Market Cycle รู้ไว้จะได้ไม่ดอยกับวัฏจักรตลาดMarket Cycle รู้ไว้จะได้ไม่ดอยกับวัฏจักรตลาด
👯👯👯 เพราะตลาดมีทั้งขึ้นและก็ลง มีใครเจ็บตัวจากการดิ่งลงของทองช่วงนี้มั้ย ยกมือขึ้น วันนี้แอดพาไปรู้จักกับกลไกวัฏจักรของตลาดการเงินกันครับ เผื่อว่าคนที่ดอยหรือล้างพอร์ตบ่อยๆจะได้ปลงและ มองเห็นความเป็นจริงที่มากขึ้น มาครับตามมาอ่านกันดีกว่า ว่ามันเป็นยังไง
เพราะตลาดมีทั้งขึ้นมีทั้งลง เคยสังเกตุไหม???? เพื่อนเราเทรดทอง เราเองก็เทรดทอง คนนึงบาย BUY คนนึงเซล SELL แต่เอ๊ะ ทำไมมันก็กำไรทั้งคู่นะ ไม่มีใครเทรดเสีย หรือบางทีก็เทรดเสียด้วยกันทั้งคู่ ทั้งคน BUY และคน SELL ตลาดเขาแรงจริงๆ ว่ามั้ย
Market Cycle จึงเป็นเหมือนเครื่องเตือนสติใจ ให้เราไม่วู่วามและเผชิญหน้ากับความจริงที่เป็นสิ่งไม่ตายนั่นเอง และเราก็ใช้สิ่งนี้แหละเป็นตัวตัดสินใจในการลงทุน และวางแผนการลงทุนได้อย่างมีระบบ
วัฎจักรตลาด (Market Cycle)
คือธรรมชาติของการซื้อขายบนความคาดหวัง เช่น บางคนคิดว่าราคาจะพุ่งขึ้นในตลาดขาขึ้นก็ซื้อหุ้นไว้ แต่พอเวลาผ่านไป ราคาขึ้นไปจนสุดแรง ก็อาจเกิดการรีบาว์นหรือกลับตัว เป็นตลาดขาลง ซึ่งเรามักใช้ปัจจัยอื่นๆประกอบในการวิเคราะห์เชิงเทคนิค และข่าวสารที่ส่งผลต่อหุ้นนั้นๆ
ทฤษฎีที่หลายคนนิยมใช้กันมีอยู่ 2 ทฤษฎี คือ
1. ทฤษฎีดาว (Dow Theory)
มีอยู่ด้วยกัน 4 ช่วงที่สำคัญคือ
- ช่วงเก็บของ (The accumulation phase)
เมื่อราคาหุ้นตกลงมากๆ ติดต่อกันนาน ๆ มูลค่าการซื้อ-ขาย จะน้อยลง จะเป็นช่วงรายใหญ่เก็บของในช่วงนี้และราคาจะไม่ขึ้นจนกว่าจะเก็บของเสร็จ
- ช่วงราคาพุ่งขึ้น/ผู้คนเริ่มรับรู้ตลาดขาขึ้น (Uptrend)
หุ้นในช่วงนี้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มสนใจ เพราะเห็นว่ามันมีแนวโน้มที่ชัดเจน ข่าวที่ส่งผลต่อราคาอาจยังออกมาไม่มากนัก
- ช่วงเลิกเล่น (The distribution phase)
ช่วงที่หุ้นขึ้นมาอย่างร้อนแรง จนนักลงทุนส่วนใหญ่กระโดดเข้าไปตาม แต่มักจะเป็นช่วงที่ตลาดขึ้นไปสุดแล้ว และเป็นจุดเริ่มต้นของขาลงในคลื่นลูกใหม่
- ช่วงราคาร่วงหนัก/ผู้คนเริ่มรับรู้ตลาดขาลง (Downtrend)
หุ้นในช่วงนี้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มตกใจและหดหู่จากตลาดร่วงอย่างหนัก เพราะเห็นว่ามันมีแนวโน้มที่ชัดเจนว่าราคาจะทำท่าลงต่อ
2. ทฤษฎี Wyckoff (Wyckoff Logic)
ทั้งสองทฤษฎีนี้มีความคล้ายคลึงกันอยู่ แต่แตกต่างกันตรงที่การแบ่งแยกช่วงต่างๆของวัฏจักร โดยหลักการ Wyckoff สามารถคาดการณ์ และ ดูทิศทางการเคลื่อนไหว ภายในกรอบซื้อขาย (Trading Range) และอาศัยความเป็นเหตุเป็นผลที่จับต้องได้ และเกิดซ้ำ ๆ จนเป็นวัฏจักรตลาด Wyckoff Logic มีทั้งหมด 4 ช่วงที่สำคัญคือ
- ระยะสะสม (Accumulation)
ในระยะสะสมจะมีการแบ่งช่วงย่อยเป็น Phase มีด้วยกัน 5 Phase หรือมองภาพให้ง่ายๆคือกรอบคลื่นย่อยๆค้ายคลื่นอีเลียตในกรอบย่อยนั่นเองเพื่อพักตัวและเลือกทางการไปต่ออีกครั้ง
- ระยะไล่ราคา (Mark Up / Uptrend)
ราคาจะมีทิศทางขาขึ้นค่อนข้างชัดเจน มีการไล่ราคากันอยู่เรื่อย ๆ สลับกับทยอยขายทำกำไร แต่เมื่อใดที่ราคาเคลื่อนไหว Sideway นาน ๆ หรือมีสัญญาณที่แนวโน้มขาขึ้นจะเปลี่ยนเป็นขาลง จุดนี้อาจเป็นจุดสูงสุดของขาขึ้น
- ระยะแจกจ่าย (Distribution)
ในระยะสะสมจะมีการแบ่งช่วงย่อยเป็น Phase มีด้วยกัน 5 Phase หรือมองภาพให้ง่ายๆคือกรอบคลื่นย่อยๆค้ายคลื่นอีเลียตในกรอบย่อยนั่นเอง แต่เป็นแบบกรอบพักตัวแล้วไต่ขึ้นหรือลงต่อ
- ระยะดิ่งเหว (Mark Down / Downtrend)
หลังจากผ่านช่วงแจกจ่ายไปแล้ว ตลาดก็เข้าสู่ขาลง ในช่วงนี้เราอาจจะเจอการเด้งกลับของราคาอยู่เป็นช่วงๆ หรือที่เรียกว่า “Rebound” ซึ่งในตลาดขาลงนี้ จะสามารถทำกำไรได้ในระยะสั้นๆ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากหากเข้าซื้อ-ขายออกช้าเกินไป และหลังจากที่ระยะนี้จบลง ก็จะเริ่มเข้าสู่ระยะสะสม วนเป็นวัฏจักรแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
👽👽👽 เป็นอย่างไรกันบ้างครับพอจะเริ่มเข้าใจกลไกวัฏจักรของตลาดการเงินกันบ้างแล้วมั้ยครับ แอดบอกเลยว่ามันดีจริงๆนะ ทำให้เราไม่เครียดและหาทางออกในการแก้ไม้ของเราได้ดีเลยเชียวหละ ลองเอาไปปรับใช้กันดูครับ แอดเชื่อว่าไม่มากก็น้อย กำไรแน่นอน อยู่ที่ว่าเราเลือกชอบแบบไหน และเทรดให้ได้กำไรที่สุด
แล้วอย่าลืม หมั่นฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน ยิ่งเราเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
ไอเดียชุมชน
XAUUSD: ท้าทาย EMA 89, โอกาสหรือความเสี่ยง?XAUUSD กำลังฟื้นตัวอย่างน่าทึ่ง โดยซื้อขายที่ระดับ 2,644 USD หลังจากทะลุกรอบขาลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางขึ้นของราคาทองคำกำลังเผชิญกับ "กำแพงเหล็ก" คือเส้น EMA 89 ที่ระดับ 2,657 USD ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญที่อาจลดแรงขาขึ้นในปัจจุบัน
กรณีเชิงบวก: หากราคาทะลุผ่านโซน 2,644-2,650 USD แรงซื้อที่แข็งแกร่งอาจผลักดัน XAUUSD ไปถึงระดับ 2,657 USD ซึ่งเป็นจุดที่นักเทรดหลายคนกำลังรอคอย
กรณีเชิงลบ: หากไม่สามารถทะลุได้ ราคาทองคำอาจย้อนกลับลงไปที่ระดับแนวรับสำคัญ 2,580 USD ซึ่งเป็นจุดชี้ขาดว่าทิศทางขาขึ้นยังคงมั่นคงหรือไม่
ปัจจุบัน "กระแสลม" จากตลาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อราคาทองคำ เนื่องจากข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าดอลลาร์สหรัฐสูญเสียข้อได้เปรียบบางส่วน อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ที่กำลังจะมาถึง ทุกสถานการณ์อาจเกิดขึ้นได้ นักลงทุนควรเตรียมพร้อมสำหรับความผันผวนที่ไม่คาดคิด
ย้ำเตือน ตลาดหุ้นไทยลงในกรอบ 1447.72-1429.46-1411.21 ตามลำดับย้ำเตือน ตลาดหุ้นไทยลงในกรอบ 1447.72-1429.46-1411.21 ตามลำดับ
หลักการของ **Joe DiNapoli** เกี่ยวกับการใช้งาน **Fibonacci Retracements** นั้นมีจุดเด่นในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและหาจุดกลับตัวของราคาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้งานเส้น **38.2%** และ **61.8%** ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สำคัญในกลยุทธ์ของเขา
### พื้นฐานของ Fibonacci Retracements
Fibonacci Retracements เป็นเครื่องมือที่นักวิเคราะห์ใช้ในการหาจุดที่ราคามีโอกาสจะเกิดการปรับฐานหรือลดลงในทิศทางตรงข้ามกับแนวโน้มเดิม โดยสัดส่วนยอดนิยมคือ:
- **38.2%**: มักถูกใช้ในการบอกถึงการปรับฐานเบาๆ ของราคา
- **61.8%**: เป็นระดับสำคัญที่ถือว่าเป็นแนวรับ/แนวต้านที่มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวหรือเคลื่อนที่ในทิศทางใหม่
### หลักการของ Joe DiNapoli
Joe DiNapoli ได้พัฒนาแนวทางการใช้งาน Fibonacci Retracements ด้วยการเน้นการวิเคราะห์แบบเจาะลึกและใช้ควบคู่กับเครื่องมืออื่น เช่น **DiNapoli Levels** เพื่อให้ได้ผลการวิเคราะห์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น หลักการสำคัญที่เขาใช้กับ Fibonacci 38.2% และ 61.8% ได้แก่:
1. **การระบุจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของแนวโน้ม**:
- DiNapoli จะเริ่มจากการระบุจุดสูงสุด (High) และจุดต่ำสุด (Low) ของการเคลื่อนไหวของราคาที่เห็นได้ชัดเจน จากนั้นจึงใช้ Fibonacci Retracements ในการกำหนดระดับการปรับฐาน
2. **ระดับ 38.2%**:
- เป็นจุดที่ราคามักปรับฐานแบบตื้น หากราคายืนเหนือระดับนี้ได้แสดงว่าแนวโน้มหลักยังคงแข็งแรง และมักใช้ในการตัดสินใจสำหรับการเข้าซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell) ตามแนวโน้มเดิม
3. **ระดับ 61.8%**:
- เป็นระดับที่สำคัญมากสำหรับ DiNapoli เพราะถือว่าเป็น "Golden Ratio" ที่มีโอกาสสูงที่จะเกิดการกลับตัวของราคา การยืนเหนือหรือต่ำกว่าระดับนี้จะเป็นตัวชี้วัดถึงแนวโน้มที่อาจเปลี่ยนทิศทาง
4. **การใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ**:
- DiNapoli มักแนะนำให้ใช้ Fibonacci ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น **Moving Averages** หรือ **Oscillators** เพื่อยืนยันการวิเคราะห์ เช่น หากระดับ Fibonacci 61.8% ตรงกับ Moving Average ที่สำคัญ มันจะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งในการใช้เป็นแนวรับหรือแนวต้าน
### ตัวอย่างการใช้งาน
สมมติว่าราคาของสินทรัพย์หนึ่งมีแนวโน้มขาขึ้นและกำลังปรับฐาน หากราคาลดลงมาถึงระดับ 38.2% และเริ่มฟื้นตัว นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะเดินหน้าต่อไปในทิศทางเดิม แต่หากราคาลดลงมาถึงระดับ 61.8% และเริ่มกลับตัวขึ้น ก็เป็นจุดที่น่าสนใจมากในการพิจารณาว่าราคาจะเกิดการกลับตัวที่สำคัญ
หลักการของ Joe DiNapoli จึงเน้นการใช้ Fibonacci อย่างรอบคอบและพิจารณาแนวโน้มในภาพรวมเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด.
Retest Trading แบบไหนให้ได้กำไรRetest Trading แบบไหนให้ได้กำไร
👽👽 เคยเป็นกันบ้างมั้ยกับการอ่านกราฟทางเทคนิคแล้วโดนกราฟหลอก ไปทางไหนก็ผิดทาง รีเทสแล้ว รีเทสอีก ก็ยังผิดทาง หรือเราจะอ่านกราฟผิดกันนะ มาครับ บทความนี้แอดมีคำตอบให้
กลไกของกลยุทธ์การ Retest
กลไกของกลยุทธ์ Retest มักมาควบคู่กันพร้อมกับ Breakout เสมอ หลักและใจความสำคัญ ที่จำเป็นในการเทรดก็คือการอ่านแนวรับแนวต้านให้ออก และจำเป็นต้องใช้เครื่องมือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคช่วยด้วยอีกทางหนึ่ง
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก็คือ
1. เมื่อกราฟราคาพุ่งขึ้นสูงสุดหรือลงต่ำสุด และทะลุแนวรับหรือแนวต้าน โดยมีปริมาณ Volumn การซื้อขายที่สูงหรือต่ำตามมาติดๆ
- การ Breakout ในแนวรับหรือแนวต้าน จะเกิดขึ้นเป็นอันดับแรก
- อันดับต่อมาที่ต้องเฝ้าระวังคือ การย่อ..........หรือการเปลี่ยนทิศทางกระทันหันเพื่อหลอกล่อเม่าน้อยๆให้มาติดกับ
- ถัดจากการล่อเม่าเสร็จสิ้น ราคาจึงจะวิ่งกลับไป Retest ณ จุด จุด เดิมอีกครั้ง
- จุดนี้แหละ ที่เราต้องเฝ้าระวัง เพื่อหาจุดเข้าสวยๆเข้าฮะ
รูปแบบแท่งเทียนที่พบได้บ่อยที่สุดในกลยุทธ์ Break and Retest ได้แก่
1. Wedge Pattern แสดงถึงเส้นแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงภายในช่วงราคาที่แคบลงเรื่อยๆ
2. Consolidation Pattern บ่งบอกถึงช่วงราคาในแนวนอน หรือกราฟไซด์เวย์ สำหรับการเล่นสั้น ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งยังหาแนวโน้มที่ชัดเจนไม่ได้แต่คันมือ จัดเบาๆไปก่อน
3.Triangles Pattern รูปแบบสามเหลี่ยม คือการทะลุกรอบสามเหลี่ยมออกไป เป็นไปได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
4. The Channel Patterns แสดงถึงเส้นแนวโน้มเส้นขนาน ซึ่งเป็นไปได้ทั้งไซด์เวย์สลับฟันปลา และไซด์เวย์อัพ ไซด์เวย์ดาว์น โดยราคาจะวิ่งไต่กรอบเส้นเทรนไลน์ไปเรื่อยๆ เป็นเส้นคู่ขนาน
**** นอกจากรูปแบบแท่งเทียนแล้ว อินดิเคเตอร์ที่จัดว่าเด็ดและช่วยในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ MACD หรือ RSI เพื่อช่วยยืนยันทิศทางของแนวโน้มที่เราคาดการณ์ไว้
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ แอดหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เราอ่านกราฟได้ดี อ่านกราฟได้เก่งมากขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่ากราฟมีขึ้นแล้วก็มีลง ไม่ต้องไปเครียดกะมันหมั่นึกฝนและเพิ่มเติมความรู้อย่างสม่ำเสมอ รับรอง เทรดยังไงก็รอดครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM กันด้วยนะครับ วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอนครับ แอดเอาใจช่วยสู้ๆ
แผนการเทรด XAU/USD [ SMC ]📌อัพเดท XAU/USD 🏆
ยังอยู่ในแผนเดิมของเมื่อวานครับราคาได้ปิดต่ำกว่าเส้น ChoCh แล้ว เป็นการบ่งบอกว่าราคาได้กลับเข้าสู่เทรนขาลง เราจึงโฟกัส หา Setup Sell 🔻
📌 แผนของเราในตอนนี้คือรอให้ราคาเดินทางไปถึง Supply ด้านบนแล้วรอการยืนยันใน LTF เพื่อ Sell ลงมาตามเทรนของ LTF ครับ
หากไม่มีการยืนยันใน LTF เมื่อราคามาถึง Sz. เราจะไม่เข้าเทรดอีกเช่นเดิม และหากราคาขึ้นไปทำลาย Sz. ได้ ให้อัพเดทโซนใหม่ครับ
📌 ระหว่างนี้สามารถมองหา Setup ใน LTF เพื่อ Buy ขึ้นไปหา Sz. ด้านบนได้
“ เดี๋ยวมาอัพเดทหน้างานจริงกันอีกทีครับ “ 🫡🏆
เงินปอนด์แข็งค่า รับการเลือกตั้งสหรัฐฯ และ BoE ลดดอกเบี้ยเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ และการตัดสินใจของ Fed-BoE 💷💪
* เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขณะที่ใกล้เข้ามาถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ 🗳️ นักลงทุนคาดหวังว่า Fed และ BoE จะลดดอกเบี้ยลง 25 จุดในวันพฤหัสบดีนี้ 📉
* ผู้เข้าร่วมตลาดยังประเมินผลกระทบของการประกาศงบประมาณของสหราชอาณาจักรที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อของประเทศ 🏦
เงินปอนด์ (GBP) ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับคู่ค้าหลัก โดยนักลงทุนจับตามองการประชุมของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 25 จุด มาอยู่ที่ 4.75% 📉 นับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่สองของปีนี้ โดยคาดว่ากรรมการ MPC เจ็ดคนจะลงมติสนับสนุนให้ผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่อีกสองคนคาดว่าจะสนับสนุนให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 📊
#เลือกตั้งสหรัฐ #การเงิน #การลงทุน #BoE #GBPUSD
สมาชิกภายนอกของ BoE, Catherine Mann คาดว่าจะเป็นหนึ่งในสองคนที่โหวตให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิม 📈 ในการอภิปรายที่จัดขึ้นในระหว่างการประชุม IMF เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม Mann ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสายเหยี่ยวที่ชัดเจน ชื่นชมการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลง แต่เน้นถึงความจำเป็นในการชะลอตัวมากขึ้น 📉 เธอกล่าวว่า "เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ด้านบริการ (เงินเฟ้อ) ยังต้องลดลงอีกมาก" เมื่อถามถึงจุดยืนเรื่องอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน Mann ระบุว่าการลดดอกเบี้ยยังเร็วเกินไปในขณะนี้ 📊
นอกจากการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย นักลงทุนยังคาดหวังความเห็นจาก BoE เกี่ยวกับผลกระทบจากคำแถลงฤดูใบไม้ร่วงของสหราชอาณาจักร ซึ่งเปิดเผยโดยรัฐมนตรีการคลัง Rachel Reeves เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 📈 หลังการประกาศงบประมาณ สำนักงานความรับผิดชอบทางธุรกิจ (OBR) ระบุว่ามาตรการทางการคลังที่ประกาศออกมามีลักษณะสนับสนุนการเติบโตและอาจสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อ 📊
#เงินปอนด์ #การเงินอังกฤษ #ดอกเบี้ย #เงินเฟ้อ #OBR
สรุปเหตุการณ์ประจำวันที่ส่งผลต่อตลาด: เงินปอนด์จะได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์หลายอย่าง 💹
* เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยใกล้ระดับ 1.2980 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในช่วงการซื้อขายที่ลอนดอนเมื่อวันอังคาร ก่อนเริ่มการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเช้าของทวีปอเมริกาเหนือ 📊 ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักหกสกุล ลดลงเล็กน้อยใกล้ระดับ 103.80 📉
* ดอลลาร์สหรัฐได้ประสบกับการลดการถือครองสัญญายาวอย่างมาก หลังจากผลสำรวจของ Des Moines Register/Mediacom ระบุว่ารองประธานาธิบดี Kamala Harris นำหน้าอดีตประธานาธิบดี Donald Trump สามคะแนนในรัฐไอโอวา รัฐที่ Trump เคยชนะอย่างชัดเจนในปี 2016 และ 2020 📉
* Trump สัญญาจะเก็บภาษีอัตรารวม 10% กับเศรษฐกิจทั้งหมด ยกเว้นจีนซึ่งคาดว่าจะเผชิญภาษีที่สูงกว่า รวมถึงสัญญาลดภาษีนิติบุคคลที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูง 📈
#การเลือกตั้งสหรัฐ #ดอลลาร์สหรัฐ #นโยบายการค้า #USD
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการตัดสินใจนโยบายการเงินของ Federal Reserve (Fed) ซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดี 🏦 ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Fed คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 25 จุด มาที่ 4.50%-4.75% นับเป็นการลดครั้งที่สองต่อเนื่อง โดยขนาดของการลดครั้งนี้จะน้อยกว่าเดือนกันยายนที่ลดลง 50 จุด 📉
#Fed #อัตราดอกเบี้ย #การลงทุน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: เงินปอนด์พยายามขยับสูงกว่าระดับ 1.3000 💹
เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมาใกล้ระดับ 1.2980 โดยคู่ GBP/USD เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของวันจันทร์ก่อนการเปิดให้ลงคะแนนเสียงในสหรัฐฯ 📈 แนวโน้มระยะสั้นของคู่ GBP/USD ยังคงเป็นขาลงเนื่องจากยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ 1.3060 แต่ได้รับแรงสนับสนุนใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ระดับ 1.2850 📉
ตัวชี้วัด RSI 14 วันยังคงอยู่เหนือระดับ 40.00 แสดงถึงความสนใจในการซื้อเมื่อราคาต่ำลง 📊 โดยแนวรับสำคัญที่ 1.2800 จะเป็นจุดที่สำคัญสำหรับนักเก็งกำไรฝั่งขาขึ้น ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ 1.3060 🔼
#การวิเคราะห์ทางเทคนิค #เงินปอนด์ #GBPUSD #ดอลลาร์
EURUSD Daily Analysis 1/11/2024 by TraderTanTrading note: EURUSD
นายนิฮัด อัล-ชาวิช หัวหน้าคณะกรรมการฝ่ายบริการของสำนักงานบรรเทาทุกข์และการทำงานของสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลได้ทำการรื้อทำลายสำนักงานของ UNRWA ในค่ายนูร์ชามส์ทางตะวันออกของเมืองตูลคราม ทางเหนือของเขตเวสต์แบงก์
ทั้งนี้ ค่ายนูร์ชามส์ได้รวมถึงโรงเรียน 2 แห่งของ UNRWA ซึ่งให้การศึกษาแก่เด็กชาวปาเลสไตน์มากกว่า 1,500 คน
นายอัล-ชาวิชกล่าวว่า อิสราเอลได้ใช้รถบูลโดเซอร์ทำลายสำนักงานของ UNRWA ซึ่งตั้งอยู่ในตอนกลางของค่ายนูร์ชามส์
การทำลายสำนักงานของ UNRWA มีขึ้น หลังจากที่รัฐสภาอิสราเอลออกกฎหมายแบนการดำเนินงานของ UNRWA ในเยรูซาเลมตะวันออก, กาซา และเขตเวสต์แบงก์ภายในเวลา 90 วัน
BUY : 1. 08795
TP : 1. 09258
SL : 1. 08430
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H4
ราคาราคายังคงไต่ขึ้นเรื่อๆ ตามกรอบเส้นเทรนไลน์ขาขึ้น โดยลำดับต่อไปอาจเป็นการขึ้นไปททดสอบเส้น EMA200 จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆ
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการกลับตัวขึ้นจากแท่งเทียน และการไต่ขึ้นตามสเต๊ปไต่เส้น EMA20 เพื่อไปหาเส้นแนวต้าน โดยราคาอาจขึ้นไปทดสอบเส้น EMA200 และ EMA100 ตามลำดับ โดยตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลางในขาขึ้น เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Adaptive ไอเดียเทรด สู่ Indicator Very easy Simple.จากการ Adaptive ไอเดียรูปแบบเทรดต่างๆแบบง่ายๆที่ผ่านมา สู่ Indicator Very easy Simple. ครับ
***ใช่แล้วครับอ่านไม่ผิด** Indicator Very easy Simple.
ตัวชี้วัดเรียบๆง่ายๆ ง่ายมากๆ เป็นไอเดียที่ปรับตัวได้ไปตามความคิดสร้างสรรไอเดียเทรดไม่มีที่สิ้นสุด
***คำแปลอย่าเท่ย์*** 55555
จากภาพโพสต์และภาพนี้
เราจะเห็นว่า Indicator ตัวชี้วัดทำงานได้สมบูรณ์ 1000% (ขออภัยครับนี่ไม่ใช่การอวดอ้างเพียงแต่ตื่นเต้นกับเครื่องมือเท่านั้นเอง 55555)
ไอเดียคือมาจาก Adaptive MA Lines ในตอนที่ผ่านมาครับต่อจากนี้เราจะวิเคราะห์เรียบๆง่ายๆแบบง่ายมากๆจากเครื่องมือเราครับเท่านั้นง่ายๆมาทำเป็นตัวชี้วัด
Adaptive technical analysis ได้ดังนี้
ราคาเคลื่อนตัวอยู่ด้านล่างเส้น base ตลอดได้อย่างต่อเนื่องราคาจึงมีความเป็นไปได้ที่จะลงมากกว่าการขึ้นจาก ณ.ปัจจุบัน ราคาเคลื่อนตัวอยู่ด้านบนเส้น base ตลอดได้อย่างต่อเนื่องราคาจึงมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นมากกว่าการลง (วิเคราะห์ง่ายๆแบบนี้แหละครับ55555)
เมื่อเอามาวิเคราะห์ร่วมกับ price pattern พื้นฐานเอง i.pinimg.com
ขอบคุณภาพจากคุณ r/Daytrading
เราก็จะมีเงื่อนไขในการประกอบการตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้นนั้นเอง
ณ.ปัจจุบัน ราคาเคลื่อนตัวอยู่ด้านบนเส้น base ตลอดได้อย่างต่อเนื่องราคาจึงมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นมากกว่าการลง
เทรนด์ทองคำ 28/10 - จับแนวต้านสำคัญสัปดาห์นี้ 2750ราคาทองคำแตะเป้าหมาย S-T ของเราที่ 2750 ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 2758 อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมขาขึ้นไม่สามารถคงอยู่ได้ และราคาไม่สามารถยืนเหนือ 2750 ได้ โดยกลับไปสู่ระดับต่ำสุดประจำสัปดาห์ที่ 2708 เข้าสู่จุดสิ้นสุด ประจำสัปดาห์ ตลาดทองคำได้กำหนดราคาอีกครั้งในรูปแบบพรีเมียมความเสี่ยงก่อนความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยดันราคากลับไปที่ 2,750 และปิดสัปดาห์ที่ 2,747
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐหลายคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ 'แนวทางการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง' ซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ในทางกลับกัน ตลาดกำลังต่อสู้กับการดำเนินการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นจากอิสราเอลต่ออิหร่านในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในที่สุดก็เป็นรูปธรรมในช่วงสุดสัปดาห์ การโจมตีดังกล่าวค่อนข้างจำกัด โดยมุ่งเน้นไปที่สถานที่ทางทหารในอิหร่านเท่านั้น และหลีกเลี่ยงโรงงานน้ำมันและนิวเคลียร์ จนถึงขณะนี้ เตหะรานยังไม่ได้ออกคำตอบในทันที เนื่องจากไม่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จึงผ่อนคลายลงเมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์ น้ำมัน NYMEX ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุด เปิด Gap ลดลง 4% และราคาทองคำก็เปิดลดลง 10 ดอลลาร์เช่นกัน
สัปดาห์นี้จะมีการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญๆ ของสหรัฐฯ บางส่วนตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์ ซึ่งรวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภค, GDP ไตรมาสสาม, อัตราเงินเฟ้อ PCE หลัก, การจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน สัปดาห์นี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนมากมาย แต่... เมื่อพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ที่เผยแพร่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างแข็งแกร่ง เราจึงสามารถคาดการณ์แรงกดดันขาลงของราคาทองคำได้ก่อนที่จะทราบผลลัพธ์ของตัวเลขเหล่านี้ ในขณะที่การเลือกตั้งสหรัฐฯ เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร มีความเป็นไปได้สูงที่ช่องว่างระหว่างผู้สมัครทั้งสองจะลดลงก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่เงินทุนที่ปลอดภัยที่ไหลเข้าสู่ตลาดทองคำเพื่อพยุงราคา โดยชดเชย แรงกดดันขาลงจากข้อมูลที่แข็งแกร่ง
กราฟ 1 ชั่วโมง (ด้านบน) > ราคาไม่สามารถยืนเหนือ 2,750 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้แนวโน้ม S-T ทะลุต่ำกว่าเส้นแนวรับขาขึ้น (1) โมเมนตัมขาขึ้นเริ่มชะลอตัวลง แนวรับได้เปลี่ยนจากแนวรับกลางสัปดาห์ (2) ไปเป็นก้าวที่ช้าลง (2.1) ก่อนสุดสัปดาห์ แนวต้านสำคัญขณะนี้อยู่ที่ระดับสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้วที่ 2750-2758 (4) หากข้อมูลสหรัฐฯ ขาดตลาดในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำอาจทะลุแนวต้านนี้ ทำให้เกิดความ
กราฟรายวัน > รูปแบบโดยรวมไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 2750 (5) และช่องขาขึ้น (6) ยังคงแข็งแกร่ง
หากคุณชอบไอเดียของเรา โปรดให้ 🚀 !
P.To
XAUUSD : ถ้ายังไซด์เวย์แบบนี้ ATH ก็ปลายปีเถอะจ้าXAUUSD หรือทองคำ หลังจากปรับตัวสูงขึ้นและทิ้งตัวลงตามบทวิเคราะห์ก่อนหน้า :
ราคาทองยังคงอยู่ในชุดปรับตัวของขาขึ้นในรอบใหญ่อยู่
มองว่าปัจจุบัน ราคาทองคำ กำลังทำแพทเทิร์น อยู่ในการปรับตัวคลื่น 4 ซึ่งมีความน่าจะเป็นดังนี้
Regular Flat, Expanded Flat , Triangle , Running flat/triangle
เงื่อนของ Correction แต่ละแบบมีดังนี้
1. Regular Flat คือ ราคาขึ้นไปถึงบริเวณ 78.6 แต่ไม่เกิน 100 ของ A และมีการ Rejection กลับลงมา จะมีเป้าการลงคือ New low ที่ต่ำกว่า A
2. Expanded Flat คือ ราคาขึ้นไปสูงกว่า 100% ของ A แต่ไม่เกิน 161.8 ของ A และมีการ Rejection กลับลงมา จะมีเป้าการลงคือ New low ที่ต่ำกว่า A
3. Triangle คือ ราคาจะไม่ขึ้นไปเกิน 100% ของ A และไม่ลงไปต่ำกว่า A โดยจะปรับตัวออกข้างในลักษณะ Converging
4. Running flat / triangle คือ ราคาขึ้นไปสูงกว่า 100% ของ A แต่ไม่เกิน 161.8 ของ A แต่เป้าการลงจะไม่ทำ New Low ที่ต่ำกว่า A และดีดตัวขึ้นทำ New high เลย
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำจะยังไม่ขึ้น All time high ในเร็วๆนี้ตามแง่ของเทคนิคที่มองว่าจะชะลอตัวลงก่อนที่จะขึ้นไปได้ หากเป็นตามนี้ ราคาจะมีการปรับตัวออกข้างสักระยะหนึ่งก่อนขึ้น ATH อีกครั้งในช่วงปลายปี
BTCUSD : Correction after DiagonalBTCUSD กำลังอยู่ในชุดขาขึ้นรอบใหม่แล้ว แต่ต้องระมัดระวังการชะลอตัว
จากช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การปรับตัวขึ้นของ BTC ไม่ได้ขึ้นอย่างหวือหวามากนักและมีแรงขายออกมาอยู่เนืองๆ
มองว่าปัจจุบัน BTC กำลังอยู่ในรูปแบบคลื่น 5 ของ Leading Diagonal
ระวังการชะลอตัวในเร็วๆนี้เนื่องจากสัญญานทางเทคนิค ดังนี้
1. ราคาชนเส้นเทรนด์ไลน์ขาลงในภาพใหญ่
2. ราคามีการชะลอตัวหลังจากชน FVG ใน TF H4
3. AO มีการทำ Divergence ให้เห็นตั้งแต่ TF ย่อยขึ้นมาจนถึง H4
หากเกิดการชะลอตัวจริงอาจจะลงไปถึงแนว Fibo 50 หรือ 78.6 ที่เป็นเป้าของ Diagonal ได้
note : กรอบราคาคือบริเวณที่มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนที่ของราคาเท่านั้น
linear regression แนวต้านที่บริเวณสูงสุด (LH) และยอดที่ 3 และ 5: กราฟอยู่ในช่วงที่ราคาเคยชนแนวต้านที่สูงสุด (LH) ในบริเวณนี้และเริ่มย่อตัวลงมา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีในการเปิดสถานะ Short โดยเฉพาะหากมีการทะลุกรอบลงต่อไป
RSI: ระดับ RSI ในหลายๆ timeframe ยังอยู่ในโซน Neutral (42-68%) ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดยังไม่ได้อยู่ในภาวะ Overbought หรือ Oversold อย่างชัดเจน จึงยังไม่มีสัญญาณยืนยันแน่ชัดในการกลับตัว แต่ควรติดตาม RSI ใน timeframe รายวันที่เริ่มอยู่สูงที่ 68% ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของ Overbought ได้เช่นกัน
BOS (Break of Structure) และ CHOCH (Change of Character): มีจุด Break ของโครงสร้างในทิศทางลงที่ BOS บ่งชี้ว่าตลาดอาจมีแรงขายเข้ามาเพิ่มเติม ขณะที่ CHOCH ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในบริเวณบางจุด ดังนั้นหากราคาไม่สามารถทะลุแนวรับที่ใกล้ๆ ได้ก็มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมากขึ้น
แนวโน้ม (Trend): หากเส้น Linear Regression ยังคงชี้ขึ้น จะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว แม้ว่าจะมีการย่อตัวระยะสั้น ซึ่งในกราฟปัจจุบันที่เห็น การเคลื่อนไหวของราคามีความผันผวนค่อนข้างมาก ดังนั้นหาก Linear Regression แสดงแนวโน้มขาลง คุณอาจพิจารณาเปิด Short เพิ่มเติมได้
จุดที่ราคายังอยู่เหนือหรือใต้เส้น:
ถ้าราคาเคลื่อนตัวอยู่ ต่ำกว่าเส้น Linear Regression เป็นสัญญาณว่าแนวโน้มอาจกำลังกลับตัวลง (Bearish) คุณอาจพิจารณาเปิดสถานะ Short ได้ตามแผน
ในทางตรงข้าม ถ้าราคาเคลื่อนตัวอยู่ เหนือเส้น Linear Regression ในช่วงนี้ อาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish) ทำให้การเปิดสถานะ Short อาจมีความเสี่ยง
การยืนยันเพิ่มเติม: หากมีการ ทะลุเส้น Linear Regression ลงไป พร้อมกับสัญญาณอื่นๆ อย่าง Break of Structure (BOS) หรือ RSI ที่เริ่มแสดงความเป็น Overbought ก็จะยิ่งช่วยยืนยันว่าราคามีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงต่อได้
วิเคราะห์ทิศทางราคาของ Bitcoin (BTCUSDT)
1. รูปแบบราคา (Price Action):
มีการทำ Higher Lows (HL) และ Lower Highs (LH) ซึ่งบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวในกรอบ (consolidation) หรืออาจจะเป็น sideway ได้
จุดสูงสุด (Highs) ที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุด (Lows) ที่ต่ำลงบางจุดบ่งชี้ว่าตลาดยังไม่ชัดเจนว่าจะเลือกฝั่งใด โดยการ Breakout ของเส้นแนวต้านหรือแนวรับสำคัญจะเป็นตัวชี้ขาด
2. RSI (Relative Strength Index):
RSI ในช่วง Timeframes ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน neutral zone ยกเว้นกราฟ 4 ชั่วโมง ที่ RSI อยู่ในโซน Overbought (73.50%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแรงซื้อมากเกินไปในช่วงเวลานี้ อาจมีการปรับฐาน (correction) ในระยะสั้นได้
RSI 1 วันและ 1 สัปดาห์ยังเป็น Neutral ซึ่งบ่งบอกว่าราคายังไม่ถึงระดับที่เป็นการซื้อหรือขายเกินไป
3. จุดสำคัญอื่น ๆ:
การเคลื่อนไหวผ่านเส้น BOS (Break of Structure) และ CHoCH (Change of Character) ในบางจุด บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางในบางช่วง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักเทรดในการจับทิศทางต่อไป
หากราคาสามารถ breakout ผ่านจุด LH (Lower High) ล่าสุด อาจเป็นสัญญาณของขาขึ้น
หากราคาหลุดระดับ HL (Higher Low) ที่มีการทำจุดต่ำสุดลง (LL) ราคามีแนวโน้มจะลงต่อได้
4. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
แนวต้านที่แข็งแรงอยู่ที่ประมาณ 66,000 USDT (ใกล้กับระดับ LH) หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ อาจส่งสัญญาณการขึ้นต่อ
แนวรับสำคัญอยู่ที่ 63,379.5 USDT หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับนี้ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
สรุป: ในระยะสั้น ราคามีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจาก RSI บางช่วงเวลาแสดงว่าอยู่ในภาวะซื้อเกินไป (Overbought) แต่ในระยะยาวหากราคาสามารถทะลุแนวต้านหลักและทำ Higher Highs ต่อเนื่องได้ อาจส่งสัญญาณขาขึ้น
ดูเหมือนว่าราคากำลังอยู่ในลักษณะของ Rising Wedge เนื่องจากมีการทำ Higher Lows ต่อเนื่อง แต่การเคลื่อนไหวของราคามีการบีบตัวเข้าแคบลง หากราคาทะลุลงจากแนวรับของ Wedge อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาลง
จุดที่น่าสนใจคือถ้าราคาหลุดออกจากแนวรับที่ระดับประมาณ 63,379 USDT (จากข้อมูลที่แสดง) อาจเป็นสัญญาณยืนยันของการปรับตัวลงตาม Rising Wedge Pattern นี้
สรุปเกี่ยวกับ Wedge Pattern: ในกราฟนี้ ดูเหมือนจะมีลักษณะของ Rising Wedge ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านได้และหลุดออกจากแนวรับ
Weekly Update Trend XAUUSD(Gold) by C.AugustAbout Trend
แนวโน้มทองคำแบ่งเป็น 2 ภาพคร่าวๆดังนี้
-ภาพ Secondary trend : มุมมองขาขึ้น(Up trend) จนกว่าราคาจะหลุด 2605.2
-ภาพ Minor trend : มุมมองขาขึ้น(Up trend) เช่นกัน มีจุดยกเลิกมุมมองที่ 2638.1
กลยุทธ์ คือ ย่อ Buy หรือ Follow Buy
__________
About Momentum
-สังเกตุจาก Momentum ด้านล่างจะเห็นได้ว่ามีการ Slope Up อยู่แต่ไม่แข็งแรงมากเพราะฉะนั้นเน้นไปที่การย่อ Buy ไม่ต้องรีบไล่ Follow
-จากรอบของ Williams %R จะเห็นได้ว่าในภาพ 1h นี่ราคาได้มีการลงไปและเกิด Oversold รอบล่าสุดที่จุดที่ผมวงกลมเอาไว้ช่วงโซนราคา 2638-2645 รอราคาปัจจุบันลงมา Oversold แล้วเกิดแท่งเทียนกลับตัวโดยไม่หลุดโซนล่าสุดก่อนหน้าก็สามารถเริ่มทยอยสะสม Buy ต่อไปได้เช่นกัน
-หรือสังเกตุจากแนวรับของ Bollinger Band ก็ได้รอ Buy ที่ Lower Band รอปิดแทงเทียนและราคาไม่หลุดค่อยหวดซึ่งตอนนี้อยู่แถวๆราคา 2670+-
__________
-สรุปกลยุทธ์ควบคู่กับ Momentum คือ รอย่อ Buy ที่โซนแนว Demand Zone หรือ Lower Band
__________
About Expected Price
โดยมีแนวราคาคาดหวังกรณีที่ราคาเลือกที่จะขึ้นต่อในสัปดาห์นี้สั้นๆที่ Range Volatile Week ตอนนี้ที่ 2696-2700 และระดับทั้งเดือนเลยที่ 2749-2750 เลยครับ
Eaw_Neowave อัพเดท xau TF Daily ประจำวันที่ 13 ตุลาคม 2567อัพเดทกราฟทองคำ รูปแบบ Large X-Wave Double Three Combination (Running) ชื่อเต็มว่า Complex Correction With Large X-Wave(s) ที่ชื่อ Large X-Wave หนังสือ mastering elliott wave บอกว่ารูปแบบนี้สับสนที่สุดและนับยากที่สุด เพราะคล้ายกับหลายๆรูปแบบทำให้นับผิดกันมากที่สุด รูปแบบนี้นีโอเวฟเอามาจากอีเลียต EWP ในคลาสลิกจะมีการใช้การลาเบลเป็น W, Y และ Z แต่ในนีโอเวฟไม่มี และใน EWP จะมีรูปแบบ zigzag เข้ามาในการสลับรูปแบบทั้งก่อนแและหลัง แต่ในนีโอเวฟไม่มีรูปแบบ zigzagเข้ามาเกี่ยวข้อง จะเห็นว่านีโอเวฟใช้หลักการเดิมแต่จะมีข้อแตกต่างบ้างเพียงเล็กน้อยรูปแบบนี้เป็น Correction (: 3 ) ดังนั้นจะเกิดในช่วง sideways เท่านั้น หากมีรูปแบบ correction สองชุดจะเรียกว่า double three แต่ถ้าสามชุดจะเรียกว่า triple three และถ้าชุดสุดท้ายเป็นสามเหลี่ยมก็จะเรียกว่า Combinations และจะต้องเป็น Contracting Triangle เท่านั้น !!!)
จากการวิเคราะห์ที่กล่าวมาคลื่นสี่อาจจะปรับฐานเป็นรูปแบบ Double Three Combination (Running)
ทำให้คลื่นที่ห้าอาจจะยังไม่จบรูปแบบก็เป็นได้ แต่ก็มีข้อขัดแย้งในหนังสือ mastering elliott wave ที่บอกว่า Large X-Wave รูปแบบนี้ควรเกิดแต่ในคลื่นสองเท่านั้น และบอกอีกว่าหลังจากจบรูปแบบแล้วเทรนจะตามมาจะต้องเป็นอิมพาวเวฟเท่านั้นจะต้องยาวมากกว่า 161.8% ของคลื่นก่อนหน้า และอาจจะยาวได้ถึง 261.8% ก็พบได้บ่อยๆ อันนี้ต้องรอหลังการเช็ครูปแบบจบแล้วถึงจะได้ข้อสรุปอีกที
XAUUSD Daily Analysis 15/10/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ ราคาทองคำ (XAUUSD) ยังคงมีความผันผวนและต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจากแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
กลยุทธ์ที่แนะนำสำหรับนักลงทุนในช่วงนี้คือการใช้การปรับพอร์ตเพื่อทำกำไรในจังหวะที่เหมาะสม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามแนวโน้มเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบได้จากแหล่งวิเคราะห์ราคาทองคำออนไลน์ต่าง ๆ เช่น InterGold
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 2643.83
✅ Tp: 2633.33 2624.20
❗ SL: 2658.48
เหตุผลในการเข้าเทรด:
หลังจากที่ราคามีการทดสอบ 2658.48
ก็เริ่มมีแรงขายเข้ามา นั้นทำให้ราคา มีโอกาสที่จะเทขายเข้ามา
ลงไปทดสอบโซน 2619.46 ลุ้นในการยก ฐานขึ้น
fibo : ย่อประมาณ 38-50
เป้ามหาย 60000 ลุ้นลงมาทดสอบโซน 64901.18
RSI: Overbought
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Eaw_Neowave อัพเดท xau ที่นับไว้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567นับคลื่นเป็น 1 2 3 4 5 อย่างไรไม่ให้กาว ไม่ใช่การยัดคลื่น เพราะความเชื่อที่ไม่มีหลักการมารองรับจะนำไปสู่หายนะและความสิ้นหวัง คลื่นในแนวโน้มหลักสีน้ำเงินขึ้นมาด้วยโครงสร้างทั้ง Mono wave+Poly wave (Complexity level-2) และในแนวโน้มรองสีส้มใน Segment ที่สามดูเหมือนจะยืดตัวขึ้น แต่ไม่ได้มี subdivide ที่แบ่งตัวออกเป็น 1 2 3 4 5 แต่มีเพียงสาม Segment เท่านั้น ซึ่งในตรรกะในหนังสือบอกว่า ในคลื่นที่ 1,3,5 ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคลื่นที่แบ่งคลื่นย่อย ซึ่งมักจะเป็นคลื่นที่ยืดตัวที่จะมีคลื่นย่อย เพราะการยืดตัวของคลื่นจำเป็นต้องมีคลื่นย่อยเพื่อให้คลื่นนั้นๆขยายตัวออกไป หากคลื่นย่อยไม่เกิดในคลื่นที่ยืดตัวคลื่นถัดไปก็จะต้องแบ่งคลื่นย่อยแทนเพราะว่าใน 1,3,5 ต้องมีคลื่นใดคลื่นหนึ่งที่จะต้องแบ่งย่อยได้ ในอิมพาวเวฟคลื่นที่ไม่ได้ยืดตัวจะไม่มี subdivide ก็ได้ ( Monowave Complexity Level -0)
ในคลื่น 2 หรือ 4 ในโครงสร้าง impulsive นั้น จะต้องสามารถแบ่งย่อยเป็น a-b-c ได้ในคลื่นใดคลื่นหนึ่ง
หรือ อาจทั้งสองคลื่น ก็ได้ Multiwaves ใน Corrective มีลักษณะคือ จะต้องมีอย่างน้อยใน wave-a
หรือ wave-c จะต้องแบ่ง subdivided ได้ wave-b ควรที่จะแบ่งเป็น คลื่นย่อย a-b-c ได้อีก ( Wave-b เป็น polywave ) คลื่น 2,4 จะเป็น correction Flat zigzag triangle คลื่น 2 หรือ 4 ที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด ควรจะเป็นคลื่นที่เกิดก่อน หรือ คลื่นยืดตัวทันที เช่น หากคลื่น 1 เป็นคลื่นยืดตัวคลื่น 2 ควรเป็นคลื่นที่ใช้เวลามากที่สุด แต่หากคลื่น 5 เป็นคลื่นยืดตัวแล้วคลื่น 4 ควรใช้เวลานานกว่าคลื่น 2 และหากเป็นคลื่น 3 ยืดตัว คลื่น 2 และ 4 มักใช้เวลาพอๆกัน ดูจากตรรกะที่กล่าวมาโครงสร้างในแนวโน้มหลักมีโอกาสเป็น impuluse wave ได้แต่หากเป็นตามนั้นจริงคลื่น 5 ก็น่าจะจบแล้ว
คาดการณ์ราคาน้ำมัน Brent: มีโอกาสปรับขึ้นราคาน้ำมัน Brent ทะลุผ่านระดับ 75.70 ซึ่งเป็นสัญญาณของรูปแบบ Double Bottom ที่มักบ่งบอกถึงการกลับตัวของราคา ถ้าราคาขึ้นเหนือ neckline ที่ทะลุผ่านไปแล้ว จะยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มจริง ๆ ดูเหมือนว่าน้ำมัน Brent อาจจะเด้งกลับไปที่ neckline จากนั้นปรับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คอยดูกันว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นไหมในเร็ว ๆ นี้
เป็นไปได้มั้ยที่ราคาทองจะร่วงหลังจากเลือกตั้งเสร็จสิ้นจากสถิติที่ผู้เขียนโชว์ให้เห็น เราจะเห็นได้ว่าหลายๆ ครั้งที่มีการเลือกตั้งเสร็จสิ้น
จะมีการย่อตัว หรือร่วงลงของราคาทอง สวนทางกับช่วงต้นปีก่อนการเลือกตั้ง
ทีนี้เรามาวิเคราะห์หาเหตุผลกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ส่วนตัวผู้เขียนมองว่า การใช้นโยบายต่างๆ ของภาครัฐ จำเป็นต้องใช้เงิน
เพื่อสนองนโยบาย ที่อาจจะเป็นประชานิยมมากขึ้น ในช่วงปีแรกๆ
และเงินที่ใช้ อาจจะมีโอกาสที่ภาครัฐและธนาคารกลาง ต้องยอมเสีย Reserve บางอย่าง
อย่างเช่น ทอง หรือสิ่งสำรองระหว่างประเทศ
ซึ่งผิดถูกอย่างไรถกเถียงกันได้ หรือเห็นด้วยไม่เห็นด้วย เสนอแนวคิดได้เลยครับ
ขอเพียงแต่ถกเถียงอย่างสุภาพกันนะครับ