของช่องราคา
ปัจจัยพื้นฐานในภาพรวมยังสนับสนุนแนวโน้มขาลง เมื่อข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดคาดว่าเฟด (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน หากไม่มีปัจจัยใดที่สามารถเปลี่ยนแนวโน้มได้อย่างชัดเจน แนวโน้มขาลงยังคงเป็นภาพหลักจนกว่าจะมีการทะลุแนวต้านได้อย่างเด็ดขาด
ทองคำหลุดแนวรับ – ฝันร้ายยังไม่จบใช่ไหม?XAU/USD บนกราฟ 4 ชั่วโมงได้ทะลุแนวรับสำคัญที่บริเวณ 3,227–3,230 หลังจากถูกปฏิเสธอย่างรุนแรงที่แนวต้าน 3,304–3,328 (ระดับ Fibonacci 0.618–0.5 ประกอบกับ EMA) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ขณะนี้ราคามีโอกาสดีดกลับเล็กน้อยเพื่อลองทดสอบแนวต้านเดิมอีกครั้ง ก่อนจะมีโอกาสสร้างรูปแบบ “lower high” และปรับตัวลงต่อสู่เป้าหมายที่บริเวณ 3,103 ตาม Fibonacci Extension ระดับ 4.618
ในขณะที่ตลาดกำลังรอตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันที่ 14 พฤษภาคม – ปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด – แรงขายยังคงมีน้ำหนัก
นักลงทุนควรระมัดระวัง เนื่องจากราคาทองคำอาจมีความผันผวนสูงหลังจากข้อมูลถูกเปิดเผย
แนวโน้มการเทรดทองคำ (XAU/USD) ล่าสุด ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 #XAUUSD #GOLD #TRADER #CTTRADER #เทรดทอง #สอนเทรดทอง #เทรดเดอร์ #ซีทีเทรดเดอร์ #ราคาทองคำวันนี้
แนวโน้มการเทรดทองคำ (XAU/USD) ล่าสุด ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2568
ภาพรวมแนวโน้ม
แนวโน้มระยะยาว (Long-term): ราคาทองคำยังอยู่ใน ขาขึ้น (Uptrend) ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้า และความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-haven Asset) ยังคงสูง โดยราคาได้พุ่งทะลุระดับ $3,400 และเข้าใกล้ $3,500 ในช่วงที่ผ่านมา.
แนวโน้มระยะสั้น (Short-term): ราคาทองคำอาจมีความผันผวนสูง เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคและข่าวสารเศรษฐกิจ เช่น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (ดัชนีค้าปลีก, การจ้างงาน Non-Farm) และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED).
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
นโยบายการเงินของ FED:
การคาดการณ์ว่า FED อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อย สนับสนุนราคาทองคำให้สูงขึ้น.
หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด (เช่น ดัชนีค้าปลีก) อาจหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อ.
ความกังวลด้านนโยบายการค้า:
นโยบายภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจนำไปสู่สงครามการค้า ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนและหนุนราคาทองคำ.
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ระดับแนวรับ (Support):
แนวรับสำคัญอยู่ที่ $3,100 - $3,120 ซึ่งเป็นโซน Fibonacci Retracement และจุดที่ราคามักมีการเด้งกลับ.
หากหลุดแนวรับนี้ อาจลงไปทดสอบ $3,000 - $2,989.
ระดับแนวต้าน (Resistance):
แนวต้านแรกอยู่ที่ $3,400 - $3,450 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดล่าสุด (All-Time High).
หากทะลุได้ อาจขึ้นไปทดสอบ $3,500 หรือสูงกว่านั้นในระยะถัดไป.
รูปแบบกราฟ:
ราคาทองคำมีรูปแบบ สามเหลี่ยม (Triangle) ในบางกรอบเวลา ซึ่งบ่งชี้ถึงการสะสมพลังก่อนการ breakout หากราคายืนเหนือ $3,251 ได้ อาจมีโอกาสขึ้นต่อไปที่ $3,350 - $3,355.
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) 1 ชั่วโมงยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และ MACD บ่งชี้ถึงโมเมนตัมฝั่งซื้อที่แข็งแกร่ง.
ตัวชี้วัด (Indicators):
RSI อยู่ในโซนกลางถึงสูง (ใกล้ Overbought) ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจมีการย่อตัวในระยะสั้นก่อนขึ้นต่อ.
Williams %R แสดงถึงการทำ Higher High ซึ่งสนับสนุนฝั่งซื้อ (Buy).
การบริหารความเสี่ยง:
เนื่องจาก XAU/USD มีความผันผวนสูงและใช้ Leverage ได้ ควรจัดการ Money Management อย่างรอบคอบ โดยเสี่ยงต่อการเทรดไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตต่อออเดอร์.
ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด เพราะอาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว.
หมายเหตุ: การลงทุนใน XAU/USD มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนและการใช้ Leverage ผู้เทรดควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน.
แนวรับสำคัญกำลังถูกทดสอบ – USD/JPY จะเด้งหรือดิ่ง?ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง USD/JPY กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น โดยมีรูปแบบ Double Bottom ที่ชัดเจนได้ก่อตัวขึ้นก่อนหน้านี้ หลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้านแข็งแกร่งบริเวณ 146.50–146.70 ได้ ราคาก็ได้ปรับตัวลงและขณะนี้กำลังเข้าใกล้โซนแนวรับสำคัญบริเวณ 144.60–144.80 ซึ่งเป็นจุดรวมของเส้น EMA34 และ EMA89
แท่งเทียนขาลงล่าสุดเริ่มชะลอตัว แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังของฝั่งขาย หากราคาสามารถดีดตัวแรงจากแนวรับนี้และทะลุผ่านยอดเดิมได้ มีโอกาสสูงที่แนวโน้มขาขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไป โดยเป้าหมายถัดไปอาจอยู่ที่โซน 147.50–148.00 หลังจากทะลุแนวต้าน 146.70
ในด้านข่าวสาร นักลงทุนกำลังจับตาสัญญาณการแทรกแซงค่าเงินจากธนาคารกลางญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเงินเยนยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐที่จะประกาศในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของ Fed และสร้างแรงกระเพื่อมต่อคู่เงิน USD/JPY อย่างมีนัยสำคัญ
แนวรับกำลังถูกคุกคาม – GBP/USD กำลังจะเกิดความผันผวนครั้งใหญ่?บนกรอบเวลา 1 ชั่วโมง GBP/USD แสดงสัญญาณอ่อนแรงหลังจากดีดกลับขึ้นมาแตะบริเวณแนวต้านสำคัญแถวระดับ 1.3319 ซึ่งเป็นจุดบรรจบของเส้น EMA และยอดสูงก่อนหน้า แท่งเทียนที่มีตัวเล็กและไส้เทียนด้านบนยาวบ่งบอกถึงแรงซื้อที่เริ่มอ่อนตัวลง และแรงขายที่กลับเข้ามาครอบงำ แนวโน้มทางเทคนิคยังคงเป็นขาลง โดยราคายังเคลื่อนไหวต่ำกว่าทั้งสามเส้น EMA หลัก โดยแนวรับสำคัญถัดไปอยู่ในโซน 1.3260–1.3248 (Fibonacci 0.5–0.618) หากราคาทะลุแนวรับนี้ลงมา มีแนวโน้มสูงที่จะลดลงต่อเนื่องไปยังระดับ 1.3206 ในด้านข่าวสาร ตลาดกำลังจับตาข้อมูล GDP ไตรมาส 1 ของสหราชอาณาจักรในวันนี้ และตัวเลข CPI ของสหรัฐที่จะประกาศในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งทั้งสองปัจจัยอาจสร้างความผันผวนให้กับคู่นี้ หาก GDP ของอังกฤษออกมาต่ำ และ CPI ของสหรัฐสูงกว่าที่คาดการณ์ GBP/USD อาจเผชิญแรงกดดันด้านลบเพิ่มขึ้นในระยะสั้น
XAU/USD – แรงกดดันขาลงกลับมาอีกครั้งหลังการฟื้นตัวอ่อน รอตัดสินใจากการสังเกตกราฟ 1 ชั่วโมง XAU/USD แสดงสัญญาณอ่อนแรงหลังจากการดีดตัวขึ้นในระยะสั้นไปยังบริเวณแนวต้านที่ระดับ 3,335–3,340 ซึ่งเป็นจุดที่มีการรวมตัวของเส้น EMA และแนวต้านแนวนอน หลายครั้งที่ราคาพยายามทดสอบบริเวณนี้แต่ถูกปฏิเสธโดยแท่งเทียนที่มีตัวเล็กและไส้บนยาว แสดงให้เห็นถึงแรงขายที่ยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบ
โครงสร้างแนวโน้มในปัจจุบันยังคงเป็นขาลง โดยมีการฟอร์มตัวในรูปแบบช่องราคาลดลงก่อนหน้านี้ และราคายังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น EMA สำคัญทั้ง 3 เส้น (34, 89, 200) ซึ่งเป็นการยืนยันแนวโน้มขาลงในระยะกลาง
หากราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่แข็งแกร่งดังกล่าวได้ มีแนวโน้มสูงที่จะปรับตัวลงต่อไปยังแนวรับที่ระดับ 3,275–3,280 ซึ่งอาจมีแรงซื้อเข้ามารองรับ แต่หากแนวรับนี้ถูกทะลุผ่าน แนวโน้มขาลงอาจขยายตัวลงสู่ระดับที่ต่ำกว่าประมาณ 3,260
ในด้านข่าวสาร ตลาดกำลังรอรายงานดัชนี CPI ของสหรัฐในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำ หากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าที่คาด อาจทำให้คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้น และกดดันราคาทองคำให้ลดลง ในทางกลับกัน หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ก็อาจช่วยสนับสนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้
ทองกำลังสะสมแรงเพื่อ... ร่วงใช่ไหม?จากการสังเกตกราฟ H1 ขณะนี้ XAUUSD อยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน โดยราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA 34 และ EMA 89 โดยเฉพาะหลังจากเกิดการตัดลงบริเวณราคาใกล้ $3,335 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนตัว และฝั่งขายกำลังได้เปรียบ ราคาขณะนี้อยู่ในช่วงสะสมแรง และมีโอกาสที่จะรีบาวด์กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ $3,335 ก่อนจะปรับตัวลงต่อไปยังแนวรับสำคัญที่ $3,285 – $3,295 และลึกกว่านั้นที่ $3,215 – $3,230
ในด้านข่าวสาร ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากความเป็นไปได้ที่ Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง หากข้อมูล CPI ที่จะประกาศออกมาร้อนแรงกว่าคาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงสูง และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มผ่อนคลาย ก็ทำให้ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ท่ามกลางบริบทนี้ กลยุทธ์ที่ควรพิจารณาคือรอให้ราคาดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน แล้วเปิดสถานะขาย โดยมีเป้าหมายที่แนวรับตามลำดับ ทั้งนี้หากราคาทะลุขึ้นไปเหนือ $3,360 อย่างชัดเจน แนวโน้มขาลงในระยะสั้นอาจถูกยกเลิก
ขอให้ทุกคนโชคดีในการเทรด!
ราคาทองยืนบวกจากความเสี่ยงโลก-ดอลลาร์อ่อนตัวราคาทองคำยืนเหนือกำไรในวันท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัว
ราคาทองคำกลับมาเป็นบวกหลังจากร่วงลงระหว่างวันไปที่บริเวณ 3,275-3,274 ดอลลาร์ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน การทวีความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และสถานการณ์ชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยกลับมาอีกครั้ง
ในเชิงเทคนิค การร่วงลงต่ำกว่าระดับแนวต้านซึ่งกลายเป็นแนวรับที่ 3,260 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา และการปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ชี้ให้เห็นถึงภาวะหมีในคู่ XAU/USD อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัด (oscillators) บนกราฟรายวัน แม้ว่าจะเริ่มสูญเสียแรงส่ง แต่ก็ยังไม่ได้ยืนยันถึงแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน สิ่งนี้จึงทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังก่อนที่จะวางตำแหน่งสำหรับการขาดทุนที่ลึกขึ้น และบ่งบอกว่าราคาทองคำอาจได้รับการสนับสนุนที่บริเวณแนวนอน 3,265-3,264 ดอลลาร์ แต่หากมีการขายต่อเนื่อง อาจเป็นการเปิดทางให้ราคาลดลงต่อไปยังแนวรับระหว่างกาลที่ 3,223-3,222 ดอลลาร์ ก่อนจะทดสอบระดับต่ำสุดรอบสัปดาห์ก่อนแถวบริเวณ 3,200 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน ระดับสูงสุดของเซสชั่นเอเชียแถวบริเวณ 3,324 ดอลลาร์ ตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญทันที การเคลื่อนไหวขึ้นต่อไปอาจดึงดูดผู้ขายและจำกัดราคาทองคำให้อยู่ใกล้แนวต้านคงที่ที่ 3,360-3,365 ดอลลาร์ การยืนเหนือระดับนี้อย่างมั่นคงควรเปิดทางให้คู่ XAU/USD กลับไปทดสอบระดับ 3,400 ดอลลาร์ และไต่ขึ้นไปยังแนวต้านสำคัญถัดไปที่บริเวณ 3,434-3,435 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดรอบสัปดาห์
ภาพรวมพื้นฐาน
การอ่อนตัวเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) หลังจากแตะระดับสูงสุดรอบเกือบหนึ่งเดือนเมื่อต้นวันศุกร์ กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์นี้
จากการดีดตัวขึ้นในระหว่างวัน คู่ XAU/USD ดูเหมือนจะยุติสถิติการขาดทุนติดต่อกันสองวัน แม้ว่าศักยภาพการขึ้นต่ออาจยังจำกัดอยู่ ความมองโลกในแง่ดีที่เกิดจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-อังกฤษ และการเริ่มต้นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในช่วงสุดสัปดาห์ยังคงช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน นอกจากนี้ ท่าที "หยุดพักแบบสายเหยี่ยว" ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจจำกัดการอ่อนค่าของ USD ในเชิงแก้ไข และจำกัดราคาทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทน
ราคาทองคำได้ประโยชน์จากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ฟื้นตัว และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงเล็กน้อย
ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ประกาศข้อตกลงการค้าทวิภาคีแบบจำกัดเมื่อวันพฤหัสบดี โดยคงอัตราภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหราชอาณาจักรเอาไว้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ฮาเวิร์ด ลัทนิค ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่ารัฐบาลสหรัฐจะประกาศข้อตกลงทางการค้าหลายสิบฉบับภายในเดือนหน้า แม้อัตราภาษี 10% ต่อประเทศส่วนใหญ่ยังคงอยู่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาลดภาษีต่อจีนลงเหลือ 50% จากเดิม 145% ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดและอาจจำกัดราคาคู่ XAU/USD รัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ และผู้แทนการค้าสหรัฐ เจมีสัน เกรียร์ มีกำหนดพบปะกับคู่เจรจาจีนในสวิตเซอร์แลนด์วันเสาร์นี้ เพื่อหารือเรื่องการค้าและเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางสหรัฐแสดงท่าทีเมื่อวันพุธว่าจะยังไม่เอนเอียงไปสู่การลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ แม้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถอยลงหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสี่สัปดาห์ในช่วงเซสชั่นเอเชียวันศุกร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อราคาทองคำ
รัสเซียและยูเครนต่างรายงานว่าถูกโจมตีต่อกองกำลังของตนในวันแรกของการหยุดยิงฝ่ายเดียวสามวันที่ประกาศโดยประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน และความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางทหารที่อาจขยายตัวตามแนวชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน ยังคงเพิ่มความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัจจัยเหล่านี้เป็นอีกแรงหนุนที่ผลักดันให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยสูงขึ้น
สมาชิกคณะกรรมการ FOMC ที่มีอิทธิพลหลายคนมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ นักลงทุนจะจับตาหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อความต้องการค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และส่งแรงผลักดันใหม่ให้กับสินค้าโภคภัณฑ์นี้ ซึ่งยังคงมีแนวโน้มที่จะปิดสัปดาห์ด้วยการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
แนวต้านใหม่แต่ไม่มั่นคง – XAUUSD กำลังจะร่วงลงหรือไม่?XAUUSD บนกรอบเวลา H4 กำลังแสดงสัญญาณการปรับตัวลดลงหลังจากแตะระดับแนวต้านสำคัญบริเวณ 3,434 ซึ่งมีการปฏิเสธราคาอย่างชัดเจนด้วยแท่งเทียนกลับตัวและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ร่วมกับโซน Fibonacci 0.5–0.618 ที่บริเวณ 3,328–3,303 และเส้น EMA 34, 89 ที่กำลังเกิดการตัดกันในระดับสำคัญ มีแนวโน้มสูงที่ราคาทองคำจะทะลุแนวรับนี้เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายถัดไปที่ระดับ 3,220
ในด้านปัจจัยพื้นฐาน คาดการณ์ว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ลดลง และข้อมูล NFP ที่อ่อนแอซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในระยะสั้น ดังนั้น กลยุทธ์ที่ควรให้ความสำคัญคือการขาย (short) หากราคาทะลุแนวรับ 3,303 และยืนยันรูปแบบการปรับฐานลง พร้อมกับติดตามพฤติกรรมราคาหากมีการดีดตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านอีกครั้ง.
ทองคำเบรกแนวต้านสำเร็จ! ถึงเวลาซื้อหรือยัง?ในกราฟ 4 ชั่วโมง ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างมั่นคงภายในกรอบขาขนาน โดยเคลื่อนไหวใกล้เส้น EMA 34 และ 89 อย่างต่อเนื่อง หลังจากทะลุแนวต้านบริเวณ 3,377 ได้สำเร็จ ราคามีแนวโน้มที่จะไปต่อยังเป้าหมายที่ 3,480–3,560 โครงสร้างทางเทคนิคสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น ด้วยเส้น EMA ที่ชันขึ้นและแท่งเทียนขาขึ้นที่แข็งแรง
กลยุทธ์ที่แนะนำ: รอซื้อเมื่อราคาย่อลงบริเวณแนวรับ 3,340–3,360 หรือซื้อเมื่อราคาทะลุ 3,480 พร้อมปริมาณการซื้อขายที่สนับสนุน
ข่าวที่หนุนราคา: การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ล้วนช่วยหนุนให้ทองคำมีความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
หมายเหตุ: หากราคาทะลุกรอบล่างหรือต่ำกว่าเส้น EMA 34 ควรพิจารณาทบทวนกลยุทธ์ใหม่
ทองคำพุ่งแรง! เป้าหมายถัดไป 3,500 ดอลลาร์?สวัสดีครับทุกคน! ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ 😊
วันนี้ราคาทองคำ (XAUUSD) พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งแตะระดับ 3,365 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 300 จุด เนื่องจากแรงซื้อกลับอย่างรุนแรงจากบริเวณแนวรับสำคัญ 3,227–3,291 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับโซน Fibonacci 0.5–0.618 และค่าเฉลี่ย EMA34 ถือเป็นแนวรับยุทธศาสตร์ที่ฝั่งซื้อปกป้องไว้ได้อย่างสวยงาม
📈 สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นวันนี้ คือความคาดหวังต่อรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ (NFP) ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ หากข้อมูลออกมาแย่ ก็มีโอกาสสูงที่เฟดจะถูกกดดันให้ลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงและเป็นผลบวกต่อทองคำ
ในมุมมองทางเทคนิค ทองคำกำลังกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นระยะยาว เป้าหมายถัดไปคือบริเวณ 3,500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นขอบบนของกรอบขาขึ้น
ตราบใดที่ราคายังอยู่เหนือ 3,240 ดอลลาร์ แนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง แต่ก็ต้องระวังแนวต้านบริเวณ 3,400 ดอลลาร์ไว้ให้ดี
แล้วคุณล่ะ? คิดว่าทองจะทำจุดสูงสุดใหม่ หรือจะมีการย่อตัวอีกรอบ? 💬
หมีครองตลาด: GBP/USD เผชิญแรงกดดันอีกครั้งในแนวโน้มขาลงสังเกตจากกราฟในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง GBP/USD ยังคงรักษาแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่องภายในช่องราคาขาลงที่ก่อตัวตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน การดีดกลับแต่ละครั้งถูกปฏิเสธที่ขอบบนของช่องราคา และเส้น EMA 34, 89 ก็ยังคงชี้ลง ยืนยันโครงสร้างขาลงอย่างชัดเจน
หลังจากราคาดีดขึ้นจากแนวรับ ก็ถูกขายทำกำไรและกลับตัวลดลงอีกครั้งเมื่อถึงแนวต้านทางเทคนิคบริเวณ 1.3300–1.3315 แสดงให้เห็นว่าแรงขายยังคงครองตลาด
ในเชิงพื้นฐาน เงินปอนด์ยังคงเผชิญแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความกังวลว่า ECB อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากท่าทีเข้มงวดของเฟด
ในบริบทนี้ กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมคือรอจังหวะขายที่บริเวณแนวต้านภายในช่องราคาขาลง หากมีสัญญาณยืนยัน โดยมีเป้าหมายให้ราคากลับไปทดสอบบริเวณ 1.3200 ซึ่งเป็นแนวรับล่างของช่องราคา และต้องบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวังหากราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปได้.
USD/JPY พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากช่วงสะสมราคาบนกราฟเวลา 1 ชั่วโมง USD/JPY ได้ทะลุออกจากช่วงการสะสมในลักษณะ Sideway และปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ก่อนจะย่อลงมายังบริเวณแนวรับรอบ 143.80–144.00 ขณะนี้ราคากำลังแสดงสัญญาณฟื้นตัว โดยโครงสร้างทางเทคนิคยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น ซึ่งได้รับแรงหนุนจากเส้น EMA 34 และ 89 ที่ชี้ขึ้นสอดคล้องกัน
สถานการณ์ที่คาดการณ์คือ ราคามีแนวโน้มจะย่อตัวลงทางเทคนิคอีกครั้งสู่แนวรับเพื่อสะสมแรงซื้อ ก่อนดีดตัวขึ้นสู่บริเวณแนวต้านที่ 145.80–146.20 โดยพื้นฐาน ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ขณะที่เงินเยนยังคงเผชิญแรงกดดันจากนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างมากของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)
ในบริบทนี้ กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมคือรอซื้อที่บริเวณแนวรับเมื่อมีสัญญาณยืนยัน โดยมีเป้าหมายที่บริเวณ 146.00 พร้อมกับจัดการความเสี่ยงหากแนวรับถูกทะลุ.
ราคาทองคำจะลดลงถึงระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หรือไม่?บนกราฟช่วงเวลา 4 ชั่วโมง XAU/USD กำลังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงอย่างมั่นคงภายในช่องราคาขาลงแบบขนาน โดยมีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ลดลงเรื่อยๆ เส้น EMA 34 และ 89 ชี้ลงอย่างชัดเจนและแยกตัวออกจากกัน ยืนยันว่าแรงกดดันขาลงยังคงครอบงำตลาด
ราคาถูกปฏิเสธซ้ำหลายครั้งที่เส้น EMA หรือขอบบนของช่องราคา แสดงให้เห็นว่าแรงขายยังคงมีอิทธิพลเหนือกว่า ขณะนี้ราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 3240–3260 และอาจมีการปรับฐานทางเทคนิคในช่วงนี้ต่อไป ก่อนจะปรับตัวลดลงสู่แนวรับบริเวณ 3160 ซึ่งเป็นขอบล่างของช่องราคา
ในบริบทนี้ กลยุทธ์ที่ควรให้ความสำคัญคือรอจังหวะขายเมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้านในช่องขาลง และติดตามข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนการเทรดให้เหมาะสม.
Sideway แคบก่อนข่าวใหญ่ Nonfarm สัปดาห์นี้XAUUSD กำลังอยู่ในช่วงสะสมตัวในกรอบ Sideway อย่างชัดเจนระหว่างระดับ 3,200 ถึง 3,360 โดยมีการถูกปฏิเสธซ้ำหลายครั้งที่ขอบบน และดีดกลับจากขอบล่าง ราคายังคงอยู่ต่ำกว่า EMA34 และ EMA89 ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงในระยะกลางยังคงมีผลอยู่ ท่ามกลางบริบทที่เฟดยังคงยืนยันนโยบาย “ดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน” ควบคู่กับค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ฟื้นตัว ทองคำอาจเผชิญแรงขายหากไม่สามารถทะลุแนวต้านได้
กลยุทธ์ที่ควรพิจารณาคือรอขายบริเวณ 3,350–3,360 โดยมีเป้าหมายที่ 3,200 และหากหลุดแนวรับนี้ อาจต่อเนื่องลงสู่ 3,120 ควรจับตาข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm) ในวันที่ 3 พฤษภาคม เนื่องจากอาจเป็นตัวเร่งให้ราคาหลุดกรอบสะสมในปัจจุบันได้
ทองคำ วิเคราะห์ระยะสั้นราคาทองพุ่งไปถึง 3500 จากนั้นก็เริ่มร่วงลง ระดับต่ำในปัจจุบันชั่วคราวอยู่ที่ 3,260 วงจรเส้นรายวันได้ทดสอบแล้วเป็นเวลาสามวันทำการแต่ไม่สามารถทะลุลงไปต่ำกว่านั้นได้ รูปแบบคือมีช่วงความผันผวนที่กว้างและเห็นได้ชัดมาก โปรดทราบว่าแนวโน้มนี้ไม่มีความต่อเนื่องและเกิดขึ้นเพียงไปมาเท่านั้น
เส้นราคาทองคำรายวันคงตัวอยู่ในช่วงผันผวนกว้างเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน กราฟระยะสั้นสี่ชั่วโมงและกราฟรายชั่วโมงนั้นติดกัน โดย RSI จะหยุดและรักษาแกนกลางเอาไว้ และ Bollinger Bands ก็ค่อยๆ ปิดตัวลง ส่งผลให้เกิดการแกว่งตัวของช่วงกล่องที่ระดับ 3,265/3,385 แนวคิดในการซื้อขายคือการเข้าร่วมในการซื้อขายระยะสั้นในระดับสูงและระดับต่ำ
ราคาทองคำยังคงผันผวน และจะมีข้อมูลมากมายในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ ทองคำน่าจะต้องรอข้อมูลมาทำลายสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้ มันจะรักษาแนวโน้มผันผวนก่อนข้อมูล ทองคำน่าจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นในเซสชั่นเอเชีย แต่จะถูกบล็อก และการรีบาวด์ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน ข้อมูล ADP ในวันนี้ยังเป็นโหนดสำคัญสำหรับตำแหน่งซื้อและขายทองคำอีกด้วย เมื่อทองเลือกทิศทางแล้ว มันจะต้องตามไป
ราคาทองยังคงผันผวนในกราฟ 1 ชั่วโมง และความแปรผันของราคาเริ่มแคบลง ซึ่งหมายความว่าราคาทองกำลังใกล้ถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดมากขึ้น ดูเหมือนว่าราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาลง ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดอีกครั้งที่ประมาณ 3,328 จุดในเซสชั่นเอเชีย จากนั้นก็ลดลงภายใต้แรงกดดัน ตามข้อมูล ADP เมื่อคืนนี้ หากราคาทองคำทะลุช่วงผันผวนในวันนี้ เราจะติดตามแนวโน้มในขณะนั้น
จุดสำคัญ:
แนวรับแรก: 3300, แนวรับที่สอง: 3275, แนวรับที่สาม: 3260
แนวต้านแรก: 3340, แนวต้านที่สอง: 3355, แนวต้านที่สาม: 3373
ไอเดียการดำเนินการ:
ซื้อ: 3298-3305, SL: 3290, TP: 3325-3335;
ขาย: 3350-3355, SL: 3364, TP: 3330-3320;
หากต้องการแบ่งปันฟรีเพิ่มเติม โปรดคลิกที่อวาตาร์ของฉันเพื่อดู
ราคาทองคำอ่อนตัวจากแรงกดดันดอลลาร์และข้อตกลงการค้าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเชิงลบ ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกและความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐที่ฟื้นตัว
ราคาทองคำยังคงถูกกดดันอย่างหนักในช่วงต้นของตลาดยุโรป แม้จะสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 3,300 ดอลลาร์ได้ ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ผสมผสานกัน สัญญาณของการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังคงผลักดันกระแสเงินออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม และส่งผลกระทบต่อความต้องการโลหะมีค่า
ภาพรวมทางเทคนิคของ XAU/USD
ความอ่อนแอที่ต่ำกว่าบริเวณ 3,300-3,290 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับฟีโบนัชชีรีเทรซเมนต์ 38.2% ของขาขึ้นล่าสุดจากบริเวณกลาง 2,900 ดอลลาร์ หรือจุดต่ำสุดของเดือน อาจยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอบริเวณแนวนอน 3,265-3,260 ดอลลาร์ การหลุดระดับดังกล่าวอย่างชัดเจน จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณกระตุ้นใหม่สำหรับนักลงทุนสายขาลง และเปิดทางให้มีการปรับฐานต่อจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การลดลงต่อไปอาจพาราคาทองคำลงสู่ระดับรีเทรซเมนต์ 50% บริเวณ 3,225 ดอลลาร์ และอาจไปถึงระดับ 3,200 ดอลลาร์ได้
ในทางกลับกัน บริเวณ 3,348-3,353 ดอลลาร์ ดูเหมือนจะกลายเป็นแนวต้านระยะสั้นในขณะนี้ ตามมาด้วยโซนแนวต้านที่ 3,366-3,368 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถฝ่าไปได้อย่างเด็ดขาด จะเปิดทางให้ราคาทองคำกลับไปยืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ และอาจต่อเนื่องไปถึงแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 3,425-3,427 ดอลลาร์ ก่อนที่นักลงทุนสายขาขึ้นจะพยายามทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 3,500 ดอลลาร์อีกครั้ง
ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ความแข็งแกร่งในระดับปานกลางของเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังดำเนินอยู่ ยังคงทำให้นักลงทุนระมัดระวัง และจำกัดความเชื่อมั่นในตลาด นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างจริงจังมากขึ้น ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อเงินดอลลาร์ และช่วยจำกัดการปรับตัวลงของราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน (non-yielding) นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลตำแหน่งงานว่าง JOLTS ของสหรัฐเพื่อหาทิศทางเพิ่มเติม
ราคาทองคำยังซบเซาเมื่อความหวังในข้อตกลงการค้าทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนตัว
การที่จีนประกาศยกเว้นภาษีตอบโต้บางรายการสำหรับสินค้าสหรัฐ สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐหลายรายได้เสนอข้อเสนอทางภาษีที่ “ดีมาก”
สัญญาณของความคืบหน้าในการเจรจาการค้าช่วยสนับสนุนบรรยากาศการลงทุนที่สดใส ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง และดึงเงินทุนออกจากราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระวังตัวจากสัญญาณที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่จริงแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเจรจาการค้ากับจีนยังดำเนินอยู่ แต่จีนกลับปฏิเสธว่ากำลังมีการเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับภาษี
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะกลับมาเริ่มรอบการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ข้อมูลตลาดในปัจจุบันยังบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลงอาจช่วยให้โลหะสีเหลืองซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนสามารถรักษาระดับราคาพื้นฐานในระยะสั้นได้
ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเป็นเวลา 72 ชั่วโมงในความขัดแย้งยูเครน เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม แม้ว่าประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี จะปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวดังกล่าว นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของเกาหลีเหนือในสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงรักษาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ไว้อย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนขณะนี้รอคอยการเปิดเผยข้อมูลตำแหน่งงานว่าง JOLTS ของสหรัฐในวันอังคารนี้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐในวันพุธ และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ในวันศุกร์ ซึ่งทั้งหมดอาจให้ภาพใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มของนโยบายการเงินของ Fed
XAUUSD – ใกล้ทะลุหรือยัง?ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง (1H) XAUUSD เคลื่อนไหวในแนวราบอย่างชัดเจนภายในช่วง 3,250–3,370 โดยมีบริเวณแนวรับ/แนวต้านที่มีการตอบสนองของราคาหลายครั้งอย่างรุนแรง ค่าเฉลี่ย EMA34 ยังคงมีแนวโน้มลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันขาลงยังคงมีอยู่ ข้อมูล Core PCE ของสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สนับสนุนความเป็นไปได้ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำ เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์ที่เหมาะสมในขณะนี้คือเน้นการซื้อขายตามแนวรับแนวต้าน: ขายบริเวณ 3,360–3,370 หากมีสัญญาณกลับตัว และซื้อบริเวณ 3,250–3,260 เมื่อมีการยืนยันการฟื้นตัว หากราคาทะลุขอบเขตใดขอบเขตหนึ่งอย่างชัดเจน นักลงทุนควรปรับตัวอย่างรวดเร็วตามแนวโน้มใหม่
XAUUSD กำลังส่งสัญญาณคลื่นลูกใหญ่XAUUSD ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใต้เส้นแนวโน้มขาลงที่เห็นได้ชัด โดยความพยายามในการปรับตัวขึ้นถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าใกล้บริเวณแนวต้านแบบไดนามิก ล่าสุด ราคากลับตัวลดลงหลังจากทดสอบเส้นแนวโน้มดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าฝ่ายขายยังคงครองความได้เปรียบในตลาด
หากราคายังคงอยู่ต่ำกว่าแนวต้านปัจจุบัน มีความเป็นไปได้สูงที่ XAUUSD จะยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงต่อไป มุ่งหน้าไปยังบริเวณแนวรับที่ลึกกว่าประมาณโซน 3,200 ซึ่งเป็นจุดที่มีสภาพคล่องสูง ในทางกลับกัน หากราคาสามารถทะลุเส้นแนวโน้มขาลงพร้อมสัญญาณการซื้อที่แข็งแกร่ง อาจเกิดภาพการกลับตัวในระยะสั้น
เทรดเดอร์ควรจับตาดูการตอบสนองของราคาบริเวณเส้นแนวโน้มอย่างใกล้ชิด พร้อมพิจารณาสัญญาณยืนยันเพิ่มเติม เช่น รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว หรือการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนตัดสินใจเข้าซื้อขายอย่างปลอดภัย
อารมณ์ขาขึ้นของทองคำเริ่มเย็นลงจากระดับรายวัน ทองคำถูกเทขายทำกำไรเมื่อราคาพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3,500 และราคาได้ถอยลงมาที่ระดับ 3,260 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดเกี่ยวกับภาษี ตลาดจึงเกิดการรวมตัวในวงกว้าง จากมุมมองทางเทคนิคแล้ว กลุ่มขาขึ้นจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหากตลาดทะลุและทรงตัวที่ 3,385 จุด ขณะที่การทะลุต่ำกว่า 3,260 จุดจะทำให้พื้นที่ปรับตัวขยายออกไปอีก!
จากมุมมองของทองคำในระดับ 4 ชั่วโมง หลังจากร่วงลงอย่างรวดเร็วจาก 3,500 สู่ 3,260 ดอลลาร์สหรัฐ ตลาดในปัจจุบันอยู่ภายใต้แรงกดดันและผันผวนต่ำกว่าเส้นกลาง โดยมีช่วงอยู่ที่ 3,370-3,260 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้ Bollinger Bands ยังคงปิดต่อไป และตลาดระยะสั้นยังคงรักษาการรวมตัวเป็นช่วง ๆ จนกว่า Bollinger Bands จะขยายตัวอีกครั้งและเลือกทิศทางใหม่ ก่อนที่จะถึงช่วงราคา คุณสามารถขายในราคาสูงและซื้อในราคาต่ำ โดยการขายในระดับสูงเป็นลำดับความสำคัญ หลังจากการทะลุแนวรับแล้ว เลือกที่จะซื้อขายตามแนวโน้ม
ราคาทองคำร่วงลง 70 ดอลลาร์จากจุดสูงสุดในช่วงซื้อขายเอเชีย เมื่อพิจารณาจากความรู้สึกของตลาด นักลงทุนมีอารมณ์ผสมปนเปกัน โดยบางส่วนขายทำกำไร ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงหลังจากเปิดตลาดในระดับสูง หากมองในระยะสั้น ความแข็งแกร่งของกระทิงทองคำไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แม้ว่าราคาทองจะเปิดในระดับสูงในวันจันทร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงสุดสัปดาห์ ในระยะสั้น ทองคำยังคงถูกครอบงำโดยผู้ขายชอร์ต ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ซื้อทองคำไม่มั่นใจมากนักในขณะนี้ ในระยะสั้น ทองคำยังคงถูกครอบงำโดยแนวโน้มขาลง
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 1 ชั่วโมงของทองคำยังคงอยู่ในตำแหน่งขายแบบตัดขวาง อย่างไรก็ตาม หากราคาทองไม่ตกเป็นเวลานาน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 1 ชั่วโมงของทองคำอาจเริ่มพลิกเป็นขาขึ้น และโมเมนตัมขาลงของราคาทองขาลงจะลดลง ทองคำเริ่มร่วงภายใต้แรงกดดันหลังแตะระดับ 3,336 ในเซสชั่นเอเชีย ดังนั้นทองคำจะยังคงเผชิญกับจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า 3,336 ในระหว่างวัน หากสามารถทะลุ 3,336 ได้อย่างแข็งแกร่ง ทองคำก็อาจเริ่มปรับตัวขึ้นในระยะสั้น จากนั้นเราจะปรับความคิดกันใหม่
จุดสำคัญ:
แนวรับแรก: 3274, แนวรับที่สอง: 3260, แนวรับที่สาม: 3243
แนวต้านแรก: 3325, แนวต้านที่สอง: 3336, แนวต้านที่สาม: 3358
ไอเดียการดำเนินการ:
ซื้อ: 3260-3263, SL: 3252, TP: 3280-3290;
ขาย: 3330-3333, SL: 3342, TP: 3310-3300;
หากต้องการแชร์รายวันเพิ่มเติม โปรดคลิกที่โปรไฟล์ของฉันเพื่อดู
ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยแรงขาย🟡 ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยแรงขาย – ความตึงเครียดอินเดีย-ปากีสถานจะผลักดันทองคำทำ New High หรือไม่? 📈
📊 บทวิเคราะห์ตลาดล่าสุด
ราคาทองคำเปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการปรับตัวลดลง ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากมีข่าวการปะทะกันระหว่างอินเดียและปากีสถาน ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อภาวะเสี่ยงทั่วโลก
ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ราคาทองคำได้ลงมาทำ Liquidity Grab บริเวณโซน FVG ด้านล่าง และเริ่มแสดงสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง
🔍 ทำไมนักลงทุนจึงตอบสนองเช่นนี้?
แม้หลายฝ่ายคาดหวังว่าทองคำจะทะยานขึ้นต่อเนื่อง แต่แรงขายทำกำไรหลังจากการพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้เกิดการย่อสั้น ๆ
ข้อมูลเชิงเทคนิคยังชี้ว่าทองคำอยู่ในภาวะ Overbought ซึ่งอาจจำกัดแรงซื้อเพิ่มเติมในระยะสั้น
📈 ทองคำวันนี้: ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก
ในช่วงเช้าวันนี้ ทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความตึงเครียดทางทหาร
คำถามใหญ่ที่ตลาดกำลังจับตาคือ:
ความขัดแย้งนี้จะขยายตัวจนดันทองคำทำจุดสูงสุดใหม่หรือไม่?
หรือเป็นเพียงความขัดแย้งชั่วคราวที่จะคลี่คลายลงในเร็ว ๆ นี้?
ณ ตอนนี้ ราคาทองคำยังยืนใกล้ระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ แต่การซื้อต่อเนื่องอาจถูกชะลอ หากยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ที่ชัดเจน
🌍 ปัจจัยเศรษฐกิจที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้
นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชุดใหญ่:
การจ้างงานภาคเอกชน (ADP)
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP)
รวมถึงตัวเลขสำคัญอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาด
⏳ แนวโน้มในช่วงต้นสัปดาห์: ทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways เล็กน้อย ก่อนที่จะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจถูกเปิดเผย
🔑 ระดับราคาสำคัญวันนี้
แนวรับ (Support): 3290 – 3260 – 3246 – 3230 – 3215
แนวต้าน (Resistance): 3325 – 3368 – 3402 – 3428
🎯 กลยุทธ์การเทรดแนะนำ
BUY ZONE: 3260 – 3258
จุดตัดขาดทุน (SL): 3254
เป้าหมายทำกำไร (TP): 3264 → 3268 → 3272 → 3276 → 3280
SELL ZONE: 3400 – 3402
จุดตัดขาดทุน (SL): 3407
เป้าหมายทำกำไร (TP): 3396 → 3392 → 3388 → 3384 → 3380 → 3370
⚠️ ข้อควรระวังสำหรับวันนี้
แม้จะไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ แต่ตลาดยังคงอ่อนไหวอย่างมากต่อข่าวสารภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะสถานการณ์ความขัดแย้งอินเดีย-ปากีสถาน
❗ ขอแนะนำให้นักเทรดควบคุมความเสี่ยงอย่างเข้มงวด และยึดตามแผนการเทรด (TP/SL) เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนที่รุนแรง
💬 ขอให้โชคดีในการเทรดครับ!
อย่าลืมคอมเมนต์แชร์มุมมองของคุณไว้ใต้โพสต์นี้ด้วยนะครับ 👇
USD/JPY พุ่งแรงอย่างต่อเนื่องหลังจากความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก คู่เงิน USD/JPY ขณะนี้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากช่องทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนบนกราฟ โดยมีระดับแนวรับที่ 142.730 และแนวต้านที่ 143.850 ตัวชี้วัดทางเทคนิค โดยเฉพาะการตัดกันของ EMA 34 และ EMA 89 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และราคามีโอกาสที่จะยังคงเพิ่มขึ้นหากรักษาระดับเหนือแนวรับและทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้
ข่าวสารจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) จะมีผลกระทบอย่างมากต่อราคา USD/JPY โดยเฉพาะหาก Fed ยังคงเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือ BoJ รักษานโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย หากแนวต้านที่ 143.850 ถูกทำลาย USD/JPY อาจเดินหน้าต่อไปถึง 144.500 แต่หากแนวรับที่ 142.730 ถูกทำลาย ราคาสามารถปรับตัวลงไปที่ระดับต่ำกว่าได้
นักลงทุนควรติดตามสัญญาณทางเทคนิคและข่าวสารทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม