ราคาทองคำแนวโน้มขาลง-ยังคงมีแรงขายความคิดเห็นเกี่ยวกับราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 6/5 - 11/5/2567
📊ปัจจัยพื้นฐาน
▪️การเพิ่มขึ้นเบื้องต้นของทองคำเมื่อวันศุกร์ หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐที่ออกมาแย๋กว่าคาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดงานชะลอตัวลง ดันทองดีดตัวขึ้นทะลุ 2300 แต่ถูกสกัดช่วงบวกไปในที่สุด แม้ราคาทองคำจะเข้าใกล้ระดับสูงสุดรายวันที่ 2310 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ไม่ได้ทะลุระดับสูงสุดของวันที่ 2 พฤษภาคมที่ 2,326 ดอลลาร์ และไม่นานราคาโดนเทขายถอยกลับไปสู่ราคาสปอตปัจจุบัน ยังคงทรงตัวที่ประมาณ 2,300 ดอลลาร์ มุมมองต่อเศรษ๋บกิจที่ดีขึ้นใน Wall Street ทำให้ความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดน้อยลง
▪️ในทางเทคนิค ราคาทองคำอยู่ในช่วงการปรับฐาน - มีแรงกดดันมากมาย อัตราดอกเบี้ยของเฟดไม่ได้ผิดความคาดหมายแต่อย่างใดเกินไป จะไม่มีความผันผวนมากนัก แต่ภาพใหญ่อยู่ในแนวโน้มขาลงเพื่อการปรับฐานราคา .
▪️ราคาทองคำกำลังแสดงแนวโน้มขาลง โดยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องมาหลังจากทะลุระดับ Fibonacci ต่ำกว่าระดับวิกฤตที่ 2,326 เมื่อวันที่ 30 เมษา
▪️ตัวชี้วัดทางเทคนิคบนกราฟทั้งรายวันและกราฟราย 4 ชั่วโมงบ่งชี้ถึงวิถีขาลง
▪️Daily RSI ส่งสัญญาณถึงโมเมนตัมขาลง ในระยะสั้น แนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,230 ดอลลาร์ โดยมีระดับแนวรับที่แข็งแกร่งขึ้นที่ 2,200 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแนวรับจิตวิทยา
▪️Weekly ระบุเบาะแสขาลงต่อเนื่องหากหลุด 2230 ราคาจะมีโอกาสลงทดสอบ 2200-2150(Midle bands w1)
▪️อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังคงไม่สงบอาจช่วยสนับสนุนราคาทองคำได้ เช่นกัน
--------------------------------------
พื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ตั้งแต่วันที่ 6/5 - 11/5/2567
Resistance: 2350, 2400 , 2430
Support : 2270, 2230, 2200
--------------------------------------
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
Goldtrend
คาดว่าทองคำจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแล้วลดลงลึกราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ในวันจันทร์ (6 พ.ค.) เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวกว่าที่คาด ทำให้เกิดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 6 พฤษภาคม สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 1.04% เป็น 2,325.44 USD/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.13% เป็น 2,334.70 USD/oz
Daniel Ghali นักยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า "การลดลงที่เราได้เห็นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจทำให้โมเมนตัมหายไป เป็นการปูทางให้ราคาทองคำกลับมามีโมเมนตัมขาขึ้นอีกครั้ง"
ราคาทองคำร่วงลง 1.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว
ข้อมูลเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของงานในสหรัฐฯ ชะลอตัวเกินคาดในเดือนเมษายน ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างรายปีลดลงต่ำกว่า 4.0% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี
แม้ว่าทองคำมักถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แต่อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำ และสร้างแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ตรึงทองคำไว้
เงินดอลลาร์ร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในวันที่ 3 พฤษภาคม ตามรายงานของการจ้างงาน
คาดว่าทองคำจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 2,300 วันนี้Chantell Schieven หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Capitalight Research กล่าวว่าตลาดทองคำกำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงที่อ่อนแอตามฤดูกาล ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ราคาทองคำมีแนวโน้มลดลงกลับมาที่ 2,150 ดอลลาร์/ออนซ์
ตามที่ Marc Chandler กรรมการผู้จัดการของ Bannockburn Global Forex กล่าว ราคาทองคำอาจลดลงในระยะสั้น ราคาทองคำซื้อขายได้ในช่วง 2,250-2,260 USD/ออนซ์
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนประเมินว่าความต้องการทองคำยังคงเพิ่มขึ้น Adam Button หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สกุลเงินของ Forexlive คาดการณ์ว่าความต้องการของจีนจะเพิ่มขึ้นเมื่อตลาดกลับมาซื้อขายอีกครั้งหลังวันหยุด
FOMC อาจส่งผลต่อราคาทองคำผันผวนรุนแรงคืนนี้📊ปัจจัยพื้นฐาน
เช้านี้(1 พ.ค.)ราคาทองคำปรับตัวลงแตะระดับ 2,281 ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน กำลังทดสอบแนวรับที่มีความสำคัญ 2280
คืนนี้จะมีการประชุม FOMC ซึ่งนายพาวเวล และ ประธานเฟดสาขาอื่น ๆ ส่วนใหญ่ได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้แล้วว่าพวกเขาเต็มใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงขึ้นไปนานขึ้น ขณะที่ CME Fed Watch Tool ให้น้ำหนักการประชุมวันนี้ว่าเฟดมีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 98.4% และให้น้ำหนักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปยังเดือนกันยายนแทน แต่ % ดังกล่าวก็ยังไม่มากนักมีเพียง 54% เท่านั้นซึ่งกว่าจะถึงการประชุมดังกล่าวยังคงต้องผ่านข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้ออีกหลายรอบที่สามารถท่าทายความคิดเห็นของคณะกรรมการเฟดได้พอสมควร จึงอาจหนุนดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) และลดความน่าสนใจของทองคำ นักลงทุนกำลังรอการแถลงข่าวของ Fed เพื่อทราบเบาะแสเพิ่มเติม
Credit ข้อมูล บ.shininggoldbullion
--------------------------------------
⭐️มุมมองและแนวคิดประจำวัน
▪️ราคาทองคำกำลังแสดงแนวโน้มขาลง โดยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องมาหลังจากทะลุระดับ Fibonacci ต่ำกว่าระดับวิกฤตที่ 2,326
▪️ตัวชี้วัดทางเทคนิคบนกราฟทั้งรายวันและกราฟราย 4 ชั่วโมงบ่งชี้ถึงวิถีขาลง
▪️ RSI ส่งสัญญาณถึงโมเมนตัมขาลง ในระยะสั้น แนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,280 ดอลลาร์ โดยมีระดับแนวรับที่แข็งแกร่งขึ้นที่ 2,260-2250 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแนวรับ 38.2%
▪️Weekly ระบุเบาะแสขาลงหากหลุด 2280 และถ้าไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนได้ ราคาจะมีโอกาสลงทดสอบ 2200-2150(Midle bands w1)
▪️อย่างไรก็ตาม การซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลจีน ประกอบกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน อาจช่วยสนับสนุนราคาทองคำได้ เช่นกัน
--------------------------------------
👀ความคิดเห็น👀
หากยังไม่หลุด 2280 ราคาอาจมีโอกาสรีบาวด์(แต่เพื่อรอลงต่อ) เป้าขึ้นที่ควรจะเป็น 2300 , 2309, 2320 และต้องมีแรงดันขึ้นทะลุ 2334 ถึงจะมองว่าเกมส์อาจเปลี่ยน แต่ถ้ารีบาวด์น้อยๆ หรือไม่ผ่าน 2300 ก็น่าจะรอสวิงในกรอบ 2300(แนวต้าน) และ 2250 (แนวรับ) (Round number)
⭐ดังนั้นภาพใหญ่เทรนขาลงเริ่มชัดขึ้นแนวคิดหลักวันนี้จึงมองฝั่ง Sell โดยรอการฟื้นตัวแล้วหาตำแหน่งเปิดสถานะ Sell เป้าลง 2260, 2250, 2230 😚
ล่าสุดราคายังยืนเหนือ 2280 และอยู่ในโซน Oversold รอราคาดีดตัว
โซนขายวันนี้รอพิจนา
▪️เข้าใกล้ 2300
▪️ทะลุ 2300 รอ Monitor 2309, 2320, 2330 **หากผ่าน 2330 ลดสถานะ Sell
▪️รอเทรดหน้า sell ตามแผนของเมื่อวาน(30/เมษ)
‼️ระมัดระวังความผันผวนของราคาช่วงข่าวและช่วงตี 1-1.30 Fed
--------------------------------------
⭐สำหรับแผนซื้อรอเข้าซื้อจุดรับสำคัญเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น(สายสะสมเริ่มทยอยเก็บ)
จุดซื้อที่มองตามความเสี่ยงจากสูงไปต่ำ
▪️ 2285-2280 (สะสม)
▪️ 65-60(monitor)
▪️ 2250(round number)
▪️ 2230-2312(panic)
▪️ 2150(แนวรับ Weekly)
📈กราฟระยะสั้น(Daily)อยู่ในภาวะหมี RSI สนับสนุนให้เกิดการลบสะสมต่อเนื่อง เป้าลง 2230-2150 **จากฐานกรอบแนวต้าน 2390
📈กราฟระยะกลาง (Weekly) เริ่มเสีย Sentiment ระยะสั้นเพื่อเข้าสู่การพักฐานระยะกลาง แนวรับ 2150
---------------------------------
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
--------------------------------------
คาดว่าทองคำจะลดลงอย่างรวดเร็วในวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดี (2 พฤษภาคม) เนื่องจากความสนใจกลับมาสู่ความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจสูงขึ้นไปอีกนานขึ้น และนักลงทุนยังคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นลบอาจส่งผลกระทบต่อแผนงานนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 2 พฤษภาคม สัญญาทองคำสปอตลดลง 0.5% เป็น 2,306.69 USD/ออนซ์ สัญญาทองคำล่วงหน้าลดลง 0.1% สู่ 2,309.6 USD/oz
“เมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า เราได้เห็นแรงกดดันต่อตลาดทองคำในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา” David Meger ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือกของ High Ridge Futures กล่าว เราเชื่อว่าการขายนี้ยังไม่เป็นไปตามแผน”
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในวันที่ 1 พฤษภาคม พร้อมส่งสัญญาณว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงต่อไป อย่างไรก็ตาม เฟดกล่าวว่า "ขาดความคืบหน้า" ในการผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้บรรลุเป้าหมายที่ 2%
ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการ เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ขณะนี้ความสนใจของตลาดได้หันไปที่รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 3 พฤษภาคม และการเพิ่มเงินเดือนที่แข็งแกร่งอาจทำให้โอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยลงได้
คาดว่าทองคำจะลดลงเล็กน้อยในวันนี้แล้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหุ้นโลกร่วงลงอย่างรวดเร็วสาเหตุหลักมาจากค่าเงิน USD ที่พุ่งสูงขึ้น ดัชนี DXY (วัดความผันผวนของดอลลาร์เทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก) เมื่อเวลา 17:25 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม ในตลาดสหรัฐฯ ทะยานขึ้นเกือบ 106.35 จุด เทียบกับ 105.5 จุดในวันที่ 29 พฤษภาคม /4
ราคาทองคำโลกร่วงลงอย่างรวดเร็วตามค่าเงินดอลลาร์ที่พุ่งสูงขึ้น ภาพ: HH อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีเกินเกณฑ์หลักที่ 5%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเป็นระยะเวลานานขึ้น
ข้อกังวลนี้มีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันที่ 30 เมษายนว่าดัชนีต้นทุนแรงงานซึ่งเป็นตัวชี้วัดค่าจ้างและผลประโยชน์ของคนงาน เพิ่มขึ้น 1.2% ในไตรมาสแรก ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1% ที่นักเศรษฐศาสตร์ทำการสำรวจโดยสำนักข่าว Dow Jones
ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยังหมายความว่าแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้นักลงทุนเดิมพันถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะยังคงชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงสิ้นปีนี้หรือแม้แต่ต้นปีหน้า
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของ Fed ยังกล่าวอีกว่า Fed ควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ
คาดว่าราคาจะต่ำกว่า 2,300 ดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า 29/4 - 3/5/2567ช่วงวันที่ 29/4 - 3/5/2567
H4 ยังอยู่ในช่วงปรับฐานหลังจากหลุดกรอบ Chanel up
🌐สถานการณ์โลก:
▪️ราคาทองคำปรับลดลงเนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ เกินคาด
▪️กระทบความหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
▪️อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานต่อปีเพิ่มขึ้นเป็น 2.7% แต่ชะลอตัวลงจาก 2.8% ในเดือนกุมภาพันธ์
▪️อัตราเงินเฟ้อรายเดือนเป็นไปตามคาด เป็นบวกต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรและ USD
🔥 ในทางเทคนิค:
พื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาตามกรอบ H4 นั้นระบุพื้นที่ที่สำคัญดังนี้:
แนวต้าน: 2381, 2400, 2430
แนวรับ : 2283, 2230, 2212
--------------------------------
📈กราฟรายวัน(intraday)อยู่ภายใต้แรงกดดัน
📈กราฟระยะสั้น(Daily)อยู่ในภาวะกระทิง เป้าขึ้น 2450-2510 **จากฐานราคา 2283
📈กราฟระยะกลาง (Weekly) มีแนวต้านสำคัญ 2450 ผ่านและยืนได้จะเพิ่มมุมมองเชิงบวก เป้าหมายต่อไปที่ 2625 **จากฐานราคา 2150
---------------------------------
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
--------------------------------------
แนวโน้มพร้อมรีบาวด์เพื่อลงต่อรอข่าว GDP คืนนี้📊D1 ยังอยู่ในช่วงขาลงหลังจากหลุดกรอบ Chanel up
✨Highlight ปัจจัยพื้นฐาน✨
⭐️วานนี้ทองปิดลบ $5.86!! แกว่งตัวแคบลง ยังรอจับตาตัวเลขศก.สหรัฐคืนนี้!
-องปรับตัวลง รับบอนยีลด์ฟื้นตัว รวมไปถึงดอลลาร์ ที่แข็งค่า อีกส่วนหนึ่งจากการอ่อนค่าทะลุระดับ 155 ของค่าเงินเยน
-นลท.ชะลอการลงทุนเพื่อรอ GDP สหรัฐคืนนี้
-"ไบเดน" ได้ลง นามกฎหมายช่วย ยูเครน-อิสราเอล-ไต้หวัน 9.5 หมื่นล้านดอลล์
-กองทุน SPDR ยังถือครองทองคำในปริมาณเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
🙏ขอขอบคุณข้อมูลบทวิเคราะห์จาก บ.YLG thailand
--------------------------------
🧠แนวคิดหลักวันนี้
รอฟื้นตัวแล้ว Sell หากยังมี 2352 เป็นแนวต้าน เป้าลงที่คาดหวัง 2280 / 2265 / 2250
กรอบบน 2350 Round number
Idea sell
Sell 2340-2345-2350
Sl ✨2370✨
TP1 2330
TP2 2320
TP3 2310
TP4 2300
(แนวคิดอื่นๆรออัปเดทจากในกรุ๊บ)
---------------------------------
กรอบล่าง 2250 Round number
Idea buy
Buy 2255-2250
Sl ✨2225✨
TP1 2275
TP2 2295
TP3 2315
TP4 2335
(แนวคิดอื่นๆรออัปเดทจากในกรุ๊บ)
---------------------------------
📈กราฟรายวัน(Daily)อยู่ในภาวะกระทิง เป้าขึ้น 2450-2510 **จากฐานราคา 2285
📈กราฟรายสัปดาห์ (Weekly) มีแนวต้านสำคัญ 2450 ผ่านและยืนได้จะเพิ่มมุมมองเชิงบวก เป้าหมายต่อไปที่ 2625 **จากฐานราคา 2150
---------------------------------
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
--------------------------------------
คาดว่าทองคำจะฟื้นตัวในวันนี้ที่ 2300 จากนั้นร่วงลงลึกถึง 2265ทองคำโลกร่วงลง 2% เสียหลัก 2,300 USD
ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันอังคาร (30 เมษายน) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของเงินดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น แม้ว่าความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่แข็งแกร่งและการซื้อทองคำจากธนาคารกลางช่วยให้โลหะมีค่าเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 30 เมษายน สัญญาทองคำสปอตร่วงลง 2.1% สู่ 2,285.99 USD/ออนซ์ สัญญาทองคำล่วงหน้าร่วง 2.6% สู่ 2,297.30 USD/oz
ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 3.3% ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงปัจจุบัน โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,431.29 USD/oz ในช่วงต้นเดือนเมษายน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
“มีความต้องการจำนวนมากในเอเชียและมีความต้องการที่แข็งแกร่งจากธนาคารกลาง” Bob Haberkorn นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures กล่าว เรามีกระแสเงินสดเข้าสู่ช่องทางที่ปลอดภัยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นตลาดทองคำจึงอยู่ในสถานะกระทิงอย่างแน่นอนในขณะนี้ และจะเพิ่มขึ้นต่อไปในช่วงที่เหลือของปี”
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เริ่มการประชุมนโยบายการเงินสองวันในวันอังคาร โดยคาดว่าหน่วยงานจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% - 5.5% ทุกสายตาจับจ้องไปที่สุนทรพจน์ของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม เพื่อดูสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย
คาดว่าทองคำจะเคลื่อนตัวไปด้านข้างในวันนี้ทองคำโลกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงบันทึกการลดลงรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ (26 เมษายน) หลังจากที่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นตามที่คาดไว้ แต่โลหะที่ปลอดภัยยังคงบันทึกการลดลงในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์บางส่วนลดลง
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 26 เมษายน สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 2,339.70 USD/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงบันทึกการลดลงรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 หลังจากหลีกเลี่ยงไม่ให้บานปลายครั้งใหญ่ในวิกฤตตะวันออกกลาง
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 2,351.60 USD/ออนซ์
ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ การพัฒนาไม่น่าจะเปลี่ยนความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยจนถึงเดือนกันยายน 2024
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลงหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ ทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้น
“ข้อมูลยังคงชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อแบบถาวรมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป แต่ปฏิกิริยาของทองคำยังชี้ให้เห็นว่าตลาดมีราคาอยู่ในนี้” Tai Wong ผู้ค้าอิสระในนิวยอร์กกล่าว
“ทิศทางของทองคำขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นโดยรวมของสินทรัพย์เสี่ยงและปริมาณการซื้อจากตะวันออกไกล” นายหว่องกล่าวเสริม
คาดว่าทองคำจะขึ้นต่อราคาทองคำบน Kitco เมื่อเวลา 21.00 น. (25 เมษายน ตามเวลาเวียดนาม) ซื้อขายที่ 2,318 USD/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับช่วงต้นเซสชัน ราคาทองคำล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบในเดือนมิถุนายน 2567 บนพื้น Comex New York ซื้อขายที่ 2,342.2 USD/ออนซ์
ในช่วงเริ่มต้นของเซสชั่นการซื้อขายในวันที่ 25 เมษายน (เวลาสหรัฐอเมริกา) ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย กำลังซื้อของนักลงทุนเพิ่มขึ้นจากความเชื่อมั่นว่าตลาดจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้
ความต้องการทองคำในประเทศยังอยู่ในระดับสูง จากข้อมูลของ Ole Hansen นักวิเคราะห์ตลาดของ Saxo Bank ราคาทองคำลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนหน้าเนื่องจากการเทขายออก แต่นักลงทุนรายเดิมกลับเพิ่มการซื้ออีกครั้ง ส่งผลให้ทองคำขึ้น แม้ว่าราคาทองคำอาจลดลงในระยะสั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงมองโลกในแง่ดีในระยะยาว
การโฆษณาโดยบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำโดย Investing.com ดูข้อจำกัดความรับผิดชอบที่นี่หรือลบโฆษณา
ตามที่โจนาธาน โรส ซีอีโอของ Genesis Gold Group กล่าว ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นอีกเมื่อหลายประเทศจัดการเลือกตั้งในปีนี้ นอกเหนือจากความขัดแย้งทางทหารที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องในหลายส่วนของโลก
นายโจนาธาน โรส กล่าวว่าธนาคารกลางทั่วโลกมีความต้องการทองคำเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาโลหะมีค่าลดลงได้ยาก
คาดการณ์ราคาทองคำ
โอเล่ แฮนเซ่น คาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้ราคาทองคำอาจกลับมาอยู่ที่ระดับ 2,255-2,260 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์
ในขณะเดียวกัน Matt Simpson นักวิเคราะห์อาวุโสของ City Index คาดการณ์ว่าโลหะมีค่าจะกลับมาที่ระดับราคา 2,330-2,350 USD/ออนซ์เร็วๆ นี้
Jonathan Rose ซีอีโอของ Genesis Gold Group คาดการณ์ว่าในปี 2024 ด้วยการเลือกตั้งสหรัฐฯ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์มากมาย ราคาทองคำจะมีสถิติใหม่มากมาย
ทองคำโลกทรงตัวรอข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯราคาทองคำทรงตัวในวันอังคาร (23 เมษายน) หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองสัปดาห์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางคลี่คลายลง ในขณะที่นักลงทุนรอคอยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อให้เข้าใจแผนงานการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ได้ดียิ่งขึ้น
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 23 เมษายน สัญญาทองคำสปอตเกือบจะทรงตัวที่ 2,327.50 USD/ออนซ์ หลังจากแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2024 การไต่ขึ้นของทองคำในเดือนมีนาคม-เมษายน ส่งผลให้ราคาโลหะมีค่าขยับขึ้นเกือบ 400 USD สู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,431.29 USD/ออนซ์ในวันที่ 12 เมษายน 2024
สัญญาทองคำล่วงหน้าร่วง 0.2% อยู่ที่ 2,342.10 USD/oz
การโจมตีของอิสราเอลทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วฉนวนกาซาในการทิ้งระเบิดที่หนักที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ แต่ด้วยความกังวลว่าความขัดแย้งจะผ่อนคลายลงในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิหร่านกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า พวกเขาไม่ได้มีแผนจะตอบโต้หลังการโจมตีของอิสราเอล ตลาดการเงินแสดงสัญญาณของการพบว่าสินทรัพย์เสี่ยงที่น่าสนใจกว่า
“นั่นหมายความว่าทองคำ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ได้สูญเสียตำแหน่งไปแล้ว” Julia Khandoshko ซีอีโอของ Mind Money กล่าว
การโฆษณาโดยบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำโดย Investing.com ดูข้อจำกัดความรับผิดชอบที่นี่หรือลบโฆษณา
ตลาดยังจับตาดูสัญญาณจากสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งข้อมูลเงินเฟ้อและแถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แสดงให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยอาจไม่ลดลงในเดือนมิถุนายน นาง Khandoshko กล่าว
ความคิดเห็นล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ของ Fed แนะนำว่าไม่ควรเร่งรีบในการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะลดการอุทธรณ์ของโลหะที่ไม่ให้ผลตอบแทน ปัจจุบันนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน 2567
ตลาดจะติดตามข้อมูล GDP ของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 เมษายน และข้อมูลรายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคลของ PCE ในวันที่ 26 เมษายน เพื่อดูคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและจังหวะเวลาของการชะลอตัวของอัตราดอกเบี้ย
ทองคำ 24/4/67มุมมองส่วนตัว โซนราคาที่ดีที่สุดในฝั่งขาลงคือ2355-2362 และในฝั่งขาขึ้นก็ขึ้นได้เช่นกันแนะนำscalping
จะดีกว่าครับผม เพราะว่าsupply zoneก็ยังมีให้เห็น ยังไม่สามารถเป็นขาขึ้นได้100% ถ้าเบรค2364-2365ได้ จะเล่นเป็นฝั่งBuy VANTAGE:XAUUSD
***ในส่วนนี้เป็นแค่แนวทางประกอบการตัดสินใจไม่ได้ชักชวนหรือให้ลงทุนแต่อย่างใด***
***การลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาก่อนลงทุน*** ขอบคุณครับ
คาดว่าทองคำจะลดลงเหลือ 2365 จากนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 239ในความเป็นจริง เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่แน่ใจว่าอิสราเอลจะตอบโต้เมื่อใด ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และผู้นำหลายคนเรียกร้องให้อิสราเอลใช้ความยับยั้งชั่งใจ อย่างไรก็ตามนักลงทุนเชื่อว่าสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ก่อนหน้านี้ในตอนเย็นของวันที่ 13 เมษายน อิหร่านได้ส่งโดรนและขีปนาวุธมากกว่า 300 ลำเข้าโจมตีอิสราเอล นี่คือการตอบโต้ของอิหร่าน หลังจากที่กล่าวหาอิสราเอลว่าโจมตีสถานทูตอิหร่านในซีเรียเมื่อต้นเดือนนี้ สังหารเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของอิหร่านไปหลายคน
ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำ กระแสเงินสดล่าสุดได้เปลี่ยนเป็นทองคำอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นช่องทางหลบภัยจากพายุ การคาดการณ์บางส่วนกล่าวว่าทองคำอาจเกิน 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งที่สองได้อย่างง่ายดาย หากความขัดแย้งเพิ่มขึ้นในพื้นที่นี้
อย่างไรก็ตาม USD ได้เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มขึ้นของทองคำ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังค่อนข้างแข็งแกร่ง
ส่วนตัวมองขา BUY วันนี้ 2365.99 และมีสิทธิ์ลุ้น New high!!!มุมมองทองคำวันนี้ 10/4/2024
มุมมองส่วนตัว ถ้าทองสามารถทะลุลง 2336 ได้ มีสิทธิ์ขี้นต่อ
แต่ส่วนตัวมยังให้น้ำหนัก ขา BUY ต้านวันนี้ 2365.99
และมีสิทธิ์ลุ้น New high!!!
สำหรับ ขาSELL รอ Sell 2360-2365 TP 2326 sl 2370
สำหรับ ขาBUY รอ BUy 2335-2345 TP 2354-2363 SL2327
ข่าวในตางรางวันนี้ 19.30 /20.45 ข่าว(CAD)และสำคัญ 01:00 คืนนี้
FOMC Meeting Minutes อาจมีความผันผวนได้
และให้ระวังข่าวนอกตาราง
ถ้ามีสัญญาเดียวจะส่งอัปเดจให้ในกลุ่มVIp อีกครั้ง
All time high 2354!!! แม้ None farm ดีแค่ใหนทองไม่สนราคาทองคำ เช้าวันนี้ (8 เม.ย.) ปรับตัวขึ้นสร้างระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 2,354.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยถูกหนุนด้วยแรงซื้อทางเทคนิค หลังราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญก่อนหน้านี้ได้ อีกทั้งจากรายงานถึงการเข้าซื้อทองคำ ของธนาคารกลางจีน(PBOC) ในเดือนมี.ค. ซึ่งซึ่นับว่าเป็นการเข้าซื้อเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน แม้ในเดือนดังกล่าว ราคาทองคำมีการทำระดับสูงสสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง สะท้อนแนวโน้มการเข้าซื้อทองคำ ที่แข็งแกร่งของกลุ่มธนาคารกลาง ส่งผลให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำ ที่เพิ่มสูงขึ้นหนุนแรงซื้อทองคำ ให้สูงขึ้นตามไปด้วย
ขณะที่วันศุกร์ก่อนหน้า (5 เม.ย.) แม้เม้ศรษฐกิจสหรัฐมีมุมมองเชิงบวกที่เพิ่มขึ้นจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนมี.ค. ที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์เป็นอย่างมาก ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลง แต่ด้วยข้อมูลรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงนั้นไม่ได้ปรับเพิ่มสูงขึ้นจากคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนจึงยังมีมุมเชิงบวกต่อกระบวนการปรับตัวลงของเงินเฟ้อสหรัฐและเชื่อมั่นว่าเฟดจะยังสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในปีนี้ เป็นเหตุให้ราคาทองคำสามารถรักษาการเคลื่อนไหวในระดับสูงภายหลังการประกาศ
🙏ขอขอบคุณข้อมูลบทวิเคราะห์จาก บ.YLG thailand
------------------------
ความเห็นในเชิงเทคนิค
RSI สนับสนุนให้เกิดแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
แนวต้าน(Intraday)
2625.00🔽🔽🔽🔽(weekly)
2450.00🔽🔽🔽🔽(daily)
2400.00🔽🔽🔽(Round number)
2390.00🔽🔽
2375.00🔽
แนวรับ(intraday)
2312.00🔼
2292.00🔼
2281.00🔼🔼
2200.00🔼🔼🔼(Daily)
2095.00🔼🔼🔼🔼(Weekly)
--------------------------------------
🧠แนวคิดหลักวันนี้
เสี่ยงซื้อทำกำไรระยะสั้น เมื่อราคาปรับตัวลงสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 2312-2292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทยอยขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2,355-2,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์สถานะซื้อตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 2280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(แนวคิดอื่นๆรออัปเดทจากในกรุ๊บ)
--------------------------------------
ตัวอย่างแนวคิดแผน Buy
BUY zone 2307-23001-2296
SL 2980
TP1 2323
TP2 2343
TP3 2363
TP4 2373
--------------------------------------
ตัวอย่างแนวคิดแผน Sell
Sell zone 2365-2370-2375
SL 2395
TP1 2345
TP2 2325
TP3 2305
TP4 2285
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
--------------------------------------
คาดว่าทองวันนี้จะลดลงราคาทองคำโลกสร้างสถิติใหม่ในวันที่ 8 เมษายน เนื่องจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กิจกรรมการซื้อเก็งกำไร และการซื้อทองคำโดยธนาคารกลาง
เมื่อเวลา 10:10 น. ของวันที่ 8 เมษายน (เวลาเวียดนาม) ราคาทองคำโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 USD เป็น 2,366 USD/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับใหม่
หลังจากผันผวนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน ทองคำเริ่มพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2567 จนถึงวันนี้ราคาทองคำได้เพิ่มขึ้น 14% และสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง เหตุผลหลักมาจากความคาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ และความต้องการสถานที่หลบภัยท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่ามีเงินทุนไหลเข้ามากเกินไปและทุกคนกำลังไล่ตามจุดสูงสุดของตลาดซึ่งหนุนราคาทองคำพร้อมกับการซื้อที่แข็งแกร่งของนักลงทุน ธนาคารกลาง และการซื้อน้ำมันจักรกล
ปัจจัยหนึ่งที่อาจขัดขวางการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำก็คือนักลงทุนมีโอกาสน้อยที่จะคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศสร้างงานเพิ่ม 303,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ว่าจะมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งจากนักเศรษฐศาสตร์ที่เข้าร่วม ร่วมสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์ สิ่งนี้อาจทำให้ Fed ชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย
เมื่อวันที่ 3 เมษายน ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ย้ำว่าธนาคารกลางไม่รีบร้อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25% - 5.5% เมื่อเดือนที่แล้ว
David Meger ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะของ High Ridge Futures. Yellow กล่าวว่า "เมื่อถึงจุดหนึ่งของปีนี้ เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ มันก็ยังคงเป็นสภาพแวดล้อมเชิงบวกโดยพื้นฐานสำหรับตลาด"
Nonfarm Payrolls (NFP)จะดันทองไปต่อ All time high หรือไม่ ???วานนี้ทองถูกขายทำกำไรปิดย่อตัว $9.80!! หลังปรับขึ้นทดสอบ ATH $2,305!! อยู่สองครั้งจึงเกิดเป็น Double Top ขณะที่เกิด RSI bearish divergence จึงเกิดแรงขายทำกำไรในทางเทคนิคสลับเข้ามา ขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสวัดิการว่างงานที่สูงกว่าคาดสู่ระดับ 221,000 ราย ประกอบกับยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้น หลังบรรดาจนท.เฟดให้ถ้อยแถลงในเชิงที่แข็งกร้าว อาทิเฟดมินมินีแอโพลิส กล่าวว่าเฟดอาจไม่ลดดบ.ในปีนี้ หากเงินเฟ้อสูง ที่ระดับ 2,267 ซึ่งยังยก Low จากช่วงก่อนหน้าได้ จากสัญญาณ Hidden bullish divergence ราคาจึงฟื้นตัวขึ้นในระยะสั้นก่อนเปิดเผยตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐชุดสำคัญในคืนนี้ ซึ่งในทางตรงกันข้ามหากราคาหลุด Low อาจเกิดแรงขายเพิ่มขึ้นได้ แต่หากยังคงรักษาระดับเหนือ 2260 แนวโน้มขาขึ้นยังคงรักษาสเถียรภาพไว้อยู่ ซึ่งโอกาสที่มีมากมากสำหรับการสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อไป
🙏ขอขอบคุณข้อมูลบทวิเคราะห์จาก บ.YLG thailand
------------------------
นักลงทุน จับตารอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดก่อนที่จะทำการเดิมพันราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน ต้องติดตามการเปิดเผยรายละเอียดการจ้างงานรายเดือนของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด หรือที่เรียกว่ารายงาน Nonfarm Payrolls (NFP) ในภายหลังในช่วงเซสชั่นอเมริกาเหนือ หากแย่กว่าคาดการณ์ อาจบ่งบอกถึงตลาดแรงงานที่อ่อนตัวลง และเพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน สิ่งนี้อาจนำไปสู่การขาย USD มากขึ้นและการสนับสนุนทองคำ
------------------------
ความเห็นในเชิงเทคนิค
intraday 📉
RSI อยู่ในช่วงพักฐาน และเกิดโมเมนตั้มขาลงและทำให้สะสมเชิงลบต่อเนื่อง
หากยังไม่มีแนวต้าน 2293.00 เป้าหมายต่อไปที่ 2265.00 และ 2252.00
ทะลุ 2293.00 และยืนได้ คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 2305.00 และ 2320.00 เป็นเป้าหมาย
แนวต้าน(Intraday)
2450.00🔽🔽🔽🔽(weekly)
2360.00🔽🔽🔽🔽(daily)
2320.00🔽🔽🔽
2305.00🔽(Round number)
2293.00🔽
แนวรับ(intraday)
2265.00🔼
2252.00🔼
2241.00🔼🔼
2228.00🔼🔼🔼(Round number)
2135.00🔼🔼🔼🔼(Daily)
2065.00🔼🔼🔼🔼(Weekly)
--------------------------------------
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
--------------------------------------
เตรียมต้อนรับ 2300ราคาทองคำยังคงมีโมเมนตัมขาขึ้นที่ดี ความคาดหวังที่ 2,300 สูงมาก
ระหว่างวันยังพยายามทดสอบระดับแนวต้านที่ 2266 - 2275 - 2283 - 2305
🔄หากยังไม่ผ่าน High เมื่อวาน(2265) ระวังแรงขาย
‼️แต่หากทำ New high ได้ มันจะมี เป้าขึ้น 2275 / 2283- / 2303-04 ตามลำดับ
....
ความเห็นทางเทคนิค
RSI อยู่ในช่วงขาขึ้นและทำให้เกิดแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง🚀
ถือสถานะ buy ต่ำกว่า 2232.00 เป้าหมายต่อไปที่📈 2266 และ 2275 😵
2232 เป็นแนวรับ Pivot🔄 หากหลุดแนวรับดังกล่าว โดยคาดหมายว่าอาจมีแนวโน้มขาลงต่อเนื่องที่แนวรับถัดไป 2218.00 และ 2201.00 เป็นเป้าหมาย📉
แนวต้าน(intraday)
2313.00🔽🔽🔽🔽
2285.00🔽🔽🔽
2275.00🔽🔽
2264.00🔽
แนวรับ(Intraday)
2232.00🔼
2218.00🔼🔼
2201.00🔼🔼🔼
2173.00🔼🔼🔼🔼
📈ปัจจัยพื้นฐาน
แม้ราคาทองคำ มีแรงกดดันจากเมื่อวานนี้ที่ดัชนีดอลลาร์ที่ร์ ที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 20 สัปดาห์ ขานรับภาคผลิตสหรัฐพลิกมาขยายตัวได้ อย่างไรก็ตามทองคำมีแรงซื้อสินทรัพรัย์ปลอดภัยสลับเข้ามา หลังอิสราเอลโจมตีสถานเอกอัครราชทูตอิหร่าน ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงดามัสกัส เมืองหลวงซีเรีย และส่งผลให้ผู้บัญชาการทหารอิหร่านเสียชีวิต แรงซื้อดังกล่าวหนุนให้ทองคำ เช้าขึ้นทำ ทดสอบ High เดิมอกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในทางเทคนิคยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร ในบริเวณแนวต้าน ซึ่งเป็น All time high ใกล้กับกรอบ Sideway up ด้านบนด้วยเช่นกัน ในโซนดังกล่าวจึงอาจมีแรงขาย หากตัวเลขสหรัฐแข็งแกร่งต่อ
--------------------------------------
(แนวคิดเพิ่มเติมอื่นๆติดตามจากในกรุ๊บ)
--------------------------------------
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
--------------------------------------
สนับสนุนพวกเราด้วยการกดปุ่ม Boost(ส่งเสริม)🚀 / และแสดงความคิดเห็นต่อไอเดียของเรา💬 ขอบพระคุณครับ🙏
ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการซื้อขาย หรือการลงทุน❤️
คาดว่าทองคำจะลดลงเล็กน้อยในวันนี้แล้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบางครั้งทองคำโลกก็สูงถึงเกือบ 2,290 เหรียญสหรัฐ
ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันจันทร์ (1 เมษายน) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่ลดลง และการดึงดูดให้โลหะมีค่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 1 เมษายน สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 2,240.04 USD/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.8% อยู่ที่ 2,257.10 USD/oz สัญญาทองคำแตะจุดสูงสุดของเซสชันที่ 2,286.4 USD/ออนซ์
Joseph Cavatoni นักยุทธศาสตร์การตลาดของ World Gold Council (WGC) กล่าวว่า "ผมคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับทองคำ" “ผมคิดว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนทองคำจริงๆ ก็คือนักเก็งกำไรจำนวนมากในตลาดมีความมั่นใจและสบายใจกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ”
ผู้เฝ้าดูตลาดคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
มาตรการวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของเฟดในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าช้าก่อนที่จะเริ่มดำเนินการได้ พิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย
เฟดคงจุดยืนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเมื่อสิ้นสุดการประชุมเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่คงการคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้ง
ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์เชิงลบกับอัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ทองคำจะมีความน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่มีรายได้คงที่ เช่น พันธบัตร ซึ่งให้ผลตอบแทนน้อยกว่าในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่สูงขึ้นเช่นกัน ในประเทศจีน นักลงทุนเอกชนถูกดึงดูดให้ทองคำเนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์มีผลการดำเนินงานไม่ดี และในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนแอ และตลาดหุ้นและสกุลเงินของประเทศอยู่เฉยๆ ดี
จนถึงขณะนี้ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมการซื้อที่แข็งแกร่งจากธนาคารกลางโลกเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนสำรองเนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราเงินเฟ้อในประเทศ และความอ่อนตัวของ USD
คาดว่าทองคำจะลดลงเหลือ 2,245ทองคำมีราคาสูงขึ้นท่ามกลางโลกที่ไม่มั่นคง
ทองคำเป็นหนึ่งในไม่กี่หัวข้อที่เป็นข้อถกเถียงในชุมชนการลงทุน บางคนเชื่อว่านี่เป็นสินทรัพย์ถือครองที่จำเป็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ คนอื่นๆ มองทองคำเป็นเพียงสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ แย่กว่าหุ้นในระยะยาว
ราคาทองคำได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเร็ว ๆ นี้จนสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ไม่ใช่เพราะความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ในความเป็นจริง ตลาดทองคำเปล่งประกายท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มสูงขึ้น และสหรัฐฯ กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งผลลัพธ์อาจนำไปสู่ผลกระทบที่ยากลำบากในการวัดตลาดการเงิน
ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 2023 ราคาทองคำเพิ่มขึ้นในอัตราทบต้น 7.5% ต่อปี แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน ดัชนีตลาดหุ้น S&P 500 ได้รับผลตอบแทนทบต้น 10.6% ต่อปี
ทองคำอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2070 จากนั้นลดลงเป็น 2050เงินดอลลาร์สหรัฐมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันซื้อขายแรกของปี โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังรอข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ และตัวเลขเงินเฟ้อของยุโรปที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อประเมินทิศทางที่เป็นไปได้ของนโยบายของธนาคารกลาง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดที่เปรียบเทียบสกุลเงินสหรัฐฯ กับสกุลเงินหลักอื่นๆ อีก 6 สกุลเงิน เพิ่มขึ้น 0.7% ถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ซึ่งตามมาด้วยการลดลง 2% ในปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดการเพิ่มขึ้นสองปีติดต่อกัน การลดลงในปีที่แล้วได้รับอิทธิพลจากความคาดหวังของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเผชิญกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
ปัจจัยสนับสนุนการล่วงหน้าของเงินดอลลาร์คืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น โดยธนบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 7.1 จุดเป็น 3.931% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางของการเพิ่มขึ้นรายวันที่สำคัญที่สุดในรอบกว่าสามสัปดาห์
แม้ว่าเงินดอลลาร์เผชิญกับแรงกดดันขาลงเมื่อเดือนที่แล้วภายหลังจากสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่อาจลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 Win Thin หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สกุลเงินระดับโลกของ Brown Brothers Harriman &Co ตั้งข้อสังเกตว่า "ตลาดกำลังตระหนักอย่างช้า ๆ ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง" เขาแนะนำว่า "การลงจอดแบบนุ่มนวล" อาจนำไปสู่การลดมาตรการป้องกัน 2-3 ครั้งภายในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดกำลังกำหนดราคาให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 6 ครั้งในปีนี้ ผลที่ได้คือ Thin ชี้ให้เห็นว่าเงินดอลลาร์อาจยังคง "อยู่ภายใต้แรงกดดันและเปราะบาง" จนกว่าความคาดหวังเหล่านี้จะถูกต้อง
เงินยูโรร่วงลง 0.8% สู่ระดับ 1.0956 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ซื้อขายที่ 1.262 ดอลลาร์ ลดลง 0.81% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เงินเยนของญี่ปุ่นก็อ่อนค่าลงเช่นกัน โดยซื้อขายลดลง 0.56% ที่ 141.66 ต่อดอลลาร์
นักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสัปดาห์ที่ยุ่งวุ่นวายด้วยการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อของยุโรป ตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ และการจ้างงานนอกภาคเกษตร ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือในการกำหนดความคาดหวังเกี่ยวกับการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรป
การคาดการณ์ในวันนี้คือทองคำจะยังคงลดลงต่อไปจนถึงปี 2026ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2023 คณะกรรมการตลาดกลางกลาง (FOMC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำหนดนโยบายของเฟด ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25 - 5.5% สมาชิกคณะกรรมการกล่าวว่าพวกเขาคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 75 จุดพื้นฐาน (bps) ในปี 2567
อย่างไรก็ตาม รายงานการประชุมใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 มกราคม ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลมากนักว่า Fed เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใดหรืออย่างไร ตามรายงานของ CNBC
“ในการหารือเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบาย สมาชิก FOMC ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราดอกเบี้ยอาจถึงจุดสูงสุดหรือใกล้จุดสูงสุดในรอบที่เข้มงวดในปัจจุบัน แม้ว่าพวกเขาจะตั้งข้อสังเกตว่าเส้นทางนโยบายที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ” รายงานการประชุมระบุ
สมาชิก FOMC สังเกตเห็นความคืบหน้าในการต่อสู้เพื่อควบคุมราคา พวกเขากล่าวว่าปัจจัยด้านห่วงโซ่อุปทานที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในปีที่แล้วดูเหมือนจะผ่อนคลายลง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังกล่าวถึงการพัฒนาเชิงบวกในตลาดแรงงาน แม้จะย้ำว่าเฟดยังมีงานต้องทำอีกมาก พวกเขากล่าวว่าตลาดแรงงานกำลังค่อยๆ กลับคืนสู่สมดุล
ดอทพล็อตแสดงความคาดหวังของสมาชิก FOMC ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงสามปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมระหว่างธนาคารเข้าใกล้ระดับระยะยาวที่ 2% มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาวางแผนที่จะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยสามครั้งในปี 2567 อีกสี่ครั้งในปี 2568 และสุดท้ายอีกสามครั้งในปี 2569
ในการคาดการณ์ สถานการณ์กรณีพื้นฐานของสมาชิก FOMC ส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางจะลดลงภายในสิ้นปี 2567