[แกะหุ้นเด้ง pt.1] หาจุดซื้อรันเทรน กับ Evolution หุ้น 100 เด้ง - วีดีโอนี้พูดถึง Technical จุดซื้อ/ขาย 75% และพูดเกริ่นถึงบริษัท 25%
- บริษัท Evolution AB เป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมใหม่อย่างอุตสาหกรรม pนันออนไลน์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตของกำไรมากกว่า 2 หลักมาโดยตลอด
- นอกจากการเติบโตของกำไรแล้ว ในขาของด้านการบริหารนั้นบริษัทก็สามารถบริหารจนได้อัตรากำไรในระดับที่ดีมากๆ โดยสะท้อนมาที่ตัวเลขการเงินอย่างอัตรากำไรสุทธิ ที่บริษัทสามารถทำได้มากกว่า 30-40% ซึ่งเป็นระดับที่น้อยบริษัทจะสามารถทำได้
- กำไรจากการเทรดที่ได้แต่ละรอบสั้นนั้น สามารถทำได้มากกว่า 2x%
แต่ว่าเวลาที่หุ้นลง บริษัทจะมี Downside จาก ATH มากกว่า 30% เลย ดังนั้นแล้ว ใครซื้อแบบ FOMO อาจต้องระวังจุดนี้
- Breakout รับมือได้ดีที่สุดกับบริษัทจำพวกที่กำไรโตตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรวางจุด Stoploss ให้ดีๆ เพราะว่าเวลาโดนคืนสามารถโดนคืนได้ในระดับ 3x% ได้ และหากเข้าช้าไปควรกำหนด Postition Size ที่เพียงพอต่อการถือทนด้วยครับ
-------------------------------
สำหรับเนื้อหาจะมี 2 พาร์ทด้วยกัน โดยพาร์ทนี้จะเน้นในเรื่อง Technical อย่างเดียวนะครับ จากนั้นอีกพาร์ทจะเป็นเรื่องของการเงินและธุรกิจล้วนๆ
และโพสนี้ผมแบ่งเป็น 3 ส่วน คือหลักการเลือกหุ้นลงทุน ตามมาด้วยจุดซื้อที่พอทำได้ และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหุ้นนี้/บริษัทนี้
---------------------------------
1. หลักการเลือกหุ้น
สำหรับระบบคัดเลือกหุ้นของบริษัทนี้ โดยหลักแล้วมาจากการเลือกบบริษัทที่มีกำไรเติบโตก่อนครับ โดยถ้ากำไรเติบโตเป็น 2 หลัก เหนือกว่าตัวเลข GDP สักราว 5 เท่า นายตลาดจะชอบบริษัทแบบนี้มาก
นอกจากกำไรเติบโตแล้ว การใช้ตัวกรองอย่าง PEG Raio มาช่วย จะทำให้เราเลือกหุ้นได้คมมากขึ้นครับ โดย PEG Ratio ที่ต่ำกว่า 1 จะเป็นตัวบอกว่าบริษัทนี้มีความน่าสนใจ
-------------------------------------
2. จุดซื้อหุ้นตัวนี้
สำหรับผมแล้ว ผมให้เรื่องของ Value Line ครับ โดยในกรณีนี้บริษัท Evolution ถูกเทรดอยู่ที่เส้นแดงมาโดยตลอดเลย หากเราตั้งสมมติฐานว่าซื้อหุ้นในจุดที่บริษัทมีราคาต่ำกว่าเส้น และนำมาขายบริเวณที่อยู่เหนือเส้น Value Line ก็นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
ต่อมาคือการเทรดเมื่อหุ้นวิ่งตัดขึ้นเส้นค่าเฉลี่ย 50 weeks หรือแม้แต่ 20 วัน เพื่อที่หลีกเลี่ยงอาการ FOMO หลังหุ้นตัวนั้นเด้งขึ้นอย่างร้อนแรง
และที่สำคัญคือบริษัทที่เป็นหุ้นเติบโต ในกรณีที่เขาเติบโตด้วยพื้นฐานอย่างแข็งแรง ส่วนมากราคาของบริษัทจะไม่มาเทรดที่จุดเดิมได้บ่อยๆ ครับ การที่เราซื้อขายหลังราคาตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวเพื่อรันเทรนด์อาจช่วยให้เราได้เปรียบมากขึ้น
และอย่างสุดท้าย การเทรดโดยใช้หน้าเทรด Breakout ในหุ้นเติลโต โดยเหตุผลหลักจะคล้ายๆ กับการเทรดตอนหุ้นตัดขึ้นเส้นค่าเฉลี่ย โดยหากบริษัทเติบโตไปแบบเรื่อยๆ อย่างบริษัท การ Breakout จึงเป็นหน้าเทรดที่สามารถปรับประยุกต์ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดแบบScalper ภายในวันอาศัยความผันผวนตอนช่วงประกาศผลประกอบการ หรือแม้แต่การซื้อเป็นไม้สุดท้ายหลังจากที่เรา MM ไม้ก่อนหน้านี้มาแล้ว
-------------------------------
3. สิ่งที่ได้จากหุ้นตัวนี้
บริษัทที่มีการเติบโตของกำไรอย่างสม่ำเสมอ และทำได้ดีกว่าที่ตลาดคาดมักเป็นหุ้นที่ไปได้ไกล(จากสมการ Price = PE * EPS) ไม่ว่าจะจากการปรับค่า PE ของตลาดหรือ EPS ที่เติบโตได้ด้วยตัวเอง
การเทรดโดยให้ราคาตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว เป็นจุดที่ปลอดภัยจากการไม่โดนสะบัดหรือเขย่าตอนซื้อแนวจุดสูงสุดใหม่
หุ้นเติบโตมักมีการ Pullback 3x% เป็นเรื่องปกติมาก ถ้าจะให้ดี อย่าซื้อตอน ATH เว้นแต่ว่าเราจะลงทุนแบบ Day Trade/Scalper แบบจบในวัน
ไอเดียชุมชน
THE MARKET STRUCTURETHE MARKET STRUCTURE (ขั้นพื้นฐาน เบื้องต้น) 📊 Sell Setup 📊 เป็นกรณีศึกษา Case Study Only
● ที่ต้องบอกว่าเบื้องต้น ก็เพราะว่าโครงสร้างตลาดนี้เป็นไปในแบบฉบับที่ผมปรับจูนนิดหน่อย อาจจะไม่เปะ ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100%
.
แต่คิดว่า สำหรับคนที่ต้องการศึกษาไว้ น่าจะเป็นไกด์นำทิศทาง ในการมองภาพรวมของตลาดได้
.
และทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการศึกษาพฤติกรรมพื้นฐาน ทั้งคลื่นและโครงสร้าง ให้แตกฉาน จนเกิดเป็น ปสก. และทักษะส่วนตัว ถึงขั้นชำนาญ แตกฉานแล้วเท่านั้น ถึงจะเข้าใจว่า โครงสร้างทั้งหมด ก็เป็นเพียงไกด์นำทางเท่านั้น เมื่อถึงจุดนั้นแล้ว นักเทรดจะเริ่มปรับประยุกต์ใช้ และยืดหยุ่นเทคนิค เป็นการปรับมุมมองตามอารมณ์ของตลาดในช่วงเวลานั้นๆ
.
เพื่อให้รู้จังหวะในช่วงเวลานั้นๆ ว่าจะหลีกเลี่ยง จะฟอลโล่ตาม หรือเข้าปะทะร่างกาย
.
จากแผนภาพ เป็นการวางแผน 2 ชั้น ในระดับ Supply Zone ทั้ง 2 โซนนะครับ การเทรดควรวางแผนมากกว่า 1 แผนเสมอและควรทำ Position Sizing คำนวณล็อตและ MM ทุกๆ แผนนะครับ
#อย่าได้จดจำหรือยึดติดกับคำย่อมากมายนัก
#เน้นศึกษาและนำส่วนจำเป็นมาใช้ก็พอ
#เป็นเพียงตัวอย่างแนวทางกรณีศึกษาเท่านั้น
#Elliottwave #BTCUSD #Bitcoin Bitcoin(BTCUSD)
BTCUSD Elliott Wave Technical Analysis
Function: Follow trend
Mode: Motive
Structure: Impulse
Position: Wave 1
Direction Next higher Degrees: Wave 1 of Motive
Details: Sub-wave 1 of wave 3 and Once complete, the price will drop again in wave 2.
Wave Cancel invalid level: 16017
Bitcoin(BTCUSD) Trading Strategy: The Bitcoin price recovery is still doing well, but it needs to be watched carefully as The price is rising to test the key resistance at the MA200, and the Wave oscillator also shows a slowdown. If the price does not pass the resistance test, the price is likely to correct again in wave 2 Sub-wave of wave (3).
Bitcoin(BTCUSD) Technical Indicators: The wave oscillator also shows a slowdown
Buying pressure is exerted and the price may correct again.
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 5/12/2022 by TraderTanTrading note: XAUUSD / GOLD
สัญญาทองคำถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในช่วงแรก และอัตราผล
ตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น ขานรับแนวโน้มที่เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ
ที่แข็งแกร่งเกินคาด
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพง
ขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
รัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำ
เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญตัวสุดท้าย
ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้
BUY : 1808
TP : 1826
SL : 1801
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาหลังจากจบข่าวนอนฟาม โดยขึ้นมายืน
เหนือแนวต้านที่ 1803 ส่งผลให้ขาขึ้นกลับมามีลุ้นในระยะยาวอีกครั้ง จึงทำการเข้า BUY โดยใช้กรอบเส้นเทรนไลน์และกรอบBB ป็นตัวกำหนดเป้าหมายกำไรและเข้าออกตาม
แนวรับแนวต้าน
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น อาจมีการย่อลงเล็กน้อยเพื่อขึ้นต่อ กำหนดจุดกำไร
และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจ
ปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับ
แนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็น
รอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่ง
ปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไร
ได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
US30 มีโอกาสขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีรายงานการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกายังคงมีการปรับตัวที่อาจจะมีการชะลอตัวในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอาจจะส่งผลทำให้ตลาดมีความผันผวนและดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับทิศทางของค่าเงินดอลล่าร์ที่ยังคงมีการปรับตัวอ่อนค่าลงซึ่งเป็นเครื่องที่ส่งผลสะท้อนให้เห็นถึงตลาดมีความกังวลถึงทิศทางของการชะลอตัวของสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐ
ซึ่งจากการรายงานการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐส่งผลทำให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการขยับตัวสูงขึ้นโดยในรอบวันมีการขยับตัวสูงขึ้นถึง +0.30% และอาจจะมีการขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่าแนวรับสำคัญจะอยู่ที่ 34,228 และ 34,007 ซึ่งทำให้สามารถทะลุลงแนวรับดังกล่าวได้อาจจะไปถึง 34,463 หรือ 34,785 หรือ 34,939 เป็นแนวรับถัดไปอย่างที่ควรจะเป็น
โดยความเสี่ยงที่สำคัญยังคงเป็นการประกาศตัวเลขสำคัญในสัปดาห์แรกก็คือการประกาศอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกา
[CASE STUDY หาหุ้นปันผล] กอง REIT กับผลตอบแทนไม่ธรรมดาสวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับสินทรัพย์การเงินชนิดหนึ่งนะครับ ที่สร้างผลตอบแทนได้จากทั้งเงินปันผลที่จ่ายอย่างสม่ำเสมอ และส่วนต่างราคาซึ่งราคาเหมือนกับหุ้น แต่ไม่ผันผวนมากเท่าหุ้นกันครับ
สินทรัพย์นี้คือกอง REIT นั่นเองครับ ซึ่งกอง REIT จะมี Business Model เป็นการรับค่าเช่าจากผู้เช่า และเอาค่าเช่านั้นมาจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างเราๆ นั่นเอง
โดยทั่วไปแล้วกอง REIT ส่วนมากจะเป็นกองของ "ห้างสรรพสินค้า" . "คลังสินค้า" , "โรงแรม" , "อาคารสำนักงาน"
ทั้งนี้เองเจ้าของจะเป็นคนที่ไปเก็บค่าเช่าจากคนที่มาใช้บริการครับ เช่นหากกอง REIT เป็นห้างสรรพสินค้า รายได้ก็ได้มาจากค่าเช่ารายเดือนของห้างร้านในนั้น
กอง REIT เองมี 2 แบบ คือแบบซื้อสิทธิ์ขายอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นของตัวเอง(Freehold) กับซื้อกรรมสิทธิ์ระยะยาว (Leasehold)
ในเคสนี้ผมจะพูดถึงเรื่องกอง Reit ที่สามารถเป็นหุ้นเด้งได้ยาวๆ และจ่ายเงินปันผลให้เราได้ตลอด นอกจากนี้ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงไปที่สินทรัพย์อื่นๆ ได้ด้วย
คุณสมบัติหลักๆ คือ
- กองนั้นต้องมีความสามารถในการดึงดูดผู้เช่าให้มาใช้บริการเขาได้ตลอด
- สามารถปรับค่าเช่าตามเงินเฟ้อได้
- ความสามารถที่โดดเด่นคือการ "ฆ่าเงินเฟ้อ" ได้ครับ จากการปรับค่าเช่า และมูลค่าที่ดินที่ปรับสูงขึ้นได้เสมอ
- หากกองเป็นแบบ Leasehold ความขยันของเจ้าของเป็นสิ่งสำคัญ หากกองมีการขาย Asset เข้ากอง Reit ตลอด การที่กองนั้นราคาจะขึ้นไปตามความคาดหวังของอนาคตก็มี สามารถทำกำไรแบบส่วนต่างราคาหรือ Capital Gain ได้ไม่ยากนัก
ข้อเสียที่ร้ายแรงของกอง REIT ก็มีครับ นั่นคือ
- สภาพคล่องของกองอาจจะมีน้อยมากจนอาจเข้าออกได้ยาก
- การที่ราคาไม่ไปไหนอาจมีความเสี่ยง หากราคาเปิด Gap ลงมาจนทำให้เราเสียเงินทางบัญชี
- เงินปันผลอาจไม่การันตีจ่ายได้ตลอดได้ จากการที่มีปัญหาเฉพาะที่ครับ เช่นกองนั้นอาจเกิดไฟไหม้ทำให้ไม่สามารถเก็บค่าเช่าได้ หรือแม้แต่ COVID ที่อาจทำให้ผู้เช่าไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้จากการต้อง Lock Down
ผมหวังว่าไอเดียนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการลงทุนได้ และได้ผลตอบแทนจากสินทรัพย์นี้ที่ดีนะครัย
กฏและแนวทางการนับคลื่น Zigzag(5-3-5)Zigzag(5-3-5)
ซิกแซกมี สาม รูปแบบได้แก่ Single Zigzag,Double Zigzag,Triple Zigzag
Single Zigzag คือการลดลงสามคลื่นที่มีลำดับคลื่นย่อยภายในเป็น 5-3-5 และคลื่น B ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A อย่างชัดเจน ในบางกรณี Zigzag อาจเกิดขึ้น สองครั้งหรือมากสุดสามครั้งติดต่อกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีนัยสำคัญ Zigzag แต่ละอันจะถูกคั่นกลางด้วยรูปแบบสามคลื่น(Corrective wave) ทำให้เกิด Double หรือ Triple Zigzag โดยที่ Zigzag มักจะเกิดขึ้นในคลื่นสองของ Motive wave มากกว่าคลื่นสี่ และอยู่ในคลื่นย่อยของสามเหลี่ยม และคลื่น X ในชุดคลื่นผสม
Rules
ซิกแซกแบ่งออกเป็นสามคลื่นเสมอ
คลื่น A แบ่งย่อยออกเป็น impulse หรือ leading diagonal.
คลื่น C แบ่งย่อย impulse หรือ ending diagonal.
คลื่น B แบ่งย่อยออกเป็น zigzag, flat, triangle หรือ combination เสมอ
คลื่น B ไม่เคยเคลื่อนที่เกินจุดเริ่มต้นของคลื่น A
Guidelines
คลื่น A แบ่งย่อยออกเป็น impulse.กือบทุกครั้ง
Wave C แบ่งย่อยเป็น impulse เสมอ
คลื่น C มักจะมีความยาวเท่ากับคลื่น A
คลื่น C มักจะสิ้นสุดเกินกว่าจุดสิ้นสุดของคลื่น A
คลื่น B มักจะย้อนกลับ 38 ถึง 79 เปอร์เซ็นต์ของคลื่น A
ถ้าคลื่น B เป็น running triangle โดยทั่วไปจะย้อนกลับระหว่าง 10 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของคลื่น A
หากคลื่น B เป็นคลื่นซิกแซก โดยทั่วไปจะถอยกลับ 50 ถึง 79 เปอร์เซ็นต์ของคลื่น A
หากคลื่น B เป็นรูปสามเหลี่ยม โดยทั่วไปจะย้อนกลับ 38 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของคลื่น A
เส้นที่เชื่อมปลายคลื่น A และ C มักจะขนานกับเส้นที่เชื่อมปลายคลื่น B กับจุดเริ่มต้นของคลื่น A (แนวทางคาดการณ์ คลื่น C มักจะสิ้นสุดเมื่อถึงเส้นที่ลากจากปลายคลื่น A นั่นคือ ขนานกับเส้นที่เชื่อมจุดเริ่มต้นของคลื่น A และจุดสิ้นสุดของคลื่น B)
GBPJPY วันที่ 23 Nov 2022 - Northanos FXGBPJPY วันที่ 23 Nov 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
XAUUSD : H4 [23.11.2022]วันนี้ตารางข่าวแน่นมากยาวไปถึงตี 2 FOMC Meeting Minutes
ราคาทองคำยังวิ่งอยู่ในกรอบช่วงราคาประมาณ 1745 - 1735 ประมาณ 10$ (1000จุด)
มุมมองส่วนตัวมองหากราคาไม่สามารถผ่านหรือยืนเหนือราคา 1750 ได้ และหลุดต่ำกว่า 1735 ราคามีโอกาสลง!ไปทดสอบ โซนราคา1730 - 10 ได้ และในอีกมุมหากยืนเหนือ 1750 ได้ ราคาก็มีโอกาสขึ้น!ไปทดสอบ โซนราคา 1760 -70 ได้เช่นกัน
วันนี้ต้องระวังข่าวในช่วงตลาดอเมริกา เพราะมีการประกาศหลายตัวเลขและเวลาใกล้เคียงกัน การเทรดมีความผิดพลาดได้เสมอ คุณจะรอดได้ เมื่อคุณมีจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจน อย่าง SL ไว้ด้วยนะคะ
หมายเหตุ : เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นมุมมองไม่ได้ชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด ตลาดมีความเสี่ยงสูงผู้ลงทุนควรศึกษาหาข้อมูลก่อนการลง และยอมรับความเสี่ยงให้ได้ก่อนลงทุน
EURUSD วันที่ 15 Nov 2022 - Northanos FXEURUSD วันที่ 15 Nov 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 12/11/2022แอบส่งกราฟ week ก่อนจบสัปดาห์
จะเห็นว่า Bollinger Band บีบแคบ และแท่งเทียนทะลุกรอบล่างของ BB ถ้าสุดสัปดาห์คือพรุ่งนี้ ราคาดึงกลับไม่ได้ ถ้ามองในแง่ร้าย เจอแท่งแดงใหญ่ ๆ แบบนี้ ราคามีโอกาสไหลต่อ
เพราะถ้าดูตอนนี้ แท่งเทียน กราฟ week ยังลงมาไม่สุดเลย ยังมีแนวรับ fibo 0.786 รอรับอยู่ หรือ ที่ระดับราคาราว ๆ 12000 - 12500
แต่ถ้าเลวร้ายแบบสุด ๆ ก็ลงไปทดสอบแนวรับที่ 5000-6000 ขออย่าให้ถึงขนาดนั้นเลย
ถ้าวัดจาก all time high ตอนนี้ bitcoin ลงมาแล้ว -75% จากสถิติ (ที่ฟังๆเขามา) มันมักจะล่วงลงไปถึง -80% ถึง -90% แล้วค่อยตั้งต้นน้ำหนึ่งใหม่
ที่บอกกันไว้ ไม่ใช่ให้กลัว แต่ให้เตรียมแผน A แผน B ไว้รับมือ ถ้าเล่น future ก็ต้องมองหาทางป้องกัน port ระเบิด
มาดูสัญญาณทางเทคนิคกันบ้าง
MACD ยังคงต่ำกว่า 0 ยั่งห่างจาก 0 อยู่มากด้วย ตอนนี้ histogram เรื่มเปลี่ยนสี ถ้า พรุ่งนี้วันสุดท้ายของสับดาห์ ยังดึงราคากลับไม่ได้ เราก็ได้ลุ้นกันอีก
RSI ตีแนวต้านใหม่ พบว่า ไปชนแนวต้าน แล้วไม่ผ่าน ดีไม่ดีทำท่าจะหลุดแนวรับลงมา ตอนนี้ปลายชี้ เข้า zone OS มีโอกาสเป็นไปได้ว่า แรงขายยังไม่หมด
STORSI ตัดกันลงอยู่ ขึ้นกับสุดสัปดาห์นี้ จะดึงราคาขึ้นไปทันรึป่าว
ตีกรอบ channel ใหม่ ราคาชนแนวต้านแล้ว ถูกตีกลับลงมาวิ่งไปหาแนวรับ แต่แนวรับจะสุดตรงไหน ก็ไม่มีใครฟันธงได้เป๊ะๆ ว่าจะลึกมาก หรือ ลึกน้อย
** สรุป **
- FTX ก็ประกาศล้มละลายแล้ว เหมือนแผ่นดินไหว มันจะจะมี after shock ตามมา คงต้องติดตามไปสักระยะ ว่าใครจะโดนประทบและค่อย ๆ เผยตัวออกมาอีก เหมือนตอน UST LUNA ล่ม
- ช่วง BB บีบตัว แล้วแท่งเทียนกลับ break กรอบ จะเป็นช่วงที่กระชากใจ เพราะราคากระชากแรง ถ้ากระชากขึ้นก็ดีไป แต่ถ้ากระชากลงนี่สิ ต้องเตรียมรับแรงปะทะ
- เตรียมแผนสำรอง A B C D กันไว้ด้วยนะครับ ตลาดคริปโต เปลี่ยนแปลงไว อ่อนไหวข่าว แพ้เจ้ามือ ส่วนเรา ต้องถือให้นาน ติดตามข่าว เฝ้าเจ้ามือ
++ ขอให้อยุ่รอดปลอดภัย กันทุกคนนะครับ ++
[แกะหุ้นเด้ง pt.2] เล่า BizModel+งบ กับ Rightmove หุ้น 40 เด้ง สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ผมอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับหุ้นเด้งตัวหนึ่งที่สามารถหาได้ตามตำราแบบฉบับของคุณ Peter Lynch เจ้าของหนังสือ One Up on Wallstreet ที่เราสามารถ ค้นหา-ถือ-ทำกำไรจากหุ้นบริษัทได้ ผ่านการหาสินค้าและบริการรอบตัวที่มีแบรนด์เป็นที่นิยม เป็นที่รักต่อผู้คน
.
โดยในวันนี้ผมอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับบริษัทนายหน้าขายสำหรับขายบ้านบริษัทหนึ่ง ซึ่งมี Market Share ในอุตสาหกรรมนายหน้าขายบ้านสำหรับในเครือจักรภพอังกฤษมากกว่า 80% ตลอดกว่า 10 ปี ที่เข้าตลาดและยังคงเป็นเบอร์ 1 ในปัจจุบัน
.
บริษัทนั้นคือ “Rightmove” ครับ
.
.
.
สิ่งทำให้ที่บริษัทอยู่ในสนามแข่งขันนี้ได้ยาวนานนับตั้งแต่ช่วงดอทคอม ผ่านวิกฤติอสังหา จนถึงปัจจุบัน เกิดมาจากการที่การสร้างความแตกต่างจากการเป็น Agency อสังหาริมทรัพย์ทั่วไปที่ต้องอาศัยทีมเซลล์จำนวนมาก
เปลี่ยนมาเป็น Marketplace ให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกันผ่านหน้าเว็ปเอง
.
ด้วยโมเดลธุรกิจนี้และชื่อเสียงของการเป็นผู้บุกเบิกเว็ปไซต์ครั้นหลังช่วงฟองสบู่ดอทคอม การเป็นผู้บุกเบิกนี้ได้สร้างระยะทางทิ้งห่างคู่แข่งหลายเท่าตัวด้วยขนาด Marketshare มากกว่า 80% ในตอนที่เข้าตลาด
และยังคงความสามารถระดับนี้มากกว่า 1 ทศวรรษ แม้จะครองตลาดได้ระดับนี้แต่ตลาดก็มีเนื้อเค้กที่ขยายขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการบ้านและราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
(คู่แข่งของบริษัทครอง Market Share ในระดับเลขเปอร์เซ็นหลักเดียว และบริษัทอื่นๆ ที่เป็นนายหน้าเหมือนกันเป็นบริษัทระดับเล็กมี Marketcap หลักสิบล้านปอนด์ ในขณะที่ Rightmove มีขนาดหลักหลายพันล้านปอนด์)
.
.
.
ด้วยความเป็นผู้นำและการไม่หยุดนิ่งนี้ทำให้ Rightmove มีกำไรที่เติบโตมาโดยตลอด และหากท่านใดเป็นนักลงทุนสาย Lynch แล้ว
จุดซื้อที่ตรงจุดตรงประเด็นตามตำราคือช่วงกลางปี 2012 จนถึงกลางปี 2013 โดยเป็นจุดที่บริษัทมี PEG Ratio อยู่ที่ 0.6x-0.8x เท่านั้น
(โดยตอนนั้น Rightmove ถูกซื้อขายอยู่ที่ราคา 170 ปอนด์ )
.
.
.
.
และการเติบโตของ Rightmove ในช่วงทศวรรษ 2010 อันเป็นช่วงไม่กี่ปีหลังบริษัทเข้าตลาดนี้ เป็นการสร้างการเติบโตอันห้าวหาญเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ซึ่งทั้งหลายนี้ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทไม่มากลับสู่จุดเดิมอีกต่อไป
.
โดยพัฒนาการนี้เกิดจากการที่บริษัทอยู่รอดมานานรวมถึงใช้แต้มต่อที่ตัวเองมีขยายไปในกิจการที่เกี่ยวเนื่อง
ทั้งการขยับขยายจากกิจการนายหน้าขายบ้านมาสู่ธุรกิจ “ให้การโฆษณาบ้านใหม่” โดยเป็นการเจาะตลาดผู้ที่ต้องการบ้านใหม่แทนบ้านมือสองที่มีอยู่แต่เดิม
การจัดสรรข้อมูลหลังบ้านให้แสดงบ้านแบบเรียลไทม์
การมี House Index เป็นของตัวเอง จากการมีข้อมูลหลังบ้านที่ทรงพลัง
การอาศัยโอกาสจากการมาของ Smart Phone ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสการให้บริการได้มากยิ่งขึ้น อันนำมาสู่การสร้าง Ecosystem ในวงการอสังหาริมทรัพย์ อย่างการเกิดนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่ารุ่นใหม่ (Home-Hunter) ที่เป็นอาชีพที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนให้แก่ระบบเศรษฐกิจอีกด้วย
.
กล่าวไม่ผิดว่า Rightmove จะเป็นบริษัทที่สร้างการเติบโตแก่ตัวบริษัทได้อย่างยั่งยืนทั้งด้านกำไร และด้านผู้มีส่วนได้เสียผู้ช่วยเกื้อกูลให้สภาพแวดล้อมด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งยุโรปดีมากยิ่งขึ้นไป
.
และเป็นหุ้นเด้งภายในหนึ่งปี และเป็นหุ่น 10 เด้งใน 10 ปี มอบผลตอบแทนแก่นักลงทุนผู้เสาะแสวงหาการลงทุนจากสิ่งรอบๆ ตัวอย่างแท้จริง
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 14/11/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
Bitcoin มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ถูกโอนออกจากกระดานเทรดในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการล้มละลายของ FTX
นักลงทุน Bitcoin กำลังทำการโอนเหรียญออกจากกระดานเทรดจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมานั้น มีการโอน Bitcoin ออกไปทั้งหมดคิดเป็นมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ บล็อกเชน Glassnode พบว่ามี Wallet ที่รับ Bitcoin จากกระดานเทรดมากถึง 90,000 Address เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน
ผู้ใช้งานกระดานเทรดเริ่มหันมาเก็บเหรียญด้วยตัวเอง
ท่ามกลางความวุ่ยวายอย่างต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับการล้มละลายของกระดานเทรด FTX ทำให้ผู้ใช้งานกระดานเทรดส่วนใหญ่เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเหรียญของตนเอง
🙏Cr. siamblockchain By Tharadon
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
18143.04 แนวต้าน
17080.85 แนวต้าน
16380.05 แนวรับ
15524.90 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI OverSold
เทรนหลักยังเป็นเทรนลง และราคาเริ่มที่มีแรงขายเข้ามา นั้นทำให้ราคามีโอกาสที่ปรับตัวลงไปทดสอบแนว 15524.90
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
ให้หาจังหวะในการเข้าขาย Sell 📉 บริเวณแนว 16380.05 เก็บกำไรระยะสั่นแนว 15524.90 ตั้ง Stoploss บริเวณแนว 17000.00
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
#Elliottwave กฎ และ แนวทางการนับคลื่น Diagonal Triangle Diagonal Triangle
Diagonal Triangle(สามเหลี่ยมมุมทแยง) จัดเป็นหนึ่งในรูปแบบคลื่น Motive wave แต่ไม่ใช่ Impulse wave เนื่องจากคลื่นลูกที่สี่ของ Diagonal มีจุดสิ้นสุดภายในคลื่นลูกที่หนึ่ง รูปแบบ Diagonal นั้นมีตำแหน่งการเกิดขึ้นของรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงมักจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเทรนของแนวโน้มใหญ่ และช่วงปลาย ของการสิ้นสุดของแนวโน้ม ทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้ในคลื่น A ของ Zigzag และ C ของ Corrective wave
Diagonal Triangle แบ่งได้ 2 ประเภทตามของตำแหน่งที่ ปรากฏ ของคลื่น ได้แก่ Leading Diagonal และ Ending Diagonal
Rules
diagonal แบ่งออกเป็นห้าคลื่นเสมอ
ending diagonal จะปรากฏเป็นคลื่น 5 ของแรงกระตุ้นหรือคลื่น C ของ zigzag หรือ flat.
leading diagonal จะปรากฏเป็นคลื่น 1 ของแรงกระตุ้นหรือคลื่น A ของซิกแซกเสมอ
คลื่น 1, 2, 3, 4 และ 5 ของ ending diagonal, และคลื่นที่ 2 และ 4 ของ leading diagonal, แบ่งออกเป็นซิกแซกเสมอ
คลื่น 2 ไม่เคยไปไกลกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น 1
คลื่น 3 มักจะไปไกลกว่าจุดสิ้นสุดของคลื่น 1
คลื่น 4 ไม่เคยเคลื่อนที่เกินจุดสิ้นสุดของคลื่น 2
คลื่น 4 จะสิ้นสุดภายในอาณาเขตราคาของคลื่น 1 เสมอ*
จาก เส้นที่เชื่อมปลายคลื่น 2 และ 4 จะบรรจบกันเข้าหา (ใน contracting ) หรือแยกจาก (ใน expandingจะขยายออก) เส้นที่เชื่อมต่อปลายคลื่นที่ 1 และ 3
ใน leading diagonal,คลื่น 5 จะสิ้นสุดหลังสิ้นสุดคลื่น 3 เสมอ
ใน contracting คลื่น 3 จะสั้นกว่าคลื่น 1 เสมอ คลื่น 4 สั้นกว่าคลื่น 2 เสมอ และคลื่น 5 สั้นกว่าคลื่น 3 เสมอ
ใน expanding คลื่น 3 มักจะยาวกว่าคลื่น 1 เสมอ คลื่น 4 มักจะยาวกว่าคลื่น 2 เสมอ และคลื่น 5 มักจะยาวกว่าคลื่น 3 เสมอ
ใน expanding คลื่น 5 จะสิ้นสุดหลังจากสิ้นสุดคลื่น 3 เสมอ
Guidelines
คลื่นที่ 2 และ 4 แต่ละคลื่นมักจะย้อนกลับ .618 ถึง .786 ของคลื่นก่อนหน้า
คลื่นที่ 1, 3 และ 5 ของ leading diagonal มักจะแบ่งออกเป็นซิกแซก แต่บางครั้งก็ดูเหมือนจะเป็น impulses.
ภายใน impulse ถ้าคลื่น 1 เป็น diagonal คลื่น 3 มีแนวโน้มที่จะขยายออกไป
ภายใน impulse คลื่น 5 ไม่น่าจะเป็น diagonal หากคลื่น 3ไม่ขยาย
ใน contracting คลื่น 5 มักจะสิ้นสุดหลังจุดสิ้นสุดคลื่น 3 (บ้างครังอาจเกิดความล้มเหลวในการทำเช่นนั้นเรียกว่า truncation )
ใน contracting คลื่น 5 มักจะสิ้นสุดที่หรือเกินเส้นที่เชื่อมปลายคลื่นที่ 1 และ 3 เล็กน้อย (การสิ้นสุดเหนือเส้นนั้นเรียกว่าการ throw-over)
ใน expanding คลื่น 5 มักจะจบลงเล็กน้อยก่อนถึงเส้นที่เชื่อมปลายคลื่นที่ 1 และ 3
[แกะหุ้นเด้ง]ดู COSTCO หุ้น 100 เด้ง ผ่าน BizModel และกราฟ pt.2
- ธุรกิจ Costco เป็นห้างขายส่งคล้ายๆ Makro ของเรา แต่มีสินค้าไซส์ยัก และอาหารราคาถูก
- กำไรแบบ Recurring Income ของบริษัทผ่าน Membership Fees เป็น Keyman ในการที่ทำให้บริาัทเติบโตไปพร้อมกับยอดขาย
- การที่ราคาหุ้นขึ้นเกิดจากหลัก Twin Engine คือ PE ขยายตัวจากความคาดหวังดีจากตลาด และ กำไรสุทธิที่เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
- ราคาหุ้นจะมีค่าเป็นเท่าไรเกิดจากสมการ Price = PE * EPS
(Twin Engine คือหลักการที่ PE ขยายตัว และ EPS เติบโตนั่นเอง)
- ปัจจุบัน Costco มีรายได้จาก Membership ที่ราวๆ 4 billions เทียบเท่ากับหุ้นที่ราคา 9 เหรียญ หากเราถือหุ้นที่ราคา 9 เหรียญจากเมื่อ 30 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ได้ ก็นับว่าคุณได้สินทรัพย์ที่เติบโตไม่ต่ำกว่า 9% มาครองเลย
=================================
ถ้านึกถึงห้างขายส่งบ้านเราต้อง MAKRO แต่ถ้านึกถึงห้างขายส่งระดับโลก COSTCO คือบริษัทที่เป็นเบอร์ 1 ด้านนี้เลยครับ
COSTCO เป็นห้างค้าส่งสัญชาติสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1986 และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นมานานกว่าครึ่งชีวิตของคนหนึ่งคนเลย
และมักถูกพูดถึงบ่อยๆ ในหนังสือการลงทุนหลายเล่ม เพราะนี่คือหนึ่งในหุ้นที่มีธุรกิจใช้ได้ ผลกำไรเติบโต ราคาหุ้นจึงสะท้อนมูลค่าที่ซ่อนอยู่นี้ด้วยราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนอื่น ผมขออธิบายก่อนนะครับ ว่า Costco นอกจากธุรกิจจะเป็นธุรกิจห้างค้าหลีกแล้ว รายได้อีกส่วนที่เป็นตัวช่วย Costco มาหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้บริษัทยังอยู่ยั่งยืนได้ นั่นคือรายได้จาก membership fee ครับ
โดยบัตร Member นี้เอง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสินค้าภายในห้าง ส่วนรถปั๊ม ประกัน ตั๋วเครื่องบิน เสื้อถ้า รถยนต์ อาหารและยา และอื่นๆๆ อีกมากที่อาจกล่าวไม่ถึง
ตรงส่วนนี้เราอาจพิจารณาได้ว่าบัตรเมมเบอร์ของ Costco นั้นมี Networking Effect ที่แข็งแกร่งมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสเกลการถ้าปลีกของเครือ Costco อยู่แล้ว ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าระดับประเทศ (ที่มีขนาดใหญ่ลำดับต้นๆ ของโลก) จนสามารถเจรจาของส่วนลดเพื่อมาจุนเจือชาว Member ได้
โดยสัดส่วน Membership Fee นี้เปรียบได้กับกระแสเงินสดที่ทาง Costco ได้มาไม่ต่างจาก Subscription รายปีเลยครับ โดยแต่ละปี Costco เองมีรายได้จากตรงนี้เติบโตกว่า 9% CAGR ต่อเนื่องกันกว่า 30 ปี
=====================================================
เทียบตั้งแต่ปี 1993
CostCo มี Membership Revenue อยู่ที่ 309 ล้านเหรียญ
และปี 2022 ล่าสุดมีรายได้ส่วนนี้กว่า 4,224 ล้านเหรียญทีเดียว]
โดยปัจจุบัน ณ ราคา 502 เหรียญนี้ Cosco มี Market Cap ที่ 222 Billion
หากท่านใดมีหุ้น Costco ที่ Market Cap 4 billions หรือที่ราคา 9 เหรียญ ท่านอาจได้กระแสเงินสดฟรีๆ จากมูลค่า รายได้ส่วนของ Membership เปล่าๆ (เป็นอีกหนึ่งมุมมองของการถือยาวครับ)
=====================================================
สิ่งที่ช่วยผลักดันให้ราคาของ Costco ไปได้ไกล ส่วนหนึ่งมาจากรายได้จากร้านค้าปลีกที่เติบโตตลอดเวลาตาม GDP ของประเทศนั้นๆ
และ Business Model ของ Costco เองก็เป็นธุรกิจกิน Spread Margin แคบๆ จากการซื้อมาขายไป และเพิ่มลูกลเ่นให้กับสินค้าตัวเองผ่านการออกแบบ "ผลิตภัณฑ์ไซส์ยักษ์" ที่นอกจากประหยัดแล้วยังน่าตื่นตาตื่นใจด้วย
ยังไม่นับว่า Costco เองมีเชนร้านอาหารราคาย่อมเยาว์ถึงขนาดที่ชักจูงให้คนมาทานอาหารในราคาไม่กี่เหรียญ และไม่ขึ้นราคามากว่าทศวรรษอีกด้วย
ทั้งนี้แล้วการที่สร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้บริโภคลูกค้านั้นทำให้มีผู้สมัครสมาชิกกับ Costco เพิ่มขึ้นตลอดทุกๆ ที โดยอัตราส่วนของรายได้จาก Membership Fees ต่อด้วย Operating Income นั้นสูงกว่า 50% ทีเดียวครับ กล่าวคือลำพังแค่รายได้จากค่าสมาชิกก็ทำให้ประเมินกำไรคร่าวๆ ของ Costco ได้แล้ว....และนี่แหละที่ทำให้นายตลาดชอบใจอย่างมาก
โดยคุณสมบัติจากการประเมินกำไรขาดทุนได้ง่ายแล้ว การที่บริษัทมีการบริหารงานจนทำให้นะดับ Net Margin ดีได้ยิ่งขึ้นๆ พร้อมด้วยการบริหารโดยมี ROIC ในระดับ 1x% ยิ่งขึ้นไป จะทำให้นายตลาด "มอบตัวคูณ" ให้บริษัทนี้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
โดยราคาหุ้นเองถูกผลักดันด้วย 2 ปัจจัย นั่นคือ Price = PE * EPS
หากบริษัทบริหารจัดการได้ดี ธุรกิจดำเนินไดีดี ตัว EPS จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น
ส่วนตัว PE หากบริษัทนั้นมีโมเดลที่แข็งแกร่ง มี Moat ที่สมบูรณ์ รายได้เติบโต (กอปรกับการมีค่า Bond Yield ที่ต่ำ) บริษัทนั้นก็จะเทรดที่ค่า PE ที่สูงยิ่งขึ้น
หลักการนี้คือหลักการ Twin Engine ที่ทำให้หุ้นนั้นสามารถกลายเป็นหุ้นเด้งได้นั่นเองครับ
ซึ่ง CostCo เองนับว่าเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน โดยได้ลมส่งจากรายได้ที่โตขึ้นจากการขยายสาขาและ GDP ที่โต กับโมเดลธุรกิจที่ดึงดูดลูกค้าโดยเฉพาะ Membership ทำให้ Costco มีกำไรเติบโตตลอด
จากนั้นนายตลาดก็เริ่มเห็นแววในบริษัทนี้ เลยให้ PE หรือแม้กระทั่ง P/S ที่สูงมากยิ่งขึ้น ทำให้ตัวนี้เข้าหุ้นเด้งตามตำรา Twin Engine ในที่สุด
====================================================
หลักการหาจังหวะซื้อขาย หากใช้ Fundamental อาจใช้เส้น Asset Line ในการจับจังหวะเข้าซื้ได้ครับ แต่ต้องมั่นใจว่าหุ้นตัวนี้ตลาดชอบแน่ๆ พื้นฐานบริษัทไม่เปลี่ยน รายได้และกำไรมีโอกาสโตได้ อย่างน้อยก็เชิงอนุกรม
ต่อมาคือการซื้อโดยใช้ PE Forward ผ่านเส้น Value Line อันเป็นแนวรับแนวต้านทางพื้นฐาน หากราคามาลงสู่แนวรับนี้ และประกอบกับกราฟทำทรง VCP Cup with Handle พร้อมทั้งมี Risk to Reward ที่ท่ารับไหวก็อาจพิจารณาซื้อได้
ไม่สายเกินไป หากซื้อหุ้นนี้ที่ Market Cap 1xx,xxx Milliion เพราะว่าเขาอาจไปได้ไกลกว่านั้นได้
(พร้อมดูโมเมนตัมจากยอดขายและผลการดำเนินงาน รวมถึงดูกระแสจากผู้บริโภคด้วย ว่าบริษัทยังคงส่งมอบคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นดั่งเดิมไหม)
====================================================
สามารถอ่านไอเดียการลงทุนอื่นๆ ได้นะครับจากหน้า Profile ของผม
EURUSD วันที่ 26 Oct 2022 - Northanos FXEURUSD วันที่ 26 Oct 2022 รายละเอียดการวิเคราะห์สามารถดูได้ที่คลิปเลยนะครับ
ปล. นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น
ไม่ได้มีเจตนาเป็นการบอก Signal แต่อย่างใด ดังนั้นผมจะไม่มีการ
รับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับกำไรที่จะได้รับ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
📢วางแผนเทรด GBPUSD ด้วย Advance QM Demand Supply 27 ตุลาคม 2565GBPUSD ราคาใน TF Day ปัจจุบันเป็นเทรนขาขึ้น และเกิด pattern SNRC1 ให้เราเข้าเล่น BUY ได้
และมีการคาดการณ์ของราคาที่จจะเกิดขึ้นได้ 3 รูปแบบ เพื่อใช้ในกาารตัดสินในการเล่นครับ
*** SL ที่เหมาะสมคือโครงสร้างชุด confirm
Trade Setup SNRC1 H4 มีปัจจัยทางเทคนิคดังนี้
1 Trend UP Day, H4
2 Demand Zone
3 TB
4 Fibo Retracement 50-61.8
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
$$$ = Liquidity
TB = Throw Back
PB = Pull Back
CHoCH = Change of Character
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 26/10/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (25 ต.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผย
ข้อมูลที่อ่อนแอ
ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 13% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอ
ตัวลงจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 15.6% โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตรา
ดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ
ร่วงลงสู่ระดับ 102.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. โดยได้รับ
ผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยว
กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
แนวรับ 1650
แนวรับ 1641
แนวรับ 1621
แนวรับ 1615
แนวต้าน 1660
แนวต้าน 1675
แนวต้าน 1684
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เป็นกลางในขาขึ้น
Trendline
จากกราฟ ราคาเริ่มทำสัญญาณการกลับตัวไต่ขึ้นเรื่อยๆ จากกรอบTF ใหญ่ซึ่งทำให้
ขาขึ้นกลับมามีลุ้นอีกครั้ง โดยเริ่มจะกลับขึ้นไปหากรอบไซด์เวย์บนเดิม แนะนำให้เล่น
ตามกรอบเส้นเทรนไลน์และกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยยึดกรอบไซด์เวย์เดิมเป็นหลักไปก่อน เน้นเก็บกำไรระยะสั้นๆ และให้รอสัญญาณการเลือกทางที่ชัดเจน เพื่อเข้าออกตาม
แนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1650 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1674 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1650 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1641 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
#Elliottwave #Triangle(3-3-3-3-3) #อีสานเทรดเดอร์การแก้ไขรูปแบบสามเหลี่ยม(Triangle) จะสะท้อนถึงความสมดุลของแรงทำให้เกิดการเคลื่อนที่ไปด้านข้าง โดยปกติ
จะเกี่ยวข้องกับการลดลงของปริมาณซื้อขายและความผันผวน รูปแบบสามเหลี่ยมประกอบด้วยคลื่นที่ทับซ้อนกัน 5 คลื่น
แบ่งย่อยเป็น 3-3-3-3-3 และติดป้ายกำกับด้วยตัวอักษร A-B-C-D-E สามเหลี่ยมถูกกำหนดโดยการลากเส้นเชื่อมต่อระหว่่าง
A และ C , B และ D โดยที่คลื่น E สามารถเกินเส้น A - C ได้ คลื่น C ไม่เกินจุดเริ่มต้นของ คลื่น A และ คลื่น E ไม่เกินจดเริ่มต้นของคลื่น B
สามเหลี่ยมมี 2 ประเภท คือ Contracting และ Expending แต่โดยส่วนใหญ่หากคลื่น B ยาวกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A และการย้อนกลับของคลื่น E จะอยู่ที่ปลายคลื่นคลื่นก่อนหน้าเราจะเรียกว่า Running Triangle
แม้ว่าบางครั้งคลื่นลูกที่ 2 ใน Impulse จะเป็น สามเหลี่ยม แต่ สามเหลี่ยมมักจะเกิดกับคลื่นลูกที่ 4 มากกว่า หรือ คลื่น B
ใน ABC หรือ คลื่่นสุดท้าย Y,Z ใน Combined หากคลื่นที่เกิดตามหลัง Triangle ยาวเกินกว่าเป้าหมายปกติให้ระวังการยืดเยื้อแะลยาวนานของคลื่นชุดนั้น
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 25/10/2022 by TraderTanXAUUSD / GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (24 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้น
ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3
แนวรับ 1641
แนวรับ 1621
แนวรับ 1615
แนวต้าน 1660
แนวต้าน 1675
แนวต้าน 1684
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เป็นกลางในขาขึ้น
Trendline
จากกราฟ ราคาเริ่มทำสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากกรอบTF ใหญ่ซึ่งทำให้ขาขึ้น
กลับมามีลุ้นอีกครั้ง โดยมีกรอบไซด์เวย์เริ่มขยายกว้างมากขึ้นจากกรอบราคาเดิม
แนะนำให้เล่นตามกรอบเส้นเทรนไลน์และกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยยึดกรอบไซด์เวย์
เดิมเป็นหลักไปก่อน เน้นเก็บกำไรระยะสั้นๆ และให้รอสัญญาณการเลือกทางที่ชัดเจน
เพื่อเข้าออกตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1641 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1660 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1641 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1621 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
US30 Analysis for 25-Oct-2022
FX:US30
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรเมื่อเทียบจากสัปดาห์ก่อน เพราะเมื่อราคา pull-back ลงไปสู่ HVN 31402.60 ปรากฏว่าเราเจอ stonger buyers กลับเข้ามา active เอาราคา breakout ออกจาก 3 day balance area ซึ่งเมื่อวานพอราคากลับลงมาเทส balance breakout area เราก็เห็น buyers กลับเข้ามา defense อีกครั้ง
เพราะฉะนั้น short-term bias = Neutral-Bullish และ Weekly ตอนนี้กลายเป็น One time framing up แล้ว
ตราบใดที่ราคายัง hold อยู่เหนือ balance breakout area (Initial Support) = buyers control market มีโอกาสสูงที่ราคาจะ expand ขึ้นไปได้อีก โดย Resistance Zone ด่านสำคัญรออยู่ที่ 32621.47-32701.88 ส่วนจะขึ้นไปถึงที่นั่นได้หรือคงต้องมีวันต่อวัน
แต่ขณะที่ตราบใดที่ราคา hold อยู่เหนือ Initial Support การ short มีความเสี่ยงมากกว่าการเทรด long side
📹 กดดู Video 👇 ที่ Logo Youtube ด้านล่าง จะทำให้เข้าใจ Market Context ได้ดีขึ้นครับ
Short-term: NEUTRAL-BULLISH ▲
Ends: 30879.45
WEEKLY: ONE TIME FRAMING UP ▲
Ends: 30879.45
[แกะหุ้นเด้ง]ดู COSTCO หุ้น 100 เด้ง ผ่าน CANSLIM และ VCP pt.1แก่นแท้จากหุ้นเด้งตัวนี้
-การย่อระดับ 1x% เป็นเรื่องที่ธรรมชาติมากๆ นับเป็นเรื่องที่ปกติ
การย่อลงมาแบบหลักๆ อยู่ที่ราว 3x%
-จุดซื้อที่ทรงประสิทธิภาพจะมาจากจุดที่แข็งกว่าตลาด
หรือ Relative Strength มากกว่า 0
-การย่อลงต่อละครั้งหากไม่หลุดราคาเฉลี่ยนับว่าสามารถรันเทรนด์ต่อได้
-การที่ราคาหุ้นตกหนักๆ โดยหลัก มี 3 ปัจจัย (ซึ่งการตกนี้ไม่ต่ำกว่า 50%)
1. การลงจากเศรษฐกิจเอง เช่น COVID-19 , Subprime
2. การลงจากอุตสาหกรรม เช่น รอบสินค้าโภคภัณฑ์ , การออกกฎบัตรบางอย่างจากภาครัฐที่ทำให้ราคาไม่ไปไหน
3. การลงจากตัวบริษัทเอง เช่น ความสามารถในการแข่งขัน ปราการและคูคลองเริ่มเสื่อมสลาย (แบบนี้อันตรายที่สุด)
.
-การลงจากตัวเศรษฐกิจ หากบริษัทแข็งแกร่งจากการมีปราการและคูคลองแข็งแกร่ง ตลาดย่อมรับรู้ อย่างน้อยก็จากผลประกอบการที่หากไม่ลดลง และรายงานจากฝ่ายบริหารแจ้งออกมาไม่มีรอยฟกช้ำจากเศรษฐกิจ นายตลาดก็ตอบรับอย่างสดใส
-การลงจากอุตสาหกรรม ราคาหุ้นอาจจะไม่ขึ้นมาในทันที อาจต้องให้เวลากับเขา ในการปรับทัพรวมพลสู้ศึก ในเชิงรูปธรรม อาจขยายตลาดไปที่อื่น, คุยกับ Supplier เพื่อปรับราคาให้มี Margin ที่ดีขึ้น และคงคุณภาพสินค้า
หรือในกรณีที่สดใสที่สุด คือรอเมฆหมอกแห่งความโชคร้ายให้ผ่านไปเลย
-การลงจากตัวบริษัทเอง ยากที่สุดในการพิจารณา ต้องติดตามกระบวนการบริหารบริษัทอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูคุณภาพในสินค้าและบริการ
แก่นแท้คือดูว่า Core Value ที่เขมอบให้แก่ลูกค้าและสังคม
กับการทำกำไร ยังพอไปทางเดียวกันได้ไหม
-สิ่งที่ต้องการสื่อคือหุ้นหลายเด้งมักมีการลงแรงๆ เสมอ ไม่ว่าจากตัวเขาเอง ตัวอุตสาหกรรม หรือจากเศรษฐกิจ แก่นแท้คือการถือให้ยาวและมองให้ขาดว่าบริษัทจะผ่านไปได้ไหม เป็นสำคัญ
-การฟอร์มตัวแบบ Cup with Handle จากที่ดูมักใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 bars week หรือราว 200 วัน ก่อนพุ่งขึ้นไป
การรันเทรนด์เพื่อให้ได้กำไรเด้ง อาจต้องอาศัยเวลา
เราควรมีหลังบ้านที่แข็งแกร่ง มีรายได้หลายทางเพียงพอที่จะคลายกังวลกับการลงทุนในบริษัทนี้ได้
เราอาจใช้อรรถประโยชน์จาก Stock Option ช่วยได้ หากหุ้นนั้นมีบริการ Short Call หรือ Short Put เพื่อหากระแสเงินสดจากช่วง Sideway หากินกับ Volatile
(อาจจะซับซ้อน แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้นะครับ)
-จุดกลับตัวของกราฟ บางทีอาจใช้รูปแบบแท่งเทียนพิจารณาได้
เช่นรูปแบบ Hammer ที่ทำหางยาวมาก เสมือนการปฏิเสธการลงของราคา
-จุดกลับตัวอาจใช้ Relative Strength ช่วยได้
หากราคาหุ้นแข็งกว่าตลาด เราอาจเริ่มกลับมามองหุ้นนี้ได้ครับ
@Kunnaphatz รูปแบบ Flat ประเภทต่างๆFlat = 3-3-5
1. Normal B มี 3 ประเภท คือ
1.1 Common Flat
1.2 Elongated Flat
1.3 C-Failure Flat
.
2. Strong B มี 3 ประเภทคือ
2.1 Irregular Flat
2.2 Irregular Failure Flat
2.3 Running Flat
.
3. Weak B มี 3 ประเภท คือ
3.1 B-Failure C=A
3.2 B-Failure C>A
3.3 Double Failure