BTCUSD Daily Analysis 21/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ราคาบิตคอยน์ (BTC) มีแนวโน้มที่สดใส โดยมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยสำนักงาน SEC กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาและจะให้คำตอบในไม่กี่วันข้างหน้า หากได้รับอนุมัติ คาดว่าจะกระตุ้นความสนใจและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอีกมาก
ปัจจุบัน ราคาบิตคอยน์ดีดตัวเกินระดับ 27,000 ดอลลาร์ เนื่องจาก Grayscale ชนะคดีสำคัญกับ SEC ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยน Grayscale Bitcoin Trust เป็น ETF นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่าบิตคอยน์จะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีหน้า โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงเผชิญความไม่แน่นอน
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 91580.83
✅ Tp: 94860.04 96709.73
❗ SL: 89701.60
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ยังคงยิดแผนเดิมในการยกฐานขึ้นต่อ มีโอกาสที่ราคาจะขึนไปทดสอบโซน 100000
สามารถย่อและเก็บของได้ ครับ
fibo : เป้าหมาย 261
เป้ามหาย 100000. เป็นโซนที่มีนัยยะสำคัญ
RSI: เริ่มหักหัวลง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำดึงดูดการซื้อตามมาเป็นวันที่สามติดต่อกันในวันพุธ และเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบครึ่งสัปดาห์ที่ระดับ 2,641-$2,642 ในช่วงตลาดเอเชีย ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงผลักดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม ซึ่งรวมถึงการเคลื่อนไหวของราคาในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ที่ชะลอตัวลง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนโลหะในไตรมาสนี้
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ความคิดเห็นในชั่วข้ามคืนจากเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ได้ช่วยคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการเริ่มต้นของสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากน้ำเสียงโดยทั่วไปในตลาดหุ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างมากส่งผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และขอเตือนก่อนที่จะกลับตัวในราคาทองคำที่ขยับขึ้นอีก
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
แนวโน้มขาขึ้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในกรอบเวลาและแนวต้านที่สำคัญจนถึง 2660-2662 แผนการซื้อขายวันนี้ส่วนใหญ่ยังคงรอสัญญาณซื้อเมื่อมีการทดสอบซ้ำ ให้ความสนใจกับช่วงราคาทดสอบซ้ำที่ระบุไว้ในแผนภูมิเพื่อให้มีกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีสำหรับตัวคุณเอง สิ่งเหล่านี้คือโซน Fibonacci และยังเป็นโซนจิตวิทยาที่ตลาดให้ความเคารพด้วย 2622-2613-2597 เป็นพื้นที่ที่ต้องใส่ใจ
ฺBTCUSD Daily Analysis 20/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาขยับขึ้นแตะระดับสูงใหม่: ราคาของ Bitcoin ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 2,019,770 บาทต่อ BTC หรือเพิ่มขึ้นราว 3.04% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ แต่ถือเป็นการกลับมายืนเหนือระดับ 2 ล้านบาทอีกครั้ง ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นตั้งแต่ปี 2021
ปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายเศรษฐกิจจีน: รัฐบาลจีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่งผลให้ตลาดคริปโตได้รับแรงสนับสนุน โดยเฉพาะ Bitcoin ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม มีแรงขายสถานะ Short Bitcoin สูงถึง 88 ล้านดอลลาร์จากการปรับขึ้นของราคา
cr.investing
Trading note:✅
Buy : 91580.83
✅Tp: 93523.56 95230.16
❗SL: 89000
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาขึ้นไปทดสอบโซน TP 1 ของเมือวาน วันนี้ยังลุ้นเข้าต่อ ใน retest ไปทดสอบโซน 100000.00
fibo : เข้าประมาณ 168
เป้ามหาย 100000.00 ในการเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD Daily Analysis 20/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ราคาทองคำ (XAUUSD) มีการเคลื่อนไหวผันผวน โดยยังคงอยู่ในกรอบขาลงในระยะสั้น สะท้อนถึงแรงขายที่มีเข้ามา แม้ในบางช่วงราคาจะพยายามดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน
แต่ยังคงมีแรงกดดันจากการปรับฐานใหญ่ในระยะยาว ทั้งนี้ หากราคายังคงหลุดแนวรับสำคัญ เช่น $1,920 หรือ $1,900 ต่อออนซ์ อาจส่งผลให้มีแรงขายต่อเนื่อง
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 2654.62
✅ Tp: 2622.11 2595.81
❗ SL: 2674.17
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาเริ่มกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ลุ้นขึ้นไปทดสอบโซนที่ 2654.62
น่าจะมีการเทขาย เพื่อมาปรับฐาน บริเวณ 2623.06
fibo : ย่อประมาณ 0.38 - 0.5
เป้ามหาย 2650. เป็นโซนที่มีนัยยะสำคัญ
RSI: เริ่มหักหัวลง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 19/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาขยับขึ้นแตะระดับสูงใหม่: ราคาของ Bitcoin ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 2,019,770 บาทต่อ BTC หรือเพิ่มขึ้นราว 3.04% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ แต่ถือเป็นการกลับมายืนเหนือระดับ 2 ล้านบาทอีกครั้ง ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นตั้งแต่ปี 2021
ปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายเศรษฐกิจจีน: รัฐบาลจีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่งผลให้ตลาดคริปโตได้รับแรงสนับสนุน โดยเฉพาะ Bitcoin ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม มีแรงขายสถานะ Short Bitcoin สูงถึง 88 ล้านดอลลาร์จากการปรับขึ้นของราคา
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 91580.83
✅ Tp: 93523.56 95230.16
❗ SL: 89000
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคากำลังยกฐานขึ้นต่อ กำลังยกฐานขึ้นต่อไปทดสอบโซน 95000.00
ลุ้นในการถือยาวได้ครับ
fibo : เข้าประมาณ 168
เป้ามหาย 95000. ในการเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
"GBP/JPY พุ่งแรง! ทะลุ 196.00 ก่อนเผยตัวเลข CPI สหราชอาณาจักร"**GBP/JPY พุ่งทะยานเหนือระดับกลาง 196.00 แตะจุดสูงสุดรายสัปดาห์ใหม่ก่อนการเปิดเผยตัวเลข CPI ของสหราชอาณาจักร**
📈 *GBP/JPY ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากจุดต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางการขาย JPY ที่กลับมาอีกครั้ง*
🌍 *ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง ประกอบกับความไม่แน่นอนของ BoJ กดดันค่าเงินเยน (JPY)*
💡 *การวิเคราะห์ทางเทคนิคแนะนำให้ระมัดระวังสำหรับนักลงทุนฝั่งซื้อ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร*
คู่เงิน **GBP/JPY** ยังคงแรง rebound จากระดับ 193.60-193.55 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม และยังคงเพิ่มแรงดึงดูดเชิงบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สามในวันพุธ การฟื้นตัวนี้ส่งผลให้ราคาสปอตทะยานเหนือระดับกลาง 196.00 ในช่วงตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจากแรงขายใหม่ในฝั่งเงินเยน (JPY) 😲📊
💬 *คำแถลงจากเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ช่วยบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบ* อีกทั้ง *ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ)* กดดันค่าเงินเยนที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย 😅✨ ในขณะเดียวกัน *ความคาดหวังที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหราชอาณาจักรอาจกระตุ้นแรงกดดันเงินเฟ้อ* และชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ส่งผลให้เงินปอนด์ (GBP) ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม 💷💪
🔍 *อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นอาจเข้ามาแทรกแซงตลาด FX เพื่อหนุนค่าเงินเยน รวมถึงความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ อาจทำให้นักลงทุนฝั่งขาย JPY ยับยั้งการลงเดิมพันที่รุนแรง* นักลงทุนยังอาจเลือกที่จะรอข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคล่าสุดของสหราชอาณาจักรก่อนตัดสินใจวางเดิมพันเชิงทิศทางอย่างจริงจัง 🎯📉
**มุมมองทางเทคนิค**
จากมุมมองทางเทคนิค คู่เงิน **GBP/JPY** แสดงความแข็งแกร่งที่ระดับต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (SMA) ในวันอังคารที่ผ่านมา และแรงซื้อที่เกิดขึ้นตามมาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนฝั่งซื้อ ✨📈 นอกจากนี้ เครื่องมือ Oscillators ในกราฟรายวันเริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำ แต่ยังไม่ยืนยันแนวโน้มเชิงบวก 📊
- หากราคาสามารถทะลุระดับ **197.00** ได้สำเร็จ อาจเผชิญแรงต้านสำคัญที่โซน **197.70-197.80**
- การซื้อที่ตามมาทะลุระดับ **198.00** อาจเป็นการเปิดทางสำหรับกำไรระยะสั้นเพิ่มเติม 🚀💹
ในทางกลับกัน ระดับ **196.00** ดูเหมือนจะเป็นแนวรับสำคัญทันที ซึ่งหากหลุดไป ราคาคู่อาจลดลงไปที่แนวรับ **195.40-195.35** และต่ำกว่าระดับ **195.00** ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเส้น SMA 200 วัน การหลุดระดับนี้อาจดึงราคากลับไปยังจุดต่ำสุดของวันก่อนหน้าใกล้โซน **193.60-193.55** โดยมีแนวรับระหว่างทางใกล้ระดับ **194.00** 🎯📉
#GBPJPY #คู่เงิน #เงินเยน #เงินปอนด์ #CPI #วิเคราะห์กราฟ #ตลาดการเงิน #เทรดเดอร์
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 21 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำ (XAU/USD) ยังคงมีแนวโน้มการซื้อโดยมุ่งหน้าสู่เซสชั่นยุโรป และขณะนี้ซื้อขายอยู่ที่ราวๆ 2,660 ดอลลาร์ หรือแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่งช่วงต้นวันพฤหัสบดีนี้ นี่เป็นวันที่สี่ติดต่อกันของการเคลื่อนไหวเชิงบวก และได้รับการสนับสนุนจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์อันเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เลวร้ายลง โดยนิยมโลหะมีค่าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงเล็กน้อยของเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงช่วยกระตุ้นสินค้าโภคภัณฑ์
ที่กล่าวว่าอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขยับสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าอัตราภาษีที่เสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและจำกัดขอบเขตการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และจำกัดราคาทองคำที่ไม่ได้ผลกำไร นอกจากนี้ ความรู้สึกต่อความเสี่ยงที่เกิดขึ้นซึ่งแสดงโดยบรรยากาศเชิงบวกโดยทั่วไปโดยรอบตลาดตราสารทุน - รับประกันความระมัดระวังก่อนที่จะวางเดิมพันกระทิงที่แข็งแกร่งรอบ ๆ แหล่งปลอดภัยของ XAU/USD
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
จากมุมมองทางเทคนิค ทองคำยังคงตั้งเป้าที่จะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงเวลาการซื้อขายของยุโรป โซน 2673-2675 ถือเป็นแนวต้านทันทีที่ทองคำตั้งเป้าไว้ เมื่อแท่งเทียน h1 ปิดเหนือพื้นที่ 2660 ให้พิจารณาซื้อสัญญาณไปยังบริเวณแนวต้าน และแนวโน้มการวิเคราะห์วันนี้คล้ายกับเมื่อวาน รอการฟื้นตัว และ ซื้อขึ้น หรือ รอการทะลุและซื้อขึ้น โปรดสังเกตโซนแนวรับที่สำคัญ 2645 และ 2618 เนื่องจากทองคำถูกผลักขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากโซนนี้
ราคาทองคำฟื้นตัวโดยแนวรับ 2,600 ดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ⭐️ราคาทองคำดึงดูดผู้ซื้อเป็นวันที่สามติดต่อกัน ขณะความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนกระตุ้นให้มีกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายสู่สินทรัพย์ปลอดภัยเช่น ทองคำ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบที่ลดลง รวมถึงการ ซื้อ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ที่อ่อนค่าลง อาจช่วยสกัดช่วงบวกของราคาทองคำได้
⭐️อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวช่วยฟื้นอุปสงค์ดอลลาร์สหรัฐฯ และกำไรจากส่วนต่างราคาสำหรับทองคำที่ไม่มีผลตอบแทน
⭐️นักลงทุนยังรอฟังคำปราศรัยจากสมาชิก FOMC ที่มีอิทธิพลเพื่อรับทราบเบาะแสเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนับจากนี้
🕯ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำฟื้นตัว ท่ามกลางการปรับฐานทางเทคนิคเชิงลบ โดยราคา 2,600 ดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยสำคัญ
📈ออสซิลเลเตอร์แนวโน้มขาขึ้นบนกราฟรายชั่วโมงยังสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นระหว่างวันให้เคลื่อนตัวไปที่ระดับ 2,662-2,665 ดอลลาร์ ซึ่งมุ่งหน้าสู่โซน Supply ที่ 2,672-2,674 ดอลลาร์ หากสามารถยึดพื้นที่เหนือโซนราคาดังกล่าวอาจเปิดโอกาสให้ ราคามีมุมมองเพิ่มขึ้มุ่งหน้าสู่ระดับ 2,700 , 2,710 ดอลลาร์อีกครั้ง
📉อีกด้านหนึ่ง บริเวณแนวรับ 2,622-2,620 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนว่าจะปกป้องแนวรับขาลงทันทีก่อนที่จะถึงระดับ 2,600 ดอลลาร์ การทะลุลงต่ำกว่า 2600 นี้อีกครั้งจะทำให้ ราคาทองคำเสี่ยงที่จะร่วงลงสู่ระดับ 100 วันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) ที่บริเวณ 2,555 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับระดับกลางใกล้บริเวณ 2,570 ดอลลาร์ ตามมาด้วยแนวรับสวิงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่บริเวณ 2,537-2,536 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุลงได้อย่างเด็ดขาดก็จะถือเป็นจุดกระตุ้นใหม่สำหรับเทรดเดอร์ที่มีแนวโน้มจะขาลง และเตรียมการสำหรับการสูญเสียที่รุนแรงยิ่งขึ้น
**"EUR/USD ใกล้โซนวิกฤต ลุ้นทะลุแนวต้านหรือดิ่งลงต่อ"**### **การวิเคราะห์ EUR/USD อย่างละเอียดและรอบด้าน**
---
### **1. การวิเคราะห์ Fibonacci Retracement และแนวโน้มระยะยาว**
- **โซนสำคัญ (Key Levels)**:
- แนวรับ: **1.01475 (Fibonacci 0.786)** และ **1.04515 (Fibonacci 0.618)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มดีดกลับจากแรงซื้อ (Demand Zone) หากราคาลงมาทดสอบ.
- แนวต้าน: **1.06803 (Fibonacci 0.382)** และ **1.08465 (Fibonacci 0.236)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มเผชิญแรงขาย (Supply Zone) หากราคาฟื้นตัวขึ้น.
- **การตีความ**:
- หากราคาทะลุแนวต้านที่ 1.06803 อาจพุ่งต่อเนื่องไปยังโซน 1.08465.
- หากราคาหลุดแนวรับ 1.05982 อาจปรับตัวลงไปยังระดับ 1.04515 หรือ 1.02478.
---
### **2. การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยเส้น EMA**
- **EMA 20/50/100/200**:
- EMA 200 อยู่ด้านบนของกราฟ บ่งบอกว่าแนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาลงที่ชัดเจน.
- ราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า EMA 20 และ 50 แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังไม่หมด.
- **กลยุทธ์**:
- หากราคายืนเหนือ EMA 20 ได้อีกครั้ง อาจบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในระยะสั้น.
- หากราคายังอยู่ต่ำกว่า EMA 50 ให้พิจารณาตามแนวโน้มขาลงต่อไป.
---
### **3. การวิเคราะห์พฤติกรรมตลาด (RSI และ MACD)**
- **RSI (Relative Strength Index)**:
- RSI อยู่ที่ **35.85** ใกล้โซน Oversold แสดงถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนแรง.
- หาก RSI ลงไปต่ำกว่า 30 จะเป็นสัญญาณ Oversold ที่ชัดเจน และอาจเกิดการดีดกลับของราคา.
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence)**:
- เส้น MACD ยังคงต่ำกว่าเส้น Signal Line และอยู่ในแดนลบ แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังเด่นชัด.
- หากเกิด Bullish Divergence (MACD เริ่มกลับขึ้นขณะที่ราคายังลง) จะเป็นสัญญาณกลับตัวที่น่าเชื่อถือ.
---
### **4. การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)**
#### **Descending Triangle**:
- **ลักษณะของกราฟ**:
- ราคาสร้างรูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลง (Descending Triangle) โดยมีแนวรับที่ 1.05982 และแนวต้านลาดลง.
- รูปแบบนี้มักเป็นสัญญาณของการ Breakout ขาลง หากราคาหลุดแนวรับ.
- **โอกาส**:
- หากราคาหลุดแนวรับที่ 1.05982 อาจปรับตัวลงต่อไปยังเป้าหมายที่ 1.04515 หรือ 1.02478.
- หากราคาทะลุแนวต้านด้านบนของสามเหลี่ยม อาจฟื้นตัวขึ้นสู่ 1.08465.
#### **Descending Channel**:
- ราคากำลังเคลื่อนที่ใน **Descending Channel**:
- ขอบล่างของ Channel ใกล้ 1.04515 อาจเป็นจุดดีดกลับ (Rebound Zone).
- ขอบบนของ Channel ใกล้ 1.08700 เป็นแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตา.
---
### **5. การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)**
- **Bearish Engulfing**:
- รูปแบบแท่งเทียนขาลงที่กลืนแท่งก่อนหน้า (Bearish Engulfing) บ่งบอกถึงแรงขายเด่นชัดในแนวต้าน.
- **Doji Candlestick**:
- การเกิด Doji ในโซนสำคัญ เช่น Fibonacci 0.618 อาจสะท้อนการลังเลของตลาดและการพักฐาน.
---
### **6. Harmonic Patterns**
- **Gartley Pattern**:
- หากราคาย่อตัวลงไปที่โซน 1.04515 (Fibonacci 78.6%) และเด้งกลับ จะยืนยันการสร้าง Bullish Gartley Pattern.
- หากราคาหลุดต่ำกว่า 1.04515 และแตะ 1.02478 (Fibonacci 88.6%) โอกาสเด้งกลับมีสูง.
---
### **7. การวิเคราะห์โซนอุปสงค์-อุปทาน (Supply and Demand Zones)**
- **Demand Zones**:
- โซน 1.04515 และ 1.02478 เป็นจุดที่ราคามีโอกาสเด้งกลับจากแรงซื้อ.
- **Supply Zones**:
- โซน 1.08773 เป็นพื้นที่ที่แรงขายมีโอกาสเกิดขึ้นมาก หากราคาฟื้นตัวขึ้นมา.
---
### **สรุปแผนการเทรด**
1. **กลยุทธ์ขาลง (Bearish Strategy)**:
- หากราคาหลุดแนว 1.05982:
- Short ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.04515.
- ติดตาม RSI และ MACD เพื่อยืนยันโมเมนตัมขาลง.
2. **กลยุทธ์ขาขึ้น (Bullish Strategy)**:
- หากราคายืนเหนือ 1.06803:
- Buy ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.08465.
- ใช้ RSI และรูปแบบแท่งเทียนเพื่อคอนเฟิร์ม.
3. **เฝ้าดูพฤติกรรมราคา**:
- หากราคาลงมาทดสอบโซน Demand (1.04515 หรือ 1.02478) พร้อมเกิด Bullish Candlestick เช่น Hammer หรือ Bullish Engulfing ให้มองหาจังหวะเข้าซื้อ.
4. **การบริหารความเสี่ยง**:
- ใช้ Stop Loss ที่ต่ำกว่า Demand Zone สำหรับการตั้งสถานะซื้อ และเหนือ Supply Zone สำหรับการตั้งสถานะขาย.
- ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่คาดหวัง.
---
**หมายเหตุ**: ควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยหรือดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อปรับแผนการเทรดให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน. 📊📈📉
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 19 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำดึงดูดกระแสน้ำบางส่วน หลังจากที่ร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 3 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว และยุติการแพ้ติดต่อกัน 6 วันในวันจันทร์ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงยังกระตุ้นให้มีการเทกำไรในสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) ภายหลังการเลือกตั้งหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ สู่ระดับใหม่สำหรับปีที่กลายเป็นปัจจัยลบอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนโลหะสีเหลืองที่ไม่ทำกำไร
ภาวะกระทิงของ USD ยังคงเป็นแนวรับในช่วงเซสชั่นเอเชียในวันอังคาร และสนับสนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวเพิ่มเติมจากระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ความคาดหวังก็คือนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะจุดชนวนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและจำกัดขอบเขตของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม สิ่งนี้น่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ สูงและเป็นประโยชน์ต่อนักเก็งกำไร USD ซึ่งอาจจำกัด XAU/USD
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ระดับแนวต้านทางเทคนิคที่ 2,624 ที่ทองคำเผชิญอยู่จะมีความสำคัญมากในช่วงการซื้อขายของยุโรปในปัจจุบัน แนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งและไม่มีการฟื้นตัวของราคามากนัก ปัจจุบันพื้นที่ปี 2595 ถือเป็นเป้าหมายคลื่นขาลงทั้งหมด โซน 2648-2650 ถือเป็นแนวต้านหลักวันนี้ ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง คุณควรจัดลำดับความสำคัญของสัญญาณซื้อ 2615 ที่จุดทะลุเก่าเพื่อให้มีกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง
SAPPEบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
..................
บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ภายใต้ กว่า 20 ตราสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย
1) ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม ได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์, เครื่องดื่มน้ำผสมวิตามินบลู และเครื่องดื่มผสม CBD คาโมมายล์ และวิตามินบีแบรนด์คีฟ
2) ผลิตภัณฑ์ประเภทผงพร้อมชงเพื่อสุขภาพและความงาม ได้แก่ เพรียว คอฟฟี่, เพรียว คลอโรฟิลล์, สลิมฟิต คอฟฟี่ และกาแฟทอรีน และสินค้ากลุ่มผงชงดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม ภายใต้แบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์
3) ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มน้ำผลไม้ (มีและไม่มีชิ้นเนื้อ) ได้แก่ โมกุ โมกุ, เซ็ปเป้ อโล เวร่า, น้ำมะพร้าวน้ำหอม ออลโคโค และ กุมิ กุมิ by โมกุ โมกุ
4) ผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพ ได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ เยลลี่, แม็กซ์ทีฟ, โมกุ โมกุ เยลลี่, กุมิ กุมิ เยลลี่, ออลโคโค พุดดิ้ง และลูกอมครูเพ็ญศรี
5) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอื่นๆ ได้แก่ เซ็ปเป้ อินโน ซายน์, เซ็ปเป้ อินหยาง, เม็ดอมลิมิตเลส, เครื่องหอมสมุนไพรสูดสุด และชาคีฟ
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 33.50💥
💥Book value = 13.64 💥
💥D/E = 0.34 💥
💥P/E = 19.5 💥
💥P/BV = 5.71 💥
💥EPS = 0.98💥
💥Free Float = 26.44% 💥(18/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 2.19% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 11.23% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 18/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ขาย 311,250 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
17 พ.ค. 2024
เงินปันผล 2.18 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2023 - 31 ธ.ค. 2023
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
OKJ (มีพี่ทัก IB มาสอบถาม)บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน)
..................
ให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 12.5💥
💥Book value = 2.79💥
💥D/E = 0.48 💥
💥P/E = 46.77 💥
💥P/BV = 6.25 💥
💥EPS = 0.09 💥
💥Free Float =29.72% 💥(27/09/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 1.24% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 0.01% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 18/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ขาย 1,056,600 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
********
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
SET GDP ทั้งปีทำไว้ ที่2.4 % นำมาจับมุมมองกราฟSET:SET Key Takeaways:
📍GDP ไทย ไตรมาส 3/24 ขยายตัวได้ 3.0% YoY (1.2% QoQ) ขยายตัวมากกว่าตลาดคาดที่ 2.4% YoY (Bloomberg Consensus) แต่เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับ BLS House view ที่ 2.9% YoY
📍ปัจจัยหนุนหลักในไตรมาสนี้ ได้แก่ การบริโภคภาครัฐ (+6.3% YoY) การลงทุนภาครัฐ (+25.9% YoY) และการส่งออกสินค้า (+8.3% YoY) ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนเติบโตชะลอลงที่ 3.4% YoY จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 4.9% YoY
📍อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนยังน่าเป็นห่วง โดยหดตัว 2.5% YoY เป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 สะท้อนถึงภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวได้บางสาขา
เนื้อหา:
GDP ไทยไตรมาส 3/24 ขยายตัวเร่งขึ้น โดยมี 3 ปัจจัยหนุนหลัก ได้แก่
1. การบริโภคภาครัฐขยายตัว 6.3% YoY ขณะที่การลงทุนภาครัฐขยายตัวได้สูงถึง 25.9% YoY ซึ่งเป็นผลจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณก่อนการสิ้นสุดปีงบประมาณ 67 บวกกับผลของฐานต่ำ
2. การส่งออกสินค้าไทยขยายตัวได้ดีกว่าที่คาด โดยโตถึง 8.3% YoY จากอานิสงส์ด้าน Front-loaded demand ของสหรัฐฯ และยุโรป ก่อนมาตรการขึ้นภาษีมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนกันยายน ประกอบกับ Demand ของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ อาทิ HDDs ที่ยังคงเติบโตสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่หนุนการส่งออกของไทยตลอดทั้งไตรมาส 3/24 และ
3. การบริโภคภาคเอกชนที่ยังคงขยายตัวได้ดี 3.4% YoY แม้จะเป็นการขยายตัวในทิศทางที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 4.9% YoY โดยการใช้จ่ายในหมวดโรงแรม ร้านอาหาร เติบโตชะลอลงจากผลของ Low Season ด้านการท่องเที่ยว ส่วนสินค้าคงทนยังคงหดตัวต่อเนื่องถึง 9.9% YoY ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง อันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่คาดว่าจะกดดันการบริโภคภาคเอกชนโดยรวมของไทยไปอย่างต่อเนื่องไปถึงปีหน้า (หากไม่มีมาตรการมากระตุ้นการบริโภคเพิ่มเติม)
อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว 2.5% YoY ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า (-6.8% YoY) สะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคธุรกิจแบบไม่ทั่วถึง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อโดยภาพรวมยังไม่สามารถกลับมาแบบยั่งยืนได้ ทำให้ sentiment การลงทุนของภาคเอกชนโดยรวมยังไม่ฟื้นกลับมา
ทั้งนี้ เราคาดว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/24 น่าจะขยายตัวเร่งขึ้นได้ราว 3.6% YoY (Base case) จากผลของฐานต่ำและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ เช่น โครงการแจกเงิน 10,000 บาท ที่น่าจะการแจกเฟสสองแก่กลุ่มคนอายุ 50 – 60 ปี ก่อนสิ้นปี ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ ร่วมกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (เที่ยวคนละครึ่ง) ที่น่าจะออกมาเพิ่มเติมก่อนสิ้นปี รวมถึงการท่องเที่ยวในช่วง High Season โดยเราคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติไตรมาส 4/24 น่าจะอยู่ที่ราว 9.5 ล้านคน และน่าจะทำให้ยอดทั้งปีมาแตะที่ 35.6 ล้านคน ตามที่เราคาดไว้ (คิดเป็นสัดส่วน 89.2% ของ Pre-covid) อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/67 ยังคงมีความเสี่ยงด้านการส่งออกที่เรามองว่าน่าจะชะลอตัวลงแรงกว่าที่คาด จาก Demand ของเศรษฐกิจคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐฯ และจีนที่ชะลอลง ทำให้เรายังคงยืนมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งปี 67 โตที่ 2.6% YoY
จากรายงานนี้บ้านเรา GDP ทั้งปีทำไว้ ที่2.4 % พอมาจับกับภาพตลาดมอง 1 เดือนครึ่งที่เหลือบัานเราจะเล่นออกข้าง ในกรอบ 1436 ถึง1500 ยกเว้นมีปัจจัยใหม่เข้ามาครับ
XAUUSD Daily Analysis 18/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ: ตลาดคาดการณ์ว่า FED จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 ซึ่งอาจสร้างแรงหนุนให้ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ประมาณ 2,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคตอันใกล้
ดัชนีเงินเฟ้อและค่าเงินดอลลาร์: ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากข้อมูล CPI มีผลกดดันให้ราคาทองคำลดลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูงในตลาดการเงิน
สถานการณ์เศรษฐกิจโลก: ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจากความตึงเครียดทางการเมืองและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ อาจยังสนับสนุนการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนไปยังทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 2600
✅ Tp: 2570.00 2535.77
❗ SL: 2619.32
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีแรงกลับเข้ามา นั้นทำให้ราคาขึ้นไปทดสอบโซน 2600.30
ลุ้นขึ้นไปเก็บข้าง บน ไปขายที่ 2600.1 เป็นที่มีนัยยะสำคัญ
fibo : เข้าประมาณ 168
เป้ามหาย 2600 ในขาย
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 18/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
การเคลื่อนไหวของราคา BTC: ราคาของ Bitcoin ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 88,000 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาลในช่วงก่อนหน้า การปรับตัวนี้เกิดขึ้นในขณะที่ตลาดคริปโตยังคงมีความผันผวนสูงและอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
การถอน BTC ออกจากกระดานเทรด: นักลงทุนรายใหญ่ได้ถอน Bitcoin จำนวนมากออกจากกระดานเทรด ทำให้ทุนสำรอง BTC บนกระดานต่ำสุดในรอบ 6 ปี สถานการณ์นี้อาจเป็นสัญญาณที่แสดงถึงแนวโน้มราคาขาขึ้นในอนาคต เนื่องจากอุปทานในตลาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 90400
✅ Tp: 95000 93523
❗ SL: 88641.42
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีแรงซื้อกลับเข้ามา นั้นทำให้ราคา ยกฐานขึ้นต่อไปทดสอบโซน
โดยมีเป้หมาย ที่ 95000.00
fibo : เข้าประมาณ 168
เป้ามหาย 95000. ในการเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
DUSITบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)
..................
โรงแรมและรับจ้างบริหารโรงแรม
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 7.20💥
💥Book value = 8.18💥
💥D/E = 3.35 💥
💥P/E = -13.4 💥
💥P/BV = 1.45 💥
💥EPS = -0.67 💥
💥Free Float =26.81% 💥(25/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 2.07% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 0.82% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 15/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ขาย 203,200 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
17 เม.ย. 2020
เงินปันผล 0.19 บ./หุ้น
******
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
ทองร่วงต่อเนื่อง 6 วันติดกัน ดูเหมือนจะปรับลงได้อีกทองคำร่วงต่อเนื่องติดต่อเป็นเวลา 6 วัน ดูเหมือนถ้อยแถลงที่ค่อนข้างแข็งกร้าวของพาวเวลล์ยังสกัดช่วงบวกเอาไว้
✨ไฮไลท์ปัจจัยพื้นฐาน
😃ราคาทองคำร่วงลงปิดตลาดต่ำกว่า 2,570 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาซื้อขายล่าสุด 2,562 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือลดลงกว่า 4% ในรายสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023
😃เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าเฟดมีความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีสัญญาณบวกก็ตาม ท่าที "แข็งกร้าว" ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ความต้องการทองคำลดลง
😃นักลงทุนปรับคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมปีนี้ โดยโอกาสลดลงเหลือ 62% หลังจากมีความเห็นของพาวเวลล์ นักลงทุนได้ลดโอกาสที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน (bps) ในการประชุมเดือนธันวาคม โดยโอกาสลดลงจาก 72% เหลือ 62%
😃ยอดขายปลีกของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการเติบโต ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ
💬บทวิเคราะห์ราคาทองคำระหว่าง 18-22 พ.ย 2567
สัปดาห์นี้ รักลงทุนรอดูข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยจากธนาคารกลางสหรัฐ ข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และการเปิดเผย S&P Global Flash PMI
🕯แนวโน้มทางเทคนิค TF H4
: แนวโน้มยังคงเป็นขาลง แนวรับใกล้สุดยังคงตั้งเป้าไว้ที่ 2,550 ดอลลาร์
📉หลังจากราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ 2,603 ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักต่อเนื่องท้าทายเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ และร่วงลงต่ออย่างรวดเร็วจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 2,536 ดอลลาร์ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 100 วันที่ 2,545 ดอลลาร์
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) เคลื่อนตัวออกจากเส้นกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่อาจส่งผลให้ ลดลงต่อไปอีก
📈อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ขายต้องการดันราคาให้ไปที่ 2,500 ดอลลาร์ แต่อาจยังไม่ดีพอ ทำให้ยังมีผู้ซื้อที่สามารถทำให้เกิดการฟื้นตัวได้ ระดับแนวต้านแรก(H4) อยู่ที่ 2,600 ดอลลาร์ หากผู้ซื้อกลับมายืนเหนือระดับนี้ พวกเขาอาจกำหนดเป้าหมาย SMA 50 วันที่ 2,651 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านเพิ่มเติมที่ 2,700 ดอลลาร์ หากทะลุผ่านระดับนี้ไปได้ อาจนำไปสู่จุดสูงสุดในวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ 2,710 ดอลลาร์ ตามลำดับ
คาดการณ์พื้นที่ราคาระหว่าง 18-22 พ.ย 2567
แนวต้าน 2600, 2651, 2710
แนวรับ 2525, 2472, 2425
7 ความยากของการเป็นเทรดเดอร์การเป็นเทรดเดอร์ (Trader) หรือผู้ที่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดการเงินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนที่หลายคนอาจคิด การมองการเทรดเป็นแค่การกดปุ่มซื้อและขายตามสัญญาณหรือการคาดเดาราคาก็อาจทำให้หลายคนมองข้ามความซับซ้อนของการเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจความยากของการเป็นเทรดเดอร์ที่ไม่ใช่แค่การวิเคราะห์กราฟหรือหาจังหวะในการเปิดออร์เดอร์ แต่ยังรวมไปถึงความท้าทายทางจิตใจและการจัดการกับความเสี่ยงที่มีอยู่เสมอ
1. การจัดการอารมณ์ (Emotional Control)
หนึ่งในความยากที่สำคัญที่สุดในการเป็นเทรดเดอร์คือการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นเมื่อทำกำไร หรือความวิตกกังวลเมื่อขาดทุน การตัดสินใจทางการเงินมักเกิดขึ้นจากการคาดเดาและสัญชาตญาณ ซึ่งสามารถถูกกระทบโดยอารมณ์ที่ผันผวน เมื่อเทรดเดอร์ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ เช่น การตัดสินใจทำการเทรดในเวลาที่ไม่เหมาะสมหรือการเพิ่มความเสี่ยงเมื่อสูญเสียไปแล้ว
2. การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)
การเข้าใจและจัดการความเสี่ยงเป็นส่วนสำคัญในการเทรด หากไม่สามารถคำนวณหรือจัดการกับความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจทำให้เกิดการขาดทุนที่ยั่งยืน การตั้ง Stop Loss หรือการใช้กลยุทธ์ในการจัดการเงิน (Money Management) เป็นสิ่งที่ทุกเทรดเดอร์ต้องเรียนรู้และฝึกฝน ความยากของมันคือการตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรยอมรับการขาดทุนและเมื่อไหร่ควรเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพื่อทำกำไร
3. การวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis)
การวิเคราะห์ตลาดเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ต้องการการเรียนรู้และประสบการณ์มากมาย ในโลกของการเทรด มีเครื่องมือหลายตัวที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์ เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์ทางพื้นฐาน (Fundamental Analysis) แต่การเลือกใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมก็เป็นความยากอีกประการหนึ่ง เทรดเดอร์ต้องพัฒนาเทคนิคของตัวเองเพื่อสามารถวิเคราะห์ข้อมูลในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้
4. ความไม่แน่นอนของตลาด
ตลาดการเงินไม่เคยมีความแน่นอน การคาดเดาทิศทางของราคาในอนาคตย่อมมีความเสี่ยง ทุกเทรดเดอร์ต้องเข้าใจว่าแม้จะมีการวิเคราะห์และใช้กลยุทธ์ที่ดี แต่การเทรดก็ยังต้องพึ่งพาความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ ข่าวสาร หรือการตัดสินใจของธนาคารกลาง สิ่งเหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อราคาในทันทีทันใด ซึ่งทำให้การวางแผนกลยุทธ์ในระยะยาวเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
BTCUSD Daily Analysis 16/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin ในตลาดโลก
ราคาบิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 65,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีน รวมถึงการชำระบัญชีสถานะ short กว่า 195 ล้านดอลลาร์ทั่วตลาดคริปโต
ปัจจัยสนับสนุนตลาด Bitcoin
การคาดการณ์เกี่ยวกับ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2567 ยังคงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อและสะสมบิตคอยน์ เนื่องจากการลดลงของอุปทาน BTC ที่ขุดได้อาจส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 90496.86
✅ Tp: 92911.00 95230.16
❗ SL: 88718.47
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคากำลังยกฐานขึ้นไปทดสอบโซน
โดยมีการสะสมแรง ลุ้นในการยกขึ้นไปทดสอบโซน 92903.94
fibo : เข้าประมาณ 168
เป้ามหาย 95000. ในการเก็บกำไร
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 15/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ Bitcoin (BTC) ยังคงมีแนวโน้มค่อนข้างผันผวนโดยมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2024 ต่อเนื่องไปถึงปี 2025 โดยนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า BTC มีโอกาสแตะราคาสูงถึง $95,685 ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ หากแนวโน้มตลาดยังคงเป็นบวก ในขณะที่การคาดการณ์ต่ำสุดอยู่ที่ราว ๆ $76,910 ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่สูงจากปัจจัยภายนอก รวมถึงเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์การลงทุนคริปโตทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
สำหรับนักลงทุนหลายราย มองว่า BTC ยังคงมีอนาคตที่สดใสในระยะยาว โดยบางรายเชื่อว่า Bitcoin อาจจะพุ่งสูงสุดถึง $250,000 ในช่วงปี 2030 โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลคือการ Halving ที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งมีส่วนช่วยลดอัตราเงินเฟ้อของ BTC ตามกลไกอุปสงค์-อุปทานตามโครงสร้างพื้นฐานของคริปโต
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 87540.36
✅ Tp: 84535.26 80361.40
❗ SL: 90526.78
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาได้มีการเทขายเข้ามา หลังจากขึ้นไปทดสอบโซน sw
ลุ้นในการลงต่อมาปรับฐานที่ โซน 85000.00
fibo : เป้าหมาย 168-261
เป้ามหาย เป้าหมายในการส่งราคา 95230.16
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การสวนเทรน ข้อดีคือทำให้เราได้ที่ที่เปรียบ และได้ราคาที่ปลายเทรน และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย แต่ก็ต้องวาง Stoploss เพื่อความปลอดภัย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
SPAบริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
..................
บริษัทดำเนินธุรกิจด้านสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสปา โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ คือ
1.ธุรกิจสปา ภายใต้แบรนด์ "lets relax" แบรนด์ "rarinjinda wellness spa" แบรนด์ บ้านสวนมาสสาจ แบรนด์ stretch me by lets relax และแบรนด์ dr. spiller pure skin care solutions
2.ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ในนาม "โรงแรม ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ท" เป็นโรงแรมสไตล์บูติก ที่จังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหารในนาม "deck 1"
3.ธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาภายใต้แบรนด์ "blooming" "lets relax" และ "lrl (lets relax lifestyle)"
4.กิจการโรงเรียนเกี่ยวกับการนวดแผนไทยในนาม "โรงเรียนสอนนวดไทยและสปาสยามเวลเนส" เพื่อให้การอบรมบริการนวดและสปาแก่พนักงานเทอราพิสต์ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 4.88💥
💥Book value = 0.86 💥
💥D/E = 0.88 💥
💥P/E = 28.33 💥
💥P/BV = 8.52 💥
💥EPS = 0.06 💥
💥Free Float = 57.74% 💥(12/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 1.66% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 11.32% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 14/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 792,600 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
17 พ.ค. 2024
เงินปันผล 0.01 บ./หุ้น
รอบ 01 ม.ค. 2023 - 31 ธ.ค. 2023
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
SUNบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)
..................
บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรอื่นๆ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท "KC" และภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า รวมทั้งธุรกิจจัดหาและซื้อมาจำหน่ายไปซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารและผลผลิตทางการเกษตร
..................
💥เส้น V-wap = อยู่ที่ 4.20💥
💥Book value = 1.90 💥
💥D/E = 0.59 💥
💥P/E = 8.75 💥
💥P/BV = 2.26 💥
💥EPS = 0.18 💥
💥Free Float = 30.89% 💥(08/03/24)
💥NVDR ถือหุ้น = 1.09% 💥
💥ต่างชาติถือหุ้น = 0.01% 💥
....................
ข้อมูลวันที่ 14/11/24
การซ์้อ-ขาย ของ NVDR ( NET แล้ว)
💥ซื้อ 662,400 หุ้น💥
.....................
เงินปันผลครั้งล่าสุด
******
...................
📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)