ราคาทองคำเตรียมทะยาน – EMA พุ่งทะลุ, เฟดเติมเชื้อไฟ!XAU/USD กำลังอยู่ในช่วงสะสมตัวเล็กน้อยหลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง โดยปัจจุบันมีการซื้อขายอยู่บริเวณระดับ 3,220 บนกรอบเวลา H4 จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวโน้มขาขึ้นยังคงได้เปรียบอย่างชัดเจน เนื่องจากราคายังคงยืนอยู่เหนือเส้น EMA34 ซึ่งอยู่เหนือ EMA89 ยืนยันว่าโมเมนตัมขาขึ้นยังคงแข็งแกร่งมาก
ในด้านปัจจัยพื้นฐาน ราคาทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่ ข้อมูล CPI และ PPI ล่าสุดของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง และเพิ่มความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง ยังเป็นปัจจัยที่หนุนให้ทองคำมีความต้องการในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ปัจจัยเหล่านี้ยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของทองคำในระยะกลาง หากราคายังสามารถยืนเหนือระดับแนวรับที่ 3,165 ดอลลาร์ได้ มีความเป็นไปได้ที่ทองคำจะทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในสัปดาห์นี้
หากคุณชอบบทวิเคราะห์นี้ อย่าลืมกดไลค์และเข้าร่วมกลุ่มของเราเพื่ออัปเดตแนวโน้มทุกวัน!
M-forex
ยูโรพุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่า**การคาดการณ์ค่าเงิน EUR/USD: ยูโรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐ**
EUR/USD ซื้อขายที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 โดยทะลุระดับ 1.1400
การเทขายดอลลาร์สหรัฐทวีความรุนแรงขึ้น หลังจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้
แนวโน้มทางเทคนิคในระยะสั้นชี้ไปที่ภาวะซื้อมากเกินไป
EUR/USD ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี และขยายตัวต่อเนื่องในวันศุกร์ ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบหลายปีเหนือระดับ 1.1400 แม้ว่ามุมมองทางเทคนิคในระยะสั้นจะชี้ว่าคู่สกุลเงินนี้อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป แต่นักลงทุนก็มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงดอลลาร์สหรัฐ (USD) ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกขายอย่างหนักในวันพฤหัสบดี
ในวันศุกร์ กระทรวงการคลังของจีนได้ประกาศว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จากเดิม 84% เป็น 125% มีผลตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน เพื่อเป็นการตอบโต้การเก็บภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีน
พัฒนาการนี้ทำให้การเทขายดอลลาร์สหรัฐรุนแรงยิ่งขึ้น และกระตุ้นให้ EUR/USD ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงการซื้อขายของยุโรป
ปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีการเผยแพร่ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index) ประจำเดือนมีนาคม และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเผยแพร่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนอาจเพิกเฉยต่อข้อมูลเหล่านี้และยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอย่างใกล้ชิด
หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติม การเทขายดอลลาร์สหรัฐอาจยังคงดำเนินต่อไปในช่วงสุดสัปดาห์ ในทางกลับกัน ดอลลาร์สหรัฐอาจฟื้นตัวได้หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอยหลังเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด
ตัวบ่งชี้ Relative Strength Index (RSI) บนกราฟ 4 ชั่วโมง พุ่งขึ้นเหนือระดับ 80 บ่งชี้ว่าคู่สกุลเงินอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป
ในด้านการปรับตัวขึ้น แนวต้านถัดไปอาจอยู่ที่ระดับ 1.1500 (ระดับกลม) ก่อนถึงระดับ 1.1535 (แนวต้านคงที่จากเดือนพฤศจิกายน 2021) และ 1.1600 (แนวต้านคงที่, ระดับกลม) ส่วนในด้านการปรับตัวลง แนวรับอาจพบที่ระดับ 1.1300 (แนวรับคงที่, ระดับกลม) และ 1.1200 (แนวรับคงที่, ระดับกลม)
ทองคำพุ่งแรงจากสงครามการค้าและเงินเฟ้อหนุนแรงซื้อ**ราคาทองคำพุ่งแรง ท่ามกลางความกังวลด้านสงครามการค้าและเงินเฟ้อ ดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งสูงขึ้น**
📈 ราคาทองคำเริ่มกลับมามีแรงส่งขาขึ้นอีกครั้ง นักลงทุนกำลังตอบสนองต่อความไม่แน่นอนในเวทีการค้าระหว่างประเทศ และความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ เสน่ห์ของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยิ่งเพิ่มขึ้น จากความกังวลใหม่ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ซึ่งยิ่งช่วยหนุนราคาทองคำ (XAU/USD) ให้ปรับตัวขึ้น 📉✨ รูปแบบทางเทคนิคล่าสุดก็ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน บ่งชี้ว่าอาจมีโอกาสปรับขึ้นต่อในระยะถัดไป
---
### 📊 ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยดันทองพุ่ง หลังสงครามภาษีสหรัฐฯ-จีนยกระดับ
ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เสริมแรงจากโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา 📈 การปรับตัวขึ้นในรอบนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความกลัวของตลาดต่อภาวะเงินเฟ้อ 🏛️ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ตลาดประหลาดใจด้วยการเลื่อนการเก็บภาษีใหม่กับประเทศส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน แต่กลับเพิ่มภาษีสินค้าจีนอย่างมาก หลังจากจีนตอบโต้กลับทันที 🇺🇸🇨🇳 การยกระดับอย่างรุนแรงนี้ยิ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจลุกลามกลายเป็นสงครามการค้าฉบับเต็มระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
นักลงทุนกังวลว่าความขัดแย้งทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และดันราคาสินค้าทั่วโลกให้สูงขึ้น 📦 ความกลัวเช่นนี้มักจะทำให้เงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ แม้ว่าตลาดหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ทองคำยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง แสดงให้เห็นว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและความเสี่ยงด้านการค้ายังคงเป็นประเด็นหลักที่ครอบงำจิตวิทยานักลงทุนอยู่ในขณะนี้
---
### 🏦 จุดยืนล่าสุดของเฟดส่งผลต่อตลาดทองคำ
ท่าทีล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก็มีผลอย่างมากต่อราคาทองคำเช่นกัน หลังจากรายงานการประชุม FOMC แสดงถึงความระมัดระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ 📝 นักเทรดจึงลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุกลง เจ้าหน้าที่เฟดเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อมีแรงกดดันด้านราคาจากภาษีที่กำลังเข้ามา 🎯 เจ้าหน้าที่อย่าง บาร์คิน และ มูซาเล็ม เตือนว่า ราคาที่สูงขึ้นอาจดำรงอยู่ต่อเนื่อง และทำให้เฟดต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ตลาดตอนนี้คาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ 📆 แต่ความไม่แน่นอนทั้งด้านเวลาและขอบเขตของการลดดอกเบี้ย ยังคงกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้ปรับอ่อนลง ซึ่งถือเป็นผลบวกโดยตรงต่อทองคำ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนจะทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือทองคำ (ซึ่งไม่ให้ผลตอบแทน) ลดลงอย่างชัดเจน 💰
---
### 🔍 วิเคราะห์ทางเทคนิค: สัญญาณกลับตัวขาขึ้นและแนวรับสำคัญ
กราฟ 3 ชั่วโมงของทองคำแสดงสัญญาณกลับตัวขาขึ้นที่น่าสนใจ 📈 บริเวณแนวรับสำคัญใกล้ช่วง $2,970–$2,980 ได้แสดงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน กราฟเผยให้เห็นจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสามจุด (Higher Lows) ซึ่งเป็นรูปแบบ "Inverse Head and Shoulders" แบบคลาสสิก 🧠 ซึ่งมักเป็นสัญญาณของการกลับตัวขาขึ้น
หลังจากราคาร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ ทองคำดีดตัวกลับขึ้นมาทันทีที่แนวรับนี้ และกราฟระบุจุดนี้เป็น “โซนซื้อ” 📍 การดีดตัวเกิดขึ้นในขณะที่ราคากลับมาทดสอบเส้นคอ (neckline) ของรูปแบบกลับตัวนี้พอดี การบรรจบกันของปัจจัยทางเทคนิคหลายประการนี้ยิ่งตอกย้ำว่าแนวรับดังกล่าวเป็นเขตความต้องการที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
หลังจากการดีดกลับ ทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง และกำลังซื้อขายอยู่เหนือระดับ $3,120 🚀 การทะลุแนวต้านก่อนหน้าขึ้นไป ยืนยันโมเมนตัมขาขึ้นรอบใหม่ นักเทรดระยะสั้นอาจมองว่านี่คือสัญญาณยืนยันการกลับตัวของเทรนด์ และตราบใดที่ราคายังคงอยู่เหนือเส้นคอ ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นไปถึง $3,150 หรือแม้แต่ $3,200 ในระยะสั้นได้
รูปแบบนี้ยังแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวแบบตัว V (V-shaped recovery) และการที่ไม่มีแรงขายต่อเนื่องหลังจากการร่วงล่าสุดเลย นักซื้อเข้ามาแสดงพลังอย่างชัดเจน บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในทิศทางขาขึ้น 💪
---
### ✅ สรุป
การพุ่งขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้มีแรงหนุนทั้งจากปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค 🧩 ความกังวลเรื่องสงครามการค้า การคาดการณ์เงินเฟ้อ และท่าทีที่ผ่อนคลายของเฟด ล้วนดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยให้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำก็แสดงรูปแบบกลับตัวจากแนวรับสำคัญอย่าง textbook ✍️ ตราบใดที่ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินยังคงอยู่ ทองคำก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจต่อไป 📊 รูปแบบกราฟที่แข็งแกร่งยิ่งสนับสนุนความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นต่อ ทำให้ทองคำโดดเด่นในสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจปัจจุบัน
---
📌 **#ทองคำ #วิเคราะห์ทองคำ #สงครามการค้า #เงินเฟ้อ #เฟด #ราคาทอง #ลงทุนปลอดภัย #XAUUSD #ทองวันนี้**
เยนแข็งค่าจ่อจุดสูงสุดของปี หลังตลาดกังวลภาษีสหรัฐฯ**เงินเยนญี่ปุ่นทรงตัวใกล้จุดสูงสุดของปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความตื่นตระหนกทั่วโลกจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ**
เงินเยนญี่ปุ่นยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั่วโลก อันเป็นผลมาจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
ความหวังในข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นช่วยหนุนค่าเงินเยน ท่ามกลางแรงขายอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐ
ความคาดหวังที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สนับสนุนแนวโน้มการอ่อนค่าของ USD/JPY เพิ่มขึ้น
เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ยังคงรักษาการแข็งค่าระหว่างวันอย่างแข็งแกร่งก่อนเข้าสู่ช่วงการซื้อขายของยุโรปในวันพฤหัสบดี และขณะนี้มีมูลค่าใกล้จุดสูงสุดของปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยทั่วโลกยังคงกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งเห็นได้จากดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกที่ร่วงลงเป็นวงกว้าง ส่งผลให้เงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติม นอกจากนี้ การคาดการณ์ว่า BoJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปี 2025 ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น รวมถึงความหวังในข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนค่าเงินเยนต่อไป
ในขณะเดียวกัน ความคาดหวังเชิงรุกต่อ BoJ ถือเป็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับความเชื่อที่ว่า Fed อาจกลับมาเข้าสู่วงจรการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจชะลอตัวจากผลกระทบของภาษี สิ่งนี้จะส่งผลให้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นแคบลงอีก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนหันไปถือครองเงินเยนซึ่งให้ผลตอบแทนต่ำ นอกจากนี้ แรงขายต่อเนื่องในดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงกดดันคู่เงิน USD/JPY ให้อยู่ต่ำกว่าระดับ 145.00 โดยนักเทรดต่างรอคอยบันทึกการประชุม FOMC เพื่อหาจังหวะการลงทุนที่มีนัยสำคัญ
---
**กระทิงเยนญี่ปุ่นยังครองตลาด ท่ามกลางความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยและทิศทางนโยบายที่ต่างกันของ BoJ-Fed**
ความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าการเรียกเก็บภาษีแบบกวาดล้างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และอาจรวมถึงเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ ได้ก่อให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดัชนี S&P 500 ร่วงหนักที่สุดในรอบสี่วัน นับตั้งแต่ทศวรรษ 1950 หลังจากที่ทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ครั้งใหญ่ในวันพุธที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่น และทรัมป์ เห็นพ้องกันที่จะเปิดช่องทางการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาภาษีที่เร่งด่วน นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เรามีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับญี่ปุ่น และเราจะรักษามันไว้ให้เป็นเช่นนั้น” ข้อความดังกล่าวสร้างความหวังในข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนค่าเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
กระทรวงการคลังญี่ปุ่น สำนักงานบริการทางการเงิน และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีกำหนดประชุมเวลา 07:00 GMT เพื่อหารือเกี่ยวกับตลาดการเงินระหว่างประเทศ
นักลงทุนลดความคาดหวังว่า BoJ จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดจากนโยบายภาษีของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าการ BoJ นายชินอิจิ อุจิดะ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากมีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะบรรลุเป้าหมายที่ 2%
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนดูเหมือนจะเชื่อมั่นมากขึ้นว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากผลของภาษีจะกดดันให้ Fed กลับมาเริ่มวงจรการลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ตลาดในขณะนี้กำหนดความน่าจะเป็นมากกว่า 60% ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนพฤษภาคม
นอกจากนี้ Fed ยังถูกคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ยถึง 5 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ แม้จะมีความคาดหวังว่าภาษีของทรัมป์จะกระตุ้นเงินเฟ้อก็ตาม ซึ่งปัจจัยนี้ยิ่งกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นวันที่สองติดต่อกัน และทำให้คู่ USD/JPY เคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ที่แตะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นักเทรดต่างเฝ้ารอบันทึกการประชุม FOMC ซึ่งจะเปิดเผยในช่วงค่ำวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันศุกร์ ที่อาจให้เบาะแสเกี่ยวกับทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งจะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์และคู่ USD/JPY
คู่ USD/JPY ยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงต่อไป โดยระดับต่ำสุดของปีที่บริเวณ 144.55 ถือเป็นแนวรับสุดท้ายของฝั่งกระทิง
---
**มุมมองทางเทคนิค:**
จากมุมมองทางเทคนิค ความล้มเหลวในการยืนเหนือระดับ 148.00 ได้ในสัปดาห์นี้ ตามด้วยการร่วงลงอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณเอื้อต่อฝั่งขาย นอกจากนี้ เครื่องมือวัดโมเมนตัม (oscillators) บนกราฟรายวันยังคงอยู่ในแดนลบลึก และยังไม่เข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป (oversold) บ่งชี้ว่าทิศทางที่มีแนวโน้มสูงกว่าสำหรับคู่ USD/JPY ยังอยู่ในฝั่งขาลง
หากราคาหลุดต่ำกว่าระดับต่ำสุดของปีที่บริเวณ 144.55 ซึ่งแตะไปเมื่อวันจันทร์ จะยืนยันมุมมองเชิงลบและเปิดทางให้ร่วงต่อไปถึงแนว 144.00
ในทางกลับกัน ระดับ 146.00 ดูเหมือนจะเป็นแนวต้านสำคัญของการรีบาวด์ระยะสั้น หากผ่านได้ แนวถัดไปอยู่ที่จุดสูงสุดของช่วงเอเชียบริเวณ 146.35 และหากทะลุขึ้นไปอาจเกิดแรงปิดสถานะขาย (short-covering) ดันราคาไปยังแนว 147.00 และต่อไปที่บริเวณ 147.40-147.45
หากราคาขึ้นต่อได้เหนือบริเวณดังกล่าว อาจเป็นการเปลี่ยนมุมมองในระยะสั้นให้กลับมาเป็นขาขึ้น และเปิดทางให้ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางบวกอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง
EUR/USD ร่วงใกล้ 1.0800 ก่อนเงินเฟ้อเยอรมนีเผยวันนี้ EUR/USD กลับตัวลดลงใกล้ระดับ 1.0800 ก่อนตัวเลขเงินเฟ้อเยอรมนีจะประกาศ
คู่เงิน EUR/USD เผชิญแรงขายระลอกใหม่และซื้อขายใกล้ระดับ 1.0800 ในช่วงการซื้อขายยุโรปวันจันทร์ โดยคู่เงินนี้ได้รับแรงกดดันจากการฟื้นตัวเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ผู้ซื้อยูโรยังคงระมัดระวังก่อนตัวเลขเงินเฟ้อเบื้องต้นของเยอรมนี และการประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์
---
### ภาพรวมทางเทคนิคของ EUR/USD
ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟ 4 ชั่วโมงปรับตัวขึ้นสู่ระดับใกล้ 60 ในช่วงเช้าวันจันทร์ บ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวก นอกจากนี้ EUR/USD ยังเคลื่อนตัวออกห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (200-day SMA) หลังจากทดสอบแนวรับบริเวณนี้สองครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในฝั่งขาขึ้น ระดับแนวต้านแรกอยู่ที่ 1.0850 (ระดับแนวต้านคงที่ และเส้นค่าเฉลี่ย 100 ช่วงเวลา) ก่อนจะถึงระดับ 1.0900 (ระดับแนวต้านคงที่ และระดับตัวเลขกลม) และ 1.0950 (แนวต้านคงที่)
ในฝั่งขาลง แนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1.0830 (เส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน) ก่อนจะถึง 1.0800 (ระดับแนวรับคงที่ และระดับตัวเลขกลม) และ 1.0730 (เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน)
---
### ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
แรงขายที่รายล้อมค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ช่วยให้คู่เงิน EUR/USD สามารถประคองตัวได้ในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนเริ่มกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายภาษีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ
---
### การคาดการณ์พิเศษรายสัปดาห์
สนใจการคาดการณ์รายสัปดาห์ของ EUR/USD หรือไม่? ผู้เชี่ยวชาญของเราจะอัปเดตทุกสัปดาห์โดยคาดการณ์ทิศทางต่อไปของคู่เงินยูโร-ดอลลาร์ ที่นี่คุณจะพบกับบทวิเคราะห์ล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญในตลาดของเรา:
ในช่วงสุดสัปดาห์ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาการเก็บภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมสูงสุดถึง 20% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมดที่เข้าสู่สหรัฐฯ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า หากเขารู้สึกว่ารัสเซียพยายามขัดขวางความพยายามในการยุติสงครามในยูเครน เขาจะเก็บภาษีรอบที่สอง (secondary tariffs) ที่อัตรา 25%-50% สำหรับผู้ซื้อพลังงานน้ำมันจากรัสเซีย
ขณะเดียวกัน ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คริสติน ลาการ์ด กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นโยบายภาษีของทรัมป์จะส่งผลให้การเติบโตของยูโรโซนลดลงอย่างน้อย 0.3% ตามรายงานของรอยเตอร์ โกลด์แมนแซคส์ได้ประกาศในช่วงเช้าวันเดียวกันว่า ขณะนี้พวกเขาคาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน (bps) ในเดือนเมษายน มิถุนายน และกรกฎาคม
ในปฏิทินเศรษฐกิจ วันจันทร์นี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมของเยอรมนี ซึ่งนักลงทุนอาจเพิกเฉยต่อรายงานนี้ และหลีกเลี่ยงการเปิดสถานะขนาดใหญ่จนกว่ารัฐบาลทรัมป์จะแถลงรายละเอียดนโยบายภาษีชุดใหม่ในวันพุธ
วิเคราะห์ทองคำ 31 มีนาคม ~4 เมษายน2568วิเคราะห์ทองคำ 31 มีนาคม ~4 เมษายน2568
.
อาทิตย์แล้วทองทำ ath เป็นว่าเล่นหรือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทองไทยจะบาทละ5หมื่นแล้ว ข่าวในตารางทำแค่ไซเวย์ แล้วเราจะเอาไงต่อ ย่อซื้อไหม?
.
อาทิตย์หน้าข่าวของลุงทรัมยังไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ในตารางต้นเดือนเรามีข่าวนอนฟาม ไม่รู้เป็นนอนฟามที่เงียบเหมือนเดือนแล้วไหม กอ
ทุนซื้อต่อเนื่อง เฉพาะเดือนมีนา 24กว่าตัน เอาเรื่อง
.
ด้านเทคนิค ตอนนี้น้องath และไซเวย์ออกข้างเพื่อสะสมแรง แอดให้สองแนว ถ้าทะทุไฮเก่าอาจจะไป แนวๆ 3100 ถ้าย่อมารับเดิมก็น่าสะสม 3057
แท่งวีคอวบเขียว โอกาศไปต่อมีสูง เดย์ ย่อและติดต้านเก่า h4 มีกรอบ ตามรูป
.
สรุป ต้าน 3084 3100 รับ 3070 3057 เอากรอบนี้ไปก่อนมเดียวเรามาดูหน้างานอีกรอบ ขอให้โชคดี มีชัยในการเทรดครับทุกคน
XAU/USD: การกลับตัวเป็นขาลง รอการยืนยัน!ราคาทองคำ (XAU/USD) หลังจากปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ได้แตะระดับแนวต้าน 3,054 และเริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแรง ปัจจุบันราคากำลังปรับตัวลง ทดสอบแนวรับที่ 3,024 ซึ่งอาจเป็นจุดตัดสินแนวโน้มต่อไป
วิเคราะห์ทางเทคนิค:
EMA 34 (3,028) และ EMA 89 (2,992) ยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว แต่แรงขายกำลังเพิ่มขึ้น
หากราคาทะลุแนวรับ 3,024 อาจเปิดโอกาสให้ราคาปรับตัวลงลึกขึ้น มุ่งสู่ระดับ 3,000
ในทางกลับกัน หากฝั่งซื้อสามารถป้องกันแนวรับนี้ได้ ราคามีโอกาสดีดตัวกลับไปทดสอบระดับสูงสุด 3,054 อีกครั้ง
ข่าวสำคัญ:
ข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ กำลังจะประกาศเร็วๆ นี้ หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ USD อาจแข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลง แต่หากข้อมูลออกมาแย่กว่าคาด ราคาทองคำอาจได้รับแรงสนับสนุนให้ปรับตัวขึ้นต่อ
วิเคราะห์ราคาทองคำ 3 มี.ค.💥การวิเคราะห์พื้นฐาน
ผู้นำยุโรปกำลังร่างแผนสันติภาพเพื่อนำเสนอต่อวอชิงตัน สร้างความหวังว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้
ทัศนคติในแง่ดีนี้ทำให้ค่าเงินยูโร (EUR) แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และราคาทองคำก็พุ่งกลับขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้อมูล PMI ภาคการผลิตของจีนออกมาดีเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโลก
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลยังคงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้จัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึง Bitcoin, Ethereum, XRP, Solana และ Cardano แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วยให้ราคาทองคำกลับมาทรงตัวอีกครั้งหลังจากปรับลดลงสองวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
💥การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำกำลังฟื้นตัวกลับสู่แนวต้านที่ 2,890 โดยแนวรับเดิมที่ 2,836 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังถือว่าสำคัญในขณะนี้ โซนทั้งสองนี้ถือเป็นขอบเขตราคาที่สำคัญสองแห่ง การปิดเหนือโซนทั้งสองนี้ถือเป็นการยืนยันถึงการดำเนินต่อไปของแนวโน้มที่แข็งแกร่ง 2782 ถือเป็นโซนแนวรับรายสัปดาห์ของทองคำ 2916 ทำหน้าที่เป็นอุปสรรคเพียงอย่างเดียวก่อนที่ทองคำจะเคลื่อนไปสู่ ATH ถัดไป
ให้ความสำคัญกับโซนราคาที่สำคัญสำหรับสัญญาณซื้อและขาย
"GBP/USD ผันผวนใกล้เส้นค่าเฉลี่ยหลัก จับตาถ้อยแถลงธนาคารกลาง"**GBP/USD แกว่งตัวใกล้เส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ ขณะที่ตลาดจับตาถ้อยแถลงของธนาคารกลาง**
📌 **GBP/USD ปรับตัวขึ้นในช่วงต้นวันจันทร์ แต่ไม่สามารถทะลุระดับ 1.2700 ได้ และร่วงลงมาอีกครั้ง**
📌 **สัปดาห์นี้มีถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ของทั้งธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จำนวนมาก**
📌 **ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลที่กลับมาเกี่ยวกับเงินเฟ้อ**
### 📉 GBP/USD แกว่งตัวแรงก่อนร่วงลงมาอีกครั้ง
คู่เงิน GBP/USD ผันผวนอย่างหนักในวันจันทร์ โดยดีดตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ก่อนร่วงกลับลงมาใกล้ระดับเปิดของวันบริเวณ 1.2630 ค่าเงินปอนด์ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1.2700 ได้ และร่วงลงมาต่ำกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล 200 วัน (200-day EMA) ที่อยู่ใกล้ 1.2660
### ⚠️ ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ กดดันตลาด
ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ทำให้ตลาดกลับเข้าสู่โหมดหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (Risk Aversion) อีกครั้ง นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูล **Personal Consumption Expenditure (PCE) Inflation** หรือดัชนีเงินเฟ้อจากการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ซึ่งจะเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ เทรดเดอร์หวังว่าการปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในช่วงต้นปีนี้จะเป็นเพียงชั่วคราว และจะไม่กลายเป็นปัญหาที่ลากยาว ซึ่งอาจทำให้ Fed ชะลอการลดดอกเบี้ย
### 💥 นโยบายของทรัมป์อาจเป็นอุปสรรคต่อการลดดอกเบี้ยของ Fed
นักลงทุนที่คาดหวังว่า Fed จะเร่งลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 ต้องเผชิญกับความผิดหวังอีกครั้ง เนื่องจาก **ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์** กำลังพยายามจุดชนวนสงครามการค้าโลก ซึ่งหากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นอีก จะเป็นการดับความหวังในการลดดอกเบี้ยอย่างสิ้นเชิง
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา **ทรัมป์ย้ำถึงแนวคิดการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่กับแคนาดาและเม็กซิโก** พร้อมเตือนว่าภาษีดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้า หลังจากที่เขาต้องถอยจากการกดดันด้วยมาตรการภาษีในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ให้เวลาผ่อนผันแก่หลายประเทศที่ถูกข่มขู่ด้วยภาษีนำเข้า
### 📢 ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เตรียมส่งสัญญาณนโยบาย
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็ไม่ยอมน้อยหน้า โดยจะมีการกล่าวสุนทรพจน์จากบรรดาผู้กำหนดนโยบายหลายรายในสัปดาห์นี้ แม้ว่าผลกระทบต่อภาพรวมตลาดโลกอาจจะไม่มากนัก ทั้งนี้ BoE ยังคงดำเนินนโยบายไปตามที่ตลาดคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ย
- **วันอังคาร:** Huw Pill
- **วันพุธ:** Swati Dinghra
- **วันศุกร์:** Dave Ramsden
### 🔮 **แนวโน้มราคา GBP/USD**
📊 การเคลื่อนไหวของ GBP/USD ที่ถอยกลับมายังเส้น **200-day EMA ที่ 1.2660** บ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนของทิศทางทางเทคนิค แม้ค่าเงินปอนด์จะปรับตัวขึ้นประมาณ **4.4% จากจุดต่ำสุดสำคัญที่ 1.2100 ในช่วงกลางเดือนมกราคม** แต่โมเมนตัมของฝั่งซื้อเริ่มอ่อนแรงลง
📌 แนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่ **เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (50-day EMA) บริเวณ 1.2520** ซึ่งเป็นแนวรับที่สำคัญของตลาด อย่างไรก็ตาม นักเทรดฝั่งซื้อ (Bulls) อาจรอจังหวะดันราคาให้กลับขึ้นไปทดสอบระดับสูงใหม่อีกครั้งจากบริเวณแนวรับ **1.2500**
📈 **สรุปแนวโน้ม GBP/USD:**
🔹 **แนวต้าน:** 1.2700 / 1.2660 (200-day EMA)
🔹 **แนวรับ:** 1.2520 (50-day EMA) / 1.2500
#Forex #GBPUSD #เทรดค่าเงิน #วิเคราะห์ตลาด
**GBP/JPY พุ่งแตะ 190.70 หลังยอดค้าปลีกอังกฤษพุ่งเกินคาด****GBP/JPY พุ่งทะลุ 190.50 หลังข้อมูลยอดค้าปลีกอังกฤษออกมาดีกว่าคาด**
คู่เงิน GBP/JPY ปรับตัวขึ้นสู่ระดับประมาณ 190.70 ในช่วงเช้าของตลาดยุโรปวันศุกร์ เพิ่มขึ้น 0.60% ภายในวันเดียว
ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.7% MoM สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
อัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่นที่ออกมาสูงกว่าคาด ตอกย้ำโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจำกัดการอ่อนค่าของเงินเยน
คู่เงิน GBP/JPY พุ่งขึ้นแตะระดับประมาณ 190.70 ในช่วงต้นตลาดยุโรปวันศุกร์ โดยเงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หลังการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรในเดือนมกราคม
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักรที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ระบุว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.7% MoM ในเดือนมกราคม เทียบกับการลดลง 0.3% ในเดือนธันวาคม ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาแบบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนมกราคม เทียบกับการขยายตัว 2.8% (ปรับลดจาก 3.6%) ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ที่ 0.6% ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ยังคงแข็งค่าในทันทีหลังการเปิดเผยข้อมูลเชิงบวกดังกล่าว
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น คัตสึโนบุ คาโต้ (Katsunobu Kato) กล่าวในช่วงเช้าวันศุกร์ว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่สูงขึ้นอาจสร้างแรงกดดันต่อสถานะการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งคำแถลงนี้ส่งผลให้เกิดแรงขายเงินเยน และเป็นปัจจัยสนับสนุนการแข็งค่าของ GBP/JPY อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่นที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ ได้เพิ่มน้ำหนักให้กับแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินเชิงเข้มงวดของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ซึ่งอาจช่วยจำกัดการอ่อนค่าของเงินเยน
คาดการณ์ราคา AUD/USD: ตลาดแรงงานเป็นจุดสนใจตัวอย่างการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย:
**คาดการณ์ราคา AUD/USD: ความสนใจเปลี่ยนไปที่ตลาดแรงงาน**
AUD/USD มีการซื้อขายที่ไม่ชัดเจนในช่วงกลาง 0.6300
ดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางเรื่องการกำหนดภาษีและภูมิรัฐศาสตร์
ตัวชี้วัดเกี่ยวกับค่าจ้างในออสเตรเลียมีแรงกระตุ้นลดลงในไตรมาสที่ 4
ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและเสริมการฟื้นตัวเมื่อวันอังคาร ทำให้ดัชนีดอลลาร์ (DXY) อยู่ในระดับสูงสุดของสี่วันที่ 107.20-107.25 ในวันพุธ ขณะเดียวกันมีการกลับมาของแนวโน้มลดลงของผลตอบแทนสหรัฐพร้อมกับความกังวลเกี่ยวกับภาษีและความร้อนแรงในเชิงภูมิรัฐศาสตร์
ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์ออสเตรเลียแลกเปลี่ยนกำไรกับขาดทุนกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ AUD/USD โคจรอยู่รอบๆ ปลายบนของช่วงล่าสุดใกล้กับพื้นที่ 0.6350
**ภาษีและความตึงเครียดทางการค้า**
ความตึงเครียดทางการค้ายังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนสกุลเงินในขณะนี้ ดอลลาร์ออสเตรเลีย—และสกุลเงินที่เป็นมิตรต่อความเสี่ยงอื่นๆ—ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนตัวของดอลลาร์สหรัฐและความกังวลเกี่ยวกับแผนการภาษีใหม่ของวอชิงตัน
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจตลาดชั่วคราวด้วยการเลื่อนการกำหนดภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลาหนึ่งเดือนในต้นเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ความหวังนั้นจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อมีภัยคุกคามการกำหนดภาษีใหม่ปรากฏขึ้น สหรัฐยังได้กำหนดภาษี 10% สำหรับนำเข้าจากจีน ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นจากจีน
เนื่องจากจีนเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย การตอบโต้ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ของออสเตรเลียอ่อนแอลง จีนยังได้แนะนำว่าอาจท้าทายสหรัฐที่องค์การการค้าโลก (WTO) สร้างความไม่แน่นอนมากขึ้นสำหรับประเทศอย่างออสเตรเลียที่พึ่งพาการส่งออกทรัพยากรอย่างหนัก
**เงินเฟ้อ ธนาคารกลาง และทิศทางที่เราจะไป**
แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะมีการฟื้นตัวขึ้นบ้าง นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการแตกร้าวที่อาจเกิดขึ้นในความตึงเครียดทางการค้า หากความขัดแย้งทางการค้ารุนแรงขึ้น เงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต้องรักษานโยบายการเงินให้เข้มงวดไว้นานขึ้น
กลับมาที่ออสเตรเลีย ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้ลดอัตรานโยบายลง 25 จุดพื้นฐานเป็น 4.10% เป็นการเคลื่อนไหวที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม RBA ได้ชี้แจงว่านี่ไม่ใช่การเริ่มต้นของวงจรการผ่อนคลายที่ใหญ่ขึ้น การเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่เหนือเป้าหมายเล็กน้อยที่ 2.7% และด้วยข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง การคาดการณ์อัตราการว่างงานได้ถูกลดลงเป็น 4.2%
ในการแถลงข่าวของเ
ธอ ผู้ว่าการธนาคาร RBA มิเชล บัลล็อค ได้เน้นว่าการตัดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องหมายความว่าจะมีการตัดอัตราเพิ่มเติมในอนาคต การตัดสินใจในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการพัฒนาตลาดแรงงาน
ในบริบทนี้ การเติบโตของค่าจ้างในออสเตรเลียในไตรมาสที่ 4 ชะลอตัวลง โดยดัชนีราคาค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.7% ต่อไตรมาส—ต่ำกว่าที่คาดการณ์และช้ากว่าไตรมาสก่อนหน้า ในระยะหนึ่งปี ค่าจ้างเติบโตขึ้น 3.2% ตรงตามคาดการณ์ ธนาคาร RBA จับตาการพัฒนาตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด และการสำรวจกำลังแรงงานเดือนมกราคมที่จะมาถึงจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายในอนาคต โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายเพิ่มเติมประมาณ 75 จุดพื้นฐานในปีหน้า
**สินค้าโภคภัณฑ์ช่วยได้เพียงเล็กน้อย**
โอกาสทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ หากความต้องการจากจีนชะลอตัว อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจ ในวันพุธทั้งราคาเหล็กและทองแดง—ตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจออสเตรเลีย—สามารถกลับมามีแรงกระตุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงลอยตัวได้
**ภาพรวมทางเทคนิค: ระดับที่สำคัญ**
ในด้านบวก อุปสรรคแรกคือจุดสูงสุดของปี 2025 ที่ 0.6373 ซึ่งถึงเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ต่อไปคือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ง่าย 100 วัน (SMA) ที่ 0.6430 ตามด้วยจุดสูงสุดวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ 0.6549 และจากนั้นคือ SMA 200 วันที่ 0.6554
ในด้านลบ SMA 55 วันที่ 0.6278 ทำหน้าที่เป็นการสนับสนุนชั่วคราว ตามด้วยจุดต่ำสุดของปี 2025 ที่ 0.6087 และจากนั้นคือระดับที่สำคัญทางจิตวิทยาที่ 0.6000
ตัวชี้วัดทางเทคนิคมีความผสมผสาน: ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) อยู่ที่ประมาณ 63 แสดงถึงแรงขับเคลื่อนบวกบ้าง แต่ดัชนีทิศทางเฉลี่ย (ADX) ใกล้ 13 ชี้ไปที่แนวโน้มโดยรวมที่ค่อนข้างอ่อนแอ
**EUR/USD ร่วงต่อ! แนวโน้มขาลงแข็งแกร่ง ใกล้ระดับ 1.0300****🔥 คาดการณ์ราคา EUR/USD: แนวโน้มขาลงยังไม่จบ! ค่าเงินยูโรยังอ่อนค่าใกล้ 1.0300 📉💸**
EUR/USD ยังคงอ่อนค่าลงใกล้ระดับ **1.0305** ในช่วงเช้าของตลาดยุโรปวันอังคาร 🇪🇺💰
💡 คู่สกุลเงินนี้ยังคงมีแนวโน้มเป็นลบต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เอ็กซ์โพเนนเชียล (**EMA 100 วัน**) พร้อมกับตัวบ่งชี้ RSI ที่ชี้ไปในทิศทางขาลง 📊📉
🔻 **แนวรับแรก** อยู่ที่ **1.0250**
🔺 **แนวต้านแรก** อยู่ที่ **1.0406**
### 🔍 แนวโน้มทางเทคนิคของ EUR/USD
EUR/USD ยังคงขยับตัวลงไปที่บริเวณ **1.0305** ในช่วงเช้าของตลาดยุโรปวันอังคาร 📉 โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 💪💵 หลังจากที่ **ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์** 🇺🇸 ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมอย่างมีนัยสำคัญ 🏗️⚙️ พร้อมระบุว่าจะเปิดเผยแผนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้จากประเทศอื่นๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 🌍🚧
📊 **ในเชิงเทคนิค** แนวโน้มขาลงของ EUR/USD ยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากคู่สกุลเงินหลักนี้ยังคงถูกกดดันให้อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย **EMA 100 วัน** บนกราฟรายวัน 📉 นอกจากนี้ **แรงกดดันขาลงยังได้รับการสนับสนุนจากดัชนี RSI** ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับกึ่งกลางที่ประมาณ **42.20** 🧐 บ่งชี้ว่าแนวโน้มที่มีโอกาสมากที่สุดยังคงเป็นขาลง 🔻
### 📌 แนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
🔻 **แนวรับแรก** ของ EUR/USD อยู่ที่ **1.0250** ซึ่งเป็นขอบล่างของ **Bollinger Band** 📊 หากราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง อาจเห็นการร่วงลงไปยังโซน **1.0210-1.0200** ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ **3 กุมภาพันธ์** และเป็นแนวรับทางจิตวิทยา 💭💰 หากราคาทะลุแนวรับนี้ลงไป อาจเปิดทางให้ราคาปรับลดลงสู่ **1.0088** ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวันที่ **26 ตุลาคม 2022** 📉
🔺 ในทางกลับกัน หากราคาสามารถปรับตัวขึ้น 📈 แนวต้านแรกอยู่ที่ **1.0406** ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ **6 กุมภาพันธ์** 🏆 หากสามารถทะลุขึ้นไปและยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจดึงดูดแรงซื้อเพิ่มขึ้นไปที่ **1.0504** ซึ่งเป็นขอบบนของ **Bollinger Band** 🚀 และหากสามารถผ่านขึ้นไปได้อีก แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ **1.0541** ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย **EMA 100 วัน** 📊🔥
---
### 🔗 **#แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง**
#EURUSD #ค่าเงินยูโร #ตลาดForex #เทรดเดอร์ #วิเคราะห์กราฟ #ค่าเงินดอลลาร์ #แนวโน้มตลาด #BollingerBand #RSI #วิเคราะห์Forex #Forexไทย
วิเคราะห์กราฟเทรดทอง XAUUSD (ช่วงเช้า) 23/01/2568วางเเผนย่อ Sell ตามช่วงปรับฐาน
TP 2745-2735-2725
SL 2775
.
ข้อควรรู้ : คลิปนี้ เป็นการแชร์ความรู้กี่ยวกับการเทรด ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงินหรือการการลงทุน (การลงทุนในตลาด CFDS มีความเสี่ยงสูง โปรดใช้วิจารณญาณ)
__________________________________________
เตรียมอัพเดทข่าวแนวโน้มตลาด วิเคราะห์กราฟเด่นประจำวัน
ที่นักเทรดไม่ควรพลาด
.
.
#coachJ #jttraderfx #สอนให้เทรดด้วยตัวเอง #forex #crypto #เทรดforex #เทรดcrypto #xm #xauusdanalysis #goldanalysis #dailyforecast #เทรดทอง #trade #gold #xauusd #ทองคำ #forex
ดอลลาร์ร่วงหนัก! ขู่ภาษีสะเทือนตลาดโลกดอลลาร์สหรัฐขยายการสูญเสียหลังตลาดอเมริกาเหนือทำให้กำไรจากการขู่เรียกเก็บภาษีเมื่อวานนี้ลดลง 📉🇺🇸
**ภาพรวม** 🌏
เมื่อวานนี้ การขู่เรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ได้ขยายไปยังจีนและสหภาพยุโรป 🇨🇳🇪🇺 แต่ตลาดอเมริกาเหนือกลับไม่ใส่ใจในประเด็นนี้มากนัก ส่งผลให้ตลาดดูเหมือนจะยอมรับมันได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าตลาดกำลังเริ่มปรับตัวให้ชินกับคำขู่นี้ 💼📊
วันนี้ ดอลลาร์ส่วนใหญ่ยังคงอ่อนค่า ยกเว้นเยนญี่ปุ่น 🇯🇵 ซึ่งเป็นสกุลเงิน G10 เดียวที่อ่อนค่าลงในช่วงก่อนเริ่มตลาดอเมริกาเหนือ แม้จะมีความมั่นใจสูงว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ ในวันศุกร์ ทางด้านสหราชอาณาจักร รายงานการขาดดุลงบประมาณในเดือนธันวาคมมากกว่าที่คาดไว้ 🇬🇧 แม้พันธบัตรรัฐบาลอังกฤษจะด้อยประสิทธิภาพ แต่เงินปอนด์ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องและซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ 💷✨
สกุลเงินตลาดเกิดใหม่เกือบทั้งหมดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ ยกเว้นจีน ฮ่องกง และไต้หวัน 🇨🇳🇭🇰🇹🇼 ซึ่งยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่า 🪙
**ดอลลาร์สหรัฐ** 💵
ดัชนีดอลลาร์สิ้นสุดสัปดาห์ที่แล้วที่ 109.35 และปิดเมื่อวานนี้ใกล้ระดับ 108.00 ซึ่งเป็นการปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม การลดลงนี้ทำให้ดัชนีโมเมนตัมปรับตัวลดลง ตลาดอเมริกาเหนือดูเหมือนจะมองการเรียกเก็บภาษีเป็นเพียงกลยุทธ์การเจรจาหรือการข่มขู่มากกว่าที่จะเกิดขึ้นจริง เมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์ลดลงต่ำกว่า 108.00 และแตะระดับต่ำใหม่ที่ 107.75 ในวันนี้ ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดเมื่อต้นเดือน เป้าหมายทางเทคนิคถัดไปอยู่ที่ 107.25 ในปฏิทินเศรษฐกิจวันนี้มีดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจล่วงหน้าสำหรับเดือนธันวาคม โดยในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2022 หลังจากที่เคยลดลงต่อเนื่อง
**ยูโร** 💶
ยูโรแข็งค่าขึ้นและแตะระดับสูงสุดใหม่ของเดือนใกล้ $1.0450 เมื่อวานนี้ ยูโรพบแนวรับเล็กน้อยต่ำกว่า $1.0350 และฟื้นตัวขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดในตลาดอเมริกาเหนือ หากยูโรผ่าน $1.0460 อาจส่งสัญญาณให้เคลื่อนไหวไปที่ $1.0500-35
**เงินหยวนจีน (CNY)** 🇨🇳
การอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ทำให้เจ้าหน้าที่จีนมีพื้นที่หายใจเพิ่มขึ้น ดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของวันจันทร์ที่ CNY7.2615 กลับขึ้นไปใกล้ CNY7.2870 ก่อนลดลงในช่วงท้ายวัน PBOC กำหนดอัตราอ้างอิงดอลลาร์เมื่อวานนี้ที่ CNY7.1703 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน และวันนี้ต่ำลงอีกเป็น CNY7.1696
**เยนญี่ปุ่น (JPY)** 🇯🇵
ดอลลาร์พบแนวรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ JPY155 และถึงแม้จะลดลงต่ำกว่า JPY154.80 เมื่อวานนี้ แต่ก็ยังคงปิดเหนือระดับนี้ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรายังคงมั่นใจสูง (~95%) ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 25 bps ในปลายสัปดาห์นี้
**เงินปอนด์ (GBP)** 💷
ปอนด์เคลื่อนไหวใกล้ $1.2375 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน ในขณะที่ยังไม่ได้ปิดเหนือระดับนี้ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม การขาดดุลงบประมาณของสหราชอาณาจักรในเดือนธันวาคมสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 17.8 พันล้านปอนด์
**ดอลลาร์แคนาดา (CAD)** 🇨🇦
เงินเฟ้อในแคนาดาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ แต่ประเด็นสำคัญคือการขู่เรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ CAD1.4310-40 และยังคงเคลื่อนไหวในช่วงต่ำของเมื่อวาน
**ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)** 🇦🇺
ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดที่ $0.6300 เป้าหมายต่อไปคือ $0.6340 ขณะที่ปฏิทินเศรษฐกิจค่อนข้างเบา
**เปโซเม็กซิโก (MXN)** 🇲🇽
เปโซอ่อนค่าที่สุดในบรรดาสกุลเงินตลาดเกิดใหม่เมื่อวานนี้ แต่ดอลลาร์ยังคงรักษาแนวโน้มการเพิ่มขึ้น โดยตลาดสวอปคาดการณ์การลดดอกเบี้ยประมาณ 15 bps ในการประชุมธนาคารกลางวันที่ 6 กุมภาพันธ์
**ภาพรวมตลาดอื่น ๆ** 🌍
- ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงตอบสนองเชิงลบต่อการขู่เรียกเก็บภาษี
- ตลาดอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ดัชนี Stoxx 600 ของยุโรปเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่หก
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ 31 ตุลาคมใกล้ $2760
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวเล็กน้อยสู่ $76.40
**แฮชแท็ก**
#เศรษฐกิจโลก #ตลาดเงิน #ค่าเงิน #ภาษี #ข่าวด่วน #ลงทุน
GBP/USD ลุ้นทะลุ 1.2250 หรือดิ่งแตะ 1.2100!?**🔥พยากรณ์ราคา GBP/USD: ลุ้นทะลุแนวต้าน 1.2250 หรือจะร่วงต่อ!? 🏦📉**
- 📊 **คู่เงิน GBP/USD** เผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ขณะเคลื่อนไหวในกรอบช่องทางขาลง ⬇️
- 💡 แนวต้านแรกอยู่ที่เส้น EMA ระยะ 9 วัน บริเวณ **1.2278** 📈
- 🛡️ แนวรับสำคัญที่ระดับจิตวิทยา **1.2100** ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ **1.2099** 🕳️
📌 **ความเคลื่อนไหวล่าสุด:**
คู่เงิน GBP/USD ยังคงอยู่ในสภาวะซบเซา 💤 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยซื้อขายใกล้ระดับ **1.2230** ในช่วงเช้าของตลาดเอเชีย 🌏วันศุกร์ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคจากกราฟรายวันเผยให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน 📉 โดยคู่เงินยังคงเคลื่อนไหวในกรอบช่องทางขาลง 🔻
📉 **สัญญาณขาลงแรง:**
- **ดัชนี RSI ระยะ 14 วัน** อยู่เหนือระดับ 30 เพียงเล็กน้อย ⚠️ ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันขาลงที่เพิ่มขึ้น 🧲
- คู่เงินยังคงต่ำกว่าค่า EMA ระยะ 9 วัน และ 14 วัน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มราคาระยะสั้นที่อ่อนแอและย้ำถึงทิศทางขาลง 🎯
📌 **แนวรับสำคัญ:**
- คู่เงิน GBP/USD อาจเคลื่อนไหวใกล้ระดับจิตวิทยา **1.2100** 🛑 ซึ่งตรงกับระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ **1.2099** เมื่อวันที่ 13 มกราคม 🗓️
- หากหลุดผ่านระดับนี้ อาจส่งผลให้แรงกดดันขาลงรุนแรงขึ้น 🚨 และดึงราคาลงสู่ขอบล่างของกรอบช่องทางขาลงที่ **1.1950** 🚀
📌 **แนวต้านสำคัญ:**
- คู่เงินอาจเผชิญแรงต้านทันทีที่เส้น EMA ระยะ 9 วันที่ระดับ **1.2278** และเส้น EMA ระยะ 14 วันที่ **1.2328** 🛡️
- หากทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้สำเร็จ อาจเพิ่มแรงผลักดันของราคาให้วิ่งสู่ขอบบนของกรอบช่องทางขาลงที่ **1.2500** 🏆✨
#️⃣ **#การวิเคราะห์ราคา #GBPUSD #เทรดเดอร์ต้องรู้ #ตลาดเงิน #Forexไทย #คู่เงินน่าจับตา**
วิเคราะห์กราฟเทรดทอง XAUUSD (ช่วงเช้า) 15/01/2568วางเเผนย่อ Buy ตามกรอบ Fibo 50 Day trade
TP 2675 - 2680 - 2685
SL 2664
ข้อควรรู้ : คลิปนี้ เป็นการแชร์ความรู้กี่ยวกับการเทรด ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงินหรือการการลงทุน (การลงทุนในตลาด CFDS มีความเสี่ยงสูง โปรดใช้วิจารณญาณ)
__________________________________________
เตรียมอัพเดทข่าวแนวโน้มตลาด วิเคราะห์กราฟเด่นประจำวัน
ที่นักเทรดไม่ควรพลาด
.
.
#xauusdanalysis #goldanalysis #dailyforecast #เทรดทอง #trade #gold #xauusd #ทองคำ #forex
GBPUSD ร่วงหนัก! ดอลลาร์สหรัฐแรงเกินคาด หลังข้อมูลเศรษฐกิจปัง**📉 ปัง! GBPUSD ร่วงหนักหลังข้อมูลสหรัฐแรงเกินคาด 💥 ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวเด่น ชี้ทางต่อคืออะไร? 🚨**
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้คู่เงิน **GBPUSD** ร่วงลงอีกครั้ง พร้อมทะลุระดับแนวรับสำคัญ! 📉 มาดูกันว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และทิศทางต่อไปจะเป็นอย่างไร? 🤔
---
### **ข้อมูลพื้นฐานที่ต้องรู้ 📊**
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ร้อนแรง 💪 โดยเฉพาะตัวเลข **Job Openings** ที่สูงเกินคาด และดัชนีราคาใน **ISM Services PMI** ที่พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023! 🔥
แม้ตลาดยังไม่เปลี่ยนทิศทางการคาดการณ์มากนัก แต่เทรดเดอร์เริ่มไม่มั่นใจว่า Federal Reserve (Fed) จะลดดอกเบี้ยก่อนเดือนกรกฎาคมแล้ว 🏦 สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือรายงาน **CPI** ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางตลาดอย่างมาก 📈
สำหรับฝั่งปอนด์สเตอร์ลิง (**GBP**) ธนาคารกลางอังกฤษ (**BoE**) ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด แต่ผลโหวตออกมาเป็นแนวโน้มลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 🕊️ ตอนนี้ตลาดมองว่ามีโอกาส **65%** ที่ BoE จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าจะลดดอกเบี้ยรวม **53 bps** ภายในสิ้นปีนี้ 📉
---
### **วิเคราะห์ทางเทคนิค GBPUSD 📉**
#### **กราฟรายวัน (Daily Timeframe)**
จากกราฟรายวัน จะเห็นว่า GBPUSD ร่วงลงอย่างรุนแรงหลังข้อมูลสหรัฐออกมาแรงเกินคาด 🚨 ผู้ขายเริ่มเข้าตลาดอย่างจริงจังหลังจากราคาทะลุแนวรับที่ **1.2485** และมีแนวโน้มจะพุ่งลงไปที่ **1.23** ต่อไป ส่วนผู้ซื้ออาจรอจังหวะเข้าซื้อรอบระดับ **1.23** เพื่อตั้งเป้าหมาย新高 ต่อไป 🎯
#### **กราฟ 4 ชั่วโมง (4 Hour Timeframe)**
ในกราฟ 4 ชั่วโมง ผู้ขายยังคงมีแนวโน้มจะดันราคาลงไปที่ **1.23** ขณะที่ผู้ซื้ออาจรอจังหวะกลับตัวเพื่อเข้าซื้อในระดับดังกล่าว 🔄
#### **กราฟ 1 ชั่วโมง (1 Hour Timeframe)**
ในกราฟ 1 ชั่วโมง จะเห็นแนวโน้มขาลงชัดเจน โดยผู้ขายอาจใช้แนวต้านลง (downtrend line) เป็นจุดเข้าซื้อขายต่อ 🐻 ส่วนผู้ซื้ออาจรอให้ราคา breakout สูงขึ้นก่อนจึงจะเพิ่มพอร์ตขึ้น 📈
---
### **เหตุการณ์สำคัญที่ต้องจับตา 🗓️**
- **วันนี้**: การพูดของ Fed’s Waller, ข้อมูล ADP และ FOMC Minutes
- **พรุ่งนี้**: ตัวเลขอ้างสิทธิ์ว่างงานสหรัฐ (Jobless Claims)
- **วันศุกร์**: รายงาน Non-Farm Payrolls (NFP)
---
**#GBPUSD #Forex #ดอลลาร์สหรัฐ #ปอนด์สเตอร์ลิง #วิเคราะห์เทคนิค #ตลาดการเงิน #Fed #BoE #CPI #NFP**
ทองคำยืนเหนือจุดสำคัญ! แนวโน้มจะไปทางไหนต่อ?**🔥 ทองคำยืนเหนือจุดเทคนิคสำคัญ! จะไปต่อหรือไม่? รู้คำตอบที่นี่! 🔥**
🌟 **ทองคำยังคงยืนเหนือจุดสำคัญทางเทคนิคในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์**
✨ ทองคำยังคงยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันได้
💼 เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความหลากหลายสำหรับทองคำ แต่การลดลงเมื่อวานนี้ไม่ได้รุนแรงนักเมื่อมองภาพรวม 📉 ทองคำลดลงเนื่องจากดอลลาร์ฟื้นตัว 💵 และพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 📊 หลังจากที่ทรัมป์ปฏิเสธว่าจะผ่อนปรนในเรื่องภาษี 🏛️ อย่างไรก็ตาม ข่าวดีสำหรับผู้ซื้อทองคำคือในเชิงเทคนิค การลดลงครั้งนี้ไม่ได้ทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (🔴 เส้นสีแดง)
📍 **ระดับสำคัญอยู่ที่ $2,626 ในขณะนี้** โดยมีแนวรับระยะสั้นเพิ่มเติมใกล้เคียง $2,600
📅 โดยทั่วไปแล้ว เดือนมกราคมมักจะเป็นเดือนที่ยอดเยี่ยมสำหรับทองคำ ✨ อันที่จริงแล้ว เดือนมกราคมเป็นเดือนที่ทองคำมีผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 🥇
📊 อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาภาพรวมก่อนเดือนมกราคมปีนี้ ทองคำเพิ่มขึ้นถึง **27% ในปี 2024** 🚀 แม้ว่าจะมีการลดลงเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมก็ตาม ราคาทองคำใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการปรับตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน 📈 และแม้กระทั่งในตอนนั้น การลดลงก็ไม่ได้ยืดเยื้อนาน ⏳
💡 **สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อในช่วงราคาลดลงยังคงมีความมั่นใจสูงอย่างน้อยในตอนนี้**
⚠️ **ข้อควรระวังสำหรับทองคำในตอนนี้**
ดอลลาร์ยังคงอยู่ในสถานะทรงตัวตั้งแต่เดือนที่แล้ว 💵 ขณะที่ทรัมป์ยังคงผลักดันนโยบายภาษี 📜 และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังคงสนับสนุนแนวคิดที่ว่าเฟดจะหยุดการลดดอกเบี้ย 📉 ทำให้แรงซื้อเชิงป้องกันของผู้ซื้อทองคำอาจค่อยๆ ลดลง โดยเฉพาะหากตลาดพันธบัตรยังคงให้การสนับสนุนในทิศทางเดียวกัน 📊
📣 กล่าวอีกนัยหนึ่ง แนวโน้มทองคำในเดือนมกราคมอาจไม่เป็นไปตามเดิมเหมือนในอดีต 🕰️ ทดสอบแรกจะเป็นรายงานการจ้างงานของสหรัฐและข้อมูลที่เกี่ยวข้องซึ่งจะออกในสัปดาห์นี้ 📆
📉 **หากราคาทะลุต่ำกว่า $2,600 อย่างมีนัยสำคัญ** อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายอย่างรวดเร็วในทองคำ ⚡ หากเป็นเช่นนั้น การร่วงลงอย่างรวดเร็วเพื่อทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (🔵 เส้นสีน้ำเงิน) ใกล้ $2,500 ก็อาจเกิดขึ้นได้ 🌀
⏳ สำหรับตอนนี้ ต้องรอดูว่าข้อมูลจะเป็นอย่างไรในช่วงเวลาถัดไป 📊
#️⃣ **#ราคาทองคำ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้มทองคำ #การลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #ดอลลาร์ #ทองคำโลก #ลงทุนปลอดภัย**
USD/JPY พุ่งต่อเนื่อง! ลุ้นแตะ 160 ระวัง BoJ แทรกแซง!### 💹🔥 แนวโน้ม USD/JPY: ขาขึ้นยังคงควบคุมตลาด! มีโอกาสแตะจุดสูงสุดใหม่ แต่ระวัง BoJ อาจแทรกแซง! 🚨💰
**💵 USD/JPY**
USDJPY – 📈 การเคลื่อนไหวในระยะสั้นยังคงแกว่งตัวในกรอบข้างใต้ระดับสูงสุดใหม่ในรอบหลายสัปดาห์ (158.07) และกำลังอยู่ในช่วงพักฐานหลังจากปรับตัวขึ้น 5% ในเดือนธันวาคม 📊
📉 การปรับฐานที่จำกัด (ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วัน) ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มขาขึ้นหลักยังคงมีอิทธิพลอยู่ และมีแนวโน้มที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากช่วงพักฐาน 💪💹
💵 ค่าเงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจาก:
- มุมมองของ Fed ที่ปรับเป็นเชิงเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย 📈
- ความแตกต่างระหว่างนโยบายของ Fed และธนาคารกลางหลักอื่นๆ 🌍
- ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่แน่นอน 🌐🔒
📊 ปัจจัยทางเทคนิคที่เป็นบวกสนับสนุนมุมมองของการเร่งตัวครั้งสุดท้ายไปยังแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 160 และมีโอกาสทดสอบระดับสูงสุดของปี 2024 ที่ 161.95 (ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ) 🚀 อย่างไรก็ตาม ⚠️ ควรพิจารณาความเสี่ยงของการแทรกแซงจาก BoJ ในโซนนี้ด้วย 🏦🇯🇵
#USDJPY 💴 #การเงิน 📈 #เศรษฐกิจ 🌍 #ลงทุน 💰 #ข่าวด่วน 🚨
EURUSD ชี้ชะตาระดับเทคนิคสำคัญ ทิศทางเบรกน่าจับตา! 🔥 EURUSD: วิเคราะห์จุดเทคนิคสำคัญ เปิดตลาดสัปดาห์นี้! 🔥
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง (100 hour MA) 🚀 ช่วยหยุดการร่วงลง 📉 ขณะที่พื้นที่แนวสวิงเดิมซึ่งเคยเป็นฐานรอง (ปัจจุบันกลายเป็นแนวต้าน) 💪 หยุดการปรับตัวขึ้นของราคา 📈
📌 EURUSD กำลังซื้อขายในระดับทางเทคนิคที่สำคัญในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์การซื้อขาย
ในช่วงเปิดตลาดยุโรปช่วงแรก ราคาปรับตัวลงเพื่อทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง (เส้นสีน้ำเงินบนกราฟรายชั่วโมงด้านบน) 🔵 ซึ่งผู้ซื้อเข้ามาสนับสนุนที่ระดับดังกล่าวและผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น 📤 โปรดจำไว้ว่า เส้นค่าเฉลี่ย 100 ชั่วโมงยังเคยหยุดการร่วงลงของราคาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเช่นกัน 🛡️
จากนั้น ราคาปรับตัวขึ้นไปหยุดอยู่ในพื้นที่แนวสวิงที่สำคัญ 🎯 ระหว่าง 1.0448 และ 1.0461 ซึ่งในพื้นที่นี้ยังมีระดับ Fibonacci Retracement 38.2% 📊 ของช่วงการซื้อขายในเดือนธันวาคม อยู่ที่ 1.04523 ราคาสูงสุดในช่วงนี้อยู่ที่ 1.04577 และหลังจากนั้นราคาหมุนกลับลงมา 🔄 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 1.0438 💵
แนวรับ 🟢 ค้ำไว้ที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
แนวต้าน 🔴 หยุดที่พื้นที่แนวสวิง
🔮 ในการซื้อขายครั้งต่อไป การเคลื่อนตัวออกนอกช่วงนี้จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มทางเทคนิคใหม่ที่เอนเอียงไปตามทิศทางการเบรก
📈 ด้านบน: เป้าหมายถัดไปคือจุดกึ่งกลาง Fibonacci 50% ของช่วงเดือนธันวาคม อยู่ที่ 1.04859
📉 ด้านล่าง: หากราคาทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 100 ชั่วโมง อาจเปิดทางให้ราคากลับมาทดสอบระดับต่ำสุดของวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมาบริเวณ 1.0383
#EURUSD #การวิเคราะห์ทางเทคนิค #Forex #กราฟเทคนิค #ราคายูโร
AUD/USD ร่วงแตะ 0.6215! ตลาดเงียบเหงาก่อนปีใหม่ **📉🔥 AUD/USD ร่วงสู่ระดับ 0.6215! ตลาดเงียบเหงาก่อนปีใหม่ ท่ามกลางโทนเสียงผ่อนคลายจาก RBA 🐨💰**
**AUD/USD ลดลงสู่ระดับ 0.6215 ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงาและโทนเสียงที่ผ่อนคลายจาก RBA**
คู่เงิน AUD/USD ซื้อขายในกรอบแคบใกล้กับแนวรับสำคัญของปีที่ระดับ 0.6200 ระหว่างการซื้อขายในวันศุกร์ช่วงตลาดอเมริกาเหนือ โดยลดลง 0.14% สู่ระดับ 0.6215 📊💸 การเคลื่อนไหวของราคาที่ซบเซานี้สะท้อนถึงปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดยังคงเงียบเหงาก่อนเทศกาลปีใหม่ 🎉🎊 คู่เงินยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากขาดปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับรายงานการประชุมที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และการเคลื่อนไหวแบบผสมของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 🇺🇸🤑
**📚🔍 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน**
ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงอ่อนตัวและไม่สามารถฟื้นตัวได้ เนื่องจากรายงานการประชุมเดือนธันวาคมของ RBA ชี้ให้เห็นถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้กำหนดนโยบายว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังลดลงตามที่คาดการณ์ 📉💡 รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความเข้มงวดของนโยบายการเงินในปัจจุบันอาจถูกผ่อนคลายลงในไม่ช้า ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 📅📉 ตลาดคาดการณ์ความเป็นไปได้ประมาณ 65% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมวันที่ 18 กุมภาพันธ์ และคาดว่าจะปรับลดอย่างเต็มที่ภายในเดือนเมษายน 🗓️📉
ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย Michele Bullock เน้นย้ำถึงแนวทางที่อิงตามข้อมูล โดยปฏิเสธที่จะยืนยันสถานการณ์สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 📊❓ Bullock ระบุว่าคณะกรรมการไม่ได้หารืออย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม และยังคงเปิดรับตัวเลือกต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ 📈📉
**🌎💵 ด้านสหรัฐฯ** ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ดิ้นรนที่จะรักษาระดับ 108.00 📉📊 มุมมองโดยรวมของค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่ง สนับสนุนโดยจุดยืนที่ระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 🚨📊 ประธาน Fed Jerome Powell เพิ่งเน้นย้ำว่าการปรับลดเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในการลดเงินเฟ้อ 🛑📈 นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายยังชี้ให้เห็นถึงนโยบายการอพยพเข้าเมือง ภาษีศุลกากร และภาษีของรัฐบาลชุดใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ 📈💵
**📈🔧 ภาพรวมทางเทคนิค**
คู่เงิน AUD/USD ขยายการขาดทุนต่อไป เนื่องจากตัวชี้วัดทางเทคนิคยังคงอยู่ในโซนขายมากเกินไป 🛑📊 ดัชนี Relative Strength Index (RSI) อยู่ที่ระดับ 27 โดยมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย สะท้อนถึงแรงกดดันขาลงอย่างต่อเนื่อง 📉💡 แถบ MACD histogram แสดงแถบสีแดงที่แบนราบ สะท้อนถึงการขาดสัญญาณทิศทางที่ชัดเจน 🔻📊
แนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 0.6200 โดยหากราคาทะลุต่ำกว่าระดับนี้ อาจเผชิญกับแรงกดดันขาลงเพิ่มเติมสู่ระดับ 0.6170 📉🔽 ในขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 0.6250 ตามด้วยแนวต้านที่สำคัญกว่าในระดับ 0.6280 📈🛡️ แม้ปัจจัยทางเทคนิคจะบ่งชี้ถึงแรงกดดันในการขายที่จำกัด การฟื้นตัวของราคายังคงขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของตลาดและความต้องการเสี่ยงที่ดีขึ้น 📈🛍️
#AUDUSD #เทรดเดอร์ #ตลาดออสเตรเลีย #ค่าเงินดอลลาร์ #การเงิน #RBA #เทคนิคการเทรด #ข่าวเศรษฐกิจ