คืนนี้รอตัวเลชดัชนีภาคการผลิต (PMI) คาดการณ์อาจส่งผลบวกต่อทองคำ📊ราคาทองคำ ขยับขึ้นแตะระดับ 3,395 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของการซื้อขายในเอเชียเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ตัดสินใจเข้าแทรกแซงทางการทหารในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำพุ่งสูงขึ้น
สหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่งเมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรง แม้ว่าก่อนหน้านี้ทรัมป์จะให้คำมั่นว่าจะหลีกเลี่ยงสงครามในต่างประเทศครั้งใหม่ ความวุ่นวายที่ทวีความรุนแรงขึ้นได้จุดชนวนให้เกิดกระแสการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน นักลงทุนจะติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ S&P Global สหรัฐฯ เบื้องต้นสำหรับเดือนมิถุนายนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะประกาศในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เพื่อดูทิศทางของตลาดต่อไป
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำน่าจะยังคงทรงตัวเหนือแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,340 ซึ่งเป็นไปในทางบวกจากข้อมูลข่าว PMI ของสหรัฐฯ ในวันนี้
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
Goldlong
ปัจจัยสงครามตะวันออกกลาง - ยังเป็นตัวสนับสนุนให้ราคาทองคำพุ่ง🔜คาดการณ์ราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 23/06/2568 - 27/06/2568
ราคาทองคำทรงตัวในวันศุกร์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ 3,369 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะร่วงลง 1.90% ในรอบสัปดาห์ เนื่องจากตลาดกำลังพิจารณาการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่จะไม่ดำเนินการทางทหารกับอิหร่านในทันที และเลือกใช้วิธีการทางการทูตแทน
แม้ว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คลี่คลายลงจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยง แต่แรงกดดันเพิ่มเติมต่อทองคำก็เกิดขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นของสหรัฐฯ ต่อพันธมิตรที่ดำเนินการโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในจีน ตามรายงานของบลูมเบิร์ก การที่ทรัมป์ยับยั้งชั่งใจอิหร่านทำให้เกิดกระแสความเสี่ยง ซึ่งส่งผลต่อความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยชนิดนี้
💬ความคิดเห็นส่วนตัว:
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น ราคาทองคำยังคงรอโอกาสฟื้นตัวเหนือ 3,400 ในช่วงต้นสัปดาห์
🕯 ในทางเทคนิค:
ตั้งแต่วันที่ 23/06/2568 - 27/06/2568
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 จะระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังนี้:
แนวต้าน: 3,395 ดอลลาร์ (3,410 ดอลลาร์) 3,452 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,302 ดอลลาร์ (3,275 ดอลลาร์) 3,252 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มลดลงชั่วคราว📊ราคาทองคำเช้านี้ตกอยู่ภายใต้แรงขายอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชีย โดยร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสัปดาห์ แตะระดับ 3,345–3,344 ดอลลาร์ การลดลงนี้ส่วนใหญ่เกิดจากท่าทีที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งเน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ต่อเนื่อง และแนะนำแนวทางการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ความต้องการโลหะมีค่าที่ไม่ให้ผลตอบแทนลดลง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของตลาดที่เปราะบางและสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงที่ระมัดระวังอาจยังคงให้การสนับสนุนทองคำในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจช่วยรองรับราคาไม่ให้ลดลงอย่างรวดเร็วได้
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
แรงกดดันการขายยังคงดำเนินต่อไป โดยมีโอกาสกดดันราคาทองคำลงไปที่ 3,304-3300 ในวันนี้ เส้นราคาแนวโน้มขาลงยังคงดีอยู่
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ราคาทองขยับขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางเสี่ยงตะวันออกกลางราคาทองคำพยายามขยับขึ้นอย่างจำกัดท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ขัดแย้งกัน
ราคาทองคำขยับสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายของเอเชีย แต่ยังขาดแรงซื้อเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นยังคงสนับสนุนบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การหยุดพักการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่มีท่าทีเข้มงวดได้ผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลกดดันราคาทองคำ (XAU/USD)
ภาพรวมทางเทคนิคของ XAU/USD
ในทางเทคนิค แนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำยังคงอยู่ โดยดัชนี RSI ระยะ 14 วัน ยังคงอยู่เหนือเส้นกึ่งกลางที่ระดับใกล้ 55
ราคาทองคำจำเป็นต้องยืนเหนือแนวต้านสำคัญซึ่งกลายเป็นแนวรับที่ระดับ $3,377 ซึ่งเป็นระดับฟีโบนักชีรีเทรซเมนต์ 23.6% ของการพุ่งขึ้นในเดือนเมษายน เพื่อเปิดทางสู่แนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่
แนวต้านถัดไปที่สำคัญอยู่ที่ระดับ $3,400 หากผ่านไปได้จะทดสอบแนวต้านแนวราบที่ $3,440
หากราคายืนเหนือได้อย่างมั่นคง ผู้ซื้อจะมุ่งหน้าทดสอบจุดสูงสุดในรอบสองเดือนที่ $3,453
ในทางกลับกัน หากราคาทองคำไม่สามารถรักษาการดีดตัวได้ ผู้ขายอาจกลับเข้ามาอีกครั้ง
แนวรับระยะสั้นอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 วัน (SMA) บริเวณ $3,348
หากราคาหลุดต่ำลงไปอีก เส้น SMA 50 วันที่ระดับ $3,308 จะถูกนำมาทดสอบต่อไป
ภาพรวมพื้นฐาน
บรรยากาศการลงทุนได้รับผลกระทบในตลาดเอเชียช่วงวันพฤหัสบดี หลังจากสื่อหลายสำนักรายงานว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณาโจมตีอิหร่านภายในสุดสัปดาห์นี้ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังชั่งน้ำหนักการโจมตีที่โรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนา
การมีส่วนร่วมทางทหารของสหรัฐฯ อาจทำให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางลุกลามกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคที่กว้างขึ้น
รายงานเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวเตือนเมื่อวันพุธว่า การแทรกแซงทางทหารใด ๆ ของสหรัฐฯ จะนำมาซึ่ง “ความเสียหายที่ไม่อาจย้อนคืนได้” ต่อฝ่ายอเมริกัน พร้อมยืนกรานปฏิเสธการยอมจำนน
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตะวันออกกลางที่กลับมาอีกครั้ง ได้ลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อทองคำยังไม่แข็งแกร่งนัก เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนหันไปถือเงินดอลลาร์สหรัฐแทนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน
ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากท่าทีที่อดทนของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และสัญญาณเงินเฟ้อที่อาจสูงขึ้น
ธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในกรอบ 4.25%-4.5% ตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมยืนยันคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม เฟดได้ลดคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยในปี 2026 และ 2027 ลง พร้อมปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เพิ่มประมาณการณ์เงินเฟ้อให้สูงขึ้น
ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังดำเนินอยู่ เฟดได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดตีความนโยบายของเฟดว่ามีลักษณะเข้มงวดเล็กน้อย
สถานะของราคาทองคำหลังการประชุมเฟด
ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ $3,377 และปิดตลาดต่ำกว่าระดับดังกล่าวเมื่อวันพุธ หลังการประกาศนโยบายของเฟด
ปัจจัยที่ต้องจับตา
ในระยะข้างหน้า วันหยุด Juneteenth ในสหรัฐฯ อาจส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดบางตา ซึ่งอาจทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำผันผวนมากกว่าปกติ
นักลงทุนจะติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด เพื่อใช้เป็นปัจจัยนำในการซื้อขายทองคำต่อไป
ทองคำกลับมาป้วนเปี้ยนบริเวณ 3400 รอมติอัตราดอกเบี้ยค่ำนี้📊วานนี้ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับ 3,400 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าความรู้สึกเสี่ยงทั่วโลกจะแย่ลงก็ตาม ความยืดหยุ่นของเงินดอลลาร์สหรัฐจำกัดการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ปลอดภัยนี้ แม้ว่าความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังคงเป็นแรงสนับสนุนพื้นฐาน
แม้ว่าความต้องการเสี่ยงจะยังคงลดลง แต่ทองคำก็ดิ้นรนที่จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้น ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดค่าเงินเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ได้พุ่งขึ้น 0.46% สู่ระดับ 98.58
ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ออกจากการประชุมสุดยอด G7 ในแคนาดาอย่างกะทันหันเมื่อวันจันทร์ เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ในคำเตือนที่ชัดเจนที่โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลของเขา เขาเรียกร้องให้ "ทุกคนควรอพยพออกจากเตหะรานทันที" ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความขัดแย้งที่เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
💬ความคิดเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในโซนสะสม 3,400 - 3,365 ทะลุลงและน่าจะกลับมาอยู่เหนือ 3,400 ต่อไป สะสมกำลังต่อไป
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โมเมนตั้มขาขึ้นวางระดับเป้าหมายวางไว้ที่ 3444?📊ราคาทองคำ ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันเช้านี้ โดยปรับตัวลดลงจากการปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าของตลาดเอเชียที่ดันให้ราคาทะลุ 3,400 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ การดีดตัวขึ้นเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยถือเป็นปัจจัยฉุดรั้งสำคัญ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงดังกล่าวดูเหมือนจะจำกัดอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2568
ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งทางอากาศระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยังคงดำเนินต่อไปได้เข้าสู่วันที่ 5 ส่งผลให้มีความกลัวว่าภูมิภาคจะทวีความรุนแรงขึ้น ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่นี้ยังคงส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ ยังคงได้รับการสนับสนุน นักลงทุนยังใช้ความระมัดระวังก่อนการประชุมนโยบาย 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งผลที่ตามมาอาจกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำดีดตัวจากโซนสภาพคล่องบริเวณแนวรับสำคัญ: 3,385, 3,373 ทะลุแนวรับขาลงระยะสั้น ราคาทองคำควรจะกลับมาอยู่เหนือ 3,400 เร็วๆ นี้🙄
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ต้นสัปดาห์มีแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 3385👀ราคาทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3,451 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของตลาดเอเชียวันนี้ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันศุกร์จะแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ แต่ผู้ลงทุนยังคงให้ความสนใจกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นแตะระดับ 60.5 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์กันไว้ซึ่งอยู่ที่ 53.5 และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพฤษภาคมที่ 52.2 อย่างไรก็ตาม ตลาดส่วนใหญ่ไม่สนใจข้อมูลดังกล่าว
ในทางกลับกัน ความสนใจหันไปที่ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งการโจมตีอิหร่านของอิสราเอลเมื่อไม่นานนี้ทำให้เกิดความกลัวต่อความไม่มั่นคงในภูมิภาคที่กว้างขึ้น ทางการอิหร่านจึงออกมาเตือนว่าพวกเขาจะ “ตอบโต้อย่างเด็ดขาดต่อความเสี่ยงใดๆ” ซึ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดใจของทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ในช่วงต้นสัปดาห์ ราคาทองคำมีแนวโน้มการปรับตัวลดลงเล็กน้อย กลับสู่โซนสภาพคล่องที่ 3,385 ก่อนที่จะเดินหน้าในแนวโน้มขาขึ้นต่อไป📈
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โอกาสค่อนข้างเยอะที่ราคาทองคำจะกลับมาอยู่ที่ ATH : 3500วิเคราะห์กราฟรายสัปดาห์ระหว่าง 16-20 มิถุนายน 2568
เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำพุ่งขึ้นเป็นครั้งที่สามติดต่อกันเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่กองทัพอิสราเอลโจมตีเป้าหมายอิหร่าน รวมถึงโรงงานนิวเคลียร์และผู้นำระดับสูง ความตึงเครียดดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงในวงกว้างในตลาดทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
📈ทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 3,446 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลดระดับการเพิ่มขึ้นลง เนื่องจากผู้ซื้อขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์ ความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ประกอบกับสัญญาณขาลงจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ล่าสุด ได้ตอกย้ำความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ แม้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะดีขึ้นก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันยังคงสนับสนุนโมเมนตัมขาขึ้นของทองคำ
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ความตึงเครียดจากสงครามยังคงดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้ ซึ่งยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 3,500 จุดต่อไป
🕯 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับสำคัญดังนี้:
แนวต้าน: $3,502, $3,524, $3,562
แนวรับ: $3,370, $3,342, $3,304
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
"รูปแบบขาลง XAU/USD: คาดการณ์การหลุดกรอบขาขึ้น 11 มิถุนายน 2025โซนแนวต้านก่อนหน้า (พื้นที่สีแดง):
กราฟแสดงแนวต้านชัดเจนระหว่าง ~3,340 ถึง ~3,370 ดอลลาร์
ราคาเคยถูกปฏิเสธอย่างแรงจากโซนนี้ (จุดวงกลมสีน้ำเงินที่จุดสูงสุด)
ช่องขาขึ้นปัจจุบัน (กรอบสีน้ำเงิน):
มีการสร้างรูปแบบ "ช่องขาขึ้น" ซึ่งมักเป็น สัญญาณขาลง เมื่อเกิดในแนวโน้มขาลงใหญ่
ราคากำลังทดสอบขอบบนของกรอบนี้
การคาดการณ์ขาลง (เส้นลูกศรสีแดง):
คาดว่าราคาจะถูกปฏิเสธจากขอบบนของกรอบ และมีแนวโน้มจะหลุดลงสู่แนวรับถัดไปที่ ~3,246.94 ดอลลาร์
ลูกศรและกล่องสีเขียว-แดง แสดงจุดเข้าและเป้าหมายของแผนเทรดฝั่ง Short
แนวรับสำคัญ:
เส้นแนวนอนสีน้ำเงินที่ 3,246.94 ดอลลาร์ เป็นแนวรับหลัก และอาจเป็นจุดทำกำไรของฝั่งขาย
ปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังจะประกาศ:
สัญลักษณ์ธงชาติสหรัฐฯ 3 จุดด้านล่างกราฟ บ่งบอกว่ามีข่าวสำคัญที่อาจสร้างความผันผวนให้กับ XAU/USD
✅ สรุป:
แนวโน้ม: ขาลง
รูปแบบ: ช่องขาขึ้น (Bearish Channel)
โซนเข้าขาย (Short): ประมาณ 3,350–3,360 ดอลลาร์
เป้าหมายทำกำไร: ประมาณ 3,246 ดอลลาร์
จุดตัดขาดทุน: หากราคาปิดสูงกว่า 3,370 ดอลลาร์ (แนวต้านหลัก)
GOLD: วิเคราะห์ทองคำ 13 มิ.ย.ทองคำมีปัจจัยหนุนหลายประการ เช่น ความตึงเครียดด้านการค้า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าคาด ความคาดหวังที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่ออิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านก่อน... การเฝ้ารอซื้อทองคำจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ปัจจุบันราคาทองคำทะลุโซนจิตวิทยาที่ 3,400 จุด เพื่อขยายการเพิ่มขึ้น คาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นและเคลื่อนตัวไปสู่จุดสูงสุดเดิมที่ราว 3,435 จุด และต่อเนื่องไปถึงจุดสูงสุดที่ 3,500 จุด
✅กลยุทธ์อ้างอิง: ซื้อที่บริเวณ 3,400-3,405 จุด SL 3,395 จุด
GOLD: วิเคราะห์ทองคำ 12 มิถุนายนแม้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ผ่อนคลายลงจะกดดันราคาทองคำ แต่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับข้อมูล CPI ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ราคาทองคำกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง โดยวันนี้ ตลาดยังคงจับตาข้อมูล PPI ที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ และนักลงทุนยังต้องจับตาความคืบหน้าของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ด้วย
ขณะนี้โมเมนตัมขาขึ้นของราคาทองคำยังดีอยู่ รอจังหวะปรับฐานก่อนจึงค่อยซื้อทองคำ ส่วนในช่วงตลาดเอเชีย ให้จับตาแนวรับที่ 3,360 และ 3,350 ตามลำดับ โดยคาดว่าทองคำจะขยับขึ้นแตะแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 3,400.
GOLD: วิเคราะห์ 11 มิ.ย.ราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับตัวหลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งครั้งก่อน ในกรอบ H1 โครงสร้างราคาแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มหลักในปัจจุบันคือการสะสมในแนวข้างโดยมีแอมพลิจูดตั้งแต่ 3,300 ถึง 3,355
ในบริบทที่ตลาดกำลังรอข้อมูล CPI และข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความเป็นไปได้ของความผันผวนที่ไม่คาดคิด (fakeout) นั้นมีสูงมาก ดังนั้น การระบุโซนอุปทานและอุปสงค์ที่ชัดเจน ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
โซน 3,340–3,355:
นี่คือโซนการกระจายที่แข็งแกร่งในช่วงการซื้อขายล่าสุด โครงสร้างแท่งเทียน H1 สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่องที่นี่
โซน 3,302–3,304:
นี่คือโซนอุปสงค์ H1 ที่สำคัญ โดยราคาจะตอบสนองอย่างแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะดีดตัวกลับ หากราคาปรับตัวตรงนี้และสร้างรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว → ให้รอซื้อในระยะสั้น
GOLD: พยากรณ์อากาศวันที่ 10 มิถุนายนราคาทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวลดลงมาที่ 3,301 จุด ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาที่ราว 3,330 จุด
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 2 ในกรุงลอนดอน ประกอบกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้ต่ำกว่าบริเวณ 3,340 จุด เนื่องจากตลาดกำลังรอผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนและข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่ในเย็นวันพรุ่งนี้
ปัจจุบัน หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,340 จุด ในการซื้อขายของยุโรป อาจพิจารณาขายทองคำ
ราคาทองคำร่วงทะลุกรอบใหญ่ แนวโน้มการปรับตัวเพื่อสะสมกำลัง📊วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 06/09/2025 - 06/13/2025
ราคาทองคำลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในวันศุกร์ แต่ยังคงมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ด้วยกำไรมากกว่า 1.30% เนื่องจากผู้ซื้อขายปรับคาดการณ์การผ่อนคลายนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใหม่ หลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) รายงานว่าตลาดแรงงานยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น โดยอัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนเมษายน ในขณะเดียวกัน วอลล์สตรีทฟื้นตัวเล็กน้อยจากการขาดทุนเมื่อวันพฤหัสบดี แม้จะมีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และอีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ
💬 ความเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนพฤษภาคมที่ดี โดยราคาทองคำทะลุแนวรับ H4 ไปแล้วและยังคงสะสมกำลังต่อไป
🕯ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับสำคัญ
ตั้งแต่วันที่ 06/09/2025 - 06/13/2025 ได้ดังนี้:
แนวต้าน : 3,350 ดอลลาร์, 3,400 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,250 ดอลลาร์, 3,200 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
คาดหวัง NF ค่ำคืนนี้หนุนราคาทองยึดครอง 3400 กลับคืนมา
ผู้แทนเจรจาของสหรัฐฯ และจีนจะประชุมกันในไม่ช้านี้ที่สถานที่ที่ยังไม่ได้กำหนด ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวทำให้ความรู้สึกของตลาดดีขึ้นและส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเนื่องจากความต้องการเสี่ยงเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นแม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะไม่โดดเด่นนัก ซึ่งยิ่งทำให้ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้เพิ่มสูงขึ้น
ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ พบว่าตลาดแรงงานมีความอ่อนแอลงเมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะการจ้างงานที่อาจชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ รายงานว่าการขาดดุลการค้าลดลงในเดือนเมษายน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของการนำเข้าล่วงหน้าก่อนที่จะมีการจัดเก็บภาษีศุลกากร
✉️ความคิดเห็นส่วนตัว :
คืนนี้รอคอยข่าว NF อย่างใจจดใจจ่อ มีแรงกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ตัวเลข NF ที่นักลงทุนกังวลยังคงเป็นลบต่อ DXY
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
กระทิงจะทำให้ทองคำแตะ 3,400 ได้ในวันนี้หรือไม่?📊เมื่อคืนนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 0.80% ระหว่างการซื้อขายในตลาดออเมริกา โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวังซึ่งส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางธุรกิจและการเติบโตของการจ้างงานที่อ่อนแอลง ทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3,382 ดอลลาร์ หลังจากดีดตัวกลับจากระดับต่ำสุดของการซื้อขายที่ 3,343 ดอลลาร์
ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังส่งผลให้ทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นอีกด้วย เนื่องจากความไม่แน่นอนที่คืบคลานเข้ามาเกี่ยวกับการเจรจาการค้าที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง นักลงทุนจึงหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็นสองเท่าจาก 25% เป็น 50% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มิถุนายน การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการสนทนาที่คาดหวังกันอย่างมากระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
กำลังซื้อยังคงดำเนินต่อไป และจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายของสหรัฐฯ
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?📊ปัจจัย ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?
เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 0.80% เนื่องจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและกดดันโลหะที่ไม่ให้ผลตอบแทน ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,346 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบวัน 3,392 ดอลลาร์
ความรู้สึกของนักลงทุนดีขึ้นหลังจากการสำรวจการเปิดงานและอัตราการลาออกของแรงงานในสหรัฐฯ (JOLTS) ล่าสุดเผยให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน ซึ่งส่งสัญญาณถึงความตึงตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน ข้อมูลเชิงบวกนี้เกิดขึ้นก่อนสัปดาห์สำคัญที่เต็มไปด้วยรายงานการจ้างงาน รวมถึง ADP Employment Change ในเดือนพฤษภาคมในคืนนี้ และ Nonfarm Payrolls ที่คาดการณ์กันสูงในวันศุกร์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจส่งผลต่อความคาดหวังต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มภาษีศุลกากรยังคงแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน
ราคาทรงตัวเหนือ 3350 ฝ่ายกระทิงต้องการเอาชนะ 3411
🔼เมื่อวานนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กลับมาปะทุอีกครั้งทำให้บรรดานักลงทุนต่างพากันซื้อทองคำตลอดทั้งวัน
โดยเช้านี้อารมณ์ของตลาดเปลี่ยนไปในเชิงลบ เนื่องจากมีข่าวแพร่สะพัดว่ายูเครนโจมตีทางอากาศต่อรัสเซีย ซึ่งทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลและเครื่องบินลำอื่นๆ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็น 50% ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน และวาทกรรมต่อต้านจีนส่งผลให้หุ้นทั่วโลกของสหรัฐฯ ลดลง
CNBC รายงานว่าทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนอาจกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้
💭ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงทรงตัวในทิศทางขาขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ความตึงเครียดด้านภาษีศุลกากรและสงครามกับรัสเซียยังคงคาดเดาไม่ได้ ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนให้กลับสู่โซน 3400
แนวรับ/แนวต้านตามบนพื้นที่ H1 วันที่ 3 มิถุนายน
แนวต้าน 3416
แนวรับ 3308
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำพยายามยืนหยัดเหนือระดับ 3300 รอผล FOMC สัปดาห์นี้📊ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,300 ดอลลาร์ เหนือระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่ผู้ซื้อขายรอฟังรายงานการประชุม FOMC
🌐ไฮไลท์ปัจจัยพื้นฐาน
ราคา ทองคำปรับตัวขึ้น และแกว่งขึ้นลงสลับระหว่างขาขึ้นเล็กน้อยและขาลงเล็กน้อยตลอดช่วงการซื้อขายในเอเชีย ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ผสมผสานกันดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดึงดูดผู้ซื้อเป็นวันที่สองติดต่อกันจากข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อวันอังคาร ซึ่งเมื่อรวมกับแนวโน้มเชิงบวกในตลาดหุ้น กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อทองคำ
💭อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้าและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ทำให้ความเชื่อมั่นของตลาดลดลง นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของสหรัฐฯ ที่แย่ลง และการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2568 อาจจำกัดการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของดอลลาร์สหรัฐ และสนับสนุนราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน ซึ่งในทางกลับกัน เรื่องนี้ควรให้ความระมัดระวังสำหรับฝ่ายที่ถือทองคำและก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อปรับตัวลดลงต่อไป
🔍 ขณะนี้ นักลงทุนต่างรอคอยที่จะได้ทราบผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เพื่อรับทราบข้อมูลแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการมีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และยังเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนอีกด้วย นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ ตารางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังประกอบด้วย GDP เบื้องต้นประจำไตรมาสที่ 1 และดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ตามลำดับ
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: การปรับราคาทองคำทำให้ฝ่ายขาลงต้องระมัดระวัง โดยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 บน H4 ถือเป็นปัจจัยสำคัญ
🔼จากมุมมองทางเทคนิค การพังทลายในชั่วข้ามคืนผ่านเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการขาลงของเทรดเดอร์ การขายตและการยอมรับราคาต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ จะตอกย้ำแนวโน้มเชิงลบ อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะสูญเสียแรงดึงดูด) ยังไม่ยืนยันแนวโน้ม เชิงลบ ดังนั้นการตกครั้งต่อไปอาจดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนและพบแนวรับที่ดีใกล้โซนแนวนอน 3,250-3,245 ดอลลาร์ จุดหลังควรทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยน ซึ่งหากพังทลายลง ก็จะสร้างสถานการณ์ให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในระยะใกล้
🔽อีกด้านหนึ่ง โมเมนตัมที่ทะลุจุดสูงสุดของเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 3,315-3,316 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าจะเผชิญกับอุปสรรคบางอย่างที่บริเวณ 3,340-3,345 ดอลลาร์ ซึ่งจุดหลังนี้ตรงกับจุดทะลุแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งหากทะลุจุดนั้นไปได้ การเปิดสถานะซื้อใหม่จะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่บริเวณ 3,365-3,366 ดอลลาร์ ซึ่งแตะเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปจะช่วยให้ทองคำ กลับมามีมุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น การยืนเหนือระดับดังกล่าวจะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับฝ่ายซื้อ และจะช่วยให้ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และไต่ระดับต่อไปที่ระดับ 3,465-3,470 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ิเคราะห์ทองคำ XAU/USD: ทดสอบแนวต้านสำคัญ เตรียมเข้าสู่จังหวะขายโครงสร้างตลาด
ราคากำลังกลับขึ้นมาทดสอบแนวรับเดิมที่กลายเป็นแนวต้านใหม่ (บริเวณคำว่า “SUPPOT” ซึ่งควรแก้เป็น “SUPPORT”)
หากราคาไม่สามารถทะลุผ่านโซนนี้ได้ มีโอกาสที่จะเกิดการกลับตัวลงอีกครั้ง
2. ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA)
เส้นสีแดงคือ EMA 50 (ระยะสั้น) – 3,284.33
เส้นสีน้ำเงินคือ EMA 200 (ระยะยาว) – 3,239.30
ราคาปัจจุบันอยู่เหนือทั้งสองเส้น EMA ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น แต่ควรระวังแรงขายที่โซนแนวต้าน
3. แผนการเทรด (Sell Setup)
จุดเข้า: บริเวณราคา 3,358
จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): บริเวณ 3,405 (โซนสีแดง)
จุดทำกำไร (Take Profit): บริเวณ 3,136 (โซนสีเขียว และมีคำว่า “POINT” กำกับ)
4. อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk to Reward Ratio)
ประมาณ 1:3 ถือว่าเป็นระดับที่ดีสำหรับการวางแผนเทรด
5. ข้อเสนอแนะ
ควรรอให้มีสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจนในโซนแนวต้าน เช่น แท่งเทียนกลับตัว (Pin Bar, Bearish Engulfing) ก่อนเข้าออเดอร์ขาย
สรุป
ราคาทองคำอยู่ในจุดสำคัญที่อาจกลับตัวลง หากแนวต้านนี้ยังแข็งแกร่ง ผู้เทรดสามารถพิจารณาแผนการขายตามรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิค พร้อมการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
วิเคราะห์ราคาทองคำ วันที่ 27 พ.ค.ราคาที่ปรับขึ้นในช่วงปลายวันนี้เชื่อกันว่าจะผลักดันให้ราคาสูงขึ้นในวันนี้ แต่ที่น่าแปลกใจคือ เมื่อสิ้นสุดเซสชั่นเอเชียและเริ่มต้นเซสชั่นยุโรป ราคาทองคำกลับร่วงลงอย่างรวดเร็ว
หลังกวาดสภาพคล่องไปถึง 3305 แล้ว
ระดับแนวรับทันทีที่ทองคำกำลังเผชิญอยู่คือ 3,303 โดยแถบนี้ยังคงใช้ในการซื้อขายในช่วงเซสชั่นยุโรป และในช่วงเซสชั่นสหรัฐฯ ดูที่ระดับแนวรับรายวันที่ราวๆ 3,292
3323 เป็นโซนต้านสำคัญ เมื่อราคาทะลุแนวรับแล้ว คุณสามารถขายแบบระยะสั้นๆ ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งรอบ จากนั้นแนวต้านของเซสชันเอเชียที่ประมาณ 3,345 ถือเป็นโซนที่ราคาทองคำสามารถทรงตัวได้ระหว่างแนวโน้มขาขึ้นของเซสชันสหรัฐฯ
โปรดทราบว่าจุดทะลุ 3,303 นั้นจะทำลายแนวโน้มขาขึ้น และการฟื้นตัวจะอ่อนแอ ดังนั้น ควรพิจารณา TP เพื่อเข้าซื้อที่สมเหตุสมผล
วิเคราะห์ราคาทองคำ 23 พ.ค.จากการวิเคราะห์พบว่า ทองคำได้มีการปรับตัวลดลง และในปัจจุบันยังถือเป็นโอกาสสำหรับที่ปรึกษาระยะยาวในการซื้ออีกด้วย
การทะลุโซนสำคัญที่ 3283 มีบทบาทสนับสนุนเชิงกลยุทธ์ในวันนี้หากสังเกตเห็นการทะลุโซนนี้และจำกัดสัญญาณซื้อ
เป้าหมายสำหรับการขายแบบ Breakout มุ่งไปที่บริเวณที่ไกลที่สุดที่ 3238 โซนปฏิกิริยาราคาสำหรับสัญญาณ Scalping 3252-3265
ในพื้นที่ชายแดน ราคาทะลุ 3305 และจะขึ้นไปถึง 3321 ส่วนพื้นที่นี้สามารถขายได้ในเวอร์ชั่นยุโรปและอเมริกา รอการตอบรับ 3359 ทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุนเกมในปัจจุบัน ก่อนที่จะมีโซน Scalping 3333
ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยการรักษาระดับเหนือ 3200 Planday 19 พ.ค 2568
📊ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยการรักษาระดับเหนือ 3200
💵ปัจจัยพื้นฐาน:
ทองคำ กำลังฟื้นตัวจากการขาดทุนเมื่อเร็วๆ นี้ โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทรอยในช่วงการซื้อขายเอเชียในเช้าของวันนี้ ขณะที่นักลงทุนมองหาที่หลบภัยในสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และความยั่งยืนทางการคลัง
การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มูดี้ส์ตัดสินใจลดระดับเครดิตของสหรัฐฯ ลงหนึ่งขั้นจาก Aaa เป็น Aa1 โดยอ้างถึงหนี้ที่เพิ่มขึ้นและภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ปรับลดระดับในปี 2023 และ S&P ในปี 2011 ก่อนหน้านี้ ปัจจุบันมูดี้ส์คาดการณ์ว่าหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 134% ของ GDP ภายในปี 2035 จาก 98% ในปี 2023 ซึ่งขับเคลื่อนโดยต้นทุนการชำระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น โปรแกรมสิทธิประโยชน์ที่ขยายตัว และรายได้ภาษีที่ลดลง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นและช่วยหนุนราคาทองคำอีกครั้ง
💬ความคิดเห็นส่วนตัว
ทองคำซื้อขายที่เหนือระดับ 3200 ในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ ไม่มีข่าวอะไรมากนัก ยังคงเคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideway
กรอบแนวต้าน : 3269-3272
กรอบแนวรับ : 3191-3188
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
🔼จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำดูเหมือนจะพยายามปรับตัวขึ้นเหนือแนวรับ บนกราฟ 4 ชั่วโมง ดังนั้น ควรรอให้มีการซื้อตามมาหลังจากผ่านโซนอุปทาน 3,250-3,252 ดอลลาร์ก่อนจึงค่อยยืนยันว่าราคาทองคำแตะจุดต่ำสุดแล้ว และเตรียมวางตำแหน่งเพื่อรอการเพิ่มขึ้นต่อไป การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจพาให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือแนวต้าน 3,274-3,275 ดอลลาร์ไปสู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้จริง อาจเป็นการหักล้างแนวโน้มเชิงลบในระยะใกล้ และเปลี่ยนแนวโน้มไปเป็นแนวโน้มขาขึ้นของผู้ซื้อ ซึ่งจะเปิดทางให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อไป
🔽ในทางกลับกัน หากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 3,200 ดอลลาร์ อาจมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 3,178-3,177 ดอลลาร์ การขายต่ออาจทำให้ราคาทองคำเสี่ยงต่อการร่วงลงอย่างรวดเร็วสู่จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่บริเวณ 3,120 ดอลลาร์ หรือระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ก่อนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ หากราคาทองคำทะลุลงต่ำกว่าระดับ 3,060 ดอลลาร์ได้ แนวรับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 3,060 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง