XAUUSD กำลังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น1. แนวโน้มหลัก
ราคาทองคำ (XAUUSD) อยู่ใน แนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น เห็นได้จากเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น (สีแดง) ที่เชื่อมจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
เส้น DEMA 34 (3,361.97) และ DEMA 89 (3,364.26) อยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน สนับสนุนทิศทางขาขึ้น
2. โซนแนวต้านสำคัญ
โซน 3,366 – 3,370 เป็นแนวต้านแข็งแรง ตรงกับจุดสูงสุดล่าสุด
ด้านบนมีแนวต้านถัดไปที่ 3,370 – 3,375 หากทะลุได้ อาจเปิดทางขึ้นสู่ 3,390 – 3,400
3. รูปแบบและสถานการณ์
รูปแบบที่คาดการณ์: ราคาทะลุเส้นเทรนด์ไลน์ขาลง (สีน้ำเงิน) แล้วกลับมาทดสอบโซนแนวต้านเดิม ก่อนเดินหน้าต่อในทิศทางขาขึ้นตามเส้นสีแดง
สถานการณ์ขาขึ้น (ให้ความสำคัญ):
เงื่อนไข: ราคายืนเหนือเส้นสีแดง + ปิดแท่งเหนือ 3,370
เป้าหมาย: 3,390 → 3,400 → และอาจต่อถึง 3,420
สถานการณ์ขาลง (ป้องกันความเสี่ยง):
หากราคาหลุดเส้นสีแดงและ DEMA 89 อาจถอยลงมาที่โซนแนวรับ 3,345 – 3,350
4. กลยุทธ์การเทรดแนะนำ
เปิดซื้อ (Buy) เมื่อราคากลับมาทดสอบโซน 3,366 – 3,370 แล้วมีแรงเด้งขึ้น
ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-loss): ใต้ 3,360 หรือใต้เส้นสีแดง
ทำกำไร (Take-profit): แบ่งขายที่ 3,390 และ 3,400+
Goldlong
แนวโน้มและการคาดการณ์ทองคำ (XAU) ประจำสัปดาห์นี้1. แนวโน้มหลัก
ราคากำลังอยู่ในช่วง ขาขึ้นระยะสั้น โดยมีเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น (เส้นสีแดง) ทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง
เส้นเทรนด์ไลน์ขาลง (เส้นสีน้ำเงิน) ทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญ
ปัจจุบันราคาดีดตัวขึ้นจากเส้นเทรนด์ไลน์สีแดง และกำลังมุ่งหน้าไปยังโซนแนวต้าน
2. แนวต้านและแนวรับสำคัญ
แนวต้านหลัก: 3,361 – 3,364 (กรอบสีแดง) ซึ่งเป็นโซนที่ราคาถูกปฏิเสธหลายครั้งในอดีต
แนวรับใกล้เคียง: บริเวณเส้นเทรนด์ไลน์สีแดงประมาณ 3,345
แนวรับแข็งแกร่ง: บริเวณกรอบสีน้ำเงินด้านล่างประมาณ 3,310 – 3,315
3. สถานการณ์ขาขึ้น (ให้ความสำคัญ)
ราคายังคงยืนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์สีแดง, ทะลุเส้นเทรนด์ไลน์สีน้ำเงิน และทะลุแนวต้าน 3,361–3,364 ได้
หลังการเบรกเอาท์ (Breakout) มีโอกาสสูงที่ราคาจะ กลับมาทดสอบแนวต้านเดิม ก่อนเด้งขึ้นต่อ
เป้าหมายราคา: 3,375 → 3,390
4. สถานการณ์ขาลง (ป้องกันความเสี่ยง)
หากราคาหลุดเส้นเทรนด์ไลน์สีแดง (~3,345) จะบ่งบอกถึงแรงซื้อที่อ่อนตัวลง
ราคามีโอกาสปรับตัวลงต่อสู่แนวรับ 3,310–3,315
5. สัญญาณสนับสนุน
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นและระยะกลางกำลังบรรจบกัน หากตัดขึ้นจะเป็นสัญญาณยืนยันแรงซื้อ
รูปแบบที่คาดการณ์ไว้ (ลูกศรสีน้ำเงิน) คือ Breakout → Retest → ขึ้นต่อ
ราคาทองคำคาดว่าจะผันผวนเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED)ราคาปัจจุบัน: กองทุนกำลังซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 313.12 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากราคาปิดก่อนหน้า (+0.00828%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดอยู่ในภาวะทรงตัวในขณะนี้
1. การเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละช่วงเวลา
การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาดผ่านระดับราคาและช่วงเวลา:
ช่วงเช้า: มักเป็นการตอบสนองต่อข่าวสารจากต่างประเทศในช่วงกลางคืน
ช่วงกลางวัน: เป็นการปรับตัวทางเทคนิค
ช่วงบ่าย: ปิดท้ายรอบการซื้อขายและตอบสนองต่อข้อมูลข่าวสารใหม่
2. ปัจจัยหลักที่มีผลกระทบ
อัตราดอกเบี้ย: การตัดสินใจจาก FED หรือ ECB สามารถทำให้ราคาทองคำผันผวนได้อย่างมาก
ข้อมูลเศรษฐกิจ: ข้อมูล CPI, Nonfarm Payrolls หรือ GDP ล้วนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
ตลอดสัปดาห์นี้ ราคาทองคำคาดว่าจะผันผวนเนื่องจากผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลในช่วงบ่ายวันที่ 30 กรกฎาคม (เวลาวอชิงตัน) แม้ตลาดคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่ยังรอติดตามสัญญาณเกี่ยวกับระยะเวลาและความเร็วในการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต โดยเฉพาะความเป็นไปได้ในการปรับลดในเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่น ๆ ของสหรัฐ เช่น อัตราเงินเฟ้อ GDP และการจ้างงาน ก็จะมีผลต่อราคาทองคำอย่างมากเช่นกัน กองทุนทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก SPDR Gold Trust คงปริมาณการถือครองทองคำไว้ในวันที่ 29 กรกฎาคม หลังจากมีการขายสุทธิเพียงเล็กน้อยในวันก่อนหน้า
การวิเคราะห์กราฟ (กรอบเวลา H1):
หลังจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ราคาทองคำในปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว แต่ราคายังคงอยู่ต่ำกว่าเส้นแนวโน้มขาขึ้น ดังนั้นแนวโน้มขาลงยังคงมีอิทธิพล และราคามีโอกาสปรับตัวลงสู่ระดับที่ต่ำกว่า
แนวต้าน: 3362.8, 3383, 3433
แนวรับ: 3345, 3334
สวัสดีทุกคน
JENDA FISH
วิเคราะห์ราคาทองคำ 2 ก.ค.ตามที่คาดไว้ หลังจากที่แท่งเทียน D1 แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อที่กลับมา ราคาในการซื้อขายเมื่อวานนี้ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นและไปถึง 3,357
ปัจจุบัน ตลาดอยู่ในช่วงสะสมที่มีช่วงราคาค่อนข้างกว้าง โดยผันผวนจาก 3,328 ถึง 3,344 ซึ่งเป็นโซนราคาที่สำคัญ โดยทำหน้าที่เป็น "กรอบด้านข้าง" รอการทะลุออก
กลยุทธ์ที่สำคัญในเวลานี้ยังคงเป็นการซื้อขายตามแนวโน้ม ซึ่งเปิดใช้งานเมื่อราคาทะลุโซนสะสมข้างต้น
คำสั่งซื้อจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงหากราคาปรับตัวและทดสอบโซนแนวรับหรือแนวต้านที่เพิ่งทะลุไป จากนั้นจึงสร้างสัญญาณยืนยัน
ในขณะเดียวกัน คำสั่งขายบริเวณแนวต้านควรพิจารณาเป็นกลยุทธ์การฟื้นตัวในแนวโน้มขาขึ้นเท่านั้น ซึ่งต้องมีการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวดและคาดหวังผลกำไรในระยะสั้น
ช่วงการทะลุออก: 3,328 – 3,344
แนวรับ: 3,310 – 3,298
แนวต้าน: 3,368 – 3,386
Potential BUY signal has emerged on the XAU/USD chart
BUY Signal: Activated at 3290.78 after price tapped into a higher-timeframe demand zone and showed strong rejection, indicating a potential short-term reversal.
TP Zones:
TP1: 3330.63
TP2: 3350.48
Final TP: 3380.35
This setup offers a potential profit range of approximately 400 to 900 pips.
Market Structure:
Price formed a BOS (Break of Structure) to the downside before sharply reversing inside the demand zone. The reaction suggests buyers are stepping in with momentum, aiming for the imbalance and supply zones overhead. With multiple targets aligned with premium pricing, this setup presents a favorable risk-to-reward ratio.
Remember to manage your trades carefully and ensure this setup fits your overall strategy. Stay sharp and trade responsibly!
คืนนี้รอตัวเลชดัชนีภาคการผลิต (PMI) คาดการณ์อาจส่งผลบวกต่อทองคำ📊ราคาทองคำ ขยับขึ้นแตะระดับ 3,395 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของการซื้อขายในเอเชียเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ตัดสินใจเข้าแทรกแซงทางการทหารในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำพุ่งสูงขึ้น
สหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่งเมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรง แม้ว่าก่อนหน้านี้ทรัมป์จะให้คำมั่นว่าจะหลีกเลี่ยงสงครามในต่างประเทศครั้งใหม่ ความวุ่นวายที่ทวีความรุนแรงขึ้นได้จุดชนวนให้เกิดกระแสการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน นักลงทุนจะติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ S&P Global สหรัฐฯ เบื้องต้นสำหรับเดือนมิถุนายนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะประกาศในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เพื่อดูทิศทางของตลาดต่อไป
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำน่าจะยังคงทรงตัวเหนือแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,340 ซึ่งเป็นไปในทางบวกจากข้อมูลข่าว PMI ของสหรัฐฯ ในวันนี้
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ปัจจัยสงครามตะวันออกกลาง - ยังเป็นตัวสนับสนุนให้ราคาทองคำพุ่ง🔜คาดการณ์ราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 23/06/2568 - 27/06/2568
ราคาทองคำทรงตัวในวันศุกร์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ 3,369 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะร่วงลง 1.90% ในรอบสัปดาห์ เนื่องจากตลาดกำลังพิจารณาการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่จะไม่ดำเนินการทางทหารกับอิหร่านในทันที และเลือกใช้วิธีการทางการทูตแทน
แม้ว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คลี่คลายลงจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยง แต่แรงกดดันเพิ่มเติมต่อทองคำก็เกิดขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นของสหรัฐฯ ต่อพันธมิตรที่ดำเนินการโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในจีน ตามรายงานของบลูมเบิร์ก การที่ทรัมป์ยับยั้งชั่งใจอิหร่านทำให้เกิดกระแสความเสี่ยง ซึ่งส่งผลต่อความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยชนิดนี้
💬ความคิดเห็นส่วนตัว:
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น ราคาทองคำยังคงรอโอกาสฟื้นตัวเหนือ 3,400 ในช่วงต้นสัปดาห์
🕯 ในทางเทคนิค:
ตั้งแต่วันที่ 23/06/2568 - 27/06/2568
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 จะระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังนี้:
แนวต้าน: 3,395 ดอลลาร์ (3,410 ดอลลาร์) 3,452 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,302 ดอลลาร์ (3,275 ดอลลาร์) 3,252 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มลดลงชั่วคราว📊ราคาทองคำเช้านี้ตกอยู่ภายใต้แรงขายอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชีย โดยร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสัปดาห์ แตะระดับ 3,345–3,344 ดอลลาร์ การลดลงนี้ส่วนใหญ่เกิดจากท่าทีที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งเน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ต่อเนื่อง และแนะนำแนวทางการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ความต้องการโลหะมีค่าที่ไม่ให้ผลตอบแทนลดลง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของตลาดที่เปราะบางและสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงที่ระมัดระวังอาจยังคงให้การสนับสนุนทองคำในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจช่วยรองรับราคาไม่ให้ลดลงอย่างรวดเร็วได้
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
แรงกดดันการขายยังคงดำเนินต่อไป โดยมีโอกาสกดดันราคาทองคำลงไปที่ 3,304-3300 ในวันนี้ เส้นราคาแนวโน้มขาลงยังคงดีอยู่
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ราคาทองขยับขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางเสี่ยงตะวันออกกลางราคาทองคำพยายามขยับขึ้นอย่างจำกัดท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ขัดแย้งกัน
ราคาทองคำขยับสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายของเอเชีย แต่ยังขาดแรงซื้อเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นยังคงสนับสนุนบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การหยุดพักการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่มีท่าทีเข้มงวดได้ผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลกดดันราคาทองคำ (XAU/USD)
ภาพรวมทางเทคนิคของ XAU/USD
ในทางเทคนิค แนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำยังคงอยู่ โดยดัชนี RSI ระยะ 14 วัน ยังคงอยู่เหนือเส้นกึ่งกลางที่ระดับใกล้ 55
ราคาทองคำจำเป็นต้องยืนเหนือแนวต้านสำคัญซึ่งกลายเป็นแนวรับที่ระดับ $3,377 ซึ่งเป็นระดับฟีโบนักชีรีเทรซเมนต์ 23.6% ของการพุ่งขึ้นในเดือนเมษายน เพื่อเปิดทางสู่แนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่
แนวต้านถัดไปที่สำคัญอยู่ที่ระดับ $3,400 หากผ่านไปได้จะทดสอบแนวต้านแนวราบที่ $3,440
หากราคายืนเหนือได้อย่างมั่นคง ผู้ซื้อจะมุ่งหน้าทดสอบจุดสูงสุดในรอบสองเดือนที่ $3,453
ในทางกลับกัน หากราคาทองคำไม่สามารถรักษาการดีดตัวได้ ผู้ขายอาจกลับเข้ามาอีกครั้ง
แนวรับระยะสั้นอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 วัน (SMA) บริเวณ $3,348
หากราคาหลุดต่ำลงไปอีก เส้น SMA 50 วันที่ระดับ $3,308 จะถูกนำมาทดสอบต่อไป
ภาพรวมพื้นฐาน
บรรยากาศการลงทุนได้รับผลกระทบในตลาดเอเชียช่วงวันพฤหัสบดี หลังจากสื่อหลายสำนักรายงานว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณาโจมตีอิหร่านภายในสุดสัปดาห์นี้ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังชั่งน้ำหนักการโจมตีที่โรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนา
การมีส่วนร่วมทางทหารของสหรัฐฯ อาจทำให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางลุกลามกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคที่กว้างขึ้น
รายงานเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวเตือนเมื่อวันพุธว่า การแทรกแซงทางทหารใด ๆ ของสหรัฐฯ จะนำมาซึ่ง “ความเสียหายที่ไม่อาจย้อนคืนได้” ต่อฝ่ายอเมริกัน พร้อมยืนกรานปฏิเสธการยอมจำนน
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตะวันออกกลางที่กลับมาอีกครั้ง ได้ลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อทองคำยังไม่แข็งแกร่งนัก เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนหันไปถือเงินดอลลาร์สหรัฐแทนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน
ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากท่าทีที่อดทนของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และสัญญาณเงินเฟ้อที่อาจสูงขึ้น
ธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในกรอบ 4.25%-4.5% ตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมยืนยันคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม เฟดได้ลดคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยในปี 2026 และ 2027 ลง พร้อมปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เพิ่มประมาณการณ์เงินเฟ้อให้สูงขึ้น
ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังดำเนินอยู่ เฟดได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดตีความนโยบายของเฟดว่ามีลักษณะเข้มงวดเล็กน้อย
สถานะของราคาทองคำหลังการประชุมเฟด
ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ $3,377 และปิดตลาดต่ำกว่าระดับดังกล่าวเมื่อวันพุธ หลังการประกาศนโยบายของเฟด
ปัจจัยที่ต้องจับตา
ในระยะข้างหน้า วันหยุด Juneteenth ในสหรัฐฯ อาจส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดบางตา ซึ่งอาจทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำผันผวนมากกว่าปกติ
นักลงทุนจะติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด เพื่อใช้เป็นปัจจัยนำในการซื้อขายทองคำต่อไป
ทองคำกลับมาป้วนเปี้ยนบริเวณ 3400 รอมติอัตราดอกเบี้ยค่ำนี้📊วานนี้ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับ 3,400 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าความรู้สึกเสี่ยงทั่วโลกจะแย่ลงก็ตาม ความยืดหยุ่นของเงินดอลลาร์สหรัฐจำกัดการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ปลอดภัยนี้ แม้ว่าความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังคงเป็นแรงสนับสนุนพื้นฐาน
แม้ว่าความต้องการเสี่ยงจะยังคงลดลง แต่ทองคำก็ดิ้นรนที่จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้น ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดค่าเงินเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ได้พุ่งขึ้น 0.46% สู่ระดับ 98.58
ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ออกจากการประชุมสุดยอด G7 ในแคนาดาอย่างกะทันหันเมื่อวันจันทร์ เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ในคำเตือนที่ชัดเจนที่โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลของเขา เขาเรียกร้องให้ "ทุกคนควรอพยพออกจากเตหะรานทันที" ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความขัดแย้งที่เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
💬ความคิดเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในโซนสะสม 3,400 - 3,365 ทะลุลงและน่าจะกลับมาอยู่เหนือ 3,400 ต่อไป สะสมกำลังต่อไป
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โมเมนตั้มขาขึ้นวางระดับเป้าหมายวางไว้ที่ 3444?📊ราคาทองคำ ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันเช้านี้ โดยปรับตัวลดลงจากการปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าของตลาดเอเชียที่ดันให้ราคาทะลุ 3,400 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ การดีดตัวขึ้นเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยถือเป็นปัจจัยฉุดรั้งสำคัญ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงดังกล่าวดูเหมือนจะจำกัดอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2568
ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งทางอากาศระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยังคงดำเนินต่อไปได้เข้าสู่วันที่ 5 ส่งผลให้มีความกลัวว่าภูมิภาคจะทวีความรุนแรงขึ้น ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่นี้ยังคงส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ ยังคงได้รับการสนับสนุน นักลงทุนยังใช้ความระมัดระวังก่อนการประชุมนโยบาย 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งผลที่ตามมาอาจกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำดีดตัวจากโซนสภาพคล่องบริเวณแนวรับสำคัญ: 3,385, 3,373 ทะลุแนวรับขาลงระยะสั้น ราคาทองคำควรจะกลับมาอยู่เหนือ 3,400 เร็วๆ นี้🙄
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ต้นสัปดาห์มีแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 3385👀ราคาทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3,451 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของตลาดเอเชียวันนี้ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันศุกร์จะแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ แต่ผู้ลงทุนยังคงให้ความสนใจกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นแตะระดับ 60.5 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์กันไว้ซึ่งอยู่ที่ 53.5 และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพฤษภาคมที่ 52.2 อย่างไรก็ตาม ตลาดส่วนใหญ่ไม่สนใจข้อมูลดังกล่าว
ในทางกลับกัน ความสนใจหันไปที่ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งการโจมตีอิหร่านของอิสราเอลเมื่อไม่นานนี้ทำให้เกิดความกลัวต่อความไม่มั่นคงในภูมิภาคที่กว้างขึ้น ทางการอิหร่านจึงออกมาเตือนว่าพวกเขาจะ “ตอบโต้อย่างเด็ดขาดต่อความเสี่ยงใดๆ” ซึ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดใจของทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ในช่วงต้นสัปดาห์ ราคาทองคำมีแนวโน้มการปรับตัวลดลงเล็กน้อย กลับสู่โซนสภาพคล่องที่ 3,385 ก่อนที่จะเดินหน้าในแนวโน้มขาขึ้นต่อไป📈
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โอกาสค่อนข้างเยอะที่ราคาทองคำจะกลับมาอยู่ที่ ATH : 3500วิเคราะห์กราฟรายสัปดาห์ระหว่าง 16-20 มิถุนายน 2568
เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำพุ่งขึ้นเป็นครั้งที่สามติดต่อกันเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่กองทัพอิสราเอลโจมตีเป้าหมายอิหร่าน รวมถึงโรงงานนิวเคลียร์และผู้นำระดับสูง ความตึงเครียดดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงในวงกว้างในตลาดทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
📈ทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 3,446 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลดระดับการเพิ่มขึ้นลง เนื่องจากผู้ซื้อขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์ ความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ประกอบกับสัญญาณขาลงจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ล่าสุด ได้ตอกย้ำความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ แม้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะดีขึ้นก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันยังคงสนับสนุนโมเมนตัมขาขึ้นของทองคำ
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ความตึงเครียดจากสงครามยังคงดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้ ซึ่งยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 3,500 จุดต่อไป
🕯 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับสำคัญดังนี้:
แนวต้าน: $3,502, $3,524, $3,562
แนวรับ: $3,370, $3,342, $3,304
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
"รูปแบบขาลง XAU/USD: คาดการณ์การหลุดกรอบขาขึ้น 11 มิถุนายน 2025โซนแนวต้านก่อนหน้า (พื้นที่สีแดง):
กราฟแสดงแนวต้านชัดเจนระหว่าง ~3,340 ถึง ~3,370 ดอลลาร์
ราคาเคยถูกปฏิเสธอย่างแรงจากโซนนี้ (จุดวงกลมสีน้ำเงินที่จุดสูงสุด)
ช่องขาขึ้นปัจจุบัน (กรอบสีน้ำเงิน):
มีการสร้างรูปแบบ "ช่องขาขึ้น" ซึ่งมักเป็น สัญญาณขาลง เมื่อเกิดในแนวโน้มขาลงใหญ่
ราคากำลังทดสอบขอบบนของกรอบนี้
การคาดการณ์ขาลง (เส้นลูกศรสีแดง):
คาดว่าราคาจะถูกปฏิเสธจากขอบบนของกรอบ และมีแนวโน้มจะหลุดลงสู่แนวรับถัดไปที่ ~3,246.94 ดอลลาร์
ลูกศรและกล่องสีเขียว-แดง แสดงจุดเข้าและเป้าหมายของแผนเทรดฝั่ง Short
แนวรับสำคัญ:
เส้นแนวนอนสีน้ำเงินที่ 3,246.94 ดอลลาร์ เป็นแนวรับหลัก และอาจเป็นจุดทำกำไรของฝั่งขาย
ปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังจะประกาศ:
สัญลักษณ์ธงชาติสหรัฐฯ 3 จุดด้านล่างกราฟ บ่งบอกว่ามีข่าวสำคัญที่อาจสร้างความผันผวนให้กับ XAU/USD
✅ สรุป:
แนวโน้ม: ขาลง
รูปแบบ: ช่องขาขึ้น (Bearish Channel)
โซนเข้าขาย (Short): ประมาณ 3,350–3,360 ดอลลาร์
เป้าหมายทำกำไร: ประมาณ 3,246 ดอลลาร์
จุดตัดขาดทุน: หากราคาปิดสูงกว่า 3,370 ดอลลาร์ (แนวต้านหลัก)
GOLD: วิเคราะห์ทองคำ 13 มิ.ย.ทองคำมีปัจจัยหนุนหลายประการ เช่น ความตึงเครียดด้านการค้า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าคาด ความคาดหวังที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่ออิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านก่อน... การเฝ้ารอซื้อทองคำจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ปัจจุบันราคาทองคำทะลุโซนจิตวิทยาที่ 3,400 จุด เพื่อขยายการเพิ่มขึ้น คาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นและเคลื่อนตัวไปสู่จุดสูงสุดเดิมที่ราว 3,435 จุด และต่อเนื่องไปถึงจุดสูงสุดที่ 3,500 จุด
✅กลยุทธ์อ้างอิง: ซื้อที่บริเวณ 3,400-3,405 จุด SL 3,395 จุด
GOLD: วิเคราะห์ทองคำ 12 มิถุนายนแม้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ผ่อนคลายลงจะกดดันราคาทองคำ แต่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับข้อมูล CPI ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ราคาทองคำกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง โดยวันนี้ ตลาดยังคงจับตาข้อมูล PPI ที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ และนักลงทุนยังต้องจับตาความคืบหน้าของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ด้วย
ขณะนี้โมเมนตัมขาขึ้นของราคาทองคำยังดีอยู่ รอจังหวะปรับฐานก่อนจึงค่อยซื้อทองคำ ส่วนในช่วงตลาดเอเชีย ให้จับตาแนวรับที่ 3,360 และ 3,350 ตามลำดับ โดยคาดว่าทองคำจะขยับขึ้นแตะแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 3,400.
GOLD: วิเคราะห์ 11 มิ.ย.ราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับตัวหลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งครั้งก่อน ในกรอบ H1 โครงสร้างราคาแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มหลักในปัจจุบันคือการสะสมในแนวข้างโดยมีแอมพลิจูดตั้งแต่ 3,300 ถึง 3,355
ในบริบทที่ตลาดกำลังรอข้อมูล CPI และข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความเป็นไปได้ของความผันผวนที่ไม่คาดคิด (fakeout) นั้นมีสูงมาก ดังนั้น การระบุโซนอุปทานและอุปสงค์ที่ชัดเจน ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
โซน 3,340–3,355:
นี่คือโซนการกระจายที่แข็งแกร่งในช่วงการซื้อขายล่าสุด โครงสร้างแท่งเทียน H1 สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่องที่นี่
โซน 3,302–3,304:
นี่คือโซนอุปสงค์ H1 ที่สำคัญ โดยราคาจะตอบสนองอย่างแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะดีดตัวกลับ หากราคาปรับตัวตรงนี้และสร้างรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว → ให้รอซื้อในระยะสั้น
GOLD: พยากรณ์อากาศวันที่ 10 มิถุนายนราคาทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวลดลงมาที่ 3,301 จุด ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาที่ราว 3,330 จุด
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 2 ในกรุงลอนดอน ประกอบกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้ต่ำกว่าบริเวณ 3,340 จุด เนื่องจากตลาดกำลังรอผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนและข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่ในเย็นวันพรุ่งนี้
ปัจจุบัน หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,340 จุด ในการซื้อขายของยุโรป อาจพิจารณาขายทองคำ
ราคาทองคำร่วงทะลุกรอบใหญ่ แนวโน้มการปรับตัวเพื่อสะสมกำลัง📊วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 06/09/2025 - 06/13/2025
ราคาทองคำลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในวันศุกร์ แต่ยังคงมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ด้วยกำไรมากกว่า 1.30% เนื่องจากผู้ซื้อขายปรับคาดการณ์การผ่อนคลายนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใหม่ หลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) รายงานว่าตลาดแรงงานยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น โดยอัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนเมษายน ในขณะเดียวกัน วอลล์สตรีทฟื้นตัวเล็กน้อยจากการขาดทุนเมื่อวันพฤหัสบดี แม้จะมีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และอีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ
💬 ความเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนพฤษภาคมที่ดี โดยราคาทองคำทะลุแนวรับ H4 ไปแล้วและยังคงสะสมกำลังต่อไป
🕯ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับสำคัญ
ตั้งแต่วันที่ 06/09/2025 - 06/13/2025 ได้ดังนี้:
แนวต้าน : 3,350 ดอลลาร์, 3,400 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,250 ดอลลาร์, 3,200 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
คาดหวัง NF ค่ำคืนนี้หนุนราคาทองยึดครอง 3400 กลับคืนมา
ผู้แทนเจรจาของสหรัฐฯ และจีนจะประชุมกันในไม่ช้านี้ที่สถานที่ที่ยังไม่ได้กำหนด ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวทำให้ความรู้สึกของตลาดดีขึ้นและส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเนื่องจากความต้องการเสี่ยงเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นแม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะไม่โดดเด่นนัก ซึ่งยิ่งทำให้ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้เพิ่มสูงขึ้น
ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ พบว่าตลาดแรงงานมีความอ่อนแอลงเมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะการจ้างงานที่อาจชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ รายงานว่าการขาดดุลการค้าลดลงในเดือนเมษายน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของการนำเข้าล่วงหน้าก่อนที่จะมีการจัดเก็บภาษีศุลกากร
✉️ความคิดเห็นส่วนตัว :
คืนนี้รอคอยข่าว NF อย่างใจจดใจจ่อ มีแรงกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ตัวเลข NF ที่นักลงทุนกังวลยังคงเป็นลบต่อ DXY
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
กระทิงจะทำให้ทองคำแตะ 3,400 ได้ในวันนี้หรือไม่?📊เมื่อคืนนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 0.80% ระหว่างการซื้อขายในตลาดออเมริกา โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวังซึ่งส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางธุรกิจและการเติบโตของการจ้างงานที่อ่อนแอลง ทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3,382 ดอลลาร์ หลังจากดีดตัวกลับจากระดับต่ำสุดของการซื้อขายที่ 3,343 ดอลลาร์
ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังส่งผลให้ทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นอีกด้วย เนื่องจากความไม่แน่นอนที่คืบคลานเข้ามาเกี่ยวกับการเจรจาการค้าที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง นักลงทุนจึงหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็นสองเท่าจาก 25% เป็น 50% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มิถุนายน การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการสนทนาที่คาดหวังกันอย่างมากระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
กำลังซื้อยังคงดำเนินต่อไป และจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายของสหรัฐฯ
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?📊ปัจจัย ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?
เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 0.80% เนื่องจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและกดดันโลหะที่ไม่ให้ผลตอบแทน ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,346 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบวัน 3,392 ดอลลาร์
ความรู้สึกของนักลงทุนดีขึ้นหลังจากการสำรวจการเปิดงานและอัตราการลาออกของแรงงานในสหรัฐฯ (JOLTS) ล่าสุดเผยให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน ซึ่งส่งสัญญาณถึงความตึงตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน ข้อมูลเชิงบวกนี้เกิดขึ้นก่อนสัปดาห์สำคัญที่เต็มไปด้วยรายงานการจ้างงาน รวมถึง ADP Employment Change ในเดือนพฤษภาคมในคืนนี้ และ Nonfarm Payrolls ที่คาดการณ์กันสูงในวันศุกร์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจส่งผลต่อความคาดหวังต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มภาษีศุลกากรยังคงแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน
ราคาทรงตัวเหนือ 3350 ฝ่ายกระทิงต้องการเอาชนะ 3411
🔼เมื่อวานนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กลับมาปะทุอีกครั้งทำให้บรรดานักลงทุนต่างพากันซื้อทองคำตลอดทั้งวัน
โดยเช้านี้อารมณ์ของตลาดเปลี่ยนไปในเชิงลบ เนื่องจากมีข่าวแพร่สะพัดว่ายูเครนโจมตีทางอากาศต่อรัสเซีย ซึ่งทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลและเครื่องบินลำอื่นๆ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็น 50% ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน และวาทกรรมต่อต้านจีนส่งผลให้หุ้นทั่วโลกของสหรัฐฯ ลดลง
CNBC รายงานว่าทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนอาจกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้
💭ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงทรงตัวในทิศทางขาขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ความตึงเครียดด้านภาษีศุลกากรและสงครามกับรัสเซียยังคงคาดเดาไม่ได้ ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนให้กลับสู่โซน 3400
แนวรับ/แนวต้านตามบนพื้นที่ H1 วันที่ 3 มิถุนายน
แนวต้าน 3416
แนวรับ 3308
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง






















