Gold Today Plan... 24.02.22ราคาได้ขึ้นไปทำ new high และทะลุแนวต้านนัยยะสำคัญที่แนว 1916 ซึ่งเป็น High เดิมของช่วงวัน 31 พค. 2021 ด้วยแรงหนุนจากปัจจัยข่าวในยูเครนที่มีความตึงเครียดมากขึ้นในช่วงเช้าตามเวลาไทย
และถึงแม้ว่าในเชิงเทคนิคคอลจะเกิดสภาวะ overbought แต่นักลงทุนส่วนใหญ่นั้นมองว่าเป็นการปิดรับความเสี่ยง (Risk off)จากปัจจัยสงครามข้างต้น ทำให้เข้าซื้อและหนุนราคาทองคำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยมี Keyzone สำคัญเชิงเทคนิคที่ช่วงแนว 1938-1945 ซึ่งเป็นแนวรับเชิงนัยยะสำคัญและแนวกรอบขาขึ้นระยะกลาง-ยาว ซึ่งราคาอาจจะมีย่อลงมาทดสอบเชิงเทคนิคคอล และหากยังไม่หลุดแนวนี้ก็มีโอกาสขึ้นไปยังเป้าขาขึ้นต่อไป
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1951-1954 ระยะกลางที่แนว 1961-1968 ระยะไกลที่แนว 1974-1981
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1934-1938 ระยะกลางที่แนว 1917-1924 ระยะไกลที่แนว 1898-1908
สรุปภาพรวม : ในสัปดาห์นี้กราฟได้ขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแรงหนุนความตึงเครียดในยูเครน ถึงแม้ว่าในเชิงเทคนิคคอลจะเข้าสภาวะ overbought ก็ตาม
แต่ถึงอย่างไรยังมีแรงขายเชิงเทคนิคคอลสลับเพื่อทำกำไรบ้าง โดยเข้าorderในช่วงนี้คือเน้นย่อเพื่อ buy
หาก sell จะเป็นการเล่นสั้นๆ โดยคาดว่าอาจจะมีการย่อลงมาทดสอบแนวรับนัยยะสำคัญในเชิงเทคนิคคอลช่วง 1941-1945
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1941-1943
Buy Zone 2: 1951-1953
Buy Zone 3: 1930-1933
====
Sell Zone 1 : 1934-1938
Sell Zone 2 : 1928-1930
Sell Zone 3 : 1951-1953
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Goldidea
Gold Today Plan... 23.02.22เมื่อวานช่วงเช้าตามเวลาไทยราคาได้ขึ้นไปทำ new high แนว 1914 จากปัจจัยข่าวในยูเครน และถึงแม้จะมีข่าวช่วยหนุนเรื่อยๆ แต่ช่วงบ่ายตลอดจนถึงช่วงปิดตลาดของเมื่อวานราคาได้ร่วงลงมาและปิดต่ำกว่าแนว 1900 อาจจะสืบเนื่องจากการเทขายทำกำไรเชิงเทคคนิคคอล โดยใน TF Day ที่ RSI เข้า Overbought และ MACD นั้น ได้เกิดภาพ Bearish Divergence ซึ่งเทียบกับช่วงวันที่ 12 พย. 2021 ประกอบกับ TF H4และ H1 ก็เช่นกันที่ราคากราฟกับ indicator เกิดภาพ Bearish Divergence อย่างต่อเนื่อง นั้นแสดงให้เห็นว่าแรงซื้อนั้นชะลอตัวลง แต่ถึงอย่างไรหากดู Sto. ใน TF H1 นั้นได้เข้า Oversold แต่ไม่ได้หลุด low ก่อนหน้าที่แนว 1891 และกราฟยังไม่ต่ำกว่าแนวเส้น EMA100 ทำให้ภาพรวมในระยะสั้นขาขึ้นยังคงได้เปรียบอยู่ ถึงแม้จะเสียทรงบ้างเล็กน้อย แต่ก็อย่างเพิ่งประมาณเพราะ RSI ยังไม่เข้า Oversold ไม่ว่าจะใน TF H1 H4 และ Day ที่ยังมีพื้นที่ให้ราคาสามารถย่อลงไปได้อีกซึ่งจุดนี้มีโอกาสที่ราคาอาจจะมีการย่อมากขึ้นจากเทขายเชิงเทคนิคคอลและเชิงปัจจัยทางเศรษฐกิจที่นักลงทุนส่วนนึงเข้าซื้อหุ้นโซนเอเชียมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากข่าวสงครามในระยะสั้น ถึงอย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนอย่างต่อเนื่อง
โดยมี Keyzone สำคัญเชิงเทคนิคที่ช่วงแนว 1878-1883 ซึ่งเป็นแนวรับเชิงนัยยะสำคัญ ประกอบกับคาดว่าจะเป็นแนวเส้น EMA200 TF H1 พอดี ซึ่งหากทะลุลงไปนั้นก็อาจจะทำให้ระยะสั้นกลับเป็นขาลงได้ และ Keyzone 1900-1906 ที่เป็นแนวต้านของเมื่อวานและยังไม่สามารถขึ้นไปได้ ซึ่งหากยังไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือได้ อาจจะมีการย่อที่ลึกมากขึ้นและมีโอกาสที่อาจจะทำให้เปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงได้เช่นกันและแนวย่อยแนว 1886-1890 ซึ่งเป็นแนวกรอบล่างของขาขึ้นระยะสั้น และถือเป็นหัวขาขึ้นล่าสุดด้วย และหากทะลุต่ำกว่าแนวดังกล่าวคือทำลายหัวขาขึ้นโดยทันที
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1904-1909 ระยะกลางที่แนว 1915-1920 ระยะไกลที่แนว 1927-1930
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1885-1888 ระยะกลางที่แนว 1870-1875 ระยะไกลที่แนว 1859-1865
สรุปภาพรวม : ในสัปดาห์นี้อาจจะมีการย่อของราคาจากปัจจัยจากข่าวในยูเครนและการกระจายการลงทุนทำให้เกิดการขายทำกำไรทองคำไปสู่ตลาดหุ้น ซึ่งราคาอาจจะมีการย่อลงมาทดสอบแนว 1886-1890 และใน indicator มีโอกาสที่จะเกิด Bullish Divergence และหากราคายังไม่ต่ำกว่าแนว1886-1890 ก็ยังมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปต่อได้และทำให้ภาพรวมระยะสั้น-กลางยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ โดยเน้นรอการย่อและเข้าซื้อ
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1887-1891
Buy Zone 2: 1880-1886
====
Sell Zone 1 : 1896-1899
Sell Zone 2 : 1913-1917
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 สงครามความขัดแย้งภูมิภาคยังสร้างแรงหนุนทองคำปิดบวก 7.6 ดอลลาร์
ทองคำตลาดนิวยอร์คยังได้รับแรงหนุนจากภาวะความตึงเครียดท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนและชาติสมาชิกฝั่งตะวันตก ทำให้นักลงทุนยังคงให้ความสนใจเข้าซื้อทองคำเพื่อแบ่งเบาภาระความเสี่ยงที่อาจเป็นเหตุให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบได้ตลอดเวลา หลังจากที่รัสเซียได้ให้การรับรองเอกราชแก่แคว้นโดเนตสก์ และลูฮันส์ พร้อมทั้งยังมีการส่งกองกำลังทหารเข้าไปใน 2 แคว้นดังกล่าว โดยกล่าวอ้างว่าเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,907.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ความขัดแยังดังกล่าวดูจะเป็นผลหลักในการทำให้ราคาทองคำผันผวนในขณะนี้ โดยทางด้านฝั่งสหรัฐ ปธ.โจ ไบเดนก็ออกมาประกาศมาตรการคว่ำบาตรธนาคาร VEB ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของรัฐเซีย และธนาคาร PSB ที่เป็นธนาคารของกองทัพรัสเซีย ทำให้ธนาคารทั้งสองธนาคารจะไม่สามารถทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ได้ สำหรับตัวเลขรายงานเศรษฐกิจสหรัฐคืนที่ผ่านมาก็ยังส่งผลที่อ่อนแอ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยร่วงลงสู่ระดับ 110.5 ในเดือน ก.พ. จากระดับ 111.1 ในเดือนม.ค. ส่งผลให้ราคาทองคำปรับขยับขึ้นจากผลดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ปรับตัวอ่อนลงจากแนวต้าน 1900 ดอลลาร์ไม่มากนัก สะท้อนแรงซื้อในตลาดที่ยังสะสมให้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนให้รักษาระดับการทรงตัวในบริเวณดังกล่าวได้ แต่หากวันนี้ตลาดยังไม่มีแรงหนุนใดๆ เข้ามาเพิ่มเติมและราคาทองคำไม่สามารถรักษาการทรงตัวได้ในบริเวณแนวรับ 1893-1886 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงไปลึกที่ระดับ 1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ให้ติดตามสถานการณ์ข่าวความเคลื่อนไหวของรัสเซียและยูเครน ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่จะทำให้ทองคำผันผวนได้ในเวลานี้ หากราคาทองคำยังรักษาระดับได้ดีเหนือแนวรับ 1893-1886 ดอลลาร์ ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับไปยืนเหนือระดับ 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่ก็ให้พิจารณาที่แนวรับต้านระยะสั้นที่ 1900-1903 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่อาจจะเป็นจุดพลิกผลันให้ราคาทองคำปรับร่วงได้หากไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังปรับลดแรงลงต่ำกว่าระดับ 50 โดยเส้นยังไม่สามารถข้ามผ่านเส้น SMA20 วันได้ และส่วนเส้น SMA20 ก็ปรับตัวลงมาในแดนลบเช่นกัน ซึ่ง RSI มีโอกาสปรับฐานเส้นเข้าใกล้ระดับ 40 ในวันนี้ หากปรับตัวในบริเวณดังกล่าว ราคาทองคำก็อาจจะวิ่งอยู่ในแนวรับ 1893-1886 ได้เช่นกัน
เส้น SMA200 ยังเคลื่อนไหวขึ้นด้านบนสะท้อนแรงซื้อระยะกลางและยาวในตลาดยังมีเข้ามาหนุนทองคำได้ขณะนี้ เป็นผลสะท้อนเชิงบวกต่อราคาทองคำ
เส้น SMA 50 ปรับตัวแนวระนาบ หลังแรงซื้อในตลาดปรับลดลง ซึ่งหากเป็นในระยะสั้น เส้น SMA50 จะปรับตัวลงไปเพียงเล็กน้อย
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถรักษาระดับเหนือแนวรับ 1893-1886 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้นในระยะนี้ ให้พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1902-1908 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1886 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : ขายทองคำออกหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1908-1916 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็เสี่ยงเปิด “ขาย” เน้นการลงทุนระยะสั้น และให้พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1900-1893 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1916 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1910 / 1954 / 2000
-------------------------------------------
Support : 1877 / 1863 / 1850
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1900 / 1909 / 1916
-------------------------------------------
Support : 1893 / 1879 / 1865
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 1,024.09 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,897.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 8
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +9.83 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 22.02.22ถึงแม้ว่าข่าวระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และในกลุ่มประเทศ EU ที่กำลังตึงเครียดและยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาได้ขึ้นไปทำ new high แนว 1914 ซึ่งเป็นแนวต้านและเป็นเป้าขาขึ้นระยะใกล้ หลังจากนั้นได้ร่วงลงมา
แนว 1895 ซึ่งเป็นแนว POC และเป็นแนว fibo. 0.382% ของหัวขาขึ้นล่าสุดพอดี ทำให้แรงขาขึ้นนั้นเสียทรงเล็กน้อย ซึ่งหากราคายังคงยืนเหนือจุดดังกล่าวได้ ก็ทำให้ราคายังสามารถขึ้นต่อไปและขาขึ้นก็ยังดำเนินต่อ
แต่ก็ต้องจับตาดูแนวช่วง 1890-1891 ซึ่งหากราคาถึงและลงทะลุผ่านโซนนี้อาจจะมีโอกาสที่ระยะสั้นจะกลับเป็นขาลง โดยช่วงดังกล่าวนั้นถือเป็นแนวเส้น Trendline และเป็นแนวเส้น EMA100 TF H1 ด้วยเช่นกัน
โดยมี Keyzone สำคัญเชิงเทคนิคที่ช่วงแนว 1878-1883 ซึ่งเป็นแนวรับเชิงนัยยะสำคัญ ประกอบกับคาดว่าจะเป็นแนวเส้น EMA200 TF H1 พอดี ซึ่งหากทะลุลงไปนั้นก็อาจจะทำให้ระยะสั้นกลับเป็นขาลงได้
และ Keyzone 1900-1906 ที่เป็นแนวต้านของเมื่อวานแต่ก็ได้ทะลุลงมาในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งหากยังไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือได้ในวันนี้ อาจจะมีการย่อที่ลึกมากขึ้นและมีโอกาสที่อาจจะทำให้เปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงได้เช่นกัน
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1908-1913 ระยะกลางที่แนว 1915-1922 ระยะไกลที่แนว 1937-1943
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1896-1900 ระยะกลางที่แนว 1889-1890 ระยะไกลที่แนว 1859-1865
สรุปภาพรวม : ราคาอาจจะมีการย่อลงมาทดสอบแนว 1893-1895 และindicator ก็มีแนวโน้มที่จะเกิด Hidden Bullish Divergence ซึ่งหมายความว่าอาจจะเป็นการย่อเพื่อไปต่อก็ไปได้ ประกอบกับสถานการณ์ความตึงเครียดของสงคราม
ทำให้ภาพรวมระยะสั้น-กลางยังคงเป็นขาขึ้นอยู่
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1898-1903
Buy Zone 2: 1890-1892
Buy Zone 3: 1880-1886
Follow Buy Zone 4: 1915-1917
====
Sell Zone 1 : 1915-1920
Sell Zone 2 : 1896-1899 (กรณีกราฟราคาลงมาถึง 1891-1892 รอเด้งขึ้นไปก่อนค่อย sell หากไม่ถึงไม่เข้าเงื่อนไข)
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Gold Today Plan... 21.02.22สรุปภาพรวม : ระยะสั้น-กลางขาขึ้นยังเปรียบอย่างชัดเจนจากปัจจัยความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ที่ยังคงมีอยู่ ประกอบกับในเชิงเทคคนิคคอลที่กราฟราคาในหลายๆ TF นั้น อยู่บนเส้น EMA 200/100
แต่หากดู RSI ในTF H1 เกิด Bearish Divergence ต่อเนื่อง อาจจะทำให้ราคาย่อลงเล็กน้อย รวมถึงการ sell เพื่อชะลอแรงซื้อและการขายเพื่อทำกำไร ทำให้กราฟราคาช่วงนี้อาจจะเกิดภาพ sideways ก็เป็นไปได้
ซึ่งอาจจะมองได้สองมุมว่า กราฟกำลังพักฐานสะสมแรงเพื่อไปต่อ หรือ รอดูความชัดเจนจากปัจจัยสงคราม
โดยมี Keyzone สำคัญเชิงเทคนิคที่ช่วงแนว 1878-1883 ซึ่งเป็นแนวรับเชิงนัยยะสำคัญซึ่งหากทะลุลงไปอาจจะทำให้แรงขาขึ้นนั้นเสียทรงเล็กน้อย ซึ่งอาจจะเป็นการย่อตัวเพื่อขึ้นต่อ และ Keyzone 1900-1906 ที่เป็นแนวต้านและถือเป็นแนว High ล่าสุด
หากทะลุแนวนี้ขึ้นมีโอกาสสูงที่จะขึ้นไปทดสอบเป้าขาขึ้นต่อไป
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1915-1922 ระยะกลางที่แนว 1937-1940
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1878-1883 ระยะกลางที่แนว 1859-1865
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1878-1883
Buy Zone 2: 1859-1865
Follow Buy Zone 3: 1908-1910
====
Sell Zone 1 : 1900-1903
Sell Zone 2 : 1915-1920
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำพุ่งกลับขึ้นมาอีกรอบปิดบวก 15.3 ดอลลาร์เหตุขัดแย้งภูมิภาค
ทองคำตลาดนิวยอร์คกลับมาปิดบวก 15.3 ดอลลาร์อีกครั้งหลังจากมีการเทขายทำกำไรออกมาก่อนหน้านี้ ทองคำขยับตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อตลาดกลับมากังวลต่อสถานกาณณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งก่อนหน้าที่รัสเซียได้ออกมาบอกว่าได้มีการถอนกำลังทหารบางส่วนกลับออกจากแนวพรมแดนระหว่างรัสเซียกับยูเครนแล้ว แต่ก็มิได้ระบุถึงจำนวนทหารที่ได้ถอนกำลังออกไปว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ก็ยังเป็นความกังขาของชาติตะวันตกว่ารัสเซียมีความจริงใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วจำนวนฝูงบินที่เพิ่มขึ้นและการซ้อมรบทางทะเล 3 จุดใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้น ยังเป็นแรงสะท้อนถึงความเป็นไปได้ว่ารัสเซียอาจจะบุกยูเครนได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และเกิดการเข้าซื้อทองคำกลับมาอีกรอบ ทั้งนี้การกลับมาของทองคำรอบนี้อาจไม่พุ่งทะลุเหมือนเช่นคราวที่ผ่านมา หากสถานการณ์ยังคงโทรระดับอยู่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 15.3 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,871.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ติดตามตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญดังนี้
20:30 น. จำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง (ม.ค.)
20:30 น. จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ คาดการณ์ 219,000 คน
20:30 น. ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ก.พ.) คาดการณ์ 20.0
23:00 น. คำกล่างของบัลลาร์ด คณะกรรมการ FOMC
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
สำหรับทองคำเช้าวันนี้ราคายังแกว่งตัวในกรอบของ Supply zone ระหว่าง 1865-1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำยังรักษาระดับการซื้อของทองคำเหนือ 1865 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่ทองคำจะกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ระดับบริเวณ 1879.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (อ้างอิงราคาจาก FXCM) ได้อีกครั้ง และทางกลับกันหากแรงซื้อไม่สามารถเข้าครองตลาดในช่วงของ Supply zone ได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะมีการเทขายทองคำในระยะสั้นออกมาได้เช่นกัน ประเมินแนวรับระยะสั้นแรกที่ระดับ 1857 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับกรอบ Demand zone ที่ระดับ 1850-1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังคงมีแนวโน้มความเป็นบวก หากระดับเส้นทรงตัวเหนือ LV60 มีโอกาสที่ปรับเข้าสู่บริเวณ Overbought ได้อีกครั้ง ในส่วนของ SMA20 ก็ยังทรงตัวที่ระดับ 60 เช่นกัน
เส้น SMA200 ปรับฐานเส้นขึ้นสะท้อนแรงซื้อสะสมระยะกลางยังคงหนุนราคาทองคำค่อนข้างชัดเจน
เส้น SMA 50 ปรับตัวทรงตัวแนวระนาบ บอกถึงแรงซื้อระยะสั้นยังทรงตัวอยู่แม้จะมีการปรับฐานราคาขึ้น แต่แรงซื้อสะสมยังค่อนข้างมีน้ำหนักไม่สูงนัก จึงอาจมีการขายออกทำกำไรออกมาได้ตลอดเวลา
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : รอซื้อคืนทองคำหากราคาลงมาบริเวณ 1850-1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1865-1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำหวา่ 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : ขายออกทองคำหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ โดยเสี่ยงเปิด “ขาย” ในบริเวณที่ราคาเกิดการกลับตัว เน้นการทำกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1857 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับดังกล่าวลงไปได้ก็ให้ประเมินแนวรับถัดไปบริเวณ 1850-1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1879 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1877 / 1910 / 1954
-------------------------------------------
Support : 1863 / 1850 / 1829
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1879 / 1893 / 1902
-------------------------------------------
Support : 1857 / 1850 / 1843
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 1,019.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,858.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 7
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.18 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 15.02.22ช่วงบ่ายวันนี้ตลาดนั้นได้คลายความกังวลจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯลงบ้าง จากที่ทางรัฐเซียนั้นได้แจ้งว่า เสร็จสิ้นการซ้อมรบและถอนกำลังทหารบางส่วนกลับญาน ทำให้ราคาทองคำนั้นร่วงลงทันทีจากที่ขึ้นไปทำ New high อย่างต่อเนื่องที่แนว 1878
ซึ่งเป็นแนว High เดิมของช่วงวันที่ 16 พย. 2021 ซึ่งประเด็นความตึงเครียดดังกล่าวยังต้องติดตามอย่างต่อเนื่องเพราะยังไม่ถอนกองกำลังทหารออกทั้งหมด
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.0259% ขานรับถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ที่กล่าวว่า เฟดควรเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้นก็ตาม
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และ รายงานดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก (Empire State Manufacturing Index)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากราคาได้รับแรงหนุนจากปัจจัยความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯจนขึ้นไปทำ new high ที่ 1878 ซึ่งเป็นแนว High เดิมของช่วงวันที่ 16 พย. 2021 และถือเป็นแนวต้านที่แข็งและสำคัญอย่างมาก
โดยหลังจากที่คลายกังวัลยจากปัจจัยข้างต้นนั้น ได้เกิดแรงเทขาเชิงจิตวิทยาและประกอบกับเชิงเทคนิคคอล โดยใน TF Day นั้น ที่เกิด Bearish Divergence พอดี จึงทำให้ราคาร่วงลงมาที่แนว 1850 -1855 ซึ่ง ณ จุดนี้เป็นแนวรับสำคัญ ที่ก่อนหน้า
เป็น high เดิมของช่วง วันที่ 22 มค. 2022 ที่ผ่านมา และหากในช่วงวันนี้ Sto และ RSI ใน TF H1 นั้นเข้า ovs. โดยที่ราคายังไม่ต่ำกว่า 1850 คาดว่าราคาอาจจะกลับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1865-1867 เพื่อชะลอแรงขายและการเข้าซื้อที่แนวรับนัยยะสำคัฐ
โดยอาจจะจับตาเป้าดังกล่าวอีกที ซึ่งหากไม่ทะลุขึ้นไปได้ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะร่วงอีกครั้ง
Keyzone สำคัญที่ช่วงแนว 1849-1855 ซึ่งหากราคายังไม่ต่ำกว่านี้ มีโอกาสที่ ราคาจะขึ้นไปทดสอบเป้าข้างบนต่อเนื่อง
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1866-1868 ระยะกลางที่แนว 1879-1883
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1840-1845 ระยะกลางที่แนว 1828-1833
สรุปภาพรวม : ระยะสั้น-กลางขาขึ้นยังเปรียบจากปัจจัยความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ที่ยังคงมีอยู่ถึงแม้จะคลายตัวลงบ้าง
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1852-1855
Buy Zone 2: 1865-1867
====
Sell Zone 1 : 1845-1848
Sell Zone 2 : 1840-1843
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Gold Today Plan... 14.02.22ในสัปดหาที่ผ่านราคาค่อนข้างผันผวน และราคาได้ขึ้นมาทำ new high ในรอบ 3 เดือน ที่แนว 1865 หลังจากได้รับแรงหนุนอย่างมากจากปัจจัยความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯและชาติตะวันตกที่ข่าวการที่สหรัฐประกาศให้ชาวอเมริกาอพยบจากยูเครนและเตรียมคว่ำบาตรหากมีการบุกยูเครน
ประกอบกับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจากม.มิชิแกน ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทำให้หนุนนักลงทุนส่วนใหญ่เข้าซื้อทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย อีกทั้งยังมีแรงซื้อเชิงเทคนิคคอลอีกด้วย
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ การแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์
-เชิงเทคนิคคอล-
ด้วยแรงหนุนจากปัจจัยข้างต้นที่หนุนทำให้ราคานั้นทะลุแนวต้านสำคัญช่วงแนว 1855 ขึ้นมาและถือว่า Break ทั้งกรอบ Triangle และแนวเส้น Trendline ขาลงระยะกลางด้วย ได้ขึ้นไปทำ new high ใหม่ที่แนว 1862-1865 ที่ถือเป็นแนว POC ก่อนหน้าด้วยเช่นกัน
จากที่ break กรอบและเส้น trend line ประกอบกับประจัยข้างต้น ทำให้มุมมองช่วงนี้ เป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน แต่อาจจะมีการย่อเล็กน้อยในเชิงเทคนิคคอลจาก Sto. TF M15 นั้นเกิด Bearish Divergence คาดว่าราคาอาจจะย่อลงมาแถวๆ 1850-1855 ก่อนที่จะขึ้นอีกรอบ
และ indicator ต่างๆ ต่างก็เป็น convergence ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ RSI และ Sto. ใน TF H4 ที่ทั้งกราฟและ indicators เป็นทิศทางเดียวกัน อีกทั้ง Sto. ovb. Higher high กับกราฟด้วย ทำให้มุมมองภาพสั้น-กลางนั้น ขาขึ้นได้เปรียบอย่างมาก
แต่ก็ต้องจับตามิศทางราคาว่าจะขึ้น ไปถึงแนวต้านที่เป็นแนว High เดิมช่วงเดือน พย. ปีที่แล้ว ที่ช่วง 1875-1877 หรือไม่ ใน TF Day ซึ่งหากราคาไม่ถึงแต่ RSI ovb. และ MACD Vol. ที่เท่ากับหรือมากกว่า high ก่อนหน้า อาจจะเกิด Bearish Divergence และหาก
ปัจจัยทางเศรษฐกิจคลายความตึงเครียดลง อาจจะเกิดการขายเชิงเทคนิคคอลก็เป็นได้
แต่ก็ยังต้องจับ Keyzone ที่ช่วงแนว 1849-1855 ซึ่งหากราคายังไม่ต่ำกว่านี้ มีโอกาสที่ ราคาจะขึ้นไปทดสอบเป้าข้างบนต่อเนื่อง
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1862-1865 ระยะกลางที่แนว 1872-1877
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1840-1845 ระยะกลางที่แนว 1828-1833
สรุปภาพรวม : ระยะสั้น-กลางขาขึ้นไปเรียบอย่างมากจากแรงหนุนจากปัจจัยความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ แต่อาจจะแรงขายเชิงเทคนิคคอลบ้าง ทำให้ราคาอาจจะมีการย่อตัวเล็กน้อย การเข้า order ในช่วงนี้จะเน้นในฝั่ง buy เป็นหลัก
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1852-1855
Buy Zone 2: 1865-1867
====
Sell Zone 1 : 1843-1845
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำพุ่งทะยานเหนือ 1840 ดอลลาร์ช่วงเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านก่อนตลาดปิด
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาเหนือระดับ 1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐได้ออกมาประกาศเตือนว่ารัสเซียอาจจะมีการบุกเข้าโจมตียูเครนในสัปดาห์นี้หรือช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ จึงได้สั่งอพยพพลเรือนอเมริกันและเจ้าหน้าที่สถานทูตออกจากยูเครน และประกาศถอนกำลังทหารที่อยู่ในยูเครนราว 160 นายเป็นการด่วน ทำให้ทองคำได้รับแรงหนุนจากความตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนขณะนี้ และรวมถึงรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์สหรัฐนั้นก็ยังเป็นความกังวลอีกประเด็นที่กลับมาหนุนราคาทองคำให้พุ่งทะยานเหนือระดับ 1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะเนื่องจากนักลงทุนคงกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงอันจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้อาจไม่สามารถยับยั้งเงินเฟ้อได้เต็มประสิทธิภาพพอ ทำให้นักลงทุนเข้าหาตลาดทองคำเพื่อประกันความเสี่ยงเงินเฟ้อกันอีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,842.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นของดัชนีดอลลาร์สหรัฐอีกรอบ โดยยังแกว่งตัวเหนือระดับ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขณะที่ได้เขียนบทวิเคราะห์นี้ หากราคาทองคำยังยังทรงตัวเหนือระดับ 1848-1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น โอกาสที่ราคาทองคำจะกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1865-1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน สำหรับช่วงเช้าวันนี้ต้องติดตามสถานการณ์รัสเซียกับยูเครนเป็นหลัก และการตอบสนองของตลาดซื้อขายล่วงหน้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ว่ายังคงเคลื่อนไหวในระดับต่ำหรือไม่ วันนี้ตลาดสหรัฐไม่มีตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจรายงาน แต่ให้ติดตามคำแถลงของ บัลลาร์ด หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยได้เวลา 23:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI เข้าช่วงการปรับฐานโดนเส้นกำลังปรับเข้าหาระดับ 60 บรรจบกับเส้น SMA20 วันหากยังทรงได้ก็จะมีการปรับขึ้นช่วง 70 ได้อีกครั้งแต่หากหลุดลงไปให้รอตัดสินใจที่ระดับ 50-40
เส้น SMA200 ยังมีการปรับตัวขึ้นไม่ลาดชันมากนัก เนื่องจากแรงซื้อยังไม่ชี้ขาดตลาดทองคำในขณะนี้
เส้น SMA 50 ปรับตัวขึ้นเข้าหากลุ่มราคาทองคำหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นถอยห่างเส้นไปเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีการย่อตัวของราคาลงทดสอบแนว SMA50 วันได้ในวันนี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือระดับ 1842-1848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดซื้อทองคำได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้านเดิม 1865-1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดแนวรับ 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1865-1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากแนวบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1848-1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นสูงกว่า 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1863 / 1877 / 1910
-------------------------------------------
Support : 1850 / 1829 / 1815
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1865 / 1876 / 1882
-------------------------------------------
Support : 1848 / 1837 / 1821
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = วันเสาร์ที่ 12 ซื้อเพิ่ม 3.48 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,019.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,858.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 7
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.18 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำวานนี้ปรับตัวลดลงไป 6.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังตัวเลขเงินเฟ้อรายงานออกมา
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดตลาด 8 cent หลังตัวเลขเงินเฟ้อรายงานออกมา (ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI) ทำให้ทองคำแกว่งตัวทั้งสองฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.80 ดอลลาร์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,837.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ของสหรัฐฯ เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้น 7.5% ในเดือน ม.ค.เมื่อเทียบรายปี ถือว่าเป็นระดับสูงสุดเมื่อนับตั้งแต่เดือนก.พ. 1982 และสูงกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 7.2% โดยราคาทองคำนั้นได้ปรับตัวขึ้นจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นด้วย ทำให้คาดว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ววัน และอาจเป็นตัวเลขที่สูงเพื่อหวังเข้ามาควบคุมการปรับขึ้นเงินเฟ้อ ทำให้การคาดการณ์ที่วัดจาก FedWatch Tool ของ CME Group ออกมาว่ามีการปรับค่าคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็น 0.50% ในระดับ 85% จากก่อนหน้าที่คาดการณ์ว่าจะไม่ปรับลดการคาดการณ์ลงไปที่ 14% ปัจจัยนี้ก็ยังเป็นแรงกดดันราคาทองคำให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ตลาดคลายความกังวลว่าเฟดจะปรับ 0.50% ลงไปทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบนมาระยะหนึ่ง เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาตัวเลขดังกล่าวก็ออกมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง อีกทั้งการที่คณะกรรรมการเฟดนายเจมส์ บูลลาร์ด มีมุมมองทัศนะเชิง Hawkish เพิ่มขึ้นมาหลังตัวเลข CPI ถูกเปิดเผยมา และเขามีความต้องการที่จะให้มีการปรับดอกเบี้ยสู่ระดับ 1% ภายในวันที่ 1 กรกฏาคมนี้ หรือภายในรอบ 3 การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน การคาดการณ์ดังกล่าวก็เลยส่งผลสะท้อนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวเหนือระดับ 2.0% เป็นครั้งแรก จนทำให้ราคาทองคำปรับร่วงลงมาอีกครั้ง
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำยังอยู่ในภาวะกดดันจากแรงขายต่อเนื่อง หากราคาทองคำไม่สามารถกลับไปยืนเหนือระดับ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น โอกาสที่จะถูกเทขายทำกำไรระยะสั้นก็มีความเป็นไปได้สูง และแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 1819 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังคงเป็นแนวรับราคาที่จะประคองราคาทองคำสุดท้ายก่อนที่จะปรับเข้าหาเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันอีกครั้ง จึงแนะนำให้นักลงทุนมองหาโอกาสในการขายออกทองคำมากกว่าการสะสมในระหว่างบริเวณ 1830-1819 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนังลงทุนอาจเฝ้าติดตามการเข้าซื้อคืนทองคำอีกครั้งที่บริเวณแนวรับ 1814-1809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำปรับลงไปที่บริเวณดังกล่าว
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังมีแรงขายกดดันให้เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 40 โดยเส้น SMA20 วันก็ปรับตัวตัดลงจากระดับ 50 ลงสู่ด้านล่างสนับสนุนแรงขายสะสมในเวลานี้
เส้น SMA200 ยังยกตัวเข้าหากลุ่มราคาคาดว่าจะจบตัวกันที่ระหว่างราคา 1819-1814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่ทรงตัวเหนือได้ก็อาจมีการหลุดต่ำกว่าอีกครั้งสะท้อนถึงการกลับตัวของราคาระยะกลาง
เส้น SMA 50 ปรับขึ้นเหนือกลุ่มราคาทองคำหากราคาปรับตัวขึ้นทดสอบอีกครั้งแล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้จะสะท้อนถึงแรงขายที่ครองตลาดขณะนี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวลงมาบริเวณ 1814-1809 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณนี้ โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นปิดทำกำไรที่บริเวณ 1830-1825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1809 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าวโดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวรับ 1814-1809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1863 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1815 / 1800 / 1782
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1836 / 1846 / 1853
-------------------------------------------
Support : 1819 / 1814 / 1809
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีข้อมูลเปลี่ยนแปลงการถือครอง
คงถือสุทธิ = 1,015.96 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,825.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +1.70 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำกลับมาปิดบวก 6.10 ดอลลาร์เหตุหนุนราคาจากเงินเฟ้อ
ตลาดทองคำวานนี้แม้ว่าจะดูเหงาๆ ไปบ้าง แต่ทองคำก็ปรับตัวขึ้นแดนบวกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ทองคำกลับมาปิดบวกได้อีกครั้ง เหตุผลหลักๆ การกลับขึ้นมาบวกทองคำนั้นก็คงไม่พ้นเรื่องของเงินเฟ้อ ที่การคาดการณ์รายงานจะถึงนี้ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีเลยทีเดียว จึงทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเข้าซื้อทองคำในขณะนี้ ทั้งที่หวังเก็งกำไรระยะสั้น และเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่เริ่มจะส่งส่อเค้าถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 6.10 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,827.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สภาวะเงินเฟ้อที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ของสหรัฐจะพุ่งขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับรายปีนั้น ถือเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ของสหรัฐ ทำให้การกลับมาถือครองทองคำเริ่มจะเห็นเพิ่มเข้ามาในพอร์ตการลงทุน และที่ไม่ทิ้งไปก็คือเรื่องของสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน ซึ่งก็ยังมีท่าทีที่ส่อเค้าถึงความรุนแรงอยู่เนืองๆ ก็ยังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำด้วยเช่นกันเวลานี้ สำหรับวันนี้ยังไม่มีรายงานสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำยังสะสมแรงบวกต่อเนื่อง แม้เช้าวันนี้จะปรับฐานลงบ้างแต่ก็ยังอยู่ในการปรับฐานราคามากกว่าการกลับตัวของราคา หาราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับแนวต้านระยะสั้น 1824 -1825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ระดับ 1828.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวในช่วงกลางวันๆ นี้เราก็อาจเห็นการแกว่งตัวจากการเข้าทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุนได้อีกเช่นกัน โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1820-1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเรามองเป็นแนวซื้อคืนทองคำ แต่หากราคาทองคำมีแรงซื้อมากพอจนทำให้หลุดแนวต้าน 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ ประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับบริเวณ 1843-1837 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังเคลื่อนไหวในแดนบวกเหนือระดับ 50 และสะสมการยกตัวได้ดี จนสามารถรองรับราคาบนเส้น SMA20 ไว้
เส้น SMA200 มีลักษณะยกตัวขึ้นสะท้อนแรงซื้อสะสมระยะกลางเข้ามาหนุนกรอบเวลาระยะสั้นได้แล้ว
เส้น SMA 50 ยังวิ่งเกาะกลุ่มกับราคาทองคำอยู่ โดยมีระดับความชันที่สะท้อนแรงซื้อที่แข็งแกร่งเวลานี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวใรระดับ 1820-1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากตรงนี้ โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น กำไรพิจารณาที่บริเวณแนวต้าน 1828-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1828-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1820-1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับกรณีที่ราคาทองคำปรับตัวได้เหนือระดับ 1828-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้นักลงทุนเฝ้ารอการปรับฐานก่อนถึงจะมองหาโอกาสในการเข้าซื้อทองคำต่อไป
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1830 / 1850 / 1863
-------------------------------------------
Support : 1815 / 1800 / 1782
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1830 / 1837 / 1843
-------------------------------------------
Support : 1820 / 1815 / 1810
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่ม 4.36 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,015.96 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,825.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +1.70 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Weekly Plan... 07-11.02.22ถึงแม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเกิดการเทขายอย่างรุนแรง ด้วยปัจจัยที่ธนาคารกลางทั้งทางสหรัฐฯและทางยุโรปได้ประกาศนโยบายหรือแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วนี้ และประกาศตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่กดดันราคาทองคำ ประกอบกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้น
แต่ถึงอย่างไรก็มีแรงซื้อกลับในทันทีด้วยปัจจัยการเข้าซื้อเชิงเทคนิคคอล Buy on dip และเพื่อป้องกันความเสียงจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯและชาติตะวันตก ทำให้สัปดาห์ที่ผ่าน ราคายังสามารถยืนเหนือแนว 1800 ได้
ส่วนการคาดการณ์ในสัปดาห์นี้นั้น มีข่าวที่ถือเป็นปัจจัยหลักที่มีผลกับราคาทองคำโดยตรงหลายข่าว ไม่ว่าจะเป็นการแถลงต่างๆจากธนาคารกลาง การประมูลประมูลธนบัตรอายุ 10 ปีและ 30 ปี และ การายงานดัชนีผู้บริโภค (Core CPI) ซึ่งคาดว่าจะสามารถกดดันราคาทองคำ
โดยข่าวที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ คือการแถลงของนางคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB President Lagarde Speaks), สินเชื่อผู้บริโภค (Consumer Credit), การเปิดเผยสต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐฯ (Final Wholesale Inventories), การแถลงของนางมิเชล ดับเบิลยู โบว์แมน สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC Member Bowman Speaks),
การแถลงของนางลอเร็ตตา เมสเตอร์ประธานและซีอีโอของธนาคารกลางแห่งคลีฟแลนด์ (FOMC Member Mester Speaks), การประมูลธนบัตรอายุ 10 ปี สหรัฐอเมริกา (10y bond auction), รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจยุโรป (EU Economic Forecasts),
ดัชนีผู้บริโภค (Core CPI), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ (Unemployment Claims), การประมูลธนบัตรอายุ 30 ปี สหรัฐอเมริกา (30y bond auction), คาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก UoM (Prelim UoM Inflation Expectations)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากที่ราคากราฟได้ร่วงลงมาแนว 1787-1791 ซึ่งถือเป็นแนวรับนัยยะสำคัญนั้นก็ได้มีแรงซื้อกลับมาในทันทีทำให้ราคากลับมาปิดเหนือ 1800 ได้ โดยกรอบภาพระยะสั้นนั้น ขาขึ้นยังได้เปรียบ แต่ราคานั้นเข้าใกล้แนวกรอบด้านบนแล้ว ซึ่ง
เป็น Keyzone ที่เป็นแนวต้านอยู่ ถึงแม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วจะขึ้นมาทำ New high ที่แนว 1814-1815 แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ แต่ทำให้มุมมองสัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะย่อตัวค่อนข้างสูงหรืออาจจะเป็น sideway เพราะกราฟราคานั้นอยู่ใกล้ช่วงแนวต้านนัยยะสำคัญและเป็นแนวกรอบขาขึ้นด้านบน
อีกทั้งเส้น EMA200/100 เป็นแนวกลางกับกราฟราคาใน timeframe H4 ซึ่งบ่งบอกได้ว่าแรงซื้อชะตัวหรือไม่มีแรงซื้อที่หนุนนั้นเอง และหากดู Sto. RSI และ MACD ด้วยนั้น ได้เกิดภาพ Bearish Divergence อย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับกราฟ Day ที่ถึงแม้ราคาปิดเหนือเส้น EMA200 ได้ แต่ก็คาดว่าอาจจะลงมาทดสอบแนวด้วยเช่นกันที่แนว 1800-1803 ภาพรวมในสัปดาห์นี้จึงคาดว่าราคาอาจจะมีการย่อตัวค่อนข้างสูงลงไปทดสอบแนว 1800-1803 ซึ่งเป็นแนวรับนัยยะสำคัญ หากในช่วงวันสองวันนี้ยังยืนเหนือโซนนี้ได้ก็มีโอกาศที่ราคาจะยังราคาขึ้นไปต่อได้
และทำให้ภาพรวมระยะสั้นขาขึ้นยังได้เปรียบอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องจับตามมอง Keyzone สำคัญ
โดยมี 3 keyzone หลัก โดยและ keyzone 1 คือช่วง 1812-1816 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญ ที่ในสัปดาห์ที่แล้วขึ้นมาทดสอบแล้วยังไม่สามารถผ่านไปได้ โดยสัปดาห์นี้ยังต้องจับตาดูอีก และหากสามารถผ่านไปได้ขาขึ้นระยะสั้นก็จะยิ่งได้เปรียบมากขึ้น
และ keyzone 2 ช่วง 1797-1803 ถึงแม้ในสัปดาห์ที่แล้วราคาจะลงมาแนวนี้แต่ก็กลับขึ้นไปในทันที และยังสามารถยืนเหนือได้ จึงทำให้แนวนี้มีนัยยะสำคัญค่อนข้างสูง ประกอบกับเป็นแนวกรอบล่างของขาขึ้นระยะสั้นด้วยในสัปดาห์นี้
และ Keyzone 3 ช่วง 1824-1828 แนวนนี้ถือเป็นเป้าสำคัญและแนวต้านสำคัญของขาขึ้นระยะสั้น ซึ่งหากราคาสามารถทะลุแนว Keyzone 1 ได้ก็มีโอกาสที่จะมาทดสอบแนวนี้ค่อนข้างสูง ถือเป็นรับและต้านของกราฟราคาก่อนหน้า และเป็นแนวเส้น Fibo 0.618 ของแนวขาขึ้นด้วยเช่นกัน
ทำให้โอกาสที่เมื่อราคามาถึงจุดนี้มีโอกาสย่อตัวสูง และอาจจะขึ้นไปทดสอบอีกครั้ง ซึ่งหากทะลุขึ้นไปได้ก็มีสิทธิที่จะขึ้นไปแนว 1837-1841 ต่อไป
โดยเป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1803-1805 ระยะกลางที่แนว 1793-1798 ระยะไกลที่แนว 1784-1786
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1815-1817 ระยะกลางที่แนว 1824-1826 ระยะไกลที่แนว 1835-1837
สรุปภาพรวมในสัปดาห์ : ภาพรวมยังเป็นขาขึ้นอยู่ แต่คาดว่าจะมีการย่อของราคาเพราะราคาใกล้แนวต้านสำคัญและกรอบขาขึ้นด้านบน โดยซึ่งต้องจับตา keyzone แนว 1800-1803 หากยังไม่ทะลุลงไป แนวโน้มที่ราคาจะขึ้นต่อก็มีสูง
-แผนเข้า-
Sell Zone1 1815-1817
Sell Zone2 1804-1807
Sell Zone3 1824-1826
=====
Buy Zone1 1800-1805
Buy Zone2 1815-1818 (กรณีราคาทะลุขึ้นผ่าน keyzone 1 รอย่อ retest หรือ follow buy)
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
Gold Today Plan... 04.02.22เมื่อคืนราคาทองได้ร่วงลงไปแนว 1788-1790 จากปัจจัยของผลของการประชุมการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่ทางผลประชุมของBoE มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.5% ตามคาด ขณะที่ ECB มีมติยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด โดยผลของแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของทางอังกฤษและทางยุโรปนั้น ส่งผลให้หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลี, เยอรมนี, อังกฤษ และสหรัฐฯ อย่างมาก และจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยข้างต้นยังส่งผลให้ค่าเงินปอนด์และเงินยูโรแข็งค่าขึ้นทำให้กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้ปัจจัยหลังกลายเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำกลับขึ้นมาเหนือ 1800 อีกครั้งโดยทันทีจากที่ร่วงลงไป
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ตัวเลขค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ (Average Hourly Earnings), ดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน (ที่ไม่รวมภาคการเกษตร) (Non-Farm Employment Change) และ อัตราการว่างงาน (Unemployment rate)
-เชิงเทคนิคคอล-
ถึงแม้ว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจทีกล่าวข้างต้นจะทำให้ราคาร่วงแล้วก็กลับมาขึ้นปิดเหนือ1800 เหมือนเดิม และวันนี้ก็ยังอยู่ในช่วง 1804-1809 และถึงแม้ราคาจะร่วงลงไป Sto. RSI และ MACD Timeframes H1 และ H4 นั้นก็ยังไม่เข้า oversold และก็ยังมีแนวโน้มที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกราฟได้ทะลุแนวกรอบขาลงระยะสั้นออกมาแต่ก็ยังไม่ชัดเจนในกรอบขาขึ้นมากหนัก โดยยังมีแรงขายใน Keyzone 1810-1812 อย่างต่อเนื่อง และอาจจะมองได้ว่าเกิด Pattern Bearish Rising Wedge ก็เป็นได้
เพราะหากดู Sto. Timeframes H4 ที่ Overbought และกำลังจะเกิดภาพ Hidden Bearish Divergence อีกทั้ง Sto. RSI และ MACD Timeframes ใน H1
และ Sto. Timeframes M15 นั้นก็กำลังเกิด Bearish Divergence เช่นกัน จึงคาดว่าโอกาสที่ราคาจะมีการย่อลงมากนั้นสูง แต่หากย่อลงมาไม่ต่ำกว่า 1805 ก็ถือว่า effect ของ Divergence นั้นไม่มีผลมากหนัก และราคาอาจะขึ้นไปทดสอบแนว
1810-1812 อีกครั้งและหากผ่านไปได้ ก็จะไปทดสอบจุดสำคัญที่แนว 1815-1817 ที่จะเป็นจุดยืนยันว่ากราฟราคาจะอยู่ในกรอบขาขึ้นต่อไปในระยะสั้นหรือจะเป็น Pattern Bearish Rising Wedge ที่อาจจะเกิดการร่วงและการเทขายเชิงเทคนิคคอล
โดยยังต้องจับตา Keyzone ทั้ง 2 เช่นเดิม โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยยังเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 อีกทั้งเป็นแนวเส้น EMA200/100/50 ของ H4 อีกด้วย และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1802
และจับตาแนวย่อยที่สำคัญ แนว 1805 ที่เป็นแนวเส้น EMA200 Timeframes M15 และ M30 แนวเส้น EMA100และ50 ของ Timeframes H1 และแนวเส้น EMA20 ของ Timeframes H4 อีกทั้งยังเป็นแนวกรอบล่างของขาขึ้นระยะสั้นอีกด้วย
และแนวย่อยสำคัญอีกแนวคือ 1815-1817 ซึ่งหากผ่านไปได้ก็จะยิ่งหนุนขาขึ้นมากยิ่งขึ้น
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1815-1817 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1800-1805 ระยะกลางที่แนว 1787-179
สรุปภาพรวม : ขาขึ้นระยะสั้นยังได้เปรียบแต่ยังต้องจับตา keyzoneที่ 1 และจุดแนว 1815-1817 ซึ่งหากราคาไม่ผ่านจุดดังกล่าวก็อาจจะทำให้มุมมองที่จะเป็น Pattern Bearish Rising Wedge ก็มีมากขึ้น อาจจะทำให้ราคาร่วงอย่างรุนแรงได้
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1803-1805 TP 1810-1815 SL 1797-1800
*Bet Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1810-1814 TP 1800-1805 SL 1815-1818
*Bet Sell Zone 2 : 1800-1802 TP 1793-1795 SL 1805-1807
Follow Sell Zone 3 : 1795-1798 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำกลับมาปิดแดนลบอีกครั้งหลังปิดบวกมากว่า 4 วัน
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดแดนลบหลังปรับบวกมา 4 วันแล้ว การปรับลงของทองคำครั้งนี้เป็นการปรับลงจากแรงกดดันการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.834% เมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง 6.20 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,804.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ ที่นักลงทุนให้ความสำคัญและเฝ้าติดตามตัวเลขดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ตัวเลขว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ไว้อีกว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐจะเป็นปัจจัยชี้ทิศทางทองคำ นอกจากนี้คาดว่าเทรดเดอร์ในตลาดทองคำจับตารายงานตัวเลขดังกล่าวอย่างใกล้ชิดว่าตลาดหุ้นจะตอบสนองปฏิกิริยาอย่างไรต่อตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวที่จะออกมาในคืนนี้ ซึ่งหากตัวเลขออกมาเป็นที่น่าผิดหวังของตลาด ก็จะสร้างความบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน เป็นเหตุให้เกิดผลต่อราคาทองคำได้เช่นกัน
วันนี้ติดตามสถานการณ์ความสำคัญดังต่อไปนี้
20:30 การจ้างงานนอกภาคการเกษตร คาดการณ์ 150,000 ตำแหน่ง
20:30 อัตราการว่างงาน (ม.ค.) คาดการณ์ 3.9%
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ได้อีกครั้งหลังจากวานนี้ถูกกดดันราคากลับไปที่แนวรับบริเวณ 1796-1887 อีกครั้ง โดยทำจุดต่ำสุดของเมื่อวานที่ระดับ 1788.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับภาคกลางวันวันนี้คาดว่าทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด ก่อนช่วงเย็นจะเริ่มมีความผันผวนเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยราคาทองคำอาจอยู่ระหว่าง 1808-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตลอดช่วงกลางวัน จึงแนะนำให้นักลงทุนเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด สำหรับใครที่แบกรับความเสี่ยงได้นั้นก็อาจเทรดตามการขึ้นลงของราคา แต่ระมัดระวังแนวการเคลื่อนไหวที่จำกัดตัว อาจส่งผลต่อการทำกำไรได้ จึงควรรอเวลาที่จะมีการรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในค่ำคืนนี้ผ่านพ้นไปก่อน สำหรับผู้ที่มีคำสั่งการซื้อขายอยู่ก่อนหน้าก็ควรระมัดระวังในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย เพราะอาจส่งผลต่อพอร์ตการลงทุนโดยตรงได้เช่นกัน
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับขึ้นเหนือระดับ 50 และมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในระดับ 60-50 ก่อนรายงานข่าวจะออกมา
เส้น SMA200 เคลื่อนไหวเข้าใกล้กลุ่มราคา คาดว่าจะมาบรรจบกันที่ระดับบริเวณ 1808-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เส้น SMA 50 เส้นวัดแรงซื้อขายระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวขึ้นและรองรับราคาได้ดีเวลานี้ ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุดลงมาแสดงถึงแรงซื้อที่สนับสนุนให้เคลื่อนไหวราคาขึ้นด้านบนต่อไป
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
ไม่แนะนำการซื้อขายในช่วงเวลาก่อนที่จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในเวลา 20:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1815 / 1829 / 1850
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1782 / 1752
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1817 / 1826 / 1838
-------------------------------------------
Support : 1798 / 1780 / 1760
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = N
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก 1.75 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,014.84 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,804.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +0.58 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 03.02.22กราฟราคาทองคำได้ขึ้นไปทำ new high ในรอบ 1 อาทิตย์ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในฝั่งขาขึ้น โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี และการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ประธานาธิบดีไบเดนได้อนุมัติการส่งกำลังทหารสหรัฐจำนวน 3,000 นายเข้าไปประจำการในยุโรปตะวันออก ประกอบกับผลการประกาศตัวเลขดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงานจาก ADP นั้นลดลงอย่างมาก ซึ่งผิดกับที่คาดการณ์ไว้ จากข่าวดังกล่าวทำให้กดดันค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯอย่างมาก และหนุนราคาทองคำ
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ (Unemployment Claims) และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Service PMI)
-เชิงเทคนิคคอล-
ราคาขึ้นไปทดสอบแนว 1807-1812 อีกครั้งตามที่คาด แต่ด้วยจุดนี้เป็นแนวต้านนัยยะสำคัญและอาจจะถือเป็นแนวกรอบขาลงระยะสั้น จึงทำให้ราคากราฟยังไม่สามารถผ่านไปได้ ประกอบกับการขายเชิงเทคนิคคอลที่ Sto. RSI และ MACD Timeframes H1 และ H4 เกิดภาพ Bearish Divergence
โดยภาพกราฟราคายังอยู่ในกรอบขาลงระยะสั้นก่อนหน้า แต่หากดู Sto. Timeframes H1 ที่กำลัง oversold นั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น oversold Higher Low และ MACD อาจจะเกิดภาพ Hidden Bullish Divergence ทำให้มีความเป็นไปได้ราคาจะทะลุเส้นกรอบขาลงระยะสั้นก่อนหน้าและเปลี่ยนเป็นกรอบขาขึ้นระยะสั้นแทน และคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนว Keyzone 1807-1812 อีกครั้ง หากทะลุขึ้นไปได้ก็มีความเป็นได้สูงที่จะขึ้นไปเป้าขาขึ้นระยะกลางต่อไป
โดยให้จับตา Keyzone ทั้ง 2 เช่นเดิม โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยยังเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 อีกทั้งเป็นแนวเส้น EMA200/100/50 ของ H4 อีกด้วย และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1802 และจับตาแนวย่อย 1804 ที่เป็นแนวเส้น EMA200 Timeframes M15 และ M30 แนวเส้น EMA100และ50 ของ Timeframes H1 และแนวเส้น EMA20 ของ Timeframes H4
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1807-1812 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1790-1793 ระยะกลางที่แนว 1780-1785
สรุปภาพรวม : ในช่วงวันสองวันนี้ระยะสั้นขาขึ้นยังได้เปรียบหลังจากราคายังไม่ต่ำกว่าแนว 1797-1800 แต่ก็ต้องจับตา keyzone และกรอบราคาขาขึ้นทั้งสอง คาดว่าราคาจะเลือกทางในวันสองวันนี้ ซึ่งหากยังไม่สามารถผ่าน keyzone 1 ได้ภาพรวมก็ยังเป็นขาลงอยู่ แต่ระยะกลาง-ยาวขาขึ้นยังได้เปรียบ
-- แผนเข้า -- (คล้ายเมื่อวาน)
Buy Zone 1: 1796-1802 TP 1807-1812 SL 1794-1797
Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1807-1812 TP 1798-1800 SL 1815-1818
Sell Zone 2 : 1793-1797 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
xauusd 3/2/2022 << วิเคราะห์ทองคำ 3/2/2022 >><< วิเคราะห์ทองคำ 3/2/2022 >>
มองหา sell ได้เปรียบกว่า
เนื่องจากเทรนเดิมที่ส่งลงมา
รอเด้ง ยก H pullback ขึ้นมาเพื่อรอ sell
ในภาพใหญ่มี Harmonic pattern ที่มีโอกาสกลับตัวที่ 1760
Harmonic ภาพเล็ก ที่มีโอกาสกลับตัวที่ 1785-1780
++ แผนที่ 1 Sell 1815-1820
++ แผนที่ 2 buy 1770-1760 (มีความเสี่ยงเพราะสวนเทรน)
++ แผนที่ 3 buy 1785-1780 (มีความเสี่ยงเพราะสวนเทรน)
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำปรับปิดบวกต่อเนื่องได้เป็นวันที่ 3
ตลาดทองคำยังคงสามารถปิดบวกได้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แม้ในระหว่างวันอาจมีช่วงการทำกำไรสลับออกมาก็ตาม แต่ก็ยังคงมีแรงซื้อเข้าสนับสนุนตลาดทองคำจนสามารถผ่านระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,810.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เมื่อคืนนี้มีรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่ออกมาร่วงลงอย่างหนักในเดือนม.ค. โดยทาง ADP ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ลดลง 301,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม และถือเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขดังกล่าวออกมาย่ำแย่ สวนทางกับการวิเคราะห์ที่คาดกว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และในส่วนของภาคบริการนั้นการจ้างงาานก็ลดลง 274,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ขณะที่ภาคการผลิตจ้างงงานลดลง 27,000 ตำแหน่ง ตัวเลขดังกล่าวส่งผลกดดันสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักลดลง 0.40% แต่ะที่ระดับ 95.99 เมื่อคืนนี้
และอีกส่วนสำคัญที่ดอลลาร์กำลังโดนกดดันจากตลาดการลงทุนก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าของเฟดหลายคนส่งสัญญาณออกมาว่าจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.50% ในการประชุมเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนี้วันนี้นักลงทุนจับตาการประชุม BoE และ ECB โดยนักวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากที่เงินเฟ้อของอังกฤษได้พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ทางฝั่งของ ECB คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ เพิ่มเติม
สำหรับวันศุกร์ที่จะถึงนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ ที่นักลงทุนให้ความสำคัญและเฝ้าติดตามตัวเลขดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ตัวเลขว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
สำหรับวันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคือ0.28% ที่ระดับ 96.27 ในคืนวานนี้ ทั้งนี้แม้ทองคำจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ก็ตามที แต่แรงกดดันจากการที่ความคาดหวังในการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ยังเป็นตัวสร้างแรงกดดันให้ทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก และนักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญต่อตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ NFP (Non farm payrolls) ที่จะมีการรายงานตัวเลขในค่ำคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง ในเดือนม.ค. และคาดกว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
วันนี้ติดตามสถานการณ์ความสำคัญดังต่อไปนี้
19:00 น. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางอังกฤษ (0.50%)
19:45 น. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางยุโรป (0.00%)
20:30 น. จำนวนคนยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐ (245,000 คน)
20:30 น. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ ECB
22:00 น. ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบัน ISM (ม.ค.) (59.5)
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ภาพรวมทองคำยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอยู่ขณะนี้ ถ้าพิจารณาในกรอบรายวัน หากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นก็จะมีโอกาสที่ราคาทองคำจะกลับไปบริเวณ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง สำหรับกรอบรายชั่วโมงทองคำเช้านี้ยังแกว่งตัวเหนือระดับ 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สนับสนุนแรงบวกเข้าซื้อทองคำขณะนี้ โดยหากราคาทองคำขยับขึ้นเหนือระดับ 1815-1816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำกรอบรายชั่วโมงจะขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (SMA200) ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแน้วต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะมีการเทขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมากันอีกรอบ ซึ่งจะประเมินแนวรับที่ระดับ 1800-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับขึ้นเหนือระดับ 60 และมีแนวโน้มที่จะขึ้นทดสอบระดับ 70 ส่วนเส้น SMA20 ยังเคลื่อนไหวขึ้นในแดนบวก
เส้น SMA200 เคลื่อนไหวเข้าใกล้กลุ่มราคา คาดว่าจะมาบรรจบกันที่ระดับบริเวณ 1810-1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เส้น SMA 50 เส้นวัดแรงซื้อขายระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวขึ้นและรองรับราคาได้ดีเวลานี้ ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุดลงมาแสดงถึงแรงซื้อที่สนับสนุนให้เคลื่อนไหวราคาขึ้นด้านบนต่อไป
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1797-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำปรับตัวลงมาทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวต้าน 1817-1826 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวรับ 1797-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดเหนือ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1815 / 1829 / 1850
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1782 / 1752
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1817 / 1826 / 1838
-------------------------------------------
Support : 1798 / 1780 / 1760
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = N
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก 1.45 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,016.59 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,806.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 3
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +2.33 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 02.02.22ในช่วงวันสองวันนี้ราคาได้ขยับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย คาดว่าได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นผลจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
อีกทั้งคลายความกังวลการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้หนุนราคาขึ้นไปทดสอบแนว 1807-1812 แต่ก็ได้ร่วงลงมาจากผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM Manufacturing PMI)และการเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)
ที่ตัวเลขออกมาเป็นผลบวก ทำให้กดดันราคาทองร่วงลงไปทดสอบแนว 1797-1800 ซึ่งแนวรับเชิงจิตวิทยานัยยะสำคัญ
สำหรับข่าวน่าติดตามวันนี้คือ ดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน (ที่ไม่รวมภาคการเกษตรและภาครัฐ) (ADP Non-Farm Employment Change)
-เชิงเทคนิคคอล-
หลังจากราคาขึ้นไปทดสอบแนว 1807-1812 ที่เป็นเปาขาขึ้นแรก และถือเป็นจุดที่ Sto. และ RSI ใน Timeframes ตั้งแต่ H4 ย่อยลงไปจน M15 นั้น เข้าoverbought พอดี และประกอบกับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นผลลบกับทอง
ทำให้เกิดการขายเชิงปัจจัยเศรษฐกิจและเชิงเทคนนิคคอล ทำให้ราคาร่วงลงมาลงทดสอบแนวรับช่วง 1797-1800 โดยที่ Sto. และ RSI ใน Timeframes H1 ถึง M15 นั้น ยังไม่ oversold และหากเทียบ Sto. oversold กับราคาก่อนหน้าถือเป็น oversold Higher Low และประกอบกับเกิดภาพ Bullish Divergence ใน Timeframes M15 ใน Sto. RSI และ MACD และราคาอยู่ใน keyzone แนวรับสำคัญ 1797-1800 จึงมีความเป็นไปได้ที่ราคายังจะยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้
และคาดว่าราคาจะปรับขึ้นทดสอบแนว Keyzone ช่วง 1807-1812 อีกครัง
โดยให้จับตา Keyzone ทั้ง 2 โดย keyzone ที่ 1 คือแนว 1807-1812 ซึ่งเป็นแนวต้านนัยยะสำคัญโดยเป็นแนวเส้น EMA200 ใน H1 และ H4 ซึ่งจุดนี้หากราคาสามารถยืนเหนือขึ้นได้สำเร็จก็ยังยิ่งหนุนแรงขาขึ้นระยะสั้นได้อีก
และ keyzone ที่ 2 คือแนว 1797-1801 หลังจากที่ราคาร่วงลงมาทดสอบแล้วไม่ผ่าน ถือเป็นแนวรับนัยยะสำคัญและถือเป็นแนว POC ด้วย ซึ่งหากราคาไม่ได้รับกดดันและยังไม่หลุดแนวนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นต่อได้ แต่หากราคาได้รับแรงกดดันทำให้ราคาร่วงลง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะลงไปทดสอบเป้าขาลง
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1807-1812 ระยะกลางที่แนว 1820-1824
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1790-1793 ระยะกลางที่แนว 1780-1785
สรุปภาพรวม : ระยะสั้นขาขึ้นยังได้เปรียบหลังจากราคายังไม่ต่ำกว่าแนว 1797-1800 แต่ก็ต้องจับตา keyzone ที่ 1 หากยังไม่สามารถผ่านได้ภาพรวมก็ยังเป็นขาลงอยู่ แต่ระยะกลาง-ยาวขาขึ้นยังได้เปรียบ
-- แผนเข้า -- (คล้ายเมื่อวาน)
Buy Zone 1: 1796-1802 TP 1807-1812 SL 1794-1797
Buy Zone 2: 1813-1815 TP 1820-1824 SL 1807-1810
====
Sell Zone 1 : 1807-1812 TP 1798-1800 SL 1815-1818
Sell Zone 2 : 1793-1797 TP 1783-1785 SL 1800-1803
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
#Gold #Goldtrading #goldidea #xauusd #วิเคราะห์ทอง #วิเคราะห์ทองคำ #ลงทุนทอง #ลงทุนทองคำ
xauusd 2/2/2022 << วิเคราะห์ทองคำ 2/2/2022 >><< วิเคราะห์ทองคำ 2/2/2022 >>
มองหา sell ได้เปรียบกว่า
รอเด้ง ยก H ขึ้นมาเพื่อรอ sell
ในภาพใหญ่มี Harmonic pattern ที่มีโอกาสกลับตัวที่ 1760
ใน TF เล็ก H1 เริ่มมองเห็นการยก H ยก L
ลองเสี่ยง buy แถว 1790 ที่เป็น demand ได้
++ แผนที่ 1 Sell 1815-1820
++ แผนที่ 2 buy 1770-1760 (มีความเสี่ยงเพราะสวนเทรน)
++ แผนที่ 3 buy 1790 (มีความเสี่ยงเพราะสวนเทรน)
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำกลับมาปิดบวก $5.10 อีกครั้งเหตุขัดแย้งยูเครนมีแรงหนุนเข้าซื้อทองคำ
ตลาดทองคำยังคงปิดบวกได้อีกวันหนึ่ง โดยทองคำกลับไปยืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง เหตุผลการกลับมาซื้อทองคำของนักลงทุนก็ยังคงเป็นประเด็นจากความกังวลต่อสถานการณ์ของยูเครนขณะนี้ เนื่องจากความตึงเครียดดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อทองคำ ประกอบกับราคาทองคำที่ปรับตัวอ่อนลงเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อทำกำไรระยะสั้นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,801.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากความตึงเครียดของยูเครนแล้วนั้น ก็ยังมีการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ช่วยให้ทองคำขยับตัวขึ้นได้เช่นกัน โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก ลดลง
สำหรับวันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคือ0.28% ที่ระดับ 96.27 ในคืนวานนี้ ทั้งนี้แม้ทองคำจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ก็ตามที แต่แรงกดดันจากการที่ความคาดหวังในการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ยังเป็นตัวสร้างแรงกดดันให้ทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก และนักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญต่อตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ NFP (Non farm payrolls) ที่จะมีการรายงานตัวเลขในค่ำคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง ในเดือนม.ค. และคาดกว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
วันนี้ตลาดการเงิน การลงทุนของจีนยังคงเป็นวันหยุดช่วงเทศการตรุษจีน และติดตามรายงานตัวเลขสำคัญของสหรัฐในค่ำคืนนี้อาทิเช่น
ติดตามการประชุม OPEC 17:00 น.
ติดตามการจ้างงานภาคเกษตกรรมจาก ADP (ม.ค.) คาดการณ์ 207,000 ตำแหน่ง 20:15 น.
ติดตามคลังสินค้าน้ำมันดิบเมือง Cushing 22:30 น.
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำทางเทคนิคเช้านี้ราคาแกว่งตัวในบริเวณ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงเข้าซื้อในช่วงเช้าลดลงทำให้ราคาทองคำกลับมาใกล้ๆ บริเวณแนวรับ 1798 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง (ระดับ Fibonacci 23.6% H1) ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำไปจากแนวดังกล่าวก็ยังมีโอกาสที่แรงซื้อจะเข้ามาสนับสนุนราคาให้กลับขึ้นไปได้อีก ทั้งนี้ทุกครั้งที่มีการปรับร่วงลงจากการทำกำไรบางส่วนของตลาดออกมานั้น ก็มักจะมีการเข้าซื้อทองคำกลับมาเสมอในช่วงเวลานี้ จึงควรมองหาโอกาสการเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นในแนวรับสำคัญๆ ต่าง ราคาทองคำอาจยังไม่โดดเด่นนักในเวลานี้จากที่นักลงทุนต่างเฝ้ารอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาในช่วงค่ำวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เพื่อจะได้คาดการณ์ต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐต่อไป
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 ด้วยแรงซื้อที่ยังแกว่งตัวในบริเวณดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้าเปิดตลาดมา สำหรับ SMA20 ก็ปรับตัวลดลงเช่นกันแต่ยังคงในลักษณะการปรับฐานระยะสั้น
เส้น SMA200 ยังปรับตัวลงโดยเข้าใกล้บริเวณ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนว fibo 50% ด้วย
เส้น SMA 50 ยังปรับตัวขึ้นสะท้อนถึงแรงซื้อในตลาดระยะสั้นเข้าครองตลาดได้ในเวลานี้ จึงยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อีกในระยะสั้น
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1797-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำปรับตัวลงมาทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวรับ 1797-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดเหนือ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1830 / 1850
-------------------------------------------
Support : 1782/ 1752 / 1718
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1808 / 1817 / 1826
-------------------------------------------
Support : 1780/ 1760 / 1753
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = เข้าซื้อ 0.29 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,018.04 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,800.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 2
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +3.78 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต