[Repost] บันทึก Bitcoin Halving #3 (2020)
ผ่านไปแล้วกับ Bitcoin Halving ครั้งที่ 3 ในปี 2020 ที่ชาวคริปโตฯ ตื่นเต้นกันมาตั้งแต่ปี 2019 ว่า Bitcoin จะ Moon ไปเป็นระดับ 100,000 ตามที่ Stock to Flow Model ได้ทำนายไว้
ซึ่ง หลายๆ คนก็ใช้ไอ้ S2F Model เนี่ยแหละ ในการเอามาอ้างว่า เดี๋ยวราคามันก็จะต้องขึ้นไปตามนี้ “อย่างแน่นอน”
ซึ่ง...ไอ้ความอย่างแน่นอน เนี่ยแหละ ที่มันคาใจผมมาก 555 เพราะพอเริ่มศึกษาการเทรด มาเยอะๆ .. ก็พบว่า .. มันไม่มีอะไรที่ “แน่นอน” ในตลาดเก็งกำไร .. ทุกอย่างถูก drive ด้วย อุปสงค์ อุปทาน
เมื่อมีคนต้องการมาก ราคาก็ขึ้น เมื่อไม่มีใครต้องการ ราคาก็ลง ก็แค่นั้นเอง
จริงๆ ผมจะเขียนบันทึกโน่นบันทึกนี่ เล่าว่าทำไม ราคา BTC ถึงบินแรงในปี 2017 , 2019, 2020 แต่คิดๆ แล้วจบไม่ลง + สมองตื้อเพราะนอนน้อยมาหลายวัน เอาเป็นว่า... สรุปแบบรวบรัดเลยแล้วกันครับ 555
1.สาย Buy & Hope ต้องระวัง เพราะสุดท้าย รอบนี้ เราก็เป็นการ halving ที่ Bitcoin อยู่ในกรอบขาลงใหญ่
ก่อนหน้านี้ Bitcoin Halving เกิดในช่วงที่ ราคา Bitcoin เป็น “Trend ขาขึ้น” ที่ชัดเจน
รอบนี้ ถามว่า มันก็เกิดในเทรนขาขึ้นไหม? ... ถ้าจะให้บอกด้วยเส้น EMA 18 Weekly ก็คงจะบอกได้ว่า “ใช่”
แต่ถ้าลองลาก Trendline connect ระหว่างยอดเก่าๆ ที่ผ่านมา ก็พบว่า... “ยังอยู่ใน downtrend”..
ซึ่ง.. ถ้า BTC จะไปถึง 20k , 100k หรือ 1m อย่างที่หลายๆ คนฝันกัน ว่าจะรวยง่ายๆ แล้ว ... มันก็จะต้องทะลุ เทรนไลน์นี้ขึ้นไปให้ได้ก่อนอยู่ดี..
พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องดีดแรงๆ แท่งเดียวไปยืนเหนือ 11000 ได้ แล้วก็จะได้ไปต่อ..
ส่วน ถ้ายัง ก็ไม่ต้องลุ้นอะไรมาก ลุ้นแค่ว่า มันอย่าทำ new low ก็พอ 5555
2. หลังจากนี้ จะเล่นข่าวอะไร?
ที่ผ่านมา ตลอดสองปี 2019-2020 เราเล่นข่าว halving มาตลอด .. ก่อนหน้านั้นเราเล่นข่าว สถาบันการเงิน เช่น CBOE, CME มาเปิด Bitcoin Future รวมถึง Bitcoin ETF ที่สุดท้าย ผ่านมาสองปีก็เป็นหมันกันไปหมดแล้ว
ซึ่ง.. พอ halving เกิดไปแล้ว..แล้วหลังจากนี้ เราจะมีข่าวอะไรให้เล่นอีก? ... ก็ไม่มีเลย 555 ผมก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า แล้วหลังจากนี้ ตลาดจะลาก BTC ขึ้นไปต่อได้อย่างไร ก็คงได้แต่คอยติดตามกันต่อไป
3. สองปีที่ผ่านมา 2019-2020 เรายังไม่เจอสภาพตลาดที่ “สิ้นหวัง อย่างรุนแรง” เหมือนปี 2018
ถ้าใครนั่งตาม Bitcoin มาตลอดสองปี เหมือนผม เราก็จะเจอช่วงที่ตลาดสิ้นหวัง จิตตก อย่างรุนแรง นั่นก็คือช่วงที่ Bitcoin หลุดจาก 6000 มา 3200 .. สภาพตอนนั้น คือ จำได้ว่า มีแต่คนมองลง มองว่ามันจะไร้ค่า เป็นขยะ จบแล้ว .. หลายๆ คนที่ดอย ก็พยายามหาที่พึ่งทางดอย ว่า จะทำยังไงดี จะแก้ดอยอย่างไร .. แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ 555
ซึ่งก็กลายเป็นว่า ช่วงที่ตลาด สิ้นหวังๆ คนเบื่อๆ นั่นแหละ คือสัญญาณ “ซื้อ”
แต่ถ้าเรานึกกันดีๆ ตั้งแต่ปี 2019-2020 เป็นต้นมา เราแทบไม่เจอช่วงที่ตลาด “สิ้นหวังอย่างสุดๆ” เลย... เราอาจจะมีช่วงสิ้นหวังนิดๆ หน่อยๆ ช่วงปลายปี 2019 ที่ราคาเหี่ยวๆ ไปสองสามเดือน แต่จาก sense ที่ผมสัมผัสมา ก็ยังไม่สิ้นหวังเท่าไหร่
และช่วงที่มันลงไป 3600 ต้นปี 2020 นี่ .. มันก็ยังไม่แช่ ให้คนสิ้นหวังเลย อยู่ๆ ก็ตะบี้ตะบันกลับขึ้นมา retest 10k ในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน เท่านั้น
ถ้าให้มอง ก็คงเป็นเพราะกระแส halving นี่แหละ...
แต่ หลังจากวันนี้เป็นต้นไป .. halving ก็เกิดไปแล้ว ตลาดรับรู้ข่าวไปแล้ว ราคาก็ขึ้นมาจาก low 3600 เยอะมากแล้ว ( ถ้าวัดก็เป็นหลัก 250% up ถือว่าเยอะมากๆ )
แถมรอบที่ขึ้นไป 10k สองรอบ ใน 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ก็ทำให้มือใหม่ ที่ไม่รู้เรื่องราว อะไรเลย เข้าตลาดกันอีกเพียบ เพราะคิดว่า นี่คือหนทางปลดทุกข์ ที่แค่ buy & hope แล้วเราก็จะรวยกันง่ายๆ โดยไม่ต้องทำไรเลย
แต่มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอ?... ถ้ามันง่ายขนาดนั้นคนก็คงรวยกันหมดโลกแล้วล่ะครับ 555
ก็นั่นแหละ.. ส่วนตัวผมคิดว่า เราน่าจะต้องเจอสภาวะที่ตลาดสิ้นหวัง อย่างรุนแรง คนเทขายทิ้ง กันไม่เหลือเยื่อไย และแช่ราคาให้อยู่ในจุดที่ไม่มีใครต้องการ กันอีกสักพักใหญ่ๆ ... หลังจากนั้นเจ้าก็จะทยอยเก็บของต่อไปเรื่อยๆ เพื่อลากขึ้นต่อ ในอนาคตข้างหน้า
ปัญหาคือ .... แล้วมันจะใช้เวลากี่เดือน หรือกี่ปี เนี่ยแหละ... ก็ไม่มีใครตอบได้ 555
ส่วนถ้าถามผมว่า ราคาเท่าไหร่ ที่เม่าจะยอมแพ้ .. เท่าที่ผมไล่ดูราคามา ก็พบว่า ... เม่าจะยอมแพ้ ยกธงขาวกันหมด ที่แถวๆ ติดลบ 80% จากจุดเข้าครับ...
ซึ่งเท่าที่ดู คนที่เข้าแถวๆ 10k น่าจะเยอะมากๆ ...
ดังนั้น -80% ของ 10k ก็คือ 2000 นั่นเอง 5555 ในที่สุด ทีม 2000 ก็จะได้กดซื้อซะที หลังจากรอมานานแสนนาน :D
ผมเชื่อว่า ถ้าเจ้ากดมาแช่ราคาที่ 2000-3000 สักสองสามเดือน คนที่มาเข้าแถว 10k นี้ จะยอมแพ้ ยกธงขาวกันหมดครับ 555
สรุป
เนื่องจากตลาด เป็น random walk การเดินแบบสุ่ม
ไม่มีใครหน้าไหน ในโลกนี้ สามารถ “รู้อนาคต” ที่แน่นอนได้
กูรูทุกคน ก็ได้แต่ “ทำนาย” ราคา ตามระบบ ของตัวเองกันทั้งนั้น ( เช่น S2F model, Fibo Projection , Trendline ฯลฯ)
แต่ถามว่า มันจะขึ้นไปถึงหรือป่าว... ก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ
มันอาจจะถึงก็ได้ หรืออาจจะไม่ถึงเลยก็ได้ มันอาจจะเหี่ยวแห้งตาย เป็นขยะ digital เหมือนที่ลุงปีเตอร์ ชริฟ แกชอบแซะชาว Bitcoin ก็ได้ 555
สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ผมอยากจะฝากไว้ก็คือว่า ... มือใหม่เอง ก็อย่ามามั่นใจ ในคำทำนายพวกนี้มากนัก และเสี่ยงด้วยเงิน เท่าที่ยอมเสียได้ก็พอ
เพราะตลาดอย่าง Crypto มันเป็นตลาดที่มีความเสี่ยง และความผันผวนสูงมาก ... ถ้าคุณเข้ามาแบบ งงๆ คุณก็จะเสียเงินแบบ งงๆ ครับ
ศึกษา เยอะๆ เรียนรู้ เยอะๆ นะครับ อย่ามักง่าย ในการเทรด เด็ดขาด หาระบบอะไรสักอย่าง แล้วก็ทำตามมันไปซะ และต้องมีจุดที่ยอมแพ้ เสมอ อย่าไปถัวเฉลี่ยขาดทุนไปเรื่อยๆ ...เพราะนั่นคือหนทางสู่หายนะ ...
ขอให้โชคดี...
Halving2020
BTC Halving 2020 อาจจะเป็นครั้งแรกที่เราจะเป็นกราฟ ขาลงจากรูป จะเห็นว่า
BTC Halving 2 ครั้งแรก
เราอยู่ในตลาด "กระทิง"
เพราะ ราคาวิ่งเหนือ MA 18 ( ครั้งแรก )
และ MA 18+200 ( ครั้งที่สอง )
รวมถึงกราฟก็ชี้ขึ้น
แค่ดูด้วยตาก็เห็นว่าเป็นขาขึ้นชัดเจน
แถม MACD Weekly ก็วิ่งเหนือ 0 อีกด้วย ( Action Zone เขียว )
พูดง่ายๆ คือเป็นทรงขาขึ้น ชัดเจน..
===========
แต่! การ Halving รอบนี้
จะเป็นครั้งแรกที่..
1) ราคาอาจจะวิ่งอยู่ใต้ MA 18 และ MA 200
2) เรายังอยู่ในกรอบขาลงใหญ่
3) เราหลุด Trendline สำคัญที่ลากมาเป็นแนวรับตลอดอายุของ BTC
4) MACD Weekly อยู่ใต้ศูนย์!
ดังนั้น รอบนี้ มุมมองของราคา
จะแตกต่างกับการ halving 2 ครั้งที่ผ่านมามาก
ซึ่ง เราก็ไม่ควรที่จะหวังอะไรกับ halving ครั้งนี้มากจนเกินไป
เพราะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
อย่าลืมว่า กรอบล่างของ bear channel นี้
อยู่แถวๆ 2000-1500 โน่น
ถ้า BTC จะทำทรงกระทิง เหมือน halving ครั้งก่อนๆ
BTC ก็จะต้อง...
1) ดีดแรงมาก และวิ่งขึ้นไปยืนเหนือ 8000 ได้ ภายใน 1 เดือนกว่าๆ ข้างหน้า
2) MACD กลับมาเขียว
3) จะให้ดีต้อง Break กรอบ bear channel ที่ลากลงมาตั้งแต่ 14k ลงมา .. พูดง่ายๆ คือต้องทำ Higher High เหนือ 10500
ถามว่า เป็นไปได้ไหม.. ที่ผ่านมา BTC ก็เคยดีดบ้าคลั่งแบบนี้มาแล้ว
ก็มีความเป็นไปได้อยู่หน่อยๆ เหมือนกัน 555
ซึ่ง ถ้ามันขึ้นไปเคลียร์ ทรงหมีได้หมด เราก็ค่อยมองขึ้นกันอีกรอบได้เหมือนกันครับ :D
ผมก็พร้อมเปลี่ยนมุมมองเสมอ