คืนนี้รอตัวเลชดัชนีภาคการผลิต (PMI) คาดการณ์อาจส่งผลบวกต่อทองคำ📊ราคาทองคำ ขยับขึ้นแตะระดับ 3,395 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของการซื้อขายในเอเชียเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ตัดสินใจเข้าแทรกแซงทางการทหารในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำพุ่งสูงขึ้น
สหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่งเมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรง แม้ว่าก่อนหน้านี้ทรัมป์จะให้คำมั่นว่าจะหลีกเลี่ยงสงครามในต่างประเทศครั้งใหม่ ความวุ่นวายที่ทวีความรุนแรงขึ้นได้จุดชนวนให้เกิดกระแสการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน นักลงทุนจะติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ S&P Global สหรัฐฯ เบื้องต้นสำหรับเดือนมิถุนายนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะประกาศในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เพื่อดูทิศทางของตลาดต่อไป
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำน่าจะยังคงทรงตัวเหนือแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,340 ซึ่งเป็นไปในทางบวกจากข้อมูลข่าว PMI ของสหรัฐฯ ในวันนี้
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
Goldmansachs
ปัจจัยสงครามตะวันออกกลาง - ยังเป็นตัวสนับสนุนให้ราคาทองคำพุ่ง🔜คาดการณ์ราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 23/06/2568 - 27/06/2568
ราคาทองคำทรงตัวในวันศุกร์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ 3,369 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะร่วงลง 1.90% ในรอบสัปดาห์ เนื่องจากตลาดกำลังพิจารณาการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่จะไม่ดำเนินการทางทหารกับอิหร่านในทันที และเลือกใช้วิธีการทางการทูตแทน
แม้ว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คลี่คลายลงจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยง แต่แรงกดดันเพิ่มเติมต่อทองคำก็เกิดขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นของสหรัฐฯ ต่อพันธมิตรที่ดำเนินการโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในจีน ตามรายงานของบลูมเบิร์ก การที่ทรัมป์ยับยั้งชั่งใจอิหร่านทำให้เกิดกระแสความเสี่ยง ซึ่งส่งผลต่อความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยชนิดนี้
💬ความคิดเห็นส่วนตัว:
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น ราคาทองคำยังคงรอโอกาสฟื้นตัวเหนือ 3,400 ในช่วงต้นสัปดาห์
🕯 ในทางเทคนิค:
ตั้งแต่วันที่ 23/06/2568 - 27/06/2568
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 จะระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังนี้:
แนวต้าน: 3,395 ดอลลาร์ (3,410 ดอลลาร์) 3,452 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,302 ดอลลาร์ (3,275 ดอลลาร์) 3,252 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มลดลงชั่วคราว📊ราคาทองคำเช้านี้ตกอยู่ภายใต้แรงขายอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชีย โดยร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสัปดาห์ แตะระดับ 3,345–3,344 ดอลลาร์ การลดลงนี้ส่วนใหญ่เกิดจากท่าทีที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งเน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ต่อเนื่อง และแนะนำแนวทางการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ความต้องการโลหะมีค่าที่ไม่ให้ผลตอบแทนลดลง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของตลาดที่เปราะบางและสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงที่ระมัดระวังอาจยังคงให้การสนับสนุนทองคำในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจช่วยรองรับราคาไม่ให้ลดลงอย่างรวดเร็วได้
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
แรงกดดันการขายยังคงดำเนินต่อไป โดยมีโอกาสกดดันราคาทองคำลงไปที่ 3,304-3300 ในวันนี้ เส้นราคาแนวโน้มขาลงยังคงดีอยู่
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำกลับมาป้วนเปี้ยนบริเวณ 3400 รอมติอัตราดอกเบี้ยค่ำนี้📊วานนี้ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับ 3,400 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าความรู้สึกเสี่ยงทั่วโลกจะแย่ลงก็ตาม ความยืดหยุ่นของเงินดอลลาร์สหรัฐจำกัดการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ปลอดภัยนี้ แม้ว่าความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังคงเป็นแรงสนับสนุนพื้นฐาน
แม้ว่าความต้องการเสี่ยงจะยังคงลดลง แต่ทองคำก็ดิ้นรนที่จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้น ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดค่าเงินเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ได้พุ่งขึ้น 0.46% สู่ระดับ 98.58
ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ออกจากการประชุมสุดยอด G7 ในแคนาดาอย่างกะทันหันเมื่อวันจันทร์ เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ในคำเตือนที่ชัดเจนที่โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลของเขา เขาเรียกร้องให้ "ทุกคนควรอพยพออกจากเตหะรานทันที" ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความขัดแย้งที่เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
💬ความคิดเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในโซนสะสม 3,400 - 3,365 ทะลุลงและน่าจะกลับมาอยู่เหนือ 3,400 ต่อไป สะสมกำลังต่อไป
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โมเมนตั้มขาขึ้นวางระดับเป้าหมายวางไว้ที่ 3444?📊ราคาทองคำ ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันเช้านี้ โดยปรับตัวลดลงจากการปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าของตลาดเอเชียที่ดันให้ราคาทะลุ 3,400 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ การดีดตัวขึ้นเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยถือเป็นปัจจัยฉุดรั้งสำคัญ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงดังกล่าวดูเหมือนจะจำกัดอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2568
ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งทางอากาศระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยังคงดำเนินต่อไปได้เข้าสู่วันที่ 5 ส่งผลให้มีความกลัวว่าภูมิภาคจะทวีความรุนแรงขึ้น ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่นี้ยังคงส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ ยังคงได้รับการสนับสนุน นักลงทุนยังใช้ความระมัดระวังก่อนการประชุมนโยบาย 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งผลที่ตามมาอาจกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำดีดตัวจากโซนสภาพคล่องบริเวณแนวรับสำคัญ: 3,385, 3,373 ทะลุแนวรับขาลงระยะสั้น ราคาทองคำควรจะกลับมาอยู่เหนือ 3,400 เร็วๆ นี้🙄
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ต้นสัปดาห์มีแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 3385👀ราคาทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3,451 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของตลาดเอเชียวันนี้ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันศุกร์จะแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ แต่ผู้ลงทุนยังคงให้ความสนใจกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นแตะระดับ 60.5 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์กันไว้ซึ่งอยู่ที่ 53.5 และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพฤษภาคมที่ 52.2 อย่างไรก็ตาม ตลาดส่วนใหญ่ไม่สนใจข้อมูลดังกล่าว
ในทางกลับกัน ความสนใจหันไปที่ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งการโจมตีอิหร่านของอิสราเอลเมื่อไม่นานนี้ทำให้เกิดความกลัวต่อความไม่มั่นคงในภูมิภาคที่กว้างขึ้น ทางการอิหร่านจึงออกมาเตือนว่าพวกเขาจะ “ตอบโต้อย่างเด็ดขาดต่อความเสี่ยงใดๆ” ซึ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดใจของทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ในช่วงต้นสัปดาห์ ราคาทองคำมีแนวโน้มการปรับตัวลดลงเล็กน้อย กลับสู่โซนสภาพคล่องที่ 3,385 ก่อนที่จะเดินหน้าในแนวโน้มขาขึ้นต่อไป📈
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โอกาสค่อนข้างเยอะที่ราคาทองคำจะกลับมาอยู่ที่ ATH : 3500วิเคราะห์กราฟรายสัปดาห์ระหว่าง 16-20 มิถุนายน 2568
เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำพุ่งขึ้นเป็นครั้งที่สามติดต่อกันเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่กองทัพอิสราเอลโจมตีเป้าหมายอิหร่าน รวมถึงโรงงานนิวเคลียร์และผู้นำระดับสูง ความตึงเครียดดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงในวงกว้างในตลาดทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
📈ทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 3,446 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลดระดับการเพิ่มขึ้นลง เนื่องจากผู้ซื้อขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์ ความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ประกอบกับสัญญาณขาลงจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ล่าสุด ได้ตอกย้ำความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ แม้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะดีขึ้นก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันยังคงสนับสนุนโมเมนตัมขาขึ้นของทองคำ
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ความตึงเครียดจากสงครามยังคงดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้ ซึ่งยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 3,500 จุดต่อไป
🕯 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับสำคัญดังนี้:
แนวต้าน: $3,502, $3,524, $3,562
แนวรับ: $3,370, $3,342, $3,304
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ราคาทองคำร่วงทะลุกรอบใหญ่ แนวโน้มการปรับตัวเพื่อสะสมกำลัง📊วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 06/09/2025 - 06/13/2025
ราคาทองคำลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในวันศุกร์ แต่ยังคงมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ด้วยกำไรมากกว่า 1.30% เนื่องจากผู้ซื้อขายปรับคาดการณ์การผ่อนคลายนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใหม่ หลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) รายงานว่าตลาดแรงงานยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น โดยอัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนเมษายน ในขณะเดียวกัน วอลล์สตรีทฟื้นตัวเล็กน้อยจากการขาดทุนเมื่อวันพฤหัสบดี แม้จะมีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และอีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ
💬 ความเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนพฤษภาคมที่ดี โดยราคาทองคำทะลุแนวรับ H4 ไปแล้วและยังคงสะสมกำลังต่อไป
🕯ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับสำคัญ
ตั้งแต่วันที่ 06/09/2025 - 06/13/2025 ได้ดังนี้:
แนวต้าน : 3,350 ดอลลาร์, 3,400 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,250 ดอลลาร์, 3,200 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
กระทิงจะทำให้ทองคำแตะ 3,400 ได้ในวันนี้หรือไม่?📊เมื่อคืนนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 0.80% ระหว่างการซื้อขายในตลาดออเมริกา โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวังซึ่งส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางธุรกิจและการเติบโตของการจ้างงานที่อ่อนแอลง ทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3,382 ดอลลาร์ หลังจากดีดตัวกลับจากระดับต่ำสุดของการซื้อขายที่ 3,343 ดอลลาร์
ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังส่งผลให้ทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นอีกด้วย เนื่องจากความไม่แน่นอนที่คืบคลานเข้ามาเกี่ยวกับการเจรจาการค้าที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง นักลงทุนจึงหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็นสองเท่าจาก 25% เป็น 50% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มิถุนายน การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการสนทนาที่คาดหวังกันอย่างมากระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
กำลังซื้อยังคงดำเนินต่อไป และจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายของสหรัฐฯ
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?📊ปัจจัย ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?
เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 0.80% เนื่องจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและกดดันโลหะที่ไม่ให้ผลตอบแทน ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,346 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบวัน 3,392 ดอลลาร์
ความรู้สึกของนักลงทุนดีขึ้นหลังจากการสำรวจการเปิดงานและอัตราการลาออกของแรงงานในสหรัฐฯ (JOLTS) ล่าสุดเผยให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน ซึ่งส่งสัญญาณถึงความตึงตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน ข้อมูลเชิงบวกนี้เกิดขึ้นก่อนสัปดาห์สำคัญที่เต็มไปด้วยรายงานการจ้างงาน รวมถึง ADP Employment Change ในเดือนพฤษภาคมในคืนนี้ และ Nonfarm Payrolls ที่คาดการณ์กันสูงในวันศุกร์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจส่งผลต่อความคาดหวังต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มภาษีศุลกากรยังคงแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน
ราคาทรงตัวเหนือ 3350 ฝ่ายกระทิงต้องการเอาชนะ 3411
🔼เมื่อวานนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กลับมาปะทุอีกครั้งทำให้บรรดานักลงทุนต่างพากันซื้อทองคำตลอดทั้งวัน
โดยเช้านี้อารมณ์ของตลาดเปลี่ยนไปในเชิงลบ เนื่องจากมีข่าวแพร่สะพัดว่ายูเครนโจมตีทางอากาศต่อรัสเซีย ซึ่งทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลและเครื่องบินลำอื่นๆ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็น 50% ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน และวาทกรรมต่อต้านจีนส่งผลให้หุ้นทั่วโลกของสหรัฐฯ ลดลง
CNBC รายงานว่าทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนอาจกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้
💭ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงทรงตัวในทิศทางขาขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ความตึงเครียดด้านภาษีศุลกากรและสงครามกับรัสเซียยังคงคาดเดาไม่ได้ ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนให้กลับสู่โซน 3400
แนวรับ/แนวต้านตามบนพื้นที่ H1 วันที่ 3 มิถุนายน
แนวต้าน 3416
แนวรับ 3308
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำพยายามยืนหยัดเหนือระดับ 3300 รอผล FOMC สัปดาห์นี้📊ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,300 ดอลลาร์ เหนือระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่ผู้ซื้อขายรอฟังรายงานการประชุม FOMC
🌐ไฮไลท์ปัจจัยพื้นฐาน
ราคา ทองคำปรับตัวขึ้น และแกว่งขึ้นลงสลับระหว่างขาขึ้นเล็กน้อยและขาลงเล็กน้อยตลอดช่วงการซื้อขายในเอเชีย ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ผสมผสานกันดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดึงดูดผู้ซื้อเป็นวันที่สองติดต่อกันจากข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อวันอังคาร ซึ่งเมื่อรวมกับแนวโน้มเชิงบวกในตลาดหุ้น กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อทองคำ
💭อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้าและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ทำให้ความเชื่อมั่นของตลาดลดลง นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของสหรัฐฯ ที่แย่ลง และการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2568 อาจจำกัดการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของดอลลาร์สหรัฐ และสนับสนุนราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน ซึ่งในทางกลับกัน เรื่องนี้ควรให้ความระมัดระวังสำหรับฝ่ายที่ถือทองคำและก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อปรับตัวลดลงต่อไป
🔍 ขณะนี้ นักลงทุนต่างรอคอยที่จะได้ทราบผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เพื่อรับทราบข้อมูลแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการมีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และยังเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนอีกด้วย นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ ตารางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังประกอบด้วย GDP เบื้องต้นประจำไตรมาสที่ 1 และดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ตามลำดับ
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: การปรับราคาทองคำทำให้ฝ่ายขาลงต้องระมัดระวัง โดยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 บน H4 ถือเป็นปัจจัยสำคัญ
🔼จากมุมมองทางเทคนิค การพังทลายในชั่วข้ามคืนผ่านเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการขาลงของเทรดเดอร์ การขายตและการยอมรับราคาต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ จะตอกย้ำแนวโน้มเชิงลบ อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะสูญเสียแรงดึงดูด) ยังไม่ยืนยันแนวโน้ม เชิงลบ ดังนั้นการตกครั้งต่อไปอาจดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนและพบแนวรับที่ดีใกล้โซนแนวนอน 3,250-3,245 ดอลลาร์ จุดหลังควรทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยน ซึ่งหากพังทลายลง ก็จะสร้างสถานการณ์ให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในระยะใกล้
🔽อีกด้านหนึ่ง โมเมนตัมที่ทะลุจุดสูงสุดของเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 3,315-3,316 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าจะเผชิญกับอุปสรรคบางอย่างที่บริเวณ 3,340-3,345 ดอลลาร์ ซึ่งจุดหลังนี้ตรงกับจุดทะลุแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งหากทะลุจุดนั้นไปได้ การเปิดสถานะซื้อใหม่จะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่บริเวณ 3,365-3,366 ดอลลาร์ ซึ่งแตะเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปจะช่วยให้ทองคำ กลับมามีมุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น การยืนเหนือระดับดังกล่าวจะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับฝ่ายซื้อ และจะช่วยให้ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และไต่ระดับต่อไปที่ระดับ 3,465-3,470 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยการรักษาระดับเหนือ 3200 Planday 19 พ.ค 2568
📊ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยการรักษาระดับเหนือ 3200
💵ปัจจัยพื้นฐาน:
ทองคำ กำลังฟื้นตัวจากการขาดทุนเมื่อเร็วๆ นี้ โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทรอยในช่วงการซื้อขายเอเชียในเช้าของวันนี้ ขณะที่นักลงทุนมองหาที่หลบภัยในสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และความยั่งยืนทางการคลัง
การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มูดี้ส์ตัดสินใจลดระดับเครดิตของสหรัฐฯ ลงหนึ่งขั้นจาก Aaa เป็น Aa1 โดยอ้างถึงหนี้ที่เพิ่มขึ้นและภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ปรับลดระดับในปี 2023 และ S&P ในปี 2011 ก่อนหน้านี้ ปัจจุบันมูดี้ส์คาดการณ์ว่าหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 134% ของ GDP ภายในปี 2035 จาก 98% ในปี 2023 ซึ่งขับเคลื่อนโดยต้นทุนการชำระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น โปรแกรมสิทธิประโยชน์ที่ขยายตัว และรายได้ภาษีที่ลดลง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นและช่วยหนุนราคาทองคำอีกครั้ง
💬ความคิดเห็นส่วนตัว
ทองคำซื้อขายที่เหนือระดับ 3200 ในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ ไม่มีข่าวอะไรมากนัก ยังคงเคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideway
กรอบแนวต้าน : 3269-3272
กรอบแนวรับ : 3191-3188
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
🔼จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำดูเหมือนจะพยายามปรับตัวขึ้นเหนือแนวรับ บนกราฟ 4 ชั่วโมง ดังนั้น ควรรอให้มีการซื้อตามมาหลังจากผ่านโซนอุปทาน 3,250-3,252 ดอลลาร์ก่อนจึงค่อยยืนยันว่าราคาทองคำแตะจุดต่ำสุดแล้ว และเตรียมวางตำแหน่งเพื่อรอการเพิ่มขึ้นต่อไป การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจพาให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือแนวต้าน 3,274-3,275 ดอลลาร์ไปสู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้จริง อาจเป็นการหักล้างแนวโน้มเชิงลบในระยะใกล้ และเปลี่ยนแนวโน้มไปเป็นแนวโน้มขาขึ้นของผู้ซื้อ ซึ่งจะเปิดทางให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อไป
🔽ในทางกลับกัน หากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 3,200 ดอลลาร์ อาจมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 3,178-3,177 ดอลลาร์ การขายต่ออาจทำให้ราคาทองคำเสี่ยงต่อการร่วงลงอย่างรวดเร็วสู่จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่บริเวณ 3,120 ดอลลาร์ หรือระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ก่อนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ หากราคาทองคำทะลุลงต่ำกว่าระดับ 3,060 ดอลลาร์ได้ แนวรับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 3,060 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
อารมณ์ตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ทองคำเริ่มถูกขายคาดการณ์แนวโน้ม ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 19/05/2025 - 23/05/2025
📊อารมณ์ตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ทองคำเริ่มถูกขายเพื่อซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่า
🌐 สถานการณ์ล่าสุด:
ราคาทองคำร่วงลงกว่า 1.5% ในวันศุกร์ เตรียมปิดสัปดาห์ด้วยการร่วงลงอย่างรวดเร็วกว่า 4% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันเหออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยและหันไปลงทุนในหุ้นและการลงทุนเสี่ยงอื่นๆ แทน ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,205 ดอลลาร์ ลดลงจากระดับสูงสุดประจำวันที่ 3,252 ดอลลาร์
🖥การเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการชะลอตัวหลังจากมีรายงานว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนคลี่คลายลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงข้อตกลงร่วมกันในการลดภาษีลง 115% ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเทขายทองคำแท่งอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทองคำจะผันผวนระหว่าง 3,120 ดอลลาร์และ 3,265 ดอลลาร์ตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ทองคำก็ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมขาขึ้นได้ โดยความสนใจของผู้ซื้อที่ลดลงเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นท่ามกลางความต้องการเสี่ยงที่สูงขึ้นและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สดใส
💬ความเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงสะสมรอราคาลดลงที่ราว 3,200 ดอลลาร์ จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากข่าวภาษีศุลกากรและการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
⚙️ ในทางเทคนิค:
วันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจนสามารถปิดตลาดรายวันเหนือ 3,200 ดอลลาร์ได้
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ผู้ขายสามารถเข้ามาแทรกแซง โดยลากราคาให้ลงไป และยืนยันว่ายังมี “จุดสูงสุดสองจุด” อยู่ โมเมนตัมสนับสนุนการลงต่อเนื่องจากดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) ยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลง
🔽ดังนั้น หากราคาลงไปอยู่ต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์ ระดับแนวรับถัดไปจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันที่ 3,155 ดอลลาร์ ตามด้วย 3,087 ดอลลาร์
🔼ในทางกลับกัน หากทองคำทะลุ 3,200 ดอลลาร์ ระดับแนวต้านถัดไปจะเป็นจุดสูงสุดในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ 3,257 ดอลลาร์ ก่อนที่จะถึง 3,300 ดอลลาร์
....
🕯จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: 3,267 ดอลลาร์ 3,357 ดอลลาร์ 3,370 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,155 ดอลลาร์ 3,087 ดอลลาร์ 2,950 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำฟื้นตัวแรงฟื้น กลับมาสะสมกำลังเหนือ 3190 อีกครั้ง⭐️ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวได้จากการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้จากที่ได้ร่วงลงไปทดสอบระดับ 3,120 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ทั้งนี้ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันการขายอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในเอเชียของวันนี้
ข้อตกลงการค้า 90 วันระหว่างสหรัฐฯ และจีนช่วยบรรเทาความตึงเครียดในตลาดการเงินโลกบางส่วน ซึ่งส่งผลต่อความต้องการทองคำในฐานะสินทรพย์ที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงยังคงเป็นแรงสนับสนุนพื้นฐาน ช่วยจำกัดการลดลง นอกจากนี้ ความคาดหวังของตลาดที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมโดยธนาคารกลางสหรัฐ อาจทำให้ผู้ซื้อขายไม่กล้าถือครองสถานะขาลงที่แข็งแกร่งต่อทองคำในระยะใกล้
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำฟื้นตัว ผู้ซื้อมุ่งมั่นที่จะรักษาราคาให้คงที่ที่ระดับ 3,200 ในเดือนพฤษภาคม รอโมเมนตัมขาขึ้นใหม่หลังการเจรจาภาษีศุลกากรสิ้นสุดลง
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ผู้ลงทุนรอผลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - การประเมินอัตราเงินเฟ้อ📊ผู้ลงทุนรอผลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - การประเมินอัตราเงินเฟ้อ คืนนี้
ราคาทองคำสามารถรักษาระดับ 3,200 ดอลลาร์ไว้ได้อีกครั้ง โดยฟื้นตัวจากระดับลดลง 3% เมื่อวันจันทร์ในช่วงเช้าวันนี้ ผู้ขายทองคำพักเบรกเนื่องจากผู้ค้ารอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบสูง ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในครั้งต่อไป
ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าปฏิบัติการทางทหารต่อปากีสถานนั้นถูกระงับไว้เพียงเท่านั้น โดยเตือนว่าการดำเนินการในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการดำเนินการของอิสลามาบัด ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนแสดงความเต็มใจที่จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้เขา "ยอมรับ" คำเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสันติภาพในตุรกีในทันที ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการพัฒนาดังกล่าวอาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ ซึ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดใจของโลหะชนิดนี้ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่
นอกจากนี้ ผู้ซื้อขายยังหันไปขายทำกำไรจากสัญญาซื้อ USD ก่อนการเผชิญหน้าระหว่างดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยจำกัดขาลงของราคาทองคำ
การเคลื่อนไหวในทิศทางต่อไปของโลหะมีค่าขึ้นอยู่กับผลของการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ตลาดคาดการณ์ว่าดัชนี CPI ประจำปีของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนเมษายนในอัตราเดียวกับเดือนมีนาคม ส่วนอัตราเงินเฟ้อ CPI พื้นฐานจะคงอยู่ที่ 2.8% ตลอดทั้งปีในช่วงเวลาเดียวกัน
ตัวเลข CPI ที่ออกมาค่อนข้างดีจะทำให้ความรู้สึกที่แข็งกร้าวต่อเฟดกลับมาเป็นสองเท่า ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ราคาทองคำที่ไม่มีดอกเบี้ยลดลงอีกครั้ง ในทางกลับกัน การชะลอตัวของการเติบโตของ CPI ของสหรัฐฯ ที่ไม่คาดคิดอาจทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม พาดหัวข่าวใดๆ จากรัฐบาลทรัมป์เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นกับหุ้นส่วนทางการค้าหลักของสหรัฐฯ อาจมีน้ำหนักมากกว่าปฏิกิริยาของตลาดต่อข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
คำกล่าวของผู้กำหนดนโยบายของเฟดจะถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
💭ความคิดเห็นส่วนตัว
ข้อมูล CPI ประเมินระดับเงินเฟ้อในเศรษฐกิจสหรัฐ ราคาทองคำยังคงพยายามรักษาช่วงราคาไว้ที่ 3200
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
ราคาทองคำทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 21 วัน (SMA) จากนั้นปิดตลาดรายวันที่ 3,313 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดแนวโน้มขาลงเพิ่มเติม
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ 14 วัน (RSI) หันไปเป็นขาลงเช่นกัน หลังจากปิดตัวต่ำกว่าเส้นกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน
ยังคงต้องรอดูว่าข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาดจะส่งผลให้ราคาทองคำลดลงอีกครั้งไปที่เส้น SMA 50 วันที่ 3,145 ดอลลาร์หรือไม่
ระดับแนวรับที่ดีถัดไปอยู่ที่ระดับรอบ 3,100 ดอลลาร์และระดับต่ำสุดในวันที่ 10 เมษายนที่ 3,072 ดอลลาร์
หากข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ออกมาในทางลบราคาทองคำอาจสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวรับ SMA 21 วันที่ปัจจุบันอยู่ที่ 3,311 ดอลลาร์ได้ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ ราคาจะทดสอบแนวต้านเส้นแนวโน้มขาลงที่ 3,430 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านแบบไม่สม่ำเสมอ
การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเหนือระดับดังกล่าวจะเปิดประตูไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำวิ่งกรอบกว้าง 2675-2620 รอข้อมูล ADP-NF และ NF ของสัปดาห์ราคาทองคำพุ่งสูงหลังจากข่าวสงครามเมื่อวานนี้ แต่ร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น โดยเคลื่อนไหวในกรอบกว้าง 2675-2620 รอข้อมูล ADP-NF และ NF ของสัปดาห์นี้
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในเชิงลบเล็กน้อย อย่างไรก็ตามแนวโน้มขาลงดูเหมือนจะโดนจำกัดท่ามกลางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น เกิดความหวาดกลัวต่อสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาคนี้ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปที่อิสราเอล ซึ่งส่งผลให้ความต้องการถือทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ซึ่งยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และน่าจะเป็นปัจจัยหนุนสำหรับทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ดังนั้น การร่วงลงครั้งต่อไปอาจถือเป็นโอกาสในการซื้อ และมีแนวโน้มที่จะได้รับการบรรเทาลงต่อไป
💵ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากช่วง 2 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางสัญญาณว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นก็ลดลง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่คอยสกัดช่วงบวกของทองคำเช่นกัน
คืนนี้ นักลงทุนกำลังมองไปที่รายงาน ADP ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่านายจ้างภาคเอกชนเพิ่มตำแหน่งงาน 120,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับ 99,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นโอกาสในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ความสนใจส่วนสำคัญจะยังคงมุ่งเน้นไปที่รายละเอียดการจ้างงานอย่างเป็นทางการรายเดือนที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ซึ่งน่าจะให้แรงผลักดันเชิงทิศทางใหม่
🕯แนวโน้มทางเทคนิค:
จากมุมมองทางเทคนิค การเคลื่อนตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงข้ามคืนทำให้ราคาทะลุแนวต้านระยะสั้นของช่องขาขึ้นได้สำเร็จ โดยพลิกกลับมาเป็นแนวรับที่บริเวณ 2625-2624
📉แนวรับสำคัญ 2,625-2,624 ดอลลาร์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวควรทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งหากทะลุผ่านได้อย่างเด็ดขาด อาจกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิค การร่วงลงที่ตามมาอาจทำให้ราคาทองคำลดลงต่ำกว่าระดับ 2,600 ดอลลาร์ และเคลื่อนตัวไปสู่แนวรับถัดไปที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 2,535-2,530 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน บริเวณ 2,674-75 ดอลลาร์อาจยังคงเป็นแนวต้านย่อยๆก่อนถึง 2,685-86 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หากผ่านได้ New Alltime high อาจตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถพิชิตได้ จะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อมากขึ้น สนับสุนภาพขาขึ้นได้อีก และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมานานหลายเดือน สู่ 2755-2770 ตามลำดับ
--------
แนวคิดแผน Sell 1 (วันที่ 2ตุลาคม)
Sell zone 2680-2685
Sl 2700
TP1 2660
TP2 2640
TP3 2620
TP4 2600
TP5 2580
TP6 2560
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
..........
แนวคิดแผน Sell 2 (วันที่ 2ตุลาคม)
Sell zone 2695-2700
Sl 2720
TP1 2675
TP2 2655
TP3 2635
TP4 2615
TP5 2595
TP6 2575
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
.............
แนวคิดแผน Buy1 (วันที่ 2 ตุลาคม)
Buy zone 2625-2620
Sl 2600
TP1 2640
TP2 2650
TP3 2660
TP4 2670
TP5 2680
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Buy 2 (2 ตุลาคม)
Buy zone 2605-2600
Sl 2584
TP1 2625
TP2 2645
TP3 2665
TP4 2685
TP5 2705
TP6 2725
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ทองคำเริ่มสะสมกำลังรอ None Farm ศุกร์นี้ราคาทองคำร่วงลงท่ามกลางบรรยากาศตลาดที่คึกคัก แต่แนวโน้มขาขึ้นยังคงดูแข็งแกร่ง
⭐️ราคาทองคำร่วงลงท่ามกลางบรรยากาศตลาดที่คึกคัก แต่แนวโน้มขาขึ้นยังคงดูแข็งแกร่ง
⭐️ปัจจัยทางเทคนิคได้กระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนขายทองคำเพื่อเก็งกำไร เป็นวันที่สองติดต่อกัน แม้ดูเหมือนขาลงจะยังถูกจำกัดก็ตาม
⭐️ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ อิสราเอลทวีความรุนแรงของสงครามที่ชายแดนกับเลบานอน ทำให้มีความเสี่ยงที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
⭐️นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ กำลังวางแผนการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 27 ตุลาคม พร้อมกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ น่าจะช่วยหนุนทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
⭐️การคาดว่าเฟดจะผ่อนปรนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ราคายังทรงตัวระดับสูงต่อได้
⭐️อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่จีนประกาศในช่วงสุดสัปดาห์ คาดว่าจะกดดันทองคำเป็นวันที่สองติดต่อกัน
แต่โดยรวมมองว่า ปัจจัยพื้นฐานยังสนับสนุนแนวโน้มการเกิดการซื้อในช่วงขาลงนั้น
👀คืนนี้ หลังเที่ยงคืน นักลงทุนรอฟังถ้อนแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เพื่อหาแรงกระตุ้นที่สำคัญอีกครั้ง
🕯แนวโน้มทางเทคนิค:
ราคาทองคำอาจดึงดูดผู้ซื้อในช่วงที่ราคาปรับตัวลงได้
📉จากมุมมองทางเทคนิค การร่วงลงครั้งต่อไปมีแนวโน้มที่จะพบกับแนวรับที่ดีใกล้จุดทะลุแนวต้านระยะสั้นของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่บริเวณ 2,625 ดอลลาร์ จากนั้นจะตามมาด้วยระดับ 2,600 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุลงได้อย่างเด็ดขาด อาจนำไปสู่แนวโน้มขาลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะใกล้นี้
เมื่อพิจารณาว่าดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันยังคงวนเวียนอยู่ใกล้โซนซื้อมากเกินไป ราคาทองคำอาจเร่งให้ราคาลดลงไปที่แนวรับระยะกลางที่ 2,560 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 2,535-2,530 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน บริเวณ 2,670-2,671 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญก่อนที่จะถึงโซน 2,685-2,686 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่แตะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และอาจจะตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถพิชิตได้ ก็จะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับทศทางขาขึ้น และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ระยะกลางระยะยาวต่อไป
แนวคิดแผน Sell1 (วันที่ 30 กันยายน)
Sell zone 2670-2672-2674 (Scalping zone)
Sl 2686 (Highrisk‼️)
TP1 2665
TP2 2660
TP3 2655
TP4 2650
TP5 2645
TP6 2640
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
-----------------
แนวคิดแผน Sell2 (วันที่ 30 กันยายน)
Sell 2705-2710-2715
Sl 2730
TP1 2690
TP2 2670
TP3 2650
TP4 2630
TP5 2610
TP6 2590
TP7 2570
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
------------------
แนวคิดแผน Buy1 (วันที่ 30 กันยายน)
Buy 2643-2640-2638
Sl 2625
TP1 2650
TP2 2660
TP3 2670
TP4 2680
TP5 2690
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
..............
แนวคิดแผน Buy2 (วันที่ 30 กันยายน)
Buy zone 2632-2630-2625
Sl 2613
TP1 2640
TP2 2650
TP3 2660
TP4 2670
TP5 2680
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ราคาทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น !! ยังรอ ATH ต่อไป✍️ความคิดเห็นเกี่ยวกับราคาทองคำช่วงวันที่ 5 - 9 สิงหาคม 2567
◾️แนวโน้มขาขึ้น H4 ยังคงชัดเจน เส้นแนวโน้มยังสวยงามสำหรับการเติบโตใหม่ ยังมีปัจจัยหลายประการที่ช่วยให้ทองคำไปถึง ATH ใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้
--------------------------------------
พื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4
ระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญระหว่างวันที่ 5 - 9 สิงหาคม 2567
แนวต้าน: 2474, 2490, 2510, 2530
แนวรับ : 2405 , 2383, 2365, 2310
--------------------------------------
ราคาทองคำวันนี้ 28 ก.ค. ผันผวนรุนแรง คาดปรับขึ้นต่อคาดว่าราคาทองคำวันนี้จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ หลังจากเข้าใกล้ระดับ 2,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์
ในช่วงสุดสัปดาห์ของวันที่ 28 กรกฎาคม ราคาทองคำแท่ง SJC ยังคงจดทะเบียนโดย SJC Gold Company โดยซื้อ 77.5 ล้านดองเวียดนาม ขาย 79.5 ล้านดองดอง/ตำลึง ซึ่งทรงตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำแท่งลดลงประมาณ 500,000 ดอง/ตำลึง
นี่เป็นราคาขายทองคำแท่ง SJC ของธนาคารพาณิชย์รวมถึง BIDV (HM:BID), Vietcombank (HM:VCB), Agribank และ VietinBank เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย
ในขณะเดียวกัน ราคาแหวนทองและเครื่องประดับทอง 24K ทุกประเภทซื้อขายกันที่ซื้อมา 75.6 ล้านดองเวียดนาม ขายไป 77.06 ล้านดองดอง ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในตลาดภายในประเทศ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงผันผวนตามราคาแหวนทองคำ ขณะเดียวกันก็มีเสถียรภาพมากขึ้นด้วยราคาทองคำแท่ง SJC เพราะราคาแหวนทองมีขึ้นและลงใกล้เคียงกับราคาโลกมากขึ้น
คาดว่าราคาทองคำวันนี้จะเพิ่มขึ้นอีกในตลาดต่างประเทศ
ในตลาดโลก ราคาทองคำปิดสัปดาห์ซื้อขายที่ 2,386 USD/ออนซ์ เพิ่มขึ้นอย่างมาก 50 USD/ออนซ์ เมื่อเทียบกับปลายสัปดาห์ที่แล้ว ในระหว่างสัปดาห์ มีช่วงหนึ่งที่ราคาทองคำทะลุ 2,430 USD/ออนซ์ แต่ไม่สามารถถือไว้ได้และลดลงอีกครั้งหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่ใกล้ถึงเกณฑ์ที่ 2,400 USD/ออนซ์ ทั้งนักวิเคราะห์และนักลงทุนเชื่อว่าราคาทองคำอาจยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป ตามผลการสำรวจของ Kitco
ราคาทองคำร่วงลงเนื่องจากค่าเงินเยนเพิ่มขึ้นราคาทองคำร่วงลงในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว
การลดลงของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงดำเนินต่อไป โดยราคาทองแดงปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือน ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผู้นำเข้ารายใหญ่ของจีน ข้อมูลที่อ่อนแอเกี่ยวกับกิจกรรมการผลิตจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนี และญี่ปุ่น ยังบั่นทอนแนวโน้มของทองแดงอีกด้วย
ราคาทองคำสปอตร่วงลง 0.9% สู่ระดับ 2,376.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนสิงหาคมลดลง 1.7% สู่ระดับ 2,375.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 00:52 ET (04:52 GMT)
ราคาทองคำลดลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยส่งผลดีต่อเงินเยน
ราคาทองคำลดลงเนื่องจากผู้ค้าหันไปหาเงินเยนของญี่ปุ่น คู่ USDJPY ของเยน ซึ่งใช้วัดเงินเยนที่จำเป็นในการซื้อหนึ่งดอลลาร์ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองเดือนในวันพฤหัสบดี
เงินเยนได้รับประโยชน์จากการลดลงของสถานะขายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีข้อสงสัยว่ารัฐบาลจะเข้าแทรกแซงตลาดสกุลเงิน แต่การเก็งกำไรเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้าก็เป็นประโยชน์ต่อเงินเยนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ราคาทองคำผันผวนประมาณ 2,400 เหรียญสหรัฐราคาทองคำมีความผันผวนเล็กน้อยในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันอังคาร โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 วัน เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องการความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการเมืองและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ โดยเฉพาะก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ในบรรดาโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงร่วงลงในวันอังคาร ซึ่งส่งผลให้ราคาลดลงอย่างมากในช่วงล่าสุด ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้นำเข้าทองแดงรายใหญ่ของจีน
ราคาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 2,398.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 2,399.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 00:33 น. ET (04:33 GMT)
ทองคำร่วงลงจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเน้นไปที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการเมืองของสหรัฐฯ
ทองคำร่วงลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางการเมืองของสหรัฐฯ
ราคาสปอตเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2,470 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะร่วงลงอย่างรวดเร็ว ความยืดหยุ่นของเงินดอลลาร์ท่ามกลางการเก็งกำไรเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเช่นกัน
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการเสนอราคาเลือกตั้งใหม่ และเสนอชื่อรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส แทน กล่าวกันว่าแฮร์ริสดึงดูดผู้แทนจากพรรคเดโมแครตมากพอที่จะเป็นผู้เสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรค แม้ว่าเธอจะยังไม่ได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการก็ตาม
คาดว่าราคาทองคำวันนี้จะฟื้นตัวและร่วงลงอย่างรวดเร็วราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ราคาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 2,408.99 USD ณ เวลา 8:12 น. โลหะมีค่าได้รับประโยชน์จากความต้องการแหล่งหลบภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในเช้าวันที่ 22 กรกฎาคม หลังมีข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจถอนตัวจากการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งใหม่
ข้อมูลนี้ทำให้เกิดคำถามใหม่ว่าความเคลื่อนไหวข้างต้นจะช่วยหรือขัดขวางโอกาสของโดนัลด์ ทรัมป์ในการกลับทำเนียบขาวหรือไม่
ราคาทองคำสปอตจึงเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 2,408.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเวลา 8:12 น. โลหะมีค่าได้รับประโยชน์จากความต้องการแหล่งหลบภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นายไบเดนกล่าวว่าเขาจะดำรงตำแหน่งตามวาระและสนับสนุนรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสให้ดำรงตำแหน่งในการแข่งขันชิงทำเนียบขาว อย่างไรก็ตาม เธอยังคงต้องได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการจากพรรคเดโมแครตในการประชุมระดับชาติของพรรคในเดือนหน้า
ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนใกล้เข้ามา ผลสำรวจพบว่าทรัมป์เป็นผู้นำ การสนับสนุนผู้สมัครพรรครีพับลิกันเพิ่มขึ้นหลังจากการพยายามลอบสังหารเขาที่ล้มเหลวในงานหาเสียงในรัฐเพนซิลวาเนียเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม