บิทคอยน์เตรียมตัวสำหรับคลื่นขาขึ้นรอบใหม่? กรอบราคายังแข็งแกร่ง!ในกรอบเวลา H1 BTCUSD กำลังเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงภายในกรอบขาขึ้นที่มีความชัดเจน หลังจากการปรับฐานเล็กน้อย ราคาได้แตะแนวรับล่างของกรอบบริเวณ 103,200–103,400 และมีสัญญาณฟื้นตัวเกิดขึ้น แท่งเทียนล่าสุดดีดตัวขึ้นจากเส้น EMA 89 และ 34 แสดงให้เห็นถึงบทบาทแนวรับเชิงเทคนิคที่แข็งแกร่ง การบรรจบกันของเส้น EMA 34 และ 89 สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่กำลังก้าวเข้าสู่ระยะสะสม ก่อนอาจเริ่มรอบขาขึ้นใหม่
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ตลาดกำลังจับตาความคาดหวังว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะเดียวกัน กองทุน ETF Bitcoin ยังคงดึงดูดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การลดลงของอุปทาน BTC หลังเหตุการณ์ halving ในเดือนเมษายน ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนราคาระยะกลาง
กลยุทธ์ที่เหมาะสมในขณะนี้คือ รอซื้อบริเวณแนวรับ 103,200–103,400 โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวต้านบนของกรอบราคาบริเวณ 106,000 พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนต่ำกว่าระดับ 102,800 เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากกรอบราคาถูกทะลุ หาก BTC สามารถทะลุระดับ 106,000 ได้สำเร็จ แนวโน้มขาขึ้นอาจได้รับการยืนยันอย่างแข็งแกร่งในรอบถัดไป
Forex-gold
XAUUSD: ทองคำกำลังจะกลับตัวจากแนวรับหรือไม่?หลังจากที่ XAUUSD ร่วงลงอย่างรุนแรง ราคาก็ได้ดีดตัวกลับจากแนวรับสำคัญบริเวณ 3,189 – 3,198 และขณะนี้กำลังทดสอบระดับ Fibonacci 0.618 ที่ 3,204 หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ แนวโน้มการฟื้นตัวมีโอกาสดำเนินต่อไป โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับยอดเดิมที่ 3,253.91 สัญญาณ EMA 34/89 กำลังแสดงความขัดแย้งในระยะสั้น แต่หากราคาสามารถปิดเหนือ EMA ได้อย่างมั่นคง จะเป็นการยืนยันแรงส่งขาขึ้น
ปัจจัยพื้นฐานยังคงสนับสนุนราคาทองคำ: CPI ของสหรัฐต่ำกว่าที่คาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเพิ่มสูงขึ้น
แนวทางการเทรด: รอจังหวะเข้าซื้อบริเวณ 3,197–3,200 ตั้ง Stop Loss ที่ต่ำกว่า 3,189 และ Take Profit ที่ 3,220–3,253 ควรบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และติดตามพฤติกรรมราคาบริเวณ EMA 200 อย่างใกล้ชิดในรอบถัดไป
แนวโน้มขาลงยังไม่หยุด – ทองคำสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไร?ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง XAUUSD ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงภายในช่องราคาที่ชัดเจน สะท้อนถึงแรงขายที่ยังคงเป็นฝ่ายครองตลาด หลังจากราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 3,287 (จุดตัดของ EMA 34 และ 89) แต่ไม่สามารถผ่านได้ ก็ได้มีแรงขายกลับลงมาจนราคาลดลงมาที่บริเวณ 3,233.71
พฤติกรรมราคาบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะเคลื่อนไหวในรูปแบบซิกแซกต่อเนื่องภายในช่องขาลง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่แนวรับบริเวณ 3,105 ซึ่งตรงกับขอบล่างของช่องราคา
ปัจจัยพื้นฐานในภาพรวมยังสนับสนุนแนวโน้มขาลง เมื่อข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดคาดว่าเฟด (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน หากไม่มีปัจจัยใดที่สามารถเปลี่ยนแนวโน้มได้อย่างชัดเจน แนวโน้มขาลงยังคงเป็นภาพหลักจนกว่าจะมีการทะลุแนวต้านได้อย่างเด็ดขาด
USD/JPY พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากช่วงสะสมราคาบนกราฟเวลา 1 ชั่วโมง USD/JPY ได้ทะลุออกจากช่วงการสะสมในลักษณะ Sideway และปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ก่อนจะย่อลงมายังบริเวณแนวรับรอบ 143.80–144.00 ขณะนี้ราคากำลังแสดงสัญญาณฟื้นตัว โดยโครงสร้างทางเทคนิคยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น ซึ่งได้รับแรงหนุนจากเส้น EMA 34 และ 89 ที่ชี้ขึ้นสอดคล้องกัน
สถานการณ์ที่คาดการณ์คือ ราคามีแนวโน้มจะย่อตัวลงทางเทคนิคอีกครั้งสู่แนวรับเพื่อสะสมแรงซื้อ ก่อนดีดตัวขึ้นสู่บริเวณแนวต้านที่ 145.80–146.20 โดยพื้นฐาน ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ขณะที่เงินเยนยังคงเผชิญแรงกดดันจากนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างมากของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)
ในบริบทนี้ กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมคือรอซื้อที่บริเวณแนวรับเมื่อมีสัญญาณยืนยัน โดยมีเป้าหมายที่บริเวณ 146.00 พร้อมกับจัดการความเสี่ยงหากแนวรับถูกทะลุ.
ราคาทองคำอ่อนตัวจากแรงกดดันดอลลาร์และข้อตกลงการค้าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเชิงลบ ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกและความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐที่ฟื้นตัว
ราคาทองคำยังคงถูกกดดันอย่างหนักในช่วงต้นของตลาดยุโรป แม้จะสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 3,300 ดอลลาร์ได้ ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ผสมผสานกัน สัญญาณของการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังคงผลักดันกระแสเงินออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม และส่งผลกระทบต่อความต้องการโลหะมีค่า
ภาพรวมทางเทคนิคของ XAU/USD
ความอ่อนแอที่ต่ำกว่าบริเวณ 3,300-3,290 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับฟีโบนัชชีรีเทรซเมนต์ 38.2% ของขาขึ้นล่าสุดจากบริเวณกลาง 2,900 ดอลลาร์ หรือจุดต่ำสุดของเดือน อาจยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอบริเวณแนวนอน 3,265-3,260 ดอลลาร์ การหลุดระดับดังกล่าวอย่างชัดเจน จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณกระตุ้นใหม่สำหรับนักลงทุนสายขาลง และเปิดทางให้มีการปรับฐานต่อจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การลดลงต่อไปอาจพาราคาทองคำลงสู่ระดับรีเทรซเมนต์ 50% บริเวณ 3,225 ดอลลาร์ และอาจไปถึงระดับ 3,200 ดอลลาร์ได้
ในทางกลับกัน บริเวณ 3,348-3,353 ดอลลาร์ ดูเหมือนจะกลายเป็นแนวต้านระยะสั้นในขณะนี้ ตามมาด้วยโซนแนวต้านที่ 3,366-3,368 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถฝ่าไปได้อย่างเด็ดขาด จะเปิดทางให้ราคาทองคำกลับไปยืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ และอาจต่อเนื่องไปถึงแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 3,425-3,427 ดอลลาร์ ก่อนที่นักลงทุนสายขาขึ้นจะพยายามทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 3,500 ดอลลาร์อีกครั้ง
ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ความแข็งแกร่งในระดับปานกลางของเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังดำเนินอยู่ ยังคงทำให้นักลงทุนระมัดระวัง และจำกัดความเชื่อมั่นในตลาด นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างจริงจังมากขึ้น ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อเงินดอลลาร์ และช่วยจำกัดการปรับตัวลงของราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน (non-yielding) นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลตำแหน่งงานว่าง JOLTS ของสหรัฐเพื่อหาทิศทางเพิ่มเติม
ราคาทองคำยังซบเซาเมื่อความหวังในข้อตกลงการค้าทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนตัว
การที่จีนประกาศยกเว้นภาษีตอบโต้บางรายการสำหรับสินค้าสหรัฐ สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐหลายรายได้เสนอข้อเสนอทางภาษีที่ “ดีมาก”
สัญญาณของความคืบหน้าในการเจรจาการค้าช่วยสนับสนุนบรรยากาศการลงทุนที่สดใส ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง และดึงเงินทุนออกจากราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระวังตัวจากสัญญาณที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่จริงแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเจรจาการค้ากับจีนยังดำเนินอยู่ แต่จีนกลับปฏิเสธว่ากำลังมีการเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับภาษี
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะกลับมาเริ่มรอบการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ข้อมูลตลาดในปัจจุบันยังบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลงอาจช่วยให้โลหะสีเหลืองซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนสามารถรักษาระดับราคาพื้นฐานในระยะสั้นได้
ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเป็นเวลา 72 ชั่วโมงในความขัดแย้งยูเครน เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม แม้ว่าประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี จะปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวดังกล่าว นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของเกาหลีเหนือในสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงรักษาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ไว้อย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนขณะนี้รอคอยการเปิดเผยข้อมูลตำแหน่งงานว่าง JOLTS ของสหรัฐในวันอังคารนี้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐในวันพุธ และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ในวันศุกร์ ซึ่งทั้งหมดอาจให้ภาพใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มของนโยบายการเงินของ Fed
ทองคำพุ่งแรงจากสงครามการค้าและเงินเฟ้อหนุนแรงซื้อ**ราคาทองคำพุ่งแรง ท่ามกลางความกังวลด้านสงครามการค้าและเงินเฟ้อ ดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งสูงขึ้น**
📈 ราคาทองคำเริ่มกลับมามีแรงส่งขาขึ้นอีกครั้ง นักลงทุนกำลังตอบสนองต่อความไม่แน่นอนในเวทีการค้าระหว่างประเทศ และความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ เสน่ห์ของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยิ่งเพิ่มขึ้น จากความกังวลใหม่ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ซึ่งยิ่งช่วยหนุนราคาทองคำ (XAU/USD) ให้ปรับตัวขึ้น 📉✨ รูปแบบทางเทคนิคล่าสุดก็ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน บ่งชี้ว่าอาจมีโอกาสปรับขึ้นต่อในระยะถัดไป
---
### 📊 ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยดันทองพุ่ง หลังสงครามภาษีสหรัฐฯ-จีนยกระดับ
ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เสริมแรงจากโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา 📈 การปรับตัวขึ้นในรอบนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความกลัวของตลาดต่อภาวะเงินเฟ้อ 🏛️ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ตลาดประหลาดใจด้วยการเลื่อนการเก็บภาษีใหม่กับประเทศส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน แต่กลับเพิ่มภาษีสินค้าจีนอย่างมาก หลังจากจีนตอบโต้กลับทันที 🇺🇸🇨🇳 การยกระดับอย่างรุนแรงนี้ยิ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจลุกลามกลายเป็นสงครามการค้าฉบับเต็มระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
นักลงทุนกังวลว่าความขัดแย้งทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และดันราคาสินค้าทั่วโลกให้สูงขึ้น 📦 ความกลัวเช่นนี้มักจะทำให้เงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ แม้ว่าตลาดหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ทองคำยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง แสดงให้เห็นว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและความเสี่ยงด้านการค้ายังคงเป็นประเด็นหลักที่ครอบงำจิตวิทยานักลงทุนอยู่ในขณะนี้
---
### 🏦 จุดยืนล่าสุดของเฟดส่งผลต่อตลาดทองคำ
ท่าทีล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก็มีผลอย่างมากต่อราคาทองคำเช่นกัน หลังจากรายงานการประชุม FOMC แสดงถึงความระมัดระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ 📝 นักเทรดจึงลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุกลง เจ้าหน้าที่เฟดเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อมีแรงกดดันด้านราคาจากภาษีที่กำลังเข้ามา 🎯 เจ้าหน้าที่อย่าง บาร์คิน และ มูซาเล็ม เตือนว่า ราคาที่สูงขึ้นอาจดำรงอยู่ต่อเนื่อง และทำให้เฟดต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ตลาดตอนนี้คาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ 📆 แต่ความไม่แน่นอนทั้งด้านเวลาและขอบเขตของการลดดอกเบี้ย ยังคงกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้ปรับอ่อนลง ซึ่งถือเป็นผลบวกโดยตรงต่อทองคำ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนจะทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือทองคำ (ซึ่งไม่ให้ผลตอบแทน) ลดลงอย่างชัดเจน 💰
---
### 🔍 วิเคราะห์ทางเทคนิค: สัญญาณกลับตัวขาขึ้นและแนวรับสำคัญ
กราฟ 3 ชั่วโมงของทองคำแสดงสัญญาณกลับตัวขาขึ้นที่น่าสนใจ 📈 บริเวณแนวรับสำคัญใกล้ช่วง $2,970–$2,980 ได้แสดงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน กราฟเผยให้เห็นจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสามจุด (Higher Lows) ซึ่งเป็นรูปแบบ "Inverse Head and Shoulders" แบบคลาสสิก 🧠 ซึ่งมักเป็นสัญญาณของการกลับตัวขาขึ้น
หลังจากราคาร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ ทองคำดีดตัวกลับขึ้นมาทันทีที่แนวรับนี้ และกราฟระบุจุดนี้เป็น “โซนซื้อ” 📍 การดีดตัวเกิดขึ้นในขณะที่ราคากลับมาทดสอบเส้นคอ (neckline) ของรูปแบบกลับตัวนี้พอดี การบรรจบกันของปัจจัยทางเทคนิคหลายประการนี้ยิ่งตอกย้ำว่าแนวรับดังกล่าวเป็นเขตความต้องการที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
หลังจากการดีดกลับ ทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง และกำลังซื้อขายอยู่เหนือระดับ $3,120 🚀 การทะลุแนวต้านก่อนหน้าขึ้นไป ยืนยันโมเมนตัมขาขึ้นรอบใหม่ นักเทรดระยะสั้นอาจมองว่านี่คือสัญญาณยืนยันการกลับตัวของเทรนด์ และตราบใดที่ราคายังคงอยู่เหนือเส้นคอ ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นไปถึง $3,150 หรือแม้แต่ $3,200 ในระยะสั้นได้
รูปแบบนี้ยังแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวแบบตัว V (V-shaped recovery) และการที่ไม่มีแรงขายต่อเนื่องหลังจากการร่วงล่าสุดเลย นักซื้อเข้ามาแสดงพลังอย่างชัดเจน บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในทิศทางขาขึ้น 💪
---
### ✅ สรุป
การพุ่งขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้มีแรงหนุนทั้งจากปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค 🧩 ความกังวลเรื่องสงครามการค้า การคาดการณ์เงินเฟ้อ และท่าทีที่ผ่อนคลายของเฟด ล้วนดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยให้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำก็แสดงรูปแบบกลับตัวจากแนวรับสำคัญอย่าง textbook ✍️ ตราบใดที่ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินยังคงอยู่ ทองคำก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจต่อไป 📊 รูปแบบกราฟที่แข็งแกร่งยิ่งสนับสนุนความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นต่อ ทำให้ทองคำโดดเด่นในสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจปัจจุบัน
---
📌 **#ทองคำ #วิเคราะห์ทองคำ #สงครามการค้า #เงินเฟ้อ #เฟด #ราคาทอง #ลงทุนปลอดภัย #XAUUSD #ทองวันนี้**
วิเคราะห์กราฟเทรดทอง XAUUSD (ช่วงเช้า) 23/01/2568วางเเผนย่อ Sell ตามช่วงปรับฐาน
TP 2745-2735-2725
SL 2775
.
ข้อควรรู้ : คลิปนี้ เป็นการแชร์ความรู้กี่ยวกับการเทรด ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงินหรือการการลงทุน (การลงทุนในตลาด CFDS มีความเสี่ยงสูง โปรดใช้วิจารณญาณ)
__________________________________________
เตรียมอัพเดทข่าวแนวโน้มตลาด วิเคราะห์กราฟเด่นประจำวัน
ที่นักเทรดไม่ควรพลาด
.
.
#coachJ #jttraderfx #สอนให้เทรดด้วยตัวเอง #forex #crypto #เทรดforex #เทรดcrypto #xm #xauusdanalysis #goldanalysis #dailyforecast #เทรดทอง #trade #gold #xauusd #ทองคำ #forex
ทองคำยืนเหนือจุดสำคัญ! แนวโน้มจะไปทางไหนต่อ?**🔥 ทองคำยืนเหนือจุดเทคนิคสำคัญ! จะไปต่อหรือไม่? รู้คำตอบที่นี่! 🔥**
🌟 **ทองคำยังคงยืนเหนือจุดสำคัญทางเทคนิคในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์**
✨ ทองคำยังคงยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันได้
💼 เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความหลากหลายสำหรับทองคำ แต่การลดลงเมื่อวานนี้ไม่ได้รุนแรงนักเมื่อมองภาพรวม 📉 ทองคำลดลงเนื่องจากดอลลาร์ฟื้นตัว 💵 และพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 📊 หลังจากที่ทรัมป์ปฏิเสธว่าจะผ่อนปรนในเรื่องภาษี 🏛️ อย่างไรก็ตาม ข่าวดีสำหรับผู้ซื้อทองคำคือในเชิงเทคนิค การลดลงครั้งนี้ไม่ได้ทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (🔴 เส้นสีแดง)
📍 **ระดับสำคัญอยู่ที่ $2,626 ในขณะนี้** โดยมีแนวรับระยะสั้นเพิ่มเติมใกล้เคียง $2,600
📅 โดยทั่วไปแล้ว เดือนมกราคมมักจะเป็นเดือนที่ยอดเยี่ยมสำหรับทองคำ ✨ อันที่จริงแล้ว เดือนมกราคมเป็นเดือนที่ทองคำมีผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 🥇
📊 อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาภาพรวมก่อนเดือนมกราคมปีนี้ ทองคำเพิ่มขึ้นถึง **27% ในปี 2024** 🚀 แม้ว่าจะมีการลดลงเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมก็ตาม ราคาทองคำใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการปรับตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน 📈 และแม้กระทั่งในตอนนั้น การลดลงก็ไม่ได้ยืดเยื้อนาน ⏳
💡 **สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อในช่วงราคาลดลงยังคงมีความมั่นใจสูงอย่างน้อยในตอนนี้**
⚠️ **ข้อควรระวังสำหรับทองคำในตอนนี้**
ดอลลาร์ยังคงอยู่ในสถานะทรงตัวตั้งแต่เดือนที่แล้ว 💵 ขณะที่ทรัมป์ยังคงผลักดันนโยบายภาษี 📜 และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังคงสนับสนุนแนวคิดที่ว่าเฟดจะหยุดการลดดอกเบี้ย 📉 ทำให้แรงซื้อเชิงป้องกันของผู้ซื้อทองคำอาจค่อยๆ ลดลง โดยเฉพาะหากตลาดพันธบัตรยังคงให้การสนับสนุนในทิศทางเดียวกัน 📊
📣 กล่าวอีกนัยหนึ่ง แนวโน้มทองคำในเดือนมกราคมอาจไม่เป็นไปตามเดิมเหมือนในอดีต 🕰️ ทดสอบแรกจะเป็นรายงานการจ้างงานของสหรัฐและข้อมูลที่เกี่ยวข้องซึ่งจะออกในสัปดาห์นี้ 📆
📉 **หากราคาทะลุต่ำกว่า $2,600 อย่างมีนัยสำคัญ** อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายอย่างรวดเร็วในทองคำ ⚡ หากเป็นเช่นนั้น การร่วงลงอย่างรวดเร็วเพื่อทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (🔵 เส้นสีน้ำเงิน) ใกล้ $2,500 ก็อาจเกิดขึ้นได้ 🌀
⏳ สำหรับตอนนี้ ต้องรอดูว่าข้อมูลจะเป็นอย่างไรในช่วงเวลาถัดไป 📊
#️⃣ **#ราคาทองคำ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้มทองคำ #การลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #ดอลลาร์ #ทองคำโลก #ลงทุนปลอดภัย**
"ทองคำปี 2025: ราคาจะพุ่งหรือร่วง? จับตานโยบายทรัมป์และ Fed!"การคาดการณ์ราคาทองคำประจำปี: ปี 2025 จะเป็นปีที่สร้างสถิติใหม่อีกครั้งหรือไม่?
* ทองคำเปล่งประกายในปี 2024 ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความนิยม โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 25% และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
* การพัฒนาในระดับภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำในปี 2025
* แนวโน้มทางเทคนิคของทองคำชี้ให้เห็นถึงการสูญเสียแรงขาขึ้นเมื่อเข้าสู่ปีใหม่
ทองคำได้รับประโยชน์จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสู่สภาพแวดล้อมนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นทั่วโลกตลอดปี 2024 โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,790 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ในปีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจโลก และสภาพแวดล้อมภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดเดาไม่ได้ อาจสร้างความไม่แน่นอนต่อราคาทองคำในปี 2025
**ทองคำในปี 2024: ภูมิรัฐศาสตร์และการซื้อของธนาคารกลางขับเคลื่อนการขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่**
ทองคำเริ่มต้นปีในลักษณะที่ค่อนข้างเงียบ โดยแกว่งตัวในกรอบแคบที่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ นักลงทุนเลี่ยงการเปิดสถานะขนาดใหญ่ ขณะจับตาดูสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และประเมินผลกระทบจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจมหภาคต่อแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทองคำเริ่มมีแรงขาขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในเดือนมีนาคม และแตะจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือระดับ 2,200 ดอลลาร์ในกระบวนการนี้ ความกดดันในการขายดอลลาร์สหรัฐ (USD) การปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และความต้องการทองคำจากจีนที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของทองคำในไตรมาสแรก
ทองคำขยายแนวโน้มขาขึ้นในเดือนเมษายน และทะลุระดับ 2,400 ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับฐานในช่วงครึ่งหลังของเดือน อย่างไรก็ตาม XAU/USD ปิดเดือนด้วยกำไรเกิน 2% การเพิ่มขึ้นที่ไม่คาดคิดของอัตราเงินเฟ้อจากดัชนี PCE ในสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ถึงการชะลอการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Fed ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในเดือนเมษายน ซึ่งจำกัดศักยภาพการขึ้นของทองคำ
หลังจากช่วงการรวมตัวในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ทองคำกลับมาแข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม และเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นสี่เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน ทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 15% และแตะจุดสูงสุดใหม่ใกล้ 2,800 ดอลลาร์ในวันซื้อขายสุดท้ายของเดือนตุลาคม
**ประเมินผลการดำเนินงานของทองคำในครึ่งปีแรกของปี 2024**
“ทองคำทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2024 โดยเพิ่มขึ้น 12% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานดีกว่าสินทรัพย์หลักส่วนใหญ่ ทองคำได้รับประโยชน์จากการซื้อของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่อง การไหลเข้าของการลงทุนในเอเชีย ความต้องการผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่อง” กล่าวโดย World Gold Council ในรายงาน Gold Mid-Year Outlook 2024
**ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำในปี 2025**
1. **สถานการณ์ที่เป็นขาลง**:
- การลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการแก้ไขปัญหาวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน อาจกระตุ้นให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทองคำได้รับประโยชน์อย่างมากจากความขัดแย้งเหล่านี้ในปี 2024
- การเปลี่ยนแปลงของนโยบาย Fed ที่เป็นไปในเชิง Hawkish อาจกดดันราคาทองคำในปีหน้า
- เศรษฐกิจจีนที่อ่อนตัวลงอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำในปี 2025
2. **สถานการณ์ที่เป็นขาขึ้น**:
- การดำเนินนโยบายผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารกลางสำคัญ ๆ ทั่วโลก อาจช่วยให้ทองคำปรับตัวขึ้นในปี 2025
- เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
- การเพิ่มขึ้นของความกลัวทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
**ความต้องการจากธนาคารกลาง**
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนทองคำในปี 2024 คือการซื้อของธนาคารกลาง
“ธนาคารกลางจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของภาพรวม การซื้อของธนาคารกลางมีแรงขับเคลื่อนจากนโยบายและยากที่จะคาดการณ์ แต่จากการสำรวจและการวิเคราะห์ของเรา ชี้ให้เห็นว่ากระแสปัจจุบันจะยังคงอยู่” กล่าวโดย World Gold Council ในรายงานแนวโน้มทองคำปี 2025
**การวิเคราะห์ทางเทคนิคของทองคำ**
รูปภาพทางเทคนิคของทองคำชี้ให้เห็นถึงการสูญเสียแรงขาขึ้น ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ใกล้ 50 นอกจากนี้ XAU/USD ยังลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) ระยะ 20 สัปดาห์ หลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่ของปีเหนือระดับดังกล่าว
โซนสนับสนุนแรกของทองคำอาจอยู่ที่ 2,530-2,500 ดอลลาร์ ซึ่งระดับ Fibonacci 23.6% และระดับจิตวิทยาตรงกัน หาก XAU/USD ลดลงต่ำกว่าพื้นที่นี้และเริ่มใช้เป็นแนวต้าน เป้าหมายขาลงถัดไปอาจอยู่ที่ 2,400 ดอลลาร์ และ 2,300 ดอลลาร์ตามลำดับ
ในทางกลับกัน หากทองคำขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ แนวต้านถัดไปอาจอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ ตามด้วยระดับ Fibonacci expansion ระยะยาวที่เสริมด้วยระดับจิตวิทยาที่ 3,000-3,020 ดอลลาร์
ราคาทองยังคงลดลงราคาทองคำของวันนี้ (20 มีนาคม) ได้ลดลงเล็กน้อยจากเซสชั่นก่อนหน้านี้หลังจากการเปิดตัวข้อมูลเศรษฐกิจใหม่จากสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งในตะกร้าการชำระเงินระหว่างประเทศ
ในขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกา Federal Reserve (FED) ได้ประชุมครั้งแรกของการประชุมครั้งแรกของเดือนมีนาคม ตลาดอยู่ในความสงสัยในอัตราที่อาจลดลงโดยสถาบัน อย่างไรก็ตามข้อมูลเงินเฟ้อที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วชี้ให้เห็นว่าแม้จะมีอัตราดอกเบี้ยสูง แต่อัตราเงินเฟ้อก็ไม่ลดลงตามที่คาดไว้ สิ่งนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนเชื่อว่าเฟดไม่น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในเซสชั่นปัจจุบันนี้
นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าจะเพิ่มความต้องการสินค้าของผู้บริโภค สิ่งนี้อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภคในอนาคต ด้วยเฟดที่ไม่น่าจะลดอัตราดอกเบี้ย USD สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งต่อไปโดยเพิ่มแรงกดดันเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ
XAUUSD ⭐การอัปเดตทองคำ:
ราคาทองคำ (XAU/USD) พุ่งสูงขึ้นถึงเก้าสัปดาห์ต่ำกว่าเกณฑ์ $ 2,100 ในช่วงเริ่มต้นของการซื้อขายวันจันทร์ในเอเชีย การเก็งกำไรเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยที่เป็นไปได้ภายในสิ้นปีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น้อยกว่าดาวฤกษ์จากสหรัฐอเมริกาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้การลดลงของอัตราผลตอบแทนคลังสหรัฐได้ลดลงของความต้องการของนักลงทุนสำหรับทองคำ ปัจจุบันทองคำมีราคาอยู่ที่ $ 2,085.55 เหลือไม่เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน
จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยสถาบันเพื่อการจัดการซัพพลาย (ISM) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาการผลิตของสหรัฐอเมริกา PMI ลดลงเหลือ 47.8 ในเดือนกุมภาพันธ์จาก 49.1 ในการอ่านก่อนหน้านี้ นี่เป็นวันที่ 16 ติดต่อกันว่าดัชนีนี้ยังคงต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตลดลง
⭐ข้อมูลเชิงลึกส่วนบุคคล:
ในขั้นตอนที่มองโลกในแง่ดีสำหรับทองคำราคาจะต้องได้รับการแก้ไขหากมีจุดมุ่งหมายที่จะเกินกว่า 2,100 ดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2567
มุมมองไอเดียเทรด fx eurcad วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566มุมมองไอเดียเทรด fx eurcad
วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
#เนื้อหาเป็นการเเชร์มุมมองการเทรดส่วนตัวไม่ใช่การเชิญชวนลงทุนโปรดใช้วิจารณญาณ
-----------------------------------------------
SIGNAL TRADE
---------------------------------------------
ระบบเทรดที่บอก
- จุดเข้าเทรด
- จุดตัดขาดทุน
- เเละจุดทำกำไร
*** (( ดูตามกราฟด้านบนได้เลยครับ ^_^ )) ***
---------------------------------------------
- ระบบเทรด ✅
คลิก ฯ 👥 : 👇⤵️⤵️⤵️
พร้อมซัพพอร์ต 24 ชม
---------------------------------------------
#gold #xauusd #trade #trade #forex #fx #TMGM #goldmantrade
ราคาทองวันนี้สวัสดีพ่อค้า!
ทองคำเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยการทำธุรกรรมในขณะที่เขียนในปี 1988 USD ลดลงเล็กน้อย 4 USD เมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่ผ่านมา ถึงกระนั้นโมเมนตัมก็ไม่ได้หยุดด้วยระดับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่ตั้งขึ้นในปี 1980 USD
ด้วยการลดลงของเงินดอลลาร์กับเฟดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้ทองคำยังคงแข็งแกร่งขึ้น เป้าหมายต่อไปจะยังคงส่งไปยังจุดสูงสุดของปี 2005 USD
ราคาทองคำยังคงซื้อขายสูงกว่าปี 1980 USDราคาทองคำในวันนี้ยังคงผันผวนภายในปี 2526-2528 USD และไม่เปลี่ยนแปลงมากเมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันเมื่อวานนี้ ใน 4 -hour H&S Model Chart กำลังถูกสร้างขึ้นที่จุดสูงสุดในปี 2005 USD และสองบทบาทที่ประมาณปี 1990 USD คาดว่าจะเป็นส่วนลดหากทองคำทำโมเดลเสร็จสิ้นและลดลงเป็นพื้นที่สนับสนุน $ 1965
usdcad 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เข้ากลุ่มไลน์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนะครับ 🤗👇👇
*********************
เนื้อหาข้างบน
***ไม่ได้มีเจตนาให้ซื้อขายตาม ****
เป็นแต่เพียงการให้ความรู้ และ แชร์มุมมองส่วนตัว ที่มีต่อโครงสร้างราคาทองคำ gold sport ในวันนี้
เเละ* ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือผลกำไรที่ได้จากการดูมุมมองของผม
เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการดูด้วยนะครับ☺️
Audusd 06 กรกฎาคม 2565 เข้ากลุ่มไลน์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนะครับ 🤗👇👇
*********************
เนื้อหาข้างบน
***ไม่ได้มีเจตนาให้ซื้อขายตาม ****
เป็นแต่เพียงการให้ความรู้ และ แชร์มุมมองส่วนตัว ที่มีต่อโครงสร้างราคาทองคำ gold sport ในวันนี้
เเละ* ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือผลกำไรที่ได้จากการดูมุมมองของผม
เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการดูด้วยนะครับ☺️
GOLD Basic Analyst Long TermGOLD Timeframe Day
อ้างอิงจากการเคลื่อนที่ของ DXY ดัชนีดอลลาร์สหรัฐใน D1 ปิดตัวเหนือแนวต้านได้ มีโอกาสขึ้นต่อ ซึ่งคาดว่าจะกดดันราคาทองคำในระยะยาว
แผนการเทรด แนวโน้มขาลง หาจุด SELL ในวันจันทร์
ระยะ SL คำนวณจาก ATR STOP LOSS จะอยู่ที่ 1950 (ประมาณ5300จุด)
ระยะ TP สามารถเก็บ RR ได้ตั้งแต่
1:1 5300 จุด
1:2 10600 จุด
1:3 15900 จุด
🎎GBPAUD 🎎 มิ.ย. 2565 เข้ากลุ่มไลนื ได้ที่ลิ้งข้างล่าง ฟรี
🎎GBPAUD 🎎
Supply RBD + Rissing wedge P.A.
SELL1.) 1.77472
2.) 1.77627
กรอบนี้
TAKE PROFIT :1.751
STOP LOSS :1.78746
✴️✴️✴️✴️✴️
*********************
เนื้อหาข้างบน
***ไม่ได้มีเจตนาให้ซื้อขายตาม ****
เป็นแต่เพียงการให้ความรู้ และ แชร์มุมมองส่วนตัว ที่มีต่อโครงสร้างราคาทองคำ gold sport ในวันนี้
เเละ* ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือผลกำไรที่ได้จากการดูมุมมองของผม
เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการดูด้วยนะครับ☺️