Elliott Wave Analysis วางแผนเทรดทองคำในอนาคต 29/5/24 by TANGจากทรงของราคาทองคำตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นจนถึงปัจจุบัน คาดว่าราคาจะทำทรงเป็น ENDING DIAGONAL ภายใน WAVE 4 เพื่อที่จะจบWAVE 5 ในTF WEEK ที่ภาพรวมตั้งแต่เดือนต้นตุลาคมของปี 2023 ทำลักษณะเป็น BULLRISH IMPULSE WAVE ของขาขึ้นใหญ่
โดยที่สัปดาห์ที่ผ่านมาในTF H4ราคาได้เทลงทำCHoCH อย่างรุนแรงโดยที่เป็นอิทธิพลของการเกิดDIVERGENCE ในTF DAY และคำกล่าวสุนทรพจน์ของ FED เกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้ราคาหลังจากนี้จะกลายเป็น CORRACTIVE WAVE แล้วทำให้ทำเป็นขา WAVE A ที่แนวรับ 2327 และจะเคลื่อนที่ไปเป็นWAVE B ที่ Supply zone ราคา 2383-2400 โดยที่สามารถรอดักSELLได้ในโซนนี้ และจะลงไปจบที่โซนแนวรับ 2322-2310 เพื่อทำ MOTIVE WAVE ไปสู่WAVE 5 ใน TF WEEK
📌SELL ZONE AT 2383-2400 คาดว่าจบ wave B
(โดยที่รอสัญญาณ CHoCH ในTFM15-H1และรอหาFilp Zoneเข้า)
📌BUY ZONE AT 2322-2310 คาดว่าจบ wave c เพื่อไปต่อ Wave 5ในTF Week
(โดยที่รอสัญญาณ CHoCH ในTFM15-H1และรอหาFilp Zoneเข้า)
นี้คือการวิเคราะห์คลื่นอีเลียตจากความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ และประกอบด้วยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลเชิงบวกมากมายจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ FED ยังกล่าวสุนทรพจน์โดยกล่าวว่าจะอัตราดอกเบี้ยจะถูกคงไว้นานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงถึง 80 usd
Chart:
Fundamental-analysis
5 ปัจจัยสำคัญที่สร้างการซื้อขายดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้5 ปัจจัยสำคัญที่สร้างการซื้อขายดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของดอลลาร์สหรัฐ การเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพในการดำเนินงานของเงินดอลลาร์สหรัฐตลอดทั้งสัปดาห์:
ประธานาธิบดีสหรัฐโจไบเดนประกาศว่าข้อตกลงสองพรรคได้รับการเข้าถึงที่จะยกระดับเ เขาได้เรียกร้องตอนนี้ในสภาคองเกรสที่จะผ่านการจัดการโดยเร็ว ฟิทช์การจัดอันดับจะลบ"ดูเชิงลบ"คะแนนในสหรัฐอเมริกาเมื่อข้อตกลงผ่านหรือมีแนวโน้มที่จ
งินดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในตลาดโลก
เพิ่มขึ้น 4.4%ในเดือนเมษายนเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้น 4.2%ตั้งข้อสังเกตในเดื การพัฒนานี้ได้ยกน่าจะเป็นของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 พื้นฐานจุดโดยธนาคารกลางสห
เนื่องจากวันหยุดสุดสัปดาห์วันที่ระลึกในสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกับวันหยุดธนาคารในยุโรปและสหราชอาณาจักรวันจันทร์จะได้สัมผัสกับสภาพคล่องในตลาดที่ลดลง บการซื้อขายสิ้นเดือนในวันพุธซึ่งอาจแนะนำความผันผวนมากขึ้น
รายงานการจ้างงานของสหรัฐพฤษภาคมจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 2 มิถุนายน เดือนที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องตัวเลขงานที่ดีกว่าที่คาดไว้ เป็นที่คาดว่าตัวเลขงานในสัปดาห์นี้จะบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของ 180,000 งานที่มีการเพิ่มขึ้นเล็กน้ งแรงยังให้การสนับสนุนถ้าตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงเกินประมาณการ
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการฟื้นตัวขึ้นหรือไม่ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในหลายวันที่ผ่านมาเริ่มสามารถยืนเหนือ 33,500 จุด โดยปัจจัยในการคลายความกังวลของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง
และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการฟื้นตัวขึ้นก็คือทางด้านของการประกาศอัตราการว่างานของสหรัฐอเมริกาที่มีการประกาศออกมา 3.5% สถานภาพให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจยังคงมีทิศทางที่ยังคงฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ส่งผลทำให้มีการฟื้นตัวขึ้นในหลายวันที่ผ่านมาโดยถ้าสามารถยืนเหนือตำแหน่ง 33,700 ขึ้นไปได้อาจจะไปถึงตำแหน่งสุดท้ายที่ 34,310
ต้องติดตามการประกาศอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาซึ่งถ้ามีการกดดันทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์นั้นอาจจะหลุดต่ำไปมากกว่าในระดับ 33,200 เป็นตำแหน่งที่หนึ่ง
และตำแหน่งที่สองอาจจะไปถึง 32,800 และตำแหน่งสุดท้ายก็คือ 32,500 เปลี่ยนตำแหน่งที่ควรที่ต้องจับตาดูอย่างมาก
XAUUSD break out จนได้ !!ทองคำ
Wait and see !
✅ราคาทองคำหลังจากวิ่งในกรอบอยู่นานได้มีการเบรคทะลุ 1990 ทำให้ราคารีบาวน์ขึ้นต่อและได้หลุดแนวสำคัญ 2001 ได้ง่ายๆจากการประกาศตัวเลขตำแหน่งงานว่าง JOLTS (9.931M)ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ลดน้อยลงกว่าคาดการณ์อย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศปลายสัปดาห์นี้ได้ และ ข่าวระหว่างนาโตกับรัฐเซีย ทำให้ราคาทองคำได้บินทะลุ 2009 และ เบรกหาแนวต้าน 2020 จนปัจจุบันราคากดตัวไม่ลงวิ่งอยู่ในบริเวณกรอบ 2018-2025 โดยจุดสำคัญวันนี้ หากราคาวิ่งทะลุ 2030 ได้ ราคาจะวิ่งไปตามแนวต้านถัดไป 2048 2055 ถ้าไม่ผ่าน 2030 ราคาจะย่อลงแนวรับแรก 2010 2000 เป็นต้น
XAUUSD by FOREX FACTOR ✅บทวิเคราะห์ทองคำประจำวัน 10 มีนาคม 2566✅
➡️จากข่าวจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นถึง 211K ราคาทองคำได้รีบาวน์จาก 1809 มา 1835 ซึ่งราคาก็ยังคงอยู่ในกรอบรอเบรคตอนนี้ ต้องจับตาตัวเลข NFP วันนี้ว่าราคาจะเฉลยไปในทิศทางไหน แต่จากรูปในทางเทคนิคราคายังติด TFH1 Fibo50%1833-1835 ยังไม่มีแท่งเทียนเบรคทะลุไปได้หลักของวันนี้ให้มุม2ทางเพื่อรอข่าวเฉลย S 1833 / 1839.5 Fibo 61.8% TP 1820 / 1815 / 1810 / หากราคาดันขึ้นไปโซนนี้ต้องขอวัดใจ แต่หากราคาทุบลงมาจะมีแนวรับในกรอบ 1820 / 1815 ก็ต้องวัดใจเช่นเดียวกัน TP 1833 / 1839 / 1846 มุมมองของตลาดบ่ายน่าจะไม่วิ่งมาหมายรอวอลุ่มอเมริกาเต็มแล้วเล่นจะชัวร์กว่า ทิศทางจากเทคนิคอลประมาณนี้รอตลาดเฉลยอีกทีนะงับ
usoil time frame 1h with tecnical and Fundamental วิเคราะห์กราฟTecnical: According to the big trend, it is an upward trend, there may sideways, the price is 75-80 slightly, and the price is up gradually.
วิเคราะห์เทคนิค: ตามแนวโน้มใหญ่ คือ แนวโน้มขาขึ้น อาจมี sideways ราคา 75-80 เล็กน้อย และราคาค่อยๆ เพิ่มขึ้น
---------------------------------------------------------------------
Fundamental: According to the current world situation that faces economic recession and war of oil shipping superpowers and changing weather conditions will increase demand. Demand is greater than supply, causing prices to start rising, with prices likely to rise above 80 next year.
ข้อมูลพื้นฐาน: จากสถานการณ์โลกปัจจุบันที่ประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและภาวะสงครามของมหาอำนาจจัดส่งน้ำมัน กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจะทำให้อุปสงค์เพิ่มขึ้น อุปสงค์มากกว่าอุปทานทำให้ราคาเริ่มเพิ่มขึ้นมีแนวโน้มราคาจะสูงกว่า 80 ในปีหน้า
Follow me on Instagram for news and tricks to share.
ติดตามได้ที่ Instagram สำหรับข่าวสารและเคล็ดลับที่จะแบ่งปัน
ig: kaiser.360
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ทองคำปรับปิดบวกต่อเนื่องได้เป็นวันที่ 3
ตลาดทองคำยังคงสามารถปิดบวกได้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แม้ในระหว่างวันอาจมีช่วงการทำกำไรสลับออกมาก็ตาม แต่ก็ยังคงมีแรงซื้อเข้าสนับสนุนตลาดทองคำจนสามารถผ่านระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,810.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เมื่อคืนนี้มีรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่ออกมาร่วงลงอย่างหนักในเดือนม.ค. โดยทาง ADP ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ลดลง 301,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม และถือเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขดังกล่าวออกมาย่ำแย่ สวนทางกับการวิเคราะห์ที่คาดกว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และในส่วนของภาคบริการนั้นการจ้างงาานก็ลดลง 274,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ขณะที่ภาคการผลิตจ้างงงานลดลง 27,000 ตำแหน่ง ตัวเลขดังกล่าวส่งผลกดดันสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักลดลง 0.40% แต่ะที่ระดับ 95.99 เมื่อคืนนี้
และอีกส่วนสำคัญที่ดอลลาร์กำลังโดนกดดันจากตลาดการลงทุนก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าของเฟดหลายคนส่งสัญญาณออกมาว่าจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.50% ในการประชุมเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนี้วันนี้นักลงทุนจับตาการประชุม BoE และ ECB โดยนักวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากที่เงินเฟ้อของอังกฤษได้พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ทางฝั่งของ ECB คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ เพิ่มเติม
สำหรับวันศุกร์ที่จะถึงนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ ที่นักลงทุนให้ความสำคัญและเฝ้าติดตามตัวเลขดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ตัวเลขว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
สำหรับวันนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคือ0.28% ที่ระดับ 96.27 ในคืนวานนี้ ทั้งนี้แม้ทองคำจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ก็ตามที แต่แรงกดดันจากการที่ความคาดหวังในการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ยังเป็นตัวสร้างแรงกดดันให้ทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก และนักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญต่อตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ NFP (Non farm payrolls) ที่จะมีการรายงานตัวเลขในค่ำคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง ในเดือนม.ค. และคาดกว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
วันนี้ติดตามสถานการณ์ความสำคัญดังต่อไปนี้
19:00 น. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางอังกฤษ (0.50%)
19:45 น. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางยุโรป (0.00%)
20:30 น. จำนวนคนยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐ (245,000 คน)
20:30 น. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ ECB
22:00 น. ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบัน ISM (ม.ค.) (59.5)
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ภาพรวมทองคำยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอยู่ขณะนี้ ถ้าพิจารณาในกรอบรายวัน หากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นก็จะมีโอกาสที่ราคาทองคำจะกลับไปบริเวณ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง สำหรับกรอบรายชั่วโมงทองคำเช้านี้ยังแกว่งตัวเหนือระดับ 1800-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สนับสนุนแรงบวกเข้าซื้อทองคำขณะนี้ โดยหากราคาทองคำขยับขึ้นเหนือระดับ 1815-1816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำกรอบรายชั่วโมงจะขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (SMA200) ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแน้วต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะมีการเทขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมากันอีกรอบ ซึ่งจะประเมินแนวรับที่ระดับ 1800-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับขึ้นเหนือระดับ 60 และมีแนวโน้มที่จะขึ้นทดสอบระดับ 70 ส่วนเส้น SMA20 ยังเคลื่อนไหวขึ้นในแดนบวก
เส้น SMA200 เคลื่อนไหวเข้าใกล้กลุ่มราคา คาดว่าจะมาบรรจบกันที่ระดับบริเวณ 1810-1815 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เส้น SMA 50 เส้นวัดแรงซื้อขายระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวขึ้นและรองรับราคาได้ดีเวลานี้ ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุดลงมาแสดงถึงแรงซื้อที่สนับสนุนให้เคลื่อนไหวราคาขึ้นด้านบนต่อไป
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1797-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำปรับตัวลงมาทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณนี้ เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวต้าน 1817-1826 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1808-1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นทำกำไรระยะสั้นพิจารณาเป้าหมายบริเวณแนวรับ 1797-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดเหนือ 1817 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1815 / 1829 / 1850
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1782 / 1752
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1817 / 1826 / 1838
-------------------------------------------
Support : 1798 / 1780 / 1760
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = N
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก 1.45 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,016.59 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,806.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 3
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +2.33 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสฯที่ 11 มีนาคม 2564วานนี้ราคาทองคำปรับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หรือ EMA200 ในกรอบรายชั่วโมงหลังประกาศค่าตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (Core CPI) แบบเดือนต่อเดือน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ รายงานตัวเลขออกมา 0.1% ต่ำกว่าคาดการณ์ 0.2% ทำให้ดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลง เป็นเหตุให้หนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นจากบริเวณพักฐานจนสามารถยืนเหนือเส้น EMA200 วันในกรอบรายชั่วโมงสำเร็จ ทั้งนี้ถึงยังงัยภาพรวมของดัชนีดอลลาร์ก็ยังคงมีทิศทางขาขึ้น โดยหากดัชนีดอลลาร์ยังไม่ปรับตัวต่ำกว่า 91.65 ก็ยังมีแนวโน้มการกลับขึ้นไปได้อีก ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ก็เช่นกันแม้จะมีลักษณะการย่อลงมาบ้าง แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังเป็นปัจจัยหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและดัชนีดอลลาร์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นได้อีก นักลงทุนทองคำจึงยังต้องให้ความสำคัญในการติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดัชนีดอลลาร์ควบคู่ไปกับการลงทุนทองคำในเวลานี้
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,720-1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดการอ่อนตัวจากการเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งถ้าหากราคาทองคำยังไม่หลุดจากแนวรับบริเวณ 1,710-1,717 หรือทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว ก็ยังมีโอกาสที่ทองคำจะปรับขึ้นเพื่อกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,720-1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้แนวระวังสำคัญก็คงเป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ราคาทองคำอาจวกกลับลงมาได้อีกเพื่อสะสมกำลังซื้อใหม่อีกรอบ ซึ่งถ้าทองคำสามารถทรงตัวได้ที่แนวรับ 1,710-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินได้ว่าแนวโน้มที่ทองคำจะขยับขึ้นทดสอบ 1,740-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,720-1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำอาจย่อลงมาบริเวณ 1,710-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด Long Position โดยเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรหรือขายออกที่บริเวณแนวต้าน 1,732-1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แต่หากทะลุผ่านไปได้ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนไปก่อน แล้วรอแนวต้านถัดไปที่ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับใครที่มี Short Position ไว้ในมือ ให้พิจารณาปรับลดขนาดการลงทุนเมื่อราคาทองคำปรับย่อตัวลงมาก่อนในเวลานี้ เพื่อปรับสมดุลย์พอร์ตที่อาจเกิดจากการแกว่งตังของราคาจากการปรับทิศของเทรนด์ใหญ่ที่กำลังจะมา
กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองทองคำลง -1.75 ตัน ปัจจุบันถือครองสุทธิ 1,060.23 ตัน
แนวรับแนวต้านกรอบรายชั่วโมง
------------------------------------------
Support : 1,711 / 1,704 / 1,694
------------------------------------------
Resistance : 1,732 / 1,740 / 1,750
------------------------------------------
*การลงทุนทองคำมีความเสี่ยงสูง จึงควรใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรถูกต้อง 100%
หวยทองคำ 01/09/2020 (ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรือไม่)ปัจจัยหนุนแรกสำหรับทิศทางของทองคำในตอนนี้ยังคงเป็นปัจจัยหนุนมาจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่มีการปรับตัวร่วงลงถึง -1.41 ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีการต่ำลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกามีปัจจัยเชิงบวกของทิศทางทองคำคือการเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ ในการปรับนโยบายทางการเงินครั้งใหญ่
ส่งผลทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปีมีการปรับตัวร่วงลงถึง 0.705% สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มมีการเข้าซื้อพันธบัตรมากขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐมีการส่งสัญญาณดังกล่าว
อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่ามีการขยับตัวสูงขึ้นของทิศทางราคาทองคำแต่ดัชนีความกังวลของทองคำหรือ Gold Votatility ยังคงมีการขยับขึ้นเพียงแค่ 24.32 ในระดับการปิดตลาดของสหรัฐอเมริกา ต้องติดตามว่าในการเปิดตลาดของสหรัฐอเมริกาดัชนีดังกล่าวนี้จะมีความผันผวนขยับขึ้นหรือไม่
จึงส่งผลทำให้ทองคำมีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยสัญญาณดังกล่าวนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับทิศทางของทองคำอย่างต่อเนื่อง
โดยถ้ามีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องกรอบแนวต้านสำคัญอย่างมากก็คือ 1992 เป็นแนวต้านที่หนึ่งและ 1995 เป็นแนวต้านที่สองและ 1998 เป็นแนวต้านที่สามและ 2000 เป็นแนวต้านที่สี่และ 2004 เป็นแนวต้านที่ห้ากับ 2006 เป็นแนวต้านที่หกและ 2009 เป็นแนวต้านที่เจ็ดและ 2013 เป็นแนวต้าน 18 และ 2015 เป็นแนวต้านสุดท้าย
แต่ถ้าเกิดมีปัจจัยหนุนในเชิงลบของทิศทางทองคำแนวรับสำคัญที่จะต้องติดตามแนวรับแรกก็คือ 1987 เป็นแนวรับที่หนึ่งและ 1984 เป็นแนวรับที่สองแรก 1980 เป็นแนวรับที่สามและ 1976 เป็นในรับที่สี่ละ 1974 เป็นแนวรับที่ห้าและ 1970 เป็นแนวรับที่หกและ 1967 เป็นแนวรับที่เจ็ดและ 1965 เป็นแนวรับที่แปดซึ่งเป็นแนวรับสุดท้ายในวันนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ : ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญยังคงต้องติดตามตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเนื่องจากจะมีการประกาศตัวเลขที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา คือการประกาศดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็มประกอบกับในส่วนของวันพุธที่จะถึงนี้จะเป็นการประกาศอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาของ ADP และสุดท้ายวันศุกร์จะเป็นการประกาศตัวเลขอัตราการจ่ายงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างานของสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจจะสร้างความผันผวนและอาจจะกดดันให้ทองคำมีการขยับตัวผันผวนดังกล่าว
สัญญาณหวยทองคำอีกหนึ่งสัญญาณคือหุ้น Barrickข่าวใหญ่ที่สำคัญก็คือ ปู่ Warren Buffet ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท Barrick Gold Corp. ซึ่งเป็นบริษัทขุดเจาะและผลิตโลหะที่มีค่า ที่สุดอันดับสองของโลกในการถือหุ้นในครั้งนี้ในส่วนของ ปู่ Warren Buffet หรือบริษัท Berkshire Hathaway Inc. ได้เข้าซื้อหุ้น Barrick เป็นจำนวน 20.9 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.2% ของหุ้นที่ถือครองโดยนักลงทุนทั้งหมดและคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 565 ล้านดอลล่าห์ ซึ่งเป็นรายงานจาก Bloomberg และผู้ที่ตัดสินใจในเรื่องนี้ก็คือ ปู่ Warren Buffet พร้อมทั้งผู้บริหารด้านการลงทุนอีกสองท่านในบริษัท Berkshire Hathaway Inc.
ซึ่งแน่นอนว่าสะท้อนให้เห็นว่า ปู่ Warren Buffet เห็นอะไรบางอย่างในสินทรัพย์นี้ถึงแม้ว่าไม่ได้เข้าซื้อสินทรัพย์ทองคำโดยตรงดังนั้นประเด็นที่สำคัญยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองว่าทิศทางทองคำจะมีการขยับตัวสูงขึ้นหรือไม่
โดยในปี 2012 มีการขยับตัวสูงขึ้นของราคาหุ้น Barrick Gold Corp. 55.51 เหรียญต่อหุ้นซึ่งในตอนนี้ หุ้นของ Barrick Gold Corp. ยังอยู่เพียงแค่ 29.99 เหรียญต่อหุ้น
โดยในกรอบราคาสะท้อนให้เห็นว่าราคาหุ้น Barrick Gold Corp. มักจะไปด้วยกันกับทิศทางทองคำเช่นถ้าทองคำมีการขยับตัวสูงขึ้นราคาหุ้น Barrick Gold Corp. จะสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกันดังนั้นยังคงเป็นข้อสังเกตว่าทำไม ปู่ Warren Buffet ถึงเข้าซื้อหุ้น Barrick Gold Corp. ในจำนวนนี้
โดยข้อสังเกตนี้อาจจะส่งผลให้ทิศทางราคาทองคำมีการขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถ้าเกิดหุ้นของ Barrick Gold Corp. มีการขยับตัวสูงขึ้นดังนั้นนี่คืออีกหนึ่งข้อสังเกตที่อาจจะจำเป็นจะต้องติดตามอย่างมากในครั้งนี้
ซึ่งถ้าสามารถขยับขึ้นไปได้แนวต้านที่หนึ่งก็คือ 1989 แนวต้านที่สองก็คือ 1996 แนวต้านที่สามก็คือ 2000 แนวต้านที่สี่ก็คือ 2008 แนวต้านที่ห้าก็คือ 2015 แนวต้านที่หกก็คือ 2022
แต่ถ้าเกิดปัจจัยหนุนที่ส่งผลลบให้กับทิศทางทองคำแนะนำควรติดตามกรอบแนวรับสำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 1985 แนวรับที่สองก็คือ 1980 แนวรับที่สามก็คือ 1978 แนวรับที่สี่ก็คือ 1975 แนวรับที่ห้าก็คือ 1972 แนวรับที่หกก็คือ 1966 แนวรับที่เจ็ดก็คือ 1957
ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อจะทำให้ทองคำมีการปรับตัวร่วงลงนั้นก็คือทิศทางของบล็อกซีนโควิด-19 ว่าจะมาในช่วงไหนและอาจจำเป็นจะต้องติดตามถึงเรื่องสภาพเศรษฐกิจและเศรษฐกิจต่างๆซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ทิศทางทองคำมีความผันผวนในช่วงนี้
ติดตามวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่องเพราะส่งผลอย่างหนักสำหรับทิศทางทองคำในการปรับตัวร่วงลง