Gold Today Plan... 04.02.22เมื่อคืนราคาทองได้ร่วงลงไปแนว 1788-1790 จากปัจจัยของผลของการประชุมการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่ทางผลประชุมของBoE มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.5% ตามคาด ขณะที่ ECB มีมติยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด โดยผลของแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของทางอังกฤษและทางยุโรปนั้น ส่งผลให้หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลี, เยอรมนี, อังกฤษ และสหรัฐฯ อย่างมาก และจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยข้างต้นยังส่งผลให้ค่าเงินปอนด์และเงินยูโรแข็งค่าขึ้นทำให้กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้ปัจจัยหลังกลายเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำกลับขึ้นมาเหนือ 1800 อีกครั้งโดยทันทีจากที่ร่วงลงไป
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ตัวเลขค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ (Average Hourly Earnings), ดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน (ที่ไม่รวมภาคการเกษตร) (Non-Farm Employment Change) และ อัตราการว่างงาน (Unemployment rate)
-เชิงเทคนิคคอล-
ถึงแม้ว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจทีกล่าวข้างต้นจะทำให้ราคาร่วงแล้วก็กลับมาขึ้นปิดเหนือ1800 เหมือนเดิม และวันนี้ก็ยังอยู่ในช่วง 1804-1809 และถึงแม้ราคาจะร่วงลงไป Sto. RSI และ MACD Timeframes H1 และ H4 นั้นก็ยังไม่เข้า oversold และก็ยังมีแนวโน้มที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกราฟได้ทะลุแนวกรอบขาลงระยะสั้นออกมาแต่ก็ยังไม่ชัดเจนในกรอบขาขึ้นมากหนัก โดยยังมีแรงขายใน Keyzone 1810-1812 อย่างต่อเนื่อง และอาจจะมองได้ว่าเกิด Pattern Bearish Rising Wedge ก็เป็นได้
เพราะหากดู Sto. Timeframes H4 ที่ Overbought และกำลังจะเกิดภาพ Hidden Bearish Divergence อีกทั้ง Sto. RSI และ MACD Timeframes ใน H1
และ Sto. Timeframes M15 นั้นก็กำลังเกิด Bearish Divergence เช่นกัน จึงคาดว่าโอกาสที่ราคาจะมีการย่อลงมากนั้นสูง แต่หากย่อลงมาไม่ต่ำกว่า 1805 ก็ถือว่า effect ของ Divergence นั้นไม่มีผลมากหนัก และราคาอาจะขึ้นไปทดสอบแนว
1810-1812 อีกครั้งและหากผ่านไปได้ ก็จะไปทดสอบจุดสำคัญที่แนว 1815-1817 ที่จะเป็นจุดยืนยันว่ากราฟราคาจะอยู่ในกรอบขาขึ้นต่อไปในระยะสั้นหรือจะเป็น Pattern Bearish Rising Wedge ที่อาจจะเกิดการร่วงและการเทขายเชิงเทคนิคคอล
โดยยังต้องจับตา Keyzone ทั้ง 2 เช่นเดิม โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยยังเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 อีกทั้งเป็นแนวเส้น EMA200/100/50 ของ H4 อีกด้วย และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1802
และจับตาแนวย่อยที่สำคัญ แนว 1805 ที่เป็นแนวเส้น EMA200 Timeframes M15 และ M30 แนวเส้น EMA100และ50 ของ Timeframes H1 และแนวเส้น EMA20 ของ Timeframes H4 อีกทั้งยังเป็นแนวกรอบล่างของขาขึ้นระยะสั้นอีกด้วย
และแนวย่อยสำคัญอีกแนวคือ 1815-1817 ซึ่งหากผ่านไปได้ก็จะยิ่งหนุนขาขึ้นมากยิ่งขึ้น
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1815-1817 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1800-1805 ระยะกลางที่แนว 1787-179
สรุปภาพรวม : ขาขึ้นระยะสั้นยังได้เปรียบแต่ยังต้องจับตา keyzoneที่ 1 และจุดแนว 1815-1817 ซึ่งหากราคาไม่ผ่านจุดดังกล่าวก็อาจจะทำให้มุมมองที่จะเป็น Pattern Bearish Rising Wedge ก็มีมากขึ้น อาจจะทำให้ราคาร่วงอย่างรุนแรงได้
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1803-1805 TP 1810-1815 SL 1797-1800
*Bet Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1810-1814 TP 1800-1805 SL 1815-1818
*Bet Sell Zone 2 : 1800-1802 TP 1793-1795 SL 1805-1807
Follow Sell Zone 3 : 1795-1798 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Goldtrading
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำกลับมาปิดแดนลบอีกครั้งหลังปิดบวกมากว่า 4 วัน
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดแดนลบหลังปรับบวกมา 4 วันแล้ว การปรับลงของทองคำครั้งนี้เป็นการปรับลงจากแรงกดดันการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.834% เมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง 6.20 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,804.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ ที่นักลงทุนให้ความสำคัญและเฝ้าติดตามตัวเลขดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ตัวเลขว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ไว้อีกว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐจะเป็นปัจจัยชี้ทิศทางทองคำ นอกจากนี้คาดว่าเทรดเดอร์ในตลาดทองคำจับตารายงานตัวเลขดังกล่าวอย่างใกล้ชิดว่าตลาดหุ้นจะตอบสนองปฏิกิริยาอย่างไรต่อตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวที่จะออกมาในคืนนี้ ซึ่งหากตัวเลขออกมาเป็นที่น่าผิดหวังของตลาด ก็จะสร้างความบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน เป็นเหตุให้เกิดผลต่อราคาทองคำได้เช่นกัน
วันนี้ติดตามสถานการณ์ความสำคัญดังต่อไปนี้
20:30 การจ้างงานนอกภาคการเกษตร คาดการณ์ 150,000 ตำแหน่ง
20:30 อัตราการว่างงาน (ม.ค.) คาดการณ์ 3.9%
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ได้อีกครั้งหลังจากวานนี้ถูกกดดันราคากลับไปที่แนวรับบริเวณ 1796-1887 อีกครั้ง โดยทำจุดต่ำสุดของเมื่อวานที่ระดับ 1788.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับภาคกลางวันวันนี้คาดว่าทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด ก่อนช่วงเย็นจะเริ่มมีความผันผวนเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยราคาทองคำอาจอยู่ระหว่าง 1808-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตลอดช่วงกลางวัน จึงแนะนำให้นักลงทุนเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด สำหรับใครที่แบกรับความเสี่ยงได้นั้นก็อาจเทรดตามการขึ้นลงของราคา แต่ระมัดระวังแนวการเคลื่อนไหวที่จำกัดตัว อาจส่งผลต่อการทำกำไรได้ จึงควรรอเวลาที่จะมีการรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในค่ำคืนนี้ผ่านพ้นไปก่อน สำหรับผู้ที่มีคำสั่งการซื้อขายอยู่ก่อนหน้าก็ควรระมัดระวังในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย เพราะอาจส่งผลต่อพอร์ตการลงทุนโดยตรงได้เช่นกัน
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับขึ้นเหนือระดับ 50 และมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในระดับ 60-50 ก่อนรายงานข่าวจะออกมา
เส้น SMA200 เคลื่อนไหวเข้าใกล้กลุ่มราคา คาดว่าจะมาบรรจบกันที่ระดับบริเวณ 1808-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เส้น SMA 50 เส้นวัดแรงซื้อขายระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวขึ้นและรองรับราคาได้ดีเวลานี้ ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุดลงมาแสดงถึงแรงซื้อที่สนับสนุนให้เคลื่อนไหวราคาขึ้นด้านบนต่อไป
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
ไม่แนะนำการซื้อขายในช่วงเวลาก่อนที่จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในเวลา 20:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1815 / 1829 / 1850
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1782 / 1752
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1817 / 1826 / 1838
-------------------------------------------
Support : 1798 / 1780 / 1760
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = N
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก 1.75 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,014.84 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,804.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +0.58 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 03.02.22กราฟราคาทองคำได้ขึ้นไปทำ new high ในรอบ 1 อาทิตย์ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในฝั่งขาขึ้น โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี และการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ประธานาธิบดีไบเดนได้อนุมัติการส่งกำลังทหารสหรัฐจำนวน 3,000 นายเข้าไปประจำการในยุโรปตะวันออก ประกอบกับผลการประกาศตัวเลขดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงานจาก ADP นั้นลดลงอย่างมาก ซึ่งผิดกับที่คาดการณ์ไว้ จากข่าวดังกล่าวทำให้กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯอย่างมาก และหนุนราคาทองคำ
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ (Unemployment Claims) และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Service PMI)
-เชิงเทคนิคคอล-
ราคาขึ้นไปทดสอบแนว 1807-1812 อีกครั้งตามที่คาด แต่ด้วยจุดนี้เป็นแนวต้านนัยยะสำคัญและอาจจะถือเป็นแนวกรอบขาลงระยะสั้น จึงทำให้ราคากราฟยังไม่สามารถผ่านไปได้ ประกอบกับการขายเชิงเทคนิคคอลที่ Sto. RSI และ MACD Timeframes H1 และ H4 เกิดภาพ Bearish Divergence
โดยภาพกราฟราคายังอยู่ในกรอบขาลงระยะสั้นก่อนหน้า แต่หากดู Sto. Timeframes H1 ที่กำลัง oversold นั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น oversold Higher Low และ MACD อาจจะเกิดภาพ Hidden Bullish Divergence ทำให้มีความเป็นไปได้ราคาจะทะลุเส้นกรอบขาลงระยะสั้นก่อนหน้าและเปลี่ยนเป็นกรอบขาขึ้นระยะสั้นแทน และคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนว Keyzone 1807-1812 อีกครั้ง หากทะลุขึ้นไปได้ก็มีความเป็นได้สูงที่จะขึ้นไปเป้าขาขึ้นระยะกลางต่อไป
โดยให้จับตา Keyzone ทั้ง 2 เช่นเดิม โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยยังเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 อีกทั้งเป็นแนวเส้น EMA200/100/50 ของ H4 อีกด้วย และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1802 และจับตาแนวย่อย 1804 ที่เป็นแนวเส้น EMA200 Timeframes M15 และ M30 แนวเส้น EMA100และ50 ของ Timeframes H1 และแนวเส้น EMA20 ของ Timeframes H4
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1807-1812 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1790-1793 ระยะกลางที่แนว 1780-1785
สรุปภาพรวม : ในช่วงวันสองวันนี้ระยะสั้นขาขึ้นยังได้เปรียบหลังจากราคายังไม่ต่ำกว่าแนว 1797-1800 แต่ก็ต้องจับตา keyzone และกรอบราคาขาขึ้นทั้งสอง คาดว่าราคาจะเลือกทางในวันสองวันนี้ ซึ่งหากยังไม่สามารถผ่าน keyzone 1 ได้ภาพรวมก็ยังเป็นขาลงอยู่ แต่ระยะกลาง-ยาวขาขึ้นยังได้เปรียบ
-- แผนเข้า -- (คล้ายเมื่อวาน)
Buy Zone 1: 1796-1802 TP 1807-1812 SL 1794-1797
Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1807-1812 TP 1798-1800 SL 1815-1818
Sell Zone 2 : 1793-1797 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำปรับปิดบวกต่อเนื่องได้เป็นวันที่ 3
ตลาดทองคำยังคงสามารถปิดบวกได้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แม้ในระหว่างวันอาจมีช่วงการทำกำไรสลับออกมาก็ตาม แต่ก็ยังคงมีแรงซื้อเข้าสนับสนุนตลาดทองคำจนสามารถผ่านระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,810.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เมื่อคืนนี้มีรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่ออกมาร่วงลงอย่างหนักในเดือนม.ค. โดยทาง ADP ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ลดลง 301,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม และถือเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขดังกล่าวออกมาย่ำแย่ สวนทางกับการวิเคราะห์ที่คาดกว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และในส่วนของภาคบริการนั้นการจ้างงาานก็ลดลง 274,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ขณะที่ภาคการผลิตจ้างงงานลดลง 27,000 ตำแหน่ง ตัวเลขดังกล่าวส่งผลกดดันสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักลดลง 0.40% แต่ะที่ระดับ 95.99 เมื่อคืนนี้
และอีกส่วนสำคัญที่ดอลลาร์กำลังโดนกดดันจากตลาดการลงทุนก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าของเฟดหลายคนส่งสัญญาณออกมาว่าจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.50% ในการประชุมเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนี้วันนี้นักลงทุนจับตาการประชุม BoE และ ECB โดยนักวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากที่เงินเฟ้อของอังกฤษได้พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ทางฝั่งของ ECB คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ เพิ่มเติม
สำหรับวันศุกร์ที่จะถึงนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ ที่นักลงทุนให้ความสำคัญและเฝ้าติดตามตัวเลขดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ตัวเลขว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
สำหรับวันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคือ0.28% ที่ระดับ 96.27 ในคืนวานนี้ ทั้งนี้แม้ทองคำจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ก็ตามที แต่แรงกดดันจากการที่ความคาดหวังในการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ยังเป็นตัวสร้างแรงกดดันให้ทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก และนักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญต่อตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ NFP (Non farm payrolls) ที่จะมีการรายงานตัวเลขในค่ำคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง ในเดือนม.ค. และคาดกว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
วันนี้ติดตามสถานการณ์ความสำคัญดังต่อไปนี้
19:00 น. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางอังกฤษ (0.50%)
19:45 น. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางยุโรป (0.00%)
20:30 น. จำนวนคนยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐ (245,000 คน)
20:30 น. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ ECB
22:00 น. ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบัน ISM (ม.ค.) (59.5)
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ภาพรวมทองคำยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอยู่ขณะนี้ ถ้าพิจารณาในกรอบรายวัน หากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นก็จะมีโอกาสที่ราคาทองคำจะกลับไปบริเวณ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง สำหรับกรอบรายชั่วโมงทองคำเช้านี้ยังแกว่งตัวเหนือระดับ 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สนับสนุนแรงบวกเข้าซื้อทองคำขณะนี้ โดยหากราคาทองคำขยับขึ้นเหนือระดับ 1815-1816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำกรอบรายชั่วโมงจะขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (SMA200) ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแน้วต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะมีการเทขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมากันอีกรอบ ซึ่งจะประเมินแนวรับที่ระดับ 1800-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับขึ้นเหนือระดับ 60 และมีแนวโน้มที่จะขึ้นทดสอบระดับ 70 ส่วนเส้น SMA20 ยังเคลื่อนไหวขึ้นในแดนบวก
เส้น SMA200 เคลื่อนไหวเข้าใกล้กลุ่มราคา คาดว่าจะมาบรรจบกันที่ระดับบริเวณ 1810-1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เส้น SMA 50 เส้นวัดแรงซื้อขายระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวขึ้นและรองรับราคาได้ดีเวลานี้ ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุดลงมาแสดงถึงแรงซื้อที่สนับสนุนให้เคลื่อนไหวราคาขึ้นด้านบนต่อไป
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1797-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำปรับตัวลงมาทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวต้าน 1817-1826 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวรับ 1797-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดเหนือ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1815 / 1829 / 1850
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1782 / 1752
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1817 / 1826 / 1838
-------------------------------------------
Support : 1798 / 1780 / 1760
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = N
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก 1.45 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,016.59 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,806.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 3
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +2.33 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 02.02.22ในช่วงวันสองวันนี้ราคาได้ขยับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย คาดว่าได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นผลจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
อีกทั้งคลายความกังวลการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้หนุนราคาขึ้นไปทดสอบแนว 1807-1812 แต่ก็ได้ร่วงลงมาจากผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM Manufacturing PMI)และการเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)
ที่ตัวเลขออกมาเป็นผลบวก ทำให้กดดันราคาทองร่วงลงไปทดสอบแนว 1797-1800 ซึ่งแนวรับเชิงจิตวิทยานัยยะสำคัญ
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน (ที่ไม่รวมภาคการเกษตรและภาครัฐ) (ADP Non-Farm Employment Change)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากราคาขึ้นไปทดสอบแนว 1807-1812 ที่เป็นเปาขาขึ้นแรก และถือเป็นจุดที่ Sto. และ RSI ใน Timeframes ตั้งแต่ H4 ย่อยลงไปจน M15 นั้น เข้าoverbought พอดี และประกอบกับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นผลลบกับทอง
ทำให้เกิดการขายเชิงปัจจัยเศรษฐกิจและเชิงเทคนนิคคอล ทำให้ราคาร่วงลงมาลงทดสอบแนวรับช่วง 1797-1800 โดยที่ Sto. และ RSI ใน Timeframes H1 ถึง M15 นั้น ยังไม่ oversold และหากเทียบ Sto. oversold กับราคาก่อนหน้าถือเป็น oversold Higher Low และประกอบกับเกิดภาพ Bullish Divergence ใน Timeframes M15 ใน Sto. RSI และ MACD และราคาอยู่ใน keyzone แนวรับสำคัญ 1797-1800 จึงมีความเป็นไปได้ที่ราคายังจะยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้
และคาดว่าราคาจะปรับขึ้นทดสอบแนว Keyzone ช่วง 1807-1812 อีกครัง
โดยให้จับตา Keyzone ทั้ง 2 โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 และ H4 ซึ่งจุดนี้หากราคาสามารถยืนเหนือขึ้นได้สำเร็จก็ยังยิ่งหนุนแรงขาขึ้นระยะสั้นได้อีก
และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1801 หลังจากที่ราคาร่วงลงมาทดสอบแล้วไม่ผ่าน ถือเป็นแนวรับนัยยะสำคัญและถือเป็นแนว POC ด้วย ซึ่งหากราคาไม่ได้รับกดดันและยังไม่หลุดแนวนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นต่อได้ แต่หากราคาได้รับแรงกดดันทำให้ราคาร่วงลง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะลงไปทดสอบเป้าขาลง
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1807-1812 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1790-1793 ระยะกลางที่แนว 1780-1785
สรุปภาพรวม : ระยะสั้นขาขึ้นยังได้เปรียบหลังจากราคายังไม่ต่ำกว่าแนว 1797-1800 แต่ก็ต้องจับตา keyzone ที่ 1 หากยังไม่สามารถผ่านได้ภาพรวมก็ยังเป็นขาลงอยู่ แต่ระยะกลาง-ยาวขาขึ้นยังได้เปรียบ
-- แผนเข้า -- (คล้ายเมื่อวาน)
Buy Zone 1: 1796-1802 TP 1807-1812 SL 1794-1797
Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1807-1812 TP 1798-1800 SL 1815-1818
Sell Zone 2 : 1793-1797 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
#Gold #Goldtrading #goldidea #xauusd #วิเคราะห์ทอง #วิเคราะห์ทองคำ #ลงทุนทอง #ลงทุนทองคำ
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำกลับมาปิดบวก $5.10 อีกครั้งเหตุขัดแย้งยูเครนมีแรงหนุนเข้าซื้อทองคำ
ตลาดทองคำยังคงปิดบวกได้อีกวันหนึ่ง โดยทองคำกลับไปยืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง เหตุผลการกลับมาซื้อทองคำของนักลงทุนก็ยังคงเป็นประเด็นจากความกังวลต่อสถานการณ์ของยูเครนขณะนี้ เนื่องจากความตึงเครียดดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อทองคำ ประกอบกับราคาทองคำที่ปรับตัวอ่อนลงเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อทำกำไรระยะสั้นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,801.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากความตึงเครียดของยูเครนแล้วนั้น ก็ยังมีการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ช่วยให้ทองคำขยับตัวขึ้นได้เช่นกัน โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก ลดลง
สำหรับวันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคือ0.28% ที่ระดับ 96.27 ในคืนวานนี้ ทั้งนี้แม้ทองคำจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ก็ตามที แต่แรงกดดันจากการที่ความคาดหวังในการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ยังเป็นตัวสร้างแรงกดดันให้ทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก และนักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญต่อตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ NFP (Non farm payrolls) ที่จะมีการรายงานตัวเลขในค่ำคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง ในเดือนม.ค. และคาดกว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
วันนี้ตลาดการเงิน การลงทุนของจีนยังคงเป็นวันหยุดช่วงเทศการตรุษจีน และติดตามรายงานตัวเลขสำคัญของสหรัฐในค่ำคืนนี้อาทิเช่น
ติดตามการประชุม OPEC 17:00 น.
ติดตามการจ้างงานภาคเกษตกรรมจาก ADP (ม.ค.) คาดการณ์ 207,000 ตำแหน่ง 20:15 น.
ติดตามคลังสินค้าน้ำมันดิบเมือง Cushing 22:30 น.
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำทางเทคนิคเช้านี้ราคาแกว่งตัวในบริเวณ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงเข้าซื้อในช่วงเช้าลดลงทำให้ราคาทองคำกลับมาใกล้ๆ บริเวณแนวรับ 1798 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง (ระดับ Fibonacci 23.6% H1) ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำไปจากแนวดังกล่าวก็ยังมีโอกาสที่แรงซื้อจะเข้ามาสนับสนุนราคาให้กลับขึ้นไปได้อีก ทั้งนี้ทุกครั้งที่มีการปรับร่วงลงจากการทำกำไรบางส่วนของตลาดออกมานั้น ก็มักจะมีการเข้าซื้อทองคำกลับมาเสมอในช่วงเวลานี้ จึงควรมองหาโอกาสการเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นในแนวรับสำคัญๆ ต่าง ราคาทองคำอาจยังไม่โดดเด่นนักในเวลานี้จากที่นักลงทุนต่างเฝ้ารอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาในช่วงค่ำวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เพื่อจะได้คาดการณ์ต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐต่อไป
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 ด้วยแรงซื้อที่ยังแกว่งตัวในบริเวณดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้าเปิดตลาดมา สำหรับ SMA20 ก็ปรับตัวลดลงเช่นกันแต่ยังคงในลักษณะการปรับฐานระยะสั้น
เส้น SMA200 ยังปรับตัวลงโดยเข้าใกล้บริเวณ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนว fibo 50% ด้วย
เส้น SMA 50 ยังปรับตัวขึ้นสะท้อนถึงแรงซื้อในตลาดระยะสั้นเข้าครองตลาดได้ในเวลานี้ จึงยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อีกในระยะสั้น
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1797-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำปรับตัวลงมาทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวรับ 1797-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดเหนือ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1830 / 1850
-------------------------------------------
Support : 1782/ 1752 / 1718
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1808 / 1817 / 1826
-------------------------------------------
Support : 1780/ 1760 / 1753
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = เข้าซื้อ 0.29 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,018.04 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,800.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 2
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +3.78 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 01.02.22ราคาหลังจากมีแรงขายต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่าน โดยตลาดสัปดาห์นี้เปิดขึ้นมาเมื่อวานกลับมีแรงซื้อเข้ามาโดยคาดว่าได้รับแรงหนุนจากการคลายความกังวลการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
โดยถึงแม้ว่าทางผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯกล่าวว่าจะขึ้นดอกเบี้ยภายในเดือน มีค. แต่ก็กล่าวต่ออีกว่าการขึ้นดอกเบี้ยหลังจากนั้นจะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจว่ามีการพัฒนาอย่างไร อีกทั้งยังส่งสัญญาณถึงความต้องการ
ที่จะเปิดทางเลือกอื่นๆหากต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของอัตราเงินเฟ้อและการระบาดของ covid-19 ปัจจัยดังกล่าวส่งผลทำให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯนั้นให้อ่อนค่าลงต่อเนื่องหลังจากขึ้นไปทำ new high ที่แนว 97.441 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อีกทั้งยังส่งผลกระทบกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ราคาก็ร่วงลงต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ทำให้ช่วยหนุนราคาทองคำปิดเหนือ 1800 ได้ในเมื่อวาน
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM Manufacturing PMI)และการเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากกราฟราคาได้ลงไปที่แนว 1778-1780 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญอย่างมากและราคาไม่สามารถทะลุผ่านลงไปได้โดยมีแรงซื้อกลับโดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและปัจจัยทางเทคนิคคอล Buy on dip ที่เป็นการเข้าซื้อหลังจากราคา
ร่วงลงมาอย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน เนื่องจากราคาทองคำระยะกลาง-ยาวยังมองว่าเป็นขาขึ้นอยู่ (ใน weekly plan เมื่อวานวิเคราะห์ไว้อยู่ครับกด link ด้านล่างได้เลยครับ ) ทำให้ราคากลับขึ้นยืนเหนือช่วงราคา 1800 ได้สำเร็จ
โดยใน Timeframe ย่อยต่างๆ ไม่ว่า M15 M30 และ H1 นั้น ราคานั้นได้ปรับขึ้นต่อเนื่องและ Sto. overbought ต่อเนื่อง โดยที่ราคาก็ higher high ปรับขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน ส่งผลให้ในระยะสั้นขาขึ้นกลับมาได้เปรียบขึ้นบ้าง
แต่หากดูในส่วน RSI นั้น Timeframe เล็ก M15 และ M30 นั้น overbought แล้วและกำลังจะย่อตัว ทำให้เกิดภาพ Bearish Divergence ประกอบกับ Sto. H4 และ RSI H1 นั้น เข้า overbought แล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาย่อตัวเล็กน้อย เพื่อสะสมกำลังซื้อ
และทำราคาขึ้นไปยังแนวต่อไป
โดยให้จับตา Keyzone ทั้ง 2 โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 และ H4 ประกอบกับเป็นแนว Fibo. ระดับ 0.382 ด้วยเช่นกัน ซึ่งจุดนี้หากราคาสามารถยืนเหนือขึ้นได้สำเร็จก็ยังยิ่งหนุนแรงขาขึ้นระยะสั้นได้อีก
และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1801 ซึ่งเป็นแนวต้านก่อนหน้าที่ราคาได้ทะลุขึ้นยืนเหนือได้สำเร็จและตอนนี้กลายเป็นแนวรับนัยยะสำคัญหากราคายังสามารถยืนได้ต่อเนื่องก็ยิ่งสร้างความได้เปรียบในขาขึ้น แต่หากราคาได้รับแรงหนุนเชิงลบกดดันราคาให้ร่วงลง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะลงไปทดสอบเป้าขาลง
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1807-1812 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1790-1793 ระยะกลางที่แนว 1780-1785
สรุปภาพรวม : ระยะสั้นหลังจากราคาปิดเหนือ1800ได้จึงทำให้ขาขึ้นกลับมาได้เปรียบขึ้นมาบ้าง แต่ก็โดยให้จับตา keyzone ที่ 1 หากยังไม่สามารถผ่านได้ภาพรวมก็ยังเป็นขาลงอยู่ แต่ระยะกลาง-ยาวขาขึ้นยังได้เปรียบ
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1796-1802 TP 1807-1812 SL 1794-1797
Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1807-1812 TP 1798-1800 SL 1815-1818
Sell Zone 2 : 1793-1797 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
#Gold #Goldtrading #goldidea #xauusd #วิเคราะห์ทอง #วิเคราะห์ทองคำ #ลงทุนทอง #ลงทุนทองคำ
London Session Gold Analysis 1/02/2022ทองคำวันนี้ทั้งในภาพรวมใหญ่และภาพรวมเล็ก เราสามารถสังเกตุได้ชัดเจน ถึงพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคา ที่แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อในทิศทางขาขึ้น จากการทำ นิวไฮ อย่างต่อเนื่อง ในชั่วโมงที่ผ่านมาของวัน ทำให้ความน่าสนใจในการซื้อขายอยู่ในฝั่งทิศทางขาขึ้นโดยอ้างอิงจากพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคา
ความน่าสนใจในช่วงบ่ายของวันนี้
1.การจับตาดูพฤติกรรมตลาด ถึงปฏิกิริยาที่ตลาดมีต่อแนวรับที่ 1795.53
2.การจับตาดูพฤติกรรมตลาด ถึงปฏิกิริยาที่ตลาดมีต่อแนวตาน 1802.74
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำเมื่อวานนี้ปิดบวก 9.80 ดอลลาร์ หลังการร่วงหนัก
ตลาดทองคำบวกกลับมาได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 31 ม.ค. โดยการกลับมาของราคาทองคำเมื่อวานนี้ปัจจัยจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หลังราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ นอกจากปัจจัยดังกล่าวก็ยังมีปัจจัยกลับเข้ามาซื้อทองคำจากสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนที่ยังเป็นแรงสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,796.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซียกับสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกเกี่ยวกับประเด็นยูเครนยังคงได้รับการสนับสนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ อย่างไรก็ตามการที่ราคาทองคำกลับมาปิดต่ำกว่าแนวรับระดับจิตวิทยาที่ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงชี้ได้ว่าแรงซื้อทองคำคงจะต้องเจอแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดอาจปรับอัตราดอกเบี้ยเกินเหนือคาดหมายที่ระดับ 0.50% หากเงินเฟ้อยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง และนายเจอโรม พาวเวล ก็ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าเฟดไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อพิจารณาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงมากในขณะนี้ การส่งสัญญาณดังกล่าวจะเป็นเครื่องสะท้อนว่าเฟดอาจจะปรับดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าและรุนแรงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
สำหรับวันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคือ
ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถานบัน ISM เดือนม.ค. คาดการณ์ที่ระดับ 57.5
ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (ธ.ค.) คาดการณ์ 10.300M
จะประกาศในเวลา 22:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทางเทคนิคทองคำวันนี้หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1797-1808 ดอล
ลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการปรับเทขายทำกำไรทองคำกันออกมาอีกรอบ ประเมินแนวรับระยะสั้นที่ 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบจำกัด 2 ระดับคือระดับ 1797-1808 กรณีที่ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับ 1797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถทรงตัวเหนือระดับ 1797-1808 ได้นั้นราคาทองคำอาจกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI เช้านี้ยังทรงตัวเหนือระดับ 50 แต่ก็มีแรงขายเข้ามาทำกำไรระยะสั้นบางส่วนทำให้เส้นยังคงปรับต่ำระหว่าง 60-50 ในส่วนของเส้น SMA20 ก็ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสะท้อนแรงซื้อที่เข้าหนุนตลาดในเวลานี้
เส้น SMA200 ยังปรับตัวลงหลังจากที่มีการขายทำกำไรทองคำออกมา โดยคาดการณ์ว่าหากระดับแรงขายเริ่มหมดลง เส้น SMA200 อาจแกว่งที่แนว FIBO 61.8%-50%
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1792-1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำปรับตัวลงมาทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวต้าน 1797-1808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1787 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวรับ 1797-1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดเหนือ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1815 / 1830
-------------------------------------------
Support : 1782/ 1752 / 1718
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1808 / 1817 / 1826
-------------------------------------------
Support : 1792/ 1780 / 1760
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = เข้าซื้อ 3.49 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,017.75 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,797.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 1
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +3.49 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Weekly Plan... 31.01-04.02.22ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเกิดการเทขายอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐประจำเดือน ม.ค. แม้ว่าผลการประชุมเป็นไปตามที่คาดว่าจะมีการคงดอกเบี้ยในเบื้องต้น แต่ก็ส่งสัญญาณที่เตรียมการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ และจะลดขนาดงบดุลที่จะเกิดขึ้นหลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ยังไม่ได้ระบุเวลาชัดเจนว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ โดยระบุเพียงว่ายังมีช่องว่างเพียงพอต่อการปรับอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ส่งผลกระต่อตลาดแรงงาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้กับการกล่าวเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในทุกการประชุม ซึ่งสถาบันการเงินทั่วโลกต่างยังมั่นใจในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะมีการปรับขึ้นอย่างน้อยครั้งละ 0.25% รวม 7 ครั้งในปีนี้อย่างแน่นอน ประกอบกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน อีกทั้งการเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 4/2021 ดีเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อีกทั้งการประกาศตัวเลข Core PCE Price Index ที่เป็นตัวสำคัญในการชี้วัดเรื่องเงินฟ้องของเฟด ทำให้ปัจจัยดังกล่าวทั้งหมดส่งผลหนุนให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ นั้นปรับพุ่งขึ้นทำ new high ในรอบ 1 ปีกว่า ที่แนว 97.447 พร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่เพิ่มขึ้น ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านกดดันราคาทองคำ ถึงแม้จะเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผู้คนทั่วไปมักจะเข้าซื้อทองคำก็ตาม
โดยสัปดาห์นี้คาดราคาทองคำอาจจะมีการฟื้นตัวเล็กน้อยจากการชะลอการเข้าซื้อของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ
ข่าวที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโก (Chicago PMI), ถ้อยแถลงของนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดแคนซัส ซิตี้ (FOMC Member George Speaks), ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM Manufacturing PMI), การเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings), ดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน (ที่ไม่รวมภาคการเกษตรและภาครัฐ) (ADP Non-Farm Employment Change), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Service PMI), ตัวเลขค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ (Average Hourly Earnings), ดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน (ที่ไม่รวมภาคการเกษตร) (Non-Farm Employment Change) และ อัตราการว่างงาน (Unemployment rate)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากที่ราคากราฟได้ลงมาต่อเนื่องจากปัจจัยข้างต้น ทำให้ราคากราฟปิดต่ำกว่าระดับ 1800 และหากไล่ดูตั้งแต่ timeframe H4 และย่อยลงไป กราฟราคาได้ปิดต่ำกว่าเส้น EMA200 ทั้งสิ้น และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาได้ลงไปช่วง 1780 แต่ก็มีแรงซื้อกลับมา จุดนี้ก็ถือว่าได้ทำลายหัวขาขึ้น ก่อนหน้าที่แนว 1782 ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะสามารถลงต่อได้อีกสูง ทำให้มุมมองระยะสั้นนั้นขาลงถือว่าได้เปรียบค่อนข้างสูง แต่หากดู indicators ประกอบอย่าง sto. ใน timeframe Day นั้น Sto. ได้เข้าโซน oversold แล้ว และหากเทียบ oversold ก่อนหน้าช่วงปลายเดือน พย. ปีที่แล้วนั้น ถือเป็น oversold higher low และเทียบ RSI ใน timeframe H4 ที่ช่วง oversold ก่อนหน้า ช่วง 15 ธค ปีที่แล้วนั้น ได้เกิดภาพ Hidden bullish divergence และที่สำคัญราคายังไม่ผ่านแนวรับนัยยะสำคัญ แนว1778-1780 ซึ่งอยู่ในช่วงเส้น trendline ขาขึ้น ของ day อยู่ ประกอบกับช่วงก่อนหน้า indicators ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Sto. RSI และ MACD ของ timeframes H4 ย่อยลงไป ต่างเข้า oversold ทั้งสิ้น ทำให้มุมมองระยะกลาง-ยาว นั้น ยังมีความเป็นไปได้ที่ยังเป็นขาขึ้นอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องจับตาทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเรื่องการปรับดอกเบี้ย การแข็งค่าของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี และ keyzone ในเชิงเทคนิคคอล
โดยมี 2 keyzone หลัก คือช่วง 1778-1783 ที่เป็น keyzone 1 ที่เป็นแนวรับสำคัญและแนวเส้น trendline ขาขึ้นของ timeframe day ด้วย ซึ่งหากราคาสามารถร่วงทะลุแนวดังกล่าวได้ อาจจะทำให้ขาขึ้นระยะกลางนั้นเสียทรง และเพิ่มความได้เปรียบของขาลงในระยะสั้น-กลาง หากทะลุลงไปได้เป้าต่อไปคือช่วง 1750-1755 ซึ่งเป็นหัวขาขึ้นก่อนหน้า
และ keyzone 2 ช่วง 1797-1803 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญ หากราคายังไม่สามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้ในสัปดาห์นี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าราคาจะลงต่อไปยังเป้าขาลงช่วง 1750-1755 แต่หากสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปทดสอบช่วง 1807-1812 และ 1820-1824 ต่อไป
โดยเป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1778-1782 ระยะกลางที่แนว 1764-1767 ระยะไกลที่แนว 1751-1756
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1797-1800 ระยะกลางที่แนว 1807-1812 ระยะไกลที่แนว 1824-1828
สรุปภาพรวมในสัปดาห์ : หลังจากการเทขายอย่างรุนแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านทำให้ขาลงได้เปรียบในระยะสั้น โดยสัปดาห์นี้คาดว่าอาจจะมีการดีดตัวของราคาระดับปานกลางโดยคาดว่าเป็นการช้อนซื้อเพื่อชะลอแรงขายและเข้าซื้อตามเทคนิคคอล ซึ่งต้องจับตา keyzone ดังกล่าว ประกอบกับปัจจัยหนุนอื่นๆ จากข่าวในสัปดาห์นี้
-แผนเข้า-
Sell Zone1 1790-1793
Sell Zone2 1797-1801
Sell Zone3 1770-1775
(กรณีราคาร่วงทะลุแนว keyzone 1 รอ retest หรือ follow sell)
Buy Zone1 1779-1783
Buy Zone2 1790-1795 (กรณีราคาขึ้นไป test keyzone 2 รอย่อ)
Buy Zone3 1803-1805 (กรณีราคาทะลุขึ้นผ่าน keyzone 2 รอย่อ retest หรือ follow buy)
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Gold Today Plan... 28.01.22สรุปภาพรวม : หลังจากกราฟราคามีการเทขายต่อเนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจทำในภาพระยะสั้นนั้นปรับเป็นขาลง แต่ระยะกลาง-ยาวขาขึ้นยังได้เปรียบ
และยังคงมีแรงซื้อสลับมาบ้างเพื่อชะลอแรงขาย และช้อนซื้อเพื่อเกร็งกำไร โดยมี keyzone 1 ที่แนว 1797-1800 และ keyzone2 ที่แนว 1778-1783 ซึ่งถือเป็นแนวรับนัยยะสำคัญอีกทั้งยังเป็นแนวเส้น trendline ที่เป็นขาขึ้นของ day ด้วย
ซึ่งหากทะลุแนวนนี้ลงไปได้ มีความเป็นไปได้ในระยะกลาง จะปรับตัวเป็นขาลง
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1784-1785 ระยะกลางที่แนว 1778-1780
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1795-1797 ระยะกลางที่แนว 1803-1805
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1778-1783 TP 1790-1795 SL 1773-1777
*Bet Buy Zone 2: 1788-1790 TP 1800-1803 SL 1780-1785
* Bet มีความเสี่ยง โปรดบริหารความเสี่ยงด้วยตัวท่านเอง อาจจะเข้าระยะสั้นได้และ TP ตามความพอใจส่วนบุคคล
====
Sell Zone 1 : 1797-1803 TP 1788-1790 SL 1804-1806
Sell Zone 2 : 1790-1795 TP 1780-1783 SL 1795-1797
(รอกราฟ H1 ขึ้นไป test และไม่ทะลุแนว 1800-1803 และกราฟปิดต่ำกว่า 1795-1797 ค่อย follow sell zone 2 )
ปล.ด้วยวันสองวันนี้ติดภาระกิจเลยอาจจะไม่ได้วิเคราะห์เชิงลึก ต้องขออภัยครับ
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Gold Today Plan... 26.01.22หลังจากราคาได้ขึ้นไปทำ new high ที่แนว 1852-1854 ในเมื่อคืน โดยคาดว่าได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดต่อสถานการณ์ระหว่างรัฐเซียและยูเครน อีกทั้งจากการประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer Confidence) ในเมื่อคืนที่ต่ำกว่าครั้งที่แล้ว
ส่งผลให้กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯให้อ่อนค่าลง ส่งผลทำให้หนุนราคาทอง แต่ถึงแม้การประกาศตัวเลขจะเป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่ด้วยเงินดอลล่าร์สหรัฐฯถือเป็นสกุลเงินปลอดภัยทำให้ยังมีกระแสเงินเข้ามาเรื่อยๆ จากสถานการณ์ระหว่างรัฐเซียและยูเครน
อีกทั้งจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นและมากกว่าที่คาดไว้เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้กดดันราคาทองคำสลับมาต่อเนื่อง ทำให้แรงซื้อนั้นชะลอตัวหลังจากขึ้นไปทำ new high แล้ว แต่ถึงอย่างไร
ก็ยังต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิดในคืนนี้ ช่วงเวลา 02.00 น. และต่อจากนั้นก็เป็นการแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในเวลา 02.30 น.
หากผลการประชุมยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เบื้องต้นและส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มีนา นี้ เป็นไปตามที่คาด อาจจะส่งผลหนุนทองคำก็เป็นได้
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนนี้
-เชิงเทคนิคคอล-
เมื่อคืนราคาได้ขึ้นไปยังแนวต้านนัยยะสำคัญ โดยมีแรงหนุนจากปัจจัยที่กล่าวไว้เบื้องต้น และวันนี้ในช่วงเวลาตลาดเอเชียและยุโรปนั้นได้มีแรงเทขายทำกำไรทั้งปัจจัยการแข็งค่าของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและปัจจัยทางเทคนิคคอลโดยมีความเป็นไปได้
ที่จะเป็นการเทขายจากผลที่เกิด Bearish Divergence TF H4 และ ณ ตอนนี้ indicator ไม่ว่าจะเป็น Sto. RSI และ MACD นั้นมีการย่อตัวขอแนวเส้นต่อเนื่อง แต่กราฟราคากลับสูงขึ้นต่อเนื่องทำให้ ทั้งหมดยังเกิดภาพ Bearish Divergence อยู่
หากย่อยเข้ามาดู Sto TF H1 กลับเกิดภาพ hidden bullish divergence แต่ยังไม่เข้า oversold zone (บางกราฟอาจจะเข้าแล้ว) ซึ่งทำให้ผลของ Bearish Divergence TF H4 นั้น ที่อย่างน้อยจบรอบ 1 Sto. oversold ใน TF H1 ยังมีผลอยู่
(หากกราฟที่ sto เข้า oversold zone แล้ว ก็ถือว่าจบรอบ Divergence แล้ว) แต่คาดว่าอาจจะมีการย่อขอราคาอีกซักระยะอาจจะด้วยผลจาก Sto กำลังมีแนวโน้มย่อลงหลังจากเข้า zone overbought อีกทั้ง RSI และ MACD มีเส้นย่อลงต่อเนื่อง
และหากดูกราฟราคาใน TF M15 นั้นแนวกราฟนั้นปรับตัวลงมาใกล้เส้น EMA200 ที่แนว 1842 ซึ่งถือว่าเป็น keyzone 1 แต่โดยภาพรวมใน TF H4 และ H1 นั้นถือยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่ แต่อาจจะมีย่อบ้างจากเทขายเพื่อกำไร และชะลอการเข้าซื้อ เนื่องจากรอผลการประชุมของเฟดในคืนนี้
โดย keyzone สำคัญยังเป็นแนวเดียวกับเมื่อวาน โดย keyzone ที่1 ยังเป็นแนว 1852-1858 ถึงแม้ว่าเมื่อวานมีการขึ้นไปถึงแต่ก็ยังไม่สามารถทะลุหรือยืนเหนือได้ และkeyzone ที่ 2 ที่แนว 1828-1831 และ key zone ย่อย ที่ช่วง 1837-1841
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1837-1841 ระยะกลางที่แนว 1827-1832 ระยะไกลที่แนว 1806-1812
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1845-1848 ระยะกลางที่แนว 1855-1858 ระยะไกลที่แนว 1864-1870(1874)
สรุปภาพรวม : ในภาพระยะสั้น-กลางขาขึ้นยังได้เปรียบ แต่ยังต้องติดตามข่าวผลการประชุมคืนนี้อย่างใกล้ชิด
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1840-1843 TP 1851-1858 SL 1835-1838
Buy Zone 2: 1828-1832 TP 1843-1845 SL 1824-1828
====
Sell Zone 1 : 1852-1858 TP 1840-1845 SL 1856-1860
Sell Zone 2 : 1833-1837 TP 1828-1830 SL 1841-1844
(หากทะลุแนว 1828 อาจจะค่อยรอrestestค่อย sell หรือ follow sell TP 1819-1822 Sl 1833-1837)
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Gold Today Plan... 25.01.22เมื่อวานราคาทองยังคงปิดเหนือ 1840 ได้ ถึงแม้จะร่วงลงไปแนว 1828-1829 จากความตึงเครียดต่อสถานการณ์ระหว่างรัฐเซียและยูเครนที่เป็นปัจจัยหนุนให้มีแรงเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และทองคำ รวมถึง
เกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าดัชนีดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเช่นกัน ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ นั้นปรับตัวขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้กดดันราคาทองคำร่วงไปยังแนวดังกล่าว และหลังจากนั้นราคาก็สามารถกลับตัวขึ้นไปปิดในแนวเหนือ 1840 ได้
และวันนี้การซื้อขายค่อนข้างเบาบางในช่วงตลาดเอเชียและยุโรป คาดว่าตลาดกำลังรอการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ม.ค.นี้
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ รายงานดัชนีราคาที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ ((HPI) Housing Price Index)และรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer Confidence)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากราคาได้ร่วงไปยังแนวรับนัยยะสำคัญที่แนว1828-1829 ก็มีแรงซื้อกลับมาจนปิดเหนือ 1840ได้ ถือว่าเป็น keyzone ย่อยที่ได้กล่าวไปใน weekly plan เมื่อวาน (สามารถกด link ได้ที่ด้านล่างครับ)
และหากดู Sto. TF H4 ของวันนี้ ตัวเส้นของ Sto. ก็ยังคงอยู่ใน zone overbought ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่หากเทียบ overbought ก่อนหน้ากับราคานั้นได้เกิดภาพ Bearish Divergence ระดับเบา
และ Sto. TF H1 นั้น เมื่อวานตัวเส้นของ Sto. ได้เข้า zone overbought แล้ว และเป็น overbought ราคาไม่ผ่าน high เดิม และ เส้น RSI ก็อยู่ในโซนกลางๆ 40-60 แต่หากย่อยเข้ามาดู Sto. TF M15 นั้น
ช่วงเช้า Sto. ได้เข้า zone oversold โดยเป็น oversold ราคา lower low ซึ่งโดยทำให้ภาพรวมอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะมีการย่อตัวเล็กน้อย และคาดว่าภาพราคาจะเป็น sideway ในกรอบแคบ ช่วง 1838-1844
หรือกรอบระยะกลางที่ 1829-1844 เนื่องจากราคากำลังรอปัจจัยหนุนอย่างการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่หากมองราคา ณ ปัจจุบัน กราฟราคายังถือเป็นขาขึ้นอยู่ แต่ก็ต้องจับตามองปัจจัยหนุนและจับตา key zone ด้วย
โดย keyzone ที่อ้างอิงจะยังเป็น keyzone ใน weekly plan อยู่ เนื่องจากราคายังวิ่งในกรอบเดิม โดยมี 2 Key zone หลักและ 1 Key zone ย่อย โดย Key zone ที่ 1 ช่วง 1852-1858 และkeyzone ที่ 2
ที่มีแนวเบื้องต้นที่แนว 1828-1831 ซึ่งเป็นแนวรับนัยยะสำคัญ โดยหากราคาสามารถยืนเหนือโซนนี้ได้ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคายังคงสามารถขึ้นไปต่อได้ และ key zone ย่อย ที่ช่วง 1837-1840
โดยเป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1828-1830 ระยะกลางที่แนว 1819-1822
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1845-1848 ระยะกลางที่แนว 1855-1858
สรุปภาพรวม : ในภาพระยะสั้น-กลางขาขึ้นยังได้เปรียบ แต่ช่วงนี้ราคาอาจจะสวิงแกว่งตัวค่อนข้างสูง จึงยังต้องจับตามองให้ดีๆ และระมัดระวังในการเทรด
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1835-1838 TP 1842-1845 SL 1830-1833
Buy Zone 2: 1828-1832 TP 1843-1845 SL 1824-1828
Buy Zone 3: 1819-1822 TP 1835-1837 SL 1815-1818
====
Sell Zone 1 : 1845-1847 TP 1837-1840 SL 1850-1852
Sell Zone 2 : 1852-1858 TP 1840-1845 SL 1856-1860
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
London Session Gold Analysis 21/1/2022ทองคำในภาพรวมใหญ่วันนี้เราอยู่กันในกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่ง ไอเดียสำหรับการเทรดวันนี้คือการซื้อขายภายในกรอบ จะดีกว่าหากว่า เราซื้อขายภายในกรอบแล้ว ใช้ความเสี่ยงต่ำกว่าที่เคยใช้ ประมาณ 50%
1.การจับตาดูพฤติกรรมตลาด ถึงปฏิกิริยาที่ตลาดมีต่อแนวรับที่ 1836.723
2.การจับตาดูพฤติกรรมตลาด ถึงปฏิกิริยาที่ตลาดมีต่อแนวตาน 1843.030
Gold Weekly Plan... 24-28.01.22ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับทิศเป็นขาขึ้น ถึงแม้สัปดาห์ที่ผ่านจะได้รับแรงกดดันต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย การแข็งค่าของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่เพิ่มขึ้น แต่ช่วง
ปลายสัปดาห์กลับได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นการอ่อนค่าของปัจจัยข้างต้น อีกทั้งการที่ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ร่วงลงต่อเนื่องและ ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ปัจจัยดังกล่าวหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
แต่ก็ยังต้องจับตามองการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 25-26 ม.ค. นี้ และข่าวที่สำคัญอื่นๆในสัปดาห์นี้ให้ต้องติดตามเช่นกัน
โดยข่าวที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ คือ รายงานดัชนีราคาที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ ((HPI) Housing Price Index), รายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer Confidence),รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Advance GDP)
รายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders), รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ (Unemployment Claims), รายงานยอดขายที่อยู่อาศัยที่อยู่การปิดการขาย (Pending Home Sales),
รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE price index) และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 25-26 ม.ค. นี้
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากราคาได้ขึ้นมาทำ new high ในสัปดาห์ที่แล้ว ที่แนวราคา 1845-1847 ซึ่งก็ถือเป็นแนวต้านแข็งที่มีนัยยะสำคัญจุดนึง และได้ร่วงลงมาอาจจะด้วยปัจจัยจากด้านเศรษฐกิจเองและประกอบกับการขายด้านเทคนิคคอลด้วย ทำให้
ราคาได้ร่วงลงมาที่ 1827-1829 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ณ จุดนี้เองก็เป็นแนวรับสำคัญในช่วงนี้เช่นกัน และหากตีกรอบนั้นถือว่าเป็นขาขึ้น ประกอบกับหากดู RSI ใน TF Day นั้นเส้นเป็นทิศแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง
และใน RSI TF H4 นั้น ก็เป็น RSI overbought higher high ทำให้มุมมองในระยะสั้นนั้นเป็นขาขึ้น แต่หากดู MACD ใน TF Day นั้นก็กำลังจะเกิดภาพ Bearish Divergence และ Sto. overbought ต่อเนื่อง
โดยคาดว่าราคาอาจจะมีการย่อตัวลงมาเล็กน้อย และรอการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในกลางสัปดาห์นี้
โดยมี 2 Key zone หลักและ 1 Key zone ย่อย โดย Key zone ที่ 1 ช่วง 1852-1858 ซึ่งถือเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญเชิงจิตวิทยา อีกทั้งยังเป็นแนวเส้น trendline ขาลงของ week และเป็นแนวเส้นกรอบขาขึ้นระยะสั้นด้วย หากในสัปดาห์นี้ยังไม่สามารถผ่านได้
ก็มีโอกาสที่ราคาจะย่อตัวลงมาค่อนข้างสูง และอาจจะลงไปทดสอบแนว keyzone 2 ที่มีแนวเบื้องต้นที่แนว 1819-1822 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญโดยหากราคาสามารถยืนเหนือโซนนี้ได้ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคายังคงสามารถขึ้นต่อ
และยังถือว่าราคายังอยู่ในกรอบขาขึ้นและยังเป็นขาขึ้นระยะสั้นอยู่ แต่หากราคาไม่สามารถยืนเหนือโซนนี้ได้ ก็มีโอกาสสูงที่มุมมองหรือแนวโน้มจะปรับเป็นขาลงในระยะสั้นได้ในทันที
และ key zone ย่อย ที่ช่วง 1837-1839 หากในสัปดาห์นี้ยังสามารถยืนโซนนี้ได้(อาจจะย่อในช่วงสัปดาห์บ้างแต่สุดท้ายยืนเหนือราคาดังกล่าว) ก็มีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปทำ new high ที่แนว keyzone 1
และหากไม่สามารถยืนเหนือโซนนี้ได้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะลงไปทดสอบแนว keyzone 2
โดยเป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1828-1830 ระยะกลางที่แนว 1819-1822
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1845-1848 ระยะกลางที่แนว 1855-1858
ภาพรวมสรุปในสัปดาห์ : โดยภาพรวมระยะสั้นขาขึ้นยังได้เปรียบอยู่ แต่สัปดาห์นี้มีข่าวที่สำคัญเยอะราคาอาจจะมีการแกว่งตัวค่อนข้างสูง และหากราคายังอยู่ในกรอบก็มีความเป็นไปได้ที่จะทดสอบแนว keyzone ดังกล่าว
และป้องกันความเสี่ยงด้วยการออก lot size น้อยๆ และราคาเข้าช่วง key zone น่าจะปลอดภัยกว่า
-แผนเข้า-
Sell - Zone1 1852-1858
Zone2 1847-1850
Buy - Zone1 1828-1830
Zone2 1819-1822
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ทองคำสัปดาห์นี้อาจผันผวนจากความกังวลเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ตลาดทองคำเช้าวันนี้ฝั่งเอเซียปรับบวกขึ้นมาเล็กน้อย (ขณะเขียน) โดยคาดการณ์ว่าทองคำอาจปรับตัวขึ้นลงในกรอบซึ่งหากทองคำเองยังสามารถรักษาช่วงบวกของราคาได้ก็ส่งผลให้ราคาค่อยๆ ขยับสูงขึ้นได้ ทั้งนี้นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และยังคงเฝ้าติดตามรายงานการประชุมที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน ทำให้ตลาดยังไม่เปิดรับความเสี่ยงได้เต็มที่ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตลาดการเงินอาจเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัว ก็ต้องติดตามกันเช้ามืดวันพฤหัสฯ ที่จะถึงนี้กันครับว่าเฟดจะมีการส่งสัญญาณอะไรบ้างในการประชุมครั้งนี้ สำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ไว้เช่นเดิม
สำหรับวันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคือ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต คาดการณ์ 56.7 จากระดับ 57.7
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ คาดการณ์ 55.0 จากระดับ 57.6
จะประกาศในเวลา 21.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
สำหรับทางเทคนิควันนี้คาดทองคำยังแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1843-1832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำยังยืนเหนือระดับ 1832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราก็ยังคงเห็นการปรับตัวขึ้นได้บ้างของทองคำต่อไป แต่หากทองคำหลุดต่ำกว่าแนวรับ 1832 ลงมาก็อาจมองหาโอกาสการซื้อคืนทองคำได้ที่บริเวณ 1822 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช่นกันหากทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้ทองคำโดยเทขายทำกำไรระยะสั้นๆ ออกมา ซึ่งประเมินแนวรับที่ 1832 1827 และ 1822 ตามลำดับ มาดูที่กรอบเวลารายวัน เราได้ค้นพบรูปแบบของ harmonic pattern ที่เกิดขึ้นในรูปแบบ Gartley ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เกิดรูปแบบ Butterfly มาแล้วจนทำให้ราคาเคลื่อนไหวไปตามกฎของมัน รอบนี้ก็ต้องระมัดระวังอีกเช่นกันหากราคาไม่สามารถผ่านจุด D ที่ระดับ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น อาจมีการเทขายทองคำออกมากันอีกรอบ โดยประเมินแนวรับทางเทคนิคที่ระดับ 1800 และ 1782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงควรระมัดเรื่องดังกล่าวของการกลับเป็นช่วงลงของทองคำอีกครั้ง แต่หากราคายังไม่หลุดต่ำกว่า 1752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราก็ยังพอมองได้ว่าช่วงขาขึ้นยังไม่เสียทรง
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังปรับตัวต่ำในภาพกว้างแม้ในระยะสั้นอาจเห็นการปรับตัวสูงขึ้นแต่ยังมีแนวจำกัดอยู่ ส่วน SMA20 ยังสนับสนุนแรงขายมากกว่าแรงซื้อ จึงควรระมัดระวังคำสั่ง “ซื้อ” ในเวลานี้
เส้น SMA200 ยังปรับตัวขึ้นแต่เริ่มลดความชันลง สะท้อนแรงซื้อที่ปรับลดน้อยลงกว่าเดิม นักลงทุนจึงควรระมัดระวังการวางคำสั่ง “ซื้อ” ในช่วงเวลานี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับ 1832-1827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเป้าหมายกำไรทีระดับ 1838 และ 1843 ตามลำดับ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1827 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1843-1845 ได้นั้นให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าวโดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายกำไรที่บริเวณแนวรับ 1832-1827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำขยับขึ้นเหนือ 1843-1845 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1862 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1814 / 1800
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1848 / 1858 / 1864
-------------------------------------------
Support : 1832/ 1827 / 1822
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดซื้อเพิ่ม 27.59 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,008.45 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,834.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 8
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +32.79 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today plan... 21.01.22หลังจากที่ราคาทองได้ขึ้นไปทำ new high ในรอบเดือน ที่แนว 1840-1843และ 1845-1848 ที่ได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากการที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มที่อ่อนค่าลง
หรือแม้แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีก็มีแน้วโน้มที่อ่อนค่าลงเช่นกัน และบวกกับปัจจัยการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่เกินคาด ประกอบกับตลาดหุ้นดาวโจนส์ สหรัฐฯ ที่ได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทำให้ราคาหุ้นนั้นปรับตัวลดลงอย่างมาก ทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดในรอบเดือน แต่ก็ยังมีแรงเทขายทางเทคนิคคอลต่อเนื่องทำให้ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ และแถมยังช่วงสาย-บ่ายวันนี้ตามเวลาประเทศไทย
ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯกลับฟื้นตัวเล็กน้อยทำให้ราคาทองได้ร่วงลงมาที่แนว 1828-1835
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ รายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของคณะกรรมการการประชุม (CB Leading Index หรือ Conference Board ConsumerConfidence)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากกราคาได้ขึ้นไปด้วยแรงหนุนทางเศรษฐกิจทำให้ราคาได้ขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญและไปทำ new high ที่แนว 1844-1848 ซึ่งถือเป็นเป้าขาขึ้นแรกโดยวัดจาก แนว Fibo. 1.618% ของ TF H4 หลังจากนั้นเจอแรง
ขายทางเทคนิคคอล (เพราะถึงเป้าแรกแล้ว) และเกิด Bearish Divergence(เมื่อวานเขียนผิด ว่าเป็น bullish ต้องขออภัยครับ) ทำให้ราคาได้ร่วงลงมาแนวต้านก่อนหน้าและเป็นแนวรับปัจจุบันที่แนว 1828-1835
ทำให้ RSI ใน TF ย่อยทั้ง M15 และ M30 ต่างเข้า ovs zone แล้ว และ H1 กำลังจะเข้า ซึ่งหากเทียบ RSI ovs กับราคากราฟก่อนหน้าจะเป็น RSI ovs. ยก low ทำให้มุมมองระยะสั้นนั้นขาขึ้นถือยังได้เปรียบอยู่
และใน sto. TF H1 นั้นกำลังเกิด Bullish divergence ซึ่งอาจจะทำให้ราคาดีดตัวขึ้นระยะนึงค่อนข้างสูง
โดยคาดว่าขึ้นไปทดสอบแนว keyzone ที่แนว 1838-1840 ซึงหากกราฟใน TF H1 ขึ้นไปทดสอบแนวนั้น และ Sto ovb. ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดภาพ hidden Bearish Divergence และหากเข้าข่ายและเกิดการเทขาย
ตาม divergence ก็อาจจะทำให้ราคากราฟปรับตัวลงต่อเนื่องได้ แต่หากราคาสามารถทะลุได้คาดว่าอาจจะมีการขึ้นไปทำ new high อีกรอบ ที่แนว 1852-1858 และ 1860-1863 ซึ่งถือเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญและเป็นเส้น tradline ระดับ week
จึงต้องติดตามแนว keyzone นั้นกันต่อ
โดยเป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1825-1829 ระยะกลางที่แนว 1815-1820
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1844-1846 ระยะกลางที่แนว 1852-1858
สรุปภาพรวม : หลังจากมีแรงซื้อหนุนมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจขึ้นไปทำ new high ได้ แต่ก็มีแรงเทขายทางเทคนิคคอลต่อเนื่อง บวกกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯกลับฟื้นตัวเล็กน้อย
จึงทำให้มีการย่อของราคา แต่ภาพรวมระยะสั้นขาขึ้นยังได้เปรียบอยู่ โดยมีเป้าสำคัญที่ 1852-1858และ1860-1863
-- แผนเข้า -- (แผนเดียวกับเมื่อวานครับ)
Buy Zone 1: 1828-1834 TP 1844-1848 SL 1824-1828
Buy Zone 2: 1842-1848 TP 1852-1858 SL 1835-1840
====
Sell Zone 1 : 1852-1858 TP 1840-1845 SL 1856-1860
Sell Zone 2 : 1860-1863 TP 1853-1856 SL 1865-1866
Sell Zone 3 : 1830-1835 TP 1820-1825 SL 1837-1842 (กรณีทดสอบ keyzone แล้วไม่ผ่าน)
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ทองคำเมื่อคืนนี้กลับมาปิดลบเล็กน้อย หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 60 เซนต์ หรือ +0.03% ปิดที่ระดับ 1,842.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำวานนี้ได้รับแรงหนุนช่วงค่ำหลังมีการรายงานตัวเลขสำคัญของสหรัฐฯ ที่ออกมาเช่นตัวเลขสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการไว้ ทำให้ทองคำวิ่งขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบนที่ 1847 แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านขึ้นได้นั้น ส่วนหนึ่งนักลงทุนเข้าซื้อทองคำจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย หลังสหรัฐกังวลต่อสถานการณ์ของรัสเซียที่ประธานาธิบดีดีวลาดิเมียร์ ปูตินอาจตัดสินใจบุกยูเครน นักลงทุนเลยเข้าซื้อทองคำส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยช่วงสุดท้ายของตลาดทองคำก็กลับลงมาอีกครั้งจากการเทขายทำกำไร และดอลลาร์กลับมาแข็งค่า แต่ก็ขยับได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือว่าทองคำยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ดีกว่ารอบผ่านมา
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ยังทรงตัวเหนือระดับ 1836 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งขณะเขียนนี้ทองคำขยับที่ 39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงเป็นการปรับขึ้นช่วงบวกของเช้าวันนี้ โดยแรงซื้อยังคงเข้าหนุนราคาในระยะสั้นอยู่ หากทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น อาจเจอแรงขายทำกำไรระยะสั้น หรือเป็นช่วงปรับฐานราคาก่อน โดยประเมินแนวรับที่ 1832-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนอาจพิจารณารอเข้าซื้อที่บริเวณดังกล่าวก็ได้ หากราคาลงไปทรงตัวได้อย่างชัดเจนที่บริเวณดังกล่าว
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัววิ่งเข้าโซนปรับฐานจากจุดซื้อมากเกินไป แต่ยังทรงตัวเหนือระดับ 50 ได้อยู่ ซึ่งถ้าหากเส้น RSI ยังไม่สามารถขึ้นเหนือ 60 ได้ก็มีโอกาสที่ปรับตัวต่ำตามรอบการปรับฐานราคาอีกครั้ง ส่วน SMA20 วันก็ยังปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่ยังอยู่เหนือแดนบวก
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นสนับแรงซื้อที่เข้าตลาดเมื่อช่วงวานนี้ ทำให้ภาพรวมทองคำเวลานี้น้ำหนักฝั่งกระทิงจะดูได้เปรียบตลาดหมี แต่ก็ต้องระวังการปรับฐานย่อตัวที่จะเกิดขึ้นตามแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำปรับฐานต่ำมาที่ระดับ 1831-1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วทรงตัวเหนือระดับดังกล่าวได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวต้านระยะสั้นดังกล่าวขึ้นไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวต้านถัดไปประเมินที่ 1842-1843 (แนวต้านระยะสั้น) (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1831 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1842-1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้นให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับ 1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1832 ดอลลารร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1862 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1814 / 1800
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1848 / 1858 / 1864
-------------------------------------------
Support : 1832/ 1822 / 1810
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -0.58 ตัน
คงถือสุทธิ = 980.86 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,839.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 7
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.20 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today plan... 20.01.22เมื่อคืนราคาทองได้ขึ้นไปทำ new high ในรอบเดือน ที่แนว 1840-1843 หลังจากได้รับแรงกดดันอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าได้รับแรงหนุนไม่ว่าจะเป็น ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มที่อ่อนค่าลง
หรือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ก็ปรับตัวย่อลงเช่นกัน และโดยเฉพาะที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ สหรัฐฯ นั้นเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องคาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
พร้อมกับการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.พ. ทำให้กดดันดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทั้งหมดนั้นอาจจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ตัวเลขการอุตสาหกรรมฟิลลี่ เฟด (Philly Fed Manufacturing Index),
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Unemployment Claims) และรายงานยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากเมื่อวานราคาได้ลงไปจุดแนวรับเชิงนัยยะสำคัญที่แนว 1805-1810 และได้คาดว่าได้รับแรงหนุนจากปัจจัยข้างต้นจนราคานั้นได้ขึ้นไปทะลุแนวต้านนัยยะสำคัญระดับ Day ที่แนว 1830-1833 เลยได้ไปถึงแนวเป้าแรกของขาขึ้น
ที่แนว 1840-1843 และถือเป็น new high ในรอบเดือน ภาพรวมหลังจากทะลุแนวต้านสำคัญทำให้ระยะสั้นนั้นปรับเปลี่ยนจากขาลง เป็นขาขึ้นในทันที เนื่องจากแนวต้านสำคัญนั้นถือเป็นหัวขาลงระยะสั้นหัวแรก ซึ่งหลัง
จากที่ราคาได้ทะลุขึ้นไปแล้วนั้น ทำให้ตอนนี้ไม่มีหัวขาลงเลย และหลังจากราคาได้ทำ new high Sto.ในหลาย TF ไม่ว่าจะตั้งแต่ M15 ไล่ไปจน Day นั้นเข้า Ovb. แล้วทั้งสิ้น และ RSI ก็เช่นกัน
โดยเป็น TF M15 ถึง H4 โดนเป็น ovb. higher high ทำให้มุมมองระยะสั้นเป็นขาขึ้นชัดเจน แต่หากดูใน TF H4 และ Day นั้น ไม่ว่าจะเป็น Sto. และ Macd นั้น กำลังเกิดภาพ Bullish divergence
ซึ่งทำให้เป็นไปได้ที่ราคาอาจจะมีการย่อตัวซักระยะ และคาดว่าอาจจะมีการขึ้นไปทำ new high อีกรอบ ที่แนว 1852-1858 และ 1860-1863 ซึ่งถือเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญและเป็นเส้น tradline ระดับ week ด้วย
แนวต้านจึงมีความสำคัญสูง
โดยเป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1825-1829 ระยะกลางที่แนว 1815-1820
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1844-1846 ระยะกลางที่แนว 1852-1858
สรุปภาพรวม : หลังจากมีแรงซื้อหนุนมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจทำให้ระยะสั้นกลับมาเป็นขาขึ้นโดยมีเป้าสำคัญที่ 1852-1858และ1860-1863 ซึ่งถือเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญและเป็นเส้น tradline ระดับ week
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1828-1834 TP 1844-1848 SL 1824-1828
Buy Zone 2: 1742-1848 TP 1852-1858 SL 1835-1840
====
Sell Zone 1 : 1852-1858 TP 1840-1845 SL 1856-1860
Sell Zone 2 : 1860-1863 TP 1853-1856 SL 1865-1866
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 20 มกราคา 2565 ทองคำพุ่งผลบวกจากการอ่อนแอเศรษฐกจิของสหรัฐฯ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 30.80 ดอลลาร์หรือ +1.70% ปิดที่ระดับ 1,843.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำได้รับการหนุนจากรายงานตัวเลขที่อ่ออนแอของสหรัฐฯ อเมริกา และการปรับฐานย่อตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดอลลาร์ที่ต่างปรับตัวย่อฐานลง ทำให้เป็นเหตุหนุนราคาทองคำในระยะสั้นให้ปรับขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1824-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ โดยราคาทองคำของตลาด COMEX สามารถทำจุดสูงสุดของวันที่ผ่านมาได้ที่ระดับ 1843.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปรับร่วงลงมาในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางด้านกองทุน SPDR ก็ได้เข้าซื้อทองคำเป็นมูลค่ากว่า 5.23 ตัน เป็นสัญญาการเข้าซื้อที่สามารถหนุนราคาทองคำได้อีกรอบหนึ่ง แต่ทั้งนี้นักลงทุนก็ต้องเฝ้าระวังการซื้อที่กระโดนขึ้นมาใกล้ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากบริเวณนี้ยังไม่มีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุนต่อเนื่องได้นั้น อาจทำให้มีการเทขายทำกำไรออกมาได้เช่นกัน และการเทขายทองคำหากราคาปรับฐานไม่ต่ำกว่า 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากแล้วที่ทองคำจะปรับขึ้่นทดสอบระดับ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป ทั้งนี้ต้องอาศัยรายงานเศรษฐกิจคืนนี้มาเป็นตัวช่วยหนุนด้วย หากรายงานออกมาตรงกันข้ามกับการหนุนตลาดทองคำก็จะทำให้ทองย่อตัวกันอีกรอบ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้เข้าช่วงพักฐานราคาระหว่าง 1842-1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากฝั่งของบอนด์และดอลลาร์ยังปรับฐานต่ำต่อเนื่องก็คงจะได้ลุ้นกันต่อที่ระดับ 1850 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวันนี้มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ผลเป็นลบมากกว่าเชิงบวก เพราะรายงานก่อนหน้าสะท้อนถึงความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ ตลาดจนรายงานผลประประกอบการใน 3 ตลาดหุ้นที่ผ่านมาก็ไม่ได้สวยงามสักเท่าไหร่ เลยคาดการณ์ตัวเลขวันนี้่อาจส่งผลหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้อีก โดยช่วงระหว่างวันทองคำอาจผันผวนช่วงราคา 1842-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงยังควรระมัดระวังแนวดังกล่าวและติดตามอย่างใกล้ชิด
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับเข้าช่วงการซื้อมากเกินไปแต่เส้นโน้มตัวกลับเข้าระดับ 70 อีกครั้ง เส้น SMA20 วันก็จบกับเส้น RSI ที่ระดับเดียวกัน ยังสะท้อนแรงซื้ออยู่ขณะนี้
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นสนับแรงซื้อที่เข้าตลาดเมื่อช่วงวานนี้ ทำให้ภาพรวมทองคำเวลานี้น้ำหนักฝั่งกระทิงจะดูได้เปรียบตลาดหมี แต่ก็ต้องระวังการปรับฐานย่อตัวที่จะเกิดขึ้นตามแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับ 1830-1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนว 1843 ขึ้นไปได้นั้นก็ให้เสี่ยง “ขาย” ต่ำกว่าบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณ 1837-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้อีกให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1862 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1814 / 1800
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1842 / 1858 / 1876
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1811 / 1805
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่ม 5.23 ตัน
คงถือสุทธิ = 981.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,840.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.78ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 19.01.22หลังจากราคาทองนั้นโดนกดดันอย่างหนักจากนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินมากยิ่งขึ้นในการประชุมนโยบายที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 25-16 ม.ค.นี้ ประกอบกับ
ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯนั้นปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องบวกกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองร่วงลงทดสอบแนวรับเชิงนัยยะสำคัญที่แนว 1805-1807
และหลังจากประกาศข่าวตัวเลขเศรฐกิจ ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก (NY Empire State Index) ที่ออกมา -0.7 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์อย่างมาก จึงทำให้มีแรงซื้อกลับมาเพื่อชะลอแรงขายก่อนหน้า
บางส่วนแต่ภาพรวมแรงขายก็ยังมีมากกว่าเนื่องจากปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยข้างต้น
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ รายงานใบอนุญาตก่อสร้างบ้าน (Building Permits) และ รายงานจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง (Housing Starts)
-เชิงเทคนิคคอล-
จากแรงเทขายต่อเนื่องจากทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจและทางเทคนิคคอล จนลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1805-1807 ก็ได้กลับขึ้นกลับไปทดสอบแนวต้านสำคัญทันทีหลังจากการประกาศข่าวตัวเลขเศรฐกิจ ที่แนว 1818-1820
และเมื่อดู RSI และ Sto.ใน TF H4 นั้น ค่ายังเป็นกลาง แต่ราคากลับย่อลงเรื่อยๆ ทำให้ภาพรวมระยะสั้นนั้นเป็นขาลง อีกทั้ง RSI ใน TF H1 ก็เช่นกัน ที่เส้น RSI มีแนวโน้มย่อลงต่อเนื่อง
และ Sto. ovb. ที่ราคาไม่ผ่าน high เดิม อีกทั้ง ovs. ที่ราคา lower low ก่อนหน้าด้วย และ MACD มีโอกาสเกิดภาพ Hidden Bullish divergence
อีกทั้ง RSI TF M15 นั้นก็กำลังจะเข้า ovb. ซึ่งหากเข้าก็จะเป็น ovb. ที่ราคาไม่ผ่าน high เดิม ทำให้มุมมองระยะสั้นเป็นขาลงชัดเจน
โดยมี Key zone คือ 1810-1815 ที่มีแรงซื้อสลับเรื่อยๆ โดยส่วนตัว zone นี้ราคาได้ทะลุไปแล้วในเมื่อวาน โดยช่วงนี้อาจจะมีแรงซื้อหนุนเพื่อสะสมแรงและมีความเป็นไปได้ที่จะทะลุลงไปทดสอบแนว 1797-1801 ค่อนข้างสูง
แต่หากยังไม่สามารถผ่านได้ใน วันสองวันนี้ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1820-1823 ได้เช่นกัน
โดยเป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1805-1807 ระยะกลางที่แนว 1797-1801
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1822-1825 ระยะกลางที่แนว 1830-1832
สรุปภาพรวม : ยังเป็นขาลงระยะสั้นอยู่แต่อาจจะมีแรงซื้อมาบ้างเพื่อสะสมแรงและลงต่อ โดยแนวสำคัญคือ1810-1815 หากทะลุลงไปได้ก็มีสิทธิลงไปที่แนว 1797-1801 ค่อยหาจังหวะเข้าซื้อต่อ เพราะถือเป็นแนวรับสำคัญที่ค่อนข้างแข็ง
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1805-1808 TP 1815-1818 SL 1801-1803
Buy Zone 2: 1798-1801 TP 1811-1815 SL 1794-1797
====
Sell Zone 1 : 1815-1818 TP 1805-1810 SL 1822-1825
Sell Zone 2 : 1820-1823 TP 1810-1815 SL 1825-1828
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Gold Today plan... 18.01.22เมื่อวานการซื้อขายอยู่ในกรอบแคบ อยู่เพียงในกรอบ 10$ เท่านั้น ในช่วงราคา 1812-1822 เนื่องจากตลาดเงิน ตลาดทุนและตลาดทองคำสหรัฐปิดทำการในวัน Martin Luther King
แต่ในช่วงเช้า-สายตามเวลาไทยก็มีแรงเทขายทำกำไรสืบเนื่องจากเมื่อวานที่ราคาได้ขึ้นไปทดสอบช่วงราคา 1822 และอาจจะเป็นผลจากได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคากลางสหรัฐ
แต่คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับมาบ้าง บางส่วนจากทั้งนักลงทุนที่ช้อนซื้อเมื่อราคาลงและส่วนนึงจากชาวจีนทั่วไปที่ซื้อทองช่วงก่อนที่เทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง ทำให้แรงซื้อสลับเข้ามาเรื่อยหลังจากแรงเทขายก่อนหน้า
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก(NY Empire State Index)
-เชิงเทคนิคคอล-
ราคาขึ้นไปทดสอบ keyzone ก่อนหน้าช่วง 1820-1822 และมีการเทขายลงมาในเมื่อสายวันนี้ทำให้มุมมองขาลงระยะสั้นนั้นค่อนข้างได้เปรียบและเมื่อดู RSI ใน TF H4 นั้น แนวเส้นมีการย่อลงอย่างต่อเนื่อง
ทำให้มุมมองภาพใหญ่นั้นเป็นขาลงชัดเจน และ Sto. ใน TF H1 เข้า ovs.แล้ว และ RSI ก็กำลังเข้า ovs. เช่นกัน โดยเป็น ovs. lower low ราคาก่อนหน้า ทำให้ระยะสั้นเป็นขาลงเช่นกัน
ส่วน TF M15 นั้น เกิดภาพ Bullish divergence ทั้งใน Sto และ RSI แต่หากเทียบ RSI ovb. เทียบก่อนหน้าเป็น ovb. ไม่ผ่าน high เดิมจึงเป็นที่แน่ชัดว่าในระยะสั้นนี้เป็นขาลง
แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีแรงซื้อทางเทคนิคคอลใน TF M15 ที่เกิดภาพ Bullish divergence ราคาอาจจะขึ้นไป 1 รอบ sto ovb ของ TF M15 คาดว่าแถวๆ แนว 1817-1820
โดยมี Key zone คือ 1811-1814 หากราคาทะลุลงไปได้โดยราคาแท่ง H4 ปิดต่ำกว่าโซนดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะลงไปแนว 1797-1801
โดยเป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1805-1807 ระยะกลางที่แนว 1797-1801
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1822-1825 ระยะกลางที่แนว 1830-1832
สรุปภาพรวม : จับตาราคา key zone ดังกล่าวหากต่ำกว่า อาจจะลงไปทดสอบแนวลึกที่ 1800 ในระหว่างนนี้อาจจะมีแรงซื้อกลับบ้างจากการเข้าซื้อเมื่อราคาย่อลงเพื่อเกร็งกำไรและเข้าซื้อทางเทคนิคคอลแต่ภาพรวมระยะสั้นขาลงค่อนข้างได้เปรียบ
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1811-1816 TP 1820-1826 SL 1806-1810
Buy Zone 2: 1797-1801 TP 1811-1815 SL 1794-1797
====
Sell Zone 1 : 1817-1820 TP 1807-1810 SL 1823-1827
Sell Zone 2 : 1827-1829 TP 1818-1820 SL 1830-1832
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**