EURUSD Daily Analysis 1/11/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
นายนิฮัด อัล-ชาวิช หัวหน้าคณะกรรมการฝ่ายบริการของสำนักงานบรรเทาทุกข์และการทำงานของสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลได้ทำการรื้อทำลายสำนักงานของ UNRWA ในค่ายนูร์ชามส์ทางตะวันออกของเมืองตูลคราม ทางเหนือของเขตเวสต์แบงก์
ทั้งนี้ ค่ายนูร์ชามส์ได้รวมถึงโรงเรียน 2 แห่งของ UNRWA ซึ่งให้การศึกษาแก่เด็กชาวปาเลสไตน์มากกว่า 1,500 คน
นายอัล-ชาวิชกล่าวว่า อิสราเอลได้ใช้รถบูลโดเซอร์ทำลายสำนักงานของ UNRWA ซึ่งตั้งอยู่ในตอนกลางของค่ายนูร์ชามส์
การทำลายสำนักงานของ UNRWA มีขึ้น หลังจากที่รัฐสภาอิสราเอลออกกฎหมายแบนการดำเนินงานของ UNRWA ในเยรูซาเลมตะวันออก, กาซา และเขตเวสต์แบงก์ภายในเวลา 90 วัน
BUY : 1. 08795
TP : 1. 09258
SL : 1. 08430
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคาราคายังคงไต่ขึ้นเรื่อๆ ตามกรอบเส้นเทรนไลน์ขาขึ้น โดยลำดับต่อไปอาจเป็นการขึ้นไปททดสอบเส้น EMA200 จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวขึ้นจากแท่งเทียน และการไต่ขึ้นตามสเต๊ปไต่เส้น EMA20 เพื่อไปหาเส้นแนวต้าน โดยราคาอาจขึ้นไปทดสอบเส้น EMA200 และ EMA100 ตามลำดับ โดยตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ไอเดียชุมชน
Adaptive ไอเดียเทรด สู่ Indicator Very easy Simple.จากการ Adaptive ไอเดียรูปแบบเทรดต่างๆแบบง่ายๆที่ผ่านมา สู่ Indicator Very easy Simple. ครับ
***ใช่แล้วครับอ่านไม่ผิด** Indicator Very easy Simple.
ตัวชี้วัดเรียบๆง่ายๆ ง่ายมากๆ เป็นไอเดียที่ปรับตัวได้ไปตามความคิดสร้างสรรไอเดียเทรดไม่มีที่สิ้นสุด
***คำแปลอย่าเท่ย์*** 55555
จากภาพโพสต์และภาพนี้
เราจะเห็นว่า Indicator ตัวชี้วัดทำงานได้สมบูรณ์ 1000% (ขออภัยครับนี่ไม่ใช่การอวดอ้างเพียงแต่ตื่นเต้นกับเครื่องมือเท่านั้นเอง 55555)
ไอเดียคือมาจาก Adaptive MA Lines ในตอนที่ผ่านมาครับต่อจากนี้เราจะวิเคราะห์เรียบๆง่ายๆแบบง่ายมากๆจากเครื่องมือเราครับเท่านั้นง่ายๆมาทำเป็นตัวชี้วัด
Adaptive technical analysis ได้ดังนี้
ราคาเคลื่อนตัวอยู่ด้านล่างเส้น base ตลอดได้อย่างต่อเนื่องราคาจึงมีความเป็นไปได้ที่จะลงมากกว่าการขึ้นจาก ณ.ปัจจุบัน ราคาเคลื่อนตัวอยู่ด้านบนเส้น base ตลอดได้อย่างต่อเนื่องราคาจึงมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นมากกว่าการลง (วิเคราะห์ง่ายๆแบบนี้แหละครับ55555)
เมื่อเอามาวิเคราะห์ร่วมกับ price pattern พื้นฐานเอง i.pinimg.com
ขอบคุณภาพจากคุณ r/Daytrading
เราก็จะมีเงื่อนไขในการประกอบการตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้นนั้นเอง
ณ.ปัจจุบัน ราคาเคลื่อนตัวอยู่ด้านบนเส้น base ตลอดได้อย่างต่อเนื่องราคาจึงมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นมากกว่าการลง
เทรนด์ทองคำ 28/10 - จับแนวต้านสำคัญสัปดาห์นี้ 2750ราคาทองคำแตะเป้าหมาย S-T ของเราที่ 2750 ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 2758 อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมขาขึ้นไม่สามารถคงอยู่ได้ และราคาไม่สามารถยืนเหนือ 2750 ได้ โดยกลับไปสู่ระดับต่ำสุดประจำสัปดาห์ที่ 2708 เข้าสู่จุดสิ้นสุด ประจำสัปดาห์ ตลาดทองคำได้กำหนดราคาอีกครั้งในรูปแบบพรีเมียมความเสี่ยงก่อนความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยดันราคากลับไปที่ 2,750 และปิดสัปดาห์ที่ 2,747
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐหลายคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ 'แนวทางการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง' ซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ในทางกลับกัน ตลาดกำลังต่อสู้กับการดำเนินการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นจากอิสราเอลต่ออิหร่านในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในที่สุดก็เป็นรูปธรรมในช่วงสุดสัปดาห์ การโจมตีดังกล่าวค่อนข้างจำกัด โดยมุ่งเน้นไปที่สถานที่ทางทหารในอิหร่านเท่านั้น และหลีกเลี่ยงโรงงานน้ำมันและนิวเคลียร์ จนถึงขณะนี้ เตหะรานยังไม่ได้ออกคำตอบในทันที เนื่องจากไม่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จึงผ่อนคลายลงเมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์ น้ำมัน NYMEX ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุด เปิด Gap ลดลง 4% และราคาทองคำก็เปิดลดลง 10 ดอลลาร์เช่นกัน
สัปดาห์นี้จะมีการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญๆ ของสหรัฐฯ บางส่วนตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์ ซึ่งรวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภค, GDP ไตรมาสสาม, อัตราเงินเฟ้อ PCE หลัก, การจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน สัปดาห์นี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนมากมาย แต่... เมื่อพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ที่เผยแพร่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างแข็งแกร่ง เราจึงสามารถคาดการณ์แรงกดดันขาลงของราคาทองคำได้ก่อนที่จะทราบผลลัพธ์ของตัวเลขเหล่านี้ ในขณะที่การเลือกตั้งสหรัฐฯ เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร มีความเป็นไปได้สูงที่ช่องว่างระหว่างผู้สมัครทั้งสองจะลดลงก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่เงินทุนที่ปลอดภัยที่ไหลเข้าสู่ตลาดทองคำเพื่อพยุงราคา โดยชดเชย แรงกดดันขาลงจากข้อมูลที่แข็งแกร่ง
กราฟ 1 ชั่วโมง (ด้านบน) > ราคาไม่สามารถยืนเหนือ 2,750 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้แนวโน้ม S-T ทะลุต่ำกว่าเส้นแนวรับขาขึ้น (1) โมเมนตัมขาขึ้นเริ่มชะลอตัวลง แนวรับได้เปลี่ยนจากแนวรับกลางสัปดาห์ (2) ไปเป็นก้าวที่ช้าลง (2.1) ก่อนสุดสัปดาห์ แนวต้านสำคัญขณะนี้อยู่ที่ระดับสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้วที่ 2750-2758 (4) หากข้อมูลสหรัฐฯ ขาดตลาดในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำอาจทะลุแนวต้านนี้ ทำให้เกิดความ
กราฟรายวัน > รูปแบบโดยรวมไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 2750 (5) และช่องขาขึ้น (6) ยังคงแข็งแกร่ง
หากคุณชอบไอเดียของเรา โปรดให้ 🚀 !
P.To
XAUUSD : ถ้ายังไซด์เวย์แบบนี้ ATH ก็ปลายปีเถอะจ้าXAUUSD หรือทองคำ หลังจากปรับตัวสูงขึ้นและทิ้งตัวลงตามบทวิเคราะห์ก่อนหน้า :
ราคาทองยังคงอยู่ในชุดปรับตัวของขาขึ้นในรอบใหญ่อยู่
มองว่าปัจจุบัน ราคาทองคำ กำลังทำแพทเทิร์น อยู่ในการปรับตัวคลื่น 4 ซึ่งมีความน่าจะเป็นดังนี้
Regular Flat, Expanded Flat , Triangle , Running flat/triangle
เงื่อนของ Correction แต่ละแบบมีดังนี้
1. Regular Flat คือ ราคาขึ้นไปถึงบริเวณ 78.6 แต่ไม่เกิน 100 ของ A และมีการ Rejection กลับลงมา จะมีเป้าการลงคือ New low ที่ต่ำกว่า A
2. Expanded Flat คือ ราคาขึ้นไปสูงกว่า 100% ของ A แต่ไม่เกิน 161.8 ของ A และมีการ Rejection กลับลงมา จะมีเป้าการลงคือ New low ที่ต่ำกว่า A
3. Triangle คือ ราคาจะไม่ขึ้นไปเกิน 100% ของ A และไม่ลงไปต่ำกว่า A โดยจะปรับตัวออกข้างในลักษณะ Converging
4. Running flat / triangle คือ ราคาขึ้นไปสูงกว่า 100% ของ A แต่ไม่เกิน 161.8 ของ A แต่เป้าการลงจะไม่ทำ New Low ที่ต่ำกว่า A และดีดตัวขึ้นทำ New high เลย
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำจะยังไม่ขึ้น All time high ในเร็วๆนี้ตามแง่ของเทคนิคที่มองว่าจะชะลอตัวลงก่อนที่จะขึ้นไปได้ หากเป็นตามนี้ ราคาจะมีการปรับตัวออกข้างสักระยะหนึ่งก่อนขึ้น ATH อีกครั้งในช่วงปลายปี
BTCUSD : Correction after DiagonalBTCUSD กำลังอยู่ในชุดขาขึ้นรอบใหม่แล้ว แต่ต้องระมัดระวังการชะลอตัว
จากช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การปรับตัวขึ้นของ BTC ไม่ได้ขึ้นอย่างหวือหวามากนักและมีแรงขายออกมาอยู่เนืองๆ
มองว่าปัจจุบัน BTC กำลังอยู่ในรูปแบบคลื่น 5 ของ Leading Diagonal
ระวังการชะลอตัวในเร็วๆนี้เนื่องจากสัญญานทางเทคนิค ดังนี้
1. ราคาชนเส้นเทรนด์ไลน์ขาลงในภาพใหญ่
2. ราคามีการชะลอตัวหลังจากชน FVG ใน TF H4
3. AO มีการทำ Divergence ให้เห็นตั้งแต่ TF ย่อยขึ้นมาจนถึง H4
หากเกิดการชะลอตัวจริงอาจจะลงไปถึงแนว Fibo 50 หรือ 78.6 ที่เป็นเป้าของ Diagonal ได้
note : กรอบราคาคือบริเวณที่มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนที่ของราคาเท่านั้น
linear regression แนวต้านที่บริเวณสูงสุด (LH) และยอดที่ 3 และ 5: กราฟอยู่ในช่วงที่ราคาเคยชนแนวต้านที่สูงสุด (LH) ในบริเวณนี้และเริ่มย่อตัวลงมา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีในการเปิดสถานะ Short โดยเฉพาะหากมีการทะลุกรอบลงต่อไป
RSI: ระดับ RSI ในหลายๆ timeframe ยังอยู่ในโซน Neutral (42-68%) ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดยังไม่ได้อยู่ในภาวะ Overbought หรือ Oversold อย่างชัดเจน จึงยังไม่มีสัญญาณยืนยันแน่ชัดในการกลับตัว แต่ควรติดตาม RSI ใน timeframe รายวันที่เริ่มอยู่สูงที่ 68% ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของ Overbought ได้เช่นกัน
BOS (Break of Structure) และ CHOCH (Change of Character): มีจุด Break ของโครงสร้างในทิศทางลงที่ BOS บ่งชี้ว่าตลาดอาจมีแรงขายเข้ามาเพิ่มเติม ขณะที่ CHOCH ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในบริเวณบางจุด ดังนั้นหากราคาไม่สามารถทะลุแนวรับที่ใกล้ๆ ได้ก็มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมากขึ้น
แนวโน้ม (Trend): หากเส้น Linear Regression ยังคงชี้ขึ้น จะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว แม้ว่าจะมีการย่อตัวระยะสั้น ซึ่งในกราฟปัจจุบันที่เห็น การเคลื่อนไหวของราคามีความผันผวนค่อนข้างมาก ดังนั้นหาก Linear Regression แสดงแนวโน้มขาลง คุณอาจพิจารณาเปิด Short เพิ่มเติมได้
จุดที่ราคายังอยู่เหนือหรือใต้เส้น:
ถ้าราคาเคลื่อนตัวอยู่ ต่ำกว่าเส้น Linear Regression เป็นสัญญาณว่าแนวโน้มอาจกำลังกลับตัวลง (Bearish) คุณอาจพิจารณาเปิดสถานะ Short ได้ตามแผน
ในทางตรงข้าม ถ้าราคาเคลื่อนตัวอยู่ เหนือเส้น Linear Regression ในช่วงนี้ อาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish) ทำให้การเปิดสถานะ Short อาจมีความเสี่ยง
การยืนยันเพิ่มเติม: หากมีการ ทะลุเส้น Linear Regression ลงไป พร้อมกับสัญญาณอื่นๆ อย่าง Break of Structure (BOS) หรือ RSI ที่เริ่มแสดงความเป็น Overbought ก็จะยิ่งช่วยยืนยันว่าราคามีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงต่อได้
วิเคราะห์ทิศทางราคาของ Bitcoin (BTCUSDT)
1. รูปแบบราคา (Price Action):
มีการทำ Higher Lows (HL) และ Lower Highs (LH) ซึ่งบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวในกรอบ (consolidation) หรืออาจจะเป็น sideway ได้
จุดสูงสุด (Highs) ที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุด (Lows) ที่ต่ำลงบางจุดบ่งชี้ว่าตลาดยังไม่ชัดเจนว่าจะเลือกฝั่งใด โดยการ Breakout ของเส้นแนวต้านหรือแนวรับสำคัญจะเป็นตัวชี้ขาด
2. RSI (Relative Strength Index):
RSI ในช่วง Timeframes ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน neutral zone ยกเว้นกราฟ 4 ชั่วโมง ที่ RSI อยู่ในโซน Overbought (73.50%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแรงซื้อมากเกินไปในช่วงเวลานี้ อาจมีการปรับฐาน (correction) ในระยะสั้นได้
RSI 1 วันและ 1 สัปดาห์ยังเป็น Neutral ซึ่งบ่งบอกว่าราคายังไม่ถึงระดับที่เป็นการซื้อหรือขายเกินไป
3. จุดสำคัญอื่น ๆ:
การเคลื่อนไหวผ่านเส้น BOS (Break of Structure) และ CHoCH (Change of Character) ในบางจุด บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางในบางช่วง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักเทรดในการจับทิศทางต่อไป
หากราคาสามารถ breakout ผ่านจุด LH (Lower High) ล่าสุด อาจเป็นสัญญาณของขาขึ้น
หากราคาหลุดระดับ HL (Higher Low) ที่มีการทำจุดต่ำสุดลง (LL) ราคามีแนวโน้มจะลงต่อได้
4. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
แนวต้านที่แข็งแรงอยู่ที่ประมาณ 66,000 USDT (ใกล้กับระดับ LH) หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ อาจส่งสัญญาณการขึ้นต่อ
แนวรับสำคัญอยู่ที่ 63,379.5 USDT หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับนี้ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
สรุป: ในระยะสั้น ราคามีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจาก RSI บางช่วงเวลาแสดงว่าอยู่ในภาวะซื้อเกินไป (Overbought) แต่ในระยะยาวหากราคาสามารถทะลุแนวต้านหลักและทำ Higher Highs ต่อเนื่องได้ อาจส่งสัญญาณขาขึ้น
ดูเหมือนว่าราคากำลังอยู่ในลักษณะของ Rising Wedge เนื่องจากมีการทำ Higher Lows ต่อเนื่อง แต่การเคลื่อนไหวของราคามีการบีบตัวเข้าแคบลง หากราคาทะลุลงจากแนวรับของ Wedge อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาลง
จุดที่น่าสนใจคือถ้าราคาหลุดออกจากแนวรับที่ระดับประมาณ 63,379 USDT (จากข้อมูลที่แสดง) อาจเป็นสัญญาณยืนยันของการปรับตัวลงตาม Rising Wedge Pattern นี้
สรุปเกี่ยวกับ Wedge Pattern: ในกราฟนี้ ดูเหมือนจะมีลักษณะของ Rising Wedge ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านได้และหลุดออกจากแนวรับ
Weekly Update Trend XAUUSD(Gold) by C.AugustAbout Trend
แนวโน้มทองคำแบ่งเป็น 2 ภาพคร่าวๆดังนี้
-ภาพ Secondary trend : มุมมองขาขึ้น(Up trend) จนกว่าราคาจะหลุด 2605.2
-ภาพ Minor trend : มุมมองขาขึ้น(Up trend) เช่นกัน มีจุดยกเลิกมุมมองที่ 2638.1
กลยุทธ์ คือ ย่อ Buy หรือ Follow Buy
__________
About Momentum
-สังเกตุจาก Momentum ด้านล่างจะเห็นได้ว่ามีการ Slope Up อยู่แต่ไม่แข็งแรงมากเพราะฉะนั้นเน้นไปที่การย่อ Buy ไม่ต้องรีบไล่ Follow
-จากรอบของ Williams %R จะเห็นได้ว่าในภาพ 1h นี่ราคาได้มีการลงไปและเกิด Oversold รอบล่าสุดที่จุดที่ผมวงกลมเอาไว้ช่วงโซนราคา 2638-2645 รอราคาปัจจุบันลงมา Oversold แล้วเกิดแท่งเทียนกลับตัวโดยไม่หลุดโซนล่าสุดก่อนหน้าก็สามารถเริ่มทยอยสะสม Buy ต่อไปได้เช่นกัน
-หรือสังเกตุจากแนวรับของ Bollinger Band ก็ได้รอ Buy ที่ Lower Band รอปิดแทงเทียนและราคาไม่หลุดค่อยหวดซึ่งตอนนี้อยู่แถวๆราคา 2670+-
__________
-สรุปกลยุทธ์ควบคู่กับ Momentum คือ รอย่อ Buy ที่โซนแนว Demand Zone หรือ Lower Band
__________
About Expected Price
โดยมีแนวราคาคาดหวังกรณีที่ราคาเลือกที่จะขึ้นต่อในสัปดาห์นี้สั้นๆที่ Range Volatile Week ตอนนี้ที่ 2696-2700 และระดับทั้งเดือนเลยที่ 2749-2750 เลยครับ
Eaw_Neowave อัพเดท xau TF Daily ประจำวันที่ 13 ตุลาคม 2567อัพเดทกราฟทองคำ รูปแบบ Large X-Wave Double Three Combination (Running) ชื่อเต็มว่า Complex Correction With Large X-Wave(s) ที่ชื่อ Large X-Wave หนังสือ mastering elliott wave บอกว่ารูปแบบนี้สับสนที่สุดและนับยากที่สุด เพราะคล้ายกับหลายๆรูปแบบทำให้นับผิดกันมากที่สุด รูปแบบนี้นีโอเวฟเอามาจากอีเลียต EWP ในคลาสลิกจะมีการใช้การลาเบลเป็น W, Y และ Z แต่ในนีโอเวฟไม่มี และใน EWP จะมีรูปแบบ zigzag เข้ามาในการสลับรูปแบบทั้งก่อนแและหลัง แต่ในนีโอเวฟไม่มีรูปแบบ zigzagเข้ามาเกี่ยวข้อง จะเห็นว่านีโอเวฟใช้หลักการเดิมแต่จะมีข้อแตกต่างบ้างเพียงเล็กน้อยรูปแบบนี้เป็น Correction (: 3 ) ดังนั้นจะเกิดในช่วง sideways เท่านั้น หากมีรูปแบบ correction สองชุดจะเรียกว่า double three แต่ถ้าสามชุดจะเรียกว่า triple three และถ้าชุดสุดท้ายเป็นสามเหลี่ยมก็จะเรียกว่า Combinations และจะต้องเป็น Contracting Triangle เท่านั้น !!!)
จากการวิเคราะห์ที่กล่าวมาคลื่นสี่อาจจะปรับฐานเป็นรูปแบบ Double Three Combination (Running)
ทำให้คลื่นที่ห้าอาจจะยังไม่จบรูปแบบก็เป็นได้ แต่ก็มีข้อขัดแย้งในหนังสือ mastering elliott wave ที่บอกว่า Large X-Wave รูปแบบนี้ควรเกิดแต่ในคลื่นสองเท่านั้น และบอกอีกว่าหลังจากจบรูปแบบแล้วเทรนจะตามมาจะต้องเป็นอิมพาวเวฟเท่านั้นจะต้องยาวมากกว่า 161.8% ของคลื่นก่อนหน้า และอาจจะยาวได้ถึง 261.8% ก็พบได้บ่อยๆ อันนี้ต้องรอหลังการเช็ครูปแบบจบแล้วถึงจะได้ข้อสรุปอีกที
XAUUSD Daily Analysis 15/10/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ ราคาทองคำ (XAUUSD) ยังคงมีความผันผวนและต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจากแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
กลยุทธ์ที่แนะนำสำหรับนักลงทุนในช่วงนี้คือการใช้การปรับพอร์ตเพื่อทำกำไรในจังหวะที่เหมาะสม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามแนวโน้มเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบได้จากแหล่งวิเคราะห์ราคาทองคำออนไลน์ต่าง ๆ เช่น InterGold
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 2643.83
✅ Tp: 2633.33 2624.20
❗ SL: 2658.48
เหตุผลในการเข้าเทรด:
หลังจากที่ราคามีการทดสอบ 2658.48
ก็เริ่มมีแรงขายเข้ามา นั้นทำให้ราคา มีโอกาสที่จะเทขายเข้ามา
ลงไปทดสอบโซน 2619.46 ลุ้นในการยก ฐานขึ้น
fibo : ย่อประมาณ 38-50
เป้ามหาย 60000 ลุ้นลงมาทดสอบโซน 64901.18
RSI: Overbought
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Eaw_Neowave อัพเดท xau ที่นับไว้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567นับคลื่นเป็น 1 2 3 4 5 อย่างไรไม่ให้กาว ไม่ใช่การยัดคลื่น เพราะความเชื่อที่ไม่มีหลักการมารองรับจะนำไปสู่หายนะและความสิ้นหวัง คลื่นในแนวโน้มหลักสีน้ำเงินขึ้นมาด้วยโครงสร้างทั้ง Mono wave+Poly wave (Complexity level-2) และในแนวโน้มรองสีส้มใน Segment ที่สามดูเหมือนจะยืดตัวขึ้น แต่ไม่ได้มี subdivide ที่แบ่งตัวออกเป็น 1 2 3 4 5 แต่มีเพียงสาม Segment เท่านั้น ซึ่งในตรรกะในหนังสือบอกว่า ในคลื่นที่ 1,3,5 ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคลื่นที่แบ่งคลื่นย่อย ซึ่งมักจะเป็นคลื่นที่ยืดตัวที่จะมีคลื่นย่อย เพราะการยืดตัวของคลื่นจำเป็นต้องมีคลื่นย่อยเพื่อให้คลื่นนั้นๆขยายตัวออกไป หากคลื่นย่อยไม่เกิดในคลื่นที่ยืดตัวคลื่นถัดไปก็จะต้องแบ่งคลื่นย่อยแทนเพราะว่าใน 1,3,5 ต้องมีคลื่นใดคลื่นหนึ่งที่จะต้องแบ่งย่อยได้ ในอิมพาวเวฟคลื่นที่ไม่ได้ยืดตัวจะไม่มี subdivide ก็ได้ ( Monowave Complexity Level -0)
ในคลื่น 2 หรือ 4 ในโครงสร้าง impulsive นั้น จะต้องสามารถแบ่งย่อยเป็น a-b-c ได้ในคลื่นใดคลื่นหนึ่ง
หรือ อาจทั้งสองคลื่น ก็ได้ Multiwaves ใน Corrective มีลักษณะคือ จะต้องมีอย่างน้อยใน wave-a
หรือ wave-c จะต้องแบ่ง subdivided ได้ wave-b ควรที่จะแบ่งเป็น คลื่นย่อย a-b-c ได้อีก ( Wave-b เป็น polywave ) คลื่น 2,4 จะเป็น correction Flat zigzag triangle คลื่น 2 หรือ 4 ที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด ควรจะเป็นคลื่นที่เกิดก่อน หรือ คลื่นยืดตัวทันที เช่น หากคลื่น 1 เป็นคลื่นยืดตัวคลื่น 2 ควรเป็นคลื่นที่ใช้เวลามากที่สุด แต่หากคลื่น 5 เป็นคลื่นยืดตัวแล้วคลื่น 4 ควรใช้เวลานานกว่าคลื่น 2 และหากเป็นคลื่น 3 ยืดตัว คลื่น 2 และ 4 มักใช้เวลาพอๆกัน ดูจากตรรกะที่กล่าวมาโครงสร้างในแนวโน้มหลักมีโอกาสเป็น impuluse wave ได้แต่หากเป็นตามนั้นจริงคลื่น 5 ก็น่าจะจบแล้ว
คาดการณ์ราคาน้ำมัน Brent: มีโอกาสปรับขึ้นราคาน้ำมัน Brent ทะลุผ่านระดับ 75.70 ซึ่งเป็นสัญญาณของรูปแบบ Double Bottom ที่มักบ่งบอกถึงการกลับตัวของราคา ถ้าราคาขึ้นเหนือ neckline ที่ทะลุผ่านไปแล้ว จะยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มจริง ๆ ดูเหมือนว่าน้ำมัน Brent อาจจะเด้งกลับไปที่ neckline จากนั้นปรับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คอยดูกันว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นไหมในเร็ว ๆ นี้
เป็นไปได้มั้ยที่ราคาทองจะร่วงหลังจากเลือกตั้งเสร็จสิ้นจากสถิติที่ผู้เขียนโชว์ให้เห็น เราจะเห็นได้ว่าหลายๆ ครั้งที่มีการเลือกตั้งเสร็จสิ้น
จะมีการย่อตัว หรือร่วงลงของราคาทอง สวนทางกับช่วงต้นปีก่อนการเลือกตั้ง
ทีนี้เรามาวิเคราะห์หาเหตุผลกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ส่วนตัวผู้เขียนมองว่า การใช้นโยบายต่างๆ ของภาครัฐ จำเป็นต้องใช้เงิน
เพื่อสนองนโยบาย ที่อาจจะเป็นประชานิยมมากขึ้น ในช่วงปีแรกๆ
และเงินที่ใช้ อาจจะมีโอกาสที่ภาครัฐและธนาคารกลาง ต้องยอมเสีย Reserve บางอย่าง
อย่างเช่น ทอง หรือสิ่งสำรองระหว่างประเทศ
ซึ่งผิดถูกอย่างไรถกเถียงกันได้ หรือเห็นด้วยไม่เห็นด้วย เสนอแนวคิดได้เลยครับ
ขอเพียงแต่ถกเถียงอย่างสุภาพกันนะครับ
แผนการเทรด XAU/USD (SMC Hybrid)HTF ( M15) เทรนหลักเป็นเทรนขาขึ้น
LTF ( M1 ) เทรนรองเป็นเทรนขาลง
เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อราคาลงมาถึง Demand Zone. จะมีการกลับตัวเลยหรือไม่
เราจึงต้องรอให้เกิดการ Choch และ Flip ทำลาย Suppply ใน LTF ล่าสุดไปให้ได้ก่อน
แล้วจึงหาจุดเข้า Buy ใน Demand Zone ที่สร้างใหม่ใน (LTF)
แต่ถ้าหากราคาลงมาและ ทำลาย Demand Zone ไปได้
เราก็จะ หาจุดเข้า Sell ใน Supply ที่สร้างใหม่กันต่อไปครับ
เทรดตามสิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่คิด
EURUSD กรอบเวลา H4 | สัญญาณกลับตัวเป็นขาลงวิเคราะห์ EURUSD กรอบเวลา H4 มีสัญญาณกลับตัวเป็นขาลง โดยราคากำลังเข้าใกล้ระดับ Pivot ที่ 1.1176 ซึ่งเป็นแนวต้านการดึงกลับและใกล้กับระดับ Fibonacci retracement 61.8% หากเกิดการกลับตัวที่จุดนี้ ราคาอาจลดลงไปยังแนวรับแรกที่ 1.1121 ใกล้ระดับ Fibonacci retracement 78.6% อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุระดับ Pivot ขึ้นไปได้ อาจปรับตัวขึ้นไปยังแนวต้านแรกที่ 1.1216 ซึ่งเป็นแนวต้านการแกว่งตัว
EUR/USD: ใกล้ถึงจุดเปลี่ยนในบริบทปัจจุบันของตลาด Forex คู่ EUR/USD กำลังแสดงสัญญาณของแนวโน้มที่ไม่ชัดเจน ทำให้เทรดเดอร์สร้างกลยุทธ์ได้ยาก ตามกราฟ 4 ชั่วโมง ทั้งคู่มีความผันผวนรอบๆ EMA 34 และ EMA 89 ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่ใจในตลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคา EUR/USD ซื้อขายอยู่ต่ำกว่า 34 EMA แต่อยู่เหนือ 89 EMA ซึ่งเป็นสัญญาณผสมที่อาจส่งสัญญาณการปรับฐานเล็กน้อยก่อนที่แนวโน้มขาขึ้นจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แนวรับที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.10500 ในขณะที่แนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ประมาณ 1.11800
จากมุมมองของการวิเคราะห์ทางเทคนิค หาก EUR/USD ทะลุระดับแนวต้านนี้ เราอาจเห็นโมเมนตัมขาขึ้นใหม่ก่อตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุระดับแนวรับ 1.10500 สิ่งนี้อาจเปิดแนวโน้มขาลงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับปริมาณการซื้อขายที่สูง ในกรณีนี้ เทรดเดอร์ควรติดตามสัญญาณตลาดอย่างใกล้ชิดและมีแผนปฏิบัติการที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุดและลดความเสี่ยง
EUR/USD: เตรียมพร้อมสำหรับเทรนด์ขาขึ้นใหม่ราคาซื้อขายใกล้เส้นกลางของ Bollinger Bands ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มที่ไม่ชัดเจนหรือระยะสมดุลชั่วคราว การกระจุกตัวของราคารอบๆ เส้นค่าเฉลี่ยนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดไม่มีแนวโน้มที่แข็งแกร่งในระยะสั้น
การขยายวงของ Bollinger Bands ชี้ให้เห็นถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดอาจกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวของราคาที่มากขึ้น
34 EMA และ 89 EMA อยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ให้การสนับสนุนและยืนยันว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังพัฒนา ความจริงที่ว่าราคาอยู่เหนือ EMA ทั้งสองนี้เป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับผู้ที่จับตาดูความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น
ในบริบทปัจจุบัน เสถียรภาพของราคาและแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อยบ่งชี้ว่า EUR/USD มีแนวโน้มที่จะยังคงพบโมเมนตัมเพื่อทดสอบระดับแนวต้านที่ระบุ นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรเตรียมพร้อมสำหรับอัพไซด์ที่แข็งแกร่งขึ้น หากราคาทะลุแนวต้านในปัจจุบันและรักษาโมเมนตัมขาขึ้นเหนือ EMA โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
17 กันยายน 2567 เมื่อ SET ปิดมากกว่าเท่ากับแนว 38.2% ที่ 1434.6917 กันยายน 2567 เมื่อ SET ปิดมากกว่าเท่ากับแนว 38.2% ที่ 1434.69 ในรอบปี 2566-2567 เราอ่านอย่างไร?
ตัวเลขฟีโบนัชชี เป็นตัวเลขอนุกรมหรือลำดับที่เรียงกัน และเรียงกันอย่างมีแบบแผน ค้นพบโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีนามว่า Leonardo Pisano หรือรู้จักกันกว้างขวางในนามว่า Fibonacci
Fibonacci Retracement คือ หนึ่งในประเภทของ Fibonacci Indicator ที่สามารถหาจุดพักตัวของราคา จุดกลับตัวของราคา จุดทำกำไร (Take Profit) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ถูกใช้ในการวิเคราะห์กราฟ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต ด้วยการระบุ Price Level ล่วงหน้า ยิ่งนักลงทุนที่ต้องใช้แนวรับและแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญในการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการกลับตัว (Breakout)
โดย Fibonacci จะเป็นการการใช้ Price Level อ้างอิงระดับราคาย้อนหลัง
ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีนักลงทุนจำนวนมากที่ใช้อัตราส่วนทองคำ ในการคำนวณแนวรับและแนวต้าน เพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน
ตัวอย่าง ตัวเลข Fibonacci
ตัวเลข Fibonacci ที่ได้มาคือ 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233…. ไม่มีสิ้นสุด
โดยมีรายละเอียดการคำนวณดังนี้
1, 1, 2 (เกิดจาก 1+1)
3 (เกิดจาก 2+1)
5 (เกิดจาก 2+3)
8 (เกิดจาก 3+5)
13 (เกิดจาก 5+8)
21 (เกิดจาก 8+13)
34 (เกิดจาก 13+21)
55 (เกิดจาก 21+34)
89 (เกิดจาก 34+55)
144 (เกิดจาก 55+89)
233 (เกิดจาก 89+144)
นอกจากนี้ ตัวเลข Fibonacci ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เพราะ เลข Fibonacci ตัวหลัง มีค่าออกมาใกล้เคียงกับ 0.618 เสมอ เช่น 144/233 = 0.618
ซึ่งผลลัพธ์จากคุณสมบัติข้างต้นของตัวเลข Fibonacci คือ 0.618, 1.618, 0.382 และ 2.618 ถือเป็นสัดส่วนธรรมชาติ และ 0.618 และ 1.618 คือ สัดส่วนที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด หรือที่เรียกกันว่า อัตราส่วนทองคำ
วิธีดูตัวเลข Fibonacci Level ที่ช่วยให้นักลงทุนพิจารณาสำหรับการลงทุน
0 = 0.0%
0.146 = 14.6%
0.236 = 23.6%
0.382 = 38.2%
0.5 = 50.0%
0.618 = 61.8%
0.786 = 78.6%
0.886 = 88.6%
1 = 100.0%
1.272 = 127.2%
1.618 = 161.8%
2.618 = 261.8%
4.236 = 423.6%
กลยุทธ์สำคัญของการพักราคา
และการใช้ เลข Fibonacci Retracement จะมีค่า Fibonacci ที่สำคัญอยู่ 3 โซน ได้แก่
โซนเริ่มต้นเปลี่ยนแนวโน้ม
ค่า Fibonacci คือ 14.6 = ราคาปิดเหนือแนวนี้
ค่า Fibonacci คือ 23.6 = แนวต่อไปในการเคลื่อนตัวต่อเนื่อง
โซนที่สองของโอกาสเปลี่ยนแนวโน้ม
กรณีขึ้นมาก่อนแล้วพักตัว ให้ไล่เรียง 61.8,50 และ 38.2 หากเป็นแนวโน้มลงมาก่อนให้ไล่เรียง 38.2,50 และ 61.8
ค่า Fibonacci คือ 61.8 = จุดพักตัวที่ 1 ราคามักจะมีการพักตัวบริเวณนี้
ค่า Fibonacci คือ 50.0 = จุดพักตัวที่ 2 ในกรณีที่ราคาหลัดจุดพักตัวที่ 1 ลงมาได้
ค่า Fibonacci คือ 38.2 = จุดพักตัวที่ 3 หากราคามีแนวโน้มที่แข็งแรงจะไม่สามารถลงมาถึงจุดที่ 3 ได้ แต่ถ้าหากสามารถลงมาถึงจุดนี้ได้ หมายความว่า ราคามีโอกาสกลับตัวสูง
ในทำนองเดียวกัน ในแนวโน้มลงมาก่อน เมื่อราคากลับขึ้นมาปิดเหนือแนว 38.2% ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันในตอนนี้ก็จะอ่านได้ว่ามีแนวโน้มเปลี่ยนทิศทางจากลงไปเป็นขึ้นได้ต่อเนื่อง
โซนที่สามของโอกาสเปลี่ยนแนวโน้ม
ค่า Fibonacci คือ 78.6 = ราคาปิดเหนือแนวนี้
ค่า Fibonacci คือ 88.6 = แนวต่อไปในการเคลื่อนตัวต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องมือ Fibonacci ในการวิเคราะห์ทิศทางของกราฟราคา โดยหลักการแนวรับ-แนวต้าน และ Golden Ratio ซึ่งประเภทของ Fibonacci ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นการวัดรอบการแกว่งตัวของราคาเพื่อหาจุดกลับตัวของรอบ ซึ่งสามารถใช้จับจังหวะในการซื้อขาย และยิ่งถ้าไปใช้ประกอบกับเครื่องมืออื่นอย่างเช่น การดู Elliott Wave, Harmonic Pattern และ TD SEQUENTIAL ก็จะยิ่งทวีความมีประสิทธิภาพในการลงทุนขึ้นไปอีกด้วยเช่นเดียวกัน
สุดท้ายแล้วผู้ลงทุนจะเลือกลงทุนแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้อง คิด วิเคราะห์ แล้วเตรียมรับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจ
2024 09 16 GOLD GOLD GOLD### วิเคราะห์:
1. **แนวโน้มตลาด (Trend Analysis):**
- จากกราฟเป็นขาขึ้นชัดเจน โดยราคาทองคำยังคงมีโมเมนตัมในการขึ้นต่อเนื่อง มีการทำ Higher High และ Higher Low
- ระดับราคาที่กราฟแสดงตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วงใกล้แนวต้านสำคัญที่ประมาณ **2,586 USD** ซึ่งเป็นโซนที่น่าจะมีการทดสอบการเบรคหรือกลับตัว
2. **แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):**
- แนวต้านแรกคือ **2,586 USD** หากราคาสามารถทะลุผ่านได้จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ **2,600 USD** และมากกว่านั้น
- แนวรับอยู่ที่ประมาณ **2,500 USD** ซึ่งเป็นระดับที่ควรเฝ้าดูหากราคาปรับตัวลง
3. **เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):**
- **MACD (Histogram):** ยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง แต่มีการอ่อนแรงลงบ้าง แสดงถึงโอกาสที่ราคาจะพักตัว
- **RSI (Relative Strength Index):** อยู่ในช่วงค่อนข้างสูง แต่ยังไม่ถึงระดับ Overbought (70) ดังนั้นยังมีพื้นที่ให้ราคาทองคำขึ้นต่อไปได้
### การวางแผนการเทรด:
1. **ถ้าคุณต้องการซื้อ Buy:**
- รอให้ราคาทะลุผ่านแนวต้านที่ **2,586 USD** อย่างชัดเจน แล้วค่อยเปิดสถานะ Buy โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ **2,600-2,620 USD**
- ตั้ง Stop Loss ใกล้ระดับ **2,550 USD** เพื่อจัดการความเสี่ยง
2. **ถ้าคุณต้องการขาย Sell:**
- หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ **2,586 USD** และเกิดการกลับตัวลง ให้เปิดสถานะ Sell
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับสำคัญที่ **2,500-2,520 USD**
- ตั้ง Stop Loss ไว้ที่เหนือระดับแนวต้าน **2,590 USD** เพื่อป้องกันความเสี่ยง
### สรุป:
ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ใกล้ทดสอบแนวต้านสำคัญ ควรระวังการพักตัวหรือลดลงในระยะสั้น ในกรณีที่ราคาทะลุแนวต้านได้ คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อ
Weekly Update Trend XAUUSD(Gold) by C.AugustAbout Trend
แนวโน้มทองคำหากแบ่งเป็น 2 ภาพคร่าวๆดังนี้
-ภาพ Secondary trend : มุมมองขาขึ้นแข็งแรง(Up trend) จนกว่าราคาจะหลุด 2485.1
-ภาพ Minor trend : มุมมองขาขึ้น(Up trend) เช่นกันจุดที่จะเลิกมองขึ้นคือ หากราคาหลุด 2500.1
กลยุทธ์ คือ รอย่อ Buy หรือ Follow Buy
__________
About Momentum
-สังเกตุจาก Momentum ด้านล่างจะเห็นได้ว่ามีการ Slope Down อยู่ในภาพ 1H เพราะฉะนั้นจึงไม่แนะนำให้ไล่ราคาแต่รอย่อก่อน โดยมีโซนที่น่าสนใจที่ Observation zone 2573-2563
__________
-สรุปกลยุทธ์ควบคู่กับ Momentum คือ รอราคาปรับตัวลงมาในObservation zone และทยอยสะสม Buy โดย ให้ลด Position Buy เมื่อราคาเบรค Lower Band ได้หรือ Mark Low ใหม่และมีการทำ Lower Low
__________
About Expected Price
โดยมีแนวราคาคาดหวังกรณีที่ราคาขึ้นต่อที่แนว Fibonacci Extension ชุดสะสมล่าสุด ที่ 2628 และมีแนวคาดหวังจาก Indicator Range Volatile Week High ของสัปดาห์ที่วิเคราะห์นี้ที่ 2631 ครับ
กรณีราคาเลือกที่จะลงนั้นจะมีแนวลงจาก Indicator Range Volatile Week Low ของสัปดาห์ที่วิเคราะห์นี้ที่ 2535.6 ครับ